Share

บทที่ 1254 บอกความจริง

Author: ม่อเยี่ยน
last update Last Updated: 2024-09-16 16:00:00
ในเวลานี้ เย่จิ่งอวี้ได้หิ้วตัวหันเจิงหมิงที่ถูกควบคุมตัวกลับไปที่ตำหนักเทพหอทองคำแล้ว

เมื่อเห็นเหมยชิงเกอที่อยู่ในวัยสาวดังเดิม หันเจิงหมิงก็ค่อนข้างประหลาดใจ

ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขาเหมือนกับคนในความทรงจำ ไม่ได้แก่ชราขึ้นเลยแม่แต่น้อย

เมื่อมองดูผมสีขาวที่ตกลู่ลงมาของตัวเอง จู่ๆ ก็รู้สึกด้อยค่าตัวเองทันที

“ศิษย์พี่หัน ทำไมท่านถึงจากไปกับฉีอวิ๋นจื่อ”

เหมยชิงเกอเข้าใกล้อีกสองก้าว แล้วมองลงไปที่หันเจิงหมิง

หันเจิงหมิงเหลือบมองเย่จิ่งอวี้ที่ยืนอยู่ข้างๆ แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “ถ้าเจ้าต้องการให้ข้าอยู่ที่นี่ก็ย่อมได้ เอาหัวของเจ้าเด็กนี่ไปขอขมาที่หลุมศพท่านพ่อข้า แล้วข้าจะกลับมาที่ตำหนักเทพ”

หันเจิงหมิงวิปลาสมานานกว่าสิบปี เขาติดอยู่ในโลกของตัวเองมาโดยตลอด และคำพูดก็ดูไร้เดียงสา

ดวงตาของอินชิงเสวียนเย็นชา แม้ว่านางจะเห็นใจที่ตกอยู่ในสถานการณ์นี้ แต่ก็ไม่สามารถเสียสละชีวิตของสามีตัวเองได้ ดูว่าเหมยชิงเกอจะแก้ไขปัญหาอย่างไร

เหมยชิงเกอยิ้มบางๆ และพูดว่า “คนผู้นี้เป็นลูกเขยของข้า อย่าเพิ่งพูดถึงว่าเขาทำถูกต้อง แม้ว่าเขาจะทำผิดจริงๆ ศิษย์พี่หันก็ตัดสินใจแทนไม่ได้ ผู้อาวุโสหันจับเจ้าตำหน
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1255 งานประลองยุทธ์

    หลังจากถามคำถามเพิ่มเติมอีกหลายข้อ หันเจิงหมิงก็ไม่สามารถบอกอะไรได้ จากนั้นก็ถูกเย่จิ่งอวี้จี้สกัดจุดสลบ“ผู้ใดกันที่ใจร้ายขนาดนี้ ถึงขั้นข้าว่าร้ายและทำร้ายท่านแม่ข้าถึงเพียงนี้?”เหมยชิงเกอไม่ได้ใคร่ครวญนานนัก นางโบกมือด้วยท่างท่าอันน่าเกรงขามและพูดว่า “คิดมากไปก็ไร้ประโยชน์ ในเมื่อพวกเขาเจตนาแอบแฝง เช่นนั้นในการประลองยุทธ์ระหว่างสองสำนักนี้ก็จะได้เห็นความจริงกัน”อินชิงเสวียนพยักหน้าเห็นด้วย นี่สิถึงจะเรียกว่าท่วงท่าของเจ้าตำหนัก“ท่านแม่พูดถูก ในเมื่อเราไม่สามารถหาเบาะแสใดๆ ได้ ถึงแม้สถานการณ์ภายนอกจะเปลี่ยนแปลงไปมากเพียงใด แต่หลักการพื้นฐานหรือสิ่งที่สำคัญควรคงที่ไว้”เหมยชิงเกอกล่าวว่า “ถูกต้อง ใครก็ได้ พาตัวหันเจิงหมิงไปขังไว้ที่คุกหิน ควบคุมตัวชั่วคราว หลังการประลองยุทธ์ แล้วค่อยพิจารณา”ศิษย์หลายคนช่วยกันพาตัวหันเจิงหมิงออกไปจากห้องโถงจื่อชี่ตงไหล เฟิงเอ้อร์เหนียงพูดอย่างกังวลว่า “ในเมื่อพวกเขามีเจตนาไม่ดี พวกเขาต้องฆ่าคนในวันประลองยุทธ์แน่นอน ศิษย์พี่ใหญ่ต้องระวังตัวด้วย”เย่จิ่งอวี้โค้งคำนับและพูดว่า “ถ้าท่านแม่เต็มใจ ลูกเขยขออาสาไปเป็นตัวแทนของตำหนักเทพ เข้าร่วมการ

    Last Updated : 2024-09-17
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1256 การประลองยุทธ์รอบแรก

