หน้าหลัก / โรแมนติก / สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ / บทที่ 1438 เหมือนจะตกหลุมพรางแล้ว

แชร์

บทที่ 1438 เหมือนจะตกหลุมพรางแล้ว

ผู้แต่ง: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-03 16:01:03
คำพูดไม่กี่คำหลุดออกมาจากปากของเย่จิ่งหลาน น้ำเสียงนั้นราวกับหลุดมาจากขุมนรก ทำให้ทุกคนรู้สึกเย็นยะเยือก เหงื่อกาฬผุดพรายขนลุกขนชัน

วินาทีต่อมา เขาก็เริ่มลงมือ

ทุกคนไม่ต้องการทำร้ายเขา ต่างถูกจำกัดโดยทำอะไรไม่ได้มาก ทว่าเย่จิ่งหลานกลับโจมตีอย่างหมายเอาชีวิต แต่ละกระบวนท่าล้วนโจมตีไปยังจุดตาย เฮ่ออวิ๋นทงถูกซัดฝ่ามือใส่ เขากระอักเลือดออกมา ถอยหลังไปหลายก้าว ผู้อาวุโสสวีหันหลังไปช่วยประคอง แต่ก็ถูกลมฝ่ามือซัดเข้าใส่ ลมเลือดในอกพลันพลุ่งพล่าน

สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าคือ เจตนาฆ่าในตัวของพวกเขาดูเหมือนจะถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง และแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ

คนอื่นๆ ที่ต่อสู้กับเย่จิ่งหลานก็รู้สึกเช่นเดียวกัน

“อาอวี้ พวกเราเหมือนจะตกหลุมพรางแล้ว”

อินชิงเสวียนเหาะถอยหลัง ถ่ายทอดกำลังภายในเพื่อระงับเจตนาฆ่าในใจ

ชิงฮุยสามารถอดทนมาได้นานขนาดนี้แล้ว จึงไม่ใช่คนที่มีความคิดเรียบง่ายแน่นอน เป็นนางที่คิดว่าเป็นเรื่องง่ายดายเกินไป

“อืม”

ใบหน้าของเย่จิ่งอวี้เคร่งขรึม

“เสวียนเอ๋อร์พูดถูก บางทีนี่อาจเป็นผลลัพธ์ที่ชิงฮุยต้องการ”

“เราควรทำอย่างไรดี”

เซี่ยวอิ๋นหวนเริ่มกระสับกระส่าย

เจ้าสำนักดาบเดือดกล่าวว
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
ตู๋ ชมพูนุช
เริ่มจำนวน ตอนน้อยลง แค่ 2 ตอน/วัน
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1439 เหยื่อ

    คนหนึ่งยกมือขึ้นคำนับ ถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ไม่รู้ว่านักพรตมาจากสำนักใด ถึงสั่งสอนศิษย์ที่ชั่วร้ายเช่นนี้มา?”“ในเมื่อเป็นศิษย์ของนักพรต เช่นนั้นก็ควรลงมือกำจัดสิ่งสกปรกให้สะอาด”“ศิษย์จำนวนมากเสียชีวิตอย่างอนาถในหุบเขาเชื่อมเมฆา นักพรตไม่คิดจะให้คำอธิบายหน่อยหรือ?”“นั่นสิ ศิษย์ไม่ดี นับเป็นความผิดของอาจารย์ นักพรตควรทำตัวเป็นแบบอย่าง!”ในช่วงเวลาหนึ่ง ทุกคนมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน และความขัดแย้งก็กระจายเป็นวงกว้างเย่จิ่งอวี้ก้าวไปข้างหน้าและกล่าวว่า “บุตรชายทั้งเก้าของพญามังกรล้วนแตกต่างกัน แม้ว่าท่านนักพรตจะเป็นอาจารย์ แต่เราไม่สามารถรู้ใจคนอื่นได้อย่างแท้จริง ชิงฮุยมีเจตนาปกปิด ท่านนักพรตจะรู้ได้อย่างไร หรือว่าแต่ละสำนักไม่มีศิษย์กบฏในสำนักกระนั้นหรือ”ทุกคนรู้ว่าเขาคือฮ่องเต้ จึงหุบปากทันทีประชาชนจะกลัวทางการนั้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ต้องพูดถึงว่าอีกฝ่ายเป็นผู้มีอำนาจสูงสุด แม้จะอายุน้อย แต่อำนาจบารมีของเขาก็ไม่สามารถดูแคลนได้เมื่อมีความเงียบงัน คนหนึ่งก็แค่นเสียงอย่างเย็นชา “แม้ว่าเราจะเคารพเจ้าในฐานะฮ่องเต้ แต่การออกศึกที่เป่ยไห่ไม่ใช่กองทัพของราชสำนัก แม้

