แชร์

บทที่ 194 ความขี้ขลาด

ผู้เขียน: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-01-13 16:00:01
กวนลี่จือรู้สึกคันยุบยิบที่หัวใจทันที

เขาไปที่โรงบ่อนไม่ใช่แค่เพื่อเล่นการพนันเท่านั้น แต่เพราะเขาอยากเห็นแม่นางผู้สวมชุดสีดำ คลุมผ้าคลุมหน้าผู้หนึ่ง

ดวงตาทั้งคู่ของแม่นางผู้นั้นเรียวราวกับพระจันทร์เสี้ยว ทำให้กวนลี่จือตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็น อิริยาบถยามเคลื่อนไหวก็ช่างแสนจะเปิดเผย ได้เล่นทอยลูกเต๋ากับนางถือเป็นการเสพสุขอย่างที่สุดแล้ว

เมื่อคิดถึงแม่นางผู้นั้น ใบหน้าอันแสนน่าเกลียดของอาโฉ่วก็ไม่ดูขัดตาอีก

“นับว่าเจ้ารู้หน้าที่ดี เอาผลผิงกั่วลงมาเถอะ ข้าจะไปบอกท่านปู่สักหน่อย”

กวนลี่จือเดินเข้าไปในห้อง แล้วพูดเสียงเอื่อยๆ “ท่านปู่ ข้าอยากออกไปเล่นสักหน่อย”

กวนเมิ่งถิงด่าทอทันที “วันๆ รู้จักแต่เล่น กงการไม่ยอมทำ”

กวนลี่จือดึงแขนเสื้อของกวนเมิ่งถิง แล้วพูดอย่างประจบประแจง “มีปู่ที่เก่งกาจเช่นท่าน ข้ายังต้องทำอะไรอีก รอสืบทอดกิจการตระกูลจากท่านไม่พอแล้วหรือ”

กวนเมิ่งถิงสะบัดเขาออก พูดด้วยความโกรธ “นี่เจ้ากำลังรอให้ข้าตายอยู่รึ”

กวนลี่จือสะดุ้งโหยง ลนลานคุกเข่าลงทันที

“ท่านปู่ ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น”

กวนเมิ่งถิงมีหลานชายเพียงคนเดียว ตัดใจดุด่าว่ากล่าวเขาอย่างรุนแรงไม่ลง จึงโบก
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 195 แต่งตั้งสนม

    ณ ตำหนักจินหวูอินชิงเสวียนกอดเสี่ยวหนานเฟิง เอนตัวลงบนเตียงอย่างเหม่อๆเมื่อนึกถึงทุกสิ่งที่เย่จิ่งอวี้ทำเพื่อปกป้องนางในตำหนักจินหลวน ความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ก็สะท้อนอยู่ในอกในความเจ็บปวดรวดร้าว กลับยังรู้สึกถึงความหวานอันไม่ทราบสาเหตุ!เหตุใดบุรุษที่มีกำลังความสามารถมากเพียงนี้ จึงต้องเป็นฮ่องเต้ด้วยแต่ถ้าเขาไม่ใช่ฮ่องเต้ เขาจะสามารถปกป้องนางได้งั้นหรือเมื่อนึกถึงความสุขุมเยือกเย็นยามที่เขาเผชิญหน้าต่อหน้าไทเฮาและเหล่าขุนนาง อินชิงเสวียนก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจนี่เป็นการถอนหายใจครั้งที่ยี่สิบของนางแล้วในเวลานี้เอง มีเสียงฝีเท้าดังมาจากด้านนอกประตูเย่ไห่ถังพาอวิ๋นเฟิงเดินเร็วๆ เข้ามาถามด้วยท่าทางกังวล “เสี่ยวเสวียนจื่อ ข้าได้ยินมาว่าเสี่ยวหนานเฟิงเป็นผื่นแถมยังตัวร้อนเพราะสวมชุดที่ข้านำมา เป็นเรื่องจริงหรือ”อินชิงเสวียนรีบลุกขึ้นทันที แล้วคำนับถวายพระพรองค์หญิงดูท่าว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในราชสำสักเมื่อเช้านี้ยังมาไม่ถึงวังหลัง ทุกคนจึงยังไม่ทราบว่านางได้กลายเป็นหลิวเสวียนแล้ว“เป็นเช่นนั้นจริง แต่ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว องค์หญิงไม่ต้องกังวล”ทันใดนั้นเย่ไห่ถังก็ตาแดง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-13
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 196 ไม่กลัวตายแล้วรึ