    ฉุยอวี้ได้เดินขึ้นบันไดไปแล้ว นางยังคงสวมชุดสีดำ ทั้งเย็นชาและคล่องแคล่วนางยืนอยู่ตรงกลางแท่นสูง พูดด้วยน้ำเสียงสงบ “วันนี้เป็นการประลองยุทธ์ในรอบห้าสิบปีระหว่าง ตำหนักเทพหอทองคำกับเพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิง ผู้ชนะจะได้ครอบครองสิทธิ์ในทางสู่วิถีแห่งสวรรค์เป็นเวลาห้าสิบปี ขอบคุณชายยุทธ์ทุกท่านที่มาร่วมงาน ณ ที่แห่งนี้ สำนักเราได้เตรียมน้ำชาและของว่างไว้แล้ว เชิญทุกท่านดื่มตามสบาย”นางหยุดชั่วครู่และพูดต่อ “การประลองยุทธ์เดิมเป็นการประลองยุทธ์ทางวรรณกรรมและทักษะการต่อสู้ แต่คราวนี้ตำหนักเทพเป็นเจ้าภาพ ทางเจ้าตำหนักได้ตัดสินใจยกเลิกการประลองวรรณกรรม ใช้วรยุทธ์ตัดสินฟ้าดินโดยตรง ไม่ทราบว่าเจ้าเมืองเฮ่อมีข้อสงสัยอะไรหรือไม่”เฮ่อยวนตกใจเล็กน้อย กฎนี้สืบทอดกันมาหลายปีแล้ว ทำไมวันนี้จู่ๆ ถึงเปลี่ยนไปแต่ในเมื่อเหมยชิงเกอเสนอเรื่องนี้ แม้ว่าเขาจะมีข้อสงสัยก็ไม่สามารถพูดอะไรได้ยิ่งไปกว่านั้นเขาเคยสัญญากับเหมยชิงเกอว่าเขาจะหาผู้บงการเบื้องหลังโดยเร็วที่สุด แต่จนป่านนี้ยังไม่มีเบาะแสเลย ด้วยเหตุนี้ในสองวันที่ผ่านมาเขาจึงไม่กล้ามาที่ตำหนักเทพ เพราะกลัวเหมยชิงเกอจะโกรธ ไม่ยอมมาเจอเขาอีกเขาจัดแจง

    Last Updated : 2024-09-17
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1257 ยอมรับความพ่ายแพ้แล้วหรือไม่

    ทางด้านตำหนักเทพได้ส่งฮั่วเทียนเฉิงออกไป คนผู้นี้มีทักษะวรยุทธ์ที่แข็งแกร่ง มีจิตใจสุขุม นับว่าเป็นตัวเลือกที่ดีจริงๆอินชิงเสวียนที่อยู่อีกด้านก็พยักหน้า ค่อนข้างพอใจกับการเลือกของแม่ ดังนั้นนางจึงหยิบเฟรนช์ฟรายส์ขึ้นมากิน พร้อมชมความตื่นเต้นไปด้วยฆาตกรต้องจัดการกับเหมยชิงเกอ ดังนั้นในการประลองสองรอบแรกจึงไม่ต้องวิตกนักชาวยุทธ์ที่อยู่ด้านหลังต่างตื่นเต้นมาก สองสำนักชั้นนำในยุทธภพกำลังประลองยุทธ์กัน นี่เป็นเหตุการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต พวกเขาแทบอยากได้ไม้สองอันมาถ่างดวงตาให้เบิกกว้างไว้ เพราะกลัวว่าจะพลาดช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมไปมีเพียงอาคันตุกะเท่านั้นที่ไม่ค่อยพอใจมากนัก เมื่อผู้อาวุโสหันยังมีชีวิตอยู่ เขาต้องการให้พวกเขาเข้าร่วมการประลองยุทธ์ แต่เหมยชิงเกอกลับเปลี่ยนใจ ทุกคนจึงรู้สึกไม่สบอารมณ์โชคดีที่เหมยชิงเกอรับปากว่าจะเปิดหอตำราสะสม อนุญาตให้พวกเขาเข้าไปศึกษาได้ตามต้องการ ดังนั้นความไม่พอใจของทุกคนจึงลดลงบ้างบนแท่นประลอง ฮั่วเทียนเฉิงประกบมือคำนับคู่ต่อสู้“ข้าชื่อฮั่วเทียนเฉิงจากตำหนักเทพ มารับการชี้แนะวรยุทธ์ของอิ๋นเฉิงโดยเฉพาะ หวังว่าน้องชายน้อยจะเมตตาด้วย”นี่ย่อมเป็น

    Last Updated : 2024-09-17
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1258 นี่คือความจริงใจของท่านที่มีต่อข้า

