Share

บทที่ 1347 เดา

Author: ม่อเยี่ยน
last update Last Updated: 2024-10-08 16:00:00
“เมื่อวานเราดื่มเหล้าด้วยกัน นางเป็นผู้หญิงอิสระและไร้ข้อจำกัด”

เสียงของอินชิงเสวียนแผ่วต่ำ เจือความอิจฉาในน้ำเสียงเล็กน้อย

ได้เกิดมาบนโลกนี้ ใครบ้างจะไม่อยากมีชีวิตที่อิสระ อย่างไรก็ตามถ้าเจ้ามีความรู้สึกก็จะถูกผูกมัด หลายครั้งเจ้าก็ทำได้เพียงคิด แต่ก็ไม่สามารถทำให้เกิดขึ้นจริงได้

เย่จิ่งอวี้อ่านความคิดของหญิงสาวออก จึงเอียงศีรษะแล้วพูดว่า “ถ้าเสวียนเอ๋อร์ต้องการ เราก็อยู่ต่ออีกหลายๆ ปี”

อินชิงเสวียนเม้มริมฝีปากยิ้ม “ไม่ต้องการ”

นางยกกระโปรงขึ้นแล้วเข้าไปในประตู ประกบมือคำนับแล้วพูดว่า “แม่นางชิง เจอกันอีกแล้ว”

“สวัสดีแม่นางอิน”

ชิงลั่วยืนขึ้น และโค้งคำนับตอบ

“ต้องการอาหารหรือเครื่องดื่มไหม”

อินชิงเสวียนมาถึงโต๊ะแล้ว

ไม่จำเป็นว่าคนแซ่เดียวกันจะต้องเกลียดกันเสมอไป สิ่งที่ดีๆ ทุกคนย่อมชอบ

ชิงลั่วพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “มื้อเช้าไม่จำเป็นต้องมีสุราหรือกับแกล้ม แค่บะหมี่ชามเดียวก็พอแล้ว”

นางเงยหน้าขึ้นมองไปที่เย่จิ่งอวี้

“นี่คือ...”

อินชิงเสวียนจับมือเย่จิ่งอวี้ และแนะนำด้วยรอยยิ้ม “นี่คือสามีของข้า นามว่าเย่จิ่งอวี้”

“ที่แท้ก็เป็นคุณชายเย่ ชิงลั่วขอคำนับแล้ว”

ชิงลั่วยืน
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1348 ไร้เดียงสาหรือซุกซ่อนเจตนาไว้ลึกซึ้ง?

    ชิงลั่ววางตะเกียบลง แล้วถามด้วยรอยยิ้มคล้ายไม่ยิ้มว่า “เจ้าไม่กลัวว่าข้าจะทำอะไรไม่ดีกับเจ้าหรือ”อินชิงเสวียนยักไหล่“อะไรจะน่ากลัวขนาดนั้น ถ้าแม่นางอยากทำอะไรไม่ดีกับข้า มีโอกาสตั้งเยอะ ทำไมต้องออกไปข้างนอกด้วย”ชิงลั่วพูดอย่างตรงไปตรงมาครึ่งหนึ่ง “หลังจากที่เจ้าออกจากโรงเตี๊ยม จะไม่มีใครปกป้องเจ้า ข้าจะประหยัดแรงได้มากขึ้น”อินชิงเสวียนหัวเราะเบาๆ “ถ้าแม่นางชิงมีความสามารถนี้ ข้าอินชิงเสวียนถึงตายก็ไม่เสียใจ”ครั้นแล้วก็ก้มหน้ากินบะหมี่ แล้วก็รู้สึกเปรี้ยวในปาก แป้งที่ทำมาจากแป้งขาวโพดนั้นไม่อร่อยจริงๆ คราวนี้ถ้ากลับไป ต้องทำให้แป้งหมี่แพร่หลายโดยทั่วกัน“ไม่ถูกปากแม่นางอินหรือ”ชิงลั่วถาม แล้วพูดกับตัวเองว่า “มื้ออาหารเหล่านี้ไม่อร่อยเท่าเมื่อวานของแม่นางอินจริงๆ”“ถ้าแม่นางชิงชอบ ก็แวะมาได้ตลอดเวลา เราเดินทางมาคราวนี้พกของกินมาเยอะมาก”“ไม่ต้องแล้ว ถ้าแม่นางอินไม่อยากกิน ก็ออกไปเดินเล่นกันเถอะ”“ดีเลย”อินชิงเสวียนยืนขึ้น และตะโกนขึ้นไปชั้นบน “อาอวี้ ข้าจะไปเดินเล่น ท่านกับจิ่งหลานรอข้าอยู่ที่นี่นะ”ห้องพักของเย่จิ่งหลานอยู่ชั้นบน ทั้งสองคนในห้องได้ยินชัดเจน“ไม่ทราบฐ

    Last Updated : 2024-10-08
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1349 การโต้ตอบกันทางวาจาอย่างเข้มข้น

