/ โรแมนติก / สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ / บทที่ 340 โทสะโจมตีหัวใจ

공유

บทที่ 340 โทสะโจมตีหัวใจ

작가: ม่อเยี่ยน
last update 최신 업데이트: 2024-10-29 19:42:56
ในระยะใกล้เช่นนี้ เย่‍จิ่ง‍อวี้ไม่ได้สังเกตด้วยซ้ำว่าเขามาถึงเมื่อใด

เมื่อเห็นรูปร่างหน้าตาของเขาอย่างชัดเจน ใบหน้าของเย่‍จิ่ง‍อวี้ก็มืดลง พลังที่มองไม่เห็นถูกรวบรวมอยู่ในฝ่ามือของเขา

“เป็นเจ้า!”

ซึ่งคนผู้นี้ก็คือคนประหลาดผมขาวในคืนจันทรุปราคานั่นเอง

คนประหลาดก้าวไปข้างหน้า มองไปยังเสี่ยว‍หนาน‍เฟิงด้วยดวงตาที่ไม่แยแสคู่หนึ่ง

แทนที่จะตอบกลับถามว่า “นี่เป็นลูกของแม่หนูนั่นรึ”

“ไม่เกี่ยวกับเจ้า”

เย่‍จิ่ง‍อวี้สะบัดฝ่ามือใส่เขา ชายประหลาดผมขาวสะบัดแขนเสื้อพรึบ ก็สามารถสลายพลังได้ทันที

ในที่สุดก็มีการเปลี่ยนแปลงในแววตาที่เป็นเหมือนบ่อน้ำโบราณคู่นั้น

เขามองเย่‍จิ่ง‍อวี้ด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย

“ไม่ได้เจอเจ้าแค่ไม่กี่วัน แต่วรยุทธ์ของเจ้ากลับสูงขึ้นอีกขั้น ช่างหายากยิ่งนัก”

ดวงตาของเย่‍จิ่ง‍อวี้ฉายแววหวาดกลัวเล็กน้อย เพียงพลิกฝ่ามือก็สามารถสลายพลังของเขาได้ คนประหลาดผู้นี้แข็งแกร่งมากจริงๆ

ทันทีที่ดีดนิ้ว กระบี่ยาวบนเอวก็ถูกปลดออก ปลายกระบี่อันสั่นไหวได้แทงไปยังคนประหลาดผมขาว

ชายคนนั้นหลบไปด้านข้าง และร่างของเขาก็มาปรากฏอยู่ตรงหน้าของยายหลี่ นิ้วเรียวเป็นเหมือนสาหร่ายที่ไต่ผ่านแข
잠긴 챕터
앱에서 이 책을 계속 읽으세요.
댓글 (1)
goodnovel comment avatar
ranya12120
เริ่มไม่อยากอ่านแหละ นางเอกโง่ได้โล่เลย พึ่งแต่มิติอย่างเดียวไม่เคยใช้สมองผิดซ้ำซาก ถ้าหมดเงินงวดนี้คงเลิกอ่าน
댓글 모두 보기

관련 챕터

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 341 แผนการ

    อินชิงเสวียนที่ได้ยินทั้งหมดนี้อย่างชัดเจน นางอดไม่ได้ที่เป็นกังวล หากนางออกจากต้าโจว ก็ไม่สามารถเห็นหน้าลูกได้อีกแล้วไม่ใช่หรอกหรือนางไปไม่ได้ ถ้าไม่ไหวจริงๆ นางจะเข้าไปซ่อนตัวในมิติก่อน แล้วค่อยคิดแผนตอบโต้จากนั้นก็ได้ยินฟางรั่วถามว่า “นายท่านจะกลับมาไปเมื่อใดหรือ”อา‍ซือ‍หลานพูดเรียบๆ “ข้ายังมีงานสำคัญที่ต้องทำ เจ้าพาชิงเสวียนกลับไปก่อน หากนางฟื้นขึ้นมาอีกก็ให้ใช้กู่หอมเมฆาของราชครู กู่ชนิดนี้สามารถทำให้คนหมดสติได้ แต่จะไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย”เมื่อได้ยินอาซือหลานเปนห่วง็นห่วงสุขภาพของอินชิงเสวียนมาก นัยน์ตาของฟางรั่วก็ฉายแววริษยา นางโค้งคำนับและพูดว่า “ข้าน้อยน้อมรับคำสั่ง”อา‍ซือ‍หลานพูดอย่างรำคาญ “เช่นนั้นก็รีบไปลงมือเดี๋ยวนี้”“เจ้าค่ะ”ฟางรั่วหยิบหน้ากากผิวหนังมนุษย์ที่มีหนวดออกมา แล้วกดมันลงบนใบหน้าของอินชิงเสวียน จากนั้นจึงไขเชือกและหิ้วนางออกจากบ้านอินชิงเสวียนยังสัมผัสได้ถึงลมปราณของอา‍ซือ‍หลาน จึงไม่กล้าตุกติก จากนั้นก็รู้สึกว่าตัวเองถูกพาเข้าไปในรถม้าเสียงของอา‍ซือ‍หลานดังมาจากนอกรถ กระแสเสียงนั้นทั้งชั่วร้ายและเย็นชา“ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องส่งนางกลับไปที่เจี

