หน้าหลัก / รักโบราณ / สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ / บทที่ 1365 เด็กดี มีความมุ่งมั่น!

แชร์

บทที่ 1365 เด็กดี มีความมุ่งมั่น!

ผู้เขียน: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-13 16:00:00
“อีกฝ่ายมีกี่คน”

เฮ่อยวนถามอย่างเร่งด่วน

ศิษย์อิ๋นเฉิงกล่าวว่า “มีประมาณห้าสิบคน ทุกคนเป็นยอดฝีมือ และมีความเชี่ยวชาญในเรื่องค่ายกลและกลอุบาย ทำให้ยากที่จะป้องกัน”

เหมยชิงเกอก็ยืนขึ้นเช่นกัน

“ข้าจะไปดูกับท่านด้วย”

เซี่ยวอิ่นหวนพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “ข้าก็จะไปเหมือนกัน ยุทธจักรมีเชื้อสายเดียวกัน เราควรรวมเป็นหนึ่ง ต่อสู้กับศัตรูด้วยกัน”

ศิษย์ของทั้งสองสำนักต่างพูดขึ้นว่า “ลมหายใจและรากเดียวกัน ต้านศัตรูภายนอก”

เฮ่อยวนพยักหน้า ในขณะนี้ ไม่ควรกระจายกองกำลังออกไป เพื่อไม่ให้ถูกโจมตีจนพ่ายแพ้ไปทีละกลุ่ม

อินชิงเสวียนก็อุ้มเสี่ยวหนานเฟิงขึ้น

“ในเมืองนี้มีคนไม่มากนัก เราไม่จำเป็นต้องเฝ้าอยู่ที่นี่ ไปที่อิ๋นเฉิงกันเถอะ”

ทุกคนออกเดินทางทันที คนที่มีม้าก็ขี่ม้า ผู้ที่ไม่มีม้าก็ใช้วิชาตัวเบา

เย่จิ่งหลานที่อยู่ข้างหลังร้องเฮ้อแล้วพูดว่า “ถ้ามีรถสักคันคงจะดี มองเห็นแต่สัมผัสไม่ได้ ช่างน่าหงุดหงิดจริงๆ”

อินชิงเสวียนกลอกตามองเขาและพูดว่า “ใช่ ถ้ามีรถถังสักคันก็ยิ่งดีกว่า สามารถทำลายศัตรูทั้งหมดได้ แบบนั้นคงจะสิ้นเรื่องได้เลย เสียดายก็แต่ของพวกนั้นราคาแพงมาก อาศัยแค่ทำการเกษตร คาดว่าชาตินี้ค
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1366 เจอพิณการเวกอีกหน

    ในขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น เหมยชิงเกอก็ดึงมือกลับแล้ว“ฉางเฟิง เจ้ารู้สึกดีขึ้นหรือยัง”เฮ่อฉางเฟิงหายใจเข้า บนใบหน้าที่ซีดเซียวเริ่มมีสีเลือดขึ้นเล็กน้อย“ขอบคุณท่านป้าเหมยมาก ข้าดีขึ้นมากแล้ว”“ดีแล้ว ชิงเสวียน ช่วยพยุงพี่ชายของเจ้าไปพักผ่อนตรงนั้นหน่อยนะ”เหมยชิงเกอก้าวออกไป ร่างนั้นก็กระโดดไปอยู่ข้างๆ เฮ่อยวนแล้ว ในมือเปล่งแสงสีม่วง โจมตีไปยังชายที่มีรอยกระเต็มใบหน้าอินชิงเสวียนช่วยประคองเฮ่อฉางเฟิงไปที่หินข้างๆ หลิวซือจวินก็วิ่งพลางกระโดดตามเข้ามาด้วยอาการร้อนใจ“น้องชาย...เอ้ย พี่เฮ่อ ขอข้าดูอาการบาดเจ็บหน่อยได้ไหม”นอกจากอาการบาดเจ็บภายในแล้ว เฮ่อฉางเฟิงยังได้รับบาดแผลจากการถูกแทงถูกฟันมากมายและยังมีเลือดออกอีกด้วยเฮ่อฉางเฟิงยกมือขึ้น“ต้องรบกวนแล้ว”“กับข้าไม่ต้องเกรงใจ”หลิวซือจวินรีบเปิดแขนเสื้อของเขาออก หยิบยาจินชวงที่อยู่ในแขนเสื้อออกมา จากนั้นก็จัดการทำแผลให้เฮ่อฉางเฟิงอย่างระมัดระวังเมื่อเห็นท่าทางจริงจังของนาง อินชิงเสวียนก็นึกในใจว่า หลิวซือจวินวิชาแพทย์ยอดเยี่ยม เหมาะสมที่จะอยู่ในอิ๋นเฉิง หากเฮ่อฉางเฟิงชอบนาง บางอาจเป็นคู่รักที่ดีอีกหนึ่งคู่ แต่ไม่รู้ว่าเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-13
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1367 เงาปรากฏตัว