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1440 ทั้งบุตรชายและบุตรสาว

    เมื่อได้ยินสิ่งนี้ อินชิงเสวียนก็อดไม่ได้ที่จะปรบมือดังกึกก้องนางกังวลมาโดยตลอดว่าทุกคนต้องการฆ่าเย่จิ่งหลานเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในอนาคต แต่ฮ่องเต้หนุ่มกลับช่วยชีวิตของเย่จิ่งหลานด้วยคำพูดเพียงคำเดียว และมันก็น่าเชื่อถือและมีเหตุผลน่าฟังมากเมื่อเห็นทุกคนพยักหน้า จิตใจของอินชิงเสวียนก็ผ่อนคลายลงเฮ่อยวนยังประกบมือคำนับทุกคนและพูดว่า “วันนี้ทำให้ทุกคนตกใจเปล่า โชคดีที่ไม่ถือว่าเปล่าประโยชน์ ช่วงนี้เชิญทุกคนไปพักฟื้นและพักผ่อนให้เต็มที่ ในอนาคตอันใกล้นี้จะมีการต่อสู้ที่ยากลำบากเกิดขึ้น”ทุกคนคำนับตามมารยาทและจากไป อินชิงเสวียนก็ถามว่า “ผู้อาวุโสเทียนชิง ไม่ทราบว่าค่ายกลนี้จะมีการจำกัดเวลาหรือไม่”นักพรตเทียนชิงไม่หงุดหงิดโกรธขึ้นเพราะการตั้งคำถามของชาวยุทธ์ ยังคงมีสีหน้าสงบ พูดด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย “เรื่องนั้นไม่มีหรอก แต่ต้องเผื่อไว้ ต้องให้ใครสักคนมาเฝ้าดูแล”เฮ่อยวนกล่าวว่า “ย่อมเป็นเช่นนั้น หากท่านนักพรตไม่รังเกียจ เช่นนั้นก็อาศัยอยู่ที่อิ๋นเฉิงก่อนชั่วคราว จะได้มีคนคอยดูแล”นักพรตเทียนชิงคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ก็ดีเช่นกัน ในเมืองหลวงยังมีศิษย์อยู่หลายคน อาตมภาพได้ส่งข้อควา

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1441 เย่จิ่งหลานหลบหนี

    เฮ่อฉางเฟิงกลับมารายงาน ซึ่งได้ยินคำพูดของเหมยชิงเกอพอดี เขาอบอุ่นในหัวใจ และถอยกลับไปอย่างเงียบๆในเวลานี้ อินชิงเสวียนมาถึงด้านหน้าค่ายกลแล้วเย่จิ่งอวี้และเซี่ยวอิ๋นหวนยืนอยู่ด้านนอกค่ายกล มองดูเย่จิ่งหลานที่ถูกขังอยู่“อาอวี้ ท่านแม่ คิดหาวิธีได้แล้วหรือไม่”เซี่ยวอิ๋นหวนพูดอย่างช่วยไม่ได้ “ไม่มี”“ถ้าอย่างนั้นคงมีแต่ต้องรอเท่านั้น”อินชิงเสวียนมองไปยังเย่จิ่งหลานที่ยืนนิ่งอยู่ข้างในเหมือนรูปปั้น นางก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้าเล็กน้อยปกติแล้วเขาเป็นคนช่างพูด หากไม่ได้พูดสักครู่หนึ่ง คงอัดอั้นตันใจมาก ตอนนี้ดูเหมือนเครื่องจักรชืดๆ ดวงตาเย็นชาจนทำให้คนรู้สึกกลัวเซี่ยวอิ๋นหวนถามว่า “ถ้านักพรตเต๋าไม่มาล่ะ? ถ้าเขาสามารถทนได้นานขนาดนั้น เราจะหวังพึ่งแค่สิ่งนี้อย่างเดียวได้อย่างไร ในเมื่อเขาสามารถสร้างจิ่งหลานได้ เช่นนั้นก็สามารถสร้างคนอื่นได้เช่นกัน บางที เขาอาจทอดทิ้งจิ่งหลานแล้วก็ได้เย่จิ่งอวี้ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง“หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ เราก็ทำได้เพียงรวมกำลังกับทุกคน เพื่อดึงพลังชี่แท้ในตัวของจิ่งหลาน ออกมา และทำลายวรยุทธ์ของเขา”แม้ว่านี่จะเป็นผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุด แต่