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 342 กลยุทธ์ต้นหลี่ตายแทนต้นถาว

    มีดสั้นของฟางรั่วได้กดไปที่ลำคอของอินชิงเสวียนอินชิงเสวียนเหลือบมองมีดสั้นด้วยความกลัว แล้วพูดด้วยรอยยิ้มแห้งๆ “เจ้าไม่ต้องห่วง ถึงตอนนี้ข้าอยากหนีก็หนีไปไหนไม่พ้น ข้าแทบยืนเองไม่ได้ด้วยซ้ำ ประเดี๋ยวเข้าห้องน้ำยังต้องรบกวนเจ้าอีก”ฟางรั่วเหลือบมองอินชิงเสวียนอย่างเคลือบแคลงสงสัย ในอุโมงค์ครั้งที่แล้วนางก็เคยถูกอินชิงเสวียนหลอกแต่ในฐานะที่เป็นสตรีเหมือนกัน ฟางรั่วจึงไม่อยากให้อินชิงเสวียนปัสสาวะราดรดกางเกงจริงๆนางแค่นเสียงหึและพูดว่า “หยุดพูดไร้สาระ แล้วรีบๆ เข้าเถอะ”หญิงทั้งสองก็ตามประกบอยู่ข้างหลังของพวกนาง แล้วฟางรั่วก็หิ้วอินชิงเสวียนเข้าไปในห้องน้ำเมื่อเห็นแมลงวันบินออกมา อินชิงเสวียนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกคลื่นไส้ฟางรั่วก้มศีรษะลง และพับเสื้อคลุมของนางขึ้นในตอนนี้เอง จู่ๆ ก็มีมือข้างหนึ่งบีบที่ต้นคอด้านหลังของนาง แรงอันมหาศาลนั้นแทบจะหักคอของนางได้น้ำเสียงที่ถูกกดต่ำดังมาจากด้านบน“ฟางรั่ว บางทีเราอาจร่วมมือกันได้”ฟางรั่วตัวแข็งทื่อ แล้วเสียงนั้นก็ดังขึ้นอีกครั้ง “หากเจ้ากล้าลงมือ ข้าจะหักคอเจ้าเดี๋ยวนี้”ฟางรั่วกัดฟันพูดว่า “อินชิงเสวียน เมื่อครู่นี้เจ้าแกล้งหล

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 343 ต่งจื้ออวี๋

    เป็นเสี่ยวเอ้อร์ที่ถืออาหารเดินเข้ามาจากข้างนอกอินชิงเสวียนรีบนอนลง จากนั้นสตรีสองคนก็ตามเข้ามาด้วยเมื่อเห็นพวกนางทั้งสองคน อินชิงเสวียนก่นด่าอีก “ออกไปซะ เห็นหน้าพวกเจ้าข้าก็รู้สึกไม่อยากอาหาร ถ้าพวกเจ้ากล้าเข้ามาอีก ข้าจะอดอาหารตาย”สตรีร่างท้วมที่อยู่ทางซ้ายพูดอย่างขุ่นเคือง “เจ้าอย่าได้คืบจะเอาศอกนักนะ”อินชิงเสวียนเงยหน้าขึ้นแล้วพูดว่า “ก็ข้าอยากได้คืบเอาศอก แล้วจะทำไม”ฟางรั่วกระซิบ “พวกเจ้าออกไปก่อนเถอะ หลังจากให้นางกินอาหารแล้ว ข้าจะทำให้นางสลบทั้งสองมองไปที่ฟางรั่วอย่างเย็นชา แล้วจึงจะถอยกลับออกไปอินชิงเสวียนเอียงศีรษะแล้วถามว่า “เด็กกลับวังแล้วจริงๆ หรือ”ฟางรั่วพยักหน้า “ส่วนเรื่องอื่น ข้าจะไม่บอกเจ้า”จู่ๆ อินชิงเสวียนก็นึกถึงบางสิ่งบางอย่างข้างกายอาซือหลานน่าจะมีสาวใช้อีกคนตอนนี้หญิงคนนั้นไม่อยู่ หรือว่านางปลอมเป็นตัวเองแล้วนางก็เข้าวัง...ไม่ได้การแล้ว เกรงว่าเย่‍จิ่ง‍อวี้อาจตกอยู่ในอันตรายอีกเมื่อนึกถึงเขาที่ไว้ใจตัวเองมาก และอีกฝ่ายก็กำลังอุ้มลูก อินชิงเสวียนรู้สึกกังวลทันทีสีหน้าของนางเยือกเย็น มองดูฟางรั่วแล้วพูดว่า “ถ้าข้าไปตอนนี้ พวกเจ้าก็หยุ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 344 ขอบคุณผู้อาวุโส