    เห็นได้ชัดว่าชายผู้นี้รู้ถึงพลังความร้ายกาจของพิณการเวก สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย ตะโกนเสียงดังว่า “ทุกคนระวังด้วย พิณการเวกเป็นอาวุธที่ใช้โจมตีแบบกลุ่ม และมันจะเสริมกำลังให้แก่ฝ่ายตนตามความประสงค์ของผู้ดีด”อินชิงเสวียนกระตุกริมฝีปากขึ้นเป็นรอยยิ้มเยาะ“ในเมื่อรู้แล้ว ยังไม่ยอมจำนนอีกรึ!”นิ้วเรียวแตะที่สายพิณ และทันใดนั้นเสียงที่คมชัดก็แพร่กระจายไปทั่วอิ๋นเฉิงเสียงพิณนั้นรวดเร็วและเร่งด่วน เสียงดนตรีจากเครื่องสายก็ดังราวกับฝนตกหนักตกลงมากระทบจานเงิน ทำให้หลายคนรู้สึกกระสับกระส่าย เลือดลมเดือดพล่าน อย่างไรก็ตามทุกคนในอิ๋นเฉิงรู้สึกสดชื่นและความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเมื่อได้ยินเสียงพิณที่คุ้นเคยอีกครั้ง ขวัญกำลังใจของเหล่าศิษย์ของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ก็สูงขึ้นไปอีก ทุกคนต่างตื่นเต้นฮึกเหิม มีเพียงดวงตาของเซี่ยวอิ่นหวนเท่านั้นที่เปลี่ยนเป็นสีแดงนางคิดถึงพ่อบุญธรรม ถ้าเขายังมีชีวิตอยู่ หากได้เห็นชิงเสวียนประสบความสำเร็จเช่นนี้ เขาคงจะมีความสุขมากกระมัง!ทักษะการเล่นพิณของอินชิงเสวียนนั้นเชี่ยวชาญขึ้นนานแล้ว มีแสงสีเงินและสีม่วงพุ่งออกมาที่ปลายนิ้วของนาง ซึ่งเป็นวรยุทธ์ขอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-13
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1368 คิดว่าต้าโจวไร้คนจริงๆ งั้นรึ

    เย่จิ่งอวี้แค่นเสียงอย่างเย็นชา“คนอวดดีเช่นนี้ คิดว่าต้าโจวไร้คนจริงๆ งั้นรึ!”“ถ้าอย่างนั้นเรามาดูกัน ว่าเจ้าจะมีความสามารถที่จะรั้งข้าไว้ที่นี่ได้หรือไม่!”เงาสีดำพลิกฝ่ามือ กลุ่มหมอกสีดำก็กลายเป็นกระบี่อันแหลมคมจำนวนนับไม่ถ้วน ครอบคลุมจุดสำคัญของเย่จิ่งอวี้เย่จิ่งอวี้ได้กระโดดขึ้นมาเหนือเมฆแล้ว หลักการแห่งฟ้าดินที่อยู่รอบตัวเขา ได้สร้างเกราะป้องกันที่แข็งแกร่งขึ้นมาทันทีด้วยการระเบิดที่รุนแรงหลายครั้ง ใบหมอกสีดำก็กระจายไปทีละอันเย่จิ่งอวี้มาถึงเบื้องหน้าของเงาดำราวกับผี“วันนี้ข้าจะดูซิว่า ราชาแห่งแคว้นเฟยเหยา จะเก่งกาจสักแค่ไหน!”ฝ่ามือของเย่จิ่งอวี้เหมือนกับมีด ได้ทะลุผ่านหมอกสีดำไปอย่างรวดเร็ว เงาดำผงะถอยหลัง กระบี่ที่คมอีกหลายสิบเล่มก็ถูกซัดออกไป“รูปลักษณ์ที่แท้จริงของข้าใช่ว่าเจ้าจะมองเห็นได้!”บางทีอาจจะเป็นเพราะประหลาดใจมากเกินไป จู่ๆ เสียงที่ไม่ชัดเจนว่าเป็นชายหรือหญิงของหมอกสีดำก็ชัดขึ้น เป็นน็น เสียงผู้หญิงเด่นชัดอินชิงเสวียนเลิกคิ้ว การคาดเดาที่ว่าบุคคลนี้คือลั่วสุ่ยชิง โดยพื้นฐานก็ได้ยินการยืนยันแล้วแน่นอน นางจะเป็นใครนั้น ในเวลานี้ ไม่สำคัญอีกต่อไปแล้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-13
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1369 ท่านราชาคงไม่ได้ใจอ่อนกระมัง