    อินชิงเสวียนถูกกดให้นั่งบนเก้าอี้ แต่เมื่อสางผมไปได้เพียงครึ่ง นางก็กระโดดขึ้น“ไม่ได้ ไม่ได้ วันนี้ข้าไม่สามารถพบฝ่าบาทได้”ฮ่องเต้คงมาที่นี่เพราะอยากให้นางปรนนิบัติเรื่องบนเตียงแน่ๆ บุรุษส่วนเป็นสิ่งมีชีวิตที่ขับเคลื่อนด้วยอวัยวะท่อนล่างในยุคปัจจุบันนางก็เป็นแค่ดอกเดซี่ดอกน้อยๆ บริสุทธ์ที่รอการเบ่งบาน ยังไม่เคยสัมผัสมือชายใดด้วยซ้ำ อยู่ๆ ก็จะให้ไปขึ้นเตียงทำเรื่องพรรค์นั้นกับคนอื่น เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!อินชิงเสวียนยิ่งคิดก็ยิ่งตกประหม่า นางผลักยายหลี่ออกไปอย่างกะทันหัน กลิ้งตัวลงบนเตียง แล้วดึงผ้าห่มมาคลุมตัวเองยายหลี่ยกผ้าห่มขึ้น กล่อมด้วยรอยยิ้ม “นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของพระสนมกับฝ่าบาทเสียหน่อย ลูกก็มีกันแล้ว ยังต้องกลัวอะไรอีก รีบลุกขึ้นเร็ว พวกเราไปแต่งตัวให้งดงามเลย”อินชิงเสวียนคลุมผ้าห่มทันที พูดเสียงดัง “ถึงเป็นอย่างนั้นก็ไม่ได้ เจ้ากับอวิ๋นฉ่ายไปเฝ้าที่ประตู ถ้าฝ่าบาทเสด็จมา ให้บอกไปว่าข้ารู้สึกไม่สบาย ให้เขาไปหาคนอื่น”ยายหลี่พูดอย่างอดทน “พระสนมพูดเหลวไหลอะไร ความโปรดปรานของฮ่องเต้นั้นมีค่ากว่าทองพันชั่ง ตอนนี้ฝ่าบาทได้แต่งตั้งยศศักดิ์ให้พระสนมแล้ว ซึ่งนี่เป็นการเริ่ม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-14
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 197 ตามข้ามาเร็ว

    ขณะที่อินชิงเสวียนกำลังจะอ้าปาก คนผู้นั้นก็รีบวิ่งเข้ามาข้างหน้านางและปิดปากของนางโดยเร็ว“ข้าเอง!”อินชิงเสวียนตกใจเล็กน้อยอินสิงอวิ๋นนั่นเอง!ในเวลานี้ ก็มีคนตะโกนจากข้างนอกว่า “นั่นใคร หยุดนะ!”อินชิงเสวียนตกใจ อดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้างมองไปยังอินสิงอวิ๋นที่สวมหน้ากากอินสิงอวิ๋นเป่าเทียนให้ดับ แล้วกระซิบ “ไม่เป็นไร”ได้ยินเสียงเสื้อผ้าขยับอยู่ข้างนอก แล้วดูเหมือนว่ามีอีกคนได้วิ่งออกไปไกลๆ“ท่านเข้ามาในวังหลวงได้อย่างไร” อินชิงเสวียนถามด้วยความประหลาดใจอินสิงอวิ๋นลดเสียงลง และพูดว่า “ข้าได้ยินข่าวบางอย่างที่อาจไม่ส่งผลดีต่อเจ้า เจ้าต้องออกจากวังกับข้าตอนนี้”อินชิงเสวียนเงยหน้าขึ้นมอง “ข่าวอะไร”อินสิงอวิ๋นคว้าข้อมือของอินชิงเสวียน แล้วพูดอย่างเร่งด่วน “ตอนนี้ตัวตนของเจ้าถูกเปิดเผยแล้ว พรุ่งนี้เย่จิ่งเย่าจะมาระบุตัวเจ้าในราชสำนักอย่างแน่นอน ขืนอยู่ในวังจะเป็นอันตรายเกินไป ข้าให้คนเบี่ยงเบนความสนใจองครักษ์ไปอีกทางแล้ว เราต้องรีบออกไปเดี๋ยวนี้”อินชิงเสวียนขมวดคิ้วเย่จิ่งอวี้ได้กล่าวแล้วว่าเขาจะสอบสวนเรื่องของตระกูลอินอีกครั้ง หากนางจากไปในเวลานี้ เย่จิ่งอวี้จะโกรธอย่าง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-14
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 198 ข้ามีลูกคนหนึ่ง

