Home / โรแมนติก / สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ / บทที่ 1430 เหมือนจะทำสิ่งเลวร้ายขึ้น

Share

บทที่ 1430 เหมือนจะทำสิ่งเลวร้ายขึ้น

Author: ม่อเยี่ยน
last update Last Updated: 2024-10-30 16:00:07
นักพรตเทียนชิงขมวดคิ้ว

ยังมีกลุ่มพลังสีดำค้างอยู่ตรงกลางคิ้วของเย่จิ่งหลาน ปิดกั้นกำลังภายในของนักพรตเทียนชิง

หรือว่านี่คือข้อห้ามที่ชิงฮุยปลูกฝังไว้?

เมื่อจับตัวชิงฮุยไม่ได้ เช่นนั้นก็ถือโอกาสช่วยเย่จิ่งหลานไปเลย เพื่อป้องกันไม่ให้เขาทำสิ่งชั่วร้ายและทำให้เกิดฟ้าผ่า

เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ นักพรตเทียนชิงก็จี้จุดที่ไหล่และขาของเย่จิ่งหลานอย่างรวดเร็ว เย่จิ่งหลานเข่าอ่อน ทรุดนั่งลงบนพื้นทันที

นักพรตเทียนชิงอุ้มเขาขึ้น รีบลงจากภูเขาไปยังบ้านลับแห่งหนึ่ง

ชาวบ้านทั้งหมดในเมืองย้ายไปอยู่ในอิ๋นเฉิงแล้ว มีบ้านว่างมากมาย นักพรตเทียนชิงวางเย่จิ่งหลานไว้บนเตียง และตรวจชีพจรของเขาทันที ลมปราณยังไม่ถูกปิดกั้น เช่นนั้นก็ลองดูหน่อย

เขาค่อยๆ ยกนิ้วขึ้น แตะหว่างคิ้วของเย่จิ่งหลาน

ร่างกายของเย่จิ่งหลานสั่นเล็กน้อย ขมวดคิ้วมุ่น

นักพรตเทียนชิงกล่าวอย่างกรุณา “ในระหว่างกระบวนการอาจทรมานบ้าง แต่คงใช้เวลาไม่นานนัก คุณชายน้อยเย่ ล่วงเกินแล้ว!”

หลังจากจบคำพูด นักพรตเทียนชิงก็ปลดปล่อยพลังชี่แท้ออกมา มันไหลเข้าสู่กลางคิ้วของเย่จิ่งหลาน

เย่จิ่งหลานดูเหมือนจะเจ็บปวดอย่างมาก ร่างกายสั่นสะท้านและกระตุกอยู่ตลอ
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Ja Suwan
อ่านนิยายมาตั้งแต่ต้นปียังไม่จบเรื่องสักที เราก็อดทนอ่านมานานเหมือนกัน ลงบทวันละ 4 ตอน ใกล้จบแล้วหรือ ลงจาก 4 มา 3 แล้วเหลือ 2 จะนืดไปถึงไหน จบเรื่องจะไม่อ่านเรื่องอื่นต่อแล้ว
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1431 หากผู้ใดกล้าขวาง ฆ่าไม่เว้น

    เย่จิ่งหลานยกฝ่ามือขึ้นโจมตี โดยไม่ให้ลั่วสุ่ยชิงได้มีโอกาสถามอีกลั่วสุ่ยชิงก็รู้ว่าเย่จิ่งหลานถูกมนต์สะกด นางเหาะถอยหลัง หลบหลีกสองกระบวนท่าติดต่อกันเมื่อมองดูหมอกสีดำที่ล้อมรอบฝ่ามือ ลั่วสุ่ยชิงก็ตกตะลึงแน่นอนว่ามันเป็นวิทยายุทธ์ของเฟยเหยา ชิงฮุยใช้วิชาอะไรกันแน่ ถึงทำให้เขาสามารถฝึกฝนวิทยายุทธ์กำลังภายในอันบริสุทธิ์ภายในเวลาไม่กี่วัน?ลั่วสุ่ยชิงขบคิดในใจ มุ่งเน้นไปที่การหลบหลีก แต่เย่จิ่งหลานบีบทุกก้าวย่าง ลงมือแต่ละครั้งล้วนหมายเอาชีวิตทันใดนั้น ลั่วสุ่ยชิงรู้สึกว่าพลังปราณมีบางอย่างผิดปกติ นางชี้นิ้วออกไป พลังที่มองไม่เห็นก็เข้าไปในร่างกายของเย่จิ่งหลาน จากนั้นนางก็ใช้วิชาตัวเบาหลบหนีอย่างรวดเร็วทันทีที่ร่างของนางงหายไป ชิงฮุยก็ปรากฏตัวขึ้นด้านหลังเย่จิ่งหลาน“ประสาทรับกลิ่นไวดีนี่”ชิงฮุยแค่นเสียงหึในลำคอเบาๆ พูดกับเย่จิ่งหลาน “ไปจับตัวนางมา หากผู้ใดกล้าขวาง ฆ่าไม่เว้น!”เย่จิ่งหลานพยักหน้า และร่างของเขาก็หายไปในทันทีจากนั้น ร่างหลายร่างก็เดินออกมาจากความมืด กล่าวด้วยความเคารพ “น้อมคำนับคุณชาย”“ตามสบาย ตอนนี้พวกเจ้าฝึกฌานตบะเป็นอย่างไรบ้างแล้ว”ชิงฮุยถามไปด้าน