    อินชิงเสวียนรู้สึกกระดากใจอยู่พักหนึ่ง“เอ่อ...นี่...”ต่งจื่ออวี๋พูดอย่างใจกว้าง “ไม่เป็นไร ถ้าเจ้าไม่ได้เอาม้าของข้ามา ข้าก็ไม่รู้ว่าจะตามเจ้าทันหรือไม่ แต่ข้าเกรงว่าม้าตัวนี้จะไม่รอดแล้วล่ะ”เขามองม้าด้วยดวงตาเศร้าโศกอินชิงเสวียนก็ไม่อยากขี่ม้าจนมันตาย แต่ม้าตัวนี้อาจไม่มีอาการป่วยร้ายแรงใดๆ มันอาจจะแค่หมดแรง บางทีน้ำจากน้ำพุวิญญาณอาจช่วยชีวิตมันได้จึงบอกว่า “มันคงจะหิวน้ำกระมัง เดี๋ยวข้าจะเอาน้ำมาให้”อินชิงเสวียนพูดจบนางก็เดินเข้าไปในป่าต่งจื่ออวี๋ตะโกนอยู่ข้างนอก “เจ้าจะทำอะไรน่ะ”“ข้าจะไปเอาน้ำ ผิดจริยาอย่าดู เจ้าอย่าเข้ามานะ”หลังจากได้ยินที่อินชิงเสวียนพูดแล้ว ต่งจื่ออวี๋ก็ไม่เข้าใจไปเอาน้ำทำไมต้องปกปิดด้วยแต่เขาไม่กล้าบุ่มบ่าม จึงตอบ “ได้ ข้าจะรอเจ้า”อินชิงเสวียนเข้าไปในมิติแล้ว เติมอ่างน้ำด้วยอ่างกระเบื้องเคลือบ แล้วก็หาถุงใส่น้ำ และเทบางส่วนให้ต่งจื่ออวี๋ด้วยต่งจื่ออวี๋รู้สึกประหลาดใจมากยิ่งขึ้นเมื่อเขาเห็นอินชิงเสวียนถืออ่างกระเบื้องเคลือบขนาดใหญ่ออกมาเอามาจากไหนกันนะอินชิงเสวียนเดินไปถึงตัวม้า ลูบหัวของมันแล้วพูดว่า “เจ้าไม่ตายหรอก คงเหนื่อยเกินไป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 345 ไร้ซึ่งความหยิ่งในศักดิ์ศรี

    ณ วังหลวงเมื่อเสียงไก่ขันดังขึ้นสามครั้ง ในที่สุดเย่‍จิ่ง‍อวี้กค่อยๆ ตื่นขึ้นพอลืมตาขึ้น เขาเห็นหมอหลวงคุกเข่าอยู่บนพื้นเขาลุกขึ้นนั่งทันที “เสวียน‍เอ๋อร์กลับวังแล้วหรือยัง”หมอหลวงเหลียงคลานไปข้างหน้าหลายก้าว แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยล้า “พระสนมเหยาเฟยเป็นคนดีสวรรค์ย่อมคุ้มครอง ต้องไม่เป็นอะไรแน่นอน ฝ่าบาทได้โปรดเห็นแก่พระวรกายเป็นสำคัญด้วยเภิดพ่ะย่ะค่ะ”หลังจากนั้นทันทีก็มีเสียงที่ชัดเจนและอ่อนโยนดังขึ้นในห้อง“กระหม่อมได้ส่งคนออกจากเมืองไปค้นหาแล้ว ฝ่าบาทโปรดอย่ากังวลเกินไปนัก”ครั้นแล้วใบหน้าหล่อเหลาก็ปรากฏสู่คลองสายตา และเห็นเสื้อคลุมสีขาวราวกับหิมะที่สะดุดตาเป็นพิเศษเมื่อเห็นคนผู้นี้ เย่‍จิ่ง‍อวี้ก็รู้สึกโล่งใจขึ้น“เสด็จอามาตั้งแต่เมื่อไหร่”เย่จั้นมองเย่‍จิ่ง‍อวี้อย่างเป็นห่วง“หมอหลวงเหลียงส่งคนมาแจ้งให้ข้าทราบ ตอนนี้ฝ่าบาทรู้สึกอย่างไรบ้าง”“ไม่เป็นไร ตอนนี้ข้าดีขึ้นมากแล้ว”เย่‍จิ่ง‍อวี้ลุกจากเตียง สวมรองเท้าหุ้มส้นทรงสูงมังกรทองสีเหลืองอ่อนเขาถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เสด็จอาได้ข่าวอะไรบ้างหรือไม่”เย่จั้นส่ายศีรษะ “ยังไม่มี”แม้ว่าเย่‍จิ่ง‍อวี้จะรู้อยู่