    สีหน้าของอินสิงอวิ๋นเปลี่ยนไปทันที“เจ้าว่าอะไรนะ”อินชิงเสวียนผลักอินสิงอวิ๋นออกไป เกาะขอบหน้าต่างพยุงตัวขึ้น“ข้า...มีลูกคนหนึ่ง”อินสิงอวิ๋นถามด้วยความประหลาดใจ “ของใคร”อินชิงเสวียนหายใจเข้าลึกๆ และพูดอย่างจำใจ“เป็น...ของเย่จิ่งอวี้”ประกายโทสะพลุ่งพล่านในแววตาทั้งคู่ของอินสิงอวิ๋น แล้วครู่หนึ่งก็สงบลง“เจ้า...เหตุใดเจ้าถึงต้องเข้าไปพัวพันกับตระกูลเย่ด้วย”ยังไม่ทันที่อินชิงเสวียนจะเอ่ยปากพูด อินสิงอวิ๋นก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง “ตัวเจ้าอยู่ในวัง ช่วยตัวเองไม่ได้ ในเมื่อเย่จิ่งอวี้ข่มเหงเจ้า เด็กคนนั้นจะไม่เอาก็ได้”เสี่ยวหนานเฟิงคลอดออกมาได้เพราะการเสี่ยงชีวิตของเจ้าของร่างเดิม แล้วจะบอกว่าไม่ต้องการได้อย่างไร“พี่ใหญ่ ข้าทิ้งเขาไว้ในวังไม่ได้”อินสิงอวิ๋นอดไม่ได้ที่จะกำหมัดแน่น หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก “ในเมื่อเจ้าตัดใจไม่ได้ เช่นนั้นก็พาเขาไปด้วย เด็กอยู่ที่ใด”เมื่อได้ยินว่าอินสิงอวิ๋นรับปากว่าจะพาเด็กไปด้วย อินชิงเสวียนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสั่นไหวเล็กน้อยถ้าสามารถออกไปจากต้าโจวได้จริงๆ บางทีอาจจะเป็นการเริ่มต้นใหม่ถึงอย่างไรในตัวนางก็มีเงินหลาย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-14
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 199 ข้าต้องการให้เจ้าเข้าวัง

    “ฝ่าบาท พระสนมเหยาเฟยมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ”เสียงของหลี่เต๋อฝูทำให้ทุกคนหันกลับมาโดยพร้อมเพรียงแล้วก็เห็นสตรีในชุดกระโปรงสีชมพูอ่อนเดินขึ้นมาอย่างสง่างาม มีมวยผมบนศีรษะปักด้วยปิ่นมุกดอกไม้เรียบๆ ทว่างดงามหลายดอก คิ้วโก่งได้รูป ใบหน้าอันประณีตยากจะวาดเลียนแบบได้ คิ้วงามดั่งยอดเขายามวสันต์ ตาสุกใสปานธาราฤดูสารท วางตัวอยู่เหนือกิเลสทั้งปวงยิ่งทำให้คนรู้สึกราวกับภาพฝัน!เสี่ยวเสวียนจื่อผู้นี้ ช่างงดงามเหลือเกิน!มิน่าเล่าฝ่าบาทต่อให้ต้องแตกหักกับไทเฮา ก็จะปกป้องนางให้จงได้ทว่ายังมีบางคนรู้สึกว่า รูปลักษณ์นี้ดูงามงดมากเกินไป ค่อนข้างเป็นอันตรายต่อราษฎรและบ้านเมืองหากฝ่าบาทหลงระเริงในความงาม จะทำเช่นไรเย่จิ่งเย่าก็หันศีรษะไปมอง ดวงตาฉายแววประหลาดใจเล็กน้อยอินชิงเสวียนนั้นงดงามมากจริงๆ แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นที่ทำให้เขาลุ่มหลง แต่วันนี้ รูปร่างหน้าตาของนางเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนเล็กน้อย ผิวพรรณเนียนผ่องราวกับหยก ลำคอระหงขาวนวล กลับเข้าตาของเขาอย่างจังอินชิงเสวียนคุ้นเคยกับชีวิตการเป็นขันทีน้อยมานานแล้ว และเคยชินมากจริงๆ แต่จู่ๆ กลับถูกผู้คนมองเขม็งเช่นนี้ นางจึงเดินไปอย่างประดักประเดิดโชค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-15
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 200 ขันทีร้อนใจ

    ฟางรั่วตกใจ รีบคุกเข่าลงอย่างลนลาน“นายท่าน ฟางรั่วสำนึกผิดแล้ว นายท่านโปรดลงโทษด้วย นายท่านอย่าส่งฟางรั่วเข้าวังเลยนะเจ้าคะ”อินสิงอวิ๋นเชยคางของนางขึ้น มองดูนางสักพักแล้วพูดว่า “เจ้าพาคนไปเบี่ยงเบนความสนใจขององครักษ์ให้ข้า มีความผิดได้อย่างไร ข้าแค่นึกขึ้นได้ชั่วขณะเท่านั้น อีกอย่างการเข้าไปในวังไม่ใช่เรื่องง่าย ลุกขึ้นเถอะ!”ฟางรั่วถอนหายใจด้วยความโล่งอก“ขอบคุณครับนายท่าน!”อินสิงอวิ๋นเทสุราใส่จอกอีก แล้วพูดอย่างเย็นชา “ไปพักเถอะ ข้าอยากอยู่เงียบๆ สักพัก”“เจ้าค่ะ”ฟางรั่วก้าวฉับๆ เดินจากไป แล้วอินสิงอวิ๋นก็ดื่มสุราจนทั้งหมดในอึกเดียว ความเคียดแค้นในแววตาแข็งกร้าวขึ้นอีกครั้งหลังจากสาดผงสลบแล้ว เย่จิ่งอวี้ไม่ได้ส่งผู้ใดมาไล่ล่าเขาเลยไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เป็นการเหยียดหยาม เย่จิ่งอวี้ได้แสดงท่าทีอย่างชัดเจนแล้วว่าเขาไม่เห็นเข้าอยู่ในสายตาอินสิงอวิ๋นเย่อหยิ่งจองหองมาโดยตลอด จู่ๆ ก็รู้สึกว่านี่เป็นความอัปยศอดสูอย่างยิ่งเมื่อนึกถึงว่าอินชิงเสวียนมีลูกกับเขา ความโกรธขึ้งในแววตาก็แทบจะกลายเป็นแก่นแท้ของดวงตาเย่จิ่งอวี้เจ้าสุนัขใจทรามกล้าบังคับขืนใจชิงเสวียนถึงเพียงนี้ ถ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-15
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 201 ต่างคนต่างความคิด

