หน้าหลัก / รักโบราณ / สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ / บทที่ 360 สวีจือย่วนถูกยาพิษ

แชร์

บทที่ 360 สวีจือย่วนถูกยาพิษ

ผู้เขียน: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-02-21 14:32:57
เมื่อคิดฟุ้งซ่านอยู่ครู่หนึ่ง อินชิงเสวียนก็รีบเรียกสติกลับมา

เมื่อแช่น้ำพุวิญญาณเสร็จแล้ว ก็นำผลไม้ที่เพิ่งเก็บเกี่ยวออกมาจากมิติ

อวิ๋นฉ่ายได้เริ่มรีดแป้งแล้ว เด็กคนนี้มือไม้คล่องแคล่วมากขึ้นเรื่อยๆ เลยทีเดียว

ยายหลี่กำลังทำไส้อยู่ข้างๆ เสี่ยวอันจื่อก็ไปเรียกเย่จิ่งอวี้ที่ห้องหนังสือ

เมื่อเห็นภาพที่คุ้นเคย อินชิงเสวียนก็ถอนหายใจออกมาอย่างอดไม่ได้

ชีวิตที่เรียบง่ายเช่นนี้ ช่างดีมากเลยจริงๆ

นางไม่มีใจทะเยอทะยาน และไม่เคยคิดที่จะเป็นฮองเฮามาก่อน

แต่ถ้าหากไม่เป็น เสี่ยวหนานเฟิงก็จะเป็นองค์รัชทายาทไม่ได้

นี่คือคำสัญญาของเจ้าของร่างเดิ แม้จะมีเพียงนางผู้เดียว แต่ก็ต้องทำให้ได้

เมื่อมองรถเข็นเด็กที่อยู่ด้านนอก อินชิงเสวียนก็คิดถึงเสี่ยวหนานเฟิง ตอนนี้เวลาผ่านไปหนึ่งวันที่ไม่ได้พบกัน ไม่รู้ว่าเขาคิดถึงตัวเองหรือไม่

ในระหว่างที่ครุ่นคิด ฝีเท้าก็ดังขึ้นมาจากด้านนอก

ร่างสูงยางของคนสองคนเดินเข้ามาจากด้านนอก

คนแรกสวมชุดผ้าแพรสีน้ำเงิน มีขดด้ายสีทองที่คอเสื้อและแขนเสื้อ เสื้อคลุมยาวปักด้วยลายไม้ไผ่สีเขียวเข้มเล็กน้อย ลวดลายไม้ไผ่ที่ขอบเอวทอด้วยด้ายสีทอง ประดับด้วยจี้หยกสีเขียวสองชิ้น หร
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 361 ความเห็นแก่ตัว

    เย่จิ่งอวี้ขมวดคิ้วเล็กน้อย วางแก้วเหล้าลงแล้วถามว่า“เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”หานปิงร้องห่มร้องไห้พูดขึ้นว่า “พระสนมตื่นแต่เช้าเพื่อไปส่งพระศพไทเฮา เมื่อกลับมาก็รู้สึกหิวเล็กน้อย หม่อมฉันไปที่ห้องพระเครื่องต้นเพื่อตักโจ๊กผักเล็กน้อย แต่พอพระสนมรับประทานเสร็จก็ล้มลงไปบนพื้น หม่อมฉันจึงรีบไปเรียกหมอหลวง และบอกว่าพระสนมถูกยาพิษเพคะ”เย่จิ่งอวี้เพ่งสายตาคม และถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า “ตอนนี้นางอยู่ที่ใด?”หานปิงพูดด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้นว่า “ยังไม่ฟื้นเพคะ หมอหลวงเฉินเฝ้าดูอาการอยู่ข้างๆ ฝ่าบาทได้โปรดช่วยเป็นธุระหาฆาตกรที่วางยาด้วยนะเพคะ”หานปิงพูดจบ ก็เหลือบมองไปที่ตัวของอินชิงเสวียนอินชิงเสวียนเข้าใจความคิดของนางในทันที จึงเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเพียงไม่กี่ก้าวพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “เจ้าหมายความว่าอย่างไร หรือว่าเจ้าสงสัยว่าข้าเป็นผู้วางยา?”หานปิงรีบก้มหน้าลง“หม่อมฉันไม่กล้าเพคะ”“ในเมื่อไม่กล้า เจ้ามองหน้าข้าทำไมกัน?”อินชิงเสวียนสีหน้านิ่ง แต่ยังคงมีความน่าเกรงขาม หานปิงจึงตกใจตัวสั่นในทันทีหานปิงกัดริมฝีปากแล้วพูดว่า “หม่อมฉัน... หม่อมฉันมองเพราะไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-21
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 362 อินหลี

