Home / รักโบราณ / สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ / บทที่ 348 หากข้าช่วยนางไม่ได้ก็ไม่สมควรเป็นสามีของนาง

Share

บทที่ 348 หากข้าช่วยนางไม่ได้ก็ไม่สมควรเป็นสามีของนาง

Author: ม่อเยี่ยน
last update Last Updated: 2024-02-19 16:00:01
การเดินทางระยะไกลไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ด้านในต้นขาของอินชิงเสวียนปวดระบมไปหมด โชคดีที่นางสวมชุดกระโปรงสีดำของฟางรั่ว ถ้านางใส่กางเกง ท่าที่เดินคงจะน่าอายไม่น้อย

นางกุมบังเหียน แล้วเดินโซเซไปทางวังหลวง ทันใดนั้นนางก็นึกขึ้นได้ว่าตัวเองสวมใส่หน้ากากใบหน้าของฟางรั่วอยู่ ดังนั้นนางจึงรีบหาสถานปลอดคน และถอดหน้ากากออก

หลังจากใช้เวลานานกว่าครึ่งชั่วยาม อินชิงเสวียนก็มาถึงประตูวังในที่สุด

ทหารองครักษ์ย่อมรู้จักนางอยู่แล้ว จึงพูดด้วยความประหลาดใจ “พระสนมเหยาเฟย ท่านกลับมาแล้ว”

อินชิงเสวียนพยักหน้าอย่างเหนื่อยล้า ถามอย่างกังวลทันที “ฝ่าบาทเป็นอย่างไรบ้าง”

ทหารองครักษ์กล่าวว่า “ฝ่าบาททรงสำราญดี ตอนนี้น่าจะอยู่ในห้องหนังสือกระมัง”

เช้านี้เขาเห็นฝ่าบาทและจิ้งอ๋องขี่ม้าออกจากวัง ท่าทางดูกระตือรือร้นมาก

อินชิงเสวียนตกตะลึงเล็กน้อย “ฝ่าบาทปลอดภัยดี? แล้วองค์ชายน้อยล่ะ”

ทหารองครักษ์ยิ่งสับสนมากขึ้นไปอีก “เมื่อวานพระสนมก็อุ้มกลับมาแล้วไม่ใช่หรือ”

เมื่อได้ยินว่าเสี่ยว‍หนาน‍เฟิงยังอยู่ในวัง อินชิงเสวียนจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก

เย่‍จิ่ง‍อวี้คงรู้แผนการของโยวหลานแล้ว พอมาลองคิดดู ถ้าเขาสามารถเป็นฮ่อ
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP
Comments (1)
goodnovel comment avatar
ranya12120
นางเอกงี่เง่าได้โล่เสมอ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 349 เป็นข้าที่แก้แค้นแทนเจ้า

    เย่‍จิ่ง‍อวี้ต้องการออกรบด้วยตัวเองงั้นหรือและเพื่อตัวนางเองอีกด้วย?อินชิงเสวียนรู้สึกประหลาดใจ และรู้สึกซาบซึ้งใจเช่นกันนอกจากย่าของนางแล้ว ไม่มีใครดีต่อนางอย่าที่สุดขนาดนี้เลยทันใดนั้นนางก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป แล้วเดินออกจากทางเส้นเล็กไป“ฝ่าบาท หม่อมฉันกลับมาแล้ว”เสียงที่คุ้นเคยทำให้เย่‍จิ่ง‍อวี้ตกใจเล็กน้อยแล้วก็เห็นร่างอรชรในชุดผ้าโปร่งสีดำยืนอยู่กลางพุ่มไม้เขียวชอุ่ม ใบหน้าที่งดงามราวกับเครื่องกระเบื้องหยก ส่องแสงเจิดจ้าท่ามกลางประกายแดดคิ้วบนใบหน้าของนางปัดเบาๆ จมูกเป็นสีดอกกุหลาบ ริมฝีปากแดงระเรื่อ และดวงตารูปกลมโตคู่นั้นที่เต็มไปด้วยความโกรธและเสียงหัวเราะ นั่นคืออินชิงเสวียนผู้ที่ทำให้เขาถวิลหาทั้งยามหลับยามตื่นเย่‍จิ่ง‍อวี้ก้าวไปข้างหน้าอย่างตื่นเต้น แล้วหยุดลงเขากระแอมในลำคอแล้วพูดว่า “ราชาสวรรค์เหนือกว่าพยัคฆ์ประจำถิ่น”อินชิงเสวียนยิ้ม “ผู้ถือเจดีย์สะกดปีศาจแห่งหนองน้ำ”“เป็นเจ้าจริงๆ!”เย่‍จิ่ง‍อวี้รีบก้าวไปข้างหน้าและกอดร่างผอมเพรียวไว้ในอ้อมแขนของเขาเขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เค้นออกมาอย่างยากลำบาก “ข้า...เป็นห่วงเจ้ามาก”อุณหภูมิร่างกายอันอบอุ่นได้ห่อ

    Last Updated : 2024-02-20
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 350 มัวชักช้าไม่ได้

