แชร์

บทที่ 1442 ใบมีดสีดำ

ผู้แต่ง: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-05 16:01:05
“เจ้าเดาถูกแล้ว ฮ่องเต้น้อยแห่งราชวงศ์โจว เราพบกันอีกแล้ว!”

ชิงฮุยเดินออกจากป่าด้วยท่าทางสงบ เสื้อคลุมนักพรตสีเทาดูโทรมไปเล็กน้อย แต่ก็ซักสะอาดมาก ชายเสื้อปลิวไปตามสายลม เผยให้เห็นเสื้อคลุมสีขาวตัวกลาง อยู่ใต้เสื้อคลุม ที่พัดพลิ้วไหว

อินชิงเสวียนตัดสินใจใช้สกิลปากโน้มน้าว เผื่อว่ามันจะทำให้เขาล้มเลิกความคิด และหลีกเลี่ยงการต่อสู้ได้

แม้จะไร้ประโยชน์ แต่มันก็ไม่มีอะไรเสียหาย

นางก้าวไปข้างหน้า ประสานมือคารวะแล้วพูดว่า “นักพรตมีใบหน้าเมตตากรุณา จะต้องเป็นคนที่มีความรักอันยิ่งใหญ่อยู่ในใจ ไม่ว่าจะเป็นชาวต้าโจวหรือชาวเฟยเหยา สำหรับนักพรตแล้วพวกเขาล้วนเป็นคนธรรมดาในโลก ไม่แตกต่างกัน เหตุใดนักพรตจึงต้องยืนกรานเช่นนี้ด้วย”

มุมปากของชิงฮุยยกขึ้นเล็กน้อย

“ตัดสินความดีและความชั่วจากรูปลักษณ์ภายนอกจริงๆ ตั้งแต่สมัยโบราณ มีวีรบุรุษและผู้มีความสามารถจำนวนเท่าใดที่ไม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ เนื่องจากใบหน้าที่น่าเกลียดของพวกเขา กลายเป็นการเก็บงำความเกลียดชังไว้ชั่วนิรันดร์ มีอีกกี่คนที่อาศัยความงามของใบหน้า ได้เข้าไปเป็นคนใหญ่คนโต ข้าคิดว่าฮองเฮาต้าโจวจะแตกต่างออกไป คิดไม่ถึงถึงว่าจะความคิดตื้น
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (5)
goodnovel comment avatar
Watcharee Rakyeam
ไม่อัพซะงั้น
goodnovel comment avatar
มลทิรา พูลทัศน์
วันนี้ไม่อัพเดทหรอ รอตั้งแต่บ่าย3โมง
goodnovel comment avatar
ตู๋ ชมพูนุช
วันนี้ ไม่มี รึ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1443 ใบมีดที่คาดไม่ถึง

    ทันทีที่ชิงฮุยก้าวไปข้างหน้า คนก็ถอยหลังไปหลายก้าวแล้ว ในแววตาลึกลับคู่นั้น ปรากฏความเคร่งเครียดที่เกิดขึ้นได้ยากนี่มันวิทยายุทธ์อะไรกันมีเจตนาฆ่าท่วมท้นเช่นนี้ ชั่วครู่หนึ่งก็รู้สึกขนลุกซู่ เสียวสันหลังวาบความกลัวนี้มาจากส่วนลึกของหัวใจ ทำให้ยากจะระงับมันได้!“หากเจ้ามีความสามารถขนาดนี้ ข้าก็ไม่มีอะไรจะบ่น”ทันทีที่ชิงฮุยพูดจบ ร่างของเย่จิ่งหลานก็หายวับ และมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว“จิ่งหลาน!”เย่จิ่งอวี้รู้ถึงอานุภาพของใบมีดดำทะมึน ตะโกนลั่นอย่างไรก็ตามเย่จิ่งหลานยังคงไม่ไหวติง ค่อยๆ ยกมือขึ้น แสดงท่าทีที่พร้อมจะโจมตี“ชิงเสวียน! อย่าเพิ่งวู่วาม!”เมื่อมองไปที่ใบมีดดำทะมึนที่กำลังค้นหาทิศทางที่เหมาะสมบนท้องฟ้าไม่หยุด เย่จิ่งอวี้ก็อดไม่ได้ที่จะตื่นตระหนก!อินชิงเสวียนย่อมไม่อาจลงมือได้อยู่แล้ว หากไม่นับความสัมพันธ์ที่เป็นคนบ้านเดียวกัน เย่จิ่งหลานก็ช่วยนางไว้มากมาย ถ้าฆ่าเขา ตัวเองจะไม่กลายเป็นคนใจคอเหี้ยมโหดหรอกหรือแต่ใบหน้ายังคงเย็นชา “เพื่อความปลอดภัยของต้าโจว จะเสียสละใครสักคนก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ถ้าเย่จิ่งหลานที่อยู่ในยมโลกรู้เข้า ก็คงจะยิ้มได้อย่างมีความสุขในห