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1432 ตกใจ

    เมื่อทุกคนได้รับคำสั่งให้ออกไป ลั่วสุ่ยชิงก็วิ่งมุ่งหน้าไปยังอิ๋นเฉิง แต่กลับรู้สึกว่ามีเงาดำแวบขึ้นมาต่อหน้าต่อตา และเย่จิ่งหลานก็มาหยุดไว้เขายืนยิ่งเงียบอยู่เบื้องหน้าของลั่วสุ่ยชิง ราวกับพญามัจจุราชในนรก มืดมนและน่าสะพรึงกลัวลั่วสุ่ยชิงยืนนิ่ง นางเพิ่มจิตสำนึกทางจิตวิญญาณให้สูงสุด และไม่รู้สึกถึงลมปราณของชิงฮุยชิงฮุยไว้วางใจคุณชายน้อยเย่คนนี้ และนั่นคือสิ่งที่นางต้องการจริงๆ“เย่จิ่งหลาน เจ้าเป็นคนต้าโจว แต่กลับสมคบคิดศัตรู ทำงานช่วยเหลือเสือเลว ไม่รู้สึกผิดต่อบรรพบุรุษของเจ้ากระนั้นหรือ”เย่จิ่งหลานโจมตีลั่วสุ่ยชิงอีกครั้ง โดยไม่ได้คิดอะไรเลยด้วยซ้ำลั่วสุ่ยชิงก้าวไปข้างหน้า ร่างของนางลอยอยู่ในอากาศแล้ว หมอกสีดำพุ่งออกมาจากฝ่ามือ ปกคลุมเย่จิ่งหลานไว้ในม่านหมอกนางอยากจะทดสอบดูว่าเย่จิ่งหลานสามารถฝึกฝนวิชาเทียนเสวียนได้ถึงขั้นไหนแล้วเย่จิ่งหลานไม่เงยหน้าขึ้นด้วยซ้ำ ฟาดฝ่ามือกลับไปฝ่ามือทั้งสองปะทะกัน ส่งเสียงสะท้านเย่จิ่งหลานสับขาหลอก หมุนตัวและกระโดดขึ้นไปในอากาศ“ตายซะ!”ลั่วสุ่ยชิงหัวเราะเบาๆ“อย่างเจ้าน่ะ ไม่มีความสามารถขนาดนั้น!”นิ้วเรียวขาวชี้ออกไป และจี้จ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1433 มีแผนอื่น

    ดวงตาของเย่จิ่งหลานเฉียบคม ชี้นิ้วมาอีกครั้งลั่วสุ่ยชิงรู้สึกเพียงว่าพลังชี่แท้จริงในร่างกายกระจัดกระจาย อดไม่ได้ที่จะตกใจ นางเหาะกลับไปอย่างรวดเร็ว และเย่จิ่งหลานก็เร็วขึ้นราวกับภูตผี มาหยุดอยู่เบื้องหน้าของลั่วสุ่ยชิง ชี้นิ้วไปที่ลำคอของนาง และไม่นานก็มาถึงตัวลั่วสุ่ยชิง หิ้วร่างนั้นขึ้นทันที หลังจากกระโดดขึ้นลงหลายครั้งก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยคนสองคนที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดถอนหายใจด้วยความโล่งอก“คิดว่าคุณชายรู้มานานแล้วว่าท่านราชาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเย่จิ่งหลาน”“คุณชายมีความสามารถในการทำนายสิ่งต่างๆ ราวกับเทพ”“แต่...ทำไมเย่จิ่งหลานถึงรู้พลังยุทธ์ของแคว้นเฟยเหยาเรา?”“ใช่ ดูเหมือนจะเรียนรู้ได้ละเอียดลึกซึ้งกว่าเรา”ทั้งสองมองหน้ากัน แต่ไม่สามารถหาข้อสรุปได้ ดังนั้นจึงใช้วิชาตัวเบาจากไปในอิ๋นเฉิงอินชิงเสวียนและเย่จิ่งอวี้กำลังพูดคุยกับนักพรตเทียนชิง เมื่อรู้ว่ามีสิ่งแปลกๆ เกิดขึ้นกับเย่จิ่งหลาน ทั้งคู่ก็รู้สึกถึงลางร้าย“เสวียนเอ๋อร์พูดมานานแล้วว่า พวกโมริตะอาจเป็นเบี้ยหมากที่ชิงฮุยวางไว้ หากเป็นเรื่องจริง ที่เขาให้เย่จิ่งหลานไปหานักพรต ก็อาจมีแผนอื่น”นักพรตเทียนชิงขมวดค

