แชร์

บทที่ 197 ตามข้ามาเร็ว

ผู้เขียน: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-01-14 16:00:01
ขณะที่อินชิงเสวียนกำลังจะอ้าปาก คนผู้นั้นก็รีบวิ่งเข้ามาข้างหน้านางและปิดปากของนางโดยเร็ว

“ข้าเอง!”

อินชิงเสวียนตกใจเล็กน้อย

อินสิงอวิ๋นนั่นเอง!

ในเวลานี้ ก็มีคนตะโกนจากข้างนอกว่า “นั่นใคร หยุดนะ!”

อินชิงเสวียนตกใจ อดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้างมองไปยังอินสิงอวิ๋นที่สวมหน้ากาก

อินสิงอวิ๋นเป่าเทียนให้ดับ แล้วกระซิบ “ไม่เป็นไร”

ได้ยินเสียงเสื้อผ้าขยับอยู่ข้างนอก แล้วดูเหมือนว่ามีอีกคนได้วิ่งออกไปไกลๆ

“ท่านเข้ามาในวังหลวงได้อย่างไร” อินชิงเสวียนถามด้วยความประหลาดใจ

อินสิงอวิ๋นลดเสียงลง และพูดว่า “ข้าได้ยินข่าวบางอย่างที่อาจไม่ส่งผลดีต่อเจ้า เจ้าต้องออกจากวังกับข้าตอนนี้”

อินชิงเสวียนเงยหน้าขึ้นมอง “ข่าวอะไร”

อินสิงอวิ๋นคว้าข้อมือของอินชิงเสวียน แล้วพูดอย่างเร่งด่วน “ตอนนี้ตัวตนของเจ้าถูกเปิดเผยแล้ว พรุ่งนี้เย่จิ่งเย่าจะมาระบุตัวเจ้าในราชสำนักอย่างแน่นอน ขืนอยู่ในวังจะเป็นอันตรายเกินไป ข้าให้คนเบี่ยงเบนความสนใจองครักษ์ไปอีกทางแล้ว เราต้องรีบออกไปเดี๋ยวนี้”

อินชิงเสวียนขมวดคิ้ว

เย่จิ่งอวี้ได้กล่าวแล้วว่าเขาจะสอบสวนเรื่องของตระกูลอินอีกครั้ง หากนางจากไปในเวลานี้ เย่จิ่งอวี้จะโกรธอย่าง
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 198 ข้ามีลูกคนหนึ่ง

    สีหน้าของอินสิงอวิ๋นเปลี่ยนไปทันที“เจ้าว่าอะไรนะ”อินชิงเสวียนผลักอินสิงอวิ๋นออกไป เกาะขอบหน้าต่างพยุงตัวขึ้น“ข้า...มีลูกคนหนึ่ง”อินสิงอวิ๋นถามด้วยความประหลาดใจ “ของใคร”อินชิงเสวียนหายใจเข้าลึกๆ และพูดอย่างจำใจ“เป็น...ของเย่จิ่งอวี้”ประกายโทสะพลุ่งพล่านในแววตาทั้งคู่ของอินสิงอวิ๋น แล้วครู่หนึ่งก็สงบลง“เจ้า...เหตุใดเจ้าถึงต้องเข้าไปพัวพันกับตระกูลเย่ด้วย”ยังไม่ทันที่อินชิงเสวียนจะเอ่ยปากพูด อินสิงอวิ๋นก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง “ตัวเจ้าอยู่ในวัง ช่วยตัวเองไม่ได้ ในเมื่อเย่จิ่งอวี้ข่มเหงเจ้า เด็กคนนั้นจะไม่เอาก็ได้”เสี่ยวหนานเฟิงคลอดออกมาได้เพราะการเสี่ยงชีวิตของเจ้าของร่างเดิม แล้วจะบอกว่าไม่ต้องการได้อย่างไร“พี่ใหญ่ ข้าทิ้งเขาไว้ในวังไม่ได้”อินสิงอวิ๋นอดไม่ได้ที่จะกำหมัดแน่น หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก “ในเมื่อเจ้าตัดใจไม่ได้ เช่นนั้นก็พาเขาไปด้วย เด็กอยู่ที่ใด”เมื่อได้ยินว่าอินสิงอวิ๋นรับปากว่าจะพาเด็กไปด้วย อินชิงเสวียนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสั่นไหวเล็กน้อยถ้าสามารถออกไปจากต้าโจวได้จริงๆ บางทีอาจจะเป็นการเริ่มต้นใหม่ถึงอย่างไรในตัวนางก็มีเงินหลาย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-14
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 199 ข้าต้องการให้เจ้าเข้าวัง