    ตำหนักเทพหอทองคำถูกผูกไว้ว่าต้องชนtเพื่อทางสู่วิถีแห่งสวรรค์ ดังนั้นฮั่วเทียนเฉิงย่อมไม่ยอมรับความพ่ายแพ้อยู่แล้ว เขายกมือขึ้นจี้สกัดจุดเพื่อหยุดเลือดของตัวเองไม่ไหลออกอย่างรวดเร็วเขาพูดด้วยน้ำเสียงสงบ “ข้าคนแซ่ฮั่วไม่ได้ล้มจะยอมรับความพ่ายแพ้ได้อย่างไร ลงมือเถอะ”“ศิษย์พี่ฮั่ว!”เฟิงเอ้อร์เหนียงยืนขึ้นอย่างกระวนกระวายใจเมื่อเห็นฮั่วเทียนเฉิงเลือดออก ใบหน้าของเหมยชิงเกอดูไม่ดีนัก เพียงแต่อาวุธไร้ตา แม้ว่าความสงบสุขจะต้องมาก่อน แต่ในการต่อสู้ที่แท้จริง จะมีปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้มากมายส่วนผู้ที่ตรงข้าม สีหน้าของเฮ่อยวนก็มืดลงเช่นกัน“เหตุใดคนผู้นี้ถึงลงมือไม่รู้จักหนักเบา”กงซวินอวิ๋นเฟิ่งขมวดคิ้วและพูดว่า “ใช่ ศิษย์คนนี้เป็นศิษย์ของใครกันแน่ เมื่อกลับอิ๋นเฉิง ต้องสั่งสอนให้รู้เรื่องแล้ว”ในขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกัน ศิษย์อิ๋นเฉิงบนแท่นประลองก็ลงมืออีกครั้งฮั่วเทียนเฉิงไม่กล้าที่จะประมาท กระบี่เปล่งประกายด้วยแสงสีม่วง ศิษย์ของอิ๋นเฉิงก็มีแสงสีขาวออกมาจากขอบกระบี่เช่นกัน และพลังของกระบี่ก็รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆอินชิงเสวียนรู้สึกไม่ค่อยดี ถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “อาอวี

    Last Updated : 2024-09-17
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1259 ฮั่วเทียนเฉิงเสียชีวิต

    “ท่านแม่อย่าเพิ่งผลีผลาม เกรงว่าเรื่องนี้จะมีเหตุผลอื่นซ่อนเร้นอยู่”อินชิงเสวียนก้าวเข้ามายืนขั้นกลางระหว่างคนทั้งสอง นิ้วเรียวยาวนี้บีบข้อมือของเหมยชิงเกอ การที่ถูกจองจำนานกว่าสิบปี ทำให้เหมยชิงเกอไม่เพียงแต่มีอารมณ์รุนแรงสุดโต่งเท่านั้น แต่ยังบ้าคลั่งและโกรธแค้นมากอีกด้วยอินชิงเสวียนสามารถเข้าใจสิ่งที่นางกำลังเผชิญได้ แต่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของนาง เนื่องจากมีคนจงใจต้องการทำร้ายเหมยชิงเกอ จึงเป็นเรื่องปกติที่จะใช้กลอุบายบางอย่างกับศิษย์เหล่านั้นเมื่อเห็นว่าเป็นลูกสาวของนาง เหมยชิงเกอจึงค่อยๆ ดึงมือออก มองเฮ่อยวนด้วยสายตาเย็นชา“ตำหนักเทพหอทองคำประลองยุทธ์กับอิ๋นเฉิงมาหลายปีแล้ว ไม่เคยมีผู้เสียชีวิตเลย หากวันนี้ท่านไม่มีคำอธิบายให้แก่ข้า ก็อย่าคิดว่าจะมีชีวิตออกไปจากตำหนักเทพหอทองคำได้”เมื่อเฮ่อยวนเงยหน้าขึ้น ศิษย์อิ๋นเฉิงที่เคยประลองยุทธ์กันมาก่อนก็หายตัวไปแล้ว เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวล หากไม่สามารถอธิบายเรื่องนี้ให้ชัดเจนได้ ทั้งสองสำนักอาจไม่สามารถยอมลงให้กันได้คราวนี้ได้ยินเสียงชัดเจนพูดว่า “ท่านพ่อกำลังมองหาคนนี้อยู่หรือ”เย่จิ่งอวี้ไม่รู้ว่าเขาออกจากแท่นประลองเม

    Last Updated : 2024-09-18
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1260 ยิ่งผู้หญิงอ่อนโยนก็ยิ่งมีแนวโน้มที่จะหลอกคน

    ใบหน้าของเฮ่อยวนมืดลงทันที“อวิ๋นเฟิ่ง เจ้าสะเพร่าขนาดนี้ได้อย่างไร”กงซวินอวิ๋นเฟิ่งหิ้วร่างของคนผู้นั้น แล้วพูดด้วยความโกรธว่า “ไม่ว่าคนผู้นี้จะเป็นใคร หากกล้าทำลายมิตรภาพระหว่างอิ๋นเฉิงและตำหนักเทพ ก็ไม่อาจปล่อยให้รดอได้ ท่านพี่ไม่ต้องกังวล ข้าจะสืบหาต้นตอของเขาอย่างแน่นอน หาคำอธิบายให้พี่หญิงเหมย”เดิมทีทุกคนในตำหนักเทพเต็มไปด้วยความเกลียดชังต่ออิ๋นเฉิง แต่เมื่อเห็นกงซวินอวิ๋นเฟิ่งฆ่าศิษย์คนนั้นด้วยมือตัวเอง ความโกรธของทุกคนก็ลดลงอย่างมากอินชิงเสวียนหรี่ตาลงเล็กน้อย นางต้องบอกว่ากงซวินฮูหยินมีกลอุบายบางอย่าง สิ่งที่นางพูดนั้นสมเหตุสมผล เป็นเรื่องยากที่จะจับผิดได้ แต่ถ้าสังเกตให้ละเอียดรอบคอบแล้ว เมื่อบุคคลนี้เสียชีวิต ระหว่างเหมยชิงเกอกับเฮ่อยวนก็ยิ่งมีเรื่องราวสับสนซึ่งยากต่อการคลี่คลาย“ชิงเกอ ข้า...”เฮ่อยวนต้องการอธิบาย แต่เมื่อเห็นท่าทางโกรธจัดของเหมยชิงเกอ เขาก็กลืนคำพูดกลับคืนทันทีเหมยชิงเกอสะบัดเสื้อคลุม แล้วพูดกับทุกคนว่า “สำหรับวันนี้พอเท่านี้ การประลองยุทธ์จะดำเนินต่อไปในวันพรุ่งนี้ ชาวยุทธ์ทุกคนสามารถพักอยู่ที่ตำหนักเทพอีกหนึ่งวัน เรื่องที่อยู่ที่กิน ตำหนักเทพจ