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1444 ชิงฮุยตายแล้วงั้นหรือ

    ชิงฮุยถูกฝ่ามือของเย่จิ่งอวี้บีบให้เบี่ยงตัวหลบไปอีกด้าน แต่เย่จิ่งหลานกลับยืนนิ่งไม่ไหวติง โอกาสมาถึงแล้ว!อินชิงเสวียนนึกในใจ ใบมีดดำทะมึนแห่งมิติก็ลอยออกไปอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า พุ่งฟันใส่ชิงฮุยด้วยพลังที่บ้าคลั่งและแข็งกร้าว!ความเร็วนั้นเร็วมาก ภายในชั่วพริบตา คนที่อยู่ข้างหลังยังมองไม่ทันว่าใบมีดลอยออกไปได้อย่างไร จนกระทั่งได้ยินเสียงร้องโอดโอยของชิงฮุยเมื่อปราณใบมีดกระจายออกไป ก็ไม่มีร่องรอยของชิงฮุยเลย ผงเถ้าสีดำลอยตกลงบนพื้น ซึ่งดูเหมือนเศษเนื้อและเสื้อผ้าเก่อหงยวนเข้ามาดู ถามขึ้นอย่างอดไม่ได้ว่า “ตายแล้วหรือ”หรือว่านี่ก็คือคำที่เล่าลือกันว่ากลายเป็นผุยผง?อินชิงเสวียนสั่นศีรษะ นางก็ไม่รู้ระหว่างนางกับใบมีดดำทะมึน ไม่มีความรู้สึกเช่นนั้นเลยต่งจื่ออวี๋เกาหัว เดินเข้าไปแล้วพูดว่า “กลายเป็นเถ้าถ่านขนาดนี้แล้ว เป็นไปได้มากว่า...ตายแล้ว”เฮ่อฉางเฟิงกล่าวว่า “ตายซะก็ดี”อินชิงเสวียนหมุนตัวกลับมา ใบมีดทะมึนแห่งมิติก็มุ่งเป้าไปที่เฮ่อฉางเฟิงทันทีเจ้าเมืองน้อยเฮ่อสะดุ้งเฮือก รีบโบกไม้โบกมือเป็นระวิง“นี่ไม่ใช่เรื่องตลก อย่าทำแบบนั้นกับพี่สิ”เก่อหงยวน จู่ๆ ก็หัวเรา

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1445 คราวหน้าเจอกัน นางต้องตาย

    ลั่วสุ่ยชิงขมวดคิ้ว“เรื่องนี้ตอนนี้ข้ายังทำไม่ได้”“ในเมมื่อชิงฮุยไม่ใช่เชื้อสายราชวงศ์ เช่นนั้นวิชาอาคมทั้งหมดของเขา เจ้าก็ควรรู้ทั้งหมดสิ?”อินชิงเสวียนรู้สึกสับสนกับสิ่งนี้มากลั่วสุ่ยชิงจิบน้ำพุวิญญาณ“ในทางทฤษฎีก็เป็นจริงเช่นนั้น แต่ในทางปฏิบัติกลับมีความคลาดเคลื่อนบางอย่าง ข้าไม่เคยเห็นวรยุทธ์หลายอย่างของชิงฮุย และมีบางส่วนที่พบได้ในเคล็ดวิชาลับของราชวงศ์เท่านั้น ข้าไม่รู้ว่าเขาเรียนจากที่ไหน และ...”ลั่วสุ่ยชิงลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “เย่จิ่งหลานยังได้เรียนรู้วรยุทธ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของบิดาข้าด้วยซ้ำ ซึ่งจุดนี้ทำให้ข้าสงสัยยิ่งนัก”อินชิงเสวียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง“ชิงฮุยอาจใช้วิธีการบางอย่างเพื่อถ่ายทอดให้เขา ในเมื่อเขาสามารถควบคุมจิตสำนึกทั้งหมดของเย่จิ่งหลานได้ การถ่ายทอดวรยุทธ์จึงไม่น่าจะเป็นเรื่องยาก”จากความเข้าใจของอินชิงเสวียน มันก็เหมือนกับคอมพิวเตอร์สองเครื่องที่อยู่ในเครือข่ายเดียวกัน การถ่ายโอนไฟล์ถึงกัน ก็คงค่อนข้างง่าย“แต่เป็นไปไม่ได้ที่ชิงฮุยจะได้รู้วรยุทธ์นี้”ยิ่งลั่วสุ่ยชิงคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเท่าใด นางก็ยิ่งสงสัยมากขึ้นเท่านั้น นางยังมีความค