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1442 ใบมีดสีดำ

    “เจ้าเดาถูกแล้ว ฮ่องเต้น้อยแห่งราชวงศ์โจว เราพบกันอีกแล้ว!”ชิงฮุยเดินออกจากป่าด้วยท่าทางสงบ เสื้อคลุมนักพรตสีเทาดูโทรมไปเล็กน้อย แต่ก็ซักสะอาดมาก ชายเสื้อปลิวไปตามสายลม เผยให้เห็นเสื้อคลุมสีขาวตัวกลาง อยู่ใต้เสื้อคลุม ที่พัดพลิ้วไหวอินชิงเสวียนตัดสินใจใช้สกิลปากโน้มน้าว เผื่อว่ามันจะทำให้เขาล้มเลิกความคิด และหลีกเลี่ยงการต่อสู้ได้แม้จะไร้ประโยชน์ แต่มันก็ไม่มีอะไรเสียหายนางก้าวไปข้างหน้า ประสานมือคารวะแล้วพูดว่า “นักพรตมีใบหน้าเมตตากรุณา จะต้องเป็นคนที่มีความรักอันยิ่งใหญ่อยู่ในใจ ไม่ว่าจะเป็นชาวต้าโจวหรือชาวเฟยเหยา สำหรับนักพรตแล้วพวกเขาล้วนเป็นคนธรรมดาในโลก ไม่แตกต่างกัน เหตุใดนักพรตจึงต้องยืนกรานเช่นนี้ด้วย”มุมปากของชิงฮุยยกขึ้นเล็กน้อย“ตัดสินความดีและความชั่วจากรูปลักษณ์ภายนอกจริงๆ ตั้งแต่สมัยโบราณ มีวีรบุรุษและผู้มีความสามารถจำนวนเท่าใดที่ไม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ เนื่องจากใบหน้าที่น่าเกลียดของพวกเขา กลายเป็นการเก็บงำความเกลียดชังไว้ชั่วนิรันดร์ มีอีกกี่คนที่อาศัยความงามของใบหน้า ได้เข้าไปเป็นคนใหญ่คนโต ข้าคิดว่าฮองเฮาต้าโจวจะแตกต่างออกไป คิดไม่ถึงถึงว่าจะความคิดตื้น

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1443 ใบมีดที่คาดไม่ถึง

    ทันทีที่ชิงฮุยก้าวไปข้างหน้า คนก็ถอยหลังไปหลายก้าวแล้ว ในแววตาลึกลับคู่นั้น ปรากฏความเคร่งเครียดที่เกิดขึ้นได้ยากนี่มันวิทยายุทธ์อะไรกันมีเจตนาฆ่าท่วมท้นเช่นนี้ ชั่วครู่หนึ่งก็รู้สึกขนลุกซู่ เสียวสันหลังวาบความกลัวนี้มาจากส่วนลึกของหัวใจ ทำให้ยากจะระงับมันได้!“หากเจ้ามีความสามารถขนาดนี้ ข้าก็ไม่มีอะไรจะบ่น”ทันทีที่ชิงฮุยพูดจบ ร่างของเย่จิ่งหลานก็หายวับ และมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว“จิ่งหลาน!”เย่จิ่งอวี้รู้ถึงอานุภาพของใบมีดดำทะมึน ตะโกนลั่นอย่างไรก็ตามเย่จิ่งหลานยังคงไม่ไหวติง ค่อยๆ ยกมือขึ้น แสดงท่าทีที่พร้อมจะโจมตี“ชิงเสวียน! อย่าเพิ่งวู่วาม!”เมื่อมองไปที่ใบมีดดำทะมึนที่กำลังค้นหาทิศทางที่เหมาะสมบนท้องฟ้าไม่หยุด เย่จิ่งอวี้ก็อดไม่ได้ที่จะตื่นตระหนก!อินชิงเสวียนย่อมไม่อาจลงมือได้อยู่แล้ว หากไม่นับความสัมพันธ์ที่เป็นคนบ้านเดียวกัน เย่จิ่งหลานก็ช่วยนางไว้มากมาย ถ้าฆ่าเขา ตัวเองจะไม่กลายเป็นคนใจคอเหี้ยมโหดหรอกหรือแต่ใบหน้ายังคงเย็นชา “เพื่อความปลอดภัยของต้าโจว จะเสียสละใครสักคนก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ถ้าเย่จิ่งหลานที่อยู่ในยมโลกรู้เข้า ก็คงจะยิ้มได้อย่างมีความสุขในห

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1444 ชิงฮุยตายแล้วงั้นหรือ

    ชิงฮุยถูกฝ่ามือของเย่จิ่งอวี้บีบให้เบี่ยงตัวหลบไปอีกด้าน แต่เย่จิ่งหลานกลับยืนนิ่งไม่ไหวติง โอกาสมาถึงแล้ว!อินชิงเสวียนนึกในใจ ใบมีดดำทะมึนแห่งมิติก็ลอยออกไปอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า พุ่งฟันใส่ชิงฮุยด้วยพลังที่บ้าคลั่งและแข็งกร้าว!ความเร็วนั้นเร็วมาก ภายในชั่วพริบตา คนที่อยู่ข้างหลังยังมองไม่ทันว่าใบมีดลอยออกไปได้อย่างไร จนกระทั่งได้ยินเสียงร้องโอดโอยของชิงฮุยเมื่อปราณใบมีดกระจายออกไป ก็ไม่มีร่องรอยของชิงฮุยเลย ผงเถ้าสีดำลอยตกลงบนพื้น ซึ่งดูเหมือนเศษเนื้อและเสื้อผ้าเก่อหงยวนเข้ามาดู ถามขึ้นอย่างอดไม่ได้ว่า “ตายแล้วหรือ”หรือว่านี่ก็คือคำที่เล่าลือกันว่ากลายเป็นผุยผง?อินชิงเสวียนสั่นศีรษะ นางก็ไม่รู้ระหว่างนางกับใบมีดดำทะมึน ไม่มีความรู้สึกเช่นนั้นเลยต่งจื่ออวี๋เกาหัว เดินเข้าไปแล้วพูดว่า “กลายเป็นเถ้าถ่านขนาดนี้แล้ว เป็นไปได้มากว่า...ตายแล้ว”เฮ่อฉางเฟิงกล่าวว่า “ตายซะก็ดี”อินชิงเสวียนหมุนตัวกลับมา ใบมีดทะมึนแห่งมิติก็มุ่งเป้าไปที่เฮ่อฉางเฟิงทันทีเจ้าเมืองน้อยเฮ่อสะดุ้งเฮือก รีบโบกไม้โบกมือเป็นระวิง“นี่ไม่ใช่เรื่องตลก อย่าทำแบบนั้นกับพี่สิ”เก่อหงยวน จู่ๆ ก็หัวเรา