    “ฝ่าบาท พระสนมเหยาเฟยมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ”เสียงของหลี่เต๋อฝูทำให้ทุกคนหันกลับมาโดยพร้อมเพรียงแล้วก็เห็นสตรีในชุดกระโปรงสีชมพูอ่อนเดินขึ้นมาอย่างสง่างาม มีมวยผมบนศีรษะปักด้วยปิ่นมุกดอกไม้เรียบๆ ทว่างดงามหลายดอก คิ้วโก่งได้รูป ใบหน้าอันประณีตยากจะวาดเลียนแบบได้ คิ้วงามดั่งยอดเขายามวสันต์ ตาสุกใสปานธาราฤดูสารท วางตัวอยู่เหนือกิเลสทั้งปวงยิ่งทำให้คนรู้สึกราวกับภาพฝัน!เสี่ยวเสวียนจื่อผู้นี้ ช่างงดงามเหลือเกิน!มิน่าเล่าฝ่าบาทต่อให้ต้องแตกหักกับไทเฮา ก็จะปกป้องนางให้จงได้ทว่ายังมีบางคนรู้สึกว่า รูปลักษณ์นี้ดูงามงดมากเกินไป ค่อนข้างเป็นอันตรายต่อราษฎรและบ้านเมืองหากฝ่าบาทหลงระเริงในความงาม จะทำเช่นไรเย่จิ่งเย่าก็หันศีรษะไปมอง ดวงตาฉายแววประหลาดใจเล็กน้อยอินชิงเสวียนนั้นงดงามมากจริงๆ แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นที่ทำให้เขาลุ่มหลง แต่วันนี้ รูปร่างหน้าตาของนางเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนเล็กน้อย ผิวพรรณเนียนผ่องราวกับหยก ลำคอระหงขาวนวล กลับเข้าตาของเขาอย่างจังอินชิงเสวียนคุ้นเคยกับชีวิตการเป็นขันทีน้อยมานานแล้ว และเคยชินมากจริงๆ แต่จู่ๆ กลับถูกผู้คนมองเขม็งเช่นนี้ นางจึงเดินไปอย่างประดักประเดิดโชค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-15
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 200 ขันทีร้อนใจ

    ฟางรั่วตกใจ รีบคุกเข่าลงอย่างลนลาน“นายท่าน ฟางรั่วสำนึกผิดแล้ว นายท่านโปรดลงโทษด้วย นายท่านอย่าส่งฟางรั่วเข้าวังเลยนะเจ้าคะ”อินสิงอวิ๋นเชยคางของนางขึ้น มองดูนางสักพักแล้วพูดว่า “เจ้าพาคนไปเบี่ยงเบนความสนใจขององครักษ์ให้ข้า มีความผิดได้อย่างไร ข้าแค่นึกขึ้นได้ชั่วขณะเท่านั้น อีกอย่างการเข้าไปในวังไม่ใช่เรื่องง่าย ลุกขึ้นเถอะ!”ฟางรั่วถอนหายใจด้วยความโล่งอก“ขอบคุณครับนายท่าน!”อินสิงอวิ๋นเทสุราใส่จอกอีก แล้วพูดอย่างเย็นชา “ไปพักเถอะ ข้าอยากอยู่เงียบๆ สักพัก”“เจ้าค่ะ”ฟางรั่วก้าวฉับๆ เดินจากไป แล้วอินสิงอวิ๋นก็ดื่มสุราจนทั้งหมดในอึกเดียว ความเคียดแค้นในแววตาแข็งกร้าวขึ้นอีกครั้งหลังจากสาดผงสลบแล้ว เย่จิ่งอวี้ไม่ได้ส่งผู้ใดมาไล่ล่าเขาเลยไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เป็นการเหยียดหยาม เย่จิ่งอวี้ได้แสดงท่าทีอย่างชัดเจนแล้วว่าเขาไม่เห็นเข้าอยู่ในสายตาอินสิงอวิ๋นเย่อหยิ่งจองหองมาโดยตลอด จู่ๆ ก็รู้สึกว่านี่เป็นความอัปยศอดสูอย่างยิ่งเมื่อนึกถึงว่าอินชิงเสวียนมีลูกกับเขา ความโกรธขึ้งในแววตาก็แทบจะกลายเป็นแก่นแท้ของดวงตาเย่จิ่งอวี้เจ้าสุนัขใจทรามกล้าบังคับขืนใจชิงเสวียนถึงเพียงนี้ ถ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-15
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 201 ต่างคนต่างความคิด

    ระหว่างเดินไปตามทางหินกรวด อินชิงเสวียนเดินซอยเท้าถี่ๆ มุ่งหน้าไปยังตำหนักจินหวูชุดสตรีนั้นดูดีจริงๆ แต่ก็ก็อึดอัดจนนางแทบเดินไม่ได้ด้วยซ้ำแค่รวบมือตั้งศอกเพียงครู่เดียว อินชิงเสวียนก็รู้สึกว่าปวดไหล่ เมื่อยจนอาการปวดต้นคอกำเริบเมื่อปรายตามองเห็นขันทีน้อยสองคนที่ตามมาข้างหลัง อินชิงเสวียนก็วางมือลงเสียดื้อๆ แล้วเดินฉับๆ ออกไปอย่างใจถึงเมื่อเห็นพระสนมใจถึงขนาดนี้ เหล่าขันทีน้อยก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง และรีบก้มหน้าก้มตาไม่ยอมมองสิ่งที่ไม่เหมาะสมสิบห้านาทีต่อมา ตำหนักจินหวูก็ปรากฏให้เห็นอยู่เบื้องหน้า มีคนกลุ่มหนึ่งกำลังยืนออกันอยู่ที่ประตูอินชิงเสวียนรู้สึกสับสนเล็กน้อย แต่เมื่อหรี่ตามองดูดีๆ ก็พบว่าแท้จริงแล้วพวกนางคือ ซูฉ่ายเวยและหญิงงามคนอื่นๆเมื่อนึกถึงตอนก่อหน้านี้ที่นางเคยขายของมากมายให้กับซูฉ่ายเวย แล้วตอนนี้ตัวเองกลับกลายเป็นหญิง อินชิงเสวียนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิด แต่พอนึกดูอีกที สิ่งของที่นางขายไปเหล่านั้นก็ใช่ว่าจะไร้ประโยชน์ พวกนางล้วนได้ความสวยงามไปไม่ใช่หรือ แถมยังบอกลาอกแฟบได้ด้วย ซึ่งถือได้ว่าเป็นประโยชน์ทางอ้อมต่อสตรีในวังหลวงแล้วเมื่อนึกถึงตรงนี้ อินชิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-15
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 202 หยั่งเชิง