    แม้ว่าจะมีเย่จั้นดูแลเมืองหลวง และยังมีอินจ้งกับลูกชายช่วยเหลือ แต่อย่างไรบ้านเมืองก็ยังคงเป็นของเย่จิ่งอวี้ มีบางเรื่องที่เย่จั้นไม่สามารถล้ำเส้นได้เป็นเวลาหลายเดือนแล้วตั้งแต่เย่จิ่งอวี้ออกมา หากจะยอมสละทั้งแคว้น เพื่อมุมหนึ่งของเทือกเขาเชื่อมเมฆานั้น เป็นสิ่งที่ไม่ฉลาดเลยเย่จิ่งอวี้จับมือเล็กนุ่มนิ่มของนาง ยกมุมริมฝีปากขึ้นเป็นรอยยิ้ม“เป็นความผิดของข้าเอง ข้าไม่ควรพูดเรื่องนี้ ทำให้เสวียนเอ๋อร์กังวลโดยไม่มีเหตุผล ในเมื่อได้มอบหมายให้เสด็จอากับแม่ทัพอินแล้ว เช่นนั้นจึงควรเชื่อในความสามารถของพวกเขา นี่คือสิ่งสำคัญอันดับแรกที่แท้จริง ในเมื่อราชาแห่งแคว้นเฟยเหยากำเนิดใหม่ที่นี่ เช่นนั้นสถานที่แห่งนี้จะกลายเป็นสนามรบหลักอย่างแน่นอน เมื่อใดที่ยุทธจักรพ่ายแพ้ กองทัพหลวงในราชสำนักจะจัดการกับคนแปลกๆ ที่มีทักษะวรยุทธ์ที่ไม่มีใครเทียบได้อย่างไร”เขาถอนหายใจเบาๆ และพูดว่า “จริงๆ แล้ว ก่อนที่ข้าจะไปเป่ยไห่ ข้าไม่เข้าใจตลอดว่าทำไมพวกเขาไม่ขอความช่วยเหลือจากราชสำนัก เป่ยไห่มีการจัดตั้งหน่วยบัญชาการรบ ยังมีกองทหารประจำการอยู่ที่นั่น จนกระทั่งข้าเห็นคนตงหลิวเหล่านั้น ข้าถึงได้เข้าใจถึงความแตก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-14
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1370 ฆ่าคนต้องชดใช้ชีวิต หนี้สินต้องชำระคืน

    ราชาแห่งแคว้นเฟยเหยาตวาดเสียงเหี้ยม“บังอาจ ข้าคิดอะไรอยู่นั้นเจ้าก็สามารถคาดเดาได้งั้นรึ!”ชิงฮุยไม่สะดุ้ง เขายังคงรักษาท่าทางเดิม มองไปที่ราชาแห่งแคว้นเฟยเหยาด้วยสายตาแน่วแน่“ฆ่าคนต้องชดใช้ชีวิต หนี้สินต้องชำระคืน นี่คือสัจจะนิรันดร์ ชาวต้าโจวเจ้าเล่ห์ยิ่งนัก ท่านราชาห้ามไม่ใจอ่อนเพราะความสับสนชั่วคราว ที่ประชาชนของพวกเขาสามารถอยู่ดีมีสุขได้ ทั้งหมดล้วนได้มาเพราะเหยียบย่ำเลือดเนื้อของชาวเฟยเหยา ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี ข้อเท็จจริงอันนองเลือดก็ไม่เปลี่ยนแปลง”ราชาแคว้นเฟยเหยาพูดนิ่งๆ “ข้าจะแก้แค้นผู้ที่เป็นฆาตกรเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องทำร้ายผู้บริสุทธิ์”“ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถฝึกฝนทักษะของแคว้นเฟยเหยาได้ ที่สามารถซ่อนแก่นวิญญาณฟื้นชีวิตใหม่ได้ ผ่านมานานมากแล้ว ฆาตกรในตอนนั้นกลายเป็นเถ้ากระดูกไปนานแล้ว หรือว่าเรื่องนี้ จะจบลงง่ายๆ แบบนี้เลยงั้นหรือ จะปล่อยให้เลือดของชาวแคว้นเฟยเหยาหลั่งไหลอย่างเปล่าประโยชน์งั้นหรือไม่”เสียงของชิงฮุยดูสงบ แต่ทุกคำที่พูดออกมานั้น ล้วนกดดันคนอย่างยิ่งราชาแคว้นเฟยเหยามีน้ำเสียงอ่อนลง“แม้พวกเขาจะตายไป แต่ลูกหลานก็ยังคงอยู่ เราตามหาเพียงลูกหลานของฆาตกรเท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-14
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1371 กินดินปืนมาหรือไง

    เพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิงต้องขอบคุณน้ำพุวิญญาณของอินชิงเสวียนที่ดีเลิศ และการรักษาที่ยอดเยี่ยมของหลิวซือจวิน ทำให้อาการบาดเจ็บของทุกคนเรียบร้อยเฮ่อยวนได้สั่งให้คนไปจัดเตรียมที่พักให้กับศิษย์ตำหนักเทพและศิษย์จากหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ แล้วจึงสั่งให้คนซื้ออาหารและเครื่องดื่ม ผู้คุมตราเซี่ยวเป็นบ้านดอง มาเยี่ยมเยียนเป็นครั้งแรก จึงต้องทำตามมารยาทให้ครบถ้วนหลังจากรู้ตัวตนของเซี่ยวอิ๋นหวนแล้ว ชาวอิ๋นเฉิงที่กระตือรือร้นต่างก็ส่งอาหารพิเศษในท้องถิ่นของตนมาด้วย และบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาก็ทำให้ความหนักหน่วงของสงครามเจือจางลงอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นครอบครัวของอินชิงเสวียนกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง เย่จิ่งหลานก็เม้มริมฝีปาก อดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกแยกเล็กน้อยเขาเขียนจดหมายฉบับหนึ่ง ทิ้งไว้ในห้องพักแขก บอกกับหวังซุ่นว่า “กลับไปที่โรงเตี๊ยมนั้นเถอะ ที่นั่นยังสบายกว่า ยังมีกุ้งมังกรน้อยอีกเยอะ ถ้าตายคงเสียดายแย่”หวังซุ่นกลายเป็นแฟนคลับตัวยงของเย่จิ่งหลานไปแล้ว แค่เจ้านายบอกว่าจะไปที่ไหน เขาก็จะไปที่นั่น การที่ได้ติดตามเย่จิ่งหลาน ไม่ว่าจะเดินทางผ่านภูเขาและแม่น้ำเขาก็ไม่มีคำบ่นใดๆ“บ่าวทำตามนายท่าน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-14
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1372 คนเขามีเจ้าของแล้ว

