แชร์

บทที่ 200 ขันทีร้อนใจ

ผู้แต่ง: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
ฟางรั่วตกใจ รีบคุกเข่าลงอย่างลนลาน

“นายท่าน ฟางรั่วสำนึกผิดแล้ว นายท่านโปรดลงโทษด้วย นายท่านอย่าส่งฟางรั่วเข้าวังเลยนะเจ้าคะ”

อินสิงอวิ๋นเชยคางของนางขึ้น มองดูนางสักพักแล้วพูดว่า “เจ้าพาคนไปเบี่ยงเบนความสนใจขององครักษ์ให้ข้า มีความผิดได้อย่างไร ข้าแค่นึกขึ้นได้ชั่วขณะเท่านั้น อีกอย่างการเข้าไปในวังไม่ใช่เรื่องง่าย ลุกขึ้นเถอะ!”

ฟางรั่วถอนหายใจด้วยความโล่งอก

“ขอบคุณครับนายท่าน!”

อินสิงอวิ๋นเทสุราใส่จอกอีก แล้วพูดอย่างเย็นชา “ไปพักเถอะ ข้าอยากอยู่เงียบๆ สักพัก”

“เจ้าค่ะ”

ฟางรั่วก้าวฉับๆ เดินจากไป แล้วอินสิงอวิ๋นก็ดื่มสุราจนทั้งหมดในอึกเดียว ความเคียดแค้นในแววตาแข็งกร้าวขึ้นอีกครั้ง

หลังจากสาดผงสลบแล้ว เย่จิ่งอวี้ไม่ได้ส่งผู้ใดมาไล่ล่าเขาเลย

ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เป็นการเหยียดหยาม เย่จิ่งอวี้ได้แสดงท่าทีอย่างชัดเจนแล้วว่า

เขาไม่เห็นเข้าอยู่ในสายตา

อินสิงอวิ๋นเย่อหยิ่งจองหองมาโดยตลอด จู่ๆ ก็รู้สึกว่านี่เป็นความอัปยศอดสูอย่างยิ่ง

เมื่อนึกถึงว่าอินชิงเสวียนมีลูกกับเขา ความโกรธขึ้งในแววตาก็แทบจะกลายเป็นแก่นแท้ของดวงตา

เย่จิ่งอวี้เจ้าสุนัขใจทรามกล้าบังคับขืนใจชิงเสวียนถึงเพียงนี้ ถ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 201 ต่างคนต่างความคิด

    ระหว่างเดินไปตามทางหินกรวด อินชิงเสวียนเดินซอยเท้าถี่ๆ มุ่งหน้าไปยังตำหนักจินหวูชุดสตรีนั้นดูดีจริงๆ แต่ก็ก็อึดอัดจนนางแทบเดินไม่ได้ด้วยซ้ำแค่รวบมือตั้งศอกเพียงครู่เดียว อินชิงเสวียนก็รู้สึกว่าปวดไหล่ เมื่อยจนอาการปวดต้นคอกำเริบเมื่อปรายตามองเห็นขันทีน้อยสองคนที่ตามมาข้างหลัง อินชิงเสวียนก็วางมือลงเสียดื้อๆ แล้วเดินฉับๆ ออกไปอย่างใจถึงเมื่อเห็นพระสนมใจถึงขนาดนี้ เหล่าขันทีน้อยก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง และรีบก้มหน้าก้มตาไม่ยอมมองสิ่งที่ไม่เหมาะสมสิบห้านาทีต่อมา ตำหนักจินหวูก็ปรากฏให้เห็นอยู่เบื้องหน้า มีคนกลุ่มหนึ่งกำลังยืนออกันอยู่ที่ประตูอินชิงเสวียนรู้สึกสับสนเล็กน้อย แต่เมื่อหรี่ตามองดูดีๆ ก็พบว่าแท้จริงแล้วพวกนางคือ ซูฉ่ายเวยและหญิงงามคนอื่นๆเมื่อนึกถึงตอนก่อหน้านี้ที่นางเคยขายของมากมายให้กับซูฉ่ายเวย แล้วตอนนี้ตัวเองกลับกลายเป็นหญิง อินชิงเสวียนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิด แต่พอนึกดูอีกที สิ่งของที่นางขายไปเหล่านั้นก็ใช่ว่าจะไร้ประโยชน์ พวกนางล้วนได้ความสวยงามไปไม่ใช่หรือ แถมยังบอกลาอกแฟบได้ด้วย ซึ่งถือได้ว่าเป็นประโยชน์ทางอ้อมต่อสตรีในวังหลวงแล้วเมื่อนึกถึงตรงนี้ อินชิ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 202 หยั่งเชิง