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 346 ชดเชย

    ในเวลานี้ เสียงร้องไห้ของเด็กทารกดังมาจากในบ้าน สีหน้าท่าทางของชายผมขาวก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย จากนั้นเขาก็แวบหายเข้าไปในเรือนฝ่ามือของเย่‍จิ่ง‍อวี้สะบัดได้เพียงความว่างเปล่า จากนั้นคนก็ตามเข้าไปในเรือนเย่จั้นก็ตามไปติดๆ ทั้งสองทยอยเข้าประตูไป และแน่นอนว่าพวกเขาเห็นเสี่ยว‍หนาน‍เฟิงอยู่ในอ้อมแขนของชายคนนั้นเสี่ยวหนานเฟิงไม่กลัวคนแปลกหน้าแม้แต่น้อย เอาแก้มแนบชายผมขาวอย่างเชื่อฟัง จากนั้นเย่‍จิ่ง‍อวี้ก็เห็นหยดน้ำไหลลงมาตามแขนเสื้อของชายผมขาวหลังจากที่เสี่ยว‍หนาน‍เฟิงปัสสาวะเสร็จ เขาก็มีความสุข ชี้นิ้วป้อมๆ ไปที่เย่‍จิ่ง‍อวี้ และพูดด้วยเสียงเจื้อยแจ้วของเด็ก “เด็จพ่อ~”“จ้าวเอ๋อร์!”เมื่อได้ยินลูกชายเรียกตัวเอง ขอบตาของเย่‍จิ่ง‍อวี้แดงก่ำเห็นลูกอยู่ใกล้เพียงเอื้อมมือ เย่‍จิ่ง‍อวี้ก็อดไม่ได้ที่จะกำหมัดแน่นวันนี้ถึงต้องเสี่ยงชีวิตก็พาเขากลับวังให้ได้ในเวลานี้ บรรยากาศในห้องเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน เย่‍จิ่ง‍อวี้และเย่จั้นดูเหมือนจะถูกผลักด้วยพลังมหาศาล จนพวกเขาถอยออกไปก้าวหนึ่งชายผมขาวได้ผลักกำลังภายในของเขา คราบน้ำบนแขนเสื้อของเขาแห้งทันที เขาเงยหน้าขึ้น แล้วพูดเบาๆ ว่า “เห็นแก่เ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 347 ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง

    “เจ้าอยู่ในวัง...สบายดีหรือเปล่า...”มีโอกาสไม่มากนักที่จะได้พบกันแบบนี้ สวีเม่าจึงใช้เวลาถามลูกสาวของเขาว่านางเป็นอย่างไรบ้างสวีจือย่วนพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ท่านพ่อไม่ต้องห่วง ลูกเรียบร้อยดีทุกอย่าง”สวีเม่าจับมือลูกสาว แล้วมองขึ้นลงอย่างสำรวจตรวจตรา รู้สึกภูมิใจจนหุบปาดไม่ลงด้วยซ้ำ“เช่นนั้นก็ดี เช่นนั้นก็ดี รู้ว่าเจ้าสบายดี ข้ากับแม่ของเจ้าก็สบายใจ”ความจริงที่ว่าฝ่าบาทอนุญาตให้พวกเขาสองพ่อลูกได้พบกันตามลำพัง ก็พิสูจน์ว่าเขาดีต่อสวีจือย่วนเพียงใด และการเลื่อนตำแหน่งจากอาลักษณ์ไปเป็นผู้ช่วยเจ้ากรม ก็มีมูลเหตุมาจากบุตรสาวสวีเม่าเป็นคนมีเหตุผล เขามองไปที่ลูกสาว และพูดด้วยสีหน้ายินดี “อยู่ในวังต้องประพฤติตัวดี ต่อไปหากเคราะห์ดีก็จะได้รับการแต่งตั้งยศเป็นสนมขั้นผินขั้นเฟย ตระกูลสวีของเราก็พลอยได้รับอานิสงส์ไปด้วย”ทันใดนั้นสวีเม่าก็นึกถึงการใกล้กลับราชสำนักของตระกูลอิน สีหน้าของเขาก็ดูกังวลเล็กน้อย“ตอนนี้เมื่อเจ้าเข้าวังแล้ว เจ้าเป็นสตรีของฝ่าบาท เจ้าต้องไม่คิดเรื่องอื่น แม้ว่าตระกูลอินจะได้รับการแก้ไขสถานะให้ถูกต้องแล้ว แต่เจ้ากับอินสิงอวิ๋นก็เป็นไปได้ได้อย่างแน่นอน”สวีจื

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 348 หากข้าช่วยนางไม่ได้ก็ไม่สมควรเป็นสามีของนาง

    การเดินทางระยะไกลไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ด้านในต้นขาของอินชิงเสวียนปวดระบมไปหมด โชคดีที่นางสวมชุดกระโปรงสีดำของฟางรั่ว ถ้านางใส่กางเกง ท่าที่เดินคงจะน่าอายไม่น้อยนางกุมบังเหียน แล้วเดินโซเซไปทางวังหลวง ทันใดนั้นนางก็นึกขึ้นได้ว่าตัวเองสวมใส่หน้ากากใบหน้าของฟางรั่วอยู่ ดังนั้นนางจึงรีบหาสถานปลอดคน และถอดหน้ากากออกหลังจากใช้เวลานานกว่าครึ่งชั่วยาม อินชิงเสวียนก็มาถึงประตูวังในที่สุดทหารองครักษ์ย่อมรู้จักนางอยู่แล้ว จึงพูดด้วยความประหลาดใจ “พระสนมเหยาเฟย ท่านกลับมาแล้ว”อินชิงเสวียนพยักหน้าอย่างเหนื่อยล้า ถามอย่างกังวลทันที “ฝ่าบาทเป็นอย่างไรบ้าง”ทหารองครักษ์กล่าวว่า “ฝ่าบาททรงสำราญดี ตอนนี้น่าจะอยู่ในห้องหนังสือกระมัง”เช้านี้เขาเห็นฝ่าบาทและจิ้งอ๋องขี่ม้าออกจากวัง ท่าทางดูกระตือรือร้นมากอินชิงเสวียนตกตะลึงเล็กน้อย “ฝ่าบาทปลอดภัยดี? แล้วองค์ชายน้อยล่ะ”ทหารองครักษ์ยิ่งสับสนมากขึ้นไปอีก “เมื่อวานพระสนมก็อุ้มกลับมาแล้วไม่ใช่หรือ”เมื่อได้ยินว่าเสี่ยว‍หนาน‍เฟิงยังอยู่ในวัง อินชิงเสวียนจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก เย่‍จิ่ง‍อวี้คงรู้แผนการของโยวหลานแล้ว พอมาลองคิดดู ถ้าเขาสามารถเป็นฮ่อ