    เย่จิ่งหลานกลอกตา“อย่าบอกข้านะ ว่าเจ้าชอบเย่จิ่งอวี้ คนเขามีเจ้าของแล้ว”ลั่วสุ่ยชิงพูดอย่างใจเย็น “เจ้าเพิ่มอีกหลายคำสิ นางเป็นภรรยาของเขา”“เอ่อ...”คำตอบที่มีชีวิตชีวานี้ ทำให้เย่จิ่งหลานจินตนาการไปไกลลั่วสุ่ยชิงเหมือนจะเข้าใจสิ่งที่เขาคิด“อย่าใช้สมองที่สกปรกของเจ้าไปทำลายความสัมพันธ์ที่บริสุทธิ์”“พี่สาว เจ้าพูดจาหยาบคายแบบนี้เสมอหรือ”เย่จิ่งหลานพูดไม่ออก บอกว่านางกินดินปืนยังไว้หน้าไปหน่อย บอกว่ากินระเบิดจะเหมาะมากกว่า“แล้วแต่จะคุยกับใคร”ลั่วสุ่ยชิงหยิบจอกสุราขึ้นมา แล้วส่งสัญญาณให้เขาเย่จิ่งหลานชนจอกกับนาง“เจ้าอยู่ที่นี่มานานแล้ว มีอะไรน่าสนใจที่นี่บ้างไหม”“ไม่มี ข้าแค่อยากรู้เกี่ยวกับขนบธรรมเนียมประเพณีที่นี่”ลั่วสุ่ยชิงดื่มสุราในจอกอย่างกล้าหาญ เอื้อมมือไปคว้าขวดสุราที่วางอยู่ข้างๆ ในขณะนี้ มีดยาวเล่มหนึ่งก็ลอยเข้ามาจากประตู ตรงไปหาเสี่ยวเอ้อร์ที่ถือลูกคิดอยู่บนโต๊ะคิดเงินที่เสี่ยวเอ้อร์สามารถทำงานที่นี่ได้ จึงต้องมีทักษะความสามารถบางอย่างอยู่แล้ว เมื่อได้ยินเสียงทะลุอากาศ ก็เงยหน้าขึ้นทันที ทว่าในชั่วพริบตา มีดก็ทะลุคอและปักเขาติดกับผนังด้านหลังโต๊ะคิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-14
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1373 ไปด้วยกันเถอะ

    ลั่วสุ่ยชิงเอามือไพล่หลัง ดวงตานิ่งงัน“ขืนยังไม่ตอบ ข้าจะส่งพวกเจ้าไปพบยมบาลเดี๋ยวนี้”ชายกระโปรงของนางขยับโดยไม่มีแรงลม เส้นโค้งที่ลอยขึ้นราวกับปุยเมฆดูเหมือนจะบ่งบอกถึงความอดทนที่จำกัดของนางหลายคนเหงื่อแตกพลั่กราวกับเปียกฝน เมื่อรู้ว่าตัวเองต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก ขาข้างหนึ่งอ่อนแรง และทรุดตัวลงคุกเข่ากับพื้น“เราทุกคนฟังคำสั่งของผู้บัญชาการซู เขาบอกข้าว่า ตราบใดที่พบเห็นชาวต้าโจว ไม่ว่าจะชายหรือหญิง ก็ฆ่าไม่เว้น”เย่จิ่งหลานถามด้วยน้ำเสียงทุ้ม “ใครคือผู้บัญชาการซู?”อีกคนหนึ่งตอบว่า “คนผู้นี้ชื่อซูอู่ มีทักษะวรยุทธ์ที่ยอดเยี่ยม ครั้งหนึ่งเคยทำหน้าที่เป็นผู้บัญชาการในกองทัพ”สีหน้าของเย่จิ่งหลานเปลี่ยนไปเล็กน้อย“ในเมื่อเขามีตำแหน่งทางทหาร ทำไมถึงมาที่นี่ เข้าร่วมในยุทธภพ เขาออกจากเมืองหลวงเมื่อไหร่”“เราก็ไม่รู้เหมือนกัน หลังจากถูกเรียกโดยท่านราชาแห่งแคว้นเฟยเหยา เราก็มาที่นี่”ดวงตาของเย่จิ่งหลานเบิกกว้าง“กล่าวคือ ผู้บัญชาการซูก็เป็นผู้สืบเชื้อสายมาจากแคว้นเฟยเหยาเช่นกัน”“เป็นเช่นนั้น”เย่จิ่งหลานเดินขึ้นไปเตะชายคนนั้น ชี้ไปที่ปลายจมูกของเขาแล้วด่าทอลั่น “

