หน้าหลัก / โรแมนติก / สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ / บทที่ 1412 ตั้งทิศตะวันออกเป็นจุดเริ่มต้นของจักรวาล

แชร์

บทที่ 1412 ตั้งทิศตะวันออกเป็นจุดเริ่มต้นของจักรวาล

ผู้แต่ง: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
เย่จิ่งอวี้ตกตะลึงเล็กน้อย

“เสวียนเอ๋อร์หมายความว่าอย่างไร หรือว่าเจ้าค้นพบอะไรบางอย่าง”

อินชิงเสวียนส่ายศีรษะ

“ไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการคาดเดาตามคำพูดของชิงฮุยเท่านั้น ส่วนที่เหลือ เป็นเพียงความรู้สึก แม้ว่าคำพูดเช่นนี้จะลึกลับไปหน่อย แต่ในบางครั้งสัมผัสที่หกของผู้หญิงก็มีความแม่นยำมาก”

เย่จิ่งอวี้ขมวดคิ้ว

“ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง เจตนาของเขาคงไม่ใช่แค่การกอบกู้แคว้นธรรมดา?”

หากคนหนึ่งสามารถทนได้นานขนาดนี้ และวางแผนได้นานขนาดนี้ แค่แคว้นแคว้นหนึ่งจะทำให้เขาพอใจได้จริงหรือ

เมื่อได้ยินคำพูดของเย่จิ่งอวี้ อินชิงเสวียนก็ใจเต้นรัว

“แล้วเขาต้องการอะไรล่ะ?”

“ไม่รู้”

เย่จิ่งอวี้ตอบชัดเจนในทันที

อินชิงเสวียนกลอกตามองบนอย่างพูดไม่ออก

“ท่านสามารถตั้งสมมติฐานได้ ลองคิดแบบกล้าๆ ดู”

เสี่ยวหนานเฟิงซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของเย่จิ่งอวี้ ใบหน้าเล็กๆ ฝังอยู่ในอกของพ่อ ทั้งสองคนใช้วิชาตัวเบา อัตราความเร็วย่อมไม่ช้าอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูเขาที่มีลมแรง เย่จิ่งอวี้ยกแขนเสื้อขึ้นกันเขาไว้ตลอดเวลา

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เจ้าเด็กอ้วนก็อดไม่ได้ที่จะยื่นหัวเล็กป้อมออกมา แล้วพูดด้วยรอ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Saengaon Yomkin
อัฟ8ตอนค่ะถึงจะพดีอ่าน
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1413 เงียบงันราวกับความตายแผ่ปกคลุม

    อินชิงเสวียนเชื่อแล้วโดยสิ้นเชิง ลูกชายของนางไม่ธรรมดาจริงๆ“อาอวี้ ทำตามที่จ้าวเอ๋อร์บอกเถอะ ลั่วสุ่ยชิงเคยบอกวิธีทำลายค่ายกลกับข้าแล้ว แต่ถูกชิงฮุยขัดจังหวะเสียก่อน พอมาใคร่ครวญดูแล้ว มันก็คล้ายกับที่จ้าวเอ๋อร์พูด”“ได้”“รอเดี๋ยวก่อน”เสี่ยวหนานเฟิงตะโกนหยุดทั้งสองคนด้วยเสียงแหลมใส“มีอะไรหรือ”อินชิงเสวียนมองดูลูกชายอย่างพิศวงเสี่ยวหนานเฟิงจ้องมองลงด้วยดวงตากลมโต มองจากท้องฟ้าลงมาข้างล่าง แล้วพูดว่า “เรื่องนี้ดูจะยากสักหน่อย”“ยังมีกลไกอย่างอื่นอีกงั้นหรือ”เย่จิ่งอวี้ถามเสี่ยวหนานเฟิงทำปากมู่ทู่ พยายามเรียบเรียงคำพูด“ยังมีกลิ่นอายอื่นอยู่ที่นี่ ไม่กำจัดออกไป ก็ทำไม่ได้นะ”เขาเห็นหมอกสีดำทะมึนมากมายกระจายอยู่บนท้องฟ้า แม้ว่าเสี่ยวหนานเฟิงจะฉลาด แต่ก็ยังไม่สามารถอธิบายกลิ่นอายที่น่ากลัวนี้ได้ซึ่งลักษณะสำคัญที่สุดของค่ายกลที่ชิงฮุยสร้างขึ้นคือพลังหยินของคนตายเหล่านี้ อาศัยแค่การทำลายหัวใจค่ายกลสองสิ่งนั้น ไม่สามารถทำลายค่ายกลที่ชั่วร้ายได้อย่างสมบูรณ์ทั้งคู่อดไม่ได้ที่จะมองหน้ากันเลิ่กลั่ก พวกเขาไม่เห็นสิ่งที่เสี่ยวหนานเฟิงเห็น แต่ก็พอจะเข้าใจความหมายของลูกชายอยู่ค

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1414 พวกเขาทั้งหมดยังมีชีวิตอยู่