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1445 คราวหน้าเจอกัน นางต้องตาย

    ลั่วสุ่ยชิงขมวดคิ้ว“เรื่องนี้ตอนนี้ข้ายังทำไม่ได้”“ในเมมื่อชิงฮุยไม่ใช่เชื้อสายราชวงศ์ เช่นนั้นวิชาอาคมทั้งหมดของเขา เจ้าก็ควรรู้ทั้งหมดสิ?”อินชิงเสวียนรู้สึกสับสนกับสิ่งนี้มากลั่วสุ่ยชิงจิบน้ำพุวิญญาณ“ในทางทฤษฎีก็เป็นจริงเช่นนั้น แต่ในทางปฏิบัติกลับมีความคลาดเคลื่อนบางอย่าง ข้าไม่เคยเห็นวรยุทธ์หลายอย่างของชิงฮุย และมีบางส่วนที่พบได้ในเคล็ดวิชาลับของราชวงศ์เท่านั้น ข้าไม่รู้ว่าเขาเรียนจากที่ไหน และ...”ลั่วสุ่ยชิงลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “เย่จิ่งหลานยังได้เรียนรู้วรยุทธ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของบิดาข้าด้วยซ้ำ ซึ่งจุดนี้ทำให้ข้าสงสัยยิ่งนัก”อินชิงเสวียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง“ชิงฮุยอาจใช้วิธีการบางอย่างเพื่อถ่ายทอดให้เขา ในเมื่อเขาสามารถควบคุมจิตสำนึกทั้งหมดของเย่จิ่งหลานได้ การถ่ายทอดวรยุทธ์จึงไม่น่าจะเป็นเรื่องยาก”จากความเข้าใจของอินชิงเสวียน มันก็เหมือนกับคอมพิวเตอร์สองเครื่องที่อยู่ในเครือข่ายเดียวกัน การถ่ายโอนไฟล์ถึงกัน ก็คงค่อนข้างง่าย“แต่เป็นไปไม่ได้ที่ชิงฮุยจะได้รู้วรยุทธ์นี้”ยิ่งลั่วสุ่ยชิงคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเท่าใด นางก็ยิ่งสงสัยมากขึ้นเท่านั้น นางยังมีความค

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1446 ภาพในห้วงทะเลแห่งจิต

    ชิงฮุยระงับความคิดที่วุ่นวาย หลับตาโคจรลมปราณชั่วพริบตา พระจันทร์ก็เคลื่อนมาถึงยอดไม้แล้วเย่จิ่งหลานยังคงยืนนิ่งไม่ไหวติงอยู่ข้างๆ ราวกับเป็นศพที่ไร้ชีวิต แม้แต่การสะท้อนขึ้นลงของหน้าอก ยังเนิบช้ายิ่งนักการใช้กำลังภายในระงับ ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของชิงฮุยได้เล็กน้อย จากนั้นก็มุ่งความสนใจไปที่เย่จิ่งหลานทันทีตอนนี้เย่จิ่งหลานถูกชิงฮุยควบคุมอย่างสมบูรณ์ จิตสำนึกถูกบังคับให้เข้าสู่ส่วนที่ลึกที่สุดของห้วงทะเลแห่งจิต หากสามารถยึดครองจิตวิญญาณได้ในเวลานี้ ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาบรรพบุรุษของแคว้นเฟยเหยาเดิมทีมีพลังยิ่งใหญ่ในการบำเพ็ญตบะ ถ้าไม่เช่นนั้น พวกเขาคงไม่สามารถถ่ายทอดเล่ห์กลมนต์คาถามากมายขนาดนี้ได้ ลั่วสุ่ยชิงสามารถปลงสังขาร ฝึกฝนแก่นวิญญาณได้ และชิงฮุยก็สามารถทำได้เช่นเดียวกันอย่างไรก็ตาม ทันทีที่จิตสำนึกสัมผัสร่างกายของเย่จิ่งหลาน ก็ถูกพลังชนิดหนึ่งทำให้เด้งกลับออกมาชิงฮุยสะดุ้งเล็กน้อย หรือว่าเขาตื่นแล้ว?ครั้นจึงออกคำสั่งในใจกับเย่จิ่งหลานทันทีเย่จิ่งหลานเดินเคลื่อนไหวไปครู่หนึ่ง แล้วหยุดลงสีหน้าของชิงฮุยเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาไม่สามารถควบคุมเย่จิ่งหลานได้อย่างสมบูรณ์