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1446 ภาพในห้วงทะเลแห่งจิต

    ชิงฮุยระงับความคิดที่วุ่นวาย หลับตาโคจรลมปราณชั่วพริบตา พระจันทร์ก็เคลื่อนมาถึงยอดไม้แล้วเย่จิ่งหลานยังคงยืนนิ่งไม่ไหวติงอยู่ข้างๆ ราวกับเป็นศพที่ไร้ชีวิต แม้แต่การสะท้อนขึ้นลงของหน้าอก ยังเนิบช้ายิ่งนักการใช้กำลังภายในระงับ ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของชิงฮุยได้เล็กน้อย จากนั้นก็มุ่งความสนใจไปที่เย่จิ่งหลานทันทีตอนนี้เย่จิ่งหลานถูกชิงฮุยควบคุมอย่างสมบูรณ์ จิตสำนึกถูกบังคับให้เข้าสู่ส่วนที่ลึกที่สุดของห้วงทะเลแห่งจิต หากสามารถยึดครองจิตวิญญาณได้ในเวลานี้ ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาบรรพบุรุษของแคว้นเฟยเหยาเดิมทีมีพลังยิ่งใหญ่ในการบำเพ็ญตบะ ถ้าไม่เช่นนั้น พวกเขาคงไม่สามารถถ่ายทอดเล่ห์กลมนต์คาถามากมายขนาดนี้ได้ ลั่วสุ่ยชิงสามารถปลงสังขาร ฝึกฝนแก่นวิญญาณได้ และชิงฮุยก็สามารถทำได้เช่นเดียวกันอย่างไรก็ตาม ทันทีที่จิตสำนึกสัมผัสร่างกายของเย่จิ่งหลาน ก็ถูกพลังชนิดหนึ่งทำให้เด้งกลับออกมาชิงฮุยสะดุ้งเล็กน้อย หรือว่าเขาตื่นแล้ว?ครั้นจึงออกคำสั่งในใจกับเย่จิ่งหลานทันทีเย่จิ่งหลานเดินเคลื่อนไหวไปครู่หนึ่ง แล้วหยุดลงสีหน้าของชิงฮุยเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาไม่สามารถควบคุมเย่จิ่งหลานได้อย่างสมบูรณ์

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1447 ภาพทำนายแปลกๆ

    เพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิงลั่วสุ่ยชิงก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก และล้มตัวลงบนเตียงกระโปรงเปียกโชกราวกับถูกล้างด้วยน้ำ“ลั่วสุ่ยชิง!”อินชิงเสวียนคุ้มครองนางอยู่ข้างๆ เมื่อเห็นเช่นนี้ก็รีบถ่ายทอดลมปราณไปช่วย หลังจากนั้นไม่นาน ในที่สุดลั่วสุ่ยชิงก็ลืมตาขึ้นมาศาสตร์เข้าฝันเป็นวิธีการที่ทำให้แก่นวิญญาณออกจากร่างกาย เว้นแต่ว่าจะเป็นผู้บำเพ็ญที่ยอดเยี่ยม หรือเก่งในวิธีนี้โดยธรรมชาติ ไม่เช่นนั้นก็จะต้องเสียแรงอย่างมาก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่านางที่ลงมือกับชิงฮุยขณะที่อยู่ในห้วงทะเลแห่ง​​จิตของเย่จิ่งหลาน นี่เป็นความตั้งใจของนางเช่นกัน เมื่อรู้ว่าใบมีดดำทะมึนของอินชิงเสวียนไม่สามารถรักษาบาดแผลได้ ลั่วสุ่ยชิงก็มั่นใจว่าชิงฮุยจะใช้ศาสตร์การช่วงชิงร่างอย่างแน่นอนและผู้ที่เหมาะสมที่สุดที่อยู่ใกล้ตัวเขา ก็มีเพียงเย่จิ่งหลาน ดังนั้นนางจึงทุ่มพลังทั้งหมด ซุ่มซ่อนอยู่ในห้วงทะเลแห่งจิตของเย่จิ่งหลาน และเนื่องจากทักษะของนางมาจากแหล่งเดียวกันกับหมอกสีดำของชิงฮุย เขาจึงไม่ค้นพบนาง“ข้าสบายดี”ลั่วสุ่ยชิงนั่งเอนหลังบนเตียง เหงื่อเย็นยังคงไหลออกมาอินชิงเสวียนรีบหยิบน้ำพุวิญญาณที่ใช้ได้โดยไม่เสียเงินออก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1448 เจ้ายังอยากหนีอยู่หรือเปล่า