    “ผู้ที่ชื่อต่งจื่ออวี๋ให้ข้าไว้ บอกว่ามาจากสำนักกระบี่สังหารเพคะ”อินชิงเสวียนเก็บกระพรวนทองขึ้นมา เสียงกรุ๊งกริ๊งของพวงกระพรวนก็ดังขึ้นอีกสายตาของเย่จั้นเปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่อง เขาคุ้นเคยกับเสียงนี้มากเหลือเกิน ตอนที่อาหลีหายตัวไป เขาก็ได้ยินเสียงกระพรวนแบบนี้เช่นกันจึงถามขึ้นด้วยความสงสัย “เจ้ารู้หรือไม่ว่าสำนักกระบี่สังหารอยู่ที่ใด?”อินชิงเสวียนครุ่นคิดครู่หนึ่ง “ต่งจื่ออวี๋เคยบอกว่าอยู่ที่ภูเขาหิมะแต่อยู่บนภูเขาหิมะลูกไหน หม่อมฉันไม่อาจทราบได้เพคะ”เย่จั้นถามอีกว่า “เจ้าสามารถติดต่อต่งจื่ออวี๋ได้หรือไม่?”อินชิงเสวียนยักไหล่“เขาบอกว่ากระพรวนพวงนี้สามารถใช้เรียกเขาได้เพียงเวลาค่ำคืนเท่านั้น เกรงว่าตอนนี้จะติดต่อหาเขาไม่ได้”นางเหลือบมองเย่จั้น และถามอีกว่า “ท่านอ๋องรู้จักกระพรวนนี้ด้วยหรือ?”เย่จั้นสายตาขรึมลงเล็กน้อย น้ำเสียงก็เย็นลงเล็กน้อย“กระพรวนนี้อาจเกี่ยวข้องกับท่านอาของเจ้า”เย่จั้นนำกระพรวนคืนให้กับอินชิงเสวียน พูดด้วยสีหน้าเย็นชาว่า “วันนั้นที่ข้าให้เจ้าเล่นพิณโบราณตัวนั้น เพราะมีแผนการอย่างอื่นด้วย พิณตัวนั้นมีความพิเศษและไม่ใช่สิ่งของธรรมดา ดัง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-21
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 363 หากข้าจะฆ่าเจ้ามันก็เหมือนกับการบีบมดให้ตาย

    เมื่อเห็นท่าทางเช่นนี้ของนาง อินชิงเสวียนถามขึ้นด้วยทีเล่นทีจริงว่า “ทำไมหรือ หรือว่าข้าทำให้เจ้าตกใจ?”สวีจือย่วนรีบก้มหน้าลง“ไม่เพคะ หม่อมฉันร่างกายอ่อนแอ จึงไม่อาจลุกขึ้นถวายบังคมเหนียงเหนียงได้”เมื่อนางเอียงหัวไหล่ รอยปานนั้นก็โผล่ออกมาในทันทีอินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะคิดถึงปานบนไหล่ของนาง แม้ว่านางจะไม่เคยเห็นมันมาก่อน แต่จอมพลเฒ่ากลับจำนางได้เพราะรอยปานนั้นความคิดที่น่าประหลาดก็ผุดขึ้นมาในใจ เย่จิ่งอวี้คงไม่จำผิดคนหรอกนะอย่างไรก็ยังมีคนอีกมากมายที่มีรอยปานแบบนั้น ไม่นับว่าเป็นสิ่งที่หาได้ยากความคิดที่ล่องลอยไปชั่วขณะก็ถูกอินชิงเสวียนดึงสติกลับมา นางเดินมาด้านหน้าเตียง ดวงตากลมโตมองสวีจือย่วนด้วยความเหยียดหยาม“นับตั้งแต่ส่งดวงวิญญาณของไทเฮาแล้ว ข้าก็อยู่กับฝ่าบาทโดยตลอด เจ้าท่าทางเช่นนี้ ราวกับว่าข้าเป็นผู้ที่ทำร้ายเจ้า”สวีจือย่วนเม้มริมฝีปาก และพูดขึ้นด้วยความหวาดกลัว “หม่อมฉันไม่กล้าสงสัยเหนียงเหนียงหรอกเพคะ”อินชิงเสวียนทำเสียงฮึดฮัดเบาๆ “เจ้าจะคิดอย่างไร ข้าไม่ใคร่อยากรู้สักนิด ข้ามาที่นี่ก็เพื่ออยากบอกเจ้าว่า ข้าไม่มีเวลามาเล่นสนุกกับเรื่องไม่เป็นเร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-21
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 364 ความสามารถที่แท้จริง

