Share

บทที่ 1287 ลูกจริงจัง

Author: ม่อเยี่ยน
last update Last Updated: 2024-09-24 19:17:58
สามวันผ่านไปในพริบตาเดียว ชาวยุทธ์ที่อยู่ด้านนอกทางสู่วิถีแห่งสวรรค์ก็หมดความอดทนกับการรอคอย เริ่มตะโกนเข้าไปที่ทางเข้าหุบเขาตั้งแต่เช้าตรู่

“มีใครรับผิดชอบอยู่ข้างในหรือเปล่า ตกลงกันแล้ว ห้ามกลับคำนะ”

“ถูกต้อง คนเราพูดแล้วต้องทำด้วย”

“เราทุกคนจ่ายเงินจริง ฉะนั้นรีบเปิดค่ายกล ให้เราเข้าไปได้แล้ว”

“เข้าไป เข้าไป!”

ทุกคนตะโกนพร้อมกัน คนที่อยู่ข้างในก็ตกใจเมื่อรู้ว่าผ่านไปสามวันแล้ว

ในช่วงสามวันนี้ ทุกคนลืมกินลืมนอน โดยเอาความคิดทั้งหมดมาไว้ที่หินก้อนนี้ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าพวกเขาจะพยายามอย่างไร หินก็ยังคงไม่มีอะไรแปรเปลี่ยน

ทุกคนไม่หลับไม่นอน แม้แต่อาหารหรือน้ำก็ไม่ได้แตะต้องเลย ตอนนี้เมื่อรู้ตัว ถึงได้รู้สึกง่วงและเหนื่อย

ทว่าได้กลิ่นหอมของเนื้อที่มาจากข้างหลัง อวัยวะภายในทั้งห้าก็เริ่มส่งเสียงอึกทึกครึกโครม

เมื่อมองย้อนกลับไป ก็เห็นเย่จิ่งหลานกำลังรับประทานอาหารบนตะแกรงบาร์บีคิว ถือไม้เสียบและดื่มสุราอย่างสบายอุรา โดยมีสิ่งที่คาบอยู่ในปาก ท่าทางสบายยิ่งนัก!

อาคันตุกะคนหนึ่งทนไม่ไหว จึงเข้ามาพูดว่า “คุณชายน้อยท่านนี้ ช่วยแบ่งเนื้อเสียบไม้ให้ข้าหน่อยได้ไหม”

เย่จิ่งหลานยิ้มแล้วพ
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1288 ความวุ่นวาย

    เย่จิ่งอวี้กำลังจะถามคำถาม ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงการต่อสู้ดังมาแต่ไกล สีหน้าจึงเปลี่ยนไปเล็กน้อย“เสวียนเอ๋อร์ไปพักผ่อนก่อน ข้าจะไปดูหน่อย”ทันทีที่พูดจบ ร่างนั้นก็หายไปแล้วหวังซุ่นก็กำลังจะออกไปเช่นกัน แต่ถูกอินชิงเสวียนหยุดไว้“เกิดอะไรขึ้น”หวังซุ่นเกาหัว“บ่าวก็ไม่รู้แน่ชัด ตอนแรกกำลังกินข้าวกับนายท่าอยู่ดีๆ ถือโอกาสฟังเหล่าชาวยุทธ์อาวุโสบางคนคุยโวไปด้วย แต่พอมืดลง ชาวยุทธ์เหล่านั้นก็เหมือนคนบ้าคลั่ง แล้วเริ่มทะเลาะกันเลย”อินชิงเสวียนตกใจ“หรือมีใครยื่นมาเข้ามาแทรก ทำให้เกิดการต่อสู้ขึ้น?”“ข้าก็ไม่รู้ สรุปก็คือสถานการณ์ยุ่งวุ่นวายกันยกใหญ่”หลังจากที่หวังซุ่นพูดจบ เขาก็พูดเพิ่มประโยคอีกประโยคหนึ่ง“ตั้งแต่ที่เห็นกำแพงหินครั้งที่แล้ว นายท่านก็ถามข้าหลายครั้งว่าข้าได้ยินอะไรไหม ไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะมีความเกี่ยวข้องอะไรหรือไม่”อินชิงเสวียนขมวดคิ้ว ตอนนั้นเย่จิ่งหลานก็ถามอาอวี้เหมือนกันไม่ใช่หรือ หรือจะเป็นชาดแห่งบาปของเขา?เมื่อเห็นว่าเสี่ยวหนานเฟิงหลับไปแล้ว อินชิงเสวียนจึงส่งเขาเข้าไปอยู่ในมิติ“ข้าก็จะไปดูด้วย”หลังจากออกจากเต็นท์ ก็เจอเฮ่อยวนกับเหมยชิงเกอที่อยู่ห

    Last Updated : 2024-09-24
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1289 เย่จิ่งหลานกินปูนร้อนท้อง

    อย่างไรก็ตามความบ้าคลั่งประเภทนี้ก็เหมือนกับการติดเชื้อ เดิมทีก็มีคนจิตใจชัดเจนหลายคนพยายามโน้มน้าวทุกคนไม่ให้หุนหันพลันแล่น แต่พริบตาเดียวต่อสู้กันขึ้น แม้แต่อาคันตุกะจากตำหนักเทพหลายคนก็เข้าร่วมด้วย เป็นการต่อสู้โดยไม่แบ่งแยกมิตรหรือศัตรูเย่จิ่งอวี้กับอินชิงเสวียนมาถึงกันแล้ว เมื่อเห็นคนเกือบพันคนต่อสู้กันเหมือนกลุ่มอันธพาล พวกเขาก็ต้องตกใจ“นี่ เกิดอะไรขึ้น”หวังซุ่นกำลังมองหาเย่จิ่งหลาน พูดด้วยใบหน้าเศร้า “บ่าวก็ไม่รู้ แต่เพียงครู่เดียวกลับกลายเป็นแบบนี้เสียได้ นายท่าน นายท่านของข้าอยู่ที่นั่น”เขาชี้ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ รีบวิ่งเข้าไปในฝูงชนทันที เพื่อปกป้องเย่จิ่งหลาน“นายท่าน ฮ่องเต้กับฮองเฮามากแล้ว นายท่าน ท่านไม่เป็นไรใช่หรือไม่ พวกเขาบ้าไปแล้วหรือ”ในที่สุดหวังซุ่นก็วิ่งไปถึงตัวเย่จิ่งหลาน ต้นขาถูกฟันด้วยดาบ เลือดสดๆ หยดลงบนกางเกงของเขาเย่จิ่งหลานเหลือบมอง อดไม่ได้ที่จะดุด่า “หุบปาก เจ้างั่งอย่างเจ้าไม่อยู่กับพวกเขาดีๆ มาหาข้าทำไม”หวังซุ่นอดทนต่อความเจ็บปวด หัวเราะแหะๆ แล้วพูดว่า “นายท่านเป็นเจ้านายของบ่าว บ่าวต้องอยู่ข้างกายท่าน ร่วมเป็นร่วมตายอยู่แล้ว”เย่จิ่งห

    Last Updated : 2024-09-24
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1290 การหลอกลวงครั้งใหญ่

    “อาอวี้ มีบางอย่างผิดปกติกับคนพวกนี้”อินชิงเสวียนเชื่อในความรู้สึกของตัวเอง นับตั้งแต่ดื่มน้ำพุวิญญาณ นางก็มีความรู้สึกไวต่อสิ่งต่างๆ รอบตัว นางอ่อนไหวมากกว่าคนธรรมดาหลายเท่า และก็ไม่เคยผิดพลาดมาก่อน“เป็นเช่นนั้นจริง”เย่จิ่งอวี้ก็สังเกตเห็นบางอย่างเช่นกันพลังแห่งฟ้าดินก็ช่วยขยายประสาทสัมผัสของเขาเช่นกัน เขายังสามารถเห็นเส้นพลังงานสีดำที่เล็ดลอดออกมาจากตัวของชาวยุทธ์เหล่านี้“ดูเหมือนพวกเขาจะโดนสิ่งชั่วร้ายเข้าครอบงำ”อินชิงเสวียนขมวดคิ้วและพูดว่า “ดูเหมือนว่ามีบางอย่างผิดปกติกับกำแพงหินนี้”“บางทีวิถีแห่งสวรรค์อาจเป็นการหลอกลวงครั้งใหญ่ที่สุด”ในขณะที่เย่จิ่งอวี้กำลังพูด ก็ซัดจอมยุทธ์อีกสองคนร่วงไปแล้ว ขณะที่ลงมือเขาก็ยังยั้งมือไว้บ้างอย่างไรก็ตาม คนเหล่านี้เสียสติไปแล้ว ในทันใดนั้นคนอีกหลายคนก็รีบรุดไปข้างหน้าโดยไม่กลัวความตายทั้งสองคนไม่ต้องการทำร้ายใคร แต่คนเหล่านี้เป็นเหมือนหนอนที่ติดกระดูก ตีไม่หนี ไล่ไม่ไปอินชิงเสวียนขมวดคิ้วและพูดว่า “อาอวี้ ควรทำอย่างไรดี ถ้าไม่ทำร้ายพวกเขา เกรงว่าจะไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้”ขณะที่กำลังพูด ก็ได้ยินเสียงกรีดร้องหลายครั้งดัง

    Last Updated : 2024-09-24
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1291 นรกบนดิน

    เมื่อเห็นว่าทั้งสองคนมีความกังวล เย่จิ่งหลานจึงไม่บังคับอีก ไม่ว่าใครจะถูกหรือผิด เขาก็ไม่สามารถยัดเยียดความคิดของตัวเองให้กับผู้อื่นได้“งั้นก็ควบคุมพวกโง่นี้ให้ได้ก่อน”เขายืนขึ้นกำลังจะออกไป แต่อินชิงเสวียนห้ามไว้“เย่จิ่งหลาน เจ้าไม่ได้รับผลกระทบใช่ไหม”เย่จิ่งหลานแค่นเสียงชิพูดว่า “ข้าเป็นใครไม่รู้รึ คิดจะควบคุมข้า ไอ้ของเส็งเคร็งนี่ยังต้องมีชีวิตอยู่ต่ออีกพันปีถึงจะทำได้”อินชิงเสวียนไม่รู้สึกถึงความอาฆาตพยาบาทในตัวเขา จึงโล่งใจ“ความใจร้อนวู่วามคือปีศาจ การฆ่าคนก็ถือเป็นหนี้กรรมเช่นกัน พยายามควบคุมพวกเขาก็พอ”“รู้แล้ว”ครั้นแล้วเย่จิ่งหลานก็กระโดดเข้าสู่วงการต่อสู้อีกครั้งในระยะไกล เฮ่อยวนก็ขมวดคิ้วเช่นกันเขาเป็นคนใจดีมีเมตตา เขาไม่ได้ลงมือโหดเหี้ยมเลย แต่จะทำอย่างไรได้เพราะพวกคนเหล่านี้ที่ไล่ตามไม่เลิก ราวบ้าคลั่งไปแล้ว“เฮ่อยวน ไม่ต้องยั้งมือ”เมื่อเห็นลูกศิษย์ของตำหนักเทพล้มลงอย่างต่อเนื่อง เหมยชิงเกอก็โกรธจัดในเวลาเดียวกัน เสียงที่คล้ายกับเสียงของนางเองดังก้องอยู่ในใจ“ดูเอาเถิด นี่เป็นความอยุติธรรมของสวรรค์ เจ้าไม่มีเจตนาจะทำร้ายผู้อื่น แต่พวกเขากลับเจตนาจะ

    Last Updated : 2024-09-24
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1292 การปล้นฆ่าเริ่มขึ้น

    เสียงกรีดร้องนับไม่ถ้วนดังขึ้นในเมือง เฉิงเฟิ่งโหลวอดไม่ได้ที่จะตัวสั่นด้วยความกลัว ส่วนไป๋เสวี่ยและเจ้าหมาป่าน้อยสีขาวก็เห่าหอนอย่างวิตกเช่นกันกลิ่นคาวเลือดปลุกสัญชาตญาณอันดุร้ายของเจ้าหมาป่าน้อยสีขาว มันส่งเสียงคำรามต่ำๆ หมอบคลานไปบนพื้น ประกายสีเขียวที่รุนแรงวาววับในดวงตาไป๋เสวี่ยใช้อุ้งเท้าตรึงมันไว้กับพื้น เจ้าขาวพยายามอยู่หลายครั้ง แล้วจึงนอนลงบนพื้นเฉิงเฟิ่งโหลวกระวนกระวายใจจะแย่แล้ว เขาถือหนังสือแสร้งทำเป็นสงบ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็อ่านไม่เข้าใจนายท่านและครอบครัวยังไม่กลับมา ขออย่าให้เจอคนชั่วเลย ชาวยุทธ์มากมายเหล่านั้น แต่ละคนฆ่าคนโดยไม่กะพริบตา ยิ่งไม่พูดถึงเรื่องไร้เหตุผลนอกจากนี้ยังมีนายน้อยอีก เขาเป็นห่วงยิ่งนัก“ไป๋เสวี่ย เรา...ออกไปดูไหม”เฉิงเฟิ่งโหลวไม่รู้ว่าสุนัขจะเข้าใจหรือเปล่า แต่ในใจเขากลัวมาก แม่ของเขาบอกว่าสัตว์เดรัจฉานเลี้ยงไม่เชื่องที่สุด แม้แต่สุนัขในบ้าน ก็ยังชักสีหน้าไม่ยอมรับเจ้าของไป๋เสวี่ยจ้องมองที่เฉิงเฟิ่งโหลว แล้วส่ายหัวอันใหญ่โตของมัน ก่อนที่อินชิงเสวียนจะจากไปได้กำชับไว้เป็นพิเศษ บอกให้มันปกป้องเฉิงเฟิ่งโหลวกับเจ้าขาวโดยเฉพาะเฉิงเฟิ่งโหล

    Last Updated : 2024-09-24
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1293 จะมาแล้วหรือ

    คุณชายคนนั้นทำหน้าตกใจ พูดเสียงหอบๆ “ข้าจะรู้ได้อย่างไร ข้าเพิ่งเดินทางมาถึงที่นี่ แต่กลับเห็นคนบ้ากลุ่มหนึ่ง หรือว่าเจ้าก็เป็นคนจากนอกพื้นที่เหมือนกัน?”คุณชายคนนั้นกะพริบตา ดวงตาทั้งคู่คล้ายจะมีน้ำคลออยู่ ซึ่งน่าดูเป็นพิเศษเฉิงเฟิ่งโหลวตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงรู้สึกตัว“จริงๆ แล้วข้าก็เพิ่งย้ายมาอยู่ที่นี่ได้ไม่นานนัก”เฉิงเฟิ่งโหลวยังเด็ก ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมอะไรนัก เขาได้เล่าเรื่องราวที่ตัวเองขอทานมาจนถึงที่นี่ และเรื่องที่ได้รับการช่วยเหลือจากนายท่านกับนายหญิงอย่างย่อๆ คุณชายผู้นั้นตอบอ้อแล้วกล่าวต่อว่า “แล้วเจ้าไม่รู้หรือว่านายท่านกับนายหญิงของเจ้าหายไปไหน”เฉิงเฟิ่งโหลวส่ายหัวอย่างไม่รู้เรื่องชายหนุ่มเอียงศีรษะและคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “ถ้าพวกเขาไม่ได้บอกเจ้า บางทีพวกเขาอาจจะจากไปแล้ว”เฉิงเฟิ่งโหลวหน้าแดงก่ำขึ้นมาทันที“ไม่ใช่หรอก นายท่านบอกว่าจะพาข้าไปเมืองหลวง พวกเขาไม่มีวันทอดทิ้งข้าแน่นอน”คุณชายคนนั้นเบ้ปาก ขู่ว่า “เจ้าเห็นเพียงรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูดีของพวกเขา แต่ใครจะรู้ว่าข้างในนั้นเป็นอย่างไร บางทีพวกเขาอาจเป็นคนค้ามนุษย์ คอยดูเจ้าจะถูกขายราคาได้ดีๆ”

    Last Updated : 2024-09-25
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1294 หลิวซือจวิน

    ณ บัดนี้ ที่เมืองถงหูเล็กๆ ด้านนอกทางสู่วิถีแห่งสวรรค์ได้วุ่นวายอลหม่านไปหมด ในเวลาเพียงสามสิบนาที ผู้บริสุทธิ์หลายสิบคนถูกสังหารเมื่อเห็นว่าสถานการณ์เริ่มควบคุมได้ยากขึ้น ตำหนักเทพและอิ๋นเฉิงจึงออกคำสั่งที่สองไม่ว่าอย่างไรก็ต้องจับกุมคนเหล่านี้ให้ได้ ใครก็ตามที่ฝ่าฝืน ต้องถูกฆ่าตายทันที!เมื่อเฮ่อฉางเฟิงทราบข่าวจากศิษย์อิ๋นเฉิง ก็ไม่ยั้งมืออีก หากไม่สามารถควบคุมได้ก็ฆ่าทันทีก่อนที่จะกลับมาที่เมืองถงหู เฮ่อฉางเฟิงตั้งใจจะออกไปท่องยุทธภพจริงๆ อย่างไรก็ตามทุกคนต่างก็มีความอยากรู้เป็นนิสัย เขาอยากรู้ว่าคราวนี้จะสามารถเปิดทางสู่วิถีแห่งสวรรค์ได้หรือไม่ จึงไปหาบ้านที่ไม่เด่นสะดุดตา แวะพักก่อนชั่วคราวเพียงพริบตาเดียวก็ผ่านมาแล้วสามวัน เฮ่อฉางเฟิงยังไม่ได้ยินข่าวใดๆ กำลังจะไปหาโรงเตี๊ยมเพื่อสอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์ ทันทีที่มาถึงที่ประตูก็ได้กลิ่นคาวเลือดตีขึ้นจมูก จึงได้บังเอิญช่วยเฉิงเฟิ่งโหลวและหลิวซือจวิน“คุณชายเฮ่อ ได้ยินมาว่าคนในอิ๋นเฉิงล้วนมีทักษะทางการแพทย์ดี ท่านช่วยแสดงให้ข้าเห็นสักครั้งได้หรือไม่”เฮ่อฉางเฟิงลงมือตลอดทาง โดยที่มีหลิวซือจวินคอยเดินตามเซ้าซี้อยู่ไม่หยุด พร

    Last Updated : 2024-09-25
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1295 ความคิดเห็นที่แตกต่างกัน

    อินชิงเสวียนรู้ว่าในสมัยโบราณเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดเรื่องแบบนั้น ทว่าในใจก็ยังรู้สึกเช่นนั้นล้วนสูญเสียสติสัมปชัญญะเช่นกัน รู้แค่ว่าต้องฆ่าคนเท่านั้นเหมือนกัน ส่วนแตกต่างก็คือ ซอมบี้หลังจากตายแล้วก็ยังสามารถเคลื่อนไหวได้ แต่หากชาวยุทธ์เหล่านี้ตายลง ก็เท่ากับดับสิ้นไปโดยสิ้นเชิงแม้ว่าคนเหล่านี้ต่างก็คิดไม่ซื่อ แต่ก็ไม่สามารถฆ่าพวกเขาทั้งหมดได้จริงๆ เช่นนั้นจะขัดต่อความกลมกลืนของสวรรค์ อินชิงเสวียนเคยเป็นคนไม่เชื่อเรื่องสวรรค์ แต่ตั้งแต่นางตั้งครรภ์ นิสัยของก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป นางมักจะรู้สึกเสมอว่าถ้าสะสมบุญบารมีมากขึ้น ก็จะสามารถปกป้องลูกๆ ได้“ท่านพ่อกับท่านแม่ได้บอกไว้หรือไม่ ว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร”เย่จิ่งอวี้ช่วยประคองอินชิงเสวียนให้นั่งบนแท่นหินข้างๆ“ท่านพ่อให้ผู้อาวุโสหลายท่านจากอิ๋นเฉิงช่วยวินิจฉัยรักษาให้พวกเขา แต่กลับไม่สามารถหาสาเหตุได้”อินชิงเสวียนเหลือบมองกำแพงหินที่ตั้งตระหง่านอยู่ข้างๆ“คิดว่าคนเหล่านี้คงถูกทำให้จิตใจสับสน ไม่รู้ว่าน้ำพุวิญญาณจะได้ผลหรือไม่”นางโบกมือและหยิบขวดน้ำออกมา พูดกับเย่จิ่งอวี้ว่า “อาอวี้ลองเอาไปให้ใครสักคนดื่มดู”เย่จิ่งอวี้รับไว้ด้วยคว

    Last Updated : 2024-09-25

Latest chapter

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1533 เจ้าน่ะ ยังมีนิสัยดื้อรั้นเหมือนเดิม

    “ในเมื่อเจ้าเตรียมตัวพร้อมแล้ว เช่นนั้นก็ตามข้าไปที่อื่น”อินชิงเสวียนดีดปลายเท้าขึ้น ร่างนั้นก็กระโดดออกจากตำหนักจินอู๋ ท่วงท่ากิริยาเบาบางและสง่างาม ราวกับเทพธิดาในวังพระจันทร์ที่ทิ้งร่องรอยความงดงามไว้บนโลกมนุษย์ฟางรั่วติดตามอย่างใกล้ชิด พลางชื่นชมในใจอินชิงเสวียนเป็นคนพิเศษจริงๆ!ราวสิบห้านาที ร่างที่สง่างามทั้งสองก็ปรากฏตัวขึ้นในตำหนักฉือหนิงหลังจากไทเฮาสิ้นพระชนม์ สถานที่แห่งนี้ก็ว่างเปล่า ขณะนี้มีไท่เฟยและไท่ผินเพียงไม่กี่คนที่เหลืออยู่ในวัง ที่พักอาศัยมีมากมาย เหตุผลที่อินชิงเสวียนเลือกสถานที่นี้ ก็เพราะเย่จิ่งอวี้จะไม่มาจากนั้นก็นึกในใจ ครั้นแล้วถังไม้ขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า และในพริบตาเดียว มันก็เต็มไปด้วยน้ำพุวิญญาณที่ใสสะอาด“เข้าไปสิ สิ่งนี้สามารถรับรองความปลอดภัยของเจ้าได้ในระดับสูงสุด”“เพคะ”ฟางรั่วก้าวเข้าไปในถังโดยไม่ลังเลใดๆ แม้เป็นฤดูหนาว น้ำในถังนี้กลับไม่เย็น แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นที่ปกคลุมผิวหนังและเส้นลมปราณทั้งหมดของนางอินชิงเสวียนตามเข้ามา จากนั้นนั่งตรงข้ามนางแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น น้ำพุวิญญาณก็สามารถรับรองความปลอดภัยในชีวิตขอ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1532 คืนชีวิตให้ท่านแล้วจะเป็นไร

    “เจ้าลุกขึ้น ข้าหมายถึงอาจจะทำได้ แต่จะมีโอกาสฟื้นตัวได้มากเพียงใด ข้าก็ไม่แน่ใจ เรื่องนี้ เจ้าควรปรึกษากับกวนเซี่ยวก่อนดีกว่า ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเจ้าเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับเขาด้วย”อินชิงเสวียนพยุงฟางรั่วด้วยมือทั้งสองข้าง และอธิบายข้อดีข้อเสียฟางรั่วพยักหน้า“ข้าเข้าใจ เพียงแต่ สุขภาพของฮองเฮา”อินชิงเสวียนท้องโตขนาดนี้ หากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา นางไม่สามารถรับผิดชอบไหวอินชิงเสวียนยิ้มละไม“ร่างกายของข้าแข็งแรงมาก ไม่เป็นไร เจ้าคิดดีแล้วก็มาหาข้าที่วังหลวงได้เลย”“เพคะ”ขณะที่กำลังคุยกัน ทั้งสองคนก็เดินไปที่แท่นประลองข้างๆ แล้วเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งอายุสิบห้าหรือสิบหกปี ถือดาบคู่อยู่ในมือ กระโดดขึ้นลงด้วยท่าทางที่เบาและกล้าหาญ บีบชายที่อยู่ตรงข้ามหลังให้ล่าถอยทีละก้าว จนตกแท่นประลอง ล้มลงต่อหน้าผู้ชม อินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะชื่นชมมัน“ทำได้ดีมาก!”ใบหน้าของฟางรั่วแสดงถึงความภาคภูมิใจ“เด็กหญิงคนนี้ชื่อหลิวซู่เยว่ เมื่อก่อนเป็นลูกสาวของหัวหน้าคณะละคร นางมีทักษะการต่อสู้อยู่บ้าง หลังจากที่บิดาเสียชีวิต นางไม่สามารถดูแลคณะละครได้ จึงมาที่เมืองหลวง เข้ามาเรี

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1531 ขอฮองเฮาได้โปรดช่วยเหลือด้วย

    “ข้าเอง!”อยู่ๆ อินชิงเสวียนก็นึกสนุก กระโดดขึ้นไปบนแท่นสูงเมื่อเห็นนางชัดเจน คนบนแท่นก็ยิ้มแย้มแจ่มใสด้วยความดีใจ“อิน...”นางพูดได้คำเดียว จากนั้นรีบเปลี่ยนคำพูด คุกเข่าลงแล้วพูดว่า “หน่วยรักษาการณ์ฝั่งซ้ายฟางรั่ว ขอน้อมถวายพระพรฮองเฮาเพคะ”อินชิงเสวียนเอื้อมมือไปประคองนางขึ้น แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “เพียงพริบตาเดียวก็ไม่ได้เจอกันมาครึ่งปีแล้ว แม่นางฟางรั่วเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคนเลย มีความกล้าหาญขนาดที่หมื่นคนก็ขวางไม่อยู่ ทำให้สตรีทั่วทั้งแผ่นดินรู้สึกภาคภูมิใจจริงๆ”ฟางรั่วถูกอินชิงเสวียนยกย่องจนดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาตินัก นางก้มศีรษะลงแล้วพูดว่า “ฮองเฮาตรัสยกย่องเกินไปแล้ว”นางพูดด้วยกระแสเสียงสงบ ก้องกังวานราวกับว่าเสียงโลหะกระทบกัน คิดว่านางคงใช้น้ำพุวิญญาณที่ตัวเองเก็บไว้ให้ จนก้าวหน้าไปอีกขั้นแล้ว“คำยกย่องใช่ว่าจะไม่มีมูล เจ้าเก่งมากจริงๆ ข้ามองคนไม่ผิด คนเหล่านี้เป็นลูกน้องของเจ้าหรือ”อินชิงเสวียนหันความสนใจไปยังคนที่เบื้องล่างแท่นประลองฟางรั่วพยักหน้า“สตรีทุกคนในค่ายกำลังสอบวิชาการต่อสู้ หลังจากพวกนางสอบเสร็จสิ้น ฮองเฮาก็จะสามารถชมความองอาจของพวกนางได้”อินชิงเสว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1530 ใครกล้าขึ้นแท่นประลอง

    อินชิงเสวียนที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็กลั้นเสียงหัวเราะ แต่ต้องชื่นชมสายตาขององครักษ์เงาเหล่านี้ ภายใต้การจ้องมองของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นแผนการและกลอุบายใดๆ ก็ไม่สามารถรอดพ้นสายตาไปได้สามวันผ่านไปในชั่วพริบตา เอกสารสอบที่ปิดผนึกจำนวน 420 ชุดก็ถูกขนย้ายเข้ามาในห้องหนังสือแล้วอินชิงเสวียนรออยู่ก่อนแล้ว นี่เป็นครั้งแรกของที่ทำหน้าที่ตรวจข้อสอบ นางตื่นเต้นมาก หลังจากได้รับกระดาษคำตอบแล้ว นางก็เปิดผนึกเคลือบออกทันที สองสามีภรรยามีการแบ่งงานอย่างชัดเจน คนหนึ่งตรวจวิชาคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และเคมี ส่วนอีกคนก็พิจารณาภาพรวม หลังจากผ่านไปสิบวัน ในที่สุดก็ได้คัดเลือกออกมาเก้าสิบหกชุดอินชิงเสวียนตรวจอ่านจนเวียนหัวตาลาย ชาตินี้ไม่คิดจะแตะต้องชุดข้อสอบเหล่านี้อีกแล้วเย่จิ่งอวี้นวดหน้าผากของนางเบาๆ ถามด้วยรอยยิ้ม “อีกไม่กี่วันจะเป็นการสอบหน้าพระที่นั่ง ฮองเฮาอยากมาสังเกตการณ์หรือไม่”อินชิงเสวียนส่ายหัวซ้ำๆ“ไม่แล้ว ฝ่าบาทดูก็พอ ตอนนี้ข้าแค่อยากจะนอนพักผ่อนให้สบายสักสองสามวันแล้ว”เย่จิ่งอวี้พูดอย่างเอ็นดูรักใคร่ “ได้ เช่นนั้นก็พักผ่อนดีๆ ฮองเฮาของข้าลำบากแล้ว”อินชิงเสวียนถอนหายใจอีกครั้ง“น่าเสียดา

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1529 การสอบฤดูใบไม้ผลิ

    เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เพียงพริบตาเดียวก็ถึงเดือนสามนักเรียนฝ่ายบุ๋นฝ่ายบู๊จำนวนมากหลั่งไหลเข้ามาในเมืองหลวง ต้าโจวก็คึกคักครื้นเครงเป็นพิเศษ วันที่สิบแปดเดือนสาม กรมพิธีการเป็นประธานในการสอบอินชิงเสวียนปลอมตัวเป็นอาจารย์อินอีกครั้ง และแอบหนีไปที่หอตรวจ ท้องของนางเริ่มโตขึ้นมากแล้ว เพื่อไม่ให้ถูกคนสังเกตเห็น จึงสวมชุดคลุมตัวใหญ่ อำพรางร่างกาย ไว้เย่จิ่งอวี้ไม่วางใจ ปลอมตัวเป็นองครักษ์ติดตามไปด้วย โดยมีหน้ากากปิดบังครึ่งใบหน้า ริมฝีปากที่เม้มน้อยๆ ยังคงแสดงให้เห็นถึงอำนาจของผู้สูงศักดิ์เขาโค้งคำนับประสานมือคารวะ พูดพร้อมกับหัวเราะเบาๆ “ฝ่าบาทมีรับสั่งให้ข้าน้อยคุ้มครองความปลอดภัยของ อาจารย์อิน ถ้าอาจารย์อินต้องการสิ่งใด เชิญสั่งมาได้เต็มที่”อินชิงเสวียนกลอกตามองเขา วางท่าเหมือนเป็นผู้มีการศึกษา“ไปยืนอยู่ด้านหลัง หากไม่มีอะไรก็อย่าพูดมาก”“รับทราบ”เย่จิ่งอวี้ลดมือลง ยืนข้างหลังนางอย่างเชื่อฟัง โดยไม่พูดอะไรสักคำอินชิงเสวียนเม้มริมฝีปากยิ้มๆ แล้วก้าวเข้าไปในห้องสอบเสนาบดีกรมพิธีการกำลังนั่งดื่มชาบนเก้าอี้ ท่าทางสบายอารมณ์มาก คนจากสำนักศึกษาหลวงถูกย้ายมาที่นี่แล้ว ไม

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1528 ทำไมเสด็จพ่อถึงคลอดลูกไม่ได้

    วันรุ่งขึ้นในตอนเช้า เหล่าขุนนางได้รับข่าว สั่งให้ชาวเมืองเร่งไปที่พระนครในเวลาหนึ่งทุ่ม เพราะฝ่าบาทจะฉลองวันตรุษกับราษฎรทุกคนในอดีต ก็มีการเฉลิมฉลองวันตรุษกับราษฎร แต่พวกเขาไม่เคยได้รับอนุญาตให้ไปที่พระนครในสถานที่สำคัญอย่างเช่นวังหลวง จะให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าใกล้ได้อย่างไร แม้แต่การมองจากไกลๆ ก็มีโทษหนักถึงขั้นตัดศีรษะ หลังจากได้ทราบข่าวนี้ ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ และตั้งตารอคอยเพียงชั่วพริบตาก็ถึงเวลาหนึ่งทุ่ม เหล่าขุนนางก็ได้รับการต้อนรับเข้าสู่พระราชวังเพื่อร่วมงานเลี้ยง ด้านนอกประตูวังก็มีผู้คนมากมายขณะที่มองดูคบเพลิงที่โอ้อวด ทุกคนอดไม่ได้ที่จะกระซิบกระซาบ“อากาศหนาวมาก ให้เรามาทำอะไรที่นี่กัน”“ใช่ มืดสนิทอย่างนี้ หรือจะให้พวกเรานั่งฟังพวกขุนนางข้างในนั่นยกจอกดื่มกันอย่างสนุกสนาน?”“หยุดพูดไร้สาระได้แล้ว ในเมื่อบอกให้เรามาก็มาเถอะ ครึ่งเดือนที่แล้วฮองเฮาประทานข้าว แป้งหมี่ ผักและผลไม้ให้เรามากมาย แม้ต้องทนหนาวก็สมควรแล้ว”“ไม่ใช่หรอกรึ ถึงอย่างไรคนก็มีคุณธรรม ในฤดูกาลนี้จะหาผลไม้และผักสดอร่อยๆ แบบนี้ได้ที่ไหน แม้ว่าฮองเฮาจะให้ทนหนาว ข้าก็ยอมรับได้”

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1527 องค์หญิงซ่อนความคิดไม่มิด

    พริบตาก็ถึงวันสิ้นปี นับตั้งแต่พิธีเสกสมรสของท่านอ๋องสิบสามก็ผ่านไปสองเดือนแล้วท้องน้อยของอินชิงเสวียนนูนขึ้น คนทั้งคนเป็นเหมือนแมวขี้เกียจ สิ่งที่ชอบที่สุดคือการนอนอาบแดดบนเก้าอี้นวมยาวนุ่มๆ ในขณะนี้ นางหรี่ตาลงเล็กน้อย ฟังเสียงของสาวน้อยเย่ไห่ถังที่ดังก้องอยู่ในหูของนาง“เสด็จอาสิบสามแต่งงานมานานแล้ว ทำไมเสด็จพี่ถึงยังไม่พูดถึงการแต่งงานของข้าล่ะ เสด็จพี่สะใภ้ อินปู้อวี่เป็นพี่รองของท่านนะ ท่านไม่ร้อนใจหรือ”“เสด็จพี่สะใภ้ ท่านอย่าเพิ่งหลับนะ ลุกขึ้นมาคุยกับข้าหน่อยสิ”อินชิงเสวียนถูกนางรบกวนจนปวดหัว จำต้องลืมตาตื่น“การแต่งงานของเจ้ากับพี่รองจะจัดขึ้นในปีหลังจากนั้น ถึงอย่างไรเสด็จอาสิบสามของเจ้าก็เป็นผู้อาวุโส เจ้าแต่งงานพร้อมกับเขา มันไม่เหมาะสม”เย่ไห่ถังทำหน้าบูดบึ้งทันที“ไม่เหมาะสมอะไรกัน ข้าไม่ได้แต่งงานกับเขาเสียหน่อย”อินชิงเสวียนโกรธจนหัวเราะ“เรื่องนี้เจ้าก็ยังพูดออกมาได้นะ ถ้าเสด็จพี่เจ้าได้ยิน บางทีอาจส่งเจ้าไปแต่งงานเชื่อมไมตรีจริงๆ ก็ได้”เย่ไห่ถังสะดุ้ง รีบปิดหูของอินชิงเสวียนทันที พระราชโองการนั้นได้กลายเป็นเงาในใจของนางแล้ว แม้ว่าจะรู้ว่ามันเป็นเรื่องเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1526 ความฝันเป็นจริง

    “ไม่นาน”กระแสเสียงของอินหลีฟังดูอ่อนหวานและขี้อาย ทำให้คนอดเอ็นดูเสียมิได้เย่จั้นรับคำไม้มงคลจากสาวใช้ แล้วเปิดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวที่ประดับด้วยลูกปัดเปลือกหอยสีแดงขนาดใหญ่ออก ครั้นแล้วใบหน้างามสดใสฟันขาวเรียงเป็นระเบียบ และท่าทางที่เขินอายก็ปรากฏสู่สายตาของเย่จั้นเมื่อคิดว่าสตรีที่งดงามเช่นนี้จะเป็นของตัวเองต่อจากนี้ไป นิ้วเรียวยาวของเย่จั้นก็อดไม่ได้ที่จะสั่นเล็กน้อย รู้สึกอิ่มเอมใจและซาบซึ้งอย่างบอกไม่ถูกในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา แม้ว่าเขาจะพาอินหลีเข้าไปอยู่ในวัง แต่ทั้งสองก็ปฏิบัติตามธรรมเนียมประเพณีอย่างเคร่งครัด ไม่เคยกล้าที่จะล้ำเส้นหรือทำเกินเลย เพียงเพื่อความสมบูรณ์แบบในวันนี้โชคดีที่สวรรค์ทรงเมตตาเขา แม้ว่าเขาจะสูญเสียสตรีที่รักที่สุดไป แต่หลังจากเฝ้าตามหามาหลายปี ในที่สุดก็ตามหานางจนเจอ เขาจะใช้เวลาที่เหลือทั้งชีวิต เพื่อชดเชยเวลาที่เสียไปในช่วงที่อินหลีติดอยู่บนภูเขา“อาหลี เจ้าในวันนี้ งามมาก!”เย่จั้นค่อยๆ ทรุดกายลงนั่ง คุกเข่าลงบนพื้น เงยหน้าขึ้นมองอินหลีบางทีในสายตาของคนนอก นางกับอินชิงเสวียนจะมีความคล้ายคลึงกัน นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงยอมเสี่ยงเพื่อตระกูล อ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1525 พิธีเสกสมรสของท่านอ๋องจิ้ง

    ณ ตำหนักจินอู๋“เป็นอย่างไร ข้าดูคนออกไหม”เย่จิ่งอวี้นั่งอยู่บนเก้าอี้นวมยาวนุ่มๆ ด้วยสีหน้าท่าทางพออกพอใจมากอินชิงเสวียนทำเสียงชิ“เห็นๆ อยู่ว่ามันเป็นเรื่องง่ายที่จบได้ด้วยคำพูดเดียว ท่านกลับข่มขู่จนพวกเขาเกือบตาย เอาเถอะ เห็นแก่อาอวี้ที่วางแผนเผื่อน้องสาว ข้าจะไม่ถือสาท่าน ได้ยินมาว่าเสด็จอาไปสู่ขอที่ตระกูลอินแล้ว ต้าโจวมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นติดต่อกันเลยทีเดียว”เย่จิ่งอวี้โอบนางไว้ในอ้อมแขน“สิ่งที่ข้ารอคอยมากที่สุดคือเรื่องดีของเสวียนเอ๋อร์ ช่วงนี้รู้สึกอย่างไรบ้าง องค์หญิงน้อยของเราดิ้นบ้างหรือไม่”อินชิงเสวียนลูบท้องน้อยโดยไม่รู้ตัว“ไม่มี ถึงอย่างไรก็เป็นลูกสาว ท่าทางว่าง่ายมาก”เย่จิ่งอวี้โน้มตัวลง เอาหน้าแนบกับท้องน้อยของอินชิงเสวียน“เช่นนั้นก็ดีแล้ว เสวียนเอ๋อร์มีชื่อที่ชอบหรือเปล่า”อินชิงเสวียนหรี่ตาลงแล้วพูดว่า “ชื่อของจ้าวเอ๋อร์ยิ่งใหญ่เกินไป ก็เลยไม่รู้ว่าจะตั้งชื่อว่าอะไรถึงจะเข้ากับลูกสาวสุดที่รักของข้า”เย่จิ่งอวี้ยิ้มและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นข้าจะตั้งชื่อเอง แม้ต้องเปิดตำราโบราณจนหมดวังหลวง ข้าก็จะตั้งชื่อที่โด่งดังที่สุดในโลกให้ลูกสาวของเรา”อินชิงเสวีย

DMCA.com Protection Status