    ณ ตำหนักเฉิงเทียนเย่‍จิ่ง‍อวี้แช่ตัวในน้ำพุวิญญาณ และหลับลึกอีกแล้วบาดแผลที่หน้าอกตกสะเก็ดออกหมด ทิ้งไว้เพียงรอบแผลเป็นสีชมพูฝีมือการเย็นของเย่จิ่งหลานไม่เลวเลย อย่างน้อยบาดแผลก็ไม่น่าเกลียดอินชิงเสวียนยืนอยู่ข้างๆ เมื่อมองไปที่เย่‍จิ่ง‍อวี้ นางก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความลำเอียงของท่านเทพผู้สร้างดูเหมือนว่าข้อดีทั้งหลายจะอยู่ในตัวเขาหมดเลย คิ้วหนา เรียวตาหงส์ จมูกโด่งเป็นสัน รับกับริมฝีปากบาง กลุ่มผมสีดำห้อยอยู่บนไหล่ เส้นตรงใต้กระดูกไหปลาร้า กล้ามเนื้อหน้าท้องแน่น และกล้ามท่อนแขนเป็นเส้น หลังมือที่วางอยู่ขอบถังไม้อาบน้ำเห็นเส้นปูดนูน อันทำให้รู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งในสมัยโบราณการที่นางสามารถพบกับชายหนุ่มรูปงามได้ และเขาก็ชอบนางด้วย อาจเป็นผลบุญที่ครอบครัวของนางสั่งสมมาตั้งแต่บรรพบุรุษแต่ชายหนุ่มรูปหล่อคนนี้ดูเหมือนจะหลับไปสักพัก ดังนั้นอินชิงเสวียนจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเบื่อ นางจึงหยิบกระพรวนทองเส้นเล็กๆ ออกมาจากอกเสื้อของนางต่งจื่ออวี๋กล่าวว่าต้องสั่นเจ้านี่ในตอนกลางคืน ถึงจะตามหาเขาได้ ถ้าลองสั่นดูตอนนี้คงจะไม่เป็นไรกระมังอินชิงเสวียนค่อนข้างชอบเสียงนี้ มันฟัง

    Last Updated : 2024-02-20
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 351 หึงหวง

    อินชิงเสวียนขมวดคิ้วงามนางมีความประทับใจที่ดีต่อเย่จั้น เขาเป็นคนที่พึ่งพาได้อีกทั้งเขายังมีวิชาการต่อสู้ที่แข็งแกร่ง และยังมีกุศโลบายอีกมากมาย หากสามารถอยู่ในเมืองหลวงได้ จะช่วยเย่จิ่งอวี้ได้มากโขหากเขาไปในตอนนี้ เย่จิ่งอวี้ก็จะไม่มีผู้ใดที่สามารถเชื่อถือได้อีกแล้ว“ในเมืองซุ่ยหานไม่มีนายพลท่านอื่นเลยหรือ?”“ตอนนี้มีเพียงผู้คุมเมืองสองนาย เกรงว่าจะสกัดกั้นได้เพียงไม่กี่วันเท่านั้น”เย่จิ่งอวี้มาที่ด้านหน้าหน้าต่าง น้ำเสียงแฝงไปด้วยความกระสับกระส่ายเล็กน้อย“อันที่จริงเมื่อไม่กี่วันก่อน ข้าได้รับข่าวด่วนจากเมืองซุ่ยหาน”อินชิงเสวียนถอนหายใจออกมา“น่าเสียดายที่ท่านพ่อข้ากลับเมืองหลวงแล้ว มิเช่นนั้นคงมีรับสั่งพระราชโองการให้พวกเขาอยู่สกัดกั้นสักพักก่อน”“เป็นจริงดังนั้น จะรับสั่งราชโองการตอนนี้ก็สายไปแล้ว”เย่จิ่งอวี้พูดอย่างทำอะไรไม่ได้ และพูดกับหลี่เต๋อฝูว่า “รีบไปส่งข่าวให้เสด็จอาเข้าวัง”หลังจากนั้นครึ่งชั่วยาม เย่จั้นก็เดินเข้ามาจากด้านนอก“ขอถวายบังคมฝ่าบาท!”เย่จิ่งอวี้ยื่นมือไปพยุงเขาขึ้น “เสด็จอาไม่ต้องมากพิธี”เย่จั้นเงยหน้าขึ้น เมื่อเห็นอินชิงเสวียนยืนอยู่ข้า

    Last Updated : 2024-02-20
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 352 ระยะเวลาเจ็ดวัน

