แชร์

บทที่ 1040 เปิดเมืองอิ๋นเฉิง

ผู้แต่ง: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
ในเวลาเดียวกัน ณ เพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิง

เฮ่อยวนประสานมือไว้ด้านหลัง มองดูท้องฟ้ายามค่ำคืนด้วยความประหลาดใจ

เฮ่อฉางเฟิงที่ยืนอยู่ข้างๆ เขาก็เบิกตากว้างเช่นกัน!

“นี่คือ...”

เฮ่อยวนพูดอย่างทอดถอนใจ “บางที คราวนี้ จะมีคนสามารถเปิดทางสู่วิถีแห่งสวรรค์ได้จริงๆ”

เฮ่อฉางเฟิงถามอีกครั้ง “การเปลี่ยนแปลงของดวงดาว เกิดขึ้นโดยฝีมือมนุษย์จริงหรือขอรับ”

เฮ่อยวนพยักหน้า พูดอย่างสุขุมเยือกเย็น “อื้ม เดาว่าเจ้าจะสัมผัสได้ถึงพลังแห่งฟ้าดินนั่นแล้ว ทุกวันนี้ในยุทธภพเต็มไปด้วยผู้มากความสามารถจริงๆ ดูเหมือนว่าอิ๋นเฉิงของเราไม่ต้องการแสวงหาความก้าวหน้าแล้ว”

จู่ๆ เฮ่อฉางเฟิงก็ยิ้มแย้มแจ่มใสด้วยความดีใจ

“หรือว่าท่านพ่อเตรียมจะเปิดเมืองอิ๋นเฉิงแล้ว?”

เฮ่อยวนพูดด้วยอารมณ์ทอดถอนใจ “ใช่ เนิ่นนานเพียงนี้พ่อก็คิดตกแล้ว ความผิดพลาดได้เกิดขึ้นแล้ว การไม่แสวงหาความก้าวหน้าไม่ช่วยอะไร จะยิ่งทำให้เจ้าดูเหมือนกบที่ก้นบ่อ ที่มองเห็นแค่ท้องฟ้าเหนือศีรษะเท่านั้น”

“การตายของแม่นางฉี ท่านพี่ไม่ได้ตั้งใจ ถ้าไม่ใช่เพราะนางใช้วิชาแปลงโฉมปลอมตัวเป็นนักฆ่า มายั่วยุที่อิ๋นเฉิง นางคงไม่ตายที่นี่ แม้ว่าความตั้งใจเดิมของนางคือก
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
PuiFai Nymphice
สนุกน่าติดตาม ผูกปมแล้ว คลายปม อย่างน่าสนใจ น่าจะมีหนังสือ ขอชื่อตัวละครที่จำง่ายกว่านี้อีกนิด
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1041 ความสงสัยของผู้อาวุโสหัน

    ตำหนักเทพหอทองคำผู้อาวุโสหันก็มองท้องฟ้าเช่นกัน นัยน์ตาฉายแววประหลาด การขับเคลื่อนของชี่นี้มาจากไหน หรือว่าในโลกนี้มีพลังอันทรงพลังที่สามารถกระตุ้นพลังแห่งดวงดาวได้?หากเขาสามารถได้ความช่วยเหลือจากคนผู้นี้ ทางสู่วิถีแห่งสวรรค์ก็จะตกไปอยู่ในมือของตัวเองอย่างไม่ต้องสงสัยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เขาจงใจเฟ้นหาคนที่มีความสามารถจากทั่วทุกสารทิศก็เพื่อจุดประสงค์นี้มีแต่ต้องหาความบังเอิญเหมาะๆ เท่านั้น ถึงจะสามารถช่วยเหลือเจิงหมิงได้ เขามีลูกชายเพียงคนเดียว นัยน์ตาของผู้อาวุโสหันฉายแววเคียดแค้นชิงชังทั้งหมดเป็นความผิดของนังสารเลวเหมยชิงเกอ หากนางตกลงที่จะแต่งงานกับเจิงหมิงก่อนหน้า เจิงหมิงจะกลายเป็นคนบ้าได้อย่างไร เขาเป็นเด็กดีว่านอนสอนง่าย เป็นเพราะตกหลุมรักนังแพศยาเหมยชิงเกอคนนั้น จึงทำให้ดื้อรั้น จนนำไปสู่การถูกธาตุไฟเข้าแทรกแม้ว่าเหมยชิงเกอจะถูกกักตัวในผาเฟิงเริ่นมานานกว่าสิบปี แต่ก็ยังไม่สามารถบรรเทาความเกลียดชังที่อยู่ในใจได้โชคดีที่ลูกสาวและหลานชายของนางอยู่ที่เทือกเขาเชื่อมเมฆาเช่นกัน แค้นนี้ เขาจะค่อยๆ ชำระสะสาง ไม่มีวันให้พวกเขาตายอย่างมีความสุขขนาดนี้แต่ก่อนอื่น ต้องไป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1042 บุกผาเฟิงเริ่น