    เย่จิ่งอวี้รู้สึกสับสน“นี่หมายความว่าอะไร หรือว่าจิ่งหลานกลับเมืองหลวงแล้ว?”อินชิงเสวียนนึกได้พลัน หรือว่า...นักพรตเทียนชิงสั่นศีรษะ“ถ้าเป็นเมืองหลวง ก็จะปรากฏทิศทางเดินชัด แต่ตอนนี้ไม่มีเลย เขา...อาจจะไม่อยู่ในผืนแผ่นดินของโลกนี้”เย่จิ่งอวี้ดูประหลาดใจ“แล้วเขาจะไปไหนล่ะ? หรือว่า เขาตายแล้ว?”นักพรตเทียนชิงกล่าวอย่างแน่วแน่ “ยังไม่ตาย แต่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนกันแน่ ดังนั้นอาตมภาพจึงไม่กล้าพูดพูดแน่ชัด พวกเจ้าก็ไม่ต้องกังวลไป วันนี้เวลานี้ อาตมภาพจะลองทำนายอีกครั้ง บางทีอาจจะทราบอะไรเพิ่มเติม”“ถ้าอย่างนั้นต้องรบกวนท่านนักพรตแล้ว”เย่จิ่งอวี้โค้งคำนับและออกจากเรือนเล็ก เมื่อเห็นใบหน้าของอินชิงเสวียนที่ดูครุ่นคิด จึงหลุบตาลงแล้วถามว่า “เสวียนเอ๋อร์ คิดอะไรอยู่หรือ”“ข้าสงสัยว่า เขากลับไปที่เดิมแล้วหรือเปล่า”“หืม?”อินชิงเสวียนดึงเย่จิ่งอวี้ไปที่ลำธารข้างๆ แล้วถอนหายใจ“มีเรื่องหนึ่งที่ข้าปิดบังอาอวี้ไว้ตลอด ที่จริงแล้ว...จิ่งหลานและข้ามาจากที่เดียวกัน”เมื่อได้ยินสิ่งนี้ เย่จิ่งอวี้ก็ตกใจสักพักเขาก็สงบลงอีกครั้งวันนั้นเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสในเมืองหลวง ได้รับการช่วยเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1449 เขาอยู่ไหน

    “เป็นฝีมือของผู้ใด”เจ้าสำนักดาบเดือดก้าวอาดๆ ออกมา คว้าคอเสื้อลูกศิษย์ด้วยอารมณ์ที่ร้อนรุ่มเย่จิ่งอวี้และอินชิงเสวียนมองหน้ากัน แล้วเดินไปหาเจ้าสำนักดาบเดือดอย่างรวดเร็วศิษย์คนนั้นพูดด้วยใบหน้าโศกเศร้า “พวกเขาเป็นกลุ่มคนชุดดำ ข้าเห็นพวกเขาใช้วรยุทธ์ของหอเทียนอวิ๋น”“อะไรนะ?”เจ้าสำนักดาบเดือดเบิกตากว้าง โคจรพลังลมปราณไปยังจุดตันเถียน และตะโกนว่า “คนจากหอเทียนอวิ๋น ไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้นะ”“เจ้าสำนักอย่าเพิ่งใจร้อน ในบรรดาศิษย์ของแต่ละสำนักล้วนมีทายาทจากแคว้นเฟยเหยา พวกเขาที่จะใช้วรยุทธ์ของสำนักอื่น ย่อมเป็นเรื่องปกติ ในเวลานี้ เราต้องไม่มีความขัดแย้งภายใน เพราะจะทำให้ศัตรูมีโอกาสเข้ามาทำลายได้”กระแสเสียงของอินชิงเสวียนอ่อนโยนราวกับน้ำ ซึ่งทำให้หัวใจอันวิตกกังวลของเจ้าสำนักดาบเดือดสงบลงในทันที“ถูกต้อง พวกกากเดนเฟยเหยาเหล่านี้ ก็จะใช้วิธีการที่ต่ำช้าเลวทรามแบบนี้และ”ในขณะที่กำลังพูด เจ้าสำนักของหอเทียนอวิ๋นก็เหาะออกจากที่พัก สีหน้าดูมีอาการมึนเมาเล็กน้อย การก้าวเดินโซเซเล็กน้อย“เหล่าเลี่ยเตา เจ้าเอะอะโวยวายอะไร”“รังเก่าถูกคนบุกยึดไปแล้ว เจ้ายังดื่มสุราได้อีกนะ ใจกว้างจริ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1450 ผู้มาเยือนจากต้าโจว

    ในห้องสวีทของโรงแรมหรูระดับห้าดาวชายในชุดคลุมสีดำล้มลงบนเตียงเหมือนปลาที่ตายแล้ว ชายผู้นั้นมีใบหน้าหล่อเหลา มีไฝสีแดงบนคิ้ว ดูลึกลับน่าค้นหาเด็กชายตัวเล็กอายุเจ็ดแปดขวบนอนอยู่ข้างเตียง มองดูใบหน้าของเขาด้วยความอยากรู้อยากเห็น“พี่ชิงเสวียน ทำไมเขาถึงสวมเสื้อผ้าในยุคของเรา”เด็กน้อยกะพริบตาโต มองดูชายหนุ่มรูปงามอายุสิบเจ็ดหรือสิบแปดปีอย่างพิจารณาหญิงสาวคนหนึ่งสวมเสื้อยืดสีขาวและกางเกงยีนส์ขากว้าง เดินเข้ามาจากประตู กระซิบว่า “ชู่ว์ อย่าพูดถึงยุคของเราอีก นายเป็นลูกของคนอื่นแล้ว ถ้าพูดถึงอดีต จะถูกคนอื่นมองเหมือนเป็นสัตว์ประหลาด”เด็กน้อยพยักหน้าอย่างจริงจัง“ผมรู้แล้ว”ถ้าเย่จิ่งอวี้อยู่ที่นี่ ก็คงจะจำได้ทันทีว่าเด็กน้อยที่อยู่ตรงหน้านี้มีรูปร่างหน้าตาเหมือนกับเย่จิ่งหลานตอนที่ยังเป็นเด็กตอนนี้เขาเป็นลูกชายของประธานบริหารแห่งเทียนเซิ่งเอ็นเตอร์เทนเมนท์ คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด และอินชิงเสวียนในตอนนี้ เนื่องจากความนิยมในการถ่ายทอดสด ถูกเทียนเซิ่งเอ็นเตอร์เทนเมนท์เล็งเห็น ได้กลายเป็นดาราหญิงชื่อดังของบริษัท เป็นเป็นที่ชื่นชอบของภรรยาประธานบริษัทนอกจากหน้าตาดีและทักษะการแสดง