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1465 คนแพศยามักจะสำออยแบบนี้แหละ

    ชายคนนั้นหยิบกระดาษทิชชู่ออกจากกระเป๋า เช็ดนิ้วด้วยความรังเกียจ แล้วเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองซูเยี่ยนั่งบนพื้นร้องไห้เสียงดัง ความฝันที่จะแต่งเข้าไปอยู่ในครอบครัวที่ร่ำรวย ได้พังทลายอีกครั้งมือที่มีเห็นข้อต่อเด่นชัดยื่นออกไปต่อหน้าซูเยี่ยซูเยี่ยเงยหน้าขึ้น แล้วก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาราวกับดาราทันทีสิ่งที่ทำให้เธอตื่นเต้นยิ่งกว่านั้นคือ ชายคนนั้นสวมเสื้อผ้าแบรนด์ดัง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขามีฐานะที่ดีหากสามารถเกาะเกี่ยวลูกเศรษฐีที่ทั้งหล่อทั้งรวยแบบนี้ได้ ถูกตบหน้าแค่ครั้งเดียวจะเป็นไรไป บางทีนี่อาจเป็นความยากลำบากทั้งหมดที่สวรรค์ส่งมาให้ ที่มาอยู่ที่นี่ ก็เพื่อให้ได้เจอกับคนที่ดีกว่าเธอสูดจมูก จับมือนั้นไว้ เพิ่งยืนขึ้นมาได้ครึ่งตัว มือก็คลายออกซูเยี่ยเสียการทรงตัว และล้มลงกับพื้นอีกครั้งเธอมองเย่จิ่งหลานด้วยความประหลาดใจ ไม่เข้าใจว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่เย่จิ่งหลานยกมุมปากขึ้น คุกเข่าลงต่อหน้าเธอ ถามด้วยรอยยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “รู้สึกยังไงที่ถูกทิ้ง?”“อะไรนะ...คุณหมายความว่ายังไง?”ซูเยี่ยถามด้วยเสียงต่ำ ดวงตาสีแดงทั้งคู่ ทำให้เขาดูมีเสน่ห์มากกว่าเมื่อก่อนนี่ไม่ใช่ฉากที่ป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1464 แพศยาอย่างเธอ

    เย่จิ่งหลานโบกมือ ประตูก็เปิดออกแสงจากด้านนอกประตูส่องเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัย ทุกคนก็เห็นหลี่ไห่ตงนอนอยู่บนพื้นทันที และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอยภัยนอนระเกะระกะอยู่ข้างๆชายหนุ่มรูปหล่อคนนี้เดินออกไปโดยไม่มีร่องรอยเลือด หรือฝุ่นผงบนร่างกายเลยทุกคนก้าวถอยหลัง มองดูเย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าหวาดกลัวเย่จิ่งหลานเดินขึ้นไปที่ลิฟต์โดยไม่หรี่ตามองในช่วงที่เขาถูกบีบให้ออกจากโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ แต่ละนาทีแต่ละวินาที เขามักจะจินตนาการถึงการทุบตีหลี่ไห่ตงอย่างรุนแรง ได้ระบายความโกรธ วันนี้ ในที่สุดเขาก็ทำได้แล้ว สำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เย่จิ่งหลานไม่อยากคิดอะไรมากเขารีบออกจากโรงพยาบาล มาที่สวนสาธารณะเล็กๆ ใกล้ ๆ มีชายชราคนหนึ่งที่อาบแดดอยู่ เย่จิ่งหลานเหลือบมองเขา และนั่งอีกด้านหนึ่งทั้งสองคนไม่ได้คุยกัน แค่พบกันโดยบังเอิญ ต่างไม่รู้จักกัน และไม่จำเป็นต้องพูดคุยกันเขาค่อยๆ ผ่อนคลายร่างกาย เอนหลังพิงเก้าอี้ หรี่ตาเหมือนที่ชายชราทำ ความอบอุ่นของดวงอาทิตย์ที่ส่องบนร่างกายของเขาช่างทำให้รู้สึกผ่อนคลายจริงๆหลังจากสงบสติอารมณ์ได้แล้ว เย่จิ่งหลานก็คิดถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาพลังลมป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1463 ฉันชื่อเย่จิ่งหลาน