    ในเวลานี้ อินชิงเสวียนก็ขมวดคิ้วอยู่เช่นกันหลังจากเข้าตำหนักจินหวู รอยยิ้มบนใบหน้าของนางก็ค่อยๆ หายไปหลี่เต๋อฝูบอกว่านักฆ่าถูกจับและถูกคุมขังในคุกชั้นใน พอนึกถึงว่าตอนนี้อินสิงอวิ๋นถูกทุบตีและถูกทรมานอยู่ อินชิงเสวียนก็หงุดหงิดใจทันทีนางต้องหาทางช่วยเหลืออินสิงอวิ๋นออกมา และบังเอิญว่าหลิวหมัวมัวก็ถูกขังอยู่ในคุกชั้นในอยู่ คงไปในนามนี้ได้อินชิงเสวียนนำป้ายทองประจำพระองค์ออกมา แต่ก็รู้สึกว่าไม่ได้ตอนนี้เย่จิ่งอวี้เลิกประชุมเช้าแล้ว ไม่แน่ว่าอาจจะมาเมื่อไหร่ก็ได้ หากตัวเองไม่อยู่ เขาคงจะสงสัยอินชิงเสวียนถอนหายใจยาม เอื้อมมือไปอุ้มเสี่ยวหนานเฟิง และจูบใบหน้าเล็กๆ สีชมพูของเขายามนี้เสี่ยวหนานเฟิงรู้สึกง่วงบ้างแล้ว เขาเอาหน้าไปแนบกับลำคอของอินชิงเสวียนทันทีสัมผัสอันอบอุ่นทำให้หัวใจของอินชิงเสวียนอ่อนลง นางอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือออกไปตบก้นเขาเบาๆ“หลับเถิดหนา แม่จะอยู่กับเจ้า จันทร์เจ้าเอ๋ย ขอข้าวขอเเกง ขอเเหวนทองเเดงผูกมือน้องข้า...”อินชิงเสวียนฮัมเพลงกล่อมเด็กที่ย่าของนางร้องให้ฟังบ่อยๆ หลังจากนั้นไม่นานดวงตาของเสี่ยวหนานเฟิงก็หรี่ลงเมื่อมองดูใบหน้าเล็กๆ ที่บริสุทธิ์ในอ้

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 203 ความคิดบางอย่าง

    วันต่อมาในตอนเช้า อินชิงเสวียนตื่นขึ้นมาพร้อมกับรอยคล้ำใต้ดวงตาเสี่ยวหนานเฟิงกำลังเล่นกับอวิ๋นฉ่ายในเปล บางครั้งก็หัวเราะออกมาอินชิงเสวียนนั่งข้างเตียงเป็นเวลานาน ยังคงรู้สึกเวียนศีรษะอยู่บ้างเมื่อวานคิดถึงเรื่องของอินสิงอวิ๋นทั้งคืน พอฟ้าสางถึงหลับได้บ้าง และตอนนี้ข้ารู้สึกว่าในสมองเต็มไปด้วยเรื่องยุ่งเหยิง ราวกับว่าเต็มไปด้วยก้อนแป้งเหนียวหนืดอินชิงเสวียนนวดคลึงขมับ แล้วเข้าไปในมิติหลังจากอาบน้ำในน้ำพุวิญญาณ นางก็สดชื่นกระปรี้กระเปร่าขึ้นมากตอนออกมานางก็แวะดูคะแนนสะสมแวบหนึ่ง ช่วงนี้นางรีบเก็บเกี่ยวผลผลิต รีบเพาะปลูก จึงไม่ได้ตั้งใจดูให้ดี ตอนนี้พอมาดูดีๆ จึงได้เห็นว่ามีคะแนนสะสมมากว่าสองพันคะแนนเมื่อนึกถึงปืนพกที่มีมูลค่า 100,000 คะแนน อินชิงเสวียนก็ถอนหายใจ ในปัจจุบันการสะสม 100,000 คะแนนนี้ไม่รู้ว่าต้องสะสมไปถึงปีไหน มิหนำซ้ำมิตินี้ยังต้องรอการพัฒนาอีกมา ระยะนี้ยังมีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นมากมาย อินชิงเสวียนยังไม่มีเวลาศึกษาอย่างรอบคอบเลยสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการช่วยเหลืออินสิงอวิ๋นออกมาโดยเร็ว!เพียงแต่จะช่วยเหลือได้อย่างไรครั้นคิดถึงคำพูดของเย่จิ่งอ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 204 แผนการร้อยแปดพันเก้า