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1465 คนแพศยามักจะสำออยแบบนี้แหละ

    ชายคนนั้นหยิบกระดาษทิชชู่ออกจากกระเป๋า เช็ดนิ้วด้วยความรังเกียจ แล้วเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองซูเยี่ยนั่งบนพื้นร้องไห้เสียงดัง ความฝันที่จะแต่งเข้าไปอยู่ในครอบครัวที่ร่ำรวย ได้พังทลายอีกครั้งมือที่มีเห็นข้อต่อเด่นชัดยื่นออกไปต่อหน้าซูเยี่ยซูเยี่ยเงยหน้าขึ้น แล้วก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาราวกับดาราทันทีสิ่งที่ทำให้เธอตื่นเต้นยิ่งกว่านั้นคือ ชายคนนั้นสวมเสื้อผ้าแบรนด์ดัง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขามีฐานะที่ดีหากสามารถเกาะเกี่ยวลูกเศรษฐีที่ทั้งหล่อทั้งรวยแบบนี้ได้ ถูกตบหน้าแค่ครั้งเดียวจะเป็นไรไป บางทีนี่อาจเป็นความยากลำบากทั้งหมดที่สวรรค์ส่งมาให้ ที่มาอยู่ที่นี่ ก็เพื่อให้ได้เจอกับคนที่ดีกว่าเธอสูดจมูก จับมือนั้นไว้ เพิ่งยืนขึ้นมาได้ครึ่งตัว มือก็คลายออกซูเยี่ยเสียการทรงตัว และล้มลงกับพื้นอีกครั้งเธอมองเย่จิ่งหลานด้วยความประหลาดใจ ไม่เข้าใจว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่เย่จิ่งหลานยกมุมปากขึ้น คุกเข่าลงต่อหน้าเธอ ถามด้วยรอยยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “รู้สึกยังไงที่ถูกทิ้ง?”“อะไรนะ...คุณหมายความว่ายังไง?”ซูเยี่ยถามด้วยเสียงต่ำ ดวงตาสีแดงทั้งคู่ ทำให้เขาดูมีเสน่ห์มากกว่าเมื่อก่อนนี่ไม่ใช่ฉากที่ป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1464 แพศยาอย่างเธอ

    เย่จิ่งหลานโบกมือ ประตูก็เปิดออกแสงจากด้านนอกประตูส่องเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัย ทุกคนก็เห็นหลี่ไห่ตงนอนอยู่บนพื้นทันที และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอยภัยนอนระเกะระกะอยู่ข้างๆชายหนุ่มรูปหล่อคนนี้เดินออกไปโดยไม่มีร่องรอยเลือด หรือฝุ่นผงบนร่างกายเลยทุกคนก้าวถอยหลัง มองดูเย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าหวาดกลัวเย่จิ่งหลานเดินขึ้นไปที่ลิฟต์โดยไม่หรี่ตามองในช่วงที่เขาถูกบีบให้ออกจากโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ แต่ละนาทีแต่ละวินาที เขามักจะจินตนาการถึงการทุบตีหลี่ไห่ตงอย่างรุนแรง ได้ระบายความโกรธ วันนี้ ในที่สุดเขาก็ทำได้แล้ว สำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เย่จิ่งหลานไม่อยากคิดอะไรมากเขารีบออกจากโรงพยาบาล มาที่สวนสาธารณะเล็กๆ ใกล้ ๆ มีชายชราคนหนึ่งที่อาบแดดอยู่ เย่จิ่งหลานเหลือบมองเขา และนั่งอีกด้านหนึ่งทั้งสองคนไม่ได้คุยกัน แค่พบกันโดยบังเอิญ ต่างไม่รู้จักกัน และไม่จำเป็นต้องพูดคุยกันเขาค่อยๆ ผ่อนคลายร่างกาย เอนหลังพิงเก้าอี้ หรี่ตาเหมือนที่ชายชราทำ ความอบอุ่นของดวงอาทิตย์ที่ส่องบนร่างกายของเขาช่างทำให้รู้สึกผ่อนคลายจริงๆหลังจากสงบสติอารมณ์ได้แล้ว เย่จิ่งหลานก็คิดถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาพลังลมป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1463 ฉันชื่อเย่จิ่งหลาน