    ความเจ็บปวดจากไฟฟ้า ทำให้เย่จิ่งหลานกลับมามีสติอีกครั้งหลี่ไห่ตงซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เขาไออย่างบ้าคลั่ง และมองไปที่เย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าแห่งความเกลียดชัง“ทุบตีมัน ทุบตีมันให้ตาย ตีมันตายแล้วฉันจะรับผิดชอบเอง”เมื่อเห็นว่าเย่จิ่งหลานไม่ขัดขืน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้น กระแสไฟฟ้าสีฟ้าพุ่งใส่ร่างของเย่จิ่งหลาน ทำให้ห้องรังสีวินิจฉัยที่มืดมิดสว่างไสวขึ้นมาเย่จิ่งหลานหลับตา ใช้ประสาทสัมผัสตรวจสอบอย่างระมัดระวัง และยกมุมริมฝีปากขึ้นเล็กน้อยเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของตัวเอง แต่สัมผัสได้ ความรุนแรงเท่านี้ไม่สามารถเอาชีวิตเขาได้เลย รู้สึกเหมือนกับถูกแมลงต่อยสองครั้ง ถ้าเขาจะโดนฟ้าผ่า ก็ถือว่าเป็นการได้สัมผัสประสบการณ์ล่วงหน้าเป็นเวลาสิบวินาทีเต็มๆ เขาค่อยๆ ลืมตาขึ้น ดวงตาเรียวแคบของเขาเหมือนถูกรายล้อมไปด้วยงูทองคำพ่นไฟ ดุดันน่าเกรงขาม แม้ในความมืดมิดเช่นนี้ ก็สามารถมองเห็นใบหน้าอันน่าเกลียดของทุกคนได้ชัดเจนเขาอาจจะฆ่าคนไม่ได้ แต่สามารถทุบตีพวกเขาได้ และตราบใดที่พวกเขายังหายใจอยู่ ก็ไม่ถือว่าตายเมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เขาก็ค่อ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1462 ปีศาจในชุดดำ

    “แกเป็นใคร ทำไมถึงมาทำร้ายฉัน”หลี่ไห่ตงเมื่อถูกทุ่มลงพื้นก็กรีดร้องอย่างน่าเวทนา ชายหนุ่มรูปงามตรงหน้านี้ เป็นราวกับเจ้าแห่งความตายในนรก ทำให้เขารู้สึกหวาดผวาอย่างสุดซึ้งจนแทบจะรู้สึกได้ถึงความกลัวที่มาจากจิตวิญญาณเขาไม่สงสัยเลยว่าชายคนนี้จะกล้าฆ่าเขาจริงๆหรือไม่“ฉันไม่รู้จักแกเลย แกจำคนผิดหรือเปล่า หรือคนในครอบครัวของแกอยู่ในโรงพยาบาลที่นี่ ถ้าขาดเงิน ฉันช่วยแกแก้ปัญหาได้”หลี่ไห่ตงรู้สึกว่าตัวเองยังพอมีหวัง จึงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะสร้างความประทับใจให้กับชายผมดำยุ่งเหยิงตรงหน้าเย่จิ่งหลานมองไปที่หลี่ไห่ตงอย่างเย็นชา ความทรงจำในอดีตก็หลั่งไหลกลับมาเพื่อให้ได้ทำงานในโรงพยาบาลต่อ ถึงจะนอนดึกกว่าหมา ตื่นเช้ากว่าไก่ ทำงานหนักเยี่ยงทาส ทำงานหนักมาสามปีก็ตาม แต่เพราะบังเอิญไปเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็น จึงถูกส่งไปยังโรงพยาบาลเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ตั้งแต่เช้าจรดค่ำก็ไม่เจอใคร การทำงานหนักและค่าตอบแทนทั้งหมดของเขาถูกทำลายลงเพราะไอ้สารเลวยิ่งกว่าหมาคนนี้ เขากลับอยากมีชีวิตอยู่งั้นเหรอ ในโลกนี้ จะมีเรื่องดีๆ แบบนั้นได้อย่างไรโลกไม่ยุติธรรม เช่นนั้นก็ให้เขาได้ผดุงความยุติธรรม จัดการสัตว์ร้าย

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1461 เศษสวะ

    ไอ้ชาติชั่วนี่ ใช้อุบายเก่าๆ ของเขาอีกแล้วเย่จิ่งหลานเหลือบมองแพทย์หญิง แม้ว่าเธอจะสวมหน้ากากปลอดเชื้อสีเขียว แต่ยังคงมองเห็นความไม่เต็มใจและความลังเลในดวงตาที่เหนื่อยล้าของเธอทั้งสองเดินสวนทางกัน แพทย์หญิงก็เดินเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัยข้างๆ เย่จิ่งหลานอุ้มเด็กเดินเข้าไปในห้องผ่าตัด แต่ยังคงมองย้อนกลับไปที่แพทย์หญิงคนนั้น จากนั้นก็ได้ยินเสียงคลิก ซึ่งเป็นเสียงล็อคประตู“เด็กคนนี้ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกหน้าอก ขาทั้งสองข้างก็ถูกทับ”เย่จิ่งหลานอธิบายอาการของเด็กสั้นๆ จากนั้นรีบเดินไปที่ห้องรังสีวินิจฉัย ดึงที่จับประตูบานใหญ่ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ดึงให้เปิดออกเมื่อนึกถึงไอ้คนชาติชั่วคนนั้นที่โรงพยาบาลเดิมใช้เส้นสายสารพัด ทำเหมือนกับว่าตัวเองเป็นแค่หมา สุดท้ายยังถูกเขาส่งไปยังโรงพยาบาลชุมชนที่อยู่ห่างไกลที่ไม่มีโอกาสก้าวหน้า เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธเขาออกแรง รู้สึกว่ามีแรงแปลกๆ ออกมาจากจุดตันเถียน ไปถึงท่อนแขนของเขาในทันที จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงกึก ประตูที่ถูกล็อคก็หักแกเป็นสองท่อนหลี่ไห่ตงกำลังจะกอดแพทย์หญิงคนนั้นทำเรื่องงามไส้ มีสายตามองจากข้างนอกเข้าไป อีกทั้งเรือนผมยาวส