    ในเวลานี้ อินชิงเสวียนก็ขมวดคิ้วอยู่เช่นกันหลังจากเข้าตำหนักจินหวู รอยยิ้มบนใบหน้าของนางก็ค่อยๆ หายไปหลี่เต๋อฝูบอกว่านักฆ่าถูกจับและถูกคุมขังในคุกชั้นใน พอนึกถึงว่าตอนนี้อินสิงอวิ๋นถูกทุบตีและถูกทรมานอยู่ อินชิงเสวียนก็หงุดหงิดใจทันทีนางต้องหาทางช่วยเหลืออินสิงอวิ๋นออกมา และบังเอิญว่าหลิวหมัวมัวก็ถูกขังอยู่ในคุกชั้นในอยู่ คงไปในนามนี้ได้อินชิงเสวียนนำป้ายทองประจำพระองค์ออกมา แต่ก็รู้สึกว่าไม่ได้ตอนนี้เย่จิ่งอวี้เลิกประชุมเช้าแล้ว ไม่แน่ว่าอาจจะมาเมื่อไหร่ก็ได้ หากตัวเองไม่อยู่ เขาคงจะสงสัยอินชิงเสวียนถอนหายใจยาม เอื้อมมือไปอุ้มเสี่ยวหนานเฟิง และจูบใบหน้าเล็กๆ สีชมพูของเขายามนี้เสี่ยวหนานเฟิงรู้สึกง่วงบ้างแล้ว เขาเอาหน้าไปแนบกับลำคอของอินชิงเสวียนทันทีสัมผัสอันอบอุ่นทำให้หัวใจของอินชิงเสวียนอ่อนลง นางอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือออกไปตบก้นเขาเบาๆ“หลับเถิดหนา แม่จะอยู่กับเจ้า จันทร์เจ้าเอ๋ย ขอข้าวขอเเกง ขอเเหวนทองเเดงผูกมือน้องข้า...”อินชิงเสวียนฮัมเพลงกล่อมเด็กที่ย่าของนางร้องให้ฟังบ่อยๆ หลังจากนั้นไม่นานดวงตาของเสี่ยวหนานเฟิงก็หรี่ลงเมื่อมองดูใบหน้าเล็กๆ ที่บริสุทธิ์ในอ้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-16
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 203 ความคิดบางอย่าง

    วันต่อมาในตอนเช้า อินชิงเสวียนตื่นขึ้นมาพร้อมกับรอยคล้ำใต้ดวงตาเสี่ยวหนานเฟิงกำลังเล่นกับอวิ๋นฉ่ายในเปล บางครั้งก็หัวเราะออกมาอินชิงเสวียนนั่งข้างเตียงเป็นเวลานาน ยังคงรู้สึกเวียนศีรษะอยู่บ้างเมื่อวานคิดถึงเรื่องของอินสิงอวิ๋นทั้งคืน พอฟ้าสางถึงหลับได้บ้าง และตอนนี้ข้ารู้สึกว่าในสมองเต็มไปด้วยเรื่องยุ่งเหยิง ราวกับว่าเต็มไปด้วยก้อนแป้งเหนียวหนืดอินชิงเสวียนนวดคลึงขมับ แล้วเข้าไปในมิติหลังจากอาบน้ำในน้ำพุวิญญาณ นางก็สดชื่นกระปรี้กระเปร่าขึ้นมากตอนออกมานางก็แวะดูคะแนนสะสมแวบหนึ่ง ช่วงนี้นางรีบเก็บเกี่ยวผลผลิต รีบเพาะปลูก จึงไม่ได้ตั้งใจดูให้ดี ตอนนี้พอมาดูดีๆ จึงได้เห็นว่ามีคะแนนสะสมมากว่าสองพันคะแนนเมื่อนึกถึงปืนพกที่มีมูลค่า 100,000 คะแนน อินชิงเสวียนก็ถอนหายใจ ในปัจจุบันการสะสม 100,000 คะแนนนี้ไม่รู้ว่าต้องสะสมไปถึงปีไหน มิหนำซ้ำมิตินี้ยังต้องรอการพัฒนาอีกมา ระยะนี้ยังมีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นมากมาย อินชิงเสวียนยังไม่มีเวลาศึกษาอย่างรอบคอบเลยสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการช่วยเหลืออินสิงอวิ๋นออกมาโดยเร็ว!เพียงแต่จะช่วยเหลือได้อย่างไรครั้นคิดถึงคำพูดของเย่จิ่งอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-16
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 204 แผนการร้อยแปดพันเก้า