    อินชิงเสวียนผลักประตูหินออกไปทันที แล้วก็เห็นลิ่นเซียวยืนอยู่หน้าประตูเขาสวมเสื้อคลุมสีเทาผ้าเนื้อหยาบ ผมสีขาวโดดเด่นภายใต้แสงจันทร์ศิษย์ด้านนอกสองคนล้มลงที่ประตู เช่นเดียวกับฉางเฮิ่นเทียนที่เพิ่งมาถึง“เสี่ยวเฟิ่งเอ๋อร์อยู่ที่ไหน”ลิ่นเซียวก้มหน้าถามฟังจากเสียงของเขา ดูเหมือนจะไม่มั่นคงทางอารมณ์อินชิงเสวียนกลัวว่าหากพูดมากเกินไปจะผิดพลาด ทำให้เขาโกรธ จึงชี้ไปที่ผาเฟิงเริ่นทันทีพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ข้าได้ยินมาว่ามีหญิงสาวรูปงามถูกขังที่นั่น นางยังเล่นพิณได้ ข้าจึงเดาว่านางอาจจะเป็นผู้อาวุโสหลี่”ลิ่นเซียวสะบัดเส้นผมสีขาวที่เหมือนสิงโต กำหมัดแน่นแล้วคำราม “เป็นไปไม่ได้ พวกเขากล้าดีอย่างไรถึงกักขังเสี่ยวเฟิ่งเอ๋อร์”เพื่อป้องกันไม่ให้เขาส่งเสียงจนดึงดูดความสนใจผู้อื่น อินชิงเสวียนจึงรีบพูดเบาๆ “หูได้ยินอาจเป็นเท็จ เมื่อได้เห็นก็จะรู้ว่าเป็นจริง ทำไมเราไม่ขึ้นไปดูล่ะ ถ้าไม่ใช่ ผู้อาวุโสจะได้สบายใจได้”ลิ่นเซียวพยักหน้า“ที่เจ้าพูดก็มีเหตุผล ไป!”เขาเอื้อมมือออกไปคว้าสายรัดเอวของอินชิงเสวียน แล้วใช้วิชาตัวเบาเหาะไปยังผาเฟิงเริ่นทันทีเมื่อก้มมองบ้านเรือนที่อยู่ข้างล่าง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1043 พลังจากมิติ

    บนแท่นกลมมีเสาเหล็กแปดต้นทอดขึ้นไปบนฟ้า แต่ละเสามีโซ่เหล็กท่อนหนา ยื่นออกไปตรงกลางที่จุดตัดของโซ่เหล็ก มีผู้หญิงคนหนึ่งคุกเข่าอยู่บนพื้นที่ถูกตรวนไว้ลมแรงที่พัดมานานหลายปีได้กัดกร่อนเสื้อผ้าของนางจนหมด แขนที่เปลือยเปล่าของนางถูกโซ่เหล็กดึงรั้งจนต้องเหยียดตรง ผมเผ้าที่ยุ่งเหยิงของนางก็ร่วงหล่นลงมาจนแทบคลุมร่างของนางไว้ไม่อยู่ในเวลานี้ นางก้มหน้าก้มตา ร่างผอมเพรียวถูกแรงลมพัดแรงจนตัวสั่น อย่างไม่รู้ว่านางยังมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้วแววตาของอินชิงเสวียนไหววูบ นางคิดถึงความเป็นไปได้นับร้อยของวิธีทรมานที่เหมยชิงเกอถูกทรมาน แต่นางไม่เคยคิดเลยว่ามันจะเป็นฉากที่โหดร้ายเช่นนี้“เสี่ยวเฟิ่งเอ๋อร์!”ดวงตาของลิ่นเซียวกำลังจะถลนออกจากเบ้า ยกเท้าขึ้นกำลังจะวิ่งไปหาผู้หญิงคนนั้นอินชิงเสวียนคว้าแขนของเขา แล้วพูดอย่างเร่งรีบ “ผู้อาวุโส หญิงผู้นี้ไม่ได้สวมเสื้อผ้าใดๆ บนร่างกาย ถ้าไม่ใช่เพราะผู้อาวุโสหลี่ แล้วผู้อาวุโสผลีผลามเข้าไปอย่างกะทันหันจะไม่ดี ให้ผู้เยาว์ไปใส่เสื้อผ้าให้ผู้หญิงคนนี้ก่อนดีกว่า!”จากนั้นลิ่นเซียวก็เห็นว่าหัวเข่าของผู้หญิงคนนั้นถูกลมพัดเปิดออก ดูเหมือนนางไม่มีเสื้อผ้าเลย