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1460 ความคิดชั่วร้าย

    ทันใดนั้นก็มีเสียงเบรกดังมาจากด้านหน้าผู้หญิงคนหนึ่งขี่สกู๊ตเตอร์ชนจนล้มกระแทกพื้น เด็กที่อยู่ข้างหลังก็กระเด็นห่างออกไปหลายเมตรเช่นกันหน้าที่ของแพทย์ทำให้เย่จิ่งหลานเหาะไปข้างหน้า กระโดดไปหลายสิบเมตรในก้าวเดียว และลงจอดต่อหน้าผู้หญิงคนนั้นรถที่ผ่านไปมาต่างก็อึ้งกันไปหมด นี่กำลังถ่ายหนัง หรือเรื่องจริง?คนนี้ไม่มีสายสลิงผูกอยู่บนตัวนั้นา แล้วทำไมเขาถึงเหาะได้ไกลขนาดนี้ในคราวเดียวล่ะ?เย่จิ่งหลานเองก็สะดุ้งนี้...มันเป็นไปได้อย่างไรเป็นวรยุทธ์งั้นหรือเขาไม่มีเวลาคิด ก้มลงห้ามเลือดของผู้หญิงคนนั้นทันที กลิ่นเลือดปะทะเข้าจมูกของเขา หัวใจพลันสั่นขึ้นมาเล็กน้อยดูเหมือนมีบางอย่างตื่นขึ้นมา ไฝแดงระหว่างคิ้วก็สว่างวาบขึ้นเล็กน้อยมือของเขานิ่งค้าง จากนั้นเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์หลายคนก็วิ่งเข้ามา“คุณคนนี้ คุณเป็นหมอเหรอ”เย่จิ่งหลานพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว“ฉันเป็นศัลยแพทย์”คนที่ดูเหมือนพยาบาลกล่าวว่า “คนไข้ได้รับบาดเจ็บสาหัส คุณช่วยตามพวกเราไปที่รถพยาบาล ช่วยรักษาฉุกเฉินได้ไหม”เย่จิ่งหลานสูดหายใจเข้าลึกๆ“ได้”เขาก้าวเข้าไปในรถพยาบาล ผู้หญิงและเด็กถูกพาไปที่เตียงในรถพยาบาล

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1459 เรื่องด่วน

    “ไม่ ข้าไม่เคยสงสัยเจ้าเลย ข้าแค่คิดว่า เจ้าและชิงฮุยอาจไม่ได้เป็นแค่ราชาแคว้นกับขุนนางธรรมดาแบบนั้น”อินชิงเสวียนหยุดชั่วคราวและพูดว่า “แม้ว่าข้าจะไม่เข้าใจหลักการวิทยายุทธ์ของแคว้นเฟยเหยา แต่รู้ว่าวิทยายุทธ์แบบเดียวกันนั้นมักจะมีรากเหง้าเดียวกันที่สามารถใช้ค้นหาร่องรอยได้ หากเจ้าใช้ความพยายาม ก็ไม่น่าจะยากที่จะพบตัวชิงฮุย แต่ว่า ที่ข้ามาที่นี่ก็ไม่มามาถามเรื่องเขาทั้งหมด”“โอ้?”ลั่วสุ่ยชิงเงยหน้าขึ้น มองไปยังอินชิงเสวียน“ข้าอยากรู้ หากแก่นวิญญาณของเจ้าและแก่นวิญญาณของชิงฮุยมาพบกันในห้วงทะเลแห่งจิตของเย่จิ่งหลาน จะเกิดผลที่ตามมาอย่างไร”“ไม่แน่ใจ”ลั่วสุ่ยชิงพูดอย่างตรงไปตรงมา“ข้ามีลางสังหรณ์ว่าชิงฮุยอาจทำลายแก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลาน ยึดร่างกายของเขา ดังนั้นจึงซ่อนแก่นวิญญาณของตัวเองไว้ในห้วงทะเลแห่งจิตของเย่จิ่งหลาน โดยใช้วิธีเข้าฝัน...”ลั่วสุ่ยชิงคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดต่อว่า “ตามหลักการปกติทั่วไป แก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลานอาจได้รับผลกระทบ ซึ่งอาจทำให้สมองสดใสน้อยลง แต่ไม่ต้องการให้เขาหายตัวไปโดยสิ้นเชิง เมื่อข้าลองใช้วิธีการเข้าฝันอีกครั้ง แต่ข้าไม่สามารถสัมผัสถึงลมปราณของเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1458 ขายความน่ารัก