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1434 ล่องูออกจากรู

    “วิธีอะไร”เย่จิ่งอวี้มองไปยังอินชิงเสวียน หญิงสาวเป็นคนฉลาดหลักแหลม มีความคิดประหลาดแสนกลมากมาย“วิธีการของข้าต้องได้ผลแน่นอน แต่ก็ค่อนข้างอันตราย จุดประสงค์ของชิงฮุยคือการแบ่งแยกยุทธจักร เขาต้องโจมตีชาวยุทธ์อย่างแน่นอน เรารวบรวมกลุ่มยอดฝีมือ และแกล้งทำเป็นว่าออกไปตามหาเย่จิ่งหลานข้างนอก......หากชิงฮุยหวังจะประสบความสำเร็จด้วยการลงมือเพียงครั้งเดียว เขาจะส่งเย่จิ่งหลานไปแน่นอน หรืออาจลงมือเอง นี่เป็นโอกาสเหมาะ ประจวบเหมาะกับมีหวังซุ่นอยู่ด้วย ให้เขาสร้างใบหน้าของกลุ่มศิษย์รุ่นเยาว์ให้เรา เหลือผู้อาวุโสไว้เพียงหนึ่งหรือสองคนก็พอ หากทั้งหมดมีแต่ศิษย์รุ่นเยาว์ เกรงว่าพวกเขาอาจไม่ปรากฏตัว”นักพรตเทียนชิงกล่าวอย่างเห็นด้วย “แม่นางอินคิดได้รอบคอบ เช่นนี้แล้ว เราก็รีบหารือกันเถอะ ว่าจะจัดสรรกำลังคนอย่างไร”พวกเขาทั้งสามกลับไปที่อิ๋นเฉิงและแจ้งให้เฮ่อยวนทราบถึงเรื่องนี้ ซึ่งข้อเสนอนี้นั้น เฮ่อยวนและคนอื่นๆ ก็เห็นชอบด้วยนอกจากการล่องูออกจากรูแล้ว ก็ไม่มีวิธีใดที่ดีไปกว่านี้อีกหวังซุ่นเป็นห่วงเย่จิ่งหลานตลอดเวลา แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อคำพูดของเขาไร้น้ำหนัก ทักษะวรยุทธ์ก็แย่ จึงทำได้เ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1435 จับเย่จิ่งหลาน

    ที่ตีนเขา คนกลุ่มหนึ่งกำลังค้นหาเบาะแสทุกที่ บางครั้งก็ได้ยินคนเรียกชื่อเย่จิ่งหลานในป่าทึบ ทายาทชาวเฟยเหยามากกว่าสามสิบคนกำลังจับจ้องคนกลุ่มนี้อย่างใกล้ชิด“คนอายุมากสองคนที่อยู่ข้างหน้าคงจะแข็งแกร่งมาก ส่วนคนที่อยู่ข้างหลังล้วนเป็นศิษย์ที่อายุน้อย ไม่มีอะไรต้องกลัว”คนที่ดูมีอายุกระซิบขึ้น “งั้นก็ยกสองคนนั้นให้กับเย่จิ่งหลาน ส่วนเราฝึกฝีมือกับคนที่เหลือ”ทันทีที่พูดจบ เย่จิ่งหลานก็เหาะออกจากป่า และมุ่งหน้าตรงไปหาเฮ่ออวิ๋นทง“คุณชายเย่!”เฮ่ออวิ๋นทงรู้สึกประหลาดใจระคนยินดี แต่ดวงตาของเย่จิ่งหลานกลับเย็นชา การเคลื่อนไหวล้วนหมายเอาชีวิตเซี่ยวอิ๋นหวนก้าวไปช่วยทันที ในเวลาเดียวกัน ชาวเฟยเหยากลุ่มหนึ่งก็เหาะออกจากป่า โอบล้อมเหล่าศิษย์ที่อยู่ข้างหลังไว้“เป็นคนจากแคว้นเฟยเหยา!”“ ทุกคนระวัง!”“คนพวกนี้เชี่ยวชาญกลวิธีชั่วร้าย เราอย่าแยกจากกันเด็ดขาด”เมื่อเห็นศิษย์ของสำนักต่างๆ ชักกระบี่ทีละคน กลายเป็นความยุ่งเหยิง ทายาทชาวเฟยเหยาก็ผ่อนคลายลงทันทีพวกเขาไม่ได้เก่งกาจเหมือนคุณชาย ที่สามารถสร้างค่ายกลที่สามารถทำร้ายผู้คนที่มองไม่เห็นได้ในชั่วขณะหนึ่ง แต่ฝีมือเท่านี้ก็มากเกินพอที่