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1044 คนประหลาด

    จู่ๆ ความบ้าคลั่งของลิ่นเซียวก็ปรากฏขึ้นอีกครั้งเขาตะคอกอย่างเย็นชา “เจ้ากับข้าไม่ได้ทำความผิดปล้นฆ่าสังหาร จะไปกลัวอะไร”อินชิงเสวียนพูดไม่ออก นี่เป็นเขตต้องห้าม ในฐานะผู้บุกรุก ลิ่นเซียวกลับมีเหตุผลพูดเต็มปากเต็มคำขนาดนี้ เหมือนจะดูไม่ดีกระมัง“ผู้อาวุโสเป็นอาคันตุกะ หากพวกเขารู้ว่าเราอยู่ที่นี่ จะส่งผลกระทบต่อการเป็นผู้บำเพ็ญตนของผู้อาวุโสอย่างแน่นอน ฉะนั้นพวกเราต้องรีบออกไปเจ้าค่ะ”อินชิงเสวียนชี้ไปทางด้านหลังของภูเขาราวกับกำลังเกลี้ยกล่อมเด็ก“ผู้อาวุโสมีวิชาตัวเบาสุดยอด เราสามารถไปที่นั่นได้ ที่นั่นมีคนอยู่เบาบาง บางทีอาจพบการสิ่งที่ไม่คาดคิดบางอย่างก็เป็นได้”ลิ่นเซียวยังคงยืนนิ่งราวกับกำลังครุ่นคิดอินชิงเสวียนกระวนกระวายใจแทบบ้า รีบแลกหมวกคลุมหน้ามาจากมิติ แล้วสวมให้กับลิ่นเซียวอย่างไม่ถืออาวุโส ผมสีขาวของเขาสะดุดตาเกินไป จากนั้นนางก็สวมหมวกคลุมตัวเอง ลมที่พัดมาทำให้นางเจ็บหน้ามาก“เจ้ากำลังทำอะไร”ลิ่นเซียวค่อนข้างไม่มีพอใจอินชิงเสวียนพูดด้วยท่าทางที่ประจบประแจง “ที่นี่หนาวมากไปจริงๆ ข้าเกรงว่าความเย็นจะทำให้ใบหน้าหล่อเหลาของผู้อาวุโสแข็ง เมื่อเจอกัน เกรงว่าผู้อาว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1045 ในโลกนี้มีเซียนมาจากไหน

    คนประหลาดตอบอย่างรวดเร็ว “ข้าถามเจ้าก่อนนะ”“สารเลว กล้าพูดเลียนแบบข้ารึ”ลิ่นเซียวยกมือขึ้นซัดฝ่ามือออกไปตัวประหลาดก็สบถเลียนแบบเช่นกัน“สารเลว กล้าพูดเลียนแบบข้ารึ”เมื่อเห็นการแสดงของทั้งสองคน อินชิงเสวียนก็เริ่มปวดเศียรเวียนเกล้า ดูเหมือนว่าพวกเขาทั้งสองไม่ได้อยู่ในสภาวะจิตใจปกติ“ผู้อาวุโส เราต้องรีบกลับไปก่อน รั้งอยู่นานไม่ได้”คนประหลาดก็ยังพูดตามอีกว่า “ผู้อาวุโส เราต้องรีบกลับไปก่อน รั้งอยู่นานไม่ได้”อินชิงเสวียนกล่าวเสริม “คนผู้นี้มีปัญหาทางสมอง ไม่จำเป็นต้องต่อล้อต่อเถียงกับเขา”“พวกเจ้ามีปัญหาทางสมอง ข้าไม่ต่อล้อต่อเถียงกับพวกเจ้าหรอก”คราวนี้คำพูดของคนประหลาดเปลี่ยนไป เขาซัดฝ่ามือหลายลูกติดต่อกัน วิชาฝ่ามือนั้นรุนแรงมาก จนแม้แต่ลิ่นเซียวก็ถูกบังคับให้ถอยกลับไปหนึ่งก้าว เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง คนผู้นั้นก็ฝังตัวเข้าไปในพงหญ้าลึกแล้วอินชิงเสวียนรีบฉวยโอกาสใช้ทักษะช่วงชิงโชคลาภกับตัวประหลาด ยังไม่ทันที่นางจะรับรู้อย่างรอบคอบถึงสิ่งที่นางได้รับ ลิ่นเซียวก็เอ่ยขึ้นด้วยอารมณ์ที่ยังคั่งค้าง “คิดไม่ถึงว่าในตำหนักเทพจะมียอดฝีมือเช่นนี้ น่าสนใจ”เขาก้าวขาหมายจะไล่ต