    ความเจ็บปวดจากไฟฟ้า ทำให้เย่จิ่งหลานกลับมามีสติอีกครั้งหลี่ไห่ตงซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เขาไออย่างบ้าคลั่ง และมองไปที่เย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าแห่งความเกลียดชัง“ทุบตีมัน ทุบตีมันให้ตาย ตีมันตายแล้วฉันจะรับผิดชอบเอง”เมื่อเห็นว่าเย่จิ่งหลานไม่ขัดขืน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้น กระแสไฟฟ้าสีฟ้าพุ่งใส่ร่างของเย่จิ่งหลาน ทำให้ห้องรังสีวินิจฉัยที่มืดมิดสว่างไสวขึ้นมาเย่จิ่งหลานหลับตา ใช้ประสาทสัมผัสตรวจสอบอย่างระมัดระวัง และยกมุมริมฝีปากขึ้นเล็กน้อยเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของตัวเอง แต่สัมผัสได้ ความรุนแรงเท่านี้ไม่สามารถเอาชีวิตเขาได้เลย รู้สึกเหมือนกับถูกแมลงต่อยสองครั้ง ถ้าเขาจะโดนฟ้าผ่า ก็ถือว่าเป็นการได้สัมผัสประสบการณ์ล่วงหน้าเป็นเวลาสิบวินาทีเต็มๆ เขาค่อยๆ ลืมตาขึ้น ดวงตาเรียวแคบของเขาเหมือนถูกรายล้อมไปด้วยงูทองคำพ่นไฟ ดุดันน่าเกรงขาม แม้ในความมืดมิดเช่นนี้ ก็สามารถมองเห็นใบหน้าอันน่าเกลียดของทุกคนได้ชัดเจนเขาอาจจะฆ่าคนไม่ได้ แต่สามารถทุบตีพวกเขาได้ และตราบใดที่พวกเขายังหายใจอยู่ ก็ไม่ถือว่าตายเมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เขาก็ค่อ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1462 ปีศาจในชุดดำ

    “แกเป็นใคร ทำไมถึงมาทำร้ายฉัน”หลี่ไห่ตงเมื่อถูกทุ่มลงพื้นก็กรีดร้องอย่างน่าเวทนา ชายหนุ่มรูปงามตรงหน้านี้ เป็นราวกับเจ้าแห่งความตายในนรก ทำให้เขารู้สึกหวาดผวาอย่างสุดซึ้งจนแทบจะรู้สึกได้ถึงความกลัวที่มาจากจิตวิญญาณเขาไม่สงสัยเลยว่าชายคนนี้จะกล้าฆ่าเขาจริงๆหรือไม่“ฉันไม่รู้จักแกเลย แกจำคนผิดหรือเปล่า หรือคนในครอบครัวของแกอยู่ในโรงพยาบาลที่นี่ ถ้าขาดเงิน ฉันช่วยแกแก้ปัญหาได้”หลี่ไห่ตงรู้สึกว่าตัวเองยังพอมีหวัง จึงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะสร้างความประทับใจให้กับชายผมดำยุ่งเหยิงตรงหน้าเย่จิ่งหลานมองไปที่หลี่ไห่ตงอย่างเย็นชา ความทรงจำในอดีตก็หลั่งไหลกลับมาเพื่อให้ได้ทำงานในโรงพยาบาลต่อ ถึงจะนอนดึกกว่าหมา ตื่นเช้ากว่าไก่ ทำงานหนักเยี่ยงทาส ทำงานหนักมาสามปีก็ตาม แต่เพราะบังเอิญไปเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็น จึงถูกส่งไปยังโรงพยาบาลเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ตั้งแต่เช้าจรดค่ำก็ไม่เจอใคร การทำงานหนักและค่าตอบแทนทั้งหมดของเขาถูกทำลายลงเพราะไอ้สารเลวยิ่งกว่าหมาคนนี้ เขากลับอยากมีชีวิตอยู่งั้นเหรอ ในโลกนี้ จะมีเรื่องดีๆ แบบนั้นได้อย่างไรโลกไม่ยุติธรรม เช่นนั้นก็ให้เขาได้ผดุงความยุติธรรม จัดการสัตว์ร้าย