    Last Updated : 2024-09-18
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1261 เจ้าคิดอย่างนั้นจริงๆ หรือ

    ในยามราตรีร่างสองร่างปรากฏตัวขึ้นในที่พักชั่วคราวของชาวเมืองเพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิงภายในถ้ำ ผู้อาวุโสกงซวินมองดูศพบนพื้นด้วยสีหน้ากังวล“ศิษย์คนนี้ใช้สิ่งของของอิ๋นเฉิงจริงๆ แต่เรากลับไม่รู้จัก เรื่องนี้ค่อนข้างน่าสงสัยไปหน่อย”ผู้อาวุโสฉางชิวเฟิงพยักหน้าและกล่าวว่า “ฮั่วเทียนเฉิงยังเป็นศิษย์สายตรงของตาเฒ่าจิน มีสถานะที่สูงมากในตำหนักเทพ เกรงว่าเจ้าตำหนักเหมยจะไม่หยุดแค่นี้”เขาเหลือบมองเฮ่อยวนแล้วพูดว่า “ถ้าหากต้องการแก้ไขความขุ่นเคืองนี้ เกรงว่าเจ้าเมืองจะต้องออกหน้าด้วยตนเองแล้ว”เฮ่อยวนพูดด้วยสีหน้ายุ่งยากใจว่า “เดิมทีชิงเกอก็มีอารมณ์รุนแรงอยู่แล้ว ถ้าข้าไปตอนนี้ ไม่เพียงจะไม่ส่งผลดี แต่กลับทำให้นางพาลโกรธมากขึ้น มีแค่ต้องรอหลังการประลองยุทธ์ค่อยว่ากันอีกที พรุ่งนี้ข้าจะส่งลูกศิษย์ที่เชื่อถือได้ ส่วนคนผู้นี้ เมื่อกลับอิ๋นเฉิงแล้วต้องตรวจสอบอย่างละเอียด”ผู้อาวุโสหลักอีกสองคนพยักหน้าพร้อมกัน การมีบุคคลที่ไม่รู้ชื่อเสียงเรียงนามเช่นนี้มาปะปนในอิ๋นเฉิง มันไม่ใช่เรื่องเล็กเลยผู้อาวุโสกงซวินมองดูท้องฟ้าแล้วพูดว่า “นี่ก็ดึกแล้ว วันนี้เราสงบสติอารมณ์และพักผ่อนให้สบายกันก่อนเถอะ อว

    Last Updated : 2024-09-19
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1262 ศพหนีไปเอง

    ในมิติของเย่จิ่งหลาน ทั้งหมดกำลังจ้องมองไปที่ศพร่างนั้น“หวังซุ่น เจ้าต้องใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะทำหน้ากากนี้เสร็จ”หากอินชิงเสวียนจำไม่ผิด ดูเหมือนว่าอย่างเร็วที่สุดก็ต้องใช้เวลาสามวันหวังซุ่นหัวเราะแหะๆ แล้วพูด ว่า “สิบห้านาทีก็เสร็จแล้ว”ชิงเสวียนรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย“ทักษะของเจ้าพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดดเลยนะ”หวังซุ่นกล่าวด้วยท่าทีประจบประแจงว่า “ฮองเฮาตรัสยกย่องเกินไปแล้ว นี่เป็นผลงานของเครื่องพิมพ์สามมิติ มีมันช่วยอีกแรก ข้าก็มีหน้าที่แค่ต้องตรวจดูให้แน่ใจว่าจะไม่เกิดความผิดพลาดกับแม่พิมพ์ก็พอ”อินชิงเสวียนถึงบางอ้อ นางเอาเครื่องพิมพ์สามมิติให้กับเย่จิ่งหลานจริงๆ แต่ไม่เคยคิดเลยว่าสิ่งนี้จะมีประโยชน์มากขนาดนี้“ถ้าอย่างนั้นก็รีบทำเถอะ อาอวี้กับลูกศิษย์คนนั้นมีสัดส่วนไล่เลี่ยกัน จะได้ลองดูด้วย”เย่จิ่งอวี้พูดขณะที่เอามือไพล่หลัง “ได้สิ แต่ไม่รู้ว่าระหว่างพวกเขามีรหัสลับหรือเปล่า”เย่จิ่งหลานกล่าวว่า “เรื่องนี้ไม่ต้องกังวลเลย หากพวกเขารู้ว่าศพหายไป ต้องออกมาตามหาแน่นอน พี่ใหญ่ก็ถือโอกาสตามกงซวินอวิ๋นเฟิ่งได้เลย”ในขณะที่หลายคนกำลังคุยกัน กงซวินอวิ๋นเฟิ่งก็กลับมายังที่พักช