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1046 ถากถางโต้กลับ

    อินชิงเสวียนกลับมาที่บ้านหินแล้ว ศิษย์สองคนและฉางเฮิ่นเทียนยังคงนอนเรี่ยราดอยู่ตรงประตูทันใดนั้นลิ่นเซียวก็ถามขึ้นว่า “ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่เสี่ยวเฟิ่งเอ๋อร์จริงๆ หรือ”อินชิงเสวียนกล่าวด้วยใบหน้าที่จริงจัง “ไม่ใช่จริงๆ นางเป็นหญิงชราในวัยหกสิบเศษ นางอาจเป็นปีศาจร้ายในอดีต จึงถูกกักขังอยู่ที่นั่น เราทุกคนเป็นอาคันตุกะแขกของตำหนักเทพ ฉะนั้นอย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวดีกว่า”ตอนนี้ลิ่นเซียววิปลาสไปแล้ว แม้ว่านางจะบอกความจริงกับเขา แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจ บางที่อาจทำให้เกิดเรื่องราวลุกลามใหญ่โตก็ได้ตอนนี้อินชิงเสวียนแค่ต้องการให้เขาออกไปโดยเร็วที่สุด อย่าตกน้ำโคลนเพราะตัวนางเอง ถ้านางไม่กังวลว่านางจะไม่สามารถไปถึงหน้าผาเฟิงเริ่นได้เอง นางคงไม่รบกวนลิ่นเซียวแน่ลิ่นเซียวพยักหน้า“อาจเป็นอย่างที่เจ้าพูด แต่ทำไมจู่ๆ เสาเหล่านั้นถึงหายไปล่ะ”อินชิงเสวียนพูดด้วยท่าทางไม่รู้ไม่ชี้ “ข้าก็ไม่รู้ บางทีเราอาจเห็นเป็นภาพหลอน สิ่งที่แข็งแกร่งเช่นนี้จะหายไปได้อย่างไร”“ภาพหลอน?”ลิ่นเซียวพึมพำอะไรบางอย่าง จากนั้นยืนครุ่นคิดอยู่ที่นั่นขณะที่อินชิงเสวียนกำลังจะหาข้ออ้างให้เขากลับไป ผู้อาวุโสหันก็เดินขึ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1047 ไม่กล้ายอมรับว่ารู้จัก

    แม้ว่าในมิติจะไม่มีดวงอาทิตย์ แต่ก็ยังมีแสงอ่อนโยน ไม่สว่างจ้าไม่มืด อบอุ่นแต่ไม่แสบตาเสี่ยวหนานเฟิงบิดร่างเล็กป้อมเบาๆ กำลังนอนหลับสบายบนเตียงหลังใหญ่ ยกมือน้อยขึ้นหนุนใต้ใบหน้า ท่าทางเหมือนผู้ใหญ่ในร่างเด็กไม่ไกลออกไป ขอบ่อน้ำพุวิญญาณ มีเสาเหล็กแปดต้นตั้งตระหง่านในทิศต่างๆ และโซ่เหล็กที่หนาเท่ากับแขนยังคงล็อกอยู่บนข้อมือของเหมยชิงเกอส่วนเหมยชิงเกอนอนอยู่ข้างๆ บ่อน้ำพุวิญญาณ เส้นผมดำยาวถึงข้อเท้าห้อยปกคลุมร่าง มองเห็นผิวขาวท่อนขาที่เปลือยเปล่าอยู่รางๆอินชิงเสวียนหายใจเข้าลึกๆ เดินไปหาเหมยชิงเกออย่างรวดเร็ว กดนิ้วที่คอของนางโชคดีที่ชีพจรยังคงเต้นอยู่ แม้จะอ่อนแรง แต่คนก็ยังมีชีวิตอยู่อินชิงเสวียนระดมกำลังภายในทั้งหมดทันที และยังแลกพลังมิติด้วย นางหยิบขวานเหล็กขึ้นมา แล้วฟาดโซ่เหล็กด้วยกำลังทั้งหมดของนางเสียงดังปังๆ เสียงโซ่หักหลายครั้ง จากนั้นใช้ความคิดขยับเสาและโซ่ออกไป แล้วหยิบเสื้อผ้าชุดหนึ่งออกมาสวมให้เหมยชิงเกอหลังจากทำทั้งหมดนี้แล้ว อินชิงเสวียนก็กลับไปที่เตียง เห็นเสี่ยวหนานเฟิงยังคงหลับอยู่ นางก็โล่งใจทันทีนางกลับไปที่น้ำพุวิญญาณ เติมน้ำพุวิญญาณลงในถ้วย แล้วให

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1048 เรียกข้าว่าเหมยเหนียง

    อินชิงเสวียนลูบหลังของนางเบาๆ “ผู้อาวุโสไม่ต้องกังวล นี่คือที่พักส่วนตัวของข้า คนภายนอกเข้ามาได้ยาก”เหมยชิงเกอมองไปรอบๆ แล้วมองไปที่อินชิงเสวียน“หรือว่าเจ้าก็เป็นคนที่มาจากตำหนักเทพเช่นกัน”ท่าเคลื่อนไหวเมื่อครู่ ต้องไม่ผิดแน่อินชิงเสวียนส่ายศีรษะ“ไม่ใช่ จะพูดให้ถูกคือ ข้าถูกบังคับให้เข้ามาในตำหนักเทพ”ทันใดนั้นดวงตาของเหมยชิงเกอก็ตื่นตระหนกอีกครั้ง“แล้ว...เจ้าช่วยข้าไว้ได้อย่างไร พวกเขาจะตามมาจนเจอที่นี่หรือเปล่า”เมื่อมองดูท่าทางที่หดเกร็งของนาง อินชิงเสวียนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกทุกข์ใจจากคำพูดของเฟิงเอ้อร์เหนียง เห็นได้ไม่ยากเลยว่า นางเคารพศิษย์พี่คนนี้มาโดยตลอด หากนางเห็นเหมยชิงเกอเป็นแบบนี้ นางจะต้องเสียใจอย่างยิ่งอย่างแน่นอนนางแสร้งทำเป็นผ่อนคลายและพูดว่า “ข้ารู้จักอาคันตุกะคนหนึ่งจากตำหนักเทพ บังเอิญเห็นผู้อาวุโสถูกล่ามไว้ที่ผาเฟิงเริ่น จึงไปพาผู้อาวุโสออกไป ที่นี่เป็นมิติอิสระ เป็นมิติที่อยู่บนตัวข้าเพียงคนเดียว ผู้อาวุโสไม่ต้องกังวลว่าพวกเขาจะตามมา”ขณะที่อินชิงเสวียนพูด นางก็เปิดข้าวหม้อร้อนที่วางอยู่ข้างน้ำพุวิญญาณ และทำอาหารง่ายๆ ให้กับเหมยชิงเกอ“ในเมื่