    พลังที่ยิ่งใหญ่มหาศาลแผ่กระจายออกมาจากด้านในบ้าน ผลักเย่จิ่งอวี้ถอยกรูดออกไปหลายคืบ พลังลมนั้นราวกับสิ่งปกคลุมที่มองไม่เห็น ซึ่งปกคลุมไปทั่วทั้งลานบ้าน ไม่ว่าเขาจะมาจากทิศทางและตำแหน่งไหน ก็ยากที่จะก้าวขึ้นมาด้านหน้าพลังภายในที่ฉกาจฉกรรจ์เช่นนี้ ช่างน่ากลัวเสียจริงเขาคงแฝงตัวอยู่ในเมืองสินะความสามารถของเย่จิ่งอวี้นับว่าสูงสุดในกลุ่มนักรบแล้ว แต่พลังฝ่ามือของเขายังไม่อาจฟันฝ่าพลังลมก้อนนี้ได้หากยังคงเป็นแบบนี้ต่อไป เกรงว่าจะเป็นการหาเรื่องใส่ตัวจึงพูดกับคนด้านในว่า “เสวียนเอ๋อร์ อีกเจ็ดวันจากนี้ข้าจะมารับเจ้า ขอผู้อาวุโสได้โปรดดูและภรรยาและลูกของข้าด้วย ผู้เยาว์ขอตัวลาขอรับ!”ในขณะเดียวกันนั้นเอง เย่จั้นกำลังเขย่ากระพรวนทองอยู่ในจวนอ๋องเสียงกระพรวนที่คมชัดดังขึ้นไปบนท้องฟ้า โดยมีระลอกคลื่นที่ไม่อาจมองเห็นด้วยตาเปล่า กระจายออกไปอย่างต่อเนื่องจากลานบ้านเล็กๆเพียงชั่วครู่ ร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในลานบ้านโดยไร้ซึ่งเสียงใดๆ“ผู้อาวุโส ท่านเรียกผู้เยาว์ใช่หรือไม่?”ผู้พูดก็คือต่งจื่ออวี๋เขาค้นหาเมืองหลวงเป็นเวลาสองวัน แต่ไม่พบร่องรอยของอาจารย์อา เขาจึงสั่งเนื้อวัวหน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-21
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 365 รางวัลมิติที่น่าสะพรึงกลัว

    “ไม่ทราบว่าผู้อาวุโสจะสอนบทเพลงใดให้ผู้เยาว์?”ด้านในบ้าน อินชิงเสวียนเริ่มปริปากพูดก่อนพูดตามความจริง นางไม่มีความสนใจต่อส่ิงนี้เลยเครื่องดนตรีชนิดเดียวในชีวิตที่อินชิงเสวียนชื่นชอบก็คือขลุ่ยดินเผา หากเรียนเป่าขลุ่ยดินเผากับเย่จิ่งหลาน ไม่แน่ว่าอาจจะสนใจมันมากขึ้นด้วยซ้ำชายผมขาวพูดขึ้นเสียงเรียบ “เจ็ดวันนี้ ข้าจะสอนเจ้าสองบทเพลง ชื่อเพลงว่าหยกรัตติกาลและใจหินผา”เขาชะงักไปเล็กน้อยและพูดขึ้นว่า “ภรรยาของข้าที่เสียชีวิตไปแล้วเป็นผู้แต่งเพลงทั้งสองบทนี้ ข้าทำใจไม่ได้ที่จะฝังผลงานอันเป็นที่รักของนางลงไว้ใต้ดิน ดังนั้นข้าจึงนำพิณการเวกไปที่โรงเตี๊ยมโหย่วเจีย โดยหวังว่าจะใช้มันเพื่อเลือกผู้ที่บรรเลงพิณโบราณให้เกิดเสียงขึ้นมาได้”อินชิงเสวียนจึงรีบฉวยโอกาสถามขึ้นว่า “ผู้เยาว์ได้ยินมาว่า มีผู้ที่สามารถบรรเลงพิณโบราณให้เกิดเสียงได้ก่อนผู้เยาว์ ไม่ทราบว่าเหตุใดจึงไม่ได้เป็นผู้สืบทอดของผู้อาวุโส?”ชายผมขาวตกใจเล็กน้อย“มีผู้อื่นด้วยหรือ? เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อใดกัน?”อินชิงเสวียนพูดว่า “น่าจะราวๆ สองปีก่อนเจ้าค่ะ”ชายผมขาวพูดพึมพำว่า “สองปีก่อนข้ามีธุระอยู่สักพักใหญ่ๆ และต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-21
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 366 พบกับต่งจื่ออวี๋อีกครั้ง

    อินชิงเสวียนรู้สึกประหลาดใจที่พบว่า นางไม่เพียงสามารถเข้าชมมิติจากด้านนอกได้ แต่นางยังสามารถเก็บเกี่ยวพืชผลจากความคิดของนางได้อีกด้วยเมื่อมองดูธัญพืชและผักผลไม้ที่จัดเรียงไว้อย่างเรียบร้อย นางก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้นเมื่อก่อนจะทำสิ่งใดก็ต้องเข้าไปในมิติ ซึ่งมีความยุ่งยากจริงๆและเมื่อเห็นสองหมื่นคะแนนที่แสดงอยู่ในระบบ อินชิงเสวียนก็ดีใจจนแทบกรี๊ดออกมาก่อนหน้านี้นางใช้แรงในการเล่นพิณ แต่ก็ไม่ได้รับรางวัล หากไม่ใช่เพราะเนื้อเพลง ก็ต้องเป็นเพราะความแตกต่างของพิณการเวก ครั้งนี้นับว่ามาถูกทางแล้วตอนนี้นางได้เข้าใจความรู้สึกของคนรวยยุคใหม่เสียที และนางก็อยากไปที่ร้านค้าสะสมคะแนนเป็นพิเศษ เพื่อแลกเนื้อเสียบไม้ย่างมาลองชิมดูทักษะการกระโดดสุดขีดก็ค่อนข้างมีประโยชน์มากทีเดียว หากนางใช้ทักษะนี้ได้ตั้งนาน วันนั้นคงไม่ปล่อยให้อาซือหลานจับตัวเสี่ยวหนานเฟิงไปได้แน่เพียงแต่... ห้าสิบห้าสิบนี่คืออะไรกัน?ด้านล่างทักษะไม่ได้ระบุอะไรไว้อย่างละเอียด อินชิงเสวียนคิดอยู่นานก็ไม่เข้าใจความหมาย นางจึงล้มเลิกความคิดไปไม่นาน ขอบฟ้าก็ขาวสว่างขึ้นราวกับท้องปลาเสี่ยวหนานเฟิงพลิกตัว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-21
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 367 บอกลา