    “แม่นางชิง?”อินชิงเสวียนร้องออกมาเบาๆชิงลั่วพูดเบาๆ “ไม่ถึงกับขุ่นเคืองใจนัก แค่รู้สึกเศร้าใจที่เห็นการเปลี่ยนแปลงของราชวงศ์ต่างๆ ที่ขึ้นๆ ลงๆ มาตลอดประวัติศาสตร์เท่านั้นเอง”“เป็นเช่นนี้เอง”อินชิงเสวียนถอนหายใจเบาๆ“ที่ใดมีคน ย่อมเกิดการทะเลาะวิวาทกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตราบใดยังมีความโลภ ก็ย่อมเกิดการนองเลือดและสงครามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เป็นการยากที่จะวิจารณ์ว่าสิ่งนั้นถูกหรือผิด และไม่จำเป็นต้องวิพากษ์วิจารณ์ ราษฎรเรียบง่าย ไม่แยกแยะผิดถูกมากนัก พวกเขาจดจำแต่ความดีและความชั่วของเบื้องบนเท่านั้น หากผู้ครองเมืองมีเมตตา ก็จะคำนึงถึงชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขา ให้พวกเขามีอาหารและเครื่องนุ่งห่มโดยไม่ต้องกังวล ถ้าหากว่าไฟสงครามลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง ประชาชนย่อมจะต้องได้รับความเดือดร้อนเป็นอันดับแรก ช่างน่าเวทนายิ่งนัก!”อินชิงเสวียนเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า สายตาที่เห็นอกเห็นใจ ราวกับว่ามีราษฎรอยู่ที่นั่นชิงลั่วเหลือบมองนางแล้วพูดว่า “แน่นอนว่าไม่มีใครอยากจุดชนวนสงคราม แต่ในการจัดตั้งกองทัพก็ต้องมีเหตุผล”อินชิงเสวียนพยักหน้าเห็นด้วย“เป็นเช่นนี้จริง เพียงแต่จะไม่เกิดขึ้นตอนนี้”

    Last Updated : 2024-10-09
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1350 ชิงลั่วพูดไม่ออก

    ชิงลั่วตกใจอีกครั้ง สิ่งนี้มาจากไหนหรือว่าอินชิงเสวียนถือของวิเศษติดตัวไปด้วย หรือบำเพ็ญตบะถึงขอบเขตสูงสุดแล้ว มีถุงวิเศษเฉียนคุนอยู่ในตัวของนาง?อินชิงเสวียนเหลือบมอง ก็เห็นกุ้งมังกรน้อยชอีกตัวหนึ่ง นี่เป็นของล้ำค่า อินชิงเสวียนน้ำลายแทบไหลออกมา“ชิงลั่ว มาจับกันเร็ว เจ้านี้อร่อยมาก ประเดี๋ยวกลับไปแล้ว ข้าจะปรุงให้กินเอง”นางพับกระโปรงขึ้น กระโดดขึ้นไปบนก้อนหิน ก้มศีรษะลงแล้วจับไว้ชิงลั่วยืนอยู่ข้างลำธาร นางขมวดคิ้วฮองเฮาจะรู้จักแมลงชนิดนี้ได้อย่างไร แมลงชนิดนี้กินได้จริงหรือนางคงไม่ได้วางยาพิษตัวเองกระมังไม่ ด้วยกำลังภายในของนาง พิษเพียงแค่นี้ไม่สามารถทำอะไรนางได้แล้วทำไมเมื่อครู่นางถึงพูดคำพวกนั้น พยายามทดสอบ หรือเป็นคำพูดที่ไม่ได้ตั้งใจ?ขณะที่คิดถึงเรื่องนี้ อินชิงเสวียนโบกมือให้นางอีกครั้ง“ชิงลั่ว มานี่เร็ว!”ชิงลั่วลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วเดินลงไปตามริมลำธาร“แมลงตัวนี้กินได้จริงหรือ”อินชิงเสวียนพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ไม่เพียงกินได้ แต่ยังอร่อยอีกด้วย”ชิงลั่วคิดว่าสิ่งนี้ดูเหมือนแมงป่อง แต่ก็ยังเคลื่อนหินออกไป แล้วก็พบอีกตัว“แม่นางชิงสุดยอดจริงๆ”หลังจากที

    Last Updated : 2024-10-09
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1351 คลื่นใต้น้ำเชี่ยวกราก