    “กระหม่อมจะไปเดี๋ยวนี้”เสี่ยวอานจื่อตอบรับและเดินจากไปอย่างรวดเร็วอินชิงเสวียนนั่งอยู่ที่โต๊ะ ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดทั้งกลัวว่าอินสิงอวิ๋นจะถูกทรมาน แต่ก็ไม่รู้ว่าจะช่วยเขาได้อย่างไรหลังจากรอนานกว่าหนึ่งชั่วยามอย่างฟุ้งซ่าน เสี่ยวอานจื่อก็กลับมา“พระสนม กระหม่อมไปสืบมาแล้ว ทั้งยังได้เดิมพันกับทหารรักษาพระองค์มาแล้วด้วย เมื่อคืนมีนักฆ่ามาจริง แต่ฝ่าบาทปล่อยเขาไปแล้ว ในคุกตอนนี้คุมขังไว้เพียงคนเดียวเท่านั้น คือหลิวหมัวมัว ได้ยินผู้คุมคุกบอกว่ายายแม่มดเฒ่าคนนี้ปากแข็งมาก ไม่ยอมพูดอะไรเลย”อินชิงเสวียนตกตะลึงเล็กน้อย“โอ๊ะ? เจ้าถามดีแล้วหรือ”เสี่ยวอานจื่อสาบานว่า “ถามดีแล้วพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่ได้ไปสืบจากแค่หนึ่งคนหรือสองคนเท่านั้น ยังมีขันทีน้อยที่ดูแลในคุกที่เล่นลูกเต๋าด้วยกัน ยังมีหัวหน้าหน่วยทหารรักษาพระองค์อีก ยังมีเสี่ยวหลีจื่อที่ส่งอาหารให้พวกนักโทษด้วย พวกเขาต่างก็บอกว่าไม่มีนักฆ่าอยู่ข้างใน”อินชิงเสวียนย่อมเชื่อเสี่ยวอานจื่ออยู่แล้ว เขาไม่กล้าโกหกตัวเองแน่นอนต้องเป็นเย่จิ่งอวี้ที่โกหกเพื่อหลอกนางฮ่องเต้โฉดนี่ เจ้าแผนการจริงๆ!หากนางเดินถือป้ายทองประจำพระองค์ไปที่นั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-16
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 205 เสวียนเจินไต้ซือ

    เย่จิ่งอวี้สวมชุดลำลองเดินเข้ามาจากด้านนอก ใบหน้าอันหล่อเหลาที่ประดับด้วยรอยยิ้มของเขานั้น ทำให้ผู้คนรู้สึกสดชื่นดั่งต้องลมยามวสันต์ เย่ไห่ถังรีบวิ่งไปราวกับจะถวายสมบัติล้ำค่า“เสด็จพี่ใหญ่ เสด็จพี่สะใภ้มอบถ้วยแก้วแก้วเคลือบสีให้ข้าชุดหนึ่ง”อินชิงเสวียนกุมหน้าผากตัวเองอย่างอดไม่ได้หลังจากนั้นไม่นาน เย่จิ่งอวี้ก็ต้องถามอีกแน่ๆ ว่า สิ่งนี้มาจากที่ใด“โอ้? ขอข้าดูหน่อยสิ”เย่จิ่งอวี้หยิบกล่องขึ้นมาเปิดออก ดวงตาก็ฉายแววประหลาดใจถ้วยแก้วเคลือบสีชุดนี้สวยงามมาก ใสแวววาว แกะสลักด้วยลวดลายสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน พอมองแวบแรก ก็มองออกได้ว่าต้าโจวไม่สามารถผลิตขึ้นได้เขาอดไม่ได้ที่จะมองดูอินชิงเสวียนอินชิงเสวียนไอแห้งๆ แล้วพูดว่า “หม่อมฉันได้เตรียมไว้สำหรับฝ่าบาทด้วย เหมือนกับขององค์หญิงทุกประการ”เย่จิ่งอวี้พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ“สนมรักมีน้ำใจแล้ว”คำพูดแสดงความรักเหล่านี้ทำให้ อินชิงเสวียนร้องอุทานออกมาด้วยความขนลุกด้านหนึ่งเรียกนางว่าสนมรัก แต่อีกด้านกลับสงสัยนางปากผู้ชาย พูดได้แต่คำโกหกจริงๆ!เย่ไห่ถังรีบคว้ากล่องกลับคืนทันที“ข้าอยากกลับไปใช้ชุดน้ำชานี้แล้ว ไม่อยู่เล่น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-16