    ชายผมขาวไม่ได้สนใจเขา และพูดกับอินชิงเสวียนว่า “ไปเล่นเพลงหยกรัตติกาล”“เจ้าค่ะ”อินชิงเสวียนพยักหน้าเล็กน้อย เหลือบมองต่งจื่ออวี๋และเดินเข้าไปในบ้านจากนั้นก็นั่งลงข้างพิณ แต่ในสมองกลับเต็มไปด้วยความว่างเปล่าสิ่งที่นางจินตนาการได้มีเพียงภาพมหาคลื่นธารากระแทกฝั่ง และลมที่โหมพัดอย่างบ้าคลั่งแผดเสียงก้อง หากต้องการให้นางบรรเลงดนตรีจากสิ่งเหล่านี้ นางก็ไม่รู้จะเริ่มจากที่ใดเมื่อนั่งอยู่นาน อินชิงเสวียนก็พูดอย่างเบื่อหน่าย “ผู้เยาว์ยังคงจับใจความไม่ได้”ชายผมขาวผิดหวังเล็กน้อย“เช่นนั้นก็จำใจหินผาให้ดีก่อน”พูดจบก็อุ้มเสี่ยวหนานเฟิงออกไปเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็ถึงเวลาเที่ยงตรงในตำหนักจินหลวน หลี่เต๋อฝูตะโกนเพื่อเลิกการประชุมราชวงศ์เย่จิ่งอวี้กดมือลงบนที่เท้าแขนหัวมังกร และลุกขึ้นจากเก้าอี้มังกรเสื้อคลุมสีเหลืองสดใสทำให้เขาดูหล่อเหลาและเต็มไปด้วยบารมี ดวงตาคมอันเฉียบแหลมของเขากวาดสายตาไปเหนือเหล่าขุนนาง ทำให้เขาน่าเกรงขามมากทีเดียวทุกคนต่างก้มศีรษะลง น้อมตัวถอยออกไปจากตำหนักจินหลวน ไม่มีผู้ใดกล้าเงยหน้าขึ้นมองเย่จิ่งอวี้เดินเข้าไปในห้องโถงด้านข้าง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-22
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 368 สังหารอาซือหลาน

    เมืองซุ่ยหานแจ้งขอความช่วยเหลือด่วน เย่จั้นกลัวเพียงว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นที่ชายแดน เขาจึงสั่งให้เดินทางอย่างรวดเร็วหลังจากนั้นหนึ่งชั่วยาม ทหารม้าก็ออกเดินทางได้หนึ่งร้อยกว่าลี้แล้วตรงไปด้านหน้า จะเป็นเส้นทางภูเขาช่องผาแคบที่มีชื่อเสียงของต้าโจวทางภูเขาเส้นนี้มีความคับแคบ ด้านบนมีเพียงรอยแยกเล็กๆ เพียงเส้นเดียว รวมระยะทางกว่าสามลี้กลุ่มภูเขาปกคลุมท้องฟ้าและดวงอาทิตย์ที่เข้าสู่หุบเขา และแสงก็สลัวลงทันทีกองทหารล้วนเป็นผู้ที่มีประสบการณ์การต่อสู้หลายร้อยสนามรบ ดังนั้นพวกเขาจึงเตรียมพร้อมทันทีเสียงร้องของนกกางเขนปลุกนกจำนวนมากที่โบยบินอยู่บนท้องฟ้าเย่จั้นเงยหน้าขึ้นและมองไปที่ยอดเขา ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงปิ้วที่แผ่วเบา และลูกธนูยาวเรืองแสงสีเขียวหนึ่งดอกก็พุ่งตรงมาหาเขา“ท่านอ๋อง!”เหล่าทหารถือดาบกั้นลูกธนูไว้ ดาบกว้างหลายเล่มร้อยเรียงกันเป็นตาข่ายหนึ่งผืน ลูกธนูยาวกระทบกับดาบเสียงดังกริ๊ง เมื่อตกลงมา ควันหนาทึบก็ปรากฏขึ้นจากพืชชนิดหนึ่งที่อยู่ใต้ลูกธนูเหล่าทหารรู้สึกหวาดกลัวอย่างอดไม่ได้“ลูกธนูดอกนี้มีพิษร้ายแรง”ไม่ทันสิ้นเสียง ลูกธนูยาวจำนวนมากก็ตกล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-22