최신 챕터

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1465 คนแพศยามักจะสำออยแบบนี้แหละ

    ชายคนนั้นหยิบกระดาษทิชชู่ออกจากกระเป๋า เช็ดนิ้วด้วยความรังเกียจ แล้วเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองซูเยี่ยนั่งบนพื้นร้องไห้เสียงดัง ความฝันที่จะแต่งเข้าไปอยู่ในครอบครัวที่ร่ำรวย ได้พังทลายอีกครั้งมือที่มีเห็นข้อต่อเด่นชัดยื่นออกไปต่อหน้าซูเยี่ยซูเยี่ยเงยหน้าขึ้น แล้วก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาราวกับดาราทันทีสิ่งที่ทำให้เธอตื่นเต้นยิ่งกว่านั้นคือ ชายคนนั้นสวมเสื้อผ้าแบรนด์ดัง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขามีฐานะที่ดีหากสามารถเกาะเกี่ยวลูกเศรษฐีที่ทั้งหล่อทั้งรวยแบบนี้ได้ ถูกตบหน้าแค่ครั้งเดียวจะเป็นไรไป บางทีนี่อาจเป็นความยากลำบากทั้งหมดที่สวรรค์ส่งมาให้ ที่มาอยู่ที่นี่ ก็เพื่อให้ได้เจอกับคนที่ดีกว่าเธอสูดจมูก จับมือนั้นไว้ เพิ่งยืนขึ้นมาได้ครึ่งตัว มือก็คลายออกซูเยี่ยเสียการทรงตัว และล้มลงกับพื้นอีกครั้งเธอมองเย่จิ่งหลานด้วยความประหลาดใจ ไม่เข้าใจว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่เย่จิ่งหลานยกมุมปากขึ้น คุกเข่าลงต่อหน้าเธอ ถามด้วยรอยยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “รู้สึกยังไงที่ถูกทิ้ง?”“อะไรนะ...คุณหมายความว่ายังไง?”ซูเยี่ยถามด้วยเสียงต่ำ ดวงตาสีแดงทั้งคู่ ทำให้เขาดูมีเสน่ห์มากกว่าเมื่อก่อนนี่ไม่ใช่ฉากที่ป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1464 แพศยาอย่างเธอ

    เย่จิ่งหลานโบกมือ ประตูก็เปิดออกแสงจากด้านนอกประตูส่องเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัย ทุกคนก็เห็นหลี่ไห่ตงนอนอยู่บนพื้นทันที และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอยภัยนอนระเกะระกะอยู่ข้างๆชายหนุ่มรูปหล่อคนนี้เดินออกไปโดยไม่มีร่องรอยเลือด หรือฝุ่นผงบนร่างกายเลยทุกคนก้าวถอยหลัง มองดูเย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าหวาดกลัวเย่จิ่งหลานเดินขึ้นไปที่ลิฟต์โดยไม่หรี่ตามองในช่วงที่เขาถูกบีบให้ออกจากโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ แต่ละนาทีแต่ละวินาที เขามักจะจินตนาการถึงการทุบตีหลี่ไห่ตงอย่างรุนแรง ได้ระบายความโกรธ วันนี้ ในที่สุดเขาก็ทำได้แล้ว สำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เย่จิ่งหลานไม่อยากคิดอะไรมากเขารีบออกจากโรงพยาบาล มาที่สวนสาธารณะเล็กๆ ใกล้ ๆ มีชายชราคนหนึ่งที่อาบแดดอยู่ เย่จิ่งหลานเหลือบมองเขา และนั่งอีกด้านหนึ่งทั้งสองคนไม่ได้คุยกัน แค่พบกันโดยบังเอิญ ต่างไม่รู้จักกัน และไม่จำเป็นต้องพูดคุยกันเขาค่อยๆ ผ่อนคลายร่างกาย เอนหลังพิงเก้าอี้ หรี่ตาเหมือนที่ชายชราทำ ความอบอุ่นของดวงอาทิตย์ที่ส่องบนร่างกายของเขาช่างทำให้รู้สึกผ่อนคลายจริงๆหลังจากสงบสติอารมณ์ได้แล้ว เย่จิ่งหลานก็คิดถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาพลังลมป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1463 ฉันชื่อเย่จิ่งหลาน