    “จ้าวเอ๋อร์”เมื่อเห็นลูกชาย อินชิงเสวียนก็ไม่สามารถระงับความคิดถึงในใจของนางได้ จึงรีบไปที่ต้นเอล์มเก่าแก่ชายผมขาวกลับไม่ขัดขวางนางไว้ และยังปล่อยมือ ยื่นเด็กให้กับอินชิงเสวียนเสี่ยวหนานเฟิงโอบคอของอินชิงเสวียนในทันที ใบหน้าเล็กๆ คล้องคอของนางเหมือนแมว“คิดถึงแม่ใช่ไหม แม่ดูหน่อยสิว่าหิวโซหรือไม่”อินชิงเสวียนอุ้มเสี่ยวหนานเฟิงมาไว้ตรงหน้า และสำรวจรอบตัวเขาเมื่อเห็นว่าลูกยังคงขาวอวบ เนื้อแน่นอวบอ้วน จึงวางใจในทันทีเย่จิ่งอวี้ก็เดินมาที่ใต้ต้นไม้ และคารวะชายผมขาว“ผู้น้อยเย่จิ่งอวี้ ขอคารวะท่านผู้อาวุโส”ชายผมขาวพยักหน้า และถอยไปด้านหลังหนึ่งก้าว เพื่อให้เวลากับสามคนพ่อแม่ลูกอินชิงเสวียนหอมแก้มของเสี่ยวหนานเฟิงไม่หยุด จากนั้นก็หันไปหาชายผมขาว“ไม่ทราบว่าท่านผู้อาวุโสมีเรื่องอะไรกับผู้น้อย?”เมื่อเห็นเย่จิ่งอวี้เคารพเขาเช่นนี้ อินชิงเสวียนจึงไม่กล้าเสียมารยาทชายผมขาวมองมาที่นาง และถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่สงบ “เจ้าคือผู้ดีดพิณการเวกนั่นใช่หรือไม่?”“หากท่านผู้อาวุโสพูดถึงพิณที่โรงเตี๊ยมโหย่วเจีย ผู้น้อยคือคนที่ดีดพิณนั้นจริงๆ”สายตาของชายผมขาวจับจ้องไปทั่วใบหน้าของอินช

    Last Updated : 2024-02-20
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 353 ความตั้งใจแรกเริ่ม

    อินชิงเสวียนเดินออกจากบ้านอย่างอาลัยอาวรณ์ เสี่ยวหนานเฟิงไปเล่นลูกสุนัขที่ทำจากฟางกับชายผมขาวแล้ว และมีเสียงหัวเราะดังออกมาไม่หยุดเมื่อได้ยินเสียงของเสี่ยวหนานเฟิงราวกับเสียงกระดิ่งเงิน อินชิงเสวียนก็รู้สึกหดหู่อย่างอดไม่ได้ลูกคนนี้สนิทสนมกับเขาเร็วเกินไปแล้วหรือไม่ หากเป็นเช่นนี้ ใครก็ลักพาตัวเขาไปได้ง่ายอย่างนั้นหรือ?ทว่ามันก็ทำให้ความโศกเศร้าเจือจางลงเช่นกัน หากว่าเสี่ยวหนานเฟิงร้องไห้งอแงไม่ให้นางไป ไม่แน่ว่านางอาจอยู่ต่อในตอนนี้เลยสีหน้าของเย่จิ่งอวี้ก็ดูไม่ดีมากนักภายใต้แสงจันทร์ เดิมทีรูปเส้นของใบหน้านั่นก็เด่นชัดอยู่แล้ว กลับยิ่งคมชัดมากขึ้น ริมฝีปากบางสองด้านประกบเข้าหากันแน่นอินชิงเสวียนเหลือบมองเขา และเดินเคียงข้างเขาพร้อมกับหนิงซวง“ฝ่าบาทไม่ต้องเป็นห่วง แค่การเรียนศิลปะการเล่นพิณเพียงเจ็ดวัน มันจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว”เสียงที่นุ่มนวลดังขึ้นข้างกาย เย่จิ่งอวี้กลับยิ่งโทษตัวเอง“เพราะข้าไม่มีความสามารถ ไม่อาจปกป้องเจ้าและจ้าวเอ๋อร์ให้ดีได้”อินชิงเสวียนยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยและพูดว่า “ฝ่าบาทพูดเกินไปแล้วเพคะ การเรียนศิลปะการเล่นพิณกับท่านผู้อาวุโส ก็เป็นความต้อง

    Last Updated : 2024-02-21
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 354 ข้าคือสามีของนาง

    อินชิงเสวียนหยิบกระพรวนทองออกมาจากอ้อมแขนรูปทรงของกระพรวนคล้ายกับกำไลข้อมือมาก สีทองเหลืองอร่าม และมีกระพรวนเล็กๆ ห้อยอยู่ที่วงแหวนรอบนอก รวมทั้งหมดสิบอัน เมื่อเขย่าเพียงเล็กน้อยก็จะเกิดเสียงดังกังวานชัดเจนเย่จิ่งอวี้ยื่นมือไปรับ แต่ยังไม่ทันสัมผัสโดนพวงกระพรวน ในสมองก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาอีกครั้งเขาใช้มือกดที่หน้าผาก และเดินโซเซเล็กน้อยอินชิงเสวียนรีบนำกระพรวนยัดเข้าไปในอกเหมือนเดิม พร้อมกับเอื้อมมือไปพยุงเย่จิ่งอวี้ไว้“ในเมื่อฝ่าบาทไม่ชอบเสียงของมัน ก็อย่าฝืนเลยนะเพคะ”ฝีเท้าของเย่จิ่งอวี้ยืนมั่นคงแล้ว ความดื้อรั้นก็มาพร้อมด้วย“ให้ข้าดูอีกครั้ง ข้าไม่เชื่อ แม้แต่สนามรบข้ายังไม่กลัว ข้าจะกลัวกระพรวนเล็กๆ นี่ได้อย่างไร”อินชิงเสวียนจึงจำเป็นต้องหยิบออกมาอีกครั้ง เย่จิ่งอวี้รวบรวมสมาธิหยิบมันขึ้น ถือไว้ในมือและใช้แรงเขย่าเสียงที่ไพเราะดังออกมาจากกระพรวน เย่จิ่งอวี้รู้สึกเจ็บที่หัวคิ้ว จากนั้นก็รู้สึกหน้ามืดและแทบล้มลงกับพื้น“ฝ่าบาท!”อินชิงเสวียนตกใจ และรีบโอบเอวของเขาไว้“อย่าลองเลยนะเพคะ”อินชิงเสวียนแย่งกระพรวนกลับมา และวางเข้าไปในอกเย่จิ่งอวี้จับไหล่ของอินชิงเส