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1436 ตายอย่างคุ้มค่า

    ทุกคนต่างพยักหน้าพร้อมๆ กัน รู้สึกว่านี่มีเหตุผล วรยุทธ์ของเย่จิ่งหลานไม่ได้อ่อนแอ ถ้าเขารู้สึกตัวขึ้นมาได้ มันจะเป็นความช่วยเหลือที่ทรงพลังอย่างยิ่งทั้งหมดมาถึงสถานที่ที่เย่จิ่งหลานถูกควบคุมตัวไว้ เห็นเขาเบิกตากว้าง นั่งขัดสมาธิอยู่ในกรงเหล็ก สีหน้าเย็นชาประดุจเหมันต์ แววตาเยือกเย็นดั่งน้ำแข็ง“จิ่งหลาน เจ้าจำพี่ชายเจ้าไม่ได้แล้วจริงๆ หรือ”เย่จิ่งอวี้มองน้องชายผ่านลูกกรงเหล็ก เมื่อออกจากเมืองหลวง คิดถึงเขาที่ดูสดใสร่าเริงไร้เดียงสา ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกไม่สบายใจอินชิงเสวียนก็รู้สึกไม่สบายใจเช่นกัน แต่มุมมองแตกต่างจากเย่จิ่งอวี้คนที่อยู่ในกรงเป็นคนเดียวในยุคนี้ที่สามารถเข้าใจนางได้อย่างแท้จริง และยังเป็นเพื่อนจากเมืองเดียวกันเพียงคนเดียวด้วย ไม่เพียงเพราะทั้งคู่มาจากประเทศเดียวกันยุคเดียวกันเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะทั้งคู่มาจากภาคเหนือของประเทศเช่นกันนางถอนหายใจเบาๆไม่ว่าต้องใช้วิธีใดก็ตาม ไม่ว่านางจะจ่ายเท่าไหร่ นางก็ต้องรักษาเย่จิ่งหลานให้ได้“คุณชายหลิว เจ้าเห็นต้นตอของอาการไหม”หลิวซือจวินเข้ามาดูครู่หนึ่ง แล้วส่ายหัว นางยื่นแขนเข้าไปในกรง ต้องการจะตรวจชีพจรของเย่จิ่ง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1437 พวกเจ้าต้องตายกันหมด

    หลังจากได้ยินคำพูดของหลิวซือจวินแล้ว เฮ่อยวนก็ดูตกตะลึงเด็กคนนี้รู้ไหมว่าตัวเองกำลังพูดอะไรเขาจะเป็นพ่อของนางได้อย่างไรเหมยชิงเกอก็มองหลิวซือจวินอย่างไม่เข้าใจเหมือนกัน หรือว่าเฮ่อยวนยังมีผู้หญิงคนอื่น คำสัญญาต่างๆ นานาก่อนหน้านี้ ล้วนเป็นคำโกหกนาง?อย่างไรก็ตามเวลานี้ชีวิตของคนแขวนอยู่บนเส้นด้าย สิ่งที่ไม่เข้าใจและคำถามทั้งหมดจึงได้แต่ฝังไว้ในใจเท่านั้น การช่วยชีวิตหลิวซือจวินเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกปราณกระบี่พลังสีม่วงและสีขาวลอยออกไปพร้อมกัน มุ่งหน้าตรงไปยังเย่จิ่งหลานเมื่อเย่จิ่งหลานหลบปราณกระบี่ เย่จิ่งอวี้ก็รีบเข้ามาคว้าร่างของหลิวซือจวินไว้ และภายในชั่วพริบตา กรงก็ถูกปิดผนึกอีกครั้งเย่จิ่งหลานไม่ได้พยายามจะรีบออกไป เขาแค่ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม มองทุกคนด้วยสายตาเย็นชา ถึงกระนั้น เจตนาฆ่าในดวงตาเหล่านั้นก็ยังน่าสะพรึงกลัวเซี่ยวอิ๋นหวนมองไปที่เย่จิ่งหลานและพูดว่า “ข้าเกรงว่ากรงนี้ไม่สามารถกักขังเด็กคนนี้ได้ เราต้องหาทางแก้ไขโดยเร็ว”ลูกชายมีน้องชายคนนี้เพียงคนเดียว ดังนั้นเซี่ยวอิ๋นหวนจึงหวังที่จะรักษาเขาให้หายดี ให้พี่น้องทั้งสองได้ร่วมมือกันปกครองบ้านเมืองได้ ทั้งยังมีค

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1438 เหมือนจะตกหลุมพรางแล้ว

    คำพูดไม่กี่คำหลุดออกมาจากปากของเย่จิ่งหลาน น้ำเสียงนั้นราวกับหลุดมาจากขุมนรก ทำให้ทุกคนรู้สึกเย็นยะเยือก เหงื่อกาฬผุดพรายขนลุกขนชันวินาทีต่อมา เขาก็เริ่มลงมือทุกคนไม่ต้องการทำร้ายเขา ต่างถูกจำกัดโดยทำอะไรไม่ได้มาก ทว่าเย่จิ่งหลานกลับโจมตีอย่างหมายเอาชีวิต แต่ละกระบวนท่าล้วนโจมตีไปยังจุดตาย เฮ่ออวิ๋นทงถูกซัดฝ่ามือใส่ เขากระอักเลือดออกมา ถอยหลังไปหลายก้าว ผู้อาวุโสสวีหันหลังไปช่วยประคอง แต่ก็ถูกลมฝ่ามือซัดเข้าใส่ ลมเลือดในอกพลันพลุ่งพล่านสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าคือ เจตนาฆ่าในตัวของพวกเขาดูเหมือนจะถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง และแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆคนอื่นๆ ที่ต่อสู้กับเย่จิ่งหลานก็รู้สึกเช่นเดียวกัน“อาอวี้ พวกเราเหมือนจะตกหลุมพรางแล้ว”อินชิงเสวียนเหาะถอยหลัง ถ่ายทอดกำลังภายในเพื่อระงับเจตนาฆ่าในใจชิงฮุยสามารถอดทนมาได้นานขนาดนี้แล้ว จึงไม่ใช่คนที่มีความคิดเรียบง่ายแน่นอน เป็นนางที่คิดว่าเป็นเรื่องง่ายดายเกินไป“อืม”ใบหน้าของเย่จิ่งอวี้เคร่งขรึม“เสวียนเอ๋อร์พูดถูก บางทีนี่อาจเป็นผลลัพธ์ที่ชิงฮุยต้องการ”“เราควรทำอย่างไรดี”เซี่ยวอิ๋นหวนเริ่มกระสับกระส่ายเจ้าสำนักดาบเดือดกล่าวว