    เมื่อเห็นประตูใหญ่ทางเข้าจวนเจ้าเมืองเปิดกว้าง อินชิงเสวียนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเยียบเย็นสะท้านใจ นางรีบวิ่งเข้าไปในเมือง เห็นคนมากกว่ายี่สิบคนรวมตัวกันเป็นวงกลม นั่งตรงข้ามกัน ซึ่งคนเหล่านั้นคือเฮ่อยวนกับเหมยชิงเกอและคนอื่นๆ “ท่านพ่อ ท่านแม่!”อินชิงเสวียนแตะตัวพวกเขาเบาๆ ทั้งสองก็ล้มลงกับพื้นทันที อินชิงเสวียนหน้าซีดเซียวอย่างอดไม่ได้ วางปลายนิ้วอันสั่นเทาอังใต้จมูกของพวกเขา ทว่าไม่มีลมหายใจแล้วครั้นจึงมองไปที่เฮ่ออวิ๋นทง ผู้อาวุโสสวี เก่อหงยวนและคนอื่นๆ ที่อยู่ข้างกัน พวกเขาต่างก็มีลักษณะเช่นเดียวกันนอกจากนี้ ยังมีบาดแผลจากกระบี่และบาดแผลที่ฝ่ามือมากมายบนร่างกายของพวกเขา หากมองดูใกล้ๆ จะเห็นว่าล้วนเป็นกระบวนท่าที่คุ้นเคย ราวกับว่าต่อสู้กันจนตายเมื่อเห็นคนคุ้นเคยเหล่านี้ไร้ซึ่งสัญญาณแห่งชีวิต อินชิงเสวียนรู้สึกปวดร้าวหัวใจ อดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นฟ้าแล้วตะโกนออกมาว่า“ชิงฮุย ข้าจะทำให้เจ้าชดใช้ด้วยชีวิต!”จากนั้นก็รู้สึกถึงรสชาติหวานปะแล่มในอก มีเลือดไหลพ่นออกมาเต็มปาก“เสวียนเอ๋อร์!”ฝ่ามืออันอบอุ่นแตะที่ด้านหลังหัวใจของนาง กำลังภายในที่แข็งแกร่งก็ไหลเข้าสู่เส้นลมปราณพิ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1415 ในใจของเจ้าไม่มีแม้แต่ความรู้สึกผิดเล็กน้อยเลยหรือ

    อินชิงเสวียนได้ยินอย่างชัดเจน รีบถ่ายทอดคำพูดให้เย่จิ่งอวี้ทราบทันทีเย่จิ่งอวี้วางมือบนทรวงอกของเซี่ยวอิ๋นหวน แล้วก็รู้สึกว่ามีอะไรต่างไปจริงๆอินชิงเสวียนพยักหน้ากับเขา“ลองดูเถอะ ผนึกเลือดไว้นาน มีแต่จะส่งผลเสียต่อพลังภายในของทุกคน”“อืม”เย่จิ่งอวี้ผ่อนลมหายใจช้าๆ ระดมกำลังภายในในร่างกายของเซี่ยวอิ๋นหวน ปล่อยให้กระแสนั้นไหลผสานกับกระแสพลังของตัวเอง พลังงานในเส้นลมปราณทุกเส้นได้รวมตัวกันและขับเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกัน จนในที่สุดก็มาบรรจบกันที่จุดไป๋ฮุ่ยอินชิงเสวียนยืนอยู่ข้างๆ พร้อมสนับสนุนทุกเมื่อ ในใจก็ห่วงพะวงยิ่งนัก อดไม่ได้ที่จะแอบสวดภาวนาว่า ขออย่าให้เกิดเรื่องวุ่นวายอะไรอีกเลย ไม่เช่นนั้นต้าโจวจะถึงกาลอวสานจริงๆในขณะเดียวกัน เย่จิ่งอวี้ได้ออกแรงส่งออกไป หมอกสีดำที่ยากจะมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าก็ปรากฏขึ้นบนศีรษะของเซี่ยวอิ๋นหวน สิบห้านาทีหลังจากนั้น นางก็ลืมตาขึ้น สีหน้าแจ่มใสขึ้น“อาอวี้ ชิงเสวียน พวกเจ้า...พวกเจ้าได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า”เมื่อนึกถึงสถานการณ์ที่น่าเศร้าของเหล่าศิษย์ เซี่ยวอิ๋นหวนก็รู้สึกว่าลำคอตีบตัน ดวงตาทั้งคู่เปลี่ยนเป็นสีแดงทันที แต่ก็สามารถกลั้นอา