    “กระหม่อมจะไปเดี๋ยวนี้”เสี่ยวอานจื่อตอบรับและเดินจากไปอย่างรวดเร็วอินชิงเสวียนนั่งอยู่ที่โต๊ะ ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดทั้งกลัวว่าอินสิงอวิ๋นจะถูกทรมาน แต่ก็ไม่รู้ว่าจะช่วยเขาได้อย่างไรหลังจากรอนานกว่าหนึ่งชั่วยามอย่างฟุ้งซ่าน เสี่ยวอานจื่อก็กลับมา“พระสนม กระหม่อมไปสืบมาแล้ว ทั้งยังได้เดิมพันกับทหารรักษาพระองค์มาแล้วด้วย เมื่อคืนมีนักฆ่ามาจริง แต่ฝ่าบาทปล่อยเขาไปแล้ว ในคุกตอนนี้คุมขังไว้เพียงคนเดียวเท่านั้น คือหลิวหมัวมัว ได้ยินผู้คุมคุกบอกว่ายายแม่มดเฒ่าคนนี้ปากแข็งมาก ไม่ยอมพูดอะไรเลย”อินชิงเสวียนตกตะลึงเล็กน้อย“โอ๊ะ? เจ้าถามดีแล้วหรือ”เสี่ยวอานจื่อสาบานว่า “ถามดีแล้วพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่ได้ไปสืบจากแค่หนึ่งคนหรือสองคนเท่านั้น ยังมีขันทีน้อยที่ดูแลในคุกที่เล่นลูกเต๋าด้วยกัน ยังมีหัวหน้าหน่วยทหารรักษาพระองค์อีก ยังมีเสี่ยวหลีจื่อที่ส่งอาหารให้พวกนักโทษด้วย พวกเขาต่างก็บอกว่าไม่มีนักฆ่าอยู่ข้างใน”อินชิงเสวียนย่อมเชื่อเสี่ยวอานจื่ออยู่แล้ว เขาไม่กล้าโกหกตัวเองแน่นอนต้องเป็นเย่จิ่งอวี้ที่โกหกเพื่อหลอกนางฮ่องเต้โฉดนี่ เจ้าแผนการจริงๆ!หากนางเดินถือป้ายทองประจำพระองค์ไปที่นั

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 205 เสวียนเจินไต้ซือ

    เย่จิ่งอวี้สวมชุดลำลองเดินเข้ามาจากด้านนอก ใบหน้าอันหล่อเหลาที่ประดับด้วยรอยยิ้มของเขานั้น ทำให้ผู้คนรู้สึกสดชื่นดั่งต้องลมยามวสันต์ เย่ไห่ถังรีบวิ่งไปราวกับจะถวายสมบัติล้ำค่า“เสด็จพี่ใหญ่ เสด็จพี่สะใภ้มอบถ้วยแก้วแก้วเคลือบสีให้ข้าชุดหนึ่ง”อินชิงเสวียนกุมหน้าผากตัวเองอย่างอดไม่ได้หลังจากนั้นไม่นาน เย่จิ่งอวี้ก็ต้องถามอีกแน่ๆ ว่า สิ่งนี้มาจากที่ใด“โอ้? ขอข้าดูหน่อยสิ”เย่จิ่งอวี้หยิบกล่องขึ้นมาเปิดออก ดวงตาก็ฉายแววประหลาดใจถ้วยแก้วเคลือบสีชุดนี้สวยงามมาก ใสแวววาว แกะสลักด้วยลวดลายสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน พอมองแวบแรก ก็มองออกได้ว่าต้าโจวไม่สามารถผลิตขึ้นได้เขาอดไม่ได้ที่จะมองดูอินชิงเสวียนอินชิงเสวียนไอแห้งๆ แล้วพูดว่า “หม่อมฉันได้เตรียมไว้สำหรับฝ่าบาทด้วย เหมือนกับขององค์หญิงทุกประการ”เย่จิ่งอวี้พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ“สนมรักมีน้ำใจแล้ว”คำพูดแสดงความรักเหล่านี้ทำให้ อินชิงเสวียนร้องอุทานออกมาด้วยความขนลุกด้านหนึ่งเรียกนางว่าสนมรัก แต่อีกด้านกลับสงสัยนางปากผู้ชาย พูดได้แต่คำโกหกจริงๆ!เย่ไห่ถังรีบคว้ากล่องกลับคืนทันที“ข้าอยากกลับไปใช้ชุดน้ำชานี้แล้ว ไม่อยู่เล่น

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 206 เสี่ยวหนานเฟิงเก่งทั้งบุ๋นทั้งบู๊

    เสวียนเจินไต้ซือหรี่ตาลงแล้วพูดว่า “ไทเฮาโปรดให้ระบุวันตกฟากของคนผู้นี้ด้วย”ชุยไห่รีบยื่นม้วนไม้ไผ่พร้อมกับถุงผ้าใบใหญ่ที่เต็มไปด้วยทอง เงิน และเครื่องประดับมากมาย“นี่เป็นเงินที่ข้าถวายให้กับหอสวดมนต์ หวังว่าไต้ซือจะไม่รังเกียจ”เสวียนเจินเหลือบมองอย่างเฉยเมย จากนั้นรับม้วนไม้ไผ่ ซึ่งสิ่งที่บันทึกไว้ในนั้นคือวันประสูติของอินชิงเสวียน และรูปของนางเสวียนเจินไต้ซือมองดูอย่างพิจารณาสักพัก แล้วพูดว่า “คนผู้นี้มีโชคชะตาที่พิเศษ ดวงชะตามีความลึกลับจริงๆ”หลังจากได้ยินดังนั้น ไทเฮาก็ไม่สามารถซ่อนความยินดีบนริมฝีปากได้โน้มตัวเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ไต้ซือคือผู้ที่ฮ่องเต้องค์ก่อนได้คัดเลือกไว้ มีหน้าที่ช่วยเหลือต้าโจว เรื่องในวังหลังก็อาจส่งผลกระทบต่อราชสำนักได้เช่นกัน ไต้ซืออย่าถือเป็นเรื่องไม่สำคัญเด็ดขาด”เสวียนเจินไต้ซือสวดพระนามของพระพุทธเจ้า กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “อาตมาย่อมตัดสินใจได้แล้ว หากไทเฮาไม่ได้มาฟังธรรม เช่นนั้นก็กรุณากลับไปก่อนเถิด!”“ได้ เช่นนั้นข้าจะไม่รบกวนการบำเพ็ญเพียรของไต้ซือแล้ว”ไทเฮาพนมมือคารวะเสวียนเจินไต้ซือ แล้วออกจากหอสวดมนต์...สามวันต่อมา ก็เป็นวั