    สีหน้าของชิงลั่วเย็นชาทันที“เบื่อชีวิตแล้วกระมัง?”เย่จิ่งหลานเท้าคางด้วยมือข้างหนึ่ง มองดูชิงลั่วแล้วพูดว่า “ได้ตายใต้ต้นโบตั๋น แม้นเป็นผีก็สุขสม อย่างไรก็ได้เห็นหน้าแล้ว เจ้าก็อย่าสวมผ้านี้อีกเลย”เขาเอื้อมมือไปยกหมวกไม้ไผ่ของชิงลั่วขึ้น แต่ถูกชิงลั่วปัดมือออกมือซ้ายของเย่จิ่งหลานเร็วกว่า มาอยู่ตรงหน้าชิงลั่วแล้ว“แม่นางไม่จริงใจแบบนี้ ไม่น่ารักเลย”ชิงลั่วแค่นเสียงหึอย่างเย็นชา“เจ้าประเมินตัวเองสูงเกินไป”“ไม่ เป็นเจ้าที่ประเมินข้าต่ำไป”ทั้งสองลงมืออย่างรวดเร็วปานสายฟ้า และในชั่วพริบตาก็ต่อสู้กันไปหลายสิบกระบวนท่าเย่จิ่งอวี้ยืนอยู่ชั้นบน แอบมองผ่านรอยแยกของประตู“สังเกตเห็นอะไรหรือไม่”อินชิงเสวียนถามด้วยเสียงแผ่วต่ำ“มองไม่ออก ตอนนี้นางอยู่ในร่างมนุษย์ แต่ราชาของแคว้นเฟยเหยานั้นเป็นหมอกสีดำ ยากที่จะเปรียบเทียบ แล้วเสวียนเอ๋อร์คิดอย่างไร”เย่จิ่งอวี้ก้าวถอยหลัง หลีกทางให้นางอินชิงเสวียนมองดูครู่หนึ่งและพูดว่า “แม่นางคนนี้อายุไม่เกินสิบเจ็ดหรือสิบแปดปี แต่นางสามารถต่อกรกับเย่จิ่งหลานได้นานโดยไม่มีเพลี่ยงพล้ำ ไม่ใช่คนธรรมดาจริงๆ ในตัวนางจะต้องเป็นเหมือนกับเราแน่ๆ

    Last Updated : 2024-10-09
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1352 ราชาแห่งแคว้นเฟยเหยา

    ชิงลั่วหยิบกุ้งมังกรน้อยขึ้นมา แล้วลอกเปลือกนอกออกตามอินชิงเสวียน กลิ่นหอมรสเผ็ดร้อนชนิดหนึ่งอบอวลในลำคอ มันเป็นอาหารอันโอชะที่หาได้ยากจริงๆ“ไม่คิดว่าแม่นางอินจะมีฝีมือดีขนาดนี้”อินชิงเสวียนเม้มริมฝีปากเป็นรอยยิ้ม“ชอบกินชอบทำอาหาร จึงต้องศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับอาหารให้มากขึ้น”ชิงลั่วเหลือบมองเย่จิ่งอวี้“มีภรรยาที่ดีเช่นนี้ คุณชายเย่โชคดีมาก”อินชิงเสวียนถามว่า “ไม่ทราบว่าแม่นางชิงแต่งงานแล้วหรือยัง สนใจจะพิจารณาน้องสามีของข้าไหม”ชิงลั่วไอแห้งๆ แล้วพูดว่า “ข้าปรารถนาชีวิตที่อิสระ ความใฝ่ฝันตลอดชีวิตคือการท่องเที่ยวทั่วโลกเป็นบ้าน ไม่มีแผนจะแต่งงาน”เย่จิ่งหลานยังโบกมือไหวๆ“พี่สะใภ้อย่าจับคู่คนแบบมั่วๆ วรยุทธ์ของแม่นางชิงล้ำเลิศมาก ถ้าข้าแต่งงานกับนาง กลัวว่าไม่เกินสามวัน จะถูกทุบจนสลบเอา”อินชิงเสวียนหัวเราะเบาๆ แต่ในใจกำลังแยกแยะข้อมูลวรยุทธ์ที่นางเพิ่งช่วงชิงมา นี่เป็นวรยุทธ์ที่แปลกประหลาดพิสดารมาก มันสามารถแยกส่วนร่างกายและปกป้องแก่นวิญญาณไม่ให้ตายได้ ซึ่งเพียงเท่านี้ ก็สามารถพิสูจน์ได้ว่าการเดาของนางนั้นถูกต้อง ชิงลั่วคือลั่วสุ่ยชิงนางคงรู้จักตัวตนของกลุ่มพวกนางจา

    Last Updated : 2024-10-09
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1353 อารมณ์หวั่นไหว

    “เรื่องนี้ให้ข้าทบทวนดูก่อน”เงาหมอกหายวับ และลั่วสุ่ยชิงก็หายตัวไปแล้วชิงฮุยค่อยๆ เงยหน้าขึ้น มองไปยังจุดเดิมที่ลั่วสุ่ยชิงเคยยืนอยู่ด้วยดวงตาคู่หนึ่งที่ใสราวกับน้ำนิ่งใบหน้าสงบราบเรียบ ทว่าดวงตากลับไหววูบเล็กน้อย...ลั่วสุ่ยชิงปรากฏตัวอีกครั้ง ซึ่งร่างนั้นมาอยู่ที่ตลาดที่อยู่ห่างออกไปหลายสิบลี้พอมืดลง ผู้คนก็ลุกขึ้นมาทำงานกันที่ถนนสายหลักใจกลางตลาด พ่อค้าแม่ค้าแผงลอยเล็กๆ ก็เริ่มขายของกันมากมาย“แม่นางจะซื้ออะไรกินไหม เปี๊ยะข้าวฟ่างร้อนๆ หอมหวานอร่อยมาก”“ข้ามีโมโม่แป้งข้าวโพด อิ่มท้องสบายเลย”เมื่อเห็นลั่วสุ่ยชิงเดินคนเดียวในตลาด เหล่าบรรดาพ่อค้าแม่ค้าก็มาขายอาหารด้วยใบหน้ายิ้มแย้มลั่วสุ่ยชิงหยุดอยู่หน้าแผงขายเปี๊ยะข้าวฟ่าง“ข้าซื้อชิ้นหนึ่ง”“ได้เลย หนึ่งอีแปะ”ลุงคนนั้นห่อเปี๊ยะให้ลั่วสุ่ยชิงอย่างดี เมื่อเห็นเสื้อผ้าที่มีรอยปะชุนของเขา ลั่วสุ่ยชิงก็ถามขึ้นว่า“ดูเหมือนเจ้าจะมีชีวิตไม่ดีนัก”ลุงยิ้มอย่างบริสุทธิ์เรียบง่าย“ในช่วงครึ่งปีแรกเพิ่งประสบภัยแล้ง ตอนนี้เรามีอาหารเพียงพอก็ดีมากแล้ว จะมีเงินซื้อเสื้อผ้าสีสดใสได้อย่างไร”ลั่วสุ่ยชิงกัดเข้าไป กลืนลงคอได้อย