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1466 ความปรารถนาในใจสำเร็จแล้ว

    ไม่ว่าซูเยี่ยจะจำอดีตกับเขาหรือไม่ก็ตาม มันก็ไม่สำคัญสำหรับเย่จิ่งหลานอีกต่อไปแล้วสวรรค์ทำให้เขาได้เจอผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง อาจเป็นเพราะต้องการให้เขาได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของซูเยี่ย ผู้หญิงประเภทนี้ จริงๆ แล้วมันไม่จำเป็นต้องให้เขาเสียเวลาด้วยซ้ำเขาเพิ่งอายุได้ยี่สิบแปดปี อนาคตยังอีกยาวไกล ซูเยี่ยเป็นเพียบใบไหม้ที่ร่วงไปจากชีวิตของเขา ไม่มีความสำคัญอะไรเลยเย่จิ่งหลานกระตุกมุมปากขึ้นยิ้ม ค่อยๆ รู้สึกปลอดโปร่งใจเขาเดินออกจากสวนสาธารณะอย่างช้าๆ และทันใดนั้นก็มีอีกคำถามหนึ่งผุดขึ้นมาใบหน้านี้ไม่ใช่หน้าตาเดิมของเขา ใครเป็นคนทำศัลยกรรมให้เขา?พลังในร่างกาย มาจากไหนกันแน่แล้วผู้หญิงที่อยู่ในหัวของเขา เป็นใครกันแน่หรือว่าเขาฝึกฝนจนสำเร็จเคล็ดวิชาลับบางอย่าง และผู้หญิงคนนั้นคือแก่นวิญญาณของเขา?เย่จิ่งหลานดึงขอบเอวกางเกงของเขาโดยไม่รู้ตัว ไอ้นั่นยังคงอยู่ตรงนั้น ไม่อย่างนั้นเขาคงคิดว่าตัวเองฝึกฝนวิชาจนกลายเป็นตงฟางปุ๊ป้ายในเรื่องกระบี่เย้ยยุทธจักรแล้วแต่การมีสิ่งเหล่านี้จะมีประโยชน์อะไร เอามาใช้กินใช้ดื่มไม่ได้ ตอนนี้ท้องของเขาร้องโครกคราก แต่ไม่มีเงินอยู่ในกระเป๋าเลยขณะที่

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1465 คนแพศยามักจะสำออยแบบนี้แหละ

    ชายคนนั้นหยิบกระดาษทิชชู่ออกจากกระเป๋า เช็ดนิ้วด้วยความรังเกียจ แล้วเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองซูเยี่ยนั่งบนพื้นร้องไห้เสียงดัง ความฝันที่จะแต่งเข้าไปอยู่ในครอบครัวที่ร่ำรวย ได้พังทลายอีกครั้งมือที่มีเห็นข้อต่อเด่นชัดยื่นออกไปต่อหน้าซูเยี่ยซูเยี่ยเงยหน้าขึ้น แล้วก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาราวกับดาราทันทีสิ่งที่ทำให้เธอตื่นเต้นยิ่งกว่านั้นคือ ชายคนนั้นสวมเสื้อผ้าแบรนด์ดัง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขามีฐานะที่ดีหากสามารถเกาะเกี่ยวลูกเศรษฐีที่ทั้งหล่อทั้งรวยแบบนี้ได้ ถูกตบหน้าแค่ครั้งเดียวจะเป็นไรไป บางทีนี่อาจเป็นความยากลำบากทั้งหมดที่สวรรค์ส่งมาให้ ที่มาอยู่ที่นี่ ก็เพื่อให้ได้เจอกับคนที่ดีกว่าเธอสูดจมูก จับมือนั้นไว้ เพิ่งยืนขึ้นมาได้ครึ่งตัว มือก็คลายออกซูเยี่ยเสียการทรงตัว และล้มลงกับพื้นอีกครั้งเธอมองเย่จิ่งหลานด้วยความประหลาดใจ ไม่เข้าใจว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่เย่จิ่งหลานยกมุมปากขึ้น คุกเข่าลงต่อหน้าเธอ ถามด้วยรอยยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “รู้สึกยังไงที่ถูกทิ้ง?”“อะไรนะ...คุณหมายความว่ายังไง?”ซูเยี่ยถามด้วยเสียงต่ำ ดวงตาสีแดงทั้งคู่ ทำให้เขาดูมีเสน่ห์มากกว่าเมื่อก่อนนี่ไม่ใช่ฉากที่ป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1464 แพศยาอย่างเธอ