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1535 เหลวไหลจริงๆ

    เสียงเรียกว่าท่านพี่นั้นทำให้เย่จิ่งอวี้ใจอ่อนลงมากโข ความโกรธทั้งหมดพลันหายไปอย่างไร้ร่องรอยในทันทีไม่เช่นนั้นจะทำอะไรได้อีก ภรรยาที่เลือกมาเอง มีแต่ต้องตามใจเองเท่านั้น“เจ้าคนโกหกตัวน้อย กลับไปสามีจะคิดบัญชีเจ้าหนักๆ ถอนกำลังภายในของเจ้าออก สามีจะทำแทนเจ้าเอง ประเดี๋ยวจะทำร้ายลูกในท้องเอา”เสียงของเย่จิ่งอวี้เชื่อมโยงเป็นเส้น ไหลผ่านกระทบโสตประสาทของอินชิงเสวียนคำต่อคำอย่างแจ่มชัดนางยกมุมปากขึ้น เผยเป็นรอยยิ้มภาคภูมิใจเมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเย่จิ่งอวี้ นางจึงเปิดโสตประสาท เหตุผลที่ขอให้เย่จิ่งอวี้ช่วย ก็เพราะว่ากำลังภายในในร่างกายของนางซับซ้อนเกินไป ยากต่อการควบคุม ในงานที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ จะให้เกิดข้อผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาดเย่จิ่งอวี้ไม่เหมือนกัน เขาบำเพ็ญตบะกำลังภายในของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังประสานพลังแห่งฟ้าดิน แม้ว่าอินชิงเสวียนจะมีพลังลมปราณของหลายสำนัก แต่ก็ไม่สามารถเทียบกับกำลังภายในอันบริสุทธิ์และทรงพลังของฮ่องเต้ได้ในชั่วพริบตา กำลังภายในดุจธารานิ่งลึกหลั่งไหลเข้ามาจากด้านนอกประตู เหมือนโลกลึกล้ำ โอบกอดและยืดหยุ่น บรรยากาศที่มืดมนในห้องโถงคล้ายจะถูก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1534 ท่านพี่ช่วยข้าได้ไหม

    “ฟางรั่วเข้าวัง?”เย่จิ่งอวี้หยุดฝีเท้าหลี่เต๋อฝูโค้งคำนับและพูดว่า “กระหม่อมถามองครักษ์ที่เฝ้าหน้าประตูวังแล้ว แม่นางฟางรั่วเข้ามาเมื่อสามชั่วยามที่แล้ว”เจวี๋ยอิ่งคุกเข่าลงและพูดว่า “กระหม่อมเห็นฟางรั่วเข้าไปในตำหนักจินอู๋ แต่ไม่เห็นนางและฮองเฮาออกมา”เย่จิ่งอวี้หรี่ตาลงเล็กน้อย สายตาคล้ายจะสดใสและมืดมน กำลังตกอยู่ในอาการครุ่นคิดด้วยวรยุทธ์ของฟางรั่ว ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะทำอันตรายต่ออินชิงเสวียน นางยังมีใบมีดแห่งมิติอยู่ในมือ แม้ว่าเหล่าเทพเซียนจะลงมาเอง แต่นางก็ยังสามารถต่อสู้ได้จากมุมมองนี้ ควรไม่ใช่การหายตัวไปง่ายๆ นางเรียกฟางรั่วมา ต้องมีเหตุผลอื่นเป็นแน่เจวี๋ยอิ่งโค้งคำนับและถามว่า “ต้องการให้กระหม่อมปิดล้อมพระนคร สืบหาที่อยู่ของฮองเฮาอย่างถี่ถ้วนหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”เย่จิ่งอวี้เหลือบมองเจวี๋ยอิ่ง“ไม่ต้อง หลี่เต๋อฝู ไปเชิญกวนเซี่ยวเข้ามาด้วย”ครู่ต่อมา กวนเซี่ยวก็วิ่งเหยาะๆ มาถึงประตูตำหนัก ยกเสื้อคลุมขึ้นและคุกเข่าลงกับพื้น“กวนเซี่ยวถวายบังคมฝ่าบาท ฝ่าบาททรง...”เย่จิ่งอวี้ได้ยินเช่นนั้นก็รำคาญ โบกมือห้าม“ตามสบาย เจ้ารู้ไหมว่าทำไมฟางรั่วถึงมาที่วัง”กวนเซี่ยว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1533 เจ้าน่ะ ยังมีนิสัยดื้อรั้นเหมือนเดิม