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1416 ขุนนางทรยศ

    ขณะที่ชิงฮุยพูด กำลังภายในของลั่วสุ่ยชิงได้เข้าสู่กลางคิ้วของเย่จิ่งหลานแล้ว จากนั้นก็ถอยหลังไปหลายก้าว มีเลือดไหลออกมาจากมุมปากอีกครั้ง“เจ้าใช้ไสยศาสตร์ชั่วร้ายอะไรกันแน่”สีหน้าของลั่วสุ่ยชิงดูตกใจเมื่อครู่ที่ได้สัมผัส รู้สึกราวกับว่าจิตสำนึกของเย่จิ่งหลานถูกเคลือบด้วยกำแพงทองแดง ซึ่งเจาะทะลุแม้เพียงครึ่งหนึ่งยังทำได้ยาก ทันทีที่ตัวเองปล่อยพลังเข้าไปทะลวง ก็ถูกดีดออกมา“องค์หญิงไม่จำเป็นต้องรู้ ขอองค์หญิงสงบใจก่อนเถิด อยู่ที่นี่แต่โดยดี ไม่เช่นนั้นจะประสบชะตากรรมเช่นเดียวกับเขา”ชิงฮุยยกคางขึ้นเล็กน้อย แล้วชี้ไปที่เย่จิ่งหลานลั่วสุ่ยชิงพูดด้วยความโกรธ “เจ้ากล้ารึ!”ชิงฮุยไม่ได้โกรธ เขายิ้มเล็กน้อยและพูดอย่างใจเย็น “ตอนนี้เมื่อมาถึงขนาดนี้แล้ว องค์หญิงคิดว่ายังมีอะไรที่ข้าไม่กล้าทำอีก”ลั่วสุ่ยชิงตัวสั่นสะท้านไปทั้งตัว ชี้หน้าชิงฮุยแล้วพูดว่า “เจ้าปีศาจร้าย ข้าตาบอดจริงๆ ที่ข้าช่วยชีวิตเจ้าไว้”ชิงฮุยเทชาอีกถ้วย ค่อยๆ นำเข้าปากแล้วจิบ“น่าเสียดายที่ในใต้หล้านี้ไม่มียาเสียดาย ไม่ว่าองค์หญิงอยากจะเป็นผู้นำของแคว้นเฟยเหยาต่อไป หรือว่านางอยากเป็นหุ่นเชิดเหมือนคุณชายน้อยคนนี้

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1417 ต้าโจวต้องล่ม เฟยเหยาต้องฟื้นคืน

    ณ วังหลวงในห้องหนังสือ เย่จั้นกำลังเดินกลับไปกลับไปอินจ้งขมวดคิ้วยืนอยู่ข้างๆ เขา ผู้ที่ยืนอยู่ตรงข้ามเขาคือจอมพลเฒ่ากวน ถัดจากนั้นก็คือสองพี่น้องตระกูลอินและกวนเซี่ยวหลานชายของจอมพลเฒ่า ตอนนี้หลานชายกลับมาแล้ว โรงเรียนสอนการต่อสู้ก็เริ่มมีระเบียบแบบแผนเป็นรูปเป็นร่าง จิตใจของจอมพลเฒ่าก็สงบลงมาก เขาประกบมือคารวะ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ท่านอ๋องไม่ต้องกังวล แม้ว่าจะมีพวกกบฏเข้ามาในเมืองหลวง แต่เขาทั้งหมดอยู่ภายใต้การควบคุมแล้ว ยังไม่ถึงขั้นทำลายล้างอย่างสิ้นเชิงได้”อินจ้งกล่าวสนับสนุนขึ้น “ท่านอาจารย์พูดถูกต้อง กรมกลาโหมได้ส่งเอกสารสำคัญเร่งด่วนออกไปแล้ว สั่งให้แต่ละสถานที่เฝ้าคุ้มกันอย่างเคร่งครัด เมื่อค้นพบกลุ่มกบฏ ให้สังหารทันที สังหารก่อนรายงานได้เลย”คิ้วของเย่จั้นยังคงขมวดมุ่นอยู่“เมื่อเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นในเมืองหลวง ข้าคิดว่าการต่อสู้ในเทือกเขาเชื่อมเมฆาเริ่มเข้มข้นขึ้น ข้าเป็นกังวลความปลอดภัยของฮ่องเต้และฮองเฮา อย่างไรก็ตามเมืองหลวงก็มีปัญหาเช่นกัน ไม่สามารถไปเข้าร่วมกับพวกเขาได้”หลังจากได้ยินคำพูดของเย่จั้นแล้ว แม่ทัพทั้งสองก็เงียบงันไปเช่นกันทุกคนที่อยู่ที่

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1418 องค์หญิงไม่เคยรู้จักความโศกเศร้า