    Last Updated : 2024-02-21
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 355 ตบหน้า

    ทั้งสองเดินกลับตำหนักเฉิงเทียนอย่างช้าๆ ภายใต้แสงจันทร์ ตอนนี้เข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงแล้ว ยามค่ำคืนอากาศเย็นสบายและมีสายลมพัดเบาๆ ซึ่งสบายใจเป็นอย่างมากอินชิงเสวียนหลับตาลงอย่างอดไม่ได้ ปล่อยให้เย่จิ่งอวี้จูงตัวเองไปเหมือนตอนที่นางยังเด็ก มักจะให้คุณย่าเดินจูงตัวเองอยู่บนคันนา ตอนนั้นนางก็ชอบหลับตาให้ลมพัด รู้สึกเป็นอิสระอย่างมาก“ง่วงแล้วหรือ?” เย่จิ่งอวี้ถาม“ไม่เพคะ เพียงแค่ชอบสายลมยามค่ำคืน”อินชิงเสวียนสูดอากาศเย็นๆ ท่ามกลางสายลมอย่างละโมบ แล้วถามอีกครั้งว่า “พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าใช่ไหมเพคะ?”งานพระราชพิธีศพของไทเฮา จะต้องมีพิธีการที่ยุ่งยากเหล่านั้นแน่นอน เมื่อคิดถึงเรื่องพวกนี้ อินชิงเสวียนก็รู้สึกปวดหัวอย่างอดไม่ได้เมื่อเห็นอินชิงเสวียนย่นใบหน้าเล็กๆ เย่จิ่งอวี้ก็หัวเราะด้วยความเอ็นดู“หากเจ้าไม่อยากไป ข้าจะบอกว่าเจ้าไม่สบาย”“ไม่ดีกว่าเพคะ หากว่าหม่อมฉัน เหล่านางสนมในวังหลังและพวกขุนนางจะนินทาหม่อมฉันเอาได้”เย่จิ่งอวี้หัวเราะเบาๆ “มีข้าอยู่ ใครจะกล้าว่าร้ายเจ้า”ในระหว่างที่พูด ก็เดินมาถึงหน้าประตูตำหนัก จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงดีดพิณลอยออกมาเย่จิ่งอวี้ขมวดคิ้วเล็กน

    Last Updated : 2024-02-21
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 356 ข้าคิดถึงเจ้า

    อินชิงเสวียนไม่ตอบแต่ย้อนถามว่า“ฝ่าบาทไม่ให้พระสนมสวีอยู่ด้วยหรือเพคะ นางเป็นถึงผู้ช่วยชีวิตของฝ่าบาท”เมื่อมองเห็นดวงตาสีเข้มที่เต็มไปด้วยคำถาม เย่จิ่งอวี้หัวเราะอย่างอดไม่ได้“ข้าได้เลื่อนตำแหน่งให้สวีเม่าแล้ว ถือว่าเป็นการตอบแทนบุญคุณบ้างเล็กน้อย อีกทั้งเสนาบดีกรมพิธีการก็อายุมากแล้ว อีกไม่เกินสองสามปีก็จะขอลาออกกลับบ้านเกิด ข้าจะยกตำแหน่งเสนาบดีให้กับสวีเม่า สวีจือย่วนคงเข้าใจในความลำบากใจของข้า”ผู้ช่วยชีวิตก็เรื่องหนึ่ง ความรักก็เป็นอีกเรื่องเช่นกันเขารักอินชิงเสวียน แต่ไม่ใช่เพราะความงามของนางเย่จิ่งอวี้เป็นคนรอบคอบมาก และเขาไม่เพียงแค่มองสิ่งต่างๆ ตามรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้นสิ่งที่เขารักจริงๆ ก็คือความรู้และความสามารถของอินชิงเสวียนโรคระบาด น้ำท่วม ภัยพิบัติทางทหาร ไม่ว่างานจะยากแค่ไหน นางล้วนสามารถหาทางแก้ไขได้เสมอสำหรับเขาแล้ว อินชิงเสวียนไม่ใช่แค่นางสนมธรรมดาคนหนึ่งมานานแล้ว แต่เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตที่เขาขาดไปไม่ได้ความรู้สึกแบบนี้ไม่ใช่รักแรกพบ แต่มันก่อเกิดอย่างช้าๆ และระเบิดออกมาในที่สุด ซึ่งแข็งแกร่งกว่ารักแรกพบมากเขาไม่ใจบุญสุนทานเหมือนฮ่องเต้องค์ก่อน แ