    “ในเมื่อเจ้าเตรียมตัวพร้อมแล้ว เช่นนั้นก็ตามข้าไปที่อื่น”อินชิงเสวียนดีดปลายเท้าขึ้น ร่างนั้นก็กระโดดออกจากตำหนักจินอู๋ ท่วงท่ากิริยาเบาบางและสง่างาม ราวกับเทพธิดาในวังพระจันทร์ที่ทิ้งร่องรอยความงดงามไว้บนโลกมนุษย์ฟางรั่วติดตามอย่างใกล้ชิด พลางชื่นชมในใจอินชิงเสวียนเป็นคนพิเศษจริงๆ!ราวสิบห้านาที ร่างที่สง่างามทั้งสองก็ปรากฏตัวขึ้นในตำหนักฉือหนิงหลังจากไทเฮาสิ้นพระชนม์ สถานที่แห่งนี้ก็ว่างเปล่า ขณะนี้มีไท่เฟยและไท่ผินเพียงไม่กี่คนที่เหลืออยู่ในวัง ที่พักอาศัยมีมากมาย เหตุผลที่อินชิงเสวียนเลือกสถานที่นี้ ก็เพราะเย่จิ่งอวี้จะไม่มาจากนั้นก็นึกในใจ ครั้นแล้วถังไม้ขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า และในพริบตาเดียว มันก็เต็มไปด้วยน้ำพุวิญญาณที่ใสสะอาด“เข้าไปสิ สิ่งนี้สามารถรับรองความปลอดภัยของเจ้าได้ในระดับสูงสุด”“เพคะ”ฟางรั่วก้าวเข้าไปในถังโดยไม่ลังเลใดๆ แม้เป็นฤดูหนาว น้ำในถังนี้กลับไม่เย็น แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นที่ปกคลุมผิวหนังและเส้นลมปราณทั้งหมดของนางอินชิงเสวียนตามเข้ามา จากนั้นนั่งตรงข้ามนางแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น น้ำพุวิญญาณก็สามารถรับรองความปลอดภัยในชีวิตขอ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1532 คืนชีวิตให้ท่านแล้วจะเป็นไร

    “เจ้าลุกขึ้น ข้าหมายถึงอาจจะทำได้ แต่จะมีโอกาสฟื้นตัวได้มากเพียงใด ข้าก็ไม่แน่ใจ เรื่องนี้ เจ้าควรปรึกษากับกวนเซี่ยวก่อนดีกว่า ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเจ้าเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับเขาด้วย”อินชิงเสวียนพยุงฟางรั่วด้วยมือทั้งสองข้าง และอธิบายข้อดีข้อเสียฟางรั่วพยักหน้า“ข้าเข้าใจ เพียงแต่ สุขภาพของฮองเฮา”อินชิงเสวียนท้องโตขนาดนี้ หากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา นางไม่สามารถรับผิดชอบไหวอินชิงเสวียนยิ้มละไม“ร่างกายของข้าแข็งแรงมาก ไม่เป็นไร เจ้าคิดดีแล้วก็มาหาข้าที่วังหลวงได้เลย”“เพคะ”ขณะที่กำลังคุยกัน ทั้งสองคนก็เดินไปที่แท่นประลองข้างๆ แล้วเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งอายุสิบห้าหรือสิบหกปี ถือดาบคู่อยู่ในมือ กระโดดขึ้นลงด้วยท่าทางที่เบาและกล้าหาญ บีบชายที่อยู่ตรงข้ามหลังให้ล่าถอยทีละก้าว จนตกแท่นประลอง ล้มลงต่อหน้าผู้ชม อินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะชื่นชมมัน“ทำได้ดีมาก!”ใบหน้าของฟางรั่วแสดงถึงความภาคภูมิใจ“เด็กหญิงคนนี้ชื่อหลิวซู่เยว่ เมื่อก่อนเป็นลูกสาวของหัวหน้าคณะละคร นางมีทักษะการต่อสู้อยู่บ้าง หลังจากที่บิดาเสียชีวิต นางไม่สามารถดูแลคณะละครได้ จึงมาที่เมืองหลวง เข้ามาเรี

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1531 ขอฮองเฮาได้โปรดช่วยเหลือด้วย

    “ข้าเอง!”อยู่ๆ อินชิงเสวียนก็นึกสนุก กระโดดขึ้นไปบนแท่นสูงเมื่อเห็นนางชัดเจน คนบนแท่นก็ยิ้มแย้มแจ่มใสด้วยความดีใจ“อิน...”นางพูดได้คำเดียว จากนั้นรีบเปลี่ยนคำพูด คุกเข่าลงแล้วพูดว่า “หน่วยรักษาการณ์ฝั่งซ้ายฟางรั่ว ขอน้อมถวายพระพรฮองเฮาเพคะ”อินชิงเสวียนเอื้อมมือไปประคองนางขึ้น แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “เพียงพริบตาเดียวก็ไม่ได้เจอกันมาครึ่งปีแล้ว แม่นางฟางรั่วเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคนเลย มีความกล้าหาญขนาดที่หมื่นคนก็ขวางไม่อยู่ ทำให้สตรีทั่วทั้งแผ่นดินรู้สึกภาคภูมิใจจริงๆ”ฟางรั่วถูกอินชิงเสวียนยกย่องจนดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาตินัก นางก้มศีรษะลงแล้วพูดว่า “ฮองเฮาตรัสยกย่องเกินไปแล้ว”นางพูดด้วยกระแสเสียงสงบ ก้องกังวานราวกับว่าเสียงโลหะกระทบกัน คิดว่านางคงใช้น้ำพุวิญญาณที่ตัวเองเก็บไว้ให้ จนก้าวหน้าไปอีกขั้นแล้ว“คำยกย่องใช่ว่าจะไม่มีมูล เจ้าเก่งมากจริงๆ ข้ามองคนไม่ผิด คนเหล่านี้เป็นลูกน้องของเจ้าหรือ”อินชิงเสวียนหันความสนใจไปยังคนที่เบื้องล่างแท่นประลองฟางรั่วพยักหน้า“สตรีทุกคนในค่ายกำลังสอบวิชาการต่อสู้ หลังจากพวกนางสอบเสร็จสิ้น ฮองเฮาก็จะสามารถชมความองอาจของพวกนางได้”อินชิงเสว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1530 ใครกล้าขึ้นแท่นประลอง