    Last Updated : 2024-09-19

Latest chapter

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1535 เหลวไหลจริงๆ

    เสียงเรียกว่าท่านพี่นั้นทำให้เย่จิ่งอวี้ใจอ่อนลงมากโข ความโกรธทั้งหมดพลันหายไปอย่างไร้ร่องรอยในทันทีไม่เช่นนั้นจะทำอะไรได้อีก ภรรยาที่เลือกมาเอง มีแต่ต้องตามใจเองเท่านั้น“เจ้าคนโกหกตัวน้อย กลับไปสามีจะคิดบัญชีเจ้าหนักๆ ถอนกำลังภายในของเจ้าออก สามีจะทำแทนเจ้าเอง ประเดี๋ยวจะทำร้ายลูกในท้องเอา”เสียงของเย่จิ่งอวี้เชื่อมโยงเป็นเส้น ไหลผ่านกระทบโสตประสาทของอินชิงเสวียนคำต่อคำอย่างแจ่มชัดนางยกมุมปากขึ้น เผยเป็นรอยยิ้มภาคภูมิใจเมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเย่จิ่งอวี้ นางจึงเปิดโสตประสาท เหตุผลที่ขอให้เย่จิ่งอวี้ช่วย ก็เพราะว่ากำลังภายในในร่างกายของนางซับซ้อนเกินไป ยากต่อการควบคุม ในงานที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ จะให้เกิดข้อผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาดเย่จิ่งอวี้ไม่เหมือนกัน เขาบำเพ็ญตบะกำลังภายในของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังประสานพลังแห่งฟ้าดิน แม้ว่าอินชิงเสวียนจะมีพลังลมปราณของหลายสำนัก แต่ก็ไม่สามารถเทียบกับกำลังภายในอันบริสุทธิ์และทรงพลังของฮ่องเต้ได้ในชั่วพริบตา กำลังภายในดุจธารานิ่งลึกหลั่งไหลเข้ามาจากด้านนอกประตู เหมือนโลกลึกล้ำ โอบกอดและยืดหยุ่น บรรยากาศที่มืดมนในห้องโถงคล้ายจะถูก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1534 ท่านพี่ช่วยข้าได้ไหม

    “ฟางรั่วเข้าวัง?”เย่จิ่งอวี้หยุดฝีเท้าหลี่เต๋อฝูโค้งคำนับและพูดว่า “กระหม่อมถามองครักษ์ที่เฝ้าหน้าประตูวังแล้ว แม่นางฟางรั่วเข้ามาเมื่อสามชั่วยามที่แล้ว”เจวี๋ยอิ่งคุกเข่าลงและพูดว่า “กระหม่อมเห็นฟางรั่วเข้าไปในตำหนักจินอู๋ แต่ไม่เห็นนางและฮองเฮาออกมา”เย่จิ่งอวี้หรี่ตาลงเล็กน้อย สายตาคล้ายจะสดใสและมืดมน กำลังตกอยู่ในอาการครุ่นคิดด้วยวรยุทธ์ของฟางรั่ว ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะทำอันตรายต่ออินชิงเสวียน นางยังมีใบมีดแห่งมิติอยู่ในมือ แม้ว่าเหล่าเทพเซียนจะลงมาเอง แต่นางก็ยังสามารถต่อสู้ได้จากมุมมองนี้ ควรไม่ใช่การหายตัวไปง่ายๆ นางเรียกฟางรั่วมา ต้องมีเหตุผลอื่นเป็นแน่เจวี๋ยอิ่งโค้งคำนับและถามว่า “ต้องการให้กระหม่อมปิดล้อมพระนคร สืบหาที่อยู่ของฮองเฮาอย่างถี่ถ้วนหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”เย่จิ่งอวี้เหลือบมองเจวี๋ยอิ่ง“ไม่ต้อง หลี่เต๋อฝู ไปเชิญกวนเซี่ยวเข้ามาด้วย”ครู่ต่อมา กวนเซี่ยวก็วิ่งเหยาะๆ มาถึงประตูตำหนัก ยกเสื้อคลุมขึ้นและคุกเข่าลงกับพื้น“กวนเซี่ยวถวายบังคมฝ่าบาท ฝ่าบาททรง...”เย่จิ่งอวี้ได้ยินเช่นนั้นก็รำคาญ โบกมือห้าม“ตามสบาย เจ้ารู้ไหมว่าทำไมฟางรั่วถึงมาที่วัง”กวนเซี่ยว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1533 เจ้าน่ะ ยังมีนิสัยดื้อรั้นเหมือนเดิม