    ความเจ็บปวดจากไฟฟ้า ทำให้เย่จิ่งหลานกลับมามีสติอีกครั้งหลี่ไห่ตงซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เขาไออย่างบ้าคลั่ง และมองไปที่เย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าแห่งความเกลียดชัง“ทุบตีมัน ทุบตีมันให้ตาย ตีมันตายแล้วฉันจะรับผิดชอบเอง”เมื่อเห็นว่าเย่จิ่งหลานไม่ขัดขืน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้น กระแสไฟฟ้าสีฟ้าพุ่งใส่ร่างของเย่จิ่งหลาน ทำให้ห้องรังสีวินิจฉัยที่มืดมิดสว่างไสวขึ้นมาเย่จิ่งหลานหลับตา ใช้ประสาทสัมผัสตรวจสอบอย่างระมัดระวัง และยกมุมริมฝีปากขึ้นเล็กน้อยเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของตัวเอง แต่สัมผัสได้ ความรุนแรงเท่านี้ไม่สามารถเอาชีวิตเขาได้เลย รู้สึกเหมือนกับถูกแมลงต่อยสองครั้ง ถ้าเขาจะโดนฟ้าผ่า ก็ถือว่าเป็นการได้สัมผัสประสบการณ์ล่วงหน้าเป็นเวลาสิบวินาทีเต็มๆ เขาค่อยๆ ลืมตาขึ้น ดวงตาเรียวแคบของเขาเหมือนถูกรายล้อมไปด้วยงูทองคำพ่นไฟ ดุดันน่าเกรงขาม แม้ในความมืดมิดเช่นนี้ ก็สามารถมองเห็นใบหน้าอันน่าเกลียดของทุกคนได้ชัดเจนเขาอาจจะฆ่าคนไม่ได้ แต่สามารถทุบตีพวกเขาได้ และตราบใดที่พวกเขายังหายใจอยู่ ก็ไม่ถือว่าตายเมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เขาก็ค่อ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1462 ปีศาจในชุดดำ

    “แกเป็นใคร ทำไมถึงมาทำร้ายฉัน”หลี่ไห่ตงเมื่อถูกทุ่มลงพื้นก็กรีดร้องอย่างน่าเวทนา ชายหนุ่มรูปงามตรงหน้านี้ เป็นราวกับเจ้าแห่งความตายในนรก ทำให้เขารู้สึกหวาดผวาอย่างสุดซึ้งจนแทบจะรู้สึกได้ถึงความกลัวที่มาจากจิตวิญญาณเขาไม่สงสัยเลยว่าชายคนนี้จะกล้าฆ่าเขาจริงๆหรือไม่“ฉันไม่รู้จักแกเลย แกจำคนผิดหรือเปล่า หรือคนในครอบครัวของแกอยู่ในโรงพยาบาลที่นี่ ถ้าขาดเงิน ฉันช่วยแกแก้ปัญหาได้”หลี่ไห่ตงรู้สึกว่าตัวเองยังพอมีหวัง จึงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะสร้างความประทับใจให้กับชายผมดำยุ่งเหยิงตรงหน้าเย่จิ่งหลานมองไปที่หลี่ไห่ตงอย่างเย็นชา ความทรงจำในอดีตก็หลั่งไหลกลับมาเพื่อให้ได้ทำงานในโรงพยาบาลต่อ ถึงจะนอนดึกกว่าหมา ตื่นเช้ากว่าไก่ ทำงานหนักเยี่ยงทาส ทำงานหนักมาสามปีก็ตาม แต่เพราะบังเอิญไปเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็น จึงถูกส่งไปยังโรงพยาบาลเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ตั้งแต่เช้าจรดค่ำก็ไม่เจอใคร การทำงานหนักและค่าตอบแทนทั้งหมดของเขาถูกทำลายลงเพราะไอ้สารเลวยิ่งกว่าหมาคนนี้ เขากลับอยากมีชีวิตอยู่งั้นเหรอ ในโลกนี้ จะมีเรื่องดีๆ แบบนั้นได้อย่างไรโลกไม่ยุติธรรม เช่นนั้นก็ให้เขาได้ผดุงความยุติธรรม จัดการสัตว์ร้าย