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1506 เส้นทางที่แตกต่างกัน

    อินชิงเสวียนมอบตั๋วเงินเงินอีกหนึ่งพันตำลึงให้แก่ทั้งสามคน กำชับพวกเขาว่าอย่าใช้ฟุ่มเฟือย หากไม่เจอตัวคน ก็สามารถไปพำนักที่เมืองหลวงได้ทั้งสามพยักหน้าซ้ำๆ ขนของทั้งหมดขึ้นรถม้า และจากไปอย่างมีความสุขอินชิงเสวียนส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้“นิสัยแบบนี้นี่เข้ากับเย่จิ่งหลานได้เป็นอย่างดี”เย่จิ่งอวี้ก็มองไปที่ทั้งสามคน พูดด้วยรอยยิ้ม “ชาวยุทธ์ ก็ควรจะเป็นอิสระไม่ยึดติดอย่างชาวยุทธ์ นี่แหละคือความเป็นตัวของตัวเองที่แท้จริง!”“เช่นนั้นพวกเราก็ควรจากไปอย่างไม่ยึดติดใช่ไหม”อินชิงเสวียนเงยหน้าขึ้น มองไปยังเย่จิ่งอวี้ ทั้งสองตกลงกันไว้ก่อนแล้ว ว่าแทนที่จะรอให้พวกเขาสร่างเมา พลัดพรากจากกันด้วยความเป็นความตาย มิสู้จากไปอย่างเงียบๆ “ข้าเชื่อเมียข้าอยู่แล้ว”เย่จิ่งอวี้ผิวปาก เงาสีขาวสองเงาพุ่งออกมาจากระยะไกล ตามมาด้วยรถม้าอินชิงเสวียนตะโกนอย่างมีความสุข“ไป๋เสวี่ย เสี่ยวไป๋!”ไป๋เสวี่ยกางอุ้งเท้าใหญ่ แล้วกอดเอวของอินชิงเสวียนอย่างเสน่หาเสี่ยวไป๋ก็กลิ้งหน้าถูขาของอินชิงเสวียน ซึ่งเป็นการแสดงความใกล้ชิดกับคนที่หาได้ยากอินชิงเสวียนลูบหัวอันใหญ่โตของไป๋เสวี่ย จากนั้นลูบหัวของเสี่ยวไป๋

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1505 ความรู้สึกที่ไม่สามารถเอ่ยออกมาได้

    เฮ่อซือจวินออกแรงดึงอินชิงเสวียนขึ้นมา แล้วกอดนางไว้ พูดเสียงสะอื้น “เจ้ายอมรับข้า ข้ารู้สึกขอบคุณยิ่งนัก ชั่วชีวิตนี้จะพยายามดูแลสุขภาพของท่านพ่อและน้าเหมยอย่างเต็มที่”อินชิงเสวียนโน้มตัวไปใกล้ใบหน้าของนาง แล้วพูดเสียงอ่อนหวาน “ท่านเป็นพี่สาวต่างแม่ของข้า จะแตกต่างจากพี่สาวแท้ๆ ได้อย่างไร หากท่านอยู่ในอิ๋นเฉิงแล้วรู้สึกเหนื่อยล้า ก็ไปหาข้าที่เมืองหลวงได้ ข้าจะพาท่านท่องเที่ยวให้สำราญใจแน่นอน”เฮ่อซือจวินพยักหน้าโดยเร็ว“ได้ ถ้ามีโอกาส ข้าจะไปหาเจ้าแน่นอน”“สนใจแต่พี่สาวของเจ้าเท่านั้น ไม่ต้องการพี่ชายแล้วหรือ”เฮ่อฉางเฟิงเดินเข้ามาจากประตู สวมเสื้อคลุมใบไผ่สีเขียวที่ขับเน้นให้เขาดูหล่อเหลา สง่า และเป็นวีรบุรุษไม่ธรรมดา“ชิงเสวียนคำนับพี่ใหญ่”อินชิงเสวียนโค้งคำนับ เฮ่อฉางเฟิงก็รีบเอื้อมมือไปช่วยพยุงให้ลุกขึ้น“เจ้ากับข้าเป็นพี่น้อง ไม่ต้องมากพิธี ตั้งใจจะออกเดินทางเมื่อไหร่หรือ”อินชิงเสวียนถอนหายใจ“พรุ่งนี้น่ะ ไม่ว่าเราจะอยู่กี่วันก็ต้องไปอยู่ดี ฮ่องเต้จากเมืองหลวงมานานเกินไปแล้ว ในใจพะวงถึงอยู่ตลอด ถึงเวลาต้องกลับไปดูแลแล้ว”เฮ่อฉางเฟิงก็ตัดใจจากน้องสาวไม่ได้ และยังไม่อ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1504 เศร้าโศกเพราะการจากลา