    “ในเมื่อเจ้าเตรียมตัวพร้อมแล้ว เช่นนั้นก็ตามข้าไปที่อื่น”อินชิงเสวียนดีดปลายเท้าขึ้น ร่างนั้นก็กระโดดออกจากตำหนักจินอู๋ ท่วงท่ากิริยาเบาบางและสง่างาม ราวกับเทพธิดาในวังพระจันทร์ที่ทิ้งร่องรอยความงดงามไว้บนโลกมนุษย์ฟางรั่วติดตามอย่างใกล้ชิด พลางชื่นชมในใจอินชิงเสวียนเป็นคนพิเศษจริงๆ!ราวสิบห้านาที ร่างที่สง่างามทั้งสองก็ปรากฏตัวขึ้นในตำหนักฉือหนิงหลังจากไทเฮาสิ้นพระชนม์ สถานที่แห่งนี้ก็ว่างเปล่า ขณะนี้มีไท่เฟยและไท่ผินเพียงไม่กี่คนที่เหลืออยู่ในวัง ที่พักอาศัยมีมากมาย เหตุผลที่อินชิงเสวียนเลือกสถานที่นี้ ก็เพราะเย่จิ่งอวี้จะไม่มาจากนั้นก็นึกในใจ ครั้นแล้วถังไม้ขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า และในพริบตาเดียว มันก็เต็มไปด้วยน้ำพุวิญญาณที่ใสสะอาด“เข้าไปสิ สิ่งนี้สามารถรับรองความปลอดภัยของเจ้าได้ในระดับสูงสุด”“เพคะ”ฟางรั่วก้าวเข้าไปในถังโดยไม่ลังเลใดๆ แม้เป็นฤดูหนาว น้ำในถังนี้กลับไม่เย็น แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นที่ปกคลุมผิวหนังและเส้นลมปราณทั้งหมดของนางอินชิงเสวียนตามเข้ามา จากนั้นนั่งตรงข้ามนางแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น น้ำพุวิญญาณก็สามารถรับรองความปลอดภัยในชีวิตขอ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1532 คืนชีวิตให้ท่านแล้วจะเป็นไร

    “เจ้าลุกขึ้น ข้าหมายถึงอาจจะทำได้ แต่จะมีโอกาสฟื้นตัวได้มากเพียงใด ข้าก็ไม่แน่ใจ เรื่องนี้ เจ้าควรปรึกษากับกวนเซี่ยวก่อนดีกว่า ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเจ้าเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับเขาด้วย”อินชิงเสวียนพยุงฟางรั่วด้วยมือทั้งสองข้าง และอธิบายข้อดีข้อเสียฟางรั่วพยักหน้า“ข้าเข้าใจ เพียงแต่ สุขภาพของฮองเฮา”อินชิงเสวียนท้องโตขนาดนี้ หากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา นางไม่สามารถรับผิดชอบไหวอินชิงเสวียนยิ้มละไม“ร่างกายของข้าแข็งแรงมาก ไม่เป็นไร เจ้าคิดดีแล้วก็มาหาข้าที่วังหลวงได้เลย”“เพคะ”ขณะที่กำลังคุยกัน ทั้งสองคนก็เดินไปที่แท่นประลองข้างๆ แล้วเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งอายุสิบห้าหรือสิบหกปี ถือดาบคู่อยู่ในมือ กระโดดขึ้นลงด้วยท่าทางที่เบาและกล้าหาญ บีบชายที่อยู่ตรงข้ามหลังให้ล่าถอยทีละก้าว จนตกแท่นประลอง ล้มลงต่อหน้าผู้ชม อินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะชื่นชมมัน“ทำได้ดีมาก!”ใบหน้าของฟางรั่วแสดงถึงความภาคภูมิใจ“เด็กหญิงคนนี้ชื่อหลิวซู่เยว่ เมื่อก่อนเป็นลูกสาวของหัวหน้าคณะละคร นางมีทักษะการต่อสู้อยู่บ้าง หลังจากที่บิดาเสียชีวิต นางไม่สามารถดูแลคณะละครได้ จึงมาที่เมืองหลวง เข้ามาเรี

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1531 ขอฮองเฮาได้โปรดช่วยเหลือด้วย