    เย่จั้นพูดด้วยความโกรธ “ลากออกไป แขวนไว้บนหอคอยเมือง สับเป็นชิ้นๆ เพื่อไม่ให้ผู้อื่นเอาเป็นเยี่ยงอย่าง”เจวี๋ยอิ่งเหาะลงมา จับชายคนนั้นแล้วลากเขาออกจากห้องหนังสือราวกับลากสุนัข“คิดไม่ถึงว่าในหมู่ทหารองครักษ์ จะมีลูกหลานของพวกเขาอยู่ด้วย”เย่จั้นกางเสื้อคลุมออก นั่งบนเก้าอี้มังกรจอมพลเฒ่ากวนพูดด้วยสีหน้าเป็นกังวล “คนเหล่านี้ซ่อนตัวได้นานขนาดนี้ แต่จู่ๆ ก็ก่อกบฏเพราะคำสั่ง ราชาแคว้นเฟยเหยาเป็นคนแบบไหนกันแน่ ถึงทำให้เกิดความสามัคคีที่ดีเช่นนี้ได้?”อินจ้งยังกล่าวอย่างกังวลเช่นกัน “ใช่แล้ว คนจากแคว้นเฟยเหยาได้บุกเข้ามาทุกซอกทุกมุมในแคว้นต้าโจวเรา สิ่งที่น่ากลัวคือ ความรู้เกี่ยวกับแคว้นเฟยเหยาของเรามีจำกัด หลายวันนี้ข้าได้ค้นคว้าตำราชาวบ้านมากมาย แต่ก็ไม่พบข้อมูลเกี่ยวกับแคว้นเฟยเหยา”เย่จั้นพยักหน้าและกล่าวว่า “ตำราเกือบทั้งหมดในวังหลวง ข้าก็ได้ค้นคว้าดูแล้วเช่นกัน แต่ก็ไม่พบคำใดที่กล่าวถึงเลย บางทีอาจจะเนิ่นนานผ่านมาแล้วหลายยุคสมัย แม้ว่าจะมีคนบันทึกไว้ แต่ก็อาจถูกทำลายเมื่อราชวงศ์เปลี่ยนไป”อินปู้อวี่เป็นคนตรงไปตรงมา อดไม่ได้ที่จะถามว่า “ถ้ามีแคว้นเช่นนี้จริงๆ แล้วราชาของพวกเขาจ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1419 ความกังวลของอินหลี

    “กระหม่อมไม่ได้กลัวองค์หญิง และองค์หญิงย่อมไม่ใช่ภูตผีปีศาจอยู่แล้ว”อินปู้อวี่ก้าวถอยหลัง แล้วก้มศีรษะลงเย่ไห่ถังเอามือไพล่หลัง แล้วพูดแหว “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ทำไมเจ้าไม่กล้ามองข้าล่ะ”อินปู้อวี่โค้งกายลงอีกเล็กน้อย“องค์หญิงวรกายล้ำค่า กระหม่อมย่อมไม่กล้ามองตรงๆ”เย่ไห่ถังพูดเบาๆ “ข้าอนุญาตให้เจ้าเงยหน้าขึ้น”“ทำเช่นนั้นมิได้ ไม่เหมาะสม”อินปู้อวี่ถอยหลังอีกครั้ง ในใจรู้สึกหวาดหวั่นแม้ว่าเย่ไห่ถังกับน้องหญิงใหญ่จะเคยไปเจอเขากับกวนเซี่ยวที่บริเวณโรงเรียน แต่นั่นอยู่นอกพระราชวัง ตอนนี้เขาอยู่ในฐานะผู้บัญชาการทหารองครักษ์ มีหน้าที่โดยตรงในการดูแลรักษาความปลอดภัยของพระราชวัง เขาเคารพในกฎเกณฑ์ขุนนาง ไม่อาจแสดงความไม่เคารพใดๆ ได้เมื่อเห็นว่าเขาทำท่าเหมือนจะวิ่งหนี เย่ไห่ถังก็กระทืบเท้าด้วยความโกรธ“เจ้ามันท่อนไม้ อยากไปนักก็รีบไปเถอะ ข้าก็ไม่ได้อยากเจอเจ้านักหรอก”“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมทูลลา”อินปู้อวี่ตอบรับด้วยความโล่งใจ จากนั้นก็รีบจากไปอย่างรวดเร็วเย่ไห่ถังไม่คาดคิดว่าเขาไปจริงๆ นางอดไม่ได้ที่จะรู้สึกทั้งโกรธทั้งหงุดหงิด คว้าดอกไม้สี่ห้าดอกที่อยู่ข้างๆ มา แล้วโยนมันใส่แปล

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1420 เขาคือฮ่องเต้

    ยอดฝีมือที่ฟื้นคืนสติทั้งหมดยืนอยู่หน้าหลุมศพ ทั้งหมดไม่ปริปากกล่าวคำใด บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและความโกรธแค้นอย่างสุดซึ้ง“แคว้นเฟยเหยา ข้าจะเอาชีวิตลูกสุนัขของพวกเจ้า เพื่อล้างแค้นให้กับศิษย์พี่น้องเหล่านี้อย่างแน่นอน”ศิษย์ของสำนักดาบเดือดกำด้ามดาบแน่น ดวงตาทั้งคู่แดงก่ำ รู้สึกเจ็บปวดหัวใจอย่างยิ่งหากเป็นเหมือนในเป่ยไห่ ที่คนแคระเหล่านั้นต่อสู้ด้วยกระบี่อาวุธจริง เขาก็จะยอมรับ แต่เมื่อเดินทางรอนแรมข้ามภูเขาลำน้ำมาถึงที่นี่ กลับกลายเป็นว่าฝ่ายเดียวกันทำร้ายกันเองคนอื่นก็รู้สึกเช่นเดียวกัน การต่อสู้ครั้งนี้ช่างน่าอึดอัดใจและน่าโมโหจริงๆ หลายคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองตายอย่างไรใบหน้าของเฮ่อยวนก็เย็นชากว่าที่เคย เขาโค้งคำนับเล็กน้อยไปทางหลุมศพและพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วต่ำ “ทุกคนเดินทางไกลนับพันลี้มาถึงเทือกเขาเชื่อมเมฆา เดิมทีเฮ่อยวนควรเปิดประตูต้อนรับแขกผู้มีเกียรติที่เดินทางรอนแรมมาไกลให้ได้ดื่มกินอย่างอิ่มหนำสำราญ แต่ไม่นึกว่าจะทำให้ทุกคนโชคร้ายเช่นนี้ ถูกฝังร่างที่ต่างบ้านต่างเมือง เป็นเพราะเฮ่อยวนไร้สามารถ ไม่อาจปกป้องเหล่าบรรดาลูกศิษย์ของแต่ละสำนักได้ ในวันนี้เฮ่อยวนขอสาบ