    ในวันที่สอง สำนักในยุทธ์จักรที่นำโดยเฮ่ออวิ๋นทง ต่างกล่าวคำอำลากับเฮ่อยวนเฮ่อยวนนำลูกศิษย์อิ๋นเฉิงส่งกันไปไกลถึงสิบสิบลี้ ในอิ๋นเฉิง เซี่ยวอิ่นหวนจับมือของอินชิงเสวียน“กลับภูเขาคราวนี้ เกรงว่าจะต้องจัดระเบียบยกใหญ่ ไม่รู้จะได้เจอพวกเจ้าอีกเมื่อไร พวกเจ้าต้องดูแลตัวเองให้ดี ปรึกษาหารือกันทุกเรื่อง หากเผชิญหน้ากับเรื่องใด ต้องพูดมันออกไป อย่าเก็บมันไว้ในใจตัวเอง จะได้ไม่เกิดความขุ่นเคืองสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ”นางถอนหายใจแล้วพูดว่า “แม้ว่าแม่จะเคยเป็นกุ้ยเฟย แต่ไม่รู้หลักการปกครองบ้านเมือง ความรุ่งเรืองและความเสื่อมของต้าโจวล้วนขึ้นอยู่กับพวกเจ้าแล้ว ด้วยความสามารถและการเรียนรู้ของเจ้าทั้งสอง เชื่อว่าในอีกไม่กี่ปี ก็จะสามารถนำความรุ่งเรืองมาสู่ต้าโจวได้ ถ้าแม่มีเวลาว่าง จะไปหาพวกเจ้ากับจ้าวเอ๋อร์ที่เมืองหลวงย่างแน่นอน”อินชิงเสวียนจับมือเย่จิ่งอวี้ แล้วพูดอ่อนโยน “ท่านแม่วางใจ ข้ากับอาอวี้จะรักษาตัวให้ดีอย่างแน่นอน”อีกด้านหนึ่ง เสี่ยวหนานเฟิงดึงชายเสื้อของเซี่ยวอิ่นหวนอย่างไม่เต็มใจ“ท่านย่าจะไปแล้วหรือ”เซี่ยวอิ่นหวนกอดเสี่ยวหนานเฟิง จูบใบหน้ากลมจ้ำม่ำของเขา แล้วพูดด้วยความรัก “ใช

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1503 เรื่องราวจบลง

    ลั่วสุ่ยชิงพูดอย่างเย็นชา “แม้แต่เป็นฮ่องเต้ข้ายังไม่สนใจด้วยซ้ำ จะสนใจพระชายาอ๋องได้อย่างไร”“พูดมาก็มีเหตุผล งั้นข้ายังมีที่อื่นที่อยากไป”เย่จิ่งหลานค่อยๆ หยัดกายขึ้นนั่ง หยิบแผนที่ออกมาจากอกเสื้อ“ตอนที่ข้ากำลังเดินทางไปตงหลิว พบว่ามีหลายแคว้นอยู่ใกล้เคียง ทำไมเจ้ากับข้าไม่พยายามพิชิตพวกเขาทั้งหมดล่ะ”ลั่วสุ่ยชิงสาดน้ำเย็นใส่เขาทันที“ตอนนี้เจ้ายังมีความสามารถนั้นอยู่รึ?”“หากเจ้าเต็มใจที่จะบ่มเพาะร่างกายและจิตวิญญาณกับข้า บางทีวรยุทธ์ของข้าอาจจะกลับคืน”ลั่วสุ่ยชิงถูกเขาทำให้โกรธจนกำลังภายในพุ่งสูงขึ้น กระทั่งจุดที่ถูกจี้สกัดได้คลายออก นางตบศีรษะเย่จิ่งหลานทันที“ไร้ยางอาย”“เจ้าหายแล้ว?”เย่จิ่งหลานมีความสุขมาก เขาพยายามคุกเข่า ฝืนยืนขึ้น ร่างกายโงนเงน ล้มลงตรงหน้าลั่วสุ่ยชิง ฉวยโอกาสกอดเอวของนาง“จอมยุทธ์หญิงลั่ว ข้ายืนไม่ไหว โปรดช่วยพยุงข้าด้วย”ใบหน้าของลั่วสุ่ยชิงเปลี่ยนเป็นสีแดง ยกมือขึ้นผลักเขาลงไปที่พื้น เย่จิ่งหลานล้มหงายหลัง เหมือนกับเต่าที่นอนหงายลั่วสุ่ยชิงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะงอหาย เมื่อนางหัวเราะมากพอแล้ว ก็ทรุดตัวนั่งลงบนพื้นอย่างเงียบๆ และบ่นว่า “เสด็จ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1502 หน้าด้านหน้าทน

