ตำหนักเทพหอทองคำผู้อาวุโสหันก็มองท้องฟ้าเช่นกัน นัยน์ตาฉายแววประหลาด การขับเคลื่อนของชี่นี้มาจากไหน หรือว่าในโลกนี้มีพลังอันทรงพลังที่สามารถกระตุ้นพลังแห่งดวงดาวได้?หากเขาสามารถได้ความช่วยเหลือจากคนผู้นี้ ทางสู่วิถีแห่งสวรรค์ก็จะตกไปอยู่ในมือของตัวเองอย่างไม่ต้องสงสัยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เขาจงใจเฟ้นหาคนที่มีความสามารถจากทั่วทุกสารทิศก็เพื่อจุดประสงค์นี้มีแต่ต้องหาความบังเอิญเหมาะๆ เท่านั้น ถึงจะสามารถช่วยเหลือเจิงหมิงได้ เขามีลูกชายเพียงคนเดียว นัยน์ตาของผู้อาวุโสหันฉายแววเคียดแค้นชิงชังทั้งหมดเป็นความผิดของนังสารเลวเหมยชิงเกอ หากนางตกลงที่จะแต่งงานกับเจิงหมิงก่อนหน้า เจิงหมิงจะกลายเป็นคนบ้าได้อย่างไร เขาเป็นเด็กดีว่านอนสอนง่าย เป็นเพราะตกหลุมรักนังแพศยาเหมยชิงเกอคนนั้น จึงทำให้ดื้อรั้น จนนำไปสู่การถูกธาตุไฟเข้าแทรกแม้ว่าเหมยชิงเกอจะถูกกักตัวในผาเฟิงเริ่นมานานกว่าสิบปี แต่ก็ยังไม่สามารถบรรเทาความเกลียดชังที่อยู่ในใจได้โชคดีที่ลูกสาวและหลานชายของนางอยู่ที่เทือกเขาเชื่อมเมฆาเช่นกัน แค้นนี้ เขาจะค่อยๆ ชำระสะสาง ไม่มีวันให้พวกเขาตายอย่างมีความสุขขนาดนี้แต่ก่อนอื่น ต้องไป
อินชิงเสวียนผลักประตูหินออกไปทันที แล้วก็เห็นลิ่นเซียวยืนอยู่หน้าประตูเขาสวมเสื้อคลุมสีเทาผ้าเนื้อหยาบ ผมสีขาวโดดเด่นภายใต้แสงจันทร์ศิษย์ด้านนอกสองคนล้มลงที่ประตู เช่นเดียวกับฉางเฮิ่นเทียนที่เพิ่งมาถึง“เสี่ยวเฟิ่งเอ๋อร์อยู่ที่ไหน”ลิ่นเซียวก้มหน้าถามฟังจากเสียงของเขา ดูเหมือนจะไม่มั่นคงทางอารมณ์อินชิงเสวียนกลัวว่าหากพูดมากเกินไปจะผิดพลาด ทำให้เขาโกรธ จึงชี้ไปที่ผาเฟิงเริ่นทันทีพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ข้าได้ยินมาว่ามีหญิงสาวรูปงามถูกขังที่นั่น นางยังเล่นพิณได้ ข้าจึงเดาว่านางอาจจะเป็นผู้อาวุโสหลี่”ลิ่นเซียวสะบัดเส้นผมสีขาวที่เหมือนสิงโต กำหมัดแน่นแล้วคำราม “เป็นไปไม่ได้ พวกเขากล้าดีอย่างไรถึงกักขังเสี่ยวเฟิ่งเอ๋อร์”เพื่อป้องกันไม่ให้เขาส่งเสียงจนดึงดูดความสนใจผู้อื่น อินชิงเสวียนจึงรีบพูดเบาๆ “หูได้ยินอาจเป็นเท็จ เมื่อได้เห็นก็จะรู้ว่าเป็นจริง ทำไมเราไม่ขึ้นไปดูล่ะ ถ้าไม่ใช่ ผู้อาวุโสจะได้สบายใจได้”ลิ่นเซียวพยักหน้า“ที่เจ้าพูดก็มีเหตุผล ไป!”เขาเอื้อมมือออกไปคว้าสายรัดเอวของอินชิงเสวียน แล้วใช้วิชาตัวเบาเหาะไปยังผาเฟิงเริ่นทันทีเมื่อก้มมองบ้านเรือนที่อยู่ข้างล่าง