Latest chapter

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1465 คนแพศยามักจะสำออยแบบนี้แหละ

    ชายคนนั้นหยิบกระดาษทิชชู่ออกจากกระเป๋า เช็ดนิ้วด้วยความรังเกียจ แล้วเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองซูเยี่ยนั่งบนพื้นร้องไห้เสียงดัง ความฝันที่จะแต่งเข้าไปอยู่ในครอบครัวที่ร่ำรวย ได้พังทลายอีกครั้งมือที่มีเห็นข้อต่อเด่นชัดยื่นออกไปต่อหน้าซูเยี่ยซูเยี่ยเงยหน้าขึ้น แล้วก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาราวกับดาราทันทีสิ่งที่ทำให้เธอตื่นเต้นยิ่งกว่านั้นคือ ชายคนนั้นสวมเสื้อผ้าแบรนด์ดัง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขามีฐานะที่ดีหากสามารถเกาะเกี่ยวลูกเศรษฐีที่ทั้งหล่อทั้งรวยแบบนี้ได้ ถูกตบหน้าแค่ครั้งเดียวจะเป็นไรไป บางทีนี่อาจเป็นความยากลำบากทั้งหมดที่สวรรค์ส่งมาให้ ที่มาอยู่ที่นี่ ก็เพื่อให้ได้เจอกับคนที่ดีกว่าเธอสูดจมูก จับมือนั้นไว้ เพิ่งยืนขึ้นมาได้ครึ่งตัว มือก็คลายออกซูเยี่ยเสียการทรงตัว และล้มลงกับพื้นอีกครั้งเธอมองเย่จิ่งหลานด้วยความประหลาดใจ ไม่เข้าใจว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่เย่จิ่งหลานยกมุมปากขึ้น คุกเข่าลงต่อหน้าเธอ ถามด้วยรอยยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “รู้สึกยังไงที่ถูกทิ้ง?”“อะไรนะ...คุณหมายความว่ายังไง?”ซูเยี่ยถามด้วยเสียงต่ำ ดวงตาสีแดงทั้งคู่ ทำให้เขาดูมีเสน่ห์มากกว่าเมื่อก่อนนี่ไม่ใช่ฉากที่ป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1464 แพศยาอย่างเธอ

    เย่จิ่งหลานโบกมือ ประตูก็เปิดออกแสงจากด้านนอกประตูส่องเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัย ทุกคนก็เห็นหลี่ไห่ตงนอนอยู่บนพื้นทันที และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอยภัยนอนระเกะระกะอยู่ข้างๆชายหนุ่มรูปหล่อคนนี้เดินออกไปโดยไม่มีร่องรอยเลือด หรือฝุ่นผงบนร่างกายเลยทุกคนก้าวถอยหลัง มองดูเย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าหวาดกลัวเย่จิ่งหลานเดินขึ้นไปที่ลิฟต์โดยไม่หรี่ตามองในช่วงที่เขาถูกบีบให้ออกจากโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ แต่ละนาทีแต่ละวินาที เขามักจะจินตนาการถึงการทุบตีหลี่ไห่ตงอย่างรุนแรง ได้ระบายความโกรธ วันนี้ ในที่สุดเขาก็ทำได้แล้ว สำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เย่จิ่งหลานไม่อยากคิดอะไรมากเขารีบออกจากโรงพยาบาล มาที่สวนสาธารณะเล็กๆ ใกล้ ๆ มีชายชราคนหนึ่งที่อาบแดดอยู่ เย่จิ่งหลานเหลือบมองเขา และนั่งอีกด้านหนึ่งทั้งสองคนไม่ได้คุยกัน แค่พบกันโดยบังเอิญ ต่างไม่รู้จักกัน และไม่จำเป็นต้องพูดคุยกันเขาค่อยๆ ผ่อนคลายร่างกาย เอนหลังพิงเก้าอี้ หรี่ตาเหมือนที่ชายชราทำ ความอบอุ่นของดวงอาทิตย์ที่ส่องบนร่างกายของเขาช่างทำให้รู้สึกผ่อนคลายจริงๆหลังจากสงบสติอารมณ์ได้แล้ว เย่จิ่งหลานก็คิดถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาพลังลมป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1463 ฉันชื่อเย่จิ่งหลาน