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1461 เศษสวะ

    ไอ้ชาติชั่วนี่ ใช้อุบายเก่าๆ ของเขาอีกแล้วเย่จิ่งหลานเหลือบมองแพทย์หญิง แม้ว่าเธอจะสวมหน้ากากปลอดเชื้อสีเขียว แต่ยังคงมองเห็นความไม่เต็มใจและความลังเลในดวงตาที่เหนื่อยล้าของเธอทั้งสองเดินสวนทางกัน แพทย์หญิงก็เดินเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัยข้างๆ เย่จิ่งหลานอุ้มเด็กเดินเข้าไปในห้องผ่าตัด แต่ยังคงมองย้อนกลับไปที่แพทย์หญิงคนนั้น จากนั้นก็ได้ยินเสียงคลิก ซึ่งเป็นเสียงล็อคประตู“เด็กคนนี้ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกหน้าอก ขาทั้งสองข้างก็ถูกทับ”เย่จิ่งหลานอธิบายอาการของเด็กสั้นๆ จากนั้นรีบเดินไปที่ห้องรังสีวินิจฉัย ดึงที่จับประตูบานใหญ่ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ดึงให้เปิดออกเมื่อนึกถึงไอ้คนชาติชั่วคนนั้นที่โรงพยาบาลเดิมใช้เส้นสายสารพัด ทำเหมือนกับว่าตัวเองเป็นแค่หมา สุดท้ายยังถูกเขาส่งไปยังโรงพยาบาลชุมชนที่อยู่ห่างไกลที่ไม่มีโอกาสก้าวหน้า เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธเขาออกแรง รู้สึกว่ามีแรงแปลกๆ ออกมาจากจุดตันเถียน ไปถึงท่อนแขนของเขาในทันที จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงกึก ประตูที่ถูกล็อคก็หักแกเป็นสองท่อนหลี่ไห่ตงกำลังจะกอดแพทย์หญิงคนนั้นทำเรื่องงามไส้ มีสายตามองจากข้างนอกเข้าไป อีกทั้งเรือนผมยาวส

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1460 ความคิดชั่วร้าย

    ทันใดนั้นก็มีเสียงเบรกดังมาจากด้านหน้าผู้หญิงคนหนึ่งขี่สกู๊ตเตอร์ชนจนล้มกระแทกพื้น เด็กที่อยู่ข้างหลังก็กระเด็นห่างออกไปหลายเมตรเช่นกันหน้าที่ของแพทย์ทำให้เย่จิ่งหลานเหาะไปข้างหน้า กระโดดไปหลายสิบเมตรในก้าวเดียว และลงจอดต่อหน้าผู้หญิงคนนั้นรถที่ผ่านไปมาต่างก็อึ้งกันไปหมด นี่กำลังถ่ายหนัง หรือเรื่องจริง?คนนี้ไม่มีสายสลิงผูกอยู่บนตัวนั้นา แล้วทำไมเขาถึงเหาะได้ไกลขนาดนี้ในคราวเดียวล่ะ?เย่จิ่งหลานเองก็สะดุ้งนี้...มันเป็นไปได้อย่างไรเป็นวรยุทธ์งั้นหรือเขาไม่มีเวลาคิด ก้มลงห้ามเลือดของผู้หญิงคนนั้นทันที กลิ่นเลือดปะทะเข้าจมูกของเขา หัวใจพลันสั่นขึ้นมาเล็กน้อยดูเหมือนมีบางอย่างตื่นขึ้นมา ไฝแดงระหว่างคิ้วก็สว่างวาบขึ้นเล็กน้อยมือของเขานิ่งค้าง จากนั้นเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์หลายคนก็วิ่งเข้ามา“คุณคนนี้ คุณเป็นหมอเหรอ”เย่จิ่งหลานพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว“ฉันเป็นศัลยแพทย์”คนที่ดูเหมือนพยาบาลกล่าวว่า “คนไข้ได้รับบาดเจ็บสาหัส คุณช่วยตามพวกเราไปที่รถพยาบาล ช่วยรักษาฉุกเฉินได้ไหม”เย่จิ่งหลานสูดหายใจเข้าลึกๆ“ได้”เขาก้าวเข้าไปในรถพยาบาล ผู้หญิงและเด็กถูกพาไปที่เตียงในรถพยาบาล

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1459 เรื่องด่วน

    “ไม่ ข้าไม่เคยสงสัยเจ้าเลย ข้าแค่คิดว่า เจ้าและชิงฮุยอาจไม่ได้เป็นแค่ราชาแคว้นกับขุนนางธรรมดาแบบนั้น”อินชิงเสวียนหยุดชั่วคราวและพูดว่า “แม้ว่าข้าจะไม่เข้าใจหลักการวิทยายุทธ์ของแคว้นเฟยเหยา แต่รู้ว่าวิทยายุทธ์แบบเดียวกันนั้นมักจะมีรากเหง้าเดียวกันที่สามารถใช้ค้นหาร่องรอยได้ หากเจ้าใช้ความพยายาม ก็ไม่น่าจะยากที่จะพบตัวชิงฮุย แต่ว่า ที่ข้ามาที่นี่ก็ไม่มามาถามเรื่องเขาทั้งหมด”“โอ้?”ลั่วสุ่ยชิงเงยหน้าขึ้น มองไปยังอินชิงเสวียน“ข้าอยากรู้ หากแก่นวิญญาณของเจ้าและแก่นวิญญาณของชิงฮุยมาพบกันในห้วงทะเลแห่งจิตของเย่จิ่งหลาน จะเกิดผลที่ตามมาอย่างไร”“ไม่แน่ใจ”ลั่วสุ่ยชิงพูดอย่างตรงไปตรงมา“ข้ามีลางสังหรณ์ว่าชิงฮุยอาจทำลายแก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลาน ยึดร่างกายของเขา ดังนั้นจึงซ่อนแก่นวิญญาณของตัวเองไว้ในห้วงทะเลแห่งจิตของเย่จิ่งหลาน โดยใช้วิธีเข้าฝัน...”ลั่วสุ่ยชิงคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดต่อว่า “ตามหลักการปกติทั่วไป แก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลานอาจได้รับผลกระทบ ซึ่งอาจทำให้สมองสดใสน้อยลง แต่ไม่ต้องการให้เขาหายตัวไปโดยสิ้นเชิง เมื่อข้าลองใช้วิธีการเข้าฝันอีกครั้ง แต่ข้าไม่สามารถสัมผัสถึงลมปราณของเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1458 ขายความน่ารัก