    เย่จิ่งหลานโบกมือ ประตูก็เปิดออกแสงจากด้านนอกประตูส่องเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัย ทุกคนก็เห็นหลี่ไห่ตงนอนอยู่บนพื้นทันที และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอยภัยนอนระเกะระกะอยู่ข้างๆชายหนุ่มรูปหล่อคนนี้เดินออกไปโดยไม่มีร่องรอยเลือด หรือฝุ่นผงบนร่างกายเลยทุกคนก้าวถอยหลัง มองดูเย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าหวาดกลัวเย่จิ่งหลานเดินขึ้นไปที่ลิฟต์โดยไม่หรี่ตามองในช่วงที่เขาถูกบีบให้ออกจากโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ แต่ละนาทีแต่ละวินาที เขามักจะจินตนาการถึงการทุบตีหลี่ไห่ตงอย่างรุนแรง ได้ระบายความโกรธ วันนี้ ในที่สุดเขาก็ทำได้แล้ว สำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เย่จิ่งหลานไม่อยากคิดอะไรมากเขารีบออกจากโรงพยาบาล มาที่สวนสาธารณะเล็กๆ ใกล้ ๆ มีชายชราคนหนึ่งที่อาบแดดอยู่ เย่จิ่งหลานเหลือบมองเขา และนั่งอีกด้านหนึ่งทั้งสองคนไม่ได้คุยกัน แค่พบกันโดยบังเอิญ ต่างไม่รู้จักกัน และไม่จำเป็นต้องพูดคุยกันเขาค่อยๆ ผ่อนคลายร่างกาย เอนหลังพิงเก้าอี้ หรี่ตาเหมือนที่ชายชราทำ ความอบอุ่นของดวงอาทิตย์ที่ส่องบนร่างกายของเขาช่างทำให้รู้สึกผ่อนคลายจริงๆหลังจากสงบสติอารมณ์ได้แล้ว เย่จิ่งหลานก็คิดถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาพลังลมป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1463 ฉันชื่อเย่จิ่งหลาน

    ความเจ็บปวดจากไฟฟ้า ทำให้เย่จิ่งหลานกลับมามีสติอีกครั้งหลี่ไห่ตงซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เขาไออย่างบ้าคลั่ง และมองไปที่เย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าแห่งความเกลียดชัง“ทุบตีมัน ทุบตีมันให้ตาย ตีมันตายแล้วฉันจะรับผิดชอบเอง”เมื่อเห็นว่าเย่จิ่งหลานไม่ขัดขืน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้น กระแสไฟฟ้าสีฟ้าพุ่งใส่ร่างของเย่จิ่งหลาน ทำให้ห้องรังสีวินิจฉัยที่มืดมิดสว่างไสวขึ้นมาเย่จิ่งหลานหลับตา ใช้ประสาทสัมผัสตรวจสอบอย่างระมัดระวัง และยกมุมริมฝีปากขึ้นเล็กน้อยเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของตัวเอง แต่สัมผัสได้ ความรุนแรงเท่านี้ไม่สามารถเอาชีวิตเขาได้เลย รู้สึกเหมือนกับถูกแมลงต่อยสองครั้ง ถ้าเขาจะโดนฟ้าผ่า ก็ถือว่าเป็นการได้สัมผัสประสบการณ์ล่วงหน้าเป็นเวลาสิบวินาทีเต็มๆ เขาค่อยๆ ลืมตาขึ้น ดวงตาเรียวแคบของเขาเหมือนถูกรายล้อมไปด้วยงูทองคำพ่นไฟ ดุดันน่าเกรงขาม แม้ในความมืดมิดเช่นนี้ ก็สามารถมองเห็นใบหน้าอันน่าเกลียดของทุกคนได้ชัดเจนเขาอาจจะฆ่าคนไม่ได้ แต่สามารถทุบตีพวกเขาได้ และตราบใดที่พวกเขายังหายใจอยู่ ก็ไม่ถือว่าตายเมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เขาก็ค่อ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1462 ปีศาจในชุดดำ