    ระหว่างเดินไปตามทางหินกรวด อินชิงเสวียนเดินซอยเท้าถี่ๆ มุ่งหน้าไปยังตำหนักจินหวูชุดสตรีนั้นดูดีจริงๆ แต่ก็ก็อึดอัดจนนางแทบเดินไม่ได้ด้วยซ้ำแค่รวบมือตั้งศอกเพียงครู่เดียว อินชิงเสวียนก็รู้สึกว่าปวดไหล่ เมื่อยจนอาการปวดต้นคอกำเริบเมื่อปรายตามองเห็นขันทีน้อยสองคนที่ตามมาข้างหลัง อินชิงเสวียนก็วางมือลงเสียดื้อๆ แล้วเดินฉับๆ ออกไปอย่างใจถึงเมื่อเห็นพระสนมใจถึงขนาดนี้ เหล่าขันทีน้อยก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง และรีบก้มหน้าก้มตาไม่ยอมมองสิ่งที่ไม่เหมาะสมสิบห้านาทีต่อมา ตำหนักจินหวูก็ปรากฏให้เห็นอยู่เบื้องหน้า มีคนกลุ่มหนึ่งกำลังยืนออกันอยู่ที่ประตูอินชิงเสวียนรู้สึกสับสนเล็กน้อย แต่เมื่อหรี่ตามองดูดีๆ ก็พบว่าแท้จริงแล้วพวกนางคือ ซูฉ่ายเวยและหญิงงามคนอื่นๆเมื่อนึกถึงตอนก่อหน้านี้ที่นางเคยขายของมากมายให้กับซูฉ่ายเวย แล้วตอนนี้ตัวเองกลับกลายเป็นหญิง อินชิงเสวียนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิด แต่พอนึกดูอีกที สิ่งของที่นางขายไปเหล่านั้นก็ใช่ว่าจะไร้ประโยชน์ พวกนางล้วนได้ความสวยงามไปไม่ใช่หรือ แถมยังบอกลาอกแฟบได้ด้วย ซึ่งถือได้ว่าเป็นประโยชน์ทางอ้อมต่อสตรีในวังหลวงแล้วเมื่อนึกถึงตรงนี้ อินชิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-15
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 202 หยั่งเชิง

    ในเวลานี้ อินชิงเสวียนก็ขมวดคิ้วอยู่เช่นกันหลังจากเข้าตำหนักจินหวู รอยยิ้มบนใบหน้าของนางก็ค่อยๆ หายไปหลี่เต๋อฝูบอกว่านักฆ่าถูกจับและถูกคุมขังในคุกชั้นใน พอนึกถึงว่าตอนนี้อินสิงอวิ๋นถูกทุบตีและถูกทรมานอยู่ อินชิงเสวียนก็หงุดหงิดใจทันทีนางต้องหาทางช่วยเหลืออินสิงอวิ๋นออกมา และบังเอิญว่าหลิวหมัวมัวก็ถูกขังอยู่ในคุกชั้นในอยู่ คงไปในนามนี้ได้อินชิงเสวียนนำป้ายทองประจำพระองค์ออกมา แต่ก็รู้สึกว่าไม่ได้ตอนนี้เย่จิ่งอวี้เลิกประชุมเช้าแล้ว ไม่แน่ว่าอาจจะมาเมื่อไหร่ก็ได้ หากตัวเองไม่อยู่ เขาคงจะสงสัยอินชิงเสวียนถอนหายใจยาม เอื้อมมือไปอุ้มเสี่ยวหนานเฟิง และจูบใบหน้าเล็กๆ สีชมพูของเขายามนี้เสี่ยวหนานเฟิงรู้สึกง่วงบ้างแล้ว เขาเอาหน้าไปแนบกับลำคอของอินชิงเสวียนทันทีสัมผัสอันอบอุ่นทำให้หัวใจของอินชิงเสวียนอ่อนลง นางอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือออกไปตบก้นเขาเบาๆ“หลับเถิดหนา แม่จะอยู่กับเจ้า จันทร์เจ้าเอ๋ย ขอข้าวขอเเกง ขอเเหวนทองเเดงผูกมือน้องข้า...”อินชิงเสวียนฮัมเพลงกล่อมเด็กที่ย่าของนางร้องให้ฟังบ่อยๆ หลังจากนั้นไม่นานดวงตาของเสี่ยวหนานเฟิงก็หรี่ลงเมื่อมองดูใบหน้าเล็กๆ ที่บริสุทธิ์ในอ้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-16