    อินชิงเสวียนเหลือบมองเย่จิ่งหลานแวบหนึ่ง“แน่นอนว่ามีคนไม่อยากให้เจ้าไป”เมื่อเห็นเย่จิ่งหลานมองมาทางนี้ ลั่วสุ่ยชิงก็เริ่มวิตกกังวล“ปล่อยข้านะ!”อินชิงเสวียนกระตุกมุมปากยิ้มๆ“ถ้าอย่างนั้นก็ต้องถามก่อนว่าเขาเห็นด้วยหรือไม่”เย่จิ่งหลานลุกขึ้นยืนโดยมีพี่ชายช่วยพยุงขึ้นอินชิงเสวียนเดินเข้าไปถาม“เจ้าสบายดีไหม มิติของเจ้า พังจริงๆ หรือ”เย่จิ่งหลานพูดอย่างอ่อนแรง “ยังไงตอนนี้ก็ยังมีลมหายใจอยู่ ถ้ามันไม่พัง ชิงผิงกับชิงอานก็คงไม่ได้ออกมา”อินชิงเสวียนมองเขาด้วยความเห็นอกเห็นใจ“นี่เป็นเรื่องที่ร้ายแรง”เย่จิ่งหลานถามอย่างไร้ยางอาย “เฮ้ นี่เจ้าไม่คิดจะดูแลข้าแล้วรึ”อินชิงเสวียนกระตุกริมฝีปากยิ้มๆ“ก็มีคนรอดูแลเจ้าอยู่ไม่ใช่หรือ เจ้าไปเองสิ อาอวี้ เรากลับไปดื่มสุรากันต่อเถอะ”เย่จิ่งอวี้พยักหน้าและตบไหล่เย่จิ่งหลาน“พวกเราช่วยเจ้าได้แค่นี้”เมื่อเห็นว่าหมู่เมฆหายไป ชาวยุทธ์หลายคนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เฮ่อยวนแอบโคจรกำลังภายใน พูดเสียงดัง “ตอนนี้เมื่อวิกฤติคลี่คลายแล้ว เฮ่อยวนจึงจัดงานเลี้ยงอีกครั้ง จัดเลี้ยงส่งเพื่อคลายความกังวลให้แก่เพื่อนพ้องในยุทธภพ!”คราวนี้เป็นกา

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1501 สายล่อฟ้าปรากฏ

    ทันทีที่เขาพูดจบ ร่างในชุดสีดำก็เหาะมาจากระยะไกล ลอยอยู่บนอากาศคนผู้นี้รูปร่างโปร่ง ชุดผ้าโปร่งสีดำปลิวไปตามสายลม เรือนผมดำขลับสยายออก ในชั่วพริบตา ร่างนั้นก็ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกหนาสีดำเมื่อเห็นคนผู้นี้ เย่จิ่งหลานก็พยายามลุกขึ้นยืน“ลั่วสุ่ยชิง เจ้าบ้าไปแล้วหรือ หนีไป!”ลั่วสุ่ยชิงยกมือขวาขึ้นสู่ท้องฟ้า เผชิญหน้ากับเสียงฟ้าคำรน พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เย่จิ่งหลาน เจ้าฆ่าพ่อของข้า ถ้าเจ้าตายแบบนี้ จะไม่ดูถูกเจ้าเกินไปหรือ เจ้าควรจะอยู่ในโลกนี้ต่อไป ทนทุกข์ต่อความเจ็บปวดทีละน้อย!”เย่จิ่งหลานจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าทุกคำที่นางพูดล้วนเป็นพูดด้วยอารมณ์โกรธ ถ้านางไม่มีใจต่อเขา นางจะกลับมาได้อย่างไรอย่างไรก็ตาม ร่างกายของเขาเหมือนกับเส้นบะหมี่ ที่ไม่สามารถยืนตรงได้ จึงไม่สามารถหยุดยั้งลั่วสุ่ยชิงได้เลยเมื่อมองดูร่างเพรียวบางที่ต่อสู้กับฟ้าผ่า พลันรู้สึกเจ็บปวดกระบอกตา หยาดน้ำตาสองหยดร่วงหล่นกลืนหายไปในสายลมในเวลานี้ มีร่างเพรียวอีกร่างหนึ่งลอยออกมา โดยถือวัตถุที่มีลักษณะคล้ายแท่งไม้ขนาดใหญ่อยู่ในมือ มีปลายโค้งยาวมากซึ่งดูแปลกตา“ลั่วสุ่ยชิง ข้าจะใช้สายล่อฟ้าช่วยเจ้า!”ของสิ่งนั้นห

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1500 มิติพังแล้ว

    “จิ่งหลาน!”เย่จิ่งอวี้คว้าคอเสื้อของเขารวดเร็ว หลบหลีกการโจมตีได้อย่างหวุดหวิดตูม!อสุนีบาตฟาดเปรี้ยง บนพื้นมีหลุมลึกเกิดขึ้น ทุกคนล้วนหวาดกลัวกับฟ้าที่ผ่าลงมา ต่างใช้วิชาตัวเบาหนีไปทุกทิศทางอินชิงเสวียนถามด้วยความตกใจ “นักพรตเทียนชิง มันเกิดขึ้นได้อย่างไร”นักพรตเทียนชิงขมวดคิ้วกล่าวว่า “ชิงฮุยมาจากแดนศักดิ์สิทธิ์ เย่จิ่งหลานฆ่าเขา ศิลาตอบสวรรค์อาจมองว่าเขาเป็นคนชั่วร้ายมาก และออกจากแดนศักดิ์สิทธิ์ด้วยตัวเอง”เมื่อเห็นว่ายังมีฟ้าผ่าลงมา อินชิงเสวียนพูดอย่างกังวล “ศิลาตอบสวรรค์ไม่แยกแยะผิดถูกเช่นนี้ได้อย่างไร คนที่เย่จิ่งหลานฆ่านั้นคือคนชั่วร้ายจริงๆ ท่านนักพรตสามารถสื่อสารกับศิลาตอบสวรรค์ได้หรือไม่”นักพรตเทียนชิงส่ายศีรษะ“ไม่ได้ ศิลาตอบสวรรค์มีวิธีการตัดสินใจของตัวเอง”“แล้วต้องทำอย่างไรดี”อินชิงเสวียนเป็นกังวล และทันใดนั้นดวงตาก็พลันสว่างขึ้น“เย่จิ่งหลาน เจ้ารีบหลบเข้าไปในมิติเร็ว”เย่จิ่งอวี้พูดอย่างวิตกกังวล “เสวียนเอ๋อร์พูดถูก จิ่งหลาน เจ้าเข้าไปหลบในมิติก่อน”เมื่อเห็นด้วยตาตัวเองว่ามีฟ้าแลบฟ้าผ่าเปล่งแสงแปลบปลาบ เย่จิ่งหลานก็รู้สึกชาดิกไปทั้งหนังศีรษะ หากถูกโ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1499 เคราะห์ตอบสวรรค์