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1465 คนแพศยามักจะสำออยแบบนี้แหละ

    ชายคนนั้นหยิบกระดาษทิชชู่ออกจากกระเป๋า เช็ดนิ้วด้วยความรังเกียจ แล้วเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองซูเยี่ยนั่งบนพื้นร้องไห้เสียงดัง ความฝันที่จะแต่งเข้าไปอยู่ในครอบครัวที่ร่ำรวย ได้พังทลายอีกครั้งมือที่มีเห็นข้อต่อเด่นชัดยื่นออกไปต่อหน้าซูเยี่ยซูเยี่ยเงยหน้าขึ้น แล้วก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาราวกับดาราทันทีสิ่งที่ทำให้เธอตื่นเต้นยิ่งกว่านั้นคือ ชายคนนั้นสวมเสื้อผ้าแบรนด์ดัง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขามีฐานะที่ดีหากสามารถเกาะเกี่ยวลูกเศรษฐีที่ทั้งหล่อทั้งรวยแบบนี้ได้ ถูกตบหน้าแค่ครั้งเดียวจะเป็นไรไป บางทีนี่อาจเป็นความยากลำบากทั้งหมดที่สวรรค์ส่งมาให้ ที่มาอยู่ที่นี่ ก็เพื่อให้ได้เจอกับคนที่ดีกว่าเธอสูดจมูก จับมือนั้นไว้ เพิ่งยืนขึ้นมาได้ครึ่งตัว มือก็คลายออกซูเยี่ยเสียการทรงตัว และล้มลงกับพื้นอีกครั้งเธอมองเย่จิ่งหลานด้วยความประหลาดใจ ไม่เข้าใจว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่เย่จิ่งหลานยกมุมปากขึ้น คุกเข่าลงต่อหน้าเธอ ถามด้วยรอยยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “รู้สึกยังไงที่ถูกทิ้ง?”“อะไรนะ...คุณหมายความว่ายังไง?”ซูเยี่ยถามด้วยเสียงต่ำ ดวงตาสีแดงทั้งคู่ ทำให้เขาดูมีเสน่ห์มากกว่าเมื่อก่อนนี่ไม่ใช่ฉากที่ป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1464 แพศยาอย่างเธอ

    เย่จิ่งหลานโบกมือ ประตูก็เปิดออกแสงจากด้านนอกประตูส่องเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัย ทุกคนก็เห็นหลี่ไห่ตงนอนอยู่บนพื้นทันที และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอยภัยนอนระเกะระกะอยู่ข้างๆชายหนุ่มรูปหล่อคนนี้เดินออกไปโดยไม่มีร่องรอยเลือด หรือฝุ่นผงบนร่างกายเลยทุกคนก้าวถอยหลัง มองดูเย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าหวาดกลัวเย่จิ่งหลานเดินขึ้นไปที่ลิฟต์โดยไม่หรี่ตามองในช่วงที่เขาถูกบีบให้ออกจากโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ แต่ละนาทีแต่ละวินาที เขามักจะจินตนาการถึงการทุบตีหลี่ไห่ตงอย่างรุนแรง ได้ระบายความโกรธ วันนี้ ในที่สุดเขาก็ทำได้แล้ว สำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เย่จิ่งหลานไม่อยากคิดอะไรมากเขารีบออกจากโรงพยาบาล มาที่สวนสาธารณะเล็กๆ ใกล้ ๆ มีชายชราคนหนึ่งที่อาบแดดอยู่ เย่จิ่งหลานเหลือบมองเขา และนั่งอีกด้านหนึ่งทั้งสองคนไม่ได้คุยกัน แค่พบกันโดยบังเอิญ ต่างไม่รู้จักกัน และไม่จำเป็นต้องพูดคุยกันเขาค่อยๆ ผ่อนคลายร่างกาย เอนหลังพิงเก้าอี้ หรี่ตาเหมือนที่ชายชราทำ ความอบอุ่นของดวงอาทิตย์ที่ส่องบนร่างกายของเขาช่างทำให้รู้สึกผ่อนคลายจริงๆหลังจากสงบสติอารมณ์ได้แล้ว เย่จิ่งหลานก็คิดถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาพลังลมป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1463 ฉันชื่อเย่จิ่งหลาน