บนแท่นกลมมีเสาเหล็กแปดต้นทอดขึ้นไปบนฟ้า แต่ละเสามีโซ่เหล็กท่อนหนา ยื่นออกไปตรงกลางที่จุดตัดของโซ่เหล็ก มีผู้หญิงคนหนึ่งคุกเข่าอยู่บนพื้นที่ถูกตรวนไว้ลมแรงที่พัดมานานหลายปีได้กัดกร่อนเสื้อผ้าของนางจนหมด แขนที่เปลือยเปล่าของนางถูกโซ่เหล็กดึงรั้งจนต้องเหยียดตรง ผมเผ้าที่ยุ่งเหยิงของนางก็ร่วงหล่นลงมาจนแทบคลุมร่างของนางไว้ไม่อยู่ในเวลานี้ นางก้มหน้าก้มตา ร่างผอมเพรียวถูกแรงลมพัดแรงจนตัวสั่น อย่างไม่รู้ว่านางยังมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้วแววตาของอินชิงเสวียนไหววูบ นางคิดถึงความเป็นไปได้นับร้อยของวิธีทรมานที่เหมยชิงเกอถูกทรมาน แต่นางไม่เคยคิดเลยว่ามันจะเป็นฉากที่โหดร้ายเช่นนี้“เสี่ยวเฟิ่งเอ๋อร์!”ดวงตาของลิ่นเซียวกำลังจะถลนออกจากเบ้า ยกเท้าขึ้นกำลังจะวิ่งไปหาผู้หญิงคนนั้นอินชิงเสวียนคว้าแขนของเขา แล้วพูดอย่างเร่งรีบ “ผู้อาวุโส หญิงผู้นี้ไม่ได้สวมเสื้อผ้าใดๆ บนร่างกาย ถ้าไม่ใช่เพราะผู้อาวุโสหลี่ แล้วผู้อาวุโสผลีผลามเข้าไปอย่างกะทันหันจะไม่ดี ให้ผู้เยาว์ไปใส่เสื้อผ้าให้ผู้หญิงคนนี้ก่อนดีกว่า!”จากนั้นลิ่นเซียวก็เห็นว่าหัวเข่าของผู้หญิงคนนั้นถูกลมพัดเปิดออก ดูเหมือนนางไม่มีเสื้อผ้าเลย
จู่ๆ ความบ้าคลั่งของลิ่นเซียวก็ปรากฏขึ้นอีกครั้งเขาตะคอกอย่างเย็นชา “เจ้ากับข้าไม่ได้ทำความผิดปล้นฆ่าสังหาร จะไปกลัวอะไร”อินชิงเสวียนพูดไม่ออก นี่เป็นเขตต้องห้าม ในฐานะผู้บุกรุก ลิ่นเซียวกลับมีเหตุผลพูดเต็มปากเต็มคำขนาดนี้ เหมือนจะดูไม่ดีกระมัง“ผู้อาวุโสเป็นอาคันตุกะ หากพวกเขารู้ว่าเราอยู่ที่นี่ จะส่งผลกระทบต่อการเป็นผู้บำเพ็ญตนของผู้อาวุโสอย่างแน่นอน ฉะนั้นพวกเราต้องรีบออกไปเจ้าค่ะ”อินชิงเสวียนชี้ไปทางด้านหลังของภูเขาราวกับกำลังเกลี้ยกล่อมเด็ก“ผู้อาวุโสมีวิชาตัวเบาสุดยอด เราสามารถไปที่นั่นได้ ที่นั่นมีคนอยู่เบาบาง บางทีอาจพบการสิ่งที่ไม่คาดคิดบางอย่างก็เป็นได้”ลิ่นเซียวยังคงยืนนิ่งราวกับกำลังครุ่นคิดอินชิงเสวียนกระวนกระวายใจแทบบ้า รีบแลกหมวกคลุมหน้ามาจากมิติ แล้วสวมให้กับลิ่นเซียวอย่างไม่ถืออาวุโส ผมสีขาวของเขาสะดุดตาเกินไป จากนั้นนางก็สวมหมวกคลุมตัวเอง ลมที่พัดมาทำให้นางเจ็บหน้ามาก“เจ้ากำลังทำอะไร”ลิ่นเซียวค่อนข้างไม่มีพอใจอินชิงเสวียนพูดด้วยท่าทางที่ประจบประแจง “ที่นี่หนาวมากไปจริงๆ ข้าเกรงว่าความเย็นจะทำให้ใบหน้าหล่อเหลาของผู้อาวุโสแข็ง เมื่อเจอกัน เกรงว่าผู้อาว