    Last Updated : 2024-10-10
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1354 ไปลงนรกด้วยกันเถอะ

    หากเป็นเช่นนี้จริงๆ แล้วตัวเองจะแตกต่างจากกลุ่มคนเหี้ยมโหดในตอนนั้นได้อย่างไรเมื่อมองไปที่ทุ่งนาสีเขียวขจีตรงหน้า ลั่วสุ่ยชิงก็รู้สึกสับสนทันทีแม้ว่านางจะสังหารฮ่องเต้ต้าโจว แต่จะสามารถฟื้นฟูแคว้นได้จริงหรือ ถึงวาระนั้นคนของพวกเขากลับมาแก้แค้นอีกครั้ง เช่นนั้นมันจะเป็นการฆ่าสังหารอย่างไม่มีที่สิ้นสุดทันใดนั้น ภาพความตายอันน่าสลดใจของพ่อและพี่ชายก็แวบขึ้นมาในหัว ลั่วสุ่ยชิงรวบนิ้วเข้าหากันไม่ นางไม่ควรลังเลใจราษฎรไม่ผิด แต่ราชวงศ์ยากที่จะหลีกเลี่ยงได้ นางไม่ฆ่าผู้บริสุทธิ์ก็ได้ แต่ต้องไม่มีวันปล่อยตระกูลเย่ไปความเยือกเย็นในดวงตาแวบผ่านมา ลั่วสุ่ยชิงก็กลายร่างเป็นหมอกสีดำและหายไปอีกครั้งภายในโรงเตี๊ยมอินชิงเสวียนและเย่จิ่งอวี้นั่งตรงข้ามกัน“ถ้าเป็นไปตามที่เราเดาไว้ แม่นางลั่วคนนั้นน่าจะเป็นคนที่ฆ่าท่านตา ไม่รู้ว่า...อาอวี้จะทำอย่างไรต่อ”เย่จิ่งอวี้ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ถูกผิดที่เกิดขึ้นเมื่อพันปีที่แล้ว เป็นการยากที่จะตัดสินได้ จากมุมมองทั่วไป แคว้นเฟยเหยาอาจบริสุทธิ์ แต่จากมุมมองส่วนตัว นางเป็นฆาตกรที่ฆ่าท่านตาของข้า ข้าควรจะล้างแค้นแทนท่านตา”เย่จิ่งหลาน

    Last Updated : 2024-10-10
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1355 ค่ายกลนี้ไม่ยาก

    “ใครกัน กล้าพูดจาโอหังที่นี่!”เหมยชิงเกอพลิกข้อมือ พลังกลุ่มหนึ่งพลันระเบิดออกมาจากร่าง ผลักเปิดประตูโรงเตี๊ยมจึงก็เห็นร่างใหญ่ยักษ์ยืนประจันหน้าอยู่นอกประตู ร่างนั้นสูงกว่าสองเมตร แข็งแรงบึกบึนมาก แขนข้างหนึ่งหนากว่าเอวของอินชิงเสวียน หัวใหญ่โตราวกระด้ง ดวงตาปานระฆัง มือแต่ละข้างถือค้อนทองแดงอันใหญ่ เมื่อประกอบกับร่างสูงใหญ่นั้นแล้ว ทำให้ดูค่อนข้างน่ากลัว“เจ้าเป็นใคร”ศิษย์ของตำหนักเทพชักกระบี่ออกมา เดินไปถามที่ประตู“ไปพบยมบาลแล้ว เขาจะบอกเจ้าเอง”คนผู้นั้นยกค้อนทองแดงขึ้น และโจมตีศิษย์ตำหนักเทพอย่างรุนแรงศิษย์ตำหนักเทพยกกระบี่ขึ้นต้านรับ แต่รู้สึกถึงแรงมหาศาลกดลงบนหัว กระบี่ยาวก็แตกออกเป็นสองท่อน จากนั้นก็รู้สึกเจ็บแน่นที่หน้าอก และมีเลือดไหลออกมาเต็มปาก“บังอาจ!”เหมยชิงเกอเปล่งแสงสีม่วงที่ฝ่ามือ แล้วทุบไปยังค้อนใหญ่ แต่ถูกกระแทกกลับไปหลายก้าว ศิษย์คนเมื่อกี้ถูกอัดกระแทกจนหน้าอกอัดกับแผ่นหลัง เนื้อและกระดูกบางราวกับกระดาษเสียงของเจ้าตัวใหญ่ยักษ์นั้นดังก้องราวกับระฆัง หัวเราะลั่นและพูดว่า “ยอดฝีมือยุทธภพอะไรกัน มีความสามารถแค่นี้เอง พวกเจ้าทุกคน ออกมาซะ”หลังจากเสียง

    Last Updated : 2024-10-10

Latest chapter

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1525 พิธีเสกสมรสของท่านอ๋องจิ้ง

    ณ ตำหนักจินอู๋“เป็นอย่างไร ข้าดูคนออกไหม”เย่จิ่งอวี้นั่งอยู่บนเก้าอี้นวมยาวนุ่มๆ ด้วยสีหน้าท่าทางพออกพอใจมากอินชิงเสวียนทำเสียงชิ“เห็นๆ อยู่ว่ามันเป็นเรื่องง่ายที่จบได้ด้วยคำพูดเดียว ท่านกลับข่มขู่จนพวกเขาเกือบตาย เอาเถอะ เห็นแก่อาอวี้ที่วางแผนเผื่อน้องสาว ข้าจะไม่ถือสาท่าน ได้ยินมาว่าเสด็จอาไปสู่ขอที่ตระกูลอินแล้ว ต้าโจวมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นติดต่อกันเลยทีเดียว”เย่จิ่งอวี้โอบนางไว้ในอ้อมแขน“สิ่งที่ข้ารอคอยมากที่สุดคือเรื่องดีของเสวียนเอ๋อร์ ช่วงนี้รู้สึกอย่างไรบ้าง องค์หญิงน้อยของเราดิ้นบ้างหรือไม่”อินชิงเสวียนลูบท้องน้อยโดยไม่รู้ตัว“ไม่มี ถึงอย่างไรก็เป็นลูกสาว ท่าทางว่าง่ายมาก”เย่จิ่งอวี้โน้มตัวลง เอาหน้าแนบกับท้องน้อยของอินชิงเสวียน“เช่นนั้นก็ดีแล้ว เสวียนเอ๋อร์มีชื่อที่ชอบหรือเปล่า”อินชิงเสวียนหรี่ตาลงแล้วพูดว่า “ชื่อของจ้าวเอ๋อร์ยิ่งใหญ่เกินไป ก็เลยไม่รู้ว่าจะตั้งชื่อว่าอะไรถึงจะเข้ากับลูกสาวสุดที่รักของข้า”เย่จิ่งอวี้ยิ้มและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นข้าจะตั้งชื่อเอง แม้ต้องเปิดตำราโบราณจนหมดวังหลวง ข้าก็จะตั้งชื่อที่โด่งดังที่สุดในโลกให้ลูกสาวของเรา”อินชิงเสวีย

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1524 ไม่พอใจก็ต้องทน

    ทั้งสองสะดุ้งตกใจพร้อมกัน เย่ไห่ถังรีบเอาตัวมาบังให้อินปู้อวี่ทันที“เสด็จพี่ พวกเรา...ทั้งหมดเป็นความคิดของข้า เป็นข้าที่อยากหนีการแต่งงาน เป็นข้าที่บังคับเขา!”อินปู้อวี่รู้ว่าฝ่าบาทมีวรยุทธ์สูงส่ง สิ่งที่ตัวเองพูดไปเมื่อครู่เขาจะต้องได้ยินอยู่แล้ว เขาก้าวไปข้างหน้า และคุกเข่าลงต่อหน้าฝ่าบาทด้วยสีหน้าซีดเซียว“ฝ่าบาททรงพระปรีชา ทั้งหมดนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับองค์หญิงเลย เป็นกระหม่อมที่เพ้อฝันในตัวองค์หญิง คิดฝันในสิ่งที่ไม่สมควร ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความเห็นแก่ตัวของกระหม่อมเพียงฝ่ายเดียว ไม่เกี่ยวอะไรกับองค์หญิง ไม่เกี่ยวกับฮองเฮา และยิ่งไม่เกี่ยวข้องกับตระกูลอินเลย กระหม่อมยอมตายเพื่อชดใช้ความผิด ด้วยพระเมตตาของฝ่าบาท หวังว่าฝ่าบาทจะเห็นแก่ความเป็นพี่น้องกับองค์หญิง โปรดอย่าส่งนางไปแต่งงานกับเจียงวูเลยพ่ะย่ะค่ะ!”อินปู้อวี่สะบัดนิ้ว กระบี่ที่เอวก็หลุดออกมาจากฝักเสียงดัง เขาถือกระบี่จ่อที่ลำคอตัวเอง ทว่าเหมือนถูกพลังที่มองไม่เห็นขัดขวางไว้ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่สามารถเข้าใกล้ผิวหนังของเขาได้เลยใบหน้าของเย่ไห่ถังซีดลงด้วยความหวาดกลัว กระโจมเข้าไปหาเขาทันที กล่าวด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดปนสะอื้น

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1523 สารภาพความในใจ

    อินปู้อวี่ไม่กล้าสบตาคู่นั้นโดยตรง ก้มหน้าพูดว่า “กระหม่อมจะกล้าหัวเราะเยาะองค์หญิงได้อย่างไร กระหม่อมเป็นห่วงองค์หญิง ดังนั้น...จึงมาเยี่ยม”เย่ไห่ถังลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วเดินไปหาเขาทีละก้าวถามด้วยดวงตาแดงก่ำ “ข้ากำลังจะไปจากวังหลวง จะไม่ได้รบกวนท่านอีกตลอดไป ท่านสมความปรารถนาแล้ว ยังต้องเป็นห่วงอะไรอีก”อินปู้อวี่ก้มศีรษะลง มองดูปลายรองเท้าแล้วพูดว่า “ไม่ใช่อย่างที่องค์หญิงคิด กระหม่อมไม่เคยคิดเลยว่าองค์หญิงจะไปแต่งงานเชื่อมไมตรี”เย่ไห่ถังยกมุมปากขึ้นอย่างเยาะเย้ยถากถาง“การแต่งงานเชื่อมไมตรีเพื่อเสริมสร้างอำนาจราชวงศ์ ทำให้ประชาชนมีความสุขสงบ เป็นเรื่องธรรมดาตั้งแต่สมัยโบราณแล้วไม่ใช่หรือ จะไม่เคยคิดได้อย่างไร ท่านเคยไปทำศึกที่เจียงวู คงรู้สถานการณ์ที่นั่นดี ทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ ฟ้าดินกว้างขวาง สำหรับข้าคงเป็นสิ่งที่ดีมาก”ทันใดนั้นอินปู้อวี่ก็เงยหน้าขึ้น สีหน้าตื่นเต้นเล็กน้อย“ไม่ดี ที่นั่นไม่เหมาะกับองค์หญิงเลย ชาวเจียงวูส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในกระโจม อพยพตามฤดูกาล แม้แต่ตำหนักที่ประทับที่เป็นทางการก็ยังไม่มีด้วยซ้ำ องค์หญิงสูงศักดิ์ล้ำค่า จะทนสิ่งนี้ได้อย่างไร”เย่ไห่ถังมองดู

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1522 ท่านมาหัวเราะเยาะข้างั้นหรือ

    ไม่ได้ เขาต้องไปพบกับเย่ไห่ถัง!อินปู้อวี่เปลี่ยนเป็นชุดพรางตัว ผลักเปิดหน้าต่างด้านข้าง กวาดสายตามองไปรอบๆ และร่างนั้นก็กระโดดออกจากพระที่นั่งเทียนเต๋ออย่างเงียบเชียบในเวลานี้ ตำหนักชิงฮว๋าได้ตกอยู่ในความโกลาหลหมอหลวงหลายคนช่วยกันตรวจชีพจร และในที่สุดก็สรุปได้ว่า องค์หญิงวิตกกังวลเกินเหตุ ไม่มีอะไรร้ายแรงอินชิงเสวียนเหลือบมองเย่จิ่งอวี้อย่างงอนๆ จากนั้นให้น้ำพุวิญญาณชงชามะนาวให้นางดื่มเย่จิ่งอวี้ยิ้มบางๆ และพูดว่า “ในที่สุดน้องสาวของข้าก็โตขึ้นแล้ว รู้จักจะคิดแทนข้า แม้ว่าเจียงวูจะเป็นสถานที่เล็กๆ แต่ก็มีชนเผ่าอยู่ใกล้ๆ มากมาย เมื่อราชาเผ่ามีเจตนาเป็นกบฏ แล้วร่วมมือกัน นั่นจะเป็นขุมพลังที่ไม่อาจมองข้ามได้ เจ้าไปแต่งงานเชื่อมไมตรีในฐานะองค์หญิง ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงพระเมตตาของสวรรค์เท่านั้น แต่ยังทำให้จิตใจของชาวเจียงวูมั่นคงอีกด้วย เจ้าก็ถึงวัยที่จะแต่งงานพอดี ราชาเผ่าอายุมากกว่าเจ้าไปบ้าง ย่อมรักและทะนุถนอมเจ้าอย่างดีอยู่แล้ว ข้าออกคำสั่งให้เขาแต่งเจ้าเป็นภรรยาเอกแล้ว เจ้าไม่ต้องกังวล”เย่ไห่ถังหน้าซีด นั่งฟังอยู่เงียบๆ ดวงตาว่างเปล่าอินชิงเสวียนทนไม่ไหว ตะโกนออกมาด้ว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1521 ศรัทธาพังทลาย

    อินปู้อวี่ตกตะลึงจนหน้าเผือดสีเขาอ่านจดหมายลับกลับไปกลับมาอยู่หลายครั้ง คำต่อคำ บรรทัดต่อบรรทัด ไม่ผิด ฝ่าบาททรงหมายความตามนี้จริงๆปลายนิ้วสั่นเทาอย่างอดไม่ได้ พระราชโองการร่วงหล่นลงกับพื้น“ผู้บัญชาการ เกิดอะไรขึ้นขอรับ”รองแม่ทัพยืนอยู่ข้างๆ กำลังคิดจะหยิบพระราชโองการขึ้นมาดูอินปู้อวี่ยื่นมือออกไปห้ามเขา สีหน้ามืดลง“ถอยออกไป”รองแม่ทัพไม่กล้าพูดอะไร โค้งคำนับและถอยออกไปนอกพระที่นั่ง ทว่าในใจกลับเอาแต่คิดว่าเกิดอะไรขึ้นฝ่าบาทให้ความสำคัญกับตระกูลอินมากเพียงใดนั้น เจ้าหน้าที่ขุนนางทุกคนในเมืองหลวงล้วนรู้ดี เหตุใดผู้บังคับบัญชาจึงมีสีหน้าหวาดกลัว ราวกับกำลังเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งเช่นนี้?เขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่นานแต่ก็คิดไม่เข้าใจ จึงนำทหารออกไปลาดตระเวนอินปู้อวี่ยืนนิ่งงันอยู่เนิ่นนาน ก่อนที่จะหยิบพระราชโองการขึ้นมา ดึงตะบันไฟออกมา และเริ่มเผามันด้วยสีหน้าด้านชาดังที่เย่จิ่งอวี้พูด เขาเข้าใจทุกอย่าง และรู้ทุกอย่างเขามีนิสัยตรงไปตรงมา ไม่ชอบอ้อมค้อม หัวสมองก็ไม่ฉลาดพอ ไม่เฉลียวฉลาดเหมือนพี่ใหญ่ และไม่ชอบทำตัวเหมือนน้ำกลิ้งบนใบบอนหัวช้าเรื่องความรัก แต่เ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1520 อ่านจบแล้วจงเผาทำลาย

    อินชิงเสวียนค่อนข้างรู้สึกตื่นเต้น นับจากการแจกจ่ายตำราไปจนถึงการก่อตั้งโรงเรียนสอนการต่อสู้ ก็ผ่านมาหนึ่งปีแล้ว แม้ว่าเวลาจะฉุกละหุกไปบ้าง แต่ถ้าเทียบกับบทกวีและบทเพลงที่น่าเบื่อก่อนหน้านี้ ก็ถือว่าเพิ่มพูนความรู้มากพอสมควรแต่หากต้องการให้มีการศึกษาภาคบังคับเหมือนในยุคสมัยใหม่ รวมถึงมีการเรียนแบบมหาวิทยาลัย เกรงว่าจะต้องใช้เวลาหลายปีโชคดีที่ฮ่องเต้สนับสนุนนาง ไม่ว่าจะใช้เวลานานเท่าใดก็ตาม นางก็เต็มใจที่จะลองดู“เช่นนั้นก็ยอดไปเลย ข้ารอไม่ไหวแล้ว เพียงแต่ใกล้จะสิ้นปีแล้ว ทำไมไม่จัดสอบหน้าพระที่นั่งหลังวันตรุษล่ะ จะได้ให้เหล่าบัณฑิตได้สนุกสนานกับครอบครัวในวันตรุษให้เต็มที่”เย่จิ่งอวี้พยักหน้าเห็นด้วย“เสวียนเอ๋อร์พูดมีเหตุผล พรุ่งนี้ข้าจะเขียนโองการขึ้นใหม่ ให้สอบระดับเขตก่อน จากนั้นสอบระดับมณฑล ส่วนการสอยระดับอื่นไว้ค่อยดำเนินการหลังวันตรุษ”อินชิงเสวียนคลี่ยิ้ม“ขอบพระทัยฝ่าบาท”“ปากเล็กๆ เต็มไปด้วยน้ำผึ้ง ขอข้าชิมหน่อย”อินชิงเสวียนปิดปากของเขาทันที“ข้าจะลุกจากเตียงแล้ว”เย่จิ่งอวี้กอดนางไว้แน่นกึ่งบังคับ“ไม่ได้ ข้าบอกแล้ว วันนี้ให้นอนบนเตียง”อินชิงเสวียนดิ้นไม่หลุ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1519 ไม่ต้องพูด จูบข้า

    เมื่อมองดูดวงตาคู่นั้นที่เปี่ยมไปด้วยความรักและความอ่อนโยน หัวใจของอินชิงเสวียนเหมือนจะถูกสิ่งของบางอย่างกระแทกอย่างแรง พูดไม่ออกเป็นเวลานานนางคิดมาตลอดว่าความรักนั้นสามารถร้อนแรงเร่าร้อน หรือจะค่อยเป็นค่อยไปอย่างยาวนานก็ได้ แต่ไม่เคยรู้มาก่อนว่า ความรักของเย่จิ่งอวี้นั้นลึกซึ้งและหนักหน่วงมาก จนกระทั่งครอบครองหัวใจของนางอย่างเต็มกำลังรู้สึกว่าลำคอตีบตันไปหมด การมองเห็นพร่าเลือนไปชั่วขณะหนึ่งนางยืนขึ้นอย่างช้าๆ เดินไปหาเย่จิ่งอวี้ นางอ้าแขนออก และกอดชายตรงหน้าอย่างแรง ราวกับว่าได้อุ้มทั้งโลกไว้ในอ้อมกอดจากนั้นก็ยืนเขย่งปลายเท้า จูบริมฝีปากที่เริ่มเย็นของเขานางเป็นฝ่ายเริ่มตวัดปลายลิ้นดุนดันปลายลิ้นของเย่จิ่งอวี้ อ้อยอิ่งอยู่กับเขารสหวานเข้าครอบงำประสาทสัมผัสของเย่จิ่งอวี้ทันที เขากอดร่างเล็กของหญิงสาวด้วยมือข้างเดียว จากผู้ที่เป็นฝ่ายถูกกระทำกลับกลายเป็นฝ่ายกระทำ ยึดร่างบางของนางไว้กับอกของตัวเอง กระแสเสียงแหบเครือ “เสวียนเอ๋อร์...คิดถึงข้างั้นหรือ ทำไมวันนี้ถึงกระตือรือร้นเช่นนี้”อินชิงเสวียนมองใบหน้าอันหล่อเหลาราวกับเทพเซียนด้วยสายตาพร่าเลือน ประทับจูบที่มุมปากของเขาแ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1518 ทุ่มเททุกอย่างเพื่อเจ้า

    ในตำหนักจินอู๋ อากาศอบอุ่นเหมือนฤดูใบไม้ผลิมีเตาผิงสร้างไว้ในห้อง เปลวไฟไหววูบวาบเป็นรูปร่าง ทำให้ตำหนักขนาดใหญ่แห่งนี้ดูมีชีวิตชีวาและอบอุ่นยิ่งเย่จิ่งอวี้ช่วยอินชิงเสวียนถอดเสื้อคลุมหนาๆ ออก แล้วส่งถ้วยน้ำชาร้อนๆ ใส่มือของนาง“ได้ยินมาว่าเจ้ากับไห่ถังไปที่พระที่นั่งเทียนเต๋อ?”“อืม ไห่ถังอยากไปพบพี่รองของข้า”อินชิงเสวียนจิบคำเล็กๆ แล้ววางถ้วยชาลง“ฝ่าบาทประสาทสัมผัสทั้งหูและตาดีเยี่ยม ทั้งยังมีองครักษ์เงานับไม่ถ้วน ทุกเรื่องในวัง คงปิดบังท่านไม่ได้ ไม่ทราบว่า ฝ่าบาทคิดอย่างไรกับเรื่องนี้”เย่จิ่งอวี้ขมวดคิ้วเล็กน้อย สรรพนามที่นางเรียกนี้ เขาไม่ชอบมากจริงๆนอกวังหลวง เขาและอินชิงเสวียนเป็นเพียงคู่รักธรรมดา เมื่อเสร็จสิ้นเรื่องสำคัญแล้ว พวกเขาก็พูดคุย หัวเราะ หยอกล้อกันบ้างตามประสา แต่เมื่อกลับมาที่วัง เหมือนทุกอย่างจะเปลี่ยนไปในทันที เพียงแค่เอ่ยคำว่า “ฝ่าบาท” ทันใดนั้นระยะห่างระหว่างคนทั้งสองก็เพิ่มมากขึ้น“เรียกว่าอาอวี้เถอะ ข้าชอบมันมากกว่า ข้าสามารถเป็นฮ่องเต้ของทุกคนในโลกได้ แต่ไม่ใช่ของเจ้า”“เอ๊ะ?”อินชิงเสวียนกำลังคิดเรื่องเย่ไห่ถัง ไม่เข้าใจว่าเย่จิ่งอวี้หมายถึง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1517 นิสัยของหลี่กงกงยังคงเหมือนเดิม

    คนที่ถือร่มไม่ใช่อินปู้อวี่ หากแต่เป็นอินชิงเสวียนพี่สะใภ้ของนางแม้ว่าทั้งสองจะแซ่อิน แต่ก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเย่ไห่ถังไม่มีความคิดซับซ้อน ความผิดหวังหรือเสียใจล้วนแสดงชัดบนใบหน้า“เสด็จพี่สะใภ้!”นางตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจู่ๆ ก็โถมตัวเข้าไปในอ้อมแขนของอินชิงเสวียน และร้องไห้เสียงดังอินชิงเสวียนตบหลังนางเบาๆ เมื่อครู่นางแอบซ่อนอยู่มุมมืด ได้ยินและได้เห็นทุกสิ่งได้ชัดเจนหากเป็นคนอื่น นางอาจจะพอเข้าใจได้บ้าง แต่พี่รองเป็นคนแตกต่างออกไป ภายใต้รูปลักษณ์ที่หล่อเหลาและดูเฉยเมย นางไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่เขามีนิสัยเชื่องช้ากว่าคนอื่น เมื่อองค์หญิงสารภาพรัก คาดว่าคงจะตกใจมาก เกรงว่าต้องใช้เวลาทั้งคืน เขาถึงจะรู้ตัว“ไม่ร้องนะ พี่สะใภ้จะหาอะไรสนุกๆ ให้เจ้าเล่น”“ไม่เอา ข้าจะกลับตำหนัก เสด็จพี่สะใภ้ไปหาเสด็จพี่ฮ่องเต้เถอะ”เย่ไห่ถังปาดน้ำตาแรงๆ แล้ววิ่งหนีไป อินชิงเสวียนเป็นกังวล จึงเดินตามนางไปสองชั่วยามต่อมา ในที่สุดเย่ไห่ถังก็หยุดร้องไห้ ดวงตาทั้งคู่บวมเป่ง“เสด็จพี่สะใภ้ ข้าคิดตกแล้ว ข้าจะขอให้เสด็จพี่ย้ายพี่รองของท่านออกจากวังหลัง หากมีคนที่เหมาะสม ข

DMCA.com Protection Status