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-15

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1515 ถูกปิดหูปิดตา

    “อินปู้อวี่ มีคนมาหาท่านน่ะ!”เย่ไห่ถังเดินไปที่ประตูพระที่นั่ง วางมือเท้าสะเอว แล้วตะโกนเข้าไปข้างในอินปู้อวี่กำลังดูแผนที่การป้องกันในพระราชวัง ไม่รู้ข่าวการกลับวังของอินชิงเสวียน เขาเป็นคนหัวโบราณ ซื่อสัตย์สุจริต ไม่ค่อยซักถามเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับหน้าที่ เมื่อได้ยินเสียงของเย่ไห่ถัง อินปู้อวี่ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยตอนนี้เขากลัวที่จะเจอเย่ไห่ถังมาก ไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไม รู้แค่ว่าเขารู้สึกสับสนมาก“บอกว่าข้าไม่อยู่”องครักษ์กล่าวด้วยความเคารพ “ผู้บัญชาการ ผู้มาไม่ได้มีเพียงแต่องค์หญิงเท่านั้น แต่ยังมีฮองเฮาด้วยขอรับ”อินปู้อวี่ลุกพรวดขึ้นทันที“น้องหญิงใหญ่กลับมาแล้วหรือ”เขาเดินออกจากประตูพระที่นั่งอย่างรวดเร็ว และเห็นอินชิงเสวียนในเครื่องแบบฮองเฮาสีแดงสด ไม่ได้เจอนางมานานกว่าครึ่งปีแล้ว รูปลักษณ์ของอินชิงเสวียนไม่เปลี่ยนไปเลย มีเพียงดวงตาเท่านั้นที่สุขุมและมีพลังมากขึ้น“น้อง...”อินปู้อวี่พูดออกมาคำหนึ่ง แต่รู้สึกว่าไม่เหมาะสม จึงรีบคุกเข่าลงบนพื้น“กระหม่อมอินปู้อวี่ ขอถวายพระพรฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ”อินชิงเสวียนมีหรือจะยอมให้เขาคุกเข่า จับแขนทั้งสองข้างของเขา แล้วดึงข

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1514 อยากเจอข้าหรืออยากเจอเขา

    อินชิงเสวียนหันกลับไปพูดว่า “ฝ่าบาทเสด็จก่อนเถิดเพคะ หม่อมฉันจะคุยกับไห่ถังสักหน่อย”เมื่อมองดูร่างที่ยืนอยู่ตรงหน้าขบวนเสด็จ เกือบจะร้องไห้ด้วยความน้อยใจ เย่จิ่งอวี้ก็ตัดใจพูดให้มากความไม่ลง เย่จิ่งหลานก็ไม่รู้ว่าไปถึงไหนแล้ว ในเมืองหลวงตอนนี้เหลือเพียงพวกเขาสองคนพี่น้องเท่านั้น“ก็ได้ ถ้าคุยกันจนดึกมาก เสวียนเอ๋อร์จะกลับตำหนักไปพักผ่อนก่อนก็ได้ แล้วข้าจะไปหาเจ้าในภายหลัง”เย่จิ่งอวี้รู้ว่าเย่ไห่ถังชอบอินชิงเสวียน ไม่ได้เจอกันมานาน คงมีเรื่องพูดคุยกันเยอะแยะไปหมด งานเลี้ยงในวังคืนนี้ อินชิงเสวียนอาจไม่สามารถไปได้แล้ว“ทราบแล้วเพคะ”อินชิงเสวียนลงจากเกี้ยวด้วยฝีเท้านุ่มนวล เย่ไห่ถังก็กระโดดเข้าหาอย่างมีความสุขทันที“เสด็จพี่สะใภ้ ท่านกลับมาก็ไม่ยอมบอกข้าเลย หรือท่านลืมข้าไปแล้ว ข้าอยู่ในวังอธิษฐานขอพรให้ท่านทุกวัน ขอให้ท่านกลับมาอย่างปลอดภัย เสด็จพี่สะใภ้ใจร้ายมาก!”เย่ไห่ถังกอดนางครู่หนึ่ง จากนั้นปล่อยมือ และเบือนหน้าหนีอย่างไม่พอใจอินชิงเสวียนที่อยู่ข้างหลังพูดเหย้าแย่นาง “ตกลงว่าเจ้าโกรธข้า หรือโกรธคนแซ่อินกันแน่ เพราะข้ากลับมาไม่ถูกจังหวะพอดี ก็เลยพลอยโดนหางเลขไปด้วยกระมัง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1513 วังหลังของคนเพียงผู้เดียว