    ความเจ็บปวดจากไฟฟ้า ทำให้เย่จิ่งหลานกลับมามีสติอีกครั้งหลี่ไห่ตงซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เขาไออย่างบ้าคลั่ง และมองไปที่เย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าแห่งความเกลียดชัง“ทุบตีมัน ทุบตีมันให้ตาย ตีมันตายแล้วฉันจะรับผิดชอบเอง”เมื่อเห็นว่าเย่จิ่งหลานไม่ขัดขืน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้น กระแสไฟฟ้าสีฟ้าพุ่งใส่ร่างของเย่จิ่งหลาน ทำให้ห้องรังสีวินิจฉัยที่มืดมิดสว่างไสวขึ้นมาเย่จิ่งหลานหลับตา ใช้ประสาทสัมผัสตรวจสอบอย่างระมัดระวัง และยกมุมริมฝีปากขึ้นเล็กน้อยเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของตัวเอง แต่สัมผัสได้ ความรุนแรงเท่านี้ไม่สามารถเอาชีวิตเขาได้เลย รู้สึกเหมือนกับถูกแมลงต่อยสองครั้ง ถ้าเขาจะโดนฟ้าผ่า ก็ถือว่าเป็นการได้สัมผัสประสบการณ์ล่วงหน้าเป็นเวลาสิบวินาทีเต็มๆ เขาค่อยๆ ลืมตาขึ้น ดวงตาเรียวแคบของเขาเหมือนถูกรายล้อมไปด้วยงูทองคำพ่นไฟ ดุดันน่าเกรงขาม แม้ในความมืดมิดเช่นนี้ ก็สามารถมองเห็นใบหน้าอันน่าเกลียดของทุกคนได้ชัดเจนเขาอาจจะฆ่าคนไม่ได้ แต่สามารถทุบตีพวกเขาได้ และตราบใดที่พวกเขายังหายใจอยู่ ก็ไม่ถือว่าตายเมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เขาก็ค่อ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1462 ปีศาจในชุดดำ

    “แกเป็นใคร ทำไมถึงมาทำร้ายฉัน”หลี่ไห่ตงเมื่อถูกทุ่มลงพื้นก็กรีดร้องอย่างน่าเวทนา ชายหนุ่มรูปงามตรงหน้านี้ เป็นราวกับเจ้าแห่งความตายในนรก ทำให้เขารู้สึกหวาดผวาอย่างสุดซึ้งจนแทบจะรู้สึกได้ถึงความกลัวที่มาจากจิตวิญญาณเขาไม่สงสัยเลยว่าชายคนนี้จะกล้าฆ่าเขาจริงๆหรือไม่“ฉันไม่รู้จักแกเลย แกจำคนผิดหรือเปล่า หรือคนในครอบครัวของแกอยู่ในโรงพยาบาลที่นี่ ถ้าขาดเงิน ฉันช่วยแกแก้ปัญหาได้”หลี่ไห่ตงรู้สึกว่าตัวเองยังพอมีหวัง จึงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะสร้างความประทับใจให้กับชายผมดำยุ่งเหยิงตรงหน้าเย่จิ่งหลานมองไปที่หลี่ไห่ตงอย่างเย็นชา ความทรงจำในอดีตก็หลั่งไหลกลับมาเพื่อให้ได้ทำงานในโรงพยาบาลต่อ ถึงจะนอนดึกกว่าหมา ตื่นเช้ากว่าไก่ ทำงานหนักเยี่ยงทาส ทำงานหนักมาสามปีก็ตาม แต่เพราะบังเอิญไปเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็น จึงถูกส่งไปยังโรงพยาบาลเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ตั้งแต่เช้าจรดค่ำก็ไม่เจอใคร การทำงานหนักและค่าตอบแทนทั้งหมดของเขาถูกทำลายลงเพราะไอ้สารเลวยิ่งกว่าหมาคนนี้ เขากลับอยากมีชีวิตอยู่งั้นเหรอ ในโลกนี้ จะมีเรื่องดีๆ แบบนั้นได้อย่างไรโลกไม่ยุติธรรม เช่นนั้นก็ให้เขาได้ผดุงความยุติธรรม จัดการสัตว์ร้าย