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1503 เรื่องราวจบลง

    ลั่วสุ่ยชิงพูดอย่างเย็นชา “แม้แต่เป็นฮ่องเต้ข้ายังไม่สนใจด้วยซ้ำ จะสนใจพระชายาอ๋องได้อย่างไร”“พูดมาก็มีเหตุผล งั้นข้ายังมีที่อื่นที่อยากไป”เย่จิ่งหลานค่อยๆ หยัดกายขึ้นนั่ง หยิบแผนที่ออกมาจากอกเสื้อ“ตอนที่ข้ากำลังเดินทางไปตงหลิว พบว่ามีหลายแคว้นอยู่ใกล้เคียง ทำไมเจ้ากับข้าไม่พยายามพิชิตพวกเขาทั้งหมดล่ะ”ลั่วสุ่ยชิงสาดน้ำเย็นใส่เขาทันที“ตอนนี้เจ้ายังมีความสามารถนั้นอยู่รึ?”“หากเจ้าเต็มใจที่จะบ่มเพาะร่างกายและจิตวิญญาณกับข้า บางทีวรยุทธ์ของข้าอาจจะกลับคืน”ลั่วสุ่ยชิงถูกเขาทำให้โกรธจนกำลังภายในพุ่งสูงขึ้น กระทั่งจุดที่ถูกจี้สกัดได้คลายออก นางตบศีรษะเย่จิ่งหลานทันที“ไร้ยางอาย”“เจ้าหายแล้ว?”เย่จิ่งหลานมีความสุขมาก เขาพยายามคุกเข่า ฝืนยืนขึ้น ร่างกายโงนเงน ล้มลงตรงหน้าลั่วสุ่ยชิง ฉวยโอกาสกอดเอวของนาง“จอมยุทธ์หญิงลั่ว ข้ายืนไม่ไหว โปรดช่วยพยุงข้าด้วย”ใบหน้าของลั่วสุ่ยชิงเปลี่ยนเป็นสีแดง ยกมือขึ้นผลักเขาลงไปที่พื้น เย่จิ่งหลานล้มหงายหลัง เหมือนกับเต่าที่นอนหงายลั่วสุ่ยชิงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะงอหาย เมื่อนางหัวเราะมากพอแล้ว ก็ทรุดตัวนั่งลงบนพื้นอย่างเงียบๆ และบ่นว่า “เสด็จ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1502 หน้าด้านหน้าทน

    อินชิงเสวียนเหลือบมองเย่จิ่งหลานแวบหนึ่ง“แน่นอนว่ามีคนไม่อยากให้เจ้าไป”เมื่อเห็นเย่จิ่งหลานมองมาทางนี้ ลั่วสุ่ยชิงก็เริ่มวิตกกังวล“ปล่อยข้านะ!”อินชิงเสวียนกระตุกมุมปากยิ้มๆ“ถ้าอย่างนั้นก็ต้องถามก่อนว่าเขาเห็นด้วยหรือไม่”เย่จิ่งหลานลุกขึ้นยืนโดยมีพี่ชายช่วยพยุงขึ้นอินชิงเสวียนเดินเข้าไปถาม“เจ้าสบายดีไหม มิติของเจ้า พังจริงๆ หรือ”เย่จิ่งหลานพูดอย่างอ่อนแรง “ยังไงตอนนี้ก็ยังมีลมหายใจอยู่ ถ้ามันไม่พัง ชิงผิงกับชิงอานก็คงไม่ได้ออกมา”อินชิงเสวียนมองเขาด้วยความเห็นอกเห็นใจ“นี่เป็นเรื่องที่ร้ายแรง”เย่จิ่งหลานถามอย่างไร้ยางอาย “เฮ้ นี่เจ้าไม่คิดจะดูแลข้าแล้วรึ”อินชิงเสวียนกระตุกริมฝีปากยิ้มๆ“ก็มีคนรอดูแลเจ้าอยู่ไม่ใช่หรือ เจ้าไปเองสิ อาอวี้ เรากลับไปดื่มสุรากันต่อเถอะ”เย่จิ่งอวี้พยักหน้าและตบไหล่เย่จิ่งหลาน“พวกเราช่วยเจ้าได้แค่นี้”เมื่อเห็นว่าหมู่เมฆหายไป ชาวยุทธ์หลายคนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เฮ่อยวนแอบโคจรกำลังภายใน พูดเสียงดัง “ตอนนี้เมื่อวิกฤติคลี่คลายแล้ว เฮ่อยวนจึงจัดงานเลี้ยงอีกครั้ง จัดเลี้ยงส่งเพื่อคลายความกังวลให้แก่เพื่อนพ้องในยุทธภพ!”คราวนี้เป็นกา