    “หม่อมฉันน้อมถวายบังคมฝ่าบาทเพคะ!”อินชิงเสวียนยอบกายน้อยๆ ทำความเคารพอย่างเป็นทางการตามราชประเพณี“ตามสบาย”เย่จิ่งอวี้คว้าตัวอินชิงเสวียนขึ้นเมื่อก่อนที่เคยอยู่ในวังหลวง เย่จิ่งอวี้คิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาที่ข้าราชบริพารจะกราบถวายบังคมเจ้าเหนือหัว ตอนนี้เมื่อได้เดินทางท่องยุทธภพ กลับรู้สึกว่ามันลำบากยุ่งยากจริงๆ“จากนี้ไปเมื่อเสวียนเอ๋อร์พบข้า ไม่จำเป็นต้องทำความเคารพอีก ส่วนพวกเจ้าเมื่อกลับเข้าวังมาแล้ว เช่นนั้นควรปฏิบัติหน้าที่รับใช้ให้ดี เสวียนเอ๋อร์กำลังตั้งครรภ์ ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ”เมื่อทั้งหมดรู้ว่าอินชิงเสวียนตั้งครรภ์ ดวงตาของทุกคนก็เปล่งประกายด้วยความดีใจ ในสายตาของพวกเขา การมีลูกหลานมากมายถือเป็นโชควาสนา ทั้งสองพระองค์แต่งงานกันมาเกือบสองปีแล้ว ยังมีแค่เสี่ยวหนานเฟิงคนเดียว ในวังค่อนข้างเงียบเหงาอยู่บ้าง“พวกกระหม่อม/หม่อมฉัน น้อมรับพระบัญชา จะพยายามดูแลพระนางฮองเฮาให้เต็มที่พ่ะย่ะค่ะ/เพคะ!”“ดีมาก ออกไปก่อนเถอะ”เย่จิ่งอวี้ถอยห่างจากฝูงชน ดึงอินชิงเสวียนไปที่เก้าอี้“เสวียนเอ๋อร์สวมอาภรณ์ฮองเฮาช่างดูดียิ่งนัก”“ฝ่าบาทก็เช่นกัน ชุดมังกรเหมาะกับท่านมาก”อิ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1512 หนึ่งวันไม่เห็นเหมือนผ่านไปสามฤดู

    เมื่อเห็นพวกเขา อินชิงเสวียนก็รู้สึกตื้นตันใจเช่นกัน“เสี่ยวอานจื่อ อวิ๋นฉ่าย อวี้จิ่น ยายหลี่ พวกเจ้าอยู่กันทุกคน วิเศษไปเลย ลุกขึ้นมาพูดคุยกันเร็ว!”อินชิงเสวียนช่วยพยุงทุกคนให้ลุกขึ้น ดวงตาชื้นเมื่อเห็นพวกเขา นางก็พลันหวนนึกถึงช่วงเวลาที่เพิ่งข้ามภพมาอยู่ในตำหนักเย็นเป็นครั้งแรก ทุกอย่างเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน“ฮองเฮา ท่านกลับมาช่างดีจริงๆ!”ทั้งหมดต่างมาห้อมล้อมอินชิงเสวียนไว้ตรงกลาง กอดนางเต็มรัก อินชิงเสวียนก็กอดพวกเขาตอบเช่นกัน ทุกคนต่างวุ่นวายกันอยู่พักหนึ่งก่อนจะเข้าวังระหว่างทาง เสี่ยวอานจื่อก็พูดเจื้อยแจ้ว “ฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ ตำหนักเย็นถูกรื้อแล้ว ฝ่าบาทสร้างสวนสนุกที่นั่น องค์ชายน้อยมีที่เล่นสนุกแล้ว”อินชิงเสวียนรู้สึกประหลาดใจ“แล้วคนในตำหนักเย็นล่ะ สวีจือย่วนอยู่ที่นั่นไม่ใช่หรือ”ตอนที่นางจากไปเหมือนว่าสวีจือย่วนยังอยู่ในตำหนักเย็นอยู่เลยยายหลี่ลดเสียงกระซิบว่า “หม่อมฉันได้ยินมาว่า นายหญิงสวีฆ่าตัวตาย ร่างถูกโยนลงในสุสานไร้ญาติ”“อ้อ”อินชิงเสวียนเข้าใจแล้วจะเป็นการฆ่าตัวตายหรือไม่นั้น ไม่ต้องบอกก็รู้แม้ว่าจะถูกเย่จิ่งอวี้ประหารอย่างลับๆ แต่ก็นับว่าส