    Last Updated : 2024-02-21

Latest chapter

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1533 เจ้าน่ะ ยังมีนิสัยดื้อรั้นเหมือนเดิม

    “ในเมื่อเจ้าเตรียมตัวพร้อมแล้ว เช่นนั้นก็ตามข้าไปที่อื่น”อินชิงเสวียนดีดปลายเท้าขึ้น ร่างนั้นก็กระโดดออกจากตำหนักจินอู๋ ท่วงท่ากิริยาเบาบางและสง่างาม ราวกับเทพธิดาในวังพระจันทร์ที่ทิ้งร่องรอยความงดงามไว้บนโลกมนุษย์ฟางรั่วติดตามอย่างใกล้ชิด พลางชื่นชมในใจอินชิงเสวียนเป็นคนพิเศษจริงๆ!ราวสิบห้านาที ร่างที่สง่างามทั้งสองก็ปรากฏตัวขึ้นในตำหนักฉือหนิงหลังจากไทเฮาสิ้นพระชนม์ สถานที่แห่งนี้ก็ว่างเปล่า ขณะนี้มีไท่เฟยและไท่ผินเพียงไม่กี่คนที่เหลืออยู่ในวัง ที่พักอาศัยมีมากมาย เหตุผลที่อินชิงเสวียนเลือกสถานที่นี้ ก็เพราะเย่จิ่งอวี้จะไม่มาจากนั้นก็นึกในใจ ครั้นแล้วถังไม้ขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า และในพริบตาเดียว มันก็เต็มไปด้วยน้ำพุวิญญาณที่ใสสะอาด“เข้าไปสิ สิ่งนี้สามารถรับรองความปลอดภัยของเจ้าได้ในระดับสูงสุด”“เพคะ”ฟางรั่วก้าวเข้าไปในถังโดยไม่ลังเลใดๆ แม้เป็นฤดูหนาว น้ำในถังนี้กลับไม่เย็น แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นที่ปกคลุมผิวหนังและเส้นลมปราณทั้งหมดของนางอินชิงเสวียนตามเข้ามา จากนั้นนั่งตรงข้ามนางแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น น้ำพุวิญญาณก็สามารถรับรองความปลอดภัยในชีวิตขอ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1532 คืนชีวิตให้ท่านแล้วจะเป็นไร

    “เจ้าลุกขึ้น ข้าหมายถึงอาจจะทำได้ แต่จะมีโอกาสฟื้นตัวได้มากเพียงใด ข้าก็ไม่แน่ใจ เรื่องนี้ เจ้าควรปรึกษากับกวนเซี่ยวก่อนดีกว่า ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเจ้าเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับเขาด้วย”อินชิงเสวียนพยุงฟางรั่วด้วยมือทั้งสองข้าง และอธิบายข้อดีข้อเสียฟางรั่วพยักหน้า“ข้าเข้าใจ เพียงแต่ สุขภาพของฮองเฮา”อินชิงเสวียนท้องโตขนาดนี้ หากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา นางไม่สามารถรับผิดชอบไหวอินชิงเสวียนยิ้มละไม“ร่างกายของข้าแข็งแรงมาก ไม่เป็นไร เจ้าคิดดีแล้วก็มาหาข้าที่วังหลวงได้เลย”“เพคะ”ขณะที่กำลังคุยกัน ทั้งสองคนก็เดินไปที่แท่นประลองข้างๆ แล้วเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งอายุสิบห้าหรือสิบหกปี ถือดาบคู่อยู่ในมือ กระโดดขึ้นลงด้วยท่าทางที่เบาและกล้าหาญ บีบชายที่อยู่ตรงข้ามหลังให้ล่าถอยทีละก้าว จนตกแท่นประลอง ล้มลงต่อหน้าผู้ชม อินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะชื่นชมมัน“ทำได้ดีมาก!”ใบหน้าของฟางรั่วแสดงถึงความภาคภูมิใจ“เด็กหญิงคนนี้ชื่อหลิวซู่เยว่ เมื่อก่อนเป็นลูกสาวของหัวหน้าคณะละคร นางมีทักษะการต่อสู้อยู่บ้าง หลังจากที่บิดาเสียชีวิต นางไม่สามารถดูแลคณะละครได้ จึงมาที่เมืองหลวง เข้ามาเรี

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1531 ขอฮองเฮาได้โปรดช่วยเหลือด้วย