คนประหลาดตอบอย่างรวดเร็ว “ข้าถามเจ้าก่อนนะ”“สารเลว กล้าพูดเลียนแบบข้ารึ”ลิ่นเซียวยกมือขึ้นซัดฝ่ามือออกไปตัวประหลาดก็สบถเลียนแบบเช่นกัน“สารเลว กล้าพูดเลียนแบบข้ารึ”เมื่อเห็นการแสดงของทั้งสองคน อินชิงเสวียนก็เริ่มปวดเศียรเวียนเกล้า ดูเหมือนว่าพวกเขาทั้งสองไม่ได้อยู่ในสภาวะจิตใจปกติ“ผู้อาวุโส เราต้องรีบกลับไปก่อน รั้งอยู่นานไม่ได้”คนประหลาดก็ยังพูดตามอีกว่า “ผู้อาวุโส เราต้องรีบกลับไปก่อน รั้งอยู่นานไม่ได้”อินชิงเสวียนกล่าวเสริม “คนผู้นี้มีปัญหาทางสมอง ไม่จำเป็นต้องต่อล้อต่อเถียงกับเขา”“พวกเจ้ามีปัญหาทางสมอง ข้าไม่ต่อล้อต่อเถียงกับพวกเจ้าหรอก”คราวนี้คำพูดของคนประหลาดเปลี่ยนไป เขาซัดฝ่ามือหลายลูกติดต่อกัน วิชาฝ่ามือนั้นรุนแรงมาก จนแม้แต่ลิ่นเซียวก็ถูกบังคับให้ถอยกลับไปหนึ่งก้าว เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง คนผู้นั้นก็ฝังตัวเข้าไปในพงหญ้าลึกแล้วอินชิงเสวียนรีบฉวยโอกาสใช้ทักษะช่วงชิงโชคลาภกับตัวประหลาด ยังไม่ทันที่นางจะรับรู้อย่างรอบคอบถึงสิ่งที่นางได้รับ ลิ่นเซียวก็เอ่ยขึ้นด้วยอารมณ์ที่ยังคั่งค้าง “คิดไม่ถึงว่าในตำหนักเทพจะมียอดฝีมือเช่นนี้ น่าสนใจ”เขาก้าวขาหมายจะไล่ต
อินชิงเสวียนกลับมาที่บ้านหินแล้ว ศิษย์สองคนและฉางเฮิ่นเทียนยังคงนอนเรี่ยราดอยู่ตรงประตูทันใดนั้นลิ่นเซียวก็ถามขึ้นว่า “ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่เสี่ยวเฟิ่งเอ๋อร์จริงๆ หรือ”อินชิงเสวียนกล่าวด้วยใบหน้าที่จริงจัง “ไม่ใช่จริงๆ นางเป็นหญิงชราในวัยหกสิบเศษ นางอาจเป็นปีศาจร้ายในอดีต จึงถูกกักขังอยู่ที่นั่น เราทุกคนเป็นอาคันตุกะแขกของตำหนักเทพ ฉะนั้นอย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวดีกว่า”ตอนนี้ลิ่นเซียววิปลาสไปแล้ว แม้ว่านางจะบอกความจริงกับเขา แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจ บางที่อาจทำให้เกิดเรื่องราวลุกลามใหญ่โตก็ได้ตอนนี้อินชิงเสวียนแค่ต้องการให้เขาออกไปโดยเร็วที่สุด อย่าตกน้ำโคลนเพราะตัวนางเอง ถ้านางไม่กังวลว่านางจะไม่สามารถไปถึงหน้าผาเฟิงเริ่นได้เอง นางคงไม่รบกวนลิ่นเซียวแน่ลิ่นเซียวพยักหน้า“อาจเป็นอย่างที่เจ้าพูด แต่ทำไมจู่ๆ เสาเหล่านั้นถึงหายไปล่ะ”อินชิงเสวียนพูดด้วยท่าทางไม่รู้ไม่ชี้ “ข้าก็ไม่รู้ บางทีเราอาจเห็นเป็นภาพหลอน สิ่งที่แข็งแกร่งเช่นนี้จะหายไปได้อย่างไร”“ภาพหลอน?”ลิ่นเซียวพึมพำอะไรบางอย่าง จากนั้นยืนครุ่นคิดอยู่ที่นั่นขณะที่อินชิงเสวียนกำลังจะหาข้ออ้างให้เขากลับไป ผู้อาวุโสหันก็เดินขึ