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1461 เศษสวะ

    ไอ้ชาติชั่วนี่ ใช้อุบายเก่าๆ ของเขาอีกแล้วเย่จิ่งหลานเหลือบมองแพทย์หญิง แม้ว่าเธอจะสวมหน้ากากปลอดเชื้อสีเขียว แต่ยังคงมองเห็นความไม่เต็มใจและความลังเลในดวงตาที่เหนื่อยล้าของเธอทั้งสองเดินสวนทางกัน แพทย์หญิงก็เดินเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัยข้างๆ เย่จิ่งหลานอุ้มเด็กเดินเข้าไปในห้องผ่าตัด แต่ยังคงมองย้อนกลับไปที่แพทย์หญิงคนนั้น จากนั้นก็ได้ยินเสียงคลิก ซึ่งเป็นเสียงล็อคประตู“เด็กคนนี้ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกหน้าอก ขาทั้งสองข้างก็ถูกทับ”เย่จิ่งหลานอธิบายอาการของเด็กสั้นๆ จากนั้นรีบเดินไปที่ห้องรังสีวินิจฉัย ดึงที่จับประตูบานใหญ่ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ดึงให้เปิดออกเมื่อนึกถึงไอ้คนชาติชั่วคนนั้นที่โรงพยาบาลเดิมใช้เส้นสายสารพัด ทำเหมือนกับว่าตัวเองเป็นแค่หมา สุดท้ายยังถูกเขาส่งไปยังโรงพยาบาลชุมชนที่อยู่ห่างไกลที่ไม่มีโอกาสก้าวหน้า เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธเขาออกแรง รู้สึกว่ามีแรงแปลกๆ ออกมาจากจุดตันเถียน ไปถึงท่อนแขนของเขาในทันที จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงกึก ประตูที่ถูกล็อคก็หักแกเป็นสองท่อนหลี่ไห่ตงกำลังจะกอดแพทย์หญิงคนนั้นทำเรื่องงามไส้ มีสายตามองจากข้างนอกเข้าไป อีกทั้งเรือนผมยาวส

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1460 ความคิดชั่วร้าย

    ทันใดนั้นก็มีเสียงเบรกดังมาจากด้านหน้าผู้หญิงคนหนึ่งขี่สกู๊ตเตอร์ชนจนล้มกระแทกพื้น เด็กที่อยู่ข้างหลังก็กระเด็นห่างออกไปหลายเมตรเช่นกันหน้าที่ของแพทย์ทำให้เย่จิ่งหลานเหาะไปข้างหน้า กระโดดไปหลายสิบเมตรในก้าวเดียว และลงจอดต่อหน้าผู้หญิงคนนั้นรถที่ผ่านไปมาต่างก็อึ้งกันไปหมด นี่กำลังถ่ายหนัง หรือเรื่องจริง?คนนี้ไม่มีสายสลิงผูกอยู่บนตัวนั้นา แล้วทำไมเขาถึงเหาะได้ไกลขนาดนี้ในคราวเดียวล่ะ?เย่จิ่งหลานเองก็สะดุ้งนี้...มันเป็นไปได้อย่างไรเป็นวรยุทธ์งั้นหรือเขาไม่มีเวลาคิด ก้มลงห้ามเลือดของผู้หญิงคนนั้นทันที กลิ่นเลือดปะทะเข้าจมูกของเขา หัวใจพลันสั่นขึ้นมาเล็กน้อยดูเหมือนมีบางอย่างตื่นขึ้นมา ไฝแดงระหว่างคิ้วก็สว่างวาบขึ้นเล็กน้อยมือของเขานิ่งค้าง จากนั้นเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์หลายคนก็วิ่งเข้ามา“คุณคนนี้ คุณเป็นหมอเหรอ”เย่จิ่งหลานพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว“ฉันเป็นศัลยแพทย์”คนที่ดูเหมือนพยาบาลกล่าวว่า “คนไข้ได้รับบาดเจ็บสาหัส คุณช่วยตามพวกเราไปที่รถพยาบาล ช่วยรักษาฉุกเฉินได้ไหม”เย่จิ่งหลานสูดหายใจเข้าลึกๆ“ได้”เขาก้าวเข้าไปในรถพยาบาล ผู้หญิงและเด็กถูกพาไปที่เตียงในรถพยาบาล

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1459 เรื่องด่วน

    “ไม่ ข้าไม่เคยสงสัยเจ้าเลย ข้าแค่คิดว่า เจ้าและชิงฮุยอาจไม่ได้เป็นแค่ราชาแคว้นกับขุนนางธรรมดาแบบนั้น”อินชิงเสวียนหยุดชั่วคราวและพูดว่า “แม้ว่าข้าจะไม่เข้าใจหลักการวิทยายุทธ์ของแคว้นเฟยเหยา แต่รู้ว่าวิทยายุทธ์แบบเดียวกันนั้นมักจะมีรากเหง้าเดียวกันที่สามารถใช้ค้นหาร่องรอยได้ หากเจ้าใช้ความพยายาม ก็ไม่น่าจะยากที่จะพบตัวชิงฮุย แต่ว่า ที่ข้ามาที่นี่ก็ไม่มามาถามเรื่องเขาทั้งหมด”“โอ้?”ลั่วสุ่ยชิงเงยหน้าขึ้น มองไปยังอินชิงเสวียน“ข้าอยากรู้ หากแก่นวิญญาณของเจ้าและแก่นวิญญาณของชิงฮุยมาพบกันในห้วงทะเลแห่งจิตของเย่จิ่งหลาน จะเกิดผลที่ตามมาอย่างไร”“ไม่แน่ใจ”ลั่วสุ่ยชิงพูดอย่างตรงไปตรงมา“ข้ามีลางสังหรณ์ว่าชิงฮุยอาจทำลายแก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลาน ยึดร่างกายของเขา ดังนั้นจึงซ่อนแก่นวิญญาณของตัวเองไว้ในห้วงทะเลแห่งจิตของเย่จิ่งหลาน โดยใช้วิธีเข้าฝัน...”ลั่วสุ่ยชิงคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดต่อว่า “ตามหลักการปกติทั่วไป แก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลานอาจได้รับผลกระทบ ซึ่งอาจทำให้สมองสดใสน้อยลง แต่ไม่ต้องการให้เขาหายตัวไปโดยสิ้นเชิง เมื่อข้าลองใช้วิธีการเข้าฝันอีกครั้ง แต่ข้าไม่สามารถสัมผัสถึงลมปราณของเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1458 ขายความน่ารัก