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1461 เศษสวะ

    ไอ้ชาติชั่วนี่ ใช้อุบายเก่าๆ ของเขาอีกแล้วเย่จิ่งหลานเหลือบมองแพทย์หญิง แม้ว่าเธอจะสวมหน้ากากปลอดเชื้อสีเขียว แต่ยังคงมองเห็นความไม่เต็มใจและความลังเลในดวงตาที่เหนื่อยล้าของเธอทั้งสองเดินสวนทางกัน แพทย์หญิงก็เดินเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัยข้างๆ เย่จิ่งหลานอุ้มเด็กเดินเข้าไปในห้องผ่าตัด แต่ยังคงมองย้อนกลับไปที่แพทย์หญิงคนนั้น จากนั้นก็ได้ยินเสียงคลิก ซึ่งเป็นเสียงล็อคประตู“เด็กคนนี้ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกหน้าอก ขาทั้งสองข้างก็ถูกทับ”เย่จิ่งหลานอธิบายอาการของเด็กสั้นๆ จากนั้นรีบเดินไปที่ห้องรังสีวินิจฉัย ดึงที่จับประตูบานใหญ่ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ดึงให้เปิดออกเมื่อนึกถึงไอ้คนชาติชั่วคนนั้นที่โรงพยาบาลเดิมใช้เส้นสายสารพัด ทำเหมือนกับว่าตัวเองเป็นแค่หมา สุดท้ายยังถูกเขาส่งไปยังโรงพยาบาลชุมชนที่อยู่ห่างไกลที่ไม่มีโอกาสก้าวหน้า เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธเขาออกแรง รู้สึกว่ามีแรงแปลกๆ ออกมาจากจุดตันเถียน ไปถึงท่อนแขนของเขาในทันที จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงกึก ประตูที่ถูกล็อคก็หักแกเป็นสองท่อนหลี่ไห่ตงกำลังจะกอดแพทย์หญิงคนนั้นทำเรื่องงามไส้ มีสายตามองจากข้างนอกเข้าไป อีกทั้งเรือนผมยาวส

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1460 ความคิดชั่วร้าย

    ทันใดนั้นก็มีเสียงเบรกดังมาจากด้านหน้าผู้หญิงคนหนึ่งขี่สกู๊ตเตอร์ชนจนล้มกระแทกพื้น เด็กที่อยู่ข้างหลังก็กระเด็นห่างออกไปหลายเมตรเช่นกันหน้าที่ของแพทย์ทำให้เย่จิ่งหลานเหาะไปข้างหน้า กระโดดไปหลายสิบเมตรในก้าวเดียว และลงจอดต่อหน้าผู้หญิงคนนั้นรถที่ผ่านไปมาต่างก็อึ้งกันไปหมด นี่กำลังถ่ายหนัง หรือเรื่องจริง?คนนี้ไม่มีสายสลิงผูกอยู่บนตัวนั้นา แล้วทำไมเขาถึงเหาะได้ไกลขนาดนี้ในคราวเดียวล่ะ?เย่จิ่งหลานเองก็สะดุ้งนี้...มันเป็นไปได้อย่างไรเป็นวรยุทธ์งั้นหรือเขาไม่มีเวลาคิด ก้มลงห้ามเลือดของผู้หญิงคนนั้นทันที กลิ่นเลือดปะทะเข้าจมูกของเขา หัวใจพลันสั่นขึ้นมาเล็กน้อยดูเหมือนมีบางอย่างตื่นขึ้นมา ไฝแดงระหว่างคิ้วก็สว่างวาบขึ้นเล็กน้อยมือของเขานิ่งค้าง จากนั้นเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์หลายคนก็วิ่งเข้ามา“คุณคนนี้ คุณเป็นหมอเหรอ”เย่จิ่งหลานพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว“ฉันเป็นศัลยแพทย์”คนที่ดูเหมือนพยาบาลกล่าวว่า “คนไข้ได้รับบาดเจ็บสาหัส คุณช่วยตามพวกเราไปที่รถพยาบาล ช่วยรักษาฉุกเฉินได้ไหม”เย่จิ่งหลานสูดหายใจเข้าลึกๆ“ได้”เขาก้าวเข้าไปในรถพยาบาล ผู้หญิงและเด็กถูกพาไปที่เตียงในรถพยาบาล

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1459 เรื่องด่วน

    “ไม่ ข้าไม่เคยสงสัยเจ้าเลย ข้าแค่คิดว่า เจ้าและชิงฮุยอาจไม่ได้เป็นแค่ราชาแคว้นกับขุนนางธรรมดาแบบนั้น”อินชิงเสวียนหยุดชั่วคราวและพูดว่า “แม้ว่าข้าจะไม่เข้าใจหลักการวิทยายุทธ์ของแคว้นเฟยเหยา แต่รู้ว่าวิทยายุทธ์แบบเดียวกันนั้นมักจะมีรากเหง้าเดียวกันที่สามารถใช้ค้นหาร่องรอยได้ หากเจ้าใช้ความพยายาม ก็ไม่น่าจะยากที่จะพบตัวชิงฮุย แต่ว่า ที่ข้ามาที่นี่ก็ไม่มามาถามเรื่องเขาทั้งหมด”“โอ้?”ลั่วสุ่ยชิงเงยหน้าขึ้น มองไปยังอินชิงเสวียน“ข้าอยากรู้ หากแก่นวิญญาณของเจ้าและแก่นวิญญาณของชิงฮุยมาพบกันในห้วงทะเลแห่งจิตของเย่จิ่งหลาน จะเกิดผลที่ตามมาอย่างไร”“ไม่แน่ใจ”ลั่วสุ่ยชิงพูดอย่างตรงไปตรงมา“ข้ามีลางสังหรณ์ว่าชิงฮุยอาจทำลายแก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลาน ยึดร่างกายของเขา ดังนั้นจึงซ่อนแก่นวิญญาณของตัวเองไว้ในห้วงทะเลแห่งจิตของเย่จิ่งหลาน โดยใช้วิธีเข้าฝัน...”ลั่วสุ่ยชิงคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดต่อว่า “ตามหลักการปกติทั่วไป แก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลานอาจได้รับผลกระทบ ซึ่งอาจทำให้สมองสดใสน้อยลง แต่ไม่ต้องการให้เขาหายตัวไปโดยสิ้นเชิง เมื่อข้าลองใช้วิธีการเข้าฝันอีกครั้ง แต่ข้าไม่สามารถสัมผัสถึงลมปราณของเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1458 ขายความน่ารัก