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1501 สายล่อฟ้าปรากฏ

    ทันทีที่เขาพูดจบ ร่างในชุดสีดำก็เหาะมาจากระยะไกล ลอยอยู่บนอากาศคนผู้นี้รูปร่างโปร่ง ชุดผ้าโปร่งสีดำปลิวไปตามสายลม เรือนผมดำขลับสยายออก ในชั่วพริบตา ร่างนั้นก็ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกหนาสีดำเมื่อเห็นคนผู้นี้ เย่จิ่งหลานก็พยายามลุกขึ้นยืน“ลั่วสุ่ยชิง เจ้าบ้าไปแล้วหรือ หนีไป!”ลั่วสุ่ยชิงยกมือขวาขึ้นสู่ท้องฟ้า เผชิญหน้ากับเสียงฟ้าคำรน พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เย่จิ่งหลาน เจ้าฆ่าพ่อของข้า ถ้าเจ้าตายแบบนี้ จะไม่ดูถูกเจ้าเกินไปหรือ เจ้าควรจะอยู่ในโลกนี้ต่อไป ทนทุกข์ต่อความเจ็บปวดทีละน้อย!”เย่จิ่งหลานจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าทุกคำที่นางพูดล้วนเป็นพูดด้วยอารมณ์โกรธ ถ้านางไม่มีใจต่อเขา นางจะกลับมาได้อย่างไรอย่างไรก็ตาม ร่างกายของเขาเหมือนกับเส้นบะหมี่ ที่ไม่สามารถยืนตรงได้ จึงไม่สามารถหยุดยั้งลั่วสุ่ยชิงได้เลยเมื่อมองดูร่างเพรียวบางที่ต่อสู้กับฟ้าผ่า พลันรู้สึกเจ็บปวดกระบอกตา หยาดน้ำตาสองหยดร่วงหล่นกลืนหายไปในสายลมในเวลานี้ มีร่างเพรียวอีกร่างหนึ่งลอยออกมา โดยถือวัตถุที่มีลักษณะคล้ายแท่งไม้ขนาดใหญ่อยู่ในมือ มีปลายโค้งยาวมากซึ่งดูแปลกตา“ลั่วสุ่ยชิง ข้าจะใช้สายล่อฟ้าช่วยเจ้า!”ของสิ่งนั้นห

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1500 มิติพังแล้ว

    “จิ่งหลาน!”เย่จิ่งอวี้คว้าคอเสื้อของเขารวดเร็ว หลบหลีกการโจมตีได้อย่างหวุดหวิดตูม!อสุนีบาตฟาดเปรี้ยง บนพื้นมีหลุมลึกเกิดขึ้น ทุกคนล้วนหวาดกลัวกับฟ้าที่ผ่าลงมา ต่างใช้วิชาตัวเบาหนีไปทุกทิศทางอินชิงเสวียนถามด้วยความตกใจ “นักพรตเทียนชิง มันเกิดขึ้นได้อย่างไร”นักพรตเทียนชิงขมวดคิ้วกล่าวว่า “ชิงฮุยมาจากแดนศักดิ์สิทธิ์ เย่จิ่งหลานฆ่าเขา ศิลาตอบสวรรค์อาจมองว่าเขาเป็นคนชั่วร้ายมาก และออกจากแดนศักดิ์สิทธิ์ด้วยตัวเอง”เมื่อเห็นว่ายังมีฟ้าผ่าลงมา อินชิงเสวียนพูดอย่างกังวล “ศิลาตอบสวรรค์ไม่แยกแยะผิดถูกเช่นนี้ได้อย่างไร คนที่เย่จิ่งหลานฆ่านั้นคือคนชั่วร้ายจริงๆ ท่านนักพรตสามารถสื่อสารกับศิลาตอบสวรรค์ได้หรือไม่”นักพรตเทียนชิงส่ายศีรษะ“ไม่ได้ ศิลาตอบสวรรค์มีวิธีการตัดสินใจของตัวเอง”“แล้วต้องทำอย่างไรดี”อินชิงเสวียนเป็นกังวล และทันใดนั้นดวงตาก็พลันสว่างขึ้น“เย่จิ่งหลาน เจ้ารีบหลบเข้าไปในมิติเร็ว”เย่จิ่งอวี้พูดอย่างวิตกกังวล “เสวียนเอ๋อร์พูดถูก จิ่งหลาน เจ้าเข้าไปหลบในมิติก่อน”เมื่อเห็นด้วยตาตัวเองว่ามีฟ้าแลบฟ้าผ่าเปล่งแสงแปลบปลาบ เย่จิ่งหลานก็รู้สึกชาดิกไปทั้งหนังศีรษะ หากถูกโ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1499 เคราะห์ตอบสวรรค์