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 207 ตีเจ้าไม่จำเป็นต้องเลือกวัน

    ณ ตำหนักฉือหนิงวันเฉลิมพระชนมมายุครบรอบห้าสิบพรรษาของไทเฮา ถือเป็นงานสำคัญในวังในตอนเช้า เหล่านางสนมทุกคนตื่นแต่เช้าเพื่อแต่งกายนี่เป็นโอกาสเดียวที่พวกนางจะได้เห็นฝ่าบาททุกคนหยิบชุดและเครื่องประดับที่ดีที่สุดของตนออกมา ยามเดินเสียงหยกกระทบกันดังกริ๊ง กลิ่นหอมตลบอบอวล นายหญิงที่ซื้อน้ำหอมก็ไม่ตระหนี่ แทบอยากฉีดตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ทำให้ได้กลิ่นหอมฉุนแม้อยูไกลหลายเมตรซูฉ่ายเวยยิ่งแต่งกายอย่างดี ตอนนี้นางและอินชิงเสวียนต่างก็เป็นสนมขั้นเฟยเหมือนกัน จะยอมให้น้อยหน้านางไม่ได้เด็ดขาด หยิบกระโปรงสีม่วงปักด้วยด้ายสีทองออกมาเป็นพิเศษ ส่วนศีรษะล้วนประดับประดาด้วยเครื่องเงินเครื่องทองและไข่มุก ทำให้ทั้งศีรษะดูเหมือนเป็นกระถางดอกไม้ถึงกระนั้น ซูฉ่ายเวยก็ยังไม่พอใจ นางค้นเจิปิ่นปักผมสีทองเล่มหนึ่งจากในกล่อง จึงปักไว้บริเวณหลังหู“เป็นอย่าไรบ้าง ข้าดูดีรึไม่”เซียงหลานพูดด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า “แน่นอนเพคะ พระสนมงดงามราวกับนางฟ้า ไม่มีสนมในวังหลังคนใดที่สามารถเทียบได้กับท่านได้”ซูฉ่ายเวยแค่นเสียงพูดว่า “แล้วเสี่ยวเสวียนจื่อไม่ดูดีเท่าข้างั้นหรือ”“แม้ว่าพระสนมเหยาเฟยจะงดงาม แต่ใน

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 208 ปีศาจร้ายอยู่ที่นี่

    “เจ้ากับข้าเป็นพี่น้องกัน ไม่ต้องเกรงใจ เราเข้าไปข้างในกันเถอะ”อินชิงเสวียนก็แต่งกายในชุดเรียบๆ ทว่าสง่างามเช่นกัน นางสวมกระโปรงสีเหลืองอ่อนที่ไม่มีการตกแต่งใดๆ บนศีรษะปักปิ่นดอกไม้เล็กๆ แต่กลับทำให้ดูสดชื่นและประณีตด้วยความงามที่แปลกใหม่ ซึ่งเมื่อเดินไปกับสวีจือย่วนที่แต่งกายด้วยชุดที่เรียบง่ายทว่าสง่างามเหมือนกัน ก็ยิ่งส่งเสริมซึ่งกันและกันนางจับมือของสวีจือย่วน คลี่ยิ้มบางๆ แล้วเดินเข้าไปในตำหนักพร้อมกับนางเมื่อเห็นว่าทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีเช่นนี้ นายหญิงทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอิจฉาความสัมพันธ์ระหว่างสวีจือย่วนกับพระสนมเหยาเฟยนั้นดีมากจริงๆ หากนางได้รับการสนับสนุนจากพระสนมเหยาเฟย การได้พบกับฝ่าบาทก็เป็นเรื่องง่ายฉู่หลิงอวี้ยิ่งรู้สึกอิจฉามาก พลางคิดว่าตัวเองจ่ายเงินให้กับพระสนมเหยาเฟยคนนี้มากมาย แต่ตอนนี้นางกลายเป็นสนมขั้นเฟยแล้ว กลับทำเป็นไม่รู้จักตัวเองอย่างนั้นแหละนางไม่เพียงแต่รู้สึกขุ่นเคืองเท่านั้น แต่ยังเสียเงินไปอย่างเปล่าประโยชน์จริงๆ ถ้ารู้แต่แรกมิสู้ซื้ออาหารเลี้ยงสุนัขเสียก็ดี ไม่ต้องให้นางอินชิงเสวียนไม่มีความคิดที่จะประจบคนสูงศักดิ์เหยียบย่ำผู้ด้อย