    เสี่ยวหนานเฟิงกางมือเล็กๆ ออก แล้วถามด้วยน้ำเสียงแหลมใสไร้เดียงสาว่า “ภารกิจอะไรอ่ะ”“ไปหาพี่สาวลั่ว”อินชิงเสวียนหยิบน้ำพุวิญญาณออกมาล้างมือที่สกปรกของเสี่ยวหนานเฟิง จากนั้นเช็ดด้วยผ้าเช็ดทำความสะอาดฆ่าเชื้อ“อีกประเดี๋ยวเจ้าต้องขายความน่ารัก แม่จะถือโอกาสถามอะไรบางอย่าง”เสี่ยวหนานเฟิงดูสับสน กะพริบตาโตแล้วถามว่า “ขายความน่ารักหมายความว่าอย่างไร ต้องขายให้ได้เงินมากไหม”อินชิงเสวียนหัวเราะเบาๆ“ท่าทางตอนนี้ของเจ้าก็น่ารักบ้องแบ๊วอยู่แล้ว ให้เป็นแบบนี้ต่อก็พอแล้ว”เสี่ยวหนานเฟิงตอบว่าอ้อ และทันใดนั้นก็พูดอย่างตื่นเต้น “พี่สาวลั่วทำหน้าอมทุกข์อยู่ตลอด เราเอาให้ลูกกวาดให้นางก็ได้นะ”อินชิงเสวียนพยักหน้าเห็นด้วย“อื้ม นี่เป็นความคิดที่ดี”นางโบกมือและหยิบถุงลูกกวาดมาจากมิติ“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็มอบให้พี่สาวลั่วนะ”“ตกลง”เสี่ยวหนานเฟิงยื่นมือเล็กๆ ออกมาเพื่อหยิบมัน แล้วถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนิ่ม “ลูกได้ยินจากเสด็จพ่อบอกว่าอาจิ่งหลานหายไป ท่านแม่หาลุงเจอไหม”อินชิงเสวียนถอนหายใจ “ไม่รู้ บางทีเขาอาจจะกลับไปยังที่ของตัวเองแล้ว สำหรับเขาแล้ว แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน”เสี่ยวหนานเฟิงเอียง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1457 อย่าพูดจาเหลวไหล

    “แต่ตอนนี้เราไม่ยังตามหาตัวเย่จิ่งหลานไม่พบ ยังมีวิธีอื่นใดที่จะสามารถล่อให้ศิลาตอบสวรรค์ปรากฏตัวได้หรือไม่”อินชิงเสวียนลูบคาง ปัญหาดูเหมือนจะกลับมาที่จุดเดิมนักพรตเทียนชิงกล่าวว่า “ไม่มี ศิลาตอบสวรรค์จะลงโทษคนที่ชั่วร้ายอย่างยิ่งเท่านั้น ไม่เช่นนั้นก็ไม่มีทางออกจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์”ลั่วสุ่ยชิงก็ขมวดคิ้วเช่นกัน“นี่เป็นปัญหาที่แก้ไขยากจริงๆ”อินชิงเสวียนถามอย่างสงสัย “ศิลาตอบสวรรค์จะมีประโยชน์อะไรกับชิงฮุย”ลั่วสุ่ยชิงกล่าวว่า “เขาต้องการเป็นเซียน”“อ๋า?”อินชิงเสวียนมองไปที่ลั่วสุ่ยชิงด้วยความประหลาดใจลั่วสุ่ยชิงพูดอย่างใจเย็น “ในแคว้นเฟยเหยา มีตำนานเล่าขานมาตลอด ตราบใดที่ได้รับศิลาตอบสวรรค์ ก็สามารถหลุดพ้นจากปัญจธาตุได้ สามารถข้ามผ่านวิบากกรรมและบรรลุขั้นสูงสุด บรรลุเป็นเซียน เสด็จพ่อของข้ามีความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้า ตามหาที่อยู่ของศิลาตอบสวรรค์มาโดยตลอด เมื่อแคว้นเฟยเหยาถูกบุกโจมตี เคยมีคนกระตุ้นศิลาตอบสวรรค์ แต่ถึงกระนั้น หินก้อนนั้นก็ยังคงหายไป พ่อของข้าติดตามกลิ่นอายนั้นไป จนพบแดนศักดิ์สิทธิ์ และได้สรุปว่าศิลาตอบสวรรค์อยู่ที่นั่น”“ผู้ที่เป็นคนกระตุ้นคือใคร เป็นชิ

DMCA.com Protection Status