    นอกห้วงทะเลแห่งจิต อินชิงเสวียนมองไปยังลิ่นเซียวที่ประทับฝ่ามืออยู่บนหลังของเย่จิ่งหลานอย่างประหม่า“อาจารย์ ท่านสัมผัสถึงแก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลานได้แล้วหรือยัง ตอนนี้เขาเป็นอย่างไรบ้าง”“คงจะสำเร็จแล้ว”ลิ่นเซียวถอนมือออก และแน่นอนว่าเพียงครู่หนึ่ง เย่จิ่งอวี้และคนอื่นๆ ก็รู้สึกตัวขึ้นมาพร้อมกัน“ชิงเสวียน ผู้อาวุโสลิ่น นี่คือ...”“ศิษย์น้อง ทำไมเจ้าถึงมาที่นี่”เฮ่ออวิ๋นทงก็ดูประหลาดใจเช่นกัน“ทำไมพวกเจ้าถึงมาที่นี่กันหมดล่ะ เกิดอะไรขึ้น”ทุกคนสูญเสียความทรงจำในช่วงเวลานั้นไป ต่างเพ่งมองไปยังอินชิงเสวียน“ผู้อาวุโสทุกท่านตกอยู่ภายใต้อาคมของชิงฮุย...”อินชิงเสวียนเล่าสั้นๆ อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ทุกคนตกใจเมื่อรู้ว่าชิงฮุยได้ช่วงงชิงร่างของลั่วสุ่ยชิงไปเมื่อได้ยินว่าเย่จิ่งหลานกลับมาที่เพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิงแล้ว และแก่นวิญญาณก็อยู่ในห้วงทะเลแห่งจิตของลั่วสุ่ยชิง ทุกคนก็เป็นกังวลอีกครั้งทุกคนเบิกตากว้าง มองไปยังเย่จิ่งหลานและลั่วสุ่ยชิงที่กำลังนั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้น ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นข้างในหลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม ในที่สุดลั่วสุ่ยชิงก็ลืมตาขึ้น ดวงตาหรี่ลง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1498 ชิงฮุยตาย

    เย่จิ่งหลานขบกรามแน่น“ข้าสามารถให้ร่างกายแก่เจ้าได้ แต่เจ้าต้องสาบานอย่างจริงจัง ว่าจะไม่ทำร้ายต้าโจว หากผิดคำสาบาน ลูกหลานชาวเฟยเหยาทั้งหมดรวมทั้งตัวเจ้าเอง จะถูกสวรรค์ลงโทษ ไม่ได้ผุดได้เกิดอีกเลย!”ในชีวิตนี้ของเขา เขาได้เป็นหมอที่ตัวเองชอบ ได้ข้ามภพ แถมยังได้ข้ามภพมาเป็นท่านอ๋องที่มีสถานะสูง ได้เดินทางจากการต่อสู้แย่งชิงในวังสู่ยุทธภพ และจากการไร้ชื่อเสียงเรียงนาม มาเป็นยอดฝีมือชั้นหนึ่งในยุทธจักร ยังได้สัมผัสประสบการณ์การปล่อยให้ความคิดไหลไปในทางที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังอีกครั้งหนึ่ง พอใคร่ครวญดูแล้ว มันก็คุ้มค่าจริงๆหากเขาสามารถยุติสงครามนี้ด้วยชีวิตของตัวเองได้ เย่จิ่งหลานก็ยินดีที่จะทำเช่นนั้นแม้ว่าเขาจะเป็นคนที่รักตัวกลัวตาย แต่เมื่อเผชิญกับความชอบธรรม เขาก็มีความตระหนักรู้ ในฐานะคนสมัยใหม่ เขาจะต้องไม่แย่กว่าอินชิงเสวียนอย่างแน่นอนยิ่งไปกว่านั้น ยังมีชาดแห่งบาปในร่างกายของเขาที่ยังไม่ถูกกำจัด หากชิงฮุยกล้าใช้ร่างกายของเขาเพื่อฆ่าผู้บริสุทธิ์ตามอำเภอใจ มันจะดึงดูดฟ้าผ่า ผ่าเขาให้เป็นเถ้าถ่านอย่างแน่นอนหลังจากฟังคำพูดของเย่จิ่งหลานแล้ว ชิงฮุยก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเสี

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1497 ตัดสินใจไม่ได้

    “ไม่นะ เขาเป็นผู้บริสุทธิ์”ลั่วสุ่ยชิงเหยียดแขนทั้งสองข้างออก และมาขวางอยู่เบื้องหน้าของเย่จิ่งหลานอีกครั้งเสียงดังปัง ลั่วสุ่ยชิงถูกกระแทกห่างออกไปหลายจั้ง และในไม่ช้าก็จมลงไปในหมอกสีดำหนาทึบ“ลั่วสุ่ยชิง ลั่วสุ่ยชิง!”เย่จิ่งหลานเหาะเข้าไปในหมอกสีดำอย่างกระวนกระวายใจ คลำหาลั่วสุ่ยชิง และช่วยพยุงนางลุกขึ้นชิงฮุยเคลื่อนฝีเท้า และมาปรากฏตัวต่อหน้าทั้งสองอีกครั้ง“ลั่วสุ่ยชิง นังสารเลว วันนี้ข้าขอถามเจ้า ต้องการพ่อ หรือผู้ชายคนนี้?”แก่นวิญญาณของลั่วสุ่ยชิงก็ยังสั่นเทา นางกำเสื้อคลุมไว้แน่น มีเส้นเลือดปรากฏขึ้นที่หลังมือนี่เป็นสิ่งที่เลือกยากมากจริงๆไม่อาจปฏิเสธได้ว่า นางตกหลุมรักเย่จิ่งหลานจริงๆไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้มาจากไหน แต่มันค่อยๆ ฝังแน่นอยู่ในใจแล้วอาจเป็นเพราะการเข้าฝัน อาจเป็นเพราะตัวเองเคยเดินทางไปกับเขา หรืออาจเป็นเพราะความใกล้ชิดของแก่นวิญญาณของเขา ลั่วสุ่ยชิงไม่สามารถค้นหาติดตามได้อีกแล้วแม้ว่านางจะเป็นสตรีงดงามแห่งสวรรค์ แต่ก็ไม่มีใครที่เข้าตาของนาง แต่ดันเป็นเย่จิ่งหลานผู้ที่พูดเรื่องไร้สาระทั้งวัน ผู้ที่ไม่มีท่าทีจริงจัง กลับกลายเป็นคนที่อยู่ในใจนาง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1496 ความยึดติดที่ฝังลึกอยู่ในใจ