    ความเจ็บปวดจากไฟฟ้า ทำให้เย่จิ่งหลานกลับมามีสติอีกครั้งหลี่ไห่ตงซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เขาไออย่างบ้าคลั่ง และมองไปที่เย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าแห่งความเกลียดชัง“ทุบตีมัน ทุบตีมันให้ตาย ตีมันตายแล้วฉันจะรับผิดชอบเอง”เมื่อเห็นว่าเย่จิ่งหลานไม่ขัดขืน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้น กระแสไฟฟ้าสีฟ้าพุ่งใส่ร่างของเย่จิ่งหลาน ทำให้ห้องรังสีวินิจฉัยที่มืดมิดสว่างไสวขึ้นมาเย่จิ่งหลานหลับตา ใช้ประสาทสัมผัสตรวจสอบอย่างระมัดระวัง และยกมุมริมฝีปากขึ้นเล็กน้อยเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของตัวเอง แต่สัมผัสได้ ความรุนแรงเท่านี้ไม่สามารถเอาชีวิตเขาได้เลย รู้สึกเหมือนกับถูกแมลงต่อยสองครั้ง ถ้าเขาจะโดนฟ้าผ่า ก็ถือว่าเป็นการได้สัมผัสประสบการณ์ล่วงหน้าเป็นเวลาสิบวินาทีเต็มๆ เขาค่อยๆ ลืมตาขึ้น ดวงตาเรียวแคบของเขาเหมือนถูกรายล้อมไปด้วยงูทองคำพ่นไฟ ดุดันน่าเกรงขาม แม้ในความมืดมิดเช่นนี้ ก็สามารถมองเห็นใบหน้าอันน่าเกลียดของทุกคนได้ชัดเจนเขาอาจจะฆ่าคนไม่ได้ แต่สามารถทุบตีพวกเขาได้ และตราบใดที่พวกเขายังหายใจอยู่ ก็ไม่ถือว่าตายเมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เขาก็ค่อ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1462 ปีศาจในชุดดำ

    “แกเป็นใคร ทำไมถึงมาทำร้ายฉัน”หลี่ไห่ตงเมื่อถูกทุ่มลงพื้นก็กรีดร้องอย่างน่าเวทนา ชายหนุ่มรูปงามตรงหน้านี้ เป็นราวกับเจ้าแห่งความตายในนรก ทำให้เขารู้สึกหวาดผวาอย่างสุดซึ้งจนแทบจะรู้สึกได้ถึงความกลัวที่มาจากจิตวิญญาณเขาไม่สงสัยเลยว่าชายคนนี้จะกล้าฆ่าเขาจริงๆหรือไม่“ฉันไม่รู้จักแกเลย แกจำคนผิดหรือเปล่า หรือคนในครอบครัวของแกอยู่ในโรงพยาบาลที่นี่ ถ้าขาดเงิน ฉันช่วยแกแก้ปัญหาได้”หลี่ไห่ตงรู้สึกว่าตัวเองยังพอมีหวัง จึงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะสร้างความประทับใจให้กับชายผมดำยุ่งเหยิงตรงหน้าเย่จิ่งหลานมองไปที่หลี่ไห่ตงอย่างเย็นชา ความทรงจำในอดีตก็หลั่งไหลกลับมาเพื่อให้ได้ทำงานในโรงพยาบาลต่อ ถึงจะนอนดึกกว่าหมา ตื่นเช้ากว่าไก่ ทำงานหนักเยี่ยงทาส ทำงานหนักมาสามปีก็ตาม แต่เพราะบังเอิญไปเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็น จึงถูกส่งไปยังโรงพยาบาลเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ตั้งแต่เช้าจรดค่ำก็ไม่เจอใคร การทำงานหนักและค่าตอบแทนทั้งหมดของเขาถูกทำลายลงเพราะไอ้สารเลวยิ่งกว่าหมาคนนี้ เขากลับอยากมีชีวิตอยู่งั้นเหรอ ในโลกนี้ จะมีเรื่องดีๆ แบบนั้นได้อย่างไรโลกไม่ยุติธรรม เช่นนั้นก็ให้เขาได้ผดุงความยุติธรรม จัดการสัตว์ร้าย