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1464 แพศยาอย่างเธอ

    เย่จิ่งหลานโบกมือ ประตูก็เปิดออกแสงจากด้านนอกประตูส่องเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัย ทุกคนก็เห็นหลี่ไห่ตงนอนอยู่บนพื้นทันที และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอยภัยนอนระเกะระกะอยู่ข้างๆชายหนุ่มรูปหล่อคนนี้เดินออกไปโดยไม่มีร่องรอยเลือด หรือฝุ่นผงบนร่างกายเลยทุกคนก้าวถอยหลัง มองดูเย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าหวาดกลัวเย่จิ่งหลานเดินขึ้นไปที่ลิฟต์โดยไม่หรี่ตามองในช่วงที่เขาถูกบีบให้ออกจากโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ แต่ละนาทีแต่ละวินาที เขามักจะจินตนาการถึงการทุบตีหลี่ไห่ตงอย่างรุนแรง ได้ระบายความโกรธ วันนี้ ในที่สุดเขาก็ทำได้แล้ว สำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เย่จิ่งหลานไม่อยากคิดอะไรมากเขารีบออกจากโรงพยาบาล มาที่สวนสาธารณะเล็กๆ ใกล้ ๆ มีชายชราคนหนึ่งที่อาบแดดอยู่ เย่จิ่งหลานเหลือบมองเขา และนั่งอีกด้านหนึ่งทั้งสองคนไม่ได้คุยกัน แค่พบกันโดยบังเอิญ ต่างไม่รู้จักกัน และไม่จำเป็นต้องพูดคุยกันเขาค่อยๆ ผ่อนคลายร่างกาย เอนหลังพิงเก้าอี้ หรี่ตาเหมือนที่ชายชราทำ ความอบอุ่นของดวงอาทิตย์ที่ส่องบนร่างกายของเขาช่างทำให้รู้สึกผ่อนคลายจริงๆหลังจากสงบสติอารมณ์ได้แล้ว เย่จิ่งหลานก็คิดถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาพลังลมป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1463 ฉันชื่อเย่จิ่งหลาน

    ความเจ็บปวดจากไฟฟ้า ทำให้เย่จิ่งหลานกลับมามีสติอีกครั้งหลี่ไห่ตงซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เขาไออย่างบ้าคลั่ง และมองไปที่เย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าแห่งความเกลียดชัง“ทุบตีมัน ทุบตีมันให้ตาย ตีมันตายแล้วฉันจะรับผิดชอบเอง”เมื่อเห็นว่าเย่จิ่งหลานไม่ขัดขืน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้น กระแสไฟฟ้าสีฟ้าพุ่งใส่ร่างของเย่จิ่งหลาน ทำให้ห้องรังสีวินิจฉัยที่มืดมิดสว่างไสวขึ้นมาเย่จิ่งหลานหลับตา ใช้ประสาทสัมผัสตรวจสอบอย่างระมัดระวัง และยกมุมริมฝีปากขึ้นเล็กน้อยเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของตัวเอง แต่สัมผัสได้ ความรุนแรงเท่านี้ไม่สามารถเอาชีวิตเขาได้เลย รู้สึกเหมือนกับถูกแมลงต่อยสองครั้ง ถ้าเขาจะโดนฟ้าผ่า ก็ถือว่าเป็นการได้สัมผัสประสบการณ์ล่วงหน้าเป็นเวลาสิบวินาทีเต็มๆ เขาค่อยๆ ลืมตาขึ้น ดวงตาเรียวแคบของเขาเหมือนถูกรายล้อมไปด้วยงูทองคำพ่นไฟ ดุดันน่าเกรงขาม แม้ในความมืดมิดเช่นนี้ ก็สามารถมองเห็นใบหน้าอันน่าเกลียดของทุกคนได้ชัดเจนเขาอาจจะฆ่าคนไม่ได้ แต่สามารถทุบตีพวกเขาได้ และตราบใดที่พวกเขายังหายใจอยู่ ก็ไม่ถือว่าตายเมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เขาก็ค่อ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1462 ปีศาจในชุดดำ

