Home / รักโบราณ / สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ / บทที่ 1037 เริ่มรอคอยแล้ว

Share

บทที่ 1037 เริ่มรอคอยแล้ว

Author: ม่อเยี่ยน
last update Last Updated: 2024-07-27 16:00:00
“แม่อยากปกป้องนาง จะต้องแข็งแกร่งขึ้นอยู่แล้ว อีกเรื่อง ถ้าเจ้าเห็นแม่เลือดออกก็ไม่ต้องกลัว แม่ใช้ซอสมะเขือเทศหลอกพวกเขา”

อินชิงเสวียนโบกมือแลกขวดซอสมะเขือเทศมา แล้วทาที่มุมปากตัวเอง

“ดูสิ แบบนี้ไง”

เสี่ยวหนานเฟิงยื่นนิ้วออกมาจิ้มที่มุมปากของอินชิงเสวียนแลว้เอาไปชิม

“หวานจัง!”

“ใช่ ดังนั้นมันแค่ของปลอม บางทีแม่ต้องแกล้งทำเป็นอ่อนแอ เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่ต้องระแวงแม่”

เพื่อไม่ให้เสี่ยวหนานเฟิงเหงา จึงต้องเปิดหน้าจอในมิติตลอดเวลา หากตัวเองต่อสู้กับคนอื่นแล้วได้รับบาดเจ็บ ลูกต้องเป็นห่วงแน่ๆ ฉะนั้นจะต้องป้องกันก่อน

เสี่ยวหนานเฟิงพยักหน้าทันที

“ลูกเข้าใจแล้ว”

“เด็กดี”

อินชิงเสวียนใช้ช้อนแบ่งผลไม้ออกเป็นชิ้นเล็กๆ เสี่ยวหนานเฟิงกินอย่างเอร็ดอร่อย แล้วกอดท้องกลมๆ แล้วพูดเห็นฟันขาวเล็กๆ ว่า “อิ่มมากๆ”

“ถ้าอย่างนั้นเรามาเรียนบทกวีโบราณกันก่อน แล้วค่อยไปเล่นบ้านล้มปราสาท”

“ดี!”

สองแม่ลูกเล่นกันสักพัก แล้วทันใดนั้นก็มีเสียงเสื้อผ้าดังขึ้นข้างนอกมิติ

“แม่ต้องออกไปดูก่อน ถ้าคนเลวรู้ว่าเราซ่อนตัวอยู่ในมิติ พวกเขาต้องมาตามหาเราในนี้แน่นอน ลูกเล่นไปก่อนนะ”

“เด็จแม่ลุยเลย ไม่ต้องห่วงลูก”
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1038 สามพันทางเดิน ไม่สู้ดอกไม้ผลิบานสักครั้ง

    เมืองหลวงเมื่อพระอาทิตย์ตกดินทางทิศตะวันตก แสงสีส้มของแสงอาทิตย์ก็ส่องให้เห็นทิวทัศน์อันเงียบสงบเย่จิ่งอวี้นั่งขัดสมาธิอยู่ด้านหลังฝูงชน กำลังฟังอย่างตั้งใจในช่วงหลายวันที่ผ่านมา หลังจากเลิกประชุมเช้าเขาก็จะมาฟังเทศน์ที่อารามซ่างชิง รู้สึกเสมอว่าตัวเองได้สัมผัสบางสิ่งบางอย่าง แต่ก็ขาดระดับความลึกซึ้งไปบ้างในขณะที่นั่งสมาธิอย่างเงียบๆ ในเวลากลางคืน เศษชิ้นส่วนความทรงจำสุดคณานับหลุดออกมาจากใจ ชั่วขณะหนึ่งเขาไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นความฝันหรือความจริงหรือว่าเป็นอย่างที่เจวี๋ยอิ่งพูด ในช่วงสองปีที่ผ่านมานับตั้งแต่ขึ้นครองบัลลังก์เขาก็ทำงานหนักมาก ทำให้เหนื่อยล้าเกินไป?แต่เย่จิ่งอวี้ไม่รู้สึกเหนื่อย ร่างกายมีพลังท่วมท้น สดชื่นกระปรี้กระเปร่า ซึ่งน่าแปลกจริงๆ “เอาล่ะ วันนี้พอเท่านั้นก่อน”นักพรตเทียนชิงยืนขึ้นอย่างช้าๆ มองไปยังชาวบ้านทุกด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้มทุกคนก็ยืนขึ้น โค้งคำนับและกล่าวขอบคุณ แล้วจึงแยกย้ายออกจากอารามซ่างชิงกวนนักพรตเทียนชิงเป็นผู้ที่มีสติปัญญาเป็นเลิศ ทุกวันนี้ ทุกคนได้รับประโยชน์มากมายจากการฟังเทศน์และพูดคุยเกี่ยวกับลัทธิเต๋า ทุกคนต่างก็ให้ความเคารพเขาอย