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1461 เศษสวะ

    ไอ้ชาติชั่วนี่ ใช้อุบายเก่าๆ ของเขาอีกแล้วเย่จิ่งหลานเหลือบมองแพทย์หญิง แม้ว่าเธอจะสวมหน้ากากปลอดเชื้อสีเขียว แต่ยังคงมองเห็นความไม่เต็มใจและความลังเลในดวงตาที่เหนื่อยล้าของเธอทั้งสองเดินสวนทางกัน แพทย์หญิงก็เดินเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัยข้างๆ เย่จิ่งหลานอุ้มเด็กเดินเข้าไปในห้องผ่าตัด แต่ยังคงมองย้อนกลับไปที่แพทย์หญิงคนนั้น จากนั้นก็ได้ยินเสียงคลิก ซึ่งเป็นเสียงล็อคประตู“เด็กคนนี้ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกหน้าอก ขาทั้งสองข้างก็ถูกทับ”เย่จิ่งหลานอธิบายอาการของเด็กสั้นๆ จากนั้นรีบเดินไปที่ห้องรังสีวินิจฉัย ดึงที่จับประตูบานใหญ่ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ดึงให้เปิดออกเมื่อนึกถึงไอ้คนชาติชั่วคนนั้นที่โรงพยาบาลเดิมใช้เส้นสายสารพัด ทำเหมือนกับว่าตัวเองเป็นแค่หมา สุดท้ายยังถูกเขาส่งไปยังโรงพยาบาลชุมชนที่อยู่ห่างไกลที่ไม่มีโอกาสก้าวหน้า เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธเขาออกแรง รู้สึกว่ามีแรงแปลกๆ ออกมาจากจุดตันเถียน ไปถึงท่อนแขนของเขาในทันที จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงกึก ประตูที่ถูกล็อคก็หักแกเป็นสองท่อนหลี่ไห่ตงกำลังจะกอดแพทย์หญิงคนนั้นทำเรื่องงามไส้ มีสายตามองจากข้างนอกเข้าไป อีกทั้งเรือนผมยาวส

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1460 ความคิดชั่วร้าย

    ทันใดนั้นก็มีเสียงเบรกดังมาจากด้านหน้าผู้หญิงคนหนึ่งขี่สกู๊ตเตอร์ชนจนล้มกระแทกพื้น เด็กที่อยู่ข้างหลังก็กระเด็นห่างออกไปหลายเมตรเช่นกันหน้าที่ของแพทย์ทำให้เย่จิ่งหลานเหาะไปข้างหน้า กระโดดไปหลายสิบเมตรในก้าวเดียว และลงจอดต่อหน้าผู้หญิงคนนั้นรถที่ผ่านไปมาต่างก็อึ้งกันไปหมด นี่กำลังถ่ายหนัง หรือเรื่องจริง?คนนี้ไม่มีสายสลิงผูกอยู่บนตัวนั้นา แล้วทำไมเขาถึงเหาะได้ไกลขนาดนี้ในคราวเดียวล่ะ?เย่จิ่งหลานเองก็สะดุ้งนี้...มันเป็นไปได้อย่างไรเป็นวรยุทธ์งั้นหรือเขาไม่มีเวลาคิด ก้มลงห้ามเลือดของผู้หญิงคนนั้นทันที กลิ่นเลือดปะทะเข้าจมูกของเขา หัวใจพลันสั่นขึ้นมาเล็กน้อยดูเหมือนมีบางอย่างตื่นขึ้นมา ไฝแดงระหว่างคิ้วก็สว่างวาบขึ้นเล็กน้อยมือของเขานิ่งค้าง จากนั้นเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์หลายคนก็วิ่งเข้ามา“คุณคนนี้ คุณเป็นหมอเหรอ”เย่จิ่งหลานพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว“ฉันเป็นศัลยแพทย์”คนที่ดูเหมือนพยาบาลกล่าวว่า “คนไข้ได้รับบาดเจ็บสาหัส คุณช่วยตามพวกเราไปที่รถพยาบาล ช่วยรักษาฉุกเฉินได้ไหม”เย่จิ่งหลานสูดหายใจเข้าลึกๆ“ได้”เขาก้าวเข้าไปในรถพยาบาล ผู้หญิงและเด็กถูกพาไปที่เตียงในรถพยาบาล

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1459 เรื่องด่วน

    “ไม่ ข้าไม่เคยสงสัยเจ้าเลย ข้าแค่คิดว่า เจ้าและชิงฮุยอาจไม่ได้เป็นแค่ราชาแคว้นกับขุนนางธรรมดาแบบนั้น”อินชิงเสวียนหยุดชั่วคราวและพูดว่า “แม้ว่าข้าจะไม่เข้าใจหลักการวิทยายุทธ์ของแคว้นเฟยเหยา แต่รู้ว่าวิทยายุทธ์แบบเดียวกันนั้นมักจะมีรากเหง้าเดียวกันที่สามารถใช้ค้นหาร่องรอยได้ หากเจ้าใช้ความพยายาม ก็ไม่น่าจะยากที่จะพบตัวชิงฮุย แต่ว่า ที่ข้ามาที่นี่ก็ไม่มามาถามเรื่องเขาทั้งหมด”“โอ้?”ลั่วสุ่ยชิงเงยหน้าขึ้น มองไปยังอินชิงเสวียน“ข้าอยากรู้ หากแก่นวิญญาณของเจ้าและแก่นวิญญาณของชิงฮุยมาพบกันในห้วงทะเลแห่งจิตของเย่จิ่งหลาน จะเกิดผลที่ตามมาอย่างไร”“ไม่แน่ใจ”ลั่วสุ่ยชิงพูดอย่างตรงไปตรงมา“ข้ามีลางสังหรณ์ว่าชิงฮุยอาจทำลายแก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลาน ยึดร่างกายของเขา ดังนั้นจึงซ่อนแก่นวิญญาณของตัวเองไว้ในห้วงทะเลแห่งจิตของเย่จิ่งหลาน โดยใช้วิธีเข้าฝัน...”ลั่วสุ่ยชิงคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดต่อว่า “ตามหลักการปกติทั่วไป แก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลานอาจได้รับผลกระทบ ซึ่งอาจทำให้สมองสดใสน้อยลง แต่ไม่ต้องการให้เขาหายตัวไปโดยสิ้นเชิง เมื่อข้าลองใช้วิธีการเข้าฝันอีกครั้ง แต่ข้าไม่สามารถสัมผัสถึงลมปราณของเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1458 ขายความน่ารัก