    “แกเป็นใคร ทำไมถึงมาทำร้ายฉัน”หลี่ไห่ตงเมื่อถูกทุ่มลงพื้นก็กรีดร้องอย่างน่าเวทนา ชายหนุ่มรูปงามตรงหน้านี้ เป็นราวกับเจ้าแห่งความตายในนรก ทำให้เขารู้สึกหวาดผวาอย่างสุดซึ้งจนแทบจะรู้สึกได้ถึงความกลัวที่มาจากจิตวิญญาณเขาไม่สงสัยเลยว่าชายคนนี้จะกล้าฆ่าเขาจริงๆหรือไม่“ฉันไม่รู้จักแกเลย แกจำคนผิดหรือเปล่า หรือคนในครอบครัวของแกอยู่ในโรงพยาบาลที่นี่ ถ้าขาดเงิน ฉันช่วยแกแก้ปัญหาได้”หลี่ไห่ตงรู้สึกว่าตัวเองยังพอมีหวัง จึงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะสร้างความประทับใจให้กับชายผมดำยุ่งเหยิงตรงหน้าเย่จิ่งหลานมองไปที่หลี่ไห่ตงอย่างเย็นชา ความทรงจำในอดีตก็หลั่งไหลกลับมาเพื่อให้ได้ทำงานในโรงพยาบาลต่อ ถึงจะนอนดึกกว่าหมา ตื่นเช้ากว่าไก่ ทำงานหนักเยี่ยงทาส ทำงานหนักมาสามปีก็ตาม แต่เพราะบังเอิญไปเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็น จึงถูกส่งไปยังโรงพยาบาลเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ตั้งแต่เช้าจรดค่ำก็ไม่เจอใคร การทำงานหนักและค่าตอบแทนทั้งหมดของเขาถูกทำลายลงเพราะไอ้สารเลวยิ่งกว่าหมาคนนี้ เขากลับอยากมีชีวิตอยู่งั้นเหรอ ในโลกนี้ จะมีเรื่องดีๆ แบบนั้นได้อย่างไรโลกไม่ยุติธรรม เช่นนั้นก็ให้เขาได้ผดุงความยุติธรรม จัดการสัตว์ร้าย

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1461 เศษสวะ

    ไอ้ชาติชั่วนี่ ใช้อุบายเก่าๆ ของเขาอีกแล้วเย่จิ่งหลานเหลือบมองแพทย์หญิง แม้ว่าเธอจะสวมหน้ากากปลอดเชื้อสีเขียว แต่ยังคงมองเห็นความไม่เต็มใจและความลังเลในดวงตาที่เหนื่อยล้าของเธอทั้งสองเดินสวนทางกัน แพทย์หญิงก็เดินเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัยข้างๆ เย่จิ่งหลานอุ้มเด็กเดินเข้าไปในห้องผ่าตัด แต่ยังคงมองย้อนกลับไปที่แพทย์หญิงคนนั้น จากนั้นก็ได้ยินเสียงคลิก ซึ่งเป็นเสียงล็อคประตู“เด็กคนนี้ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกหน้าอก ขาทั้งสองข้างก็ถูกทับ”เย่จิ่งหลานอธิบายอาการของเด็กสั้นๆ จากนั้นรีบเดินไปที่ห้องรังสีวินิจฉัย ดึงที่จับประตูบานใหญ่ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ดึงให้เปิดออกเมื่อนึกถึงไอ้คนชาติชั่วคนนั้นที่โรงพยาบาลเดิมใช้เส้นสายสารพัด ทำเหมือนกับว่าตัวเองเป็นแค่หมา สุดท้ายยังถูกเขาส่งไปยังโรงพยาบาลชุมชนที่อยู่ห่างไกลที่ไม่มีโอกาสก้าวหน้า เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธเขาออกแรง รู้สึกว่ามีแรงแปลกๆ ออกมาจากจุดตันเถียน ไปถึงท่อนแขนของเขาในทันที จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงกึก ประตูที่ถูกล็อคก็หักแกเป็นสองท่อนหลี่ไห่ตงกำลังจะกอดแพทย์หญิงคนนั้นทำเรื่องงามไส้ มีสายตามองจากข้างนอกเข้าไป อีกทั้งเรือนผมยาวส

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1460 ความคิดชั่วร้าย

    ทันใดนั้นก็มีเสียงเบรกดังมาจากด้านหน้าผู้หญิงคนหนึ่งขี่สกู๊ตเตอร์ชนจนล้มกระแทกพื้น เด็กที่อยู่ข้างหลังก็กระเด็นห่างออกไปหลายเมตรเช่นกันหน้าที่ของแพทย์ทำให้เย่จิ่งหลานเหาะไปข้างหน้า กระโดดไปหลายสิบเมตรในก้าวเดียว และลงจอดต่อหน้าผู้หญิงคนนั้นรถที่ผ่านไปมาต่างก็อึ้งกันไปหมด นี่กำลังถ่ายหนัง หรือเรื่องจริง?คนนี้ไม่มีสายสลิงผูกอยู่บนตัวนั้นา แล้วทำไมเขาถึงเหาะได้ไกลขนาดนี้ในคราวเดียวล่ะ?เย่จิ่งหลานเองก็สะดุ้งนี้...มันเป็นไปได้อย่างไรเป็นวรยุทธ์งั้นหรือเขาไม่มีเวลาคิด ก้มลงห้ามเลือดของผู้หญิงคนนั้นทันที กลิ่นเลือดปะทะเข้าจมูกของเขา หัวใจพลันสั่นขึ้นมาเล็กน้อยดูเหมือนมีบางอย่างตื่นขึ้นมา ไฝแดงระหว่างคิ้วก็สว่างวาบขึ้นเล็กน้อยมือของเขานิ่งค้าง จากนั้นเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์หลายคนก็วิ่งเข้ามา“คุณคนนี้ คุณเป็นหมอเหรอ”เย่จิ่งหลานพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว“ฉันเป็นศัลยแพทย์”คนที่ดูเหมือนพยาบาลกล่าวว่า “คนไข้ได้รับบาดเจ็บสาหัส คุณช่วยตามพวกเราไปที่รถพยาบาล ช่วยรักษาฉุกเฉินได้ไหม”เย่จิ่งหลานสูดหายใจเข้าลึกๆ“ได้”เขาก้าวเข้าไปในรถพยาบาล ผู้หญิงและเด็กถูกพาไปที่เตียงในรถพยาบาล