    เสี่ยวหนานเฟิงกางมือเล็กๆ ออก แล้วถามด้วยน้ำเสียงแหลมใสไร้เดียงสาว่า “ภารกิจอะไรอ่ะ”“ไปหาพี่สาวลั่ว”อินชิงเสวียนหยิบน้ำพุวิญญาณออกมาล้างมือที่สกปรกของเสี่ยวหนานเฟิง จากนั้นเช็ดด้วยผ้าเช็ดทำความสะอาดฆ่าเชื้อ“อีกประเดี๋ยวเจ้าต้องขายความน่ารัก แม่จะถือโอกาสถามอะไรบางอย่าง”เสี่ยวหนานเฟิงดูสับสน กะพริบตาโตแล้วถามว่า “ขายความน่ารักหมายความว่าอย่างไร ต้องขายให้ได้เงินมากไหม”อินชิงเสวียนหัวเราะเบาๆ“ท่าทางตอนนี้ของเจ้าก็น่ารักบ้องแบ๊วอยู่แล้ว ให้เป็นแบบนี้ต่อก็พอแล้ว”เสี่ยวหนานเฟิงตอบว่าอ้อ และทันใดนั้นก็พูดอย่างตื่นเต้น “พี่สาวลั่วทำหน้าอมทุกข์อยู่ตลอด เราเอาให้ลูกกวาดให้นางก็ได้นะ”อินชิงเสวียนพยักหน้าเห็นด้วย“อื้ม นี่เป็นความคิดที่ดี”นางโบกมือและหยิบถุงลูกกวาดมาจากมิติ“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็มอบให้พี่สาวลั่วนะ”“ตกลง”เสี่ยวหนานเฟิงยื่นมือเล็กๆ ออกมาเพื่อหยิบมัน แล้วถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนิ่ม “ลูกได้ยินจากเสด็จพ่อบอกว่าอาจิ่งหลานหายไป ท่านแม่หาลุงเจอไหม”อินชิงเสวียนถอนหายใจ “ไม่รู้ บางทีเขาอาจจะกลับไปยังที่ของตัวเองแล้ว สำหรับเขาแล้ว แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน”เสี่ยวหนานเฟิงเอียง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1457 อย่าพูดจาเหลวไหล

    “แต่ตอนนี้เราไม่ยังตามหาตัวเย่จิ่งหลานไม่พบ ยังมีวิธีอื่นใดที่จะสามารถล่อให้ศิลาตอบสวรรค์ปรากฏตัวได้หรือไม่”อินชิงเสวียนลูบคาง ปัญหาดูเหมือนจะกลับมาที่จุดเดิมนักพรตเทียนชิงกล่าวว่า “ไม่มี ศิลาตอบสวรรค์จะลงโทษคนที่ชั่วร้ายอย่างยิ่งเท่านั้น ไม่เช่นนั้นก็ไม่มีทางออกจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์”ลั่วสุ่ยชิงก็ขมวดคิ้วเช่นกัน“นี่เป็นปัญหาที่แก้ไขยากจริงๆ”อินชิงเสวียนถามอย่างสงสัย “ศิลาตอบสวรรค์จะมีประโยชน์อะไรกับชิงฮุย”ลั่วสุ่ยชิงกล่าวว่า “เขาต้องการเป็นเซียน”“อ๋า?”อินชิงเสวียนมองไปที่ลั่วสุ่ยชิงด้วยความประหลาดใจลั่วสุ่ยชิงพูดอย่างใจเย็น “ในแคว้นเฟยเหยา มีตำนานเล่าขานมาตลอด ตราบใดที่ได้รับศิลาตอบสวรรค์ ก็สามารถหลุดพ้นจากปัญจธาตุได้ สามารถข้ามผ่านวิบากกรรมและบรรลุขั้นสูงสุด บรรลุเป็นเซียน เสด็จพ่อของข้ามีความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้า ตามหาที่อยู่ของศิลาตอบสวรรค์มาโดยตลอด เมื่อแคว้นเฟยเหยาถูกบุกโจมตี เคยมีคนกระตุ้นศิลาตอบสวรรค์ แต่ถึงกระนั้น หินก้อนนั้นก็ยังคงหายไป พ่อของข้าติดตามกลิ่นอายนั้นไป จนพบแดนศักดิ์สิทธิ์ และได้สรุปว่าศิลาตอบสวรรค์อยู่ที่นั่น”“ผู้ที่เป็นคนกระตุ้นคือใคร เป็นชิ

DMCA.com Protection Status