    เสี่ยวหนานเฟิงกางมือเล็กๆ ออก แล้วถามด้วยน้ำเสียงแหลมใสไร้เดียงสาว่า “ภารกิจอะไรอ่ะ”“ไปหาพี่สาวลั่ว”อินชิงเสวียนหยิบน้ำพุวิญญาณออกมาล้างมือที่สกปรกของเสี่ยวหนานเฟิง จากนั้นเช็ดด้วยผ้าเช็ดทำความสะอาดฆ่าเชื้อ“อีกประเดี๋ยวเจ้าต้องขายความน่ารัก แม่จะถือโอกาสถามอะไรบางอย่าง”เสี่ยวหนานเฟิงดูสับสน กะพริบตาโตแล้วถามว่า “ขายความน่ารักหมายความว่าอย่างไร ต้องขายให้ได้เงินมากไหม”อินชิงเสวียนหัวเราะเบาๆ“ท่าทางตอนนี้ของเจ้าก็น่ารักบ้องแบ๊วอยู่แล้ว ให้เป็นแบบนี้ต่อก็พอแล้ว”เสี่ยวหนานเฟิงตอบว่าอ้อ และทันใดนั้นก็พูดอย่างตื่นเต้น “พี่สาวลั่วทำหน้าอมทุกข์อยู่ตลอด เราเอาให้ลูกกวาดให้นางก็ได้นะ”อินชิงเสวียนพยักหน้าเห็นด้วย“อื้ม นี่เป็นความคิดที่ดี”นางโบกมือและหยิบถุงลูกกวาดมาจากมิติ“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็มอบให้พี่สาวลั่วนะ”“ตกลง”เสี่ยวหนานเฟิงยื่นมือเล็กๆ ออกมาเพื่อหยิบมัน แล้วถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนิ่ม “ลูกได้ยินจากเสด็จพ่อบอกว่าอาจิ่งหลานหายไป ท่านแม่หาลุงเจอไหม”อินชิงเสวียนถอนหายใจ “ไม่รู้ บางทีเขาอาจจะกลับไปยังที่ของตัวเองแล้ว สำหรับเขาแล้ว แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน”เสี่ยวหนานเฟิงเอียง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1457 อย่าพูดจาเหลวไหล

    “แต่ตอนนี้เราไม่ยังตามหาตัวเย่จิ่งหลานไม่พบ ยังมีวิธีอื่นใดที่จะสามารถล่อให้ศิลาตอบสวรรค์ปรากฏตัวได้หรือไม่”อินชิงเสวียนลูบคาง ปัญหาดูเหมือนจะกลับมาที่จุดเดิมนักพรตเทียนชิงกล่าวว่า “ไม่มี ศิลาตอบสวรรค์จะลงโทษคนที่ชั่วร้ายอย่างยิ่งเท่านั้น ไม่เช่นนั้นก็ไม่มีทางออกจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์”ลั่วสุ่ยชิงก็ขมวดคิ้วเช่นกัน“นี่เป็นปัญหาที่แก้ไขยากจริงๆ”อินชิงเสวียนถามอย่างสงสัย “ศิลาตอบสวรรค์จะมีประโยชน์อะไรกับชิงฮุย”ลั่วสุ่ยชิงกล่าวว่า “เขาต้องการเป็นเซียน”“อ๋า?”อินชิงเสวียนมองไปที่ลั่วสุ่ยชิงด้วยความประหลาดใจลั่วสุ่ยชิงพูดอย่างใจเย็น “ในแคว้นเฟยเหยา มีตำนานเล่าขานมาตลอด ตราบใดที่ได้รับศิลาตอบสวรรค์ ก็สามารถหลุดพ้นจากปัญจธาตุได้ สามารถข้ามผ่านวิบากกรรมและบรรลุขั้นสูงสุด บรรลุเป็นเซียน เสด็จพ่อของข้ามีความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้า ตามหาที่อยู่ของศิลาตอบสวรรค์มาโดยตลอด เมื่อแคว้นเฟยเหยาถูกบุกโจมตี เคยมีคนกระตุ้นศิลาตอบสวรรค์ แต่ถึงกระนั้น หินก้อนนั้นก็ยังคงหายไป พ่อของข้าติดตามกลิ่นอายนั้นไป จนพบแดนศักดิ์สิทธิ์ และได้สรุปว่าศิลาตอบสวรรค์อยู่ที่นั่น”“ผู้ที่เป็นคนกระตุ้นคือใคร เป็นชิ

DMCA.com Protection Status