    “ข้าเอง!”อยู่ๆ อินชิงเสวียนก็นึกสนุก กระโดดขึ้นไปบนแท่นสูงเมื่อเห็นนางชัดเจน คนบนแท่นก็ยิ้มแย้มแจ่มใสด้วยความดีใจ“อิน...”นางพูดได้คำเดียว จากนั้นรีบเปลี่ยนคำพูด คุกเข่าลงแล้วพูดว่า “หน่วยรักษาการณ์ฝั่งซ้ายฟางรั่ว ขอน้อมถวายพระพรฮองเฮาเพคะ”อินชิงเสวียนเอื้อมมือไปประคองนางขึ้น แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “เพียงพริบตาเดียวก็ไม่ได้เจอกันมาครึ่งปีแล้ว แม่นางฟางรั่วเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคนเลย มีความกล้าหาญขนาดที่หมื่นคนก็ขวางไม่อยู่ ทำให้สตรีทั่วทั้งแผ่นดินรู้สึกภาคภูมิใจจริงๆ”ฟางรั่วถูกอินชิงเสวียนยกย่องจนดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาตินัก นางก้มศีรษะลงแล้วพูดว่า “ฮองเฮาตรัสยกย่องเกินไปแล้ว”นางพูดด้วยกระแสเสียงสงบ ก้องกังวานราวกับว่าเสียงโลหะกระทบกัน คิดว่านางคงใช้น้ำพุวิญญาณที่ตัวเองเก็บไว้ให้ จนก้าวหน้าไปอีกขั้นแล้ว“คำยกย่องใช่ว่าจะไม่มีมูล เจ้าเก่งมากจริงๆ ข้ามองคนไม่ผิด คนเหล่านี้เป็นลูกน้องของเจ้าหรือ”อินชิงเสวียนหันความสนใจไปยังคนที่เบื้องล่างแท่นประลองฟางรั่วพยักหน้า“สตรีทุกคนในค่ายกำลังสอบวิชาการต่อสู้ หลังจากพวกนางสอบเสร็จสิ้น ฮองเฮาก็จะสามารถชมความองอาจของพวกนางได้”อินชิงเสว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1530 ใครกล้าขึ้นแท่นประลอง

    อินชิงเสวียนที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็กลั้นเสียงหัวเราะ แต่ต้องชื่นชมสายตาขององครักษ์เงาเหล่านี้ ภายใต้การจ้องมองของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นแผนการและกลอุบายใดๆ ก็ไม่สามารถรอดพ้นสายตาไปได้สามวันผ่านไปในชั่วพริบตา เอกสารสอบที่ปิดผนึกจำนวน 420 ชุดก็ถูกขนย้ายเข้ามาในห้องหนังสือแล้วอินชิงเสวียนรออยู่ก่อนแล้ว นี่เป็นครั้งแรกของที่ทำหน้าที่ตรวจข้อสอบ นางตื่นเต้นมาก หลังจากได้รับกระดาษคำตอบแล้ว นางก็เปิดผนึกเคลือบออกทันที สองสามีภรรยามีการแบ่งงานอย่างชัดเจน คนหนึ่งตรวจวิชาคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และเคมี ส่วนอีกคนก็พิจารณาภาพรวม หลังจากผ่านไปสิบวัน ในที่สุดก็ได้คัดเลือกออกมาเก้าสิบหกชุดอินชิงเสวียนตรวจอ่านจนเวียนหัวตาลาย ชาตินี้ไม่คิดจะแตะต้องชุดข้อสอบเหล่านี้อีกแล้วเย่จิ่งอวี้นวดหน้าผากของนางเบาๆ ถามด้วยรอยยิ้ม “อีกไม่กี่วันจะเป็นการสอบหน้าพระที่นั่ง ฮองเฮาอยากมาสังเกตการณ์หรือไม่”อินชิงเสวียนส่ายหัวซ้ำๆ“ไม่แล้ว ฝ่าบาทดูก็พอ ตอนนี้ข้าแค่อยากจะนอนพักผ่อนให้สบายสักสองสามวันแล้ว”เย่จิ่งอวี้พูดอย่างเอ็นดูรักใคร่ “ได้ เช่นนั้นก็พักผ่อนดีๆ ฮองเฮาของข้าลำบากแล้ว”อินชิงเสวียนถอนหายใจอีกครั้ง“น่าเสียดา