    อินชิงเสวียนที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็กลั้นเสียงหัวเราะ แต่ต้องชื่นชมสายตาขององครักษ์เงาเหล่านี้ ภายใต้การจ้องมองของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นแผนการและกลอุบายใดๆ ก็ไม่สามารถรอดพ้นสายตาไปได้สามวันผ่านไปในชั่วพริบตา เอกสารสอบที่ปิดผนึกจำนวน 420 ชุดก็ถูกขนย้ายเข้ามาในห้องหนังสือแล้วอินชิงเสวียนรออยู่ก่อนแล้ว นี่เป็นครั้งแรกของที่ทำหน้าที่ตรวจข้อสอบ นางตื่นเต้นมาก หลังจากได้รับกระดาษคำตอบแล้ว นางก็เปิดผนึกเคลือบออกทันที สองสามีภรรยามีการแบ่งงานอย่างชัดเจน คนหนึ่งตรวจวิชาคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และเคมี ส่วนอีกคนก็พิจารณาภาพรวม หลังจากผ่านไปสิบวัน ในที่สุดก็ได้คัดเลือกออกมาเก้าสิบหกชุดอินชิงเสวียนตรวจอ่านจนเวียนหัวตาลาย ชาตินี้ไม่คิดจะแตะต้องชุดข้อสอบเหล่านี้อีกแล้วเย่จิ่งอวี้นวดหน้าผากของนางเบาๆ ถามด้วยรอยยิ้ม “อีกไม่กี่วันจะเป็นการสอบหน้าพระที่นั่ง ฮองเฮาอยากมาสังเกตการณ์หรือไม่”อินชิงเสวียนส่ายหัวซ้ำๆ“ไม่แล้ว ฝ่าบาทดูก็พอ ตอนนี้ข้าแค่อยากจะนอนพักผ่อนให้สบายสักสองสามวันแล้ว”เย่จิ่งอวี้พูดอย่างเอ็นดูรักใคร่ “ได้ เช่นนั้นก็พักผ่อนดีๆ ฮองเฮาของข้าลำบากแล้ว”อินชิงเสวียนถอนหายใจอีกครั้ง“น่าเสียดา

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1529 การสอบฤดูใบไม้ผลิ

    เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เพียงพริบตาเดียวก็ถึงเดือนสามนักเรียนฝ่ายบุ๋นฝ่ายบู๊จำนวนมากหลั่งไหลเข้ามาในเมืองหลวง ต้าโจวก็คึกคักครื้นเครงเป็นพิเศษ วันที่สิบแปดเดือนสาม กรมพิธีการเป็นประธานในการสอบอินชิงเสวียนปลอมตัวเป็นอาจารย์อินอีกครั้ง และแอบหนีไปที่หอตรวจ ท้องของนางเริ่มโตขึ้นมากแล้ว เพื่อไม่ให้ถูกคนสังเกตเห็น จึงสวมชุดคลุมตัวใหญ่ อำพรางร่างกาย ไว้เย่จิ่งอวี้ไม่วางใจ ปลอมตัวเป็นองครักษ์ติดตามไปด้วย โดยมีหน้ากากปิดบังครึ่งใบหน้า ริมฝีปากที่เม้มน้อยๆ ยังคงแสดงให้เห็นถึงอำนาจของผู้สูงศักดิ์เขาโค้งคำนับประสานมือคารวะ พูดพร้อมกับหัวเราะเบาๆ “ฝ่าบาทมีรับสั่งให้ข้าน้อยคุ้มครองความปลอดภัยของ อาจารย์อิน ถ้าอาจารย์อินต้องการสิ่งใด เชิญสั่งมาได้เต็มที่”อินชิงเสวียนกลอกตามองเขา วางท่าเหมือนเป็นผู้มีการศึกษา“ไปยืนอยู่ด้านหลัง หากไม่มีอะไรก็อย่าพูดมาก”“รับทราบ”เย่จิ่งอวี้ลดมือลง ยืนข้างหลังนางอย่างเชื่อฟัง โดยไม่พูดอะไรสักคำอินชิงเสวียนเม้มริมฝีปากยิ้มๆ แล้วก้าวเข้าไปในห้องสอบเสนาบดีกรมพิธีการกำลังนั่งดื่มชาบนเก้าอี้ ท่าทางสบายอารมณ์มาก คนจากสำนักศึกษาหลวงถูกย้ายมาที่นี่แล้ว ไม