    “แกเป็นใคร ทำไมถึงมาทำร้ายฉัน”หลี่ไห่ตงเมื่อถูกทุ่มลงพื้นก็กรีดร้องอย่างน่าเวทนา ชายหนุ่มรูปงามตรงหน้านี้ เป็นราวกับเจ้าแห่งความตายในนรก ทำให้เขารู้สึกหวาดผวาอย่างสุดซึ้งจนแทบจะรู้สึกได้ถึงความกลัวที่มาจากจิตวิญญาณเขาไม่สงสัยเลยว่าชายคนนี้จะกล้าฆ่าเขาจริงๆหรือไม่“ฉันไม่รู้จักแกเลย แกจำคนผิดหรือเปล่า หรือคนในครอบครัวของแกอยู่ในโรงพยาบาลที่นี่ ถ้าขาดเงิน ฉันช่วยแกแก้ปัญหาได้”หลี่ไห่ตงรู้สึกว่าตัวเองยังพอมีหวัง จึงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะสร้างความประทับใจให้กับชายผมดำยุ่งเหยิงตรงหน้าเย่จิ่งหลานมองไปที่หลี่ไห่ตงอย่างเย็นชา ความทรงจำในอดีตก็หลั่งไหลกลับมาเพื่อให้ได้ทำงานในโรงพยาบาลต่อ ถึงจะนอนดึกกว่าหมา ตื่นเช้ากว่าไก่ ทำงานหนักเยี่ยงทาส ทำงานหนักมาสามปีก็ตาม แต่เพราะบังเอิญไปเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็น จึงถูกส่งไปยังโรงพยาบาลเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ตั้งแต่เช้าจรดค่ำก็ไม่เจอใคร การทำงานหนักและค่าตอบแทนทั้งหมดของเขาถูกทำลายลงเพราะไอ้สารเลวยิ่งกว่าหมาคนนี้ เขากลับอยากมีชีวิตอยู่งั้นเหรอ ในโลกนี้ จะมีเรื่องดีๆ แบบนั้นได้อย่างไรโลกไม่ยุติธรรม เช่นนั้นก็ให้เขาได้ผดุงความยุติธรรม จัดการสัตว์ร้าย

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1461 เศษสวะ

    ไอ้ชาติชั่วนี่ ใช้อุบายเก่าๆ ของเขาอีกแล้วเย่จิ่งหลานเหลือบมองแพทย์หญิง แม้ว่าเธอจะสวมหน้ากากปลอดเชื้อสีเขียว แต่ยังคงมองเห็นความไม่เต็มใจและความลังเลในดวงตาที่เหนื่อยล้าของเธอทั้งสองเดินสวนทางกัน แพทย์หญิงก็เดินเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัยข้างๆ เย่จิ่งหลานอุ้มเด็กเดินเข้าไปในห้องผ่าตัด แต่ยังคงมองย้อนกลับไปที่แพทย์หญิงคนนั้น จากนั้นก็ได้ยินเสียงคลิก ซึ่งเป็นเสียงล็อคประตู“เด็กคนนี้ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกหน้าอก ขาทั้งสองข้างก็ถูกทับ”เย่จิ่งหลานอธิบายอาการของเด็กสั้นๆ จากนั้นรีบเดินไปที่ห้องรังสีวินิจฉัย ดึงที่จับประตูบานใหญ่ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ดึงให้เปิดออกเมื่อนึกถึงไอ้คนชาติชั่วคนนั้นที่โรงพยาบาลเดิมใช้เส้นสายสารพัด ทำเหมือนกับว่าตัวเองเป็นแค่หมา สุดท้ายยังถูกเขาส่งไปยังโรงพยาบาลชุมชนที่อยู่ห่างไกลที่ไม่มีโอกาสก้าวหน้า เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธเขาออกแรง รู้สึกว่ามีแรงแปลกๆ ออกมาจากจุดตันเถียน ไปถึงท่อนแขนของเขาในทันที จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงกึก ประตูที่ถูกล็อคก็หักแกเป็นสองท่อนหลี่ไห่ตงกำลังจะกอดแพทย์หญิงคนนั้นทำเรื่องงามไส้ มีสายตามองจากข้างนอกเข้าไป อีกทั้งเรือนผมยาวส

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1460 ความคิดชั่วร้าย

    ทันใดนั้นก็มีเสียงเบรกดังมาจากด้านหน้าผู้หญิงคนหนึ่งขี่สกู๊ตเตอร์ชนจนล้มกระแทกพื้น เด็กที่อยู่ข้างหลังก็กระเด็นห่างออกไปหลายเมตรเช่นกันหน้าที่ของแพทย์ทำให้เย่จิ่งหลานเหาะไปข้างหน้า กระโดดไปหลายสิบเมตรในก้าวเดียว และลงจอดต่อหน้าผู้หญิงคนนั้นรถที่ผ่านไปมาต่างก็อึ้งกันไปหมด นี่กำลังถ่ายหนัง หรือเรื่องจริง?คนนี้ไม่มีสายสลิงผูกอยู่บนตัวนั้นา แล้วทำไมเขาถึงเหาะได้ไกลขนาดนี้ในคราวเดียวล่ะ?เย่จิ่งหลานเองก็สะดุ้งนี้...มันเป็นไปได้อย่างไรเป็นวรยุทธ์งั้นหรือเขาไม่มีเวลาคิด ก้มลงห้ามเลือดของผู้หญิงคนนั้นทันที กลิ่นเลือดปะทะเข้าจมูกของเขา หัวใจพลันสั่นขึ้นมาเล็กน้อยดูเหมือนมีบางอย่างตื่นขึ้นมา ไฝแดงระหว่างคิ้วก็สว่างวาบขึ้นเล็กน้อยมือของเขานิ่งค้าง จากนั้นเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์หลายคนก็วิ่งเข้ามา“คุณคนนี้ คุณเป็นหมอเหรอ”เย่จิ่งหลานพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว“ฉันเป็นศัลยแพทย์”คนที่ดูเหมือนพยาบาลกล่าวว่า “คนไข้ได้รับบาดเจ็บสาหัส คุณช่วยตามพวกเราไปที่รถพยาบาล ช่วยรักษาฉุกเฉินได้ไหม”เย่จิ่งหลานสูดหายใจเข้าลึกๆ“ได้”เขาก้าวเข้าไปในรถพยาบาล ผู้หญิงและเด็กถูกพาไปที่เตียงในรถพยาบาล