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1529 การสอบฤดูใบไม้ผลิ

    เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เพียงพริบตาเดียวก็ถึงเดือนสามนักเรียนฝ่ายบุ๋นฝ่ายบู๊จำนวนมากหลั่งไหลเข้ามาในเมืองหลวง ต้าโจวก็คึกคักครื้นเครงเป็นพิเศษ วันที่สิบแปดเดือนสาม กรมพิธีการเป็นประธานในการสอบอินชิงเสวียนปลอมตัวเป็นอาจารย์อินอีกครั้ง และแอบหนีไปที่หอตรวจ ท้องของนางเริ่มโตขึ้นมากแล้ว เพื่อไม่ให้ถูกคนสังเกตเห็น จึงสวมชุดคลุมตัวใหญ่ อำพรางร่างกาย ไว้เย่จิ่งอวี้ไม่วางใจ ปลอมตัวเป็นองครักษ์ติดตามไปด้วย โดยมีหน้ากากปิดบังครึ่งใบหน้า ริมฝีปากที่เม้มน้อยๆ ยังคงแสดงให้เห็นถึงอำนาจของผู้สูงศักดิ์เขาโค้งคำนับประสานมือคารวะ พูดพร้อมกับหัวเราะเบาๆ “ฝ่าบาทมีรับสั่งให้ข้าน้อยคุ้มครองความปลอดภัยของ อาจารย์อิน ถ้าอาจารย์อินต้องการสิ่งใด เชิญสั่งมาได้เต็มที่”อินชิงเสวียนกลอกตามองเขา วางท่าเหมือนเป็นผู้มีการศึกษา“ไปยืนอยู่ด้านหลัง หากไม่มีอะไรก็อย่าพูดมาก”“รับทราบ”เย่จิ่งอวี้ลดมือลง ยืนข้างหลังนางอย่างเชื่อฟัง โดยไม่พูดอะไรสักคำอินชิงเสวียนเม้มริมฝีปากยิ้มๆ แล้วก้าวเข้าไปในห้องสอบเสนาบดีกรมพิธีการกำลังนั่งดื่มชาบนเก้าอี้ ท่าทางสบายอารมณ์มาก คนจากสำนักศึกษาหลวงถูกย้ายมาที่นี่แล้ว ไม

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1528 ทำไมเสด็จพ่อถึงคลอดลูกไม่ได้

    วันรุ่งขึ้นในตอนเช้า เหล่าขุนนางได้รับข่าว สั่งให้ชาวเมืองเร่งไปที่พระนครในเวลาหนึ่งทุ่ม เพราะฝ่าบาทจะฉลองวันตรุษกับราษฎรทุกคนในอดีต ก็มีการเฉลิมฉลองวันตรุษกับราษฎร แต่พวกเขาไม่เคยได้รับอนุญาตให้ไปที่พระนครในสถานที่สำคัญอย่างเช่นวังหลวง จะให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าใกล้ได้อย่างไร แม้แต่การมองจากไกลๆ ก็มีโทษหนักถึงขั้นตัดศีรษะ หลังจากได้ทราบข่าวนี้ ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ และตั้งตารอคอยเพียงชั่วพริบตาก็ถึงเวลาหนึ่งทุ่ม เหล่าขุนนางก็ได้รับการต้อนรับเข้าสู่พระราชวังเพื่อร่วมงานเลี้ยง ด้านนอกประตูวังก็มีผู้คนมากมายขณะที่มองดูคบเพลิงที่โอ้อวด ทุกคนอดไม่ได้ที่จะกระซิบกระซาบ“อากาศหนาวมาก ให้เรามาทำอะไรที่นี่กัน”“ใช่ มืดสนิทอย่างนี้ หรือจะให้พวกเรานั่งฟังพวกขุนนางข้างในนั่นยกจอกดื่มกันอย่างสนุกสนาน?”“หยุดพูดไร้สาระได้แล้ว ในเมื่อบอกให้เรามาก็มาเถอะ ครึ่งเดือนที่แล้วฮองเฮาประทานข้าว แป้งหมี่ ผักและผลไม้ให้เรามากมาย แม้ต้องทนหนาวก็สมควรแล้ว”“ไม่ใช่หรอกรึ ถึงอย่างไรคนก็มีคุณธรรม ในฤดูกาลนี้จะหาผลไม้และผักสดอร่อยๆ แบบนี้ได้ที่ไหน แม้ว่าฮองเฮาจะให้ทนหนาว ข้าก็ยอมรับได้”

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1527 องค์หญิงซ่อนความคิดไม่มิด

    พริบตาก็ถึงวันสิ้นปี นับตั้งแต่พิธีเสกสมรสของท่านอ๋องสิบสามก็ผ่านไปสองเดือนแล้วท้องน้อยของอินชิงเสวียนนูนขึ้น คนทั้งคนเป็นเหมือนแมวขี้เกียจ สิ่งที่ชอบที่สุดคือการนอนอาบแดดบนเก้าอี้นวมยาวนุ่มๆ ในขณะนี้ นางหรี่ตาลงเล็กน้อย ฟังเสียงของสาวน้อยเย่ไห่ถังที่ดังก้องอยู่ในหูของนาง“เสด็จอาสิบสามแต่งงานมานานแล้ว ทำไมเสด็จพี่ถึงยังไม่พูดถึงการแต่งงานของข้าล่ะ เสด็จพี่สะใภ้ อินปู้อวี่เป็นพี่รองของท่านนะ ท่านไม่ร้อนใจหรือ”“เสด็จพี่สะใภ้ ท่านอย่าเพิ่งหลับนะ ลุกขึ้นมาคุยกับข้าหน่อยสิ”อินชิงเสวียนถูกนางรบกวนจนปวดหัว จำต้องลืมตาตื่น“การแต่งงานของเจ้ากับพี่รองจะจัดขึ้นในปีหลังจากนั้น ถึงอย่างไรเสด็จอาสิบสามของเจ้าก็เป็นผู้อาวุโส เจ้าแต่งงานพร้อมกับเขา มันไม่เหมาะสม”เย่ไห่ถังทำหน้าบูดบึ้งทันที“ไม่เหมาะสมอะไรกัน ข้าไม่ได้แต่งงานกับเขาเสียหน่อย”อินชิงเสวียนโกรธจนหัวเราะ“เรื่องนี้เจ้าก็ยังพูดออกมาได้นะ ถ้าเสด็จพี่เจ้าได้ยิน บางทีอาจส่งเจ้าไปแต่งงานเชื่อมไมตรีจริงๆ ก็ได้”เย่ไห่ถังสะดุ้ง รีบปิดหูของอินชิงเสวียนทันที พระราชโองการนั้นได้กลายเป็นเงาในใจของนางแล้ว แม้ว่าจะรู้ว่ามันเป็นเรื่องเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1526 ความฝันเป็นจริง