    นอกห้วงทะเลแห่งจิต อินชิงเสวียนมองไปยังลิ่นเซียวที่ประทับฝ่ามืออยู่บนหลังของเย่จิ่งหลานอย่างประหม่า“อาจารย์ ท่านสัมผัสถึงแก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลานได้แล้วหรือยัง ตอนนี้เขาเป็นอย่างไรบ้าง”“คงจะสำเร็จแล้ว”ลิ่นเซียวถอนมือออก และแน่นอนว่าเพียงครู่หนึ่ง เย่จิ่งอวี้และคนอื่นๆ ก็รู้สึกตัวขึ้นมาพร้อมกัน“ชิงเสวียน ผู้อาวุโสลิ่น นี่คือ...”“ศิษย์น้อง ทำไมเจ้าถึงมาที่นี่”เฮ่ออวิ๋นทงก็ดูประหลาดใจเช่นกัน“ทำไมพวกเจ้าถึงมาที่นี่กันหมดล่ะ เกิดอะไรขึ้น”ทุกคนสูญเสียความทรงจำในช่วงเวลานั้นไป ต่างเพ่งมองไปยังอินชิงเสวียน“ผู้อาวุโสทุกท่านตกอยู่ภายใต้อาคมของชิงฮุย...”อินชิงเสวียนเล่าสั้นๆ อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ทุกคนตกใจเมื่อรู้ว่าชิงฮุยได้ช่วงงชิงร่างของลั่วสุ่ยชิงไปเมื่อได้ยินว่าเย่จิ่งหลานกลับมาที่เพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิงแล้ว และแก่นวิญญาณก็อยู่ในห้วงทะเลแห่งจิตของลั่วสุ่ยชิง ทุกคนก็เป็นกังวลอีกครั้งทุกคนเบิกตากว้าง มองไปยังเย่จิ่งหลานและลั่วสุ่ยชิงที่กำลังนั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้น ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นข้างในหลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม ในที่สุดลั่วสุ่ยชิงก็ลืมตาขึ้น ดวงตาหรี่ลง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1498 ชิงฮุยตาย

    เย่จิ่งหลานขบกรามแน่น“ข้าสามารถให้ร่างกายแก่เจ้าได้ แต่เจ้าต้องสาบานอย่างจริงจัง ว่าจะไม่ทำร้ายต้าโจว หากผิดคำสาบาน ลูกหลานชาวเฟยเหยาทั้งหมดรวมทั้งตัวเจ้าเอง จะถูกสวรรค์ลงโทษ ไม่ได้ผุดได้เกิดอีกเลย!”ในชีวิตนี้ของเขา เขาได้เป็นหมอที่ตัวเองชอบ ได้ข้ามภพ แถมยังได้ข้ามภพมาเป็นท่านอ๋องที่มีสถานะสูง ได้เดินทางจากการต่อสู้แย่งชิงในวังสู่ยุทธภพ และจากการไร้ชื่อเสียงเรียงนาม มาเป็นยอดฝีมือชั้นหนึ่งในยุทธจักร ยังได้สัมผัสประสบการณ์การปล่อยให้ความคิดไหลไปในทางที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังอีกครั้งหนึ่ง พอใคร่ครวญดูแล้ว มันก็คุ้มค่าจริงๆหากเขาสามารถยุติสงครามนี้ด้วยชีวิตของตัวเองได้ เย่จิ่งหลานก็ยินดีที่จะทำเช่นนั้นแม้ว่าเขาจะเป็นคนที่รักตัวกลัวตาย แต่เมื่อเผชิญกับความชอบธรรม เขาก็มีความตระหนักรู้ ในฐานะคนสมัยใหม่ เขาจะต้องไม่แย่กว่าอินชิงเสวียนอย่างแน่นอนยิ่งไปกว่านั้น ยังมีชาดแห่งบาปในร่างกายของเขาที่ยังไม่ถูกกำจัด หากชิงฮุยกล้าใช้ร่างกายของเขาเพื่อฆ่าผู้บริสุทธิ์ตามอำเภอใจ มันจะดึงดูดฟ้าผ่า ผ่าเขาให้เป็นเถ้าถ่านอย่างแน่นอนหลังจากฟังคำพูดของเย่จิ่งหลานแล้ว ชิงฮุยก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเสี

DMCA.com Protection Status