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1459 เรื่องด่วน

    “ไม่ ข้าไม่เคยสงสัยเจ้าเลย ข้าแค่คิดว่า เจ้าและชิงฮุยอาจไม่ได้เป็นแค่ราชาแคว้นกับขุนนางธรรมดาแบบนั้น”อินชิงเสวียนหยุดชั่วคราวและพูดว่า “แม้ว่าข้าจะไม่เข้าใจหลักการวิทยายุทธ์ของแคว้นเฟยเหยา แต่รู้ว่าวิทยายุทธ์แบบเดียวกันนั้นมักจะมีรากเหง้าเดียวกันที่สามารถใช้ค้นหาร่องรอยได้ หากเจ้าใช้ความพยายาม ก็ไม่น่าจะยากที่จะพบตัวชิงฮุย แต่ว่า ที่ข้ามาที่นี่ก็ไม่มามาถามเรื่องเขาทั้งหมด”“โอ้?”ลั่วสุ่ยชิงเงยหน้าขึ้น มองไปยังอินชิงเสวียน“ข้าอยากรู้ หากแก่นวิญญาณของเจ้าและแก่นวิญญาณของชิงฮุยมาพบกันในห้วงทะเลแห่งจิตของเย่จิ่งหลาน จะเกิดผลที่ตามมาอย่างไร”“ไม่แน่ใจ”ลั่วสุ่ยชิงพูดอย่างตรงไปตรงมา“ข้ามีลางสังหรณ์ว่าชิงฮุยอาจทำลายแก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลาน ยึดร่างกายของเขา ดังนั้นจึงซ่อนแก่นวิญญาณของตัวเองไว้ในห้วงทะเลแห่งจิตของเย่จิ่งหลาน โดยใช้วิธีเข้าฝัน...”ลั่วสุ่ยชิงคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดต่อว่า “ตามหลักการปกติทั่วไป แก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลานอาจได้รับผลกระทบ ซึ่งอาจทำให้สมองสดใสน้อยลง แต่ไม่ต้องการให้เขาหายตัวไปโดยสิ้นเชิง เมื่อข้าลองใช้วิธีการเข้าฝันอีกครั้ง แต่ข้าไม่สามารถสัมผัสถึงลมปราณของเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1458 ขายความน่ารัก

    เสี่ยวหนานเฟิงกางมือเล็กๆ ออก แล้วถามด้วยน้ำเสียงแหลมใสไร้เดียงสาว่า “ภารกิจอะไรอ่ะ”“ไปหาพี่สาวลั่ว”อินชิงเสวียนหยิบน้ำพุวิญญาณออกมาล้างมือที่สกปรกของเสี่ยวหนานเฟิง จากนั้นเช็ดด้วยผ้าเช็ดทำความสะอาดฆ่าเชื้อ“อีกประเดี๋ยวเจ้าต้องขายความน่ารัก แม่จะถือโอกาสถามอะไรบางอย่าง”เสี่ยวหนานเฟิงดูสับสน กะพริบตาโตแล้วถามว่า “ขายความน่ารักหมายความว่าอย่างไร ต้องขายให้ได้เงินมากไหม”อินชิงเสวียนหัวเราะเบาๆ“ท่าทางตอนนี้ของเจ้าก็น่ารักบ้องแบ๊วอยู่แล้ว ให้เป็นแบบนี้ต่อก็พอแล้ว”เสี่ยวหนานเฟิงตอบว่าอ้อ และทันใดนั้นก็พูดอย่างตื่นเต้น “พี่สาวลั่วทำหน้าอมทุกข์อยู่ตลอด เราเอาให้ลูกกวาดให้นางก็ได้นะ”อินชิงเสวียนพยักหน้าเห็นด้วย“อื้ม นี่เป็นความคิดที่ดี”นางโบกมือและหยิบถุงลูกกวาดมาจากมิติ“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็มอบให้พี่สาวลั่วนะ”“ตกลง”เสี่ยวหนานเฟิงยื่นมือเล็กๆ ออกมาเพื่อหยิบมัน แล้วถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนิ่ม “ลูกได้ยินจากเสด็จพ่อบอกว่าอาจิ่งหลานหายไป ท่านแม่หาลุงเจอไหม”อินชิงเสวียนถอนหายใจ “ไม่รู้ บางทีเขาอาจจะกลับไปยังที่ของตัวเองแล้ว สำหรับเขาแล้ว แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน”เสี่ยวหนานเฟิงเอียง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1457 อย่าพูดจาเหลวไหล