    Last Updated : 2024-07-27
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1039 ความตื่นรู้กระตุ้นดวงดาว

    เย่จิ่งอวี้ตกใจเล็กน้อย แล้วหันกลับมา“เจ้าหมายความว่าอะไร”ชิงฮุยก็หันกลับไปเช่นกัน ทั้งสองเผชิญสายตากันดวงตาสุกใสดุจธาราสองสายที่เหมือนน้ำพุสะอาด ได้ไหลเข้าสู่ดวงตาทั้งคู่ของเย่จิ่งอวี้ เพียงครู่เดียว ก็มีอาการเจ็บปวดอย่างรุนแรงในหัวแต่เพียงชั่วครู่เท่านั้น แล้วความเย็นยะเยือกพุ่งขึ้นมาในอก ซึ่งสามารถหักล้างความเจ็บปวดทางกายของเย่จิ่งอวี้ได้ชิงฮุยยิ้มและพูดเบาๆ “ข้าเห็นคุณชายเดินไปตามถนนเหมือนคนเสียขวัญ คิดว่าท่านสูญเสียบางสิ่งบางอย่าง ยังหาไม่พบ ดูเหมือนว่าข้าจะกังวลมากเกินไป”เขายกมือข้างหนึ่งไหว้ไว้กลางอก แล้วพูดเบาๆ “ของจงสุขสถาพรชั่วชีวิต คุณชายกลับดีๆ”จากนั้นเย่จิ่งอวี้ก็ตระหนักได้ว่านิ้วที่กุมสายบังเหียนเปลี่ยนเป็นสีเขียวคล้ำ เส้นเลือดที่หลังมือปูดโปน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าจิตใจของเขาปั่นป่วนเพียงใดดูเหมือนเขาจะสูญเสียบางสิ่งบางอย่างไป แต่เขาสูญเสียอะไรไปล่ะเขานั่งบนบัลลังก์สูง เป็นผู้มีอำนาจมากที่สุดในใต้หล้า สิ่งที่เขาต้องการ จะหามาไม่ได้กระนั้นหรือ?อาจเป็นเพราะนักพรตน้อยคิดมากเกินไปเมื่อคิดถึงสิ่งนี้ เย่จิ่งอวี้ก็สัมผัสหยกเย็นบนคออีกครั้งนี่เป็นของดีจริงๆ ต

    Last Updated : 2024-07-27
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1040 เปิดเมืองอิ๋นเฉิง

    ในเวลาเดียวกัน ณ เพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิงเฮ่อยวนประสานมือไว้ด้านหลัง มองดูท้องฟ้ายามค่ำคืนด้วยความประหลาดใจเฮ่อฉางเฟิงที่ยืนอยู่ข้างๆ เขาก็เบิกตากว้างเช่นกัน!“นี่คือ...”เฮ่อยวนพูดอย่างทอดถอนใจ “บางที คราวนี้ จะมีคนสามารถเปิดทางสู่วิถีแห่งสวรรค์ได้จริงๆ”เฮ่อฉางเฟิงถามอีกครั้ง “การเปลี่ยนแปลงของดวงดาว เกิดขึ้นโดยฝีมือมนุษย์จริงหรือขอรับ”เฮ่อยวนพยักหน้า พูดอย่างสุขุมเยือกเย็น “อื้ม เดาว่าเจ้าจะสัมผัสได้ถึงพลังแห่งฟ้าดินนั่นแล้ว ทุกวันนี้ในยุทธภพเต็มไปด้วยผู้มากความสามารถจริงๆ ดูเหมือนว่าอิ๋นเฉิงของเราไม่ต้องการแสวงหาความก้าวหน้าแล้ว”จู่ๆ เฮ่อฉางเฟิงก็ยิ้มแย้มแจ่มใสด้วยความดีใจ“หรือว่าท่านพ่อเตรียมจะเปิดเมืองอิ๋นเฉิงแล้ว?”เฮ่อยวนพูดด้วยอารมณ์ทอดถอนใจ “ใช่ เนิ่นนานเพียงนี้พ่อก็คิดตกแล้ว ความผิดพลาดได