แม้ว่าในมิติจะไม่มีดวงอาทิตย์ แต่ก็ยังมีแสงอ่อนโยน ไม่สว่างจ้าไม่มืด อบอุ่นแต่ไม่แสบตาเสี่ยวหนานเฟิงบิดร่างเล็กป้อมเบาๆ กำลังนอนหลับสบายบนเตียงหลังใหญ่ ยกมือน้อยขึ้นหนุนใต้ใบหน้า ท่าทางเหมือนผู้ใหญ่ในร่างเด็กไม่ไกลออกไป ขอบ่อน้ำพุวิญญาณ มีเสาเหล็กแปดต้นตั้งตระหง่านในทิศต่างๆ และโซ่เหล็กที่หนาเท่ากับแขนยังคงล็อกอยู่บนข้อมือของเหมยชิงเกอส่วนเหมยชิงเกอนอนอยู่ข้างๆ บ่อน้ำพุวิญญาณ เส้นผมดำยาวถึงข้อเท้าห้อยปกคลุมร่าง มองเห็นผิวขาวท่อนขาที่เปลือยเปล่าอยู่รางๆอินชิงเสวียนหายใจเข้าลึกๆ เดินไปหาเหมยชิงเกออย่างรวดเร็ว กดนิ้วที่คอของนางโชคดีที่ชีพจรยังคงเต้นอยู่ แม้จะอ่อนแรง แต่คนก็ยังมีชีวิตอยู่อินชิงเสวียนระดมกำลังภายในทั้งหมดทันที และยังแลกพลังมิติด้วย นางหยิบขวานเหล็กขึ้นมา แล้วฟาดโซ่เหล็กด้วยกำลังทั้งหมดของนางเสียงดังปังๆ เสียงโซ่หักหลายครั้ง จากนั้นใช้ความคิดขยับเสาและโซ่ออกไป แล้วหยิบเสื้อผ้าชุดหนึ่งออกมาสวมให้เหมยชิงเกอหลังจากทำทั้งหมดนี้แล้ว อินชิงเสวียนก็กลับไปที่เตียง เห็นเสี่ยวหนานเฟิงยังคงหลับอยู่ นางก็โล่งใจทันทีนางกลับไปที่น้ำพุวิญญาณ เติมน้ำพุวิญญาณลงในถ้วย แล้วให
อินชิงเสวียนลูบหลังของนางเบาๆ “ผู้อาวุโสไม่ต้องกังวล นี่คือที่พักส่วนตัวของข้า คนภายนอกเข้ามาได้ยาก”เหมยชิงเกอมองไปรอบๆ แล้วมองไปที่อินชิงเสวียน“หรือว่าเจ้าก็เป็นคนที่มาจากตำหนักเทพเช่นกัน”ท่าเคลื่อนไหวเมื่อครู่ ต้องไม่ผิดแน่อินชิงเสวียนส่ายศีรษะ“ไม่ใช่ จะพูดให้ถูกคือ ข้าถูกบังคับให้เข้ามาในตำหนักเทพ”ทันใดนั้นดวงตาของเหมยชิงเกอก็ตื่นตระหนกอีกครั้ง“แล้ว...เจ้าช่วยข้าไว้ได้อย่างไร พวกเขาจะตามมาจนเจอที่นี่หรือเปล่า”เมื่อมองดูท่าทางที่หดเกร็งของนาง อินชิงเสวียนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกทุกข์ใจจากคำพูดของเฟิงเอ้อร์เหนียง เห็นได้ไม่ยากเลยว่า นางเคารพศิษย์พี่คนนี้มาโดยตลอด หากนางเห็นเหมยชิงเกอเป็นแบบนี้ นางจะต้องเสียใจอย่างยิ่งอย่างแน่นอนนางแสร้งทำเป็นผ่อนคลายและพูดว่า “ข้ารู้จักอาคันตุกะคนหนึ่งจากตำหนักเทพ บังเอิญเห็นผู้อาวุโสถูกล่ามไว้ที่ผาเฟิงเริ่น จึงไปพาผู้อาวุโสออกไป ที่นี่เป็นมิติอิสระ เป็นมิติที่อยู่บนตัวข้าเพียงคนเดียว ผู้อาวุโสไม่ต้องกังวลว่าพวกเขาจะตามมา”ขณะที่อินชิงเสวียนพูด นางก็เปิดข้าวหม้อร้อนที่วางอยู่ข้างน้ำพุวิญญาณ และทำอาหารง่ายๆ ให้กับเหมยชิงเกอ“ในเมื่