    “ไม่นาน”กระแสเสียงของอินหลีฟังดูอ่อนหวานและขี้อาย ทำให้คนอดเอ็นดูเสียมิได้เย่จั้นรับคำไม้มงคลจากสาวใช้ แล้วเปิดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวที่ประดับด้วยลูกปัดเปลือกหอยสีแดงขนาดใหญ่ออก ครั้นแล้วใบหน้างามสดใสฟันขาวเรียงเป็นระเบียบ และท่าทางที่เขินอายก็ปรากฏสู่สายตาของเย่จั้นเมื่อคิดว่าสตรีที่งดงามเช่นนี้จะเป็นของตัวเองต่อจากนี้ไป นิ้วเรียวยาวของเย่จั้นก็อดไม่ได้ที่จะสั่นเล็กน้อย รู้สึกอิ่มเอมใจและซาบซึ้งอย่างบอกไม่ถูกในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา แม้ว่าเขาจะพาอินหลีเข้าไปอยู่ในวัง แต่ทั้งสองก็ปฏิบัติตามธรรมเนียมประเพณีอย่างเคร่งครัด ไม่เคยกล้าที่จะล้ำเส้นหรือทำเกินเลย เพียงเพื่อความสมบูรณ์แบบในวันนี้โชคดีที่สวรรค์ทรงเมตตาเขา แม้ว่าเขาจะสูญเสียสตรีที่รักที่สุดไป แต่หลังจากเฝ้าตามหามาหลายปี ในที่สุดก็ตามหานางจนเจอ เขาจะใช้เวลาที่เหลือทั้งชีวิต เพื่อชดเชยเวลาที่เสียไปในช่วงที่อินหลีติดอยู่บนภูเขา“อาหลี เจ้าในวันนี้ งามมาก!”เย่จั้นค่อยๆ ทรุดกายลงนั่ง คุกเข่าลงบนพื้น เงยหน้าขึ้นมองอินหลีบางทีในสายตาของคนนอก นางกับอินชิงเสวียนจะมีความคล้ายคลึงกัน นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงยอมเสี่ยงเพื่อตระกูล อ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1525 พิธีเสกสมรสของท่านอ๋องจิ้ง

    ณ ตำหนักจินอู๋“เป็นอย่างไร ข้าดูคนออกไหม”เย่จิ่งอวี้นั่งอยู่บนเก้าอี้นวมยาวนุ่มๆ ด้วยสีหน้าท่าทางพออกพอใจมากอินชิงเสวียนทำเสียงชิ“เห็นๆ อยู่ว่ามันเป็นเรื่องง่ายที่จบได้ด้วยคำพูดเดียว ท่านกลับข่มขู่จนพวกเขาเกือบตาย เอาเถอะ เห็นแก่อาอวี้ที่วางแผนเผื่อน้องสาว ข้าจะไม่ถือสาท่าน ได้ยินมาว่าเสด็จอาไปสู่ขอที่ตระกูลอินแล้ว ต้าโจวมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นติดต่อกันเลยทีเดียว”เย่จิ่งอวี้โอบนางไว้ในอ้อมแขน“สิ่งที่ข้ารอคอยมากที่สุดคือเรื่องดีของเสวียนเอ๋อร์ ช่วงนี้รู้สึกอย่างไรบ้าง องค์หญิงน้อยของเราดิ้นบ้างหรือไม่”อินชิงเสวียนลูบท้องน้อยโดยไม่รู้ตัว“ไม่มี ถึงอย่างไรก็เป็นลูกสาว ท่าทางว่าง่ายมาก”เย่จิ่งอวี้โน้มตัวลง เอาหน้าแนบกับท้องน้อยของอินชิงเสวียน“เช่นนั้นก็ดีแล้ว เสวียนเอ๋อร์มีชื่อที่ชอบหรือเปล่า”อินชิงเสวียนหรี่ตาลงแล้วพูดว่า “ชื่อของจ้าวเอ๋อร์ยิ่งใหญ่เกินไป ก็เลยไม่รู้ว่าจะตั้งชื่อว่าอะไรถึงจะเข้ากับลูกสาวสุดที่รักของข้า”เย่จิ่งอวี้ยิ้มและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นข้าจะตั้งชื่อเอง แม้ต้องเปิดตำราโบราณจนหมดวังหลวง ข้าก็จะตั้งชื่อที่โด่งดังที่สุดในโลกให้ลูกสาวของเรา”อินชิงเสวีย

DMCA.com Protection Status