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1459 เรื่องด่วน

    “ไม่ ข้าไม่เคยสงสัยเจ้าเลย ข้าแค่คิดว่า เจ้าและชิงฮุยอาจไม่ได้เป็นแค่ราชาแคว้นกับขุนนางธรรมดาแบบนั้น”อินชิงเสวียนหยุดชั่วคราวและพูดว่า “แม้ว่าข้าจะไม่เข้าใจหลักการวิทยายุทธ์ของแคว้นเฟยเหยา แต่รู้ว่าวิทยายุทธ์แบบเดียวกันนั้นมักจะมีรากเหง้าเดียวกันที่สามารถใช้ค้นหาร่องรอยได้ หากเจ้าใช้ความพยายาม ก็ไม่น่าจะยากที่จะพบตัวชิงฮุย แต่ว่า ที่ข้ามาที่นี่ก็ไม่มามาถามเรื่องเขาทั้งหมด”“โอ้?”ลั่วสุ่ยชิงเงยหน้าขึ้น มองไปยังอินชิงเสวียน“ข้าอยากรู้ หากแก่นวิญญาณของเจ้าและแก่นวิญญาณของชิงฮุยมาพบกันในห้วงทะเลแห่งจิตของเย่จิ่งหลาน จะเกิดผลที่ตามมาอย่างไร”“ไม่แน่ใจ”ลั่วสุ่ยชิงพูดอย่างตรงไปตรงมา“ข้ามีลางสังหรณ์ว่าชิงฮุยอาจทำลายแก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลาน ยึดร่างกายของเขา ดังนั้นจึงซ่อนแก่นวิญญาณของตัวเองไว้ในห้วงทะเลแห่งจิตของเย่จิ่งหลาน โดยใช้วิธีเข้าฝัน...”ลั่วสุ่ยชิงคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดต่อว่า “ตามหลักการปกติทั่วไป แก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลานอาจได้รับผลกระทบ ซึ่งอาจทำให้สมองสดใสน้อยลง แต่ไม่ต้องการให้เขาหายตัวไปโดยสิ้นเชิง เมื่อข้าลองใช้วิธีการเข้าฝันอีกครั้ง แต่ข้าไม่สามารถสัมผัสถึงลมปราณของเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1458 ขายความน่ารัก

    เสี่ยวหนานเฟิงกางมือเล็กๆ ออก แล้วถามด้วยน้ำเสียงแหลมใสไร้เดียงสาว่า “ภารกิจอะไรอ่ะ”“ไปหาพี่สาวลั่ว”อินชิงเสวียนหยิบน้ำพุวิญญาณออกมาล้างมือที่สกปรกของเสี่ยวหนานเฟิง จากนั้นเช็ดด้วยผ้าเช็ดทำความสะอาดฆ่าเชื้อ“อีกประเดี๋ยวเจ้าต้องขายความน่ารัก แม่จะถือโอกาสถามอะไรบางอย่าง”เสี่ยวหนานเฟิงดูสับสน กะพริบตาโตแล้วถามว่า “ขายความน่ารักหมายความว่าอย่างไร ต้องขายให้ได้เงินมากไหม”อินชิงเสวียนหัวเราะเบาๆ“ท่าทางตอนนี้ของเจ้าก็น่ารักบ้องแบ๊วอยู่แล้ว ให้เป็นแบบนี้ต่อก็พอแล้ว”เสี่ยวหนานเฟิงตอบว่าอ้อ และทันใดนั้นก็พูดอย่างตื่นเต้น “พี่สาวลั่วทำหน้าอมทุกข์อยู่ตลอด เราเอาให้ลูกกวาดให้นางก็ได้นะ”อินชิงเสวียนพยักหน้าเห็นด้วย“อื้ม นี่เป็นความคิดที่ดี”นางโบกมือและหยิบถุงลูกกวาดมาจากมิติ“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็มอบให้พี่สาวลั่วนะ”“ตกลง”เสี่ยวหนานเฟิงยื่นมือเล็กๆ ออกมาเพื่อหยิบมัน แล้วถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนิ่ม “ลูกได้ยินจากเสด็จพ่อบอกว่าอาจิ่งหลานหายไป ท่านแม่หาลุงเจอไหม”อินชิงเสวียนถอนหายใจ “ไม่รู้ บางทีเขาอาจจะกลับไปยังที่ของตัวเองแล้ว สำหรับเขาแล้ว แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน”เสี่ยวหนานเฟิงเอียง

DMCA.com Protection Status