    เสี่ยวหนานเฟิงกางมือเล็กๆ ออก แล้วถามด้วยน้ำเสียงแหลมใสไร้เดียงสาว่า “ภารกิจอะไรอ่ะ”“ไปหาพี่สาวลั่ว”อินชิงเสวียนหยิบน้ำพุวิญญาณออกมาล้างมือที่สกปรกของเสี่ยวหนานเฟิง จากนั้นเช็ดด้วยผ้าเช็ดทำความสะอาดฆ่าเชื้อ“อีกประเดี๋ยวเจ้าต้องขายความน่ารัก แม่จะถือโอกาสถามอะไรบางอย่าง”เสี่ยวหนานเฟิงดูสับสน กะพริบตาโตแล้วถามว่า “ขายความน่ารักหมายความว่าอย่างไร ต้องขายให้ได้เงินมากไหม”อินชิงเสวียนหัวเราะเบาๆ“ท่าทางตอนนี้ของเจ้าก็น่ารักบ้องแบ๊วอยู่แล้ว ให้เป็นแบบนี้ต่อก็พอแล้ว”เสี่ยวหนานเฟิงตอบว่าอ้อ และทันใดนั้นก็พูดอย่างตื่นเต้น “พี่สาวลั่วทำหน้าอมทุกข์อยู่ตลอด เราเอาให้ลูกกวาดให้นางก็ได้นะ”อินชิงเสวียนพยักหน้าเห็นด้วย“อื้ม นี่เป็นความคิดที่ดี”นางโบกมือและหยิบถุงลูกกวาดมาจากมิติ“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็มอบให้พี่สาวลั่วนะ”“ตกลง”เสี่ยวหนานเฟิงยื่นมือเล็กๆ ออกมาเพื่อหยิบมัน แล้วถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนิ่ม “ลูกได้ยินจากเสด็จพ่อบอกว่าอาจิ่งหลานหายไป ท่านแม่หาลุงเจอไหม”อินชิงเสวียนถอนหายใจ “ไม่รู้ บางทีเขาอาจจะกลับไปยังที่ของตัวเองแล้ว สำหรับเขาแล้ว แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน”เสี่ยวหนานเฟิงเอียง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1457 อย่าพูดจาเหลวไหล

    “แต่ตอนนี้เราไม่ยังตามหาตัวเย่จิ่งหลานไม่พบ ยังมีวิธีอื่นใดที่จะสามารถล่อให้ศิลาตอบสวรรค์ปรากฏตัวได้หรือไม่”อินชิงเสวียนลูบคาง ปัญหาดูเหมือนจะกลับมาที่จุดเดิมนักพรตเทียนชิงกล่าวว่า “ไม่มี ศิลาตอบสวรรค์จะลงโทษคนที่ชั่วร้ายอย่างยิ่งเท่านั้น ไม่เช่นนั้นก็ไม่มีทางออกจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์”ลั่วสุ่ยชิงก็ขมวดคิ้วเช่นกัน“นี่เป็นปัญหาที่แก้ไขยากจริงๆ”อินชิงเสวียนถามอย่างสงสัย “ศิลาตอบสวรรค์จะมีประโยชน์อะไรกับชิงฮุย”ลั่วสุ่ยชิงกล่าวว่า “เขาต้องการเป็นเซียน”“อ๋า?”อินชิงเสวียนมองไปที่ลั่วสุ่ยชิงด้วยความประหลาดใจลั่วสุ่ยชิงพูดอย่างใจเย็น “ในแคว้นเฟยเหยา มีตำนานเล่าขานมาตลอด ตราบใดที่ได้รับศิลาตอบสวรรค์ ก็สามารถหลุดพ้นจากปัญจธาตุได้ สามารถข้ามผ่านวิบากกรรมและบรรลุขั้นสูงสุด บรรลุเป็นเซียน เสด็จพ่อของข้ามีความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้า ตามหาที่อยู่ของศิลาตอบสวรรค์มาโดยตลอด เมื่อแคว้นเฟยเหยาถูกบุกโจมตี เคยมีคนกระตุ้นศิลาตอบสวรรค์ แต่ถึงกระนั้น หินก้อนนั้นก็ยังคงหายไป พ่อของข้าติดตามกลิ่นอายนั้นไป จนพบแดนศักดิ์สิทธิ์ และได้สรุปว่าศิลาตอบสวรรค์อยู่ที่นั่น”“ผู้ที่เป็นคนกระตุ้นคือใคร เป็นชิ

DMCA.com Protection Status