    เสี่ยวหนานเฟิงกางมือเล็กๆ ออก แล้วถามด้วยน้ำเสียงแหลมใสไร้เดียงสาว่า “ภารกิจอะไรอ่ะ”“ไปหาพี่สาวลั่ว”อินชิงเสวียนหยิบน้ำพุวิญญาณออกมาล้างมือที่สกปรกของเสี่ยวหนานเฟิง จากนั้นเช็ดด้วยผ้าเช็ดทำความสะอาดฆ่าเชื้อ“อีกประเดี๋ยวเจ้าต้องขายความน่ารัก แม่จะถือโอกาสถามอะไรบางอย่าง”เสี่ยวหนานเฟิงดูสับสน กะพริบตาโตแล้วถามว่า “ขายความน่ารักหมายความว่าอย่างไร ต้องขายให้ได้เงินมากไหม”อินชิงเสวียนหัวเราะเบาๆ“ท่าทางตอนนี้ของเจ้าก็น่ารักบ้องแบ๊วอยู่แล้ว ให้เป็นแบบนี้ต่อก็พอแล้ว”เสี่ยวหนานเฟิงตอบว่าอ้อ และทันใดนั้นก็พูดอย่างตื่นเต้น “พี่สาวลั่วทำหน้าอมทุกข์อยู่ตลอด เราเอาให้ลูกกวาดให้นางก็ได้นะ”อินชิงเสวียนพยักหน้าเห็นด้วย“อื้ม นี่เป็นความคิดที่ดี”นางโบกมือและหยิบถุงลูกกวาดมาจากมิติ“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็มอบให้พี่สาวลั่วนะ”“ตกลง”เสี่ยวหนานเฟิงยื่นมือเล็กๆ ออกมาเพื่อหยิบมัน แล้วถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนิ่ม “ลูกได้ยินจากเสด็จพ่อบอกว่าอาจิ่งหลานหายไป ท่านแม่หาลุงเจอไหม”อินชิงเสวียนถอนหายใจ “ไม่รู้ บางทีเขาอาจจะกลับไปยังที่ของตัวเองแล้ว สำหรับเขาแล้ว แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน”เสี่ยวหนานเฟิงเอียง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1457 อย่าพูดจาเหลวไหล

    “แต่ตอนนี้เราไม่ยังตามหาตัวเย่จิ่งหลานไม่พบ ยังมีวิธีอื่นใดที่จะสามารถล่อให้ศิลาตอบสวรรค์ปรากฏตัวได้หรือไม่”อินชิงเสวียนลูบคาง ปัญหาดูเหมือนจะกลับมาที่จุดเดิมนักพรตเทียนชิงกล่าวว่า “ไม่มี ศิลาตอบสวรรค์จะลงโทษคนที่ชั่วร้ายอย่างยิ่งเท่านั้น ไม่เช่นนั้นก็ไม่มีทางออกจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์”ลั่วสุ่ยชิงก็ขมวดคิ้วเช่นกัน“นี่เป็นปัญหาที่แก้ไขยากจริงๆ”อินชิงเสวียนถามอย่างสงสัย “ศิลาตอบสวรรค์จะมีประโยชน์อะไรกับชิงฮุย”ลั่วสุ่ยชิงกล่าวว่า “เขาต้องการเป็นเซียน”“อ๋า?”อินชิงเสวียนมองไปที่ลั่วสุ่ยชิงด้วยความประหลาดใจลั่วสุ่ยชิงพูดอย่างใจเย็น “ในแคว้นเฟยเหยา มีตำนานเล่าขานมาตลอด ตราบใดที่ได้รับศิลาตอบสวรรค์ ก็สามารถหลุดพ้นจากปัญจธาตุได้ สามารถข้ามผ่านวิบากกรรมและบรรลุขั้นสูงสุด บรรลุเป็นเซียน เสด็จพ่อของข้ามีความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้า ตามหาที่อยู่ของศิลาตอบสวรรค์มาโดยตลอด เมื่อแคว้นเฟยเหยาถูกบุกโจมตี เคยมีคนกระตุ้นศิลาตอบสวรรค์ แต่ถึงกระนั้น หินก้อนนั้นก็ยังคงหายไป พ่อของข้าติดตามกลิ่นอายนั้นไป จนพบแดนศักดิ์สิทธิ์ และได้สรุปว่าศิลาตอบสวรรค์อยู่ที่นั่น”“ผู้ที่เป็นคนกระตุ้นคือใคร เป็นชิ

DMCA.com Protection Status