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1528 ทำไมเสด็จพ่อถึงคลอดลูกไม่ได้

    วันรุ่งขึ้นในตอนเช้า เหล่าขุนนางได้รับข่าว สั่งให้ชาวเมืองเร่งไปที่พระนครในเวลาหนึ่งทุ่ม เพราะฝ่าบาทจะฉลองวันตรุษกับราษฎรทุกคนในอดีต ก็มีการเฉลิมฉลองวันตรุษกับราษฎร แต่พวกเขาไม่เคยได้รับอนุญาตให้ไปที่พระนครในสถานที่สำคัญอย่างเช่นวังหลวง จะให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าใกล้ได้อย่างไร แม้แต่การมองจากไกลๆ ก็มีโทษหนักถึงขั้นตัดศีรษะ หลังจากได้ทราบข่าวนี้ ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ และตั้งตารอคอยเพียงชั่วพริบตาก็ถึงเวลาหนึ่งทุ่ม เหล่าขุนนางก็ได้รับการต้อนรับเข้าสู่พระราชวังเพื่อร่วมงานเลี้ยง ด้านนอกประตูวังก็มีผู้คนมากมายขณะที่มองดูคบเพลิงที่โอ้อวด ทุกคนอดไม่ได้ที่จะกระซิบกระซาบ“อากาศหนาวมาก ให้เรามาทำอะไรที่นี่กัน”“ใช่ มืดสนิทอย่างนี้ หรือจะให้พวกเรานั่งฟังพวกขุนนางข้างในนั่นยกจอกดื่มกันอย่างสนุกสนาน?”“หยุดพูดไร้สาระได้แล้ว ในเมื่อบอกให้เรามาก็มาเถอะ ครึ่งเดือนที่แล้วฮองเฮาประทานข้าว แป้งหมี่ ผักและผลไม้ให้เรามากมาย แม้ต้องทนหนาวก็สมควรแล้ว”“ไม่ใช่หรอกรึ ถึงอย่างไรคนก็มีคุณธรรม ในฤดูกาลนี้จะหาผลไม้และผักสดอร่อยๆ แบบนี้ได้ที่ไหน แม้ว่าฮองเฮาจะให้ทนหนาว ข้าก็ยอมรับได้”

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1527 องค์หญิงซ่อนความคิดไม่มิด

    พริบตาก็ถึงวันสิ้นปี นับตั้งแต่พิธีเสกสมรสของท่านอ๋องสิบสามก็ผ่านไปสองเดือนแล้วท้องน้อยของอินชิงเสวียนนูนขึ้น คนทั้งคนเป็นเหมือนแมวขี้เกียจ สิ่งที่ชอบที่สุดคือการนอนอาบแดดบนเก้าอี้นวมยาวนุ่มๆ ในขณะนี้ นางหรี่ตาลงเล็กน้อย ฟังเสียงของสาวน้อยเย่ไห่ถังที่ดังก้องอยู่ในหูของนาง“เสด็จอาสิบสามแต่งงานมานานแล้ว ทำไมเสด็จพี่ถึงยังไม่พูดถึงการแต่งงานของข้าล่ะ เสด็จพี่สะใภ้ อินปู้อวี่เป็นพี่รองของท่านนะ ท่านไม่ร้อนใจหรือ”“เสด็จพี่สะใภ้ ท่านอย่าเพิ่งหลับนะ ลุกขึ้นมาคุยกับข้าหน่อยสิ”อินชิงเสวียนถูกนางรบกวนจนปวดหัว จำต้องลืมตาตื่น“การแต่งงานของเจ้ากับพี่รองจะจัดขึ้นในปีหลังจากนั้น ถึงอย่างไรเสด็จอาสิบสามของเจ้าก็เป็นผู้อาวุโส เจ้าแต่งงานพร้อมกับเขา มันไม่เหมาะสม”เย่ไห่ถังทำหน้าบูดบึ้งทันที“ไม่เหมาะสมอะไรกัน ข้าไม่ได้แต่งงานกับเขาเสียหน่อย”อินชิงเสวียนโกรธจนหัวเราะ“เรื่องนี้เจ้าก็ยังพูดออกมาได้นะ ถ้าเสด็จพี่เจ้าได้ยิน บางทีอาจส่งเจ้าไปแต่งงานเชื่อมไมตรีจริงๆ ก็ได้”เย่ไห่ถังสะดุ้ง รีบปิดหูของอินชิงเสวียนทันที พระราชโองการนั้นได้กลายเป็นเงาในใจของนางแล้ว แม้ว่าจะรู้ว่ามันเป็นเรื่องเ

DMCA.com Protection Status