    “ข้าเอง!”อยู่ๆ อินชิงเสวียนก็นึกสนุก กระโดดขึ้นไปบนแท่นสูงเมื่อเห็นนางชัดเจน คนบนแท่นก็ยิ้มแย้มแจ่มใสด้วยความดีใจ“อิน...”นางพูดได้คำเดียว จากนั้นรีบเปลี่ยนคำพูด คุกเข่าลงแล้วพูดว่า “หน่วยรักษาการณ์ฝั่งซ้ายฟางรั่ว ขอน้อมถวายพระพรฮองเฮาเพคะ”อินชิงเสวียนเอื้อมมือไปประคองนางขึ้น แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “เพียงพริบตาเดียวก็ไม่ได้เจอกันมาครึ่งปีแล้ว แม่นางฟางรั่วเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคนเลย มีความกล้าหาญขนาดที่หมื่นคนก็ขวางไม่อยู่ ทำให้สตรีทั่วทั้งแผ่นดินรู้สึกภาคภูมิใจจริงๆ”ฟางรั่วถูกอินชิงเสวียนยกย่องจนดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาตินัก นางก้มศีรษะลงแล้วพูดว่า “ฮองเฮาตรัสยกย่องเกินไปแล้ว”นางพูดด้วยกระแสเสียงสงบ ก้องกังวานราวกับว่าเสียงโลหะกระทบกัน คิดว่านางคงใช้น้ำพุวิญญาณที่ตัวเองเก็บไว้ให้ จนก้าวหน้าไปอีกขั้นแล้ว“คำยกย่องใช่ว่าจะไม่มีมูล เจ้าเก่งมากจริงๆ ข้ามองคนไม่ผิด คนเหล่านี้เป็นลูกน้องของเจ้าหรือ”อินชิงเสวียนหันความสนใจไปยังคนที่เบื้องล่างแท่นประลองฟางรั่วพยักหน้า“สตรีทุกคนในค่ายกำลังสอบวิชาการต่อสู้ หลังจากพวกนางสอบเสร็จสิ้น ฮองเฮาก็จะสามารถชมความองอาจของพวกนางได้”อินชิงเสว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1530 ใครกล้าขึ้นแท่นประลอง

    อินชิงเสวียนที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็กลั้นเสียงหัวเราะ แต่ต้องชื่นชมสายตาขององครักษ์เงาเหล่านี้ ภายใต้การจ้องมองของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นแผนการและกลอุบายใดๆ ก็ไม่สามารถรอดพ้นสายตาไปได้สามวันผ่านไปในชั่วพริบตา เอกสารสอบที่ปิดผนึกจำนวน 420 ชุดก็ถูกขนย้ายเข้ามาในห้องหนังสือแล้วอินชิงเสวียนรออยู่ก่อนแล้ว นี่เป็นครั้งแรกของที่ทำหน้าที่ตรวจข้อสอบ นางตื่นเต้นมาก หลังจากได้รับกระดาษคำตอบแล้ว นางก็เปิดผนึกเคลือบออกทันที สองสามีภรรยามีการแบ่งงานอย่างชัดเจน คนหนึ่งตรวจวิชาคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และเคมี ส่วนอีกคนก็พิจารณาภาพรวม หลังจากผ่านไปสิบวัน ในที่สุดก็ได้คัดเลือกออกมาเก้าสิบหกชุดอินชิงเสวียนตรวจอ่านจนเวียนหัวตาลาย ชาตินี้ไม่คิดจะแตะต้องชุดข้อสอบเหล่านี้อีกแล้วเย่จิ่งอวี้นวดหน้าผากของนางเบาๆ ถามด้วยรอยยิ้ม “อีกไม่กี่วันจะเป็นการสอบหน้าพระที่นั่ง ฮองเฮาอยากมาสังเกตการณ์หรือไม่”อินชิงเสวียนส่ายหัวซ้ำๆ“ไม่แล้ว ฝ่าบาทดูก็พอ ตอนนี้ข้าแค่อยากจะนอนพักผ่อนให้สบายสักสองสามวันแล้ว”เย่จิ่งอวี้พูดอย่างเอ็นดูรักใคร่ “ได้ เช่นนั้นก็พักผ่อนดีๆ ฮองเฮาของข้าลำบากแล้ว”อินชิงเสวียนถอนหายใจอีกครั้ง“น่าเสียดา

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1529 การสอบฤดูใบไม้ผลิ

    เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เพียงพริบตาเดียวก็ถึงเดือนสามนักเรียนฝ่ายบุ๋นฝ่ายบู๊จำนวนมากหลั่งไหลเข้ามาในเมืองหลวง ต้าโจวก็คึกคักครื้นเครงเป็นพิเศษ วันที่สิบแปดเดือนสาม กรมพิธีการเป็นประธานในการสอบอินชิงเสวียนปลอมตัวเป็นอาจารย์อินอีกครั้ง และแอบหนีไปที่หอตรวจ ท้องของนางเริ่มโตขึ้นมากแล้ว เพื่อไม่ให้ถูกคนสังเกตเห็น จึงสวมชุดคลุมตัวใหญ่ อำพรางร่างกาย ไว้เย่จิ่งอวี้ไม่วางใจ ปลอมตัวเป็นองครักษ์ติดตามไปด้วย โดยมีหน้ากากปิดบังครึ่งใบหน้า ริมฝีปากที่เม้มน้อยๆ ยังคงแสดงให้เห็นถึงอำนาจของผู้สูงศักดิ์เขาโค้งคำนับประสานมือคารวะ พูดพร้อมกับหัวเราะเบาๆ “ฝ่าบาทมีรับสั่งให้ข้าน้อยคุ้มครองความปลอดภัยของ อาจารย์อิน ถ้าอาจารย์อินต้องการสิ่งใด เชิญสั่งมาได้เต็มที่”อินชิงเสวียนกลอกตามองเขา วางท่าเหมือนเป็นผู้มีการศึกษา“ไปยืนอยู่ด้านหลัง หากไม่มีอะไรก็อย่าพูดมาก”“รับทราบ”เย่จิ่งอวี้ลดมือลง ยืนข้างหลังนางอย่างเชื่อฟัง โดยไม่พูดอะไรสักคำอินชิงเสวียนเม้มริมฝีปากยิ้มๆ แล้วก้าวเข้าไปในห้องสอบเสนาบดีกรมพิธีการกำลังนั่งดื่มชาบนเก้าอี้ ท่าทางสบายอารมณ์มาก คนจากสำนักศึกษาหลวงถูกย้ายมาที่นี่แล้ว ไม