    ชิงฮุยได้รับบาดเจ็บ ทั้งยังมีลั่วสุ่ยชิงที่กำลังต่อสู้กับแก่นวิญญาณของเขา จึงเคลื่อนไหวช้าลิ่นเซียวแทงกระบี่สวน โจมตีจุดถันจงที่อยู่กลางอกของนาง พลังของลั่วสุ่ยชิงถูกยับยั้ง ก้าวหยุดนิ่ง ในเวลาเดียวกัน แก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลานก็เข้าสู่ห้วงทะเลแห่งจิตของลั่วสุ่ยชิงในหมอกสีดำ ชายและหญิงกำลังต่อสู้กัน เย่จิ่งหลานหลบเข้าไปในวงการต่อสู้ และช่วยลั่วสุ่ยชิงต่อสู้กับชิงฮุย ชิงฮุยตกตะลึง“เป็นเจ้า!”“ใช่ ข้าเอง!”ขณะที่พูด เย่จิ่งหลานได้ซัดฝ่ามือใส่เขาหลายครั้งแล้วการเข้าร่วมวงการต่อสู้ของเขาทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไปทันที ชิงฮุยก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธตะโกนด้วยความเดือดดาล “ลั่วสุ่ยชิง เจ้าคิดจะช่วยคนนอกจัดการกับข้าจริงๆ อกตัญญู!”ลั่วสุ่ยชิงตกใจเล็กน้อย วิชาฝ่ามือช้าลงครู่หนึ่ง“เจ้าเป็นใครกันแน่”ชิงฮุยคำรามด้วยความโกรธ“เจ้ารู้คำตอบแล้ว ยังต้องการจะถามอีกรึ”ลั่วสุ่ยชิงตัวสั่นเล็กน้อย“จริงหรือ...เป็นท่าน?”เย่จิ่งหลานไม่รู้ว่าทั้งสองกำลังเล่นปริศนาทายคำอะไรอยู่ แค่อยากจะจัดการกับปีศาจชั่วร้ายนี้โดยเร็ว เขาลงมือรวดเร็ว ล้วนหมายไปยังจุดตายของชิงฮุยชิงฮุยบังคับเย่จิ่งหลานใ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1495 อินชิงเสวียนข้าขอร้องเจ้า

    ขณะที่อินชิงเสวียนกำลังจะลงมือ ดวงตาของลั่วสุ่ยชิงก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง“เขากำลังกลืนกินแก่นวิญญาณของข้า ถ้าเจ้าไม่ลงมือ ข้าก็คงไม่รอดเช่นกัน อินชิงเสวียน เจ้าไม่อยากช่วยสามีและพ่อแม่ของเจ้าหรือ”เมื่อเห็นท่าทางอันเจ็บปวดของลั่วสุ่ยชิง อินชิงเสวียนก็ไม่สามารถตัดสินใจได้ครู่หนึ่งลั่วสุ่ยชิงสามารถทำเพื่อราษฎร ละทิ้งความคิดที่นางยืนหยัดมานับพันปี ไม่ต้องสงสัยเลยว่านางควรค่าแก่การเคารพเพียงใด แต่ถ้านางไม่ตาย จะไม่มีใครรอดชีวิตได้เมื่อกวาดสายตามองไปยังร่างของทุกคนที่เหมือนถูกจี้สกัดจุด อินชิงเสวียนก็กัดฟันกรอด และพิณการเวกก็อยู่ในมือของนางแล้ว“ลั่วสุ่ยชิง ข้าขอสาบานในนามของฮองเฮาต้าโจวว่า หลังจากที่เจ้าเสียชีวิต จะจัดพิธีศพให้เจ้าอย่างสมเกียรติระดับแคว้น”ร่างของเย่จิ่งหลานหายวับ และยืนขวางอยู่ตรงหน้าอินชิงเสวียน“ยัยบ้า ข้าไม่เคยขอร้องอะไรเจ้าเลย คราวนี้ข้าขอร้องล่ะ ช่วยไว้ชีวิตลั่วสุ่ยชิงด้วย!”“เย่จิ่งหลาน เจ้า...”อินชิงเสวียนใช้นิ้วกดสายพิณ แต่ในใจกลับไม่เข้าใจว่า ทำไมจู่ๆ เย่จิ่งหลานถึงมีความรู้สึกลึกซึ้งต่อลั่วสุ่ยชิงขนาดนี้เสื้อยืดสีขาวของเย่จิ่งหลานเปื้อนเลือดแดงฉาน ดวง

DMCA.com Protection Status