    “แต่ตอนนี้เราไม่ยังตามหาตัวเย่จิ่งหลานไม่พบ ยังมีวิธีอื่นใดที่จะสามารถล่อให้ศิลาตอบสวรรค์ปรากฏตัวได้หรือไม่”อินชิงเสวียนลูบคาง ปัญหาดูเหมือนจะกลับมาที่จุดเดิมนักพรตเทียนชิงกล่าวว่า “ไม่มี ศิลาตอบสวรรค์จะลงโทษคนที่ชั่วร้ายอย่างยิ่งเท่านั้น ไม่เช่นนั้นก็ไม่มีทางออกจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์”ลั่วสุ่ยชิงก็ขมวดคิ้วเช่นกัน“นี่เป็นปัญหาที่แก้ไขยากจริงๆ”อินชิงเสวียนถามอย่างสงสัย “ศิลาตอบสวรรค์จะมีประโยชน์อะไรกับชิงฮุย”ลั่วสุ่ยชิงกล่าวว่า “เขาต้องการเป็นเซียน”“อ๋า?”อินชิงเสวียนมองไปที่ลั่วสุ่ยชิงด้วยความประหลาดใจลั่วสุ่ยชิงพูดอย่างใจเย็น “ในแคว้นเฟยเหยา มีตำนานเล่าขานมาตลอด ตราบใดที่ได้รับศิลาตอบสวรรค์ ก็สามารถหลุดพ้นจากปัญจธาตุได้ สามารถข้ามผ่านวิบากกรรมและบรรลุขั้นสูงสุด บรรลุเป็นเซียน เสด็จพ่อของข้ามีความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้า ตามหาที่อยู่ของศิลาตอบสวรรค์มาโดยตลอด เมื่อแคว้นเฟยเหยาถูกบุกโจมตี เคยมีคนกระตุ้นศิลาตอบสวรรค์ แต่ถึงกระนั้น หินก้อนนั้นก็ยังคงหายไป พ่อของข้าติดตามกลิ่นอายนั้นไป จนพบแดนศักดิ์สิทธิ์ และได้สรุปว่าศิลาตอบสวรรค์อยู่ที่นั่น”“ผู้ที่เป็นคนกระตุ้นคือใคร เป็นชิ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1456 ปัญหาที่แก้ไขไม่ได้

    “ได้ เช่นนั้นข้าจะทำนายดูอีกครั้ง”นักพรตเทียนชิงหยิบเหรียญอีแปะและกระดองเต่าออกมา เขย่าหกครั้ง ค่อยๆ จัดเรียงเหรียญทีละเหรียญ เขามองดูพวกมันอยู่ครู่หนึ่ง ลูบหนวดเคราแล้วพูดว่า “ภาพทำนายไม่เปลี่ยนไปจากเดิมเลย คุณชายน้อยเย่...”“เป็นอย่างไรบ้าง เขากลับมาไม่ได้กระนั้นหรือ”อินชิงเสวียนถามด้วยความประหลาดใจ“พูดยาก ทุกสิ่งในตัวเขาไม่แน่นอนมาก ดอกไม้ไม่ใช่ดอกไม้ หมอกก็ไม่ใช่หมอก เหมือนมองดอกไม้ในสายหมอก ยากที่จะเห็นภาพที่แท้จริง ข้าไม่เคยเห็นภาพทำนายเช่นนี้มาก่อน”นักพรตเทียนชิงมองดูเหรียญอีแปะด้วยสีหน้าประหลาดใจมากอินชิงเสวียนถอนหายใจ“เอาเถอะ ถ้าเขาสามารถกลับไปยังที่ที่เขาอยู่ได้จริงๆ ก็คงจะดี”เดิมทีเย่จิ่งหลานไม่มีความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของยุคนี้มากนัก แทนที่จะเป็นแบบนี้ ไม่สู้ปล่อยให้เขาไปในที่ที่เขาต้องการไปดีกว่าเขาเป็นคนดี ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหนก็สามารถสร้างประโยชน์ และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนได้นักพรตเทียนชิงไม่ได้พูด บรรยากาศอึมครึมอยู่พักหนึ่งอินชิงเสวียนรู้สึกเศร้า จากนั้นทำตัวให้กระปรี้กระเปร่าขึ้นมาและถามว่า “ท่านนักพรตสามารถทำนายได้หรือไม่ว่าชิงฮุยอยู่ที่ไหน”นัก

DMCA.com Protection Status