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1511 กระหม่อมคิดถึงท่าน

    เช้าวันรุ่งขึ้นอินชิงเสวียนออกจากตระกูลอินภายใต้สายตาที่ไม่เต็มใจของทุกคน และผู้ที่คุ้มกันนางกลับวังหลวง ก็คืออินสิงอวิ๋นพี่ชายคนโตเขายังคงหล่อเหลา ทว่านิสัยสุขุมเยือกเย็นมากกว่าปีที่แล้วอินชิงเสวียนเปิดม่านเกี้ยว“พี่ใหญ่ได้เชิญหมอหลวงมาตรวจอาการพี่สะใภ้บ้างหรือยัง”อินสิงอวิ๋นยิ้มอย่างอบอุ่น มองอินชิงเสวียนด้วยสายตาแบบเดียวกับเมื่อก่อน มีความเอาใจใส่เล็กน้อย“หาแล้ว คราวนี้ก็ค่อนข้างดี น้ำพุวิญญาณของเจ้า แทบจะให้พี่สะใภ้ดื่มหมด”อินชิงเสวียนพยักหน้า“ควรเป็นเช่นนี้แล้ว พี่สะใภ้อยู่ไกลบ้าน รอนแรมมาไกลกว่าจะถึงตระกูลอินของเรา เราต้องดูแลนางให้ดีที่สุด อย่าปล่อยให้นางอุดอู้อยู่บ้านทั้งวัน ถ้าท่านมีเวลาว่าง ควรพานางไปเดินเล่นบ่อยๆ คนท้องจะรู้สึกหดหู่โดยไม่รู้ตัว ถ้ามีท่านอยู่ข้างๆ บางทีนางอาจรู้สึกดีขึ้นบ้าง”“อืม คราวนี้แหละ ข้าควรจะหาเวลาได้แล้วจริงๆ”อินสิงอวิ๋นถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก มีหรือที่เขาไม่ต้องการใช้เวลากับเป่าเล่อเอ่อร์ให้มากๆ แต่ในวังหลวงมีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย จนเขาไม่กล้าที่จะหย่อนยานตอนนี้ฝ่าบาทและน้องสาวกลับเมืองหลวงแล้ว ก็เหมือนมีกระดูกสันหลัง ทายาทเฟย

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1510 อาหารมื้อครอบครัว

    อินชิงเสวียนคำนับทั้งสองคน นางไม่ได้มาจากรัชสมัยนี้ ไม่เห็นความสำคัญของมารยาทระหว่างกษัตริย์และขุนนาง แต่กลับให้ความสำคัญกับจริยธรรมของมนุษย์แม้ว่านางจะยอมรับเหมยชิงเกอ แต่บุญคุณที่ตระกูลอินเลี้ยงดูเจ้าของร่างเดิมมานานกว่าสิบปี ก็ไม่สามารถลืมได้ หากนางไม่รู้สึกขอบคุณผู้มีพระคุณของตัวเอง แล้วจะพูดถึงการมีใจกว้างใหญ่ไพศาลได้อย่างไร“เป็นพ่อหนึ่งวัน ย่อมเป็นพ่อตลอดไป แม่เลี้ยงก็คือแม่แท้ๆ พวกท่านเหมาะสมแล้ว”อินชิงเสวียนมีรอยยิ้มบนใบหน้า แต่น้ำเสียงกลับไม่มีความลังเลแม้แต่น้อยความรู้สึกห่างเหินเล็กน้อยของอินจ้งนั้นหายไปในทันที จับมือนางแน่นๆ“ดี ดี ลูกสาวคนดี!”ซูหมิงหลานก็หลั่งน้ำตาเช่นกัน แม้ว่านางจะได้รับการยอมรับจากครอบครัวแล้ว แต่หากไม่มีอินชิงเสวียน สถานะนี้ก็ไม่สมบูรณ์ อินหลีที่อยู่ข้างๆ ก็กล่าวโน้มน้าวเบาๆ “ท่านพี่พี่สะใภ้ไม่ต้องร้อง หากมีเรื่องอะไรไว้ค่อยกลับไปพูดที่บ้านเถิด เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนเข้าใจผิดกันไปใหญ่โต”อินจ้งรู้สึกตัวเพราะคำพูดนี้ เห็นผู้คนที่เอาแต่ยืดคอมองมาทางนี้ เขาก็พยักหน้าโดยเร็ว“ถูกต้อง เรากลับไปคุยกันที่บ้านนะ”อินชิงเสวียนดึงเป่าเล่อเอ่อร

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1509 เข้าสู่เมือง

    ทหารที่อยู่ข้างหน้าเริ่มเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ ครั้นแล้วก็มองเห็นชุดเกราะสีแดงรางๆเฉิงเฟิ่งโหลวสะดุ้งเล็กน้อย นี่...อาจเป็นทหารเปลวเพลิงสีชาดของราชาสงครามอาภรณ์ขาวกระมัง?ถ้ามารับเสด็จฮ่องเต้ เหตุใดจึงสวมชุดเกราะ ถืออาวุธหนัก?หรือว่าว่ามีการเปลี่ยนแปลงในเมืองหลวง อ๋องสิบสาม...ก่อกบฏ?มือที่กุมกระบี่ของเฉิงเฟิ่งโหลวสั่นเทา เขาดึงสายบังเหียนออกทันที แม้ว่าเจ้านายกับนายหญิงจะมีทักษะวรยุทธ์สูง แต่มือเดียวสู้มือหลายไม่ได้ ใบหน้าที่อ่อนเยาว์ของเขาดูสิ้นหวัง “ฝ่าบาท เสด็จขึ้นรถม้าเร็วเข้า”เย่จิ่งอวี้หัวเราะเบาๆ แม้ว่าทั่วทั้งโลกจะทรยศเขา แต่เสด็จอาจะไม่มีวันทรยศเขา นี่คือความมั่นใจของเขา การสวมชุดเกราะ ถืออาวุธหนัก ถือเป็นมารยาทสูงสุดของค่ายเปลวเพลิงสีชาดในชั่วพริบตา ทหารม้าขบวนนั้นก็มาถึงเบื้องหน้า พวกเขาควบม้าและเคลื่อนไหวอย่างพร้อมเพรียงกัน จากนั้นแยกออกจากกันเป็นสองทาง เผยให้เห็นร่างที่สวมชุดคลุมสีขาวชายผู้นั้นมีใบหน้าที่หล่อเหลา ท่วงท่าไม่ธรรมดาสามัญ แต่งกายด้วยชุดสีขาวสะอาดราวกับหิมะ และเสื้อผ้าพลิ้วไหวดุจดั่งเทพเซียนเขาพลิกตัวลงจากม้า เดินเร็วๆ ไปที่รถม้า สะบัดเสื้อคล

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1508 กลับสู่เมืองหลวง

    ครึ่งเดือนต่อมา ในที่สุดรถม้าก็มาถึงเมืองหลวงอินชิงเสวียนไม่สามารถทนต่อการโคลงเคลงสั่นสะเทือนได้ นางจึงอยู่ในมิติกับเสี่ยวหนานเฟิงเกือบตลอดเวลาในช่วงเวลาที่อยู่ร่วมกันนี้ นางพบว่าเสี่ยวหนานเฟิงไม่เพียงแต่ฉลาดเท่านั้น แต่ยังเป็นต้นกล้าที่ยอดเยี่ยมในการฝึกฝนวรยุทธ์อีกด้วยอายุยังน้อยไม่เพียงแต่เรียนรู้บทกวีในสมัยถังและซ่ง ยังมีกำลังภายในลึกล้ำน่าประหลาดใจ มือซ้ายสามารถใช้เคล็ดวิชาใจเพียวเหมี่ยวได้ มือขวาใช้เคล็ดวิชาใจตำหนักเทพได้ แม้กระทั่งเรียนรู้วิชาขลุ่ยลวงใจของเจ้าสำนักเซี่ยว อินชิงเสวียนนึกไม่ถึงจริงๆ ว่าช่วงที่นางไม่ได้อยู่กับเสี่ยวหนานเฟิงนั้น เขาได้เรียนรู้วิชามาจากทุกคนรอบตัวเขา“แค่กๆ เจ้า...ชอบฝึกวรยุทธ์หรือเปล่า?”จากมุมมองที่เห็นแก่ตัว อินชิงเสวียนไม่ต้องการให้เสี่ยวหนานเฟิงมีฝีมมือสูงส่งเกินไป ท้ายที่สุดแล้ว ยิ่งมีความสามารถสูง ความรับผิดชอบก็ยิ่งสูงตาม ศาสตร์แห่งราชาต่างหาก คือสิ่งที่เขาควรต้องศึกษาเสี่ยวหนานเฟิงกะพริบตาโตแล้วพูดว่า “ชอบสิ รู้วรยุทธ์ ก็สามารถปกป้องท่านแม่ได้”อินชิงเสวียนกอดลูกชายตัวนุ่มนิ่มและมีกลิ่นหอม แล้วพูดอย่างจริงจัง “ต่อจากนี้ไปสิ่งที่เจ้

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1507 ขอบคุณศิษย์พี่ลิ่น

    ระหว่างเจ้าสำนักเซี่ยวและเจ้าสำนักเฮ่อมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาก ทว่าระหว่างเซี่ยวอิ่นหวนและลิ่นเซียวนั้นอยู่ในระดับปานกลาง จนแทบจะไม่มีปฏิสัมพันธ์กันเลยบัดนี้เห็นเขาขวางทาง ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากการตายของศิษย์น้องเฟิ่งอี๋ ทำให้กลายเป็นคนสติเลอะเลือน กระทำการสิ่งใดล้วนไม่ผ่านการใช้ความคิด เป็นเรื่องยากสำหรับคนทั่วไปที่จะเข้าใจทันทีว่าเขามีเจตนาอะไรลิ่นเซียวรู้จักนาง พยักหน้าเบาๆ“เฟิ่งอี๋ตายแล้ว ข้ารู้แล้ว”เซี่ยวอิ่นหวนรู้สึกเจ็บปวดในใจ แต่เดิมก็เจ็บปวดจากการพลัดพรากอยู่แล้ว เมื่อได้ยินเขาพูดถึงศิษย์น้องที่รักดุจน้องสาว หางตาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงทันทีริมฝีปากของนางสั่นเทา ลดเสียงลง กดซ่อนความเศร้าไว้ในใจ“ศิษย์พี่ลิ่นควรจะออกมาสู่ความจริงได้แล้ว ถ้าศิษย์น้องอยู่บนสวรรค์มีญาณรับรู้ คงไม่อยากเห็นท่านจมปลักอยู่ที่นี่เพราะนางแน่นอน...”ลิ่นเซียวไม่ต่อคำ แต่พูดต่อว่า “ตาเฒ่าเซี่ยวก็จากไปแล้วเช่นกัน”หัวใจของเซี่ยวอิ่นหวนเจ็บปวดรวดร้าวอีกครั้ง ก้มหน้าสะอื้น“พ่อบุญธรรมเสียชีวิตเพื่อผดุงความยุติธรรมในยุทธจักร ไม่ผิดต่อปณิธานที่ก่อตั้งหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์”ลิ่นเซียวย

DMCA.com Protection Status