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1528 ทำไมเสด็จพ่อถึงคลอดลูกไม่ได้

    วันรุ่งขึ้นในตอนเช้า เหล่าขุนนางได้รับข่าว สั่งให้ชาวเมืองเร่งไปที่พระนครในเวลาหนึ่งทุ่ม เพราะฝ่าบาทจะฉลองวันตรุษกับราษฎรทุกคนในอดีต ก็มีการเฉลิมฉลองวันตรุษกับราษฎร แต่พวกเขาไม่เคยได้รับอนุญาตให้ไปที่พระนครในสถานที่สำคัญอย่างเช่นวังหลวง จะให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าใกล้ได้อย่างไร แม้แต่การมองจากไกลๆ ก็มีโทษหนักถึงขั้นตัดศีรษะ หลังจากได้ทราบข่าวนี้ ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ และตั้งตารอคอยเพียงชั่วพริบตาก็ถึงเวลาหนึ่งทุ่ม เหล่าขุนนางก็ได้รับการต้อนรับเข้าสู่พระราชวังเพื่อร่วมงานเลี้ยง ด้านนอกประตูวังก็มีผู้คนมากมายขณะที่มองดูคบเพลิงที่โอ้อวด ทุกคนอดไม่ได้ที่จะกระซิบกระซาบ“อากาศหนาวมาก ให้เรามาทำอะไรที่นี่กัน”“ใช่ มืดสนิทอย่างนี้ หรือจะให้พวกเรานั่งฟังพวกขุนนางข้างในนั่นยกจอกดื่มกันอย่างสนุกสนาน?”“หยุดพูดไร้สาระได้แล้ว ในเมื่อบอกให้เรามาก็มาเถอะ ครึ่งเดือนที่แล้วฮองเฮาประทานข้าว แป้งหมี่ ผักและผลไม้ให้เรามากมาย แม้ต้องทนหนาวก็สมควรแล้ว”“ไม่ใช่หรอกรึ ถึงอย่างไรคนก็มีคุณธรรม ในฤดูกาลนี้จะหาผลไม้และผักสดอร่อยๆ แบบนี้ได้ที่ไหน แม้ว่าฮองเฮาจะให้ทนหนาว ข้าก็ยอมรับได้”

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1527 องค์หญิงซ่อนความคิดไม่มิด

    พริบตาก็ถึงวันสิ้นปี นับตั้งแต่พิธีเสกสมรสของท่านอ๋องสิบสามก็ผ่านไปสองเดือนแล้วท้องน้อยของอินชิงเสวียนนูนขึ้น คนทั้งคนเป็นเหมือนแมวขี้เกียจ สิ่งที่ชอบที่สุดคือการนอนอาบแดดบนเก้าอี้นวมยาวนุ่มๆ ในขณะนี้ นางหรี่ตาลงเล็กน้อย ฟังเสียงของสาวน้อยเย่ไห่ถังที่ดังก้องอยู่ในหูของนาง“เสด็จอาสิบสามแต่งงานมานานแล้ว ทำไมเสด็จพี่ถึงยังไม่พูดถึงการแต่งงานของข้าล่ะ เสด็จพี่สะใภ้ อินปู้อวี่เป็นพี่รองของท่านนะ ท่านไม่ร้อนใจหรือ”“เสด็จพี่สะใภ้ ท่านอย่าเพิ่งหลับนะ ลุกขึ้นมาคุยกับข้าหน่อยสิ”อินชิงเสวียนถูกนางรบกวนจนปวดหัว จำต้องลืมตาตื่น“การแต่งงานของเจ้ากับพี่รองจะจัดขึ้นในปีหลังจากนั้น ถึงอย่างไรเสด็จอาสิบสามของเจ้าก็เป็นผู้อาวุโส เจ้าแต่งงานพร้อมกับเขา มันไม่เหมาะสม”เย่ไห่ถังทำหน้าบูดบึ้งทันที“ไม่เหมาะสมอะไรกัน ข้าไม่ได้แต่งงานกับเขาเสียหน่อย”อินชิงเสวียนโกรธจนหัวเราะ“เรื่องนี้เจ้าก็ยังพูดออกมาได้นะ ถ้าเสด็จพี่เจ้าได้ยิน บางทีอาจส่งเจ้าไปแต่งงานเชื่อมไมตรีจริงๆ ก็ได้”เย่ไห่ถังสะดุ้ง รีบปิดหูของอินชิงเสวียนทันที พระราชโองการนั้นได้กลายเป็นเงาในใจของนางแล้ว แม้ว่าจะรู้ว่ามันเป็นเรื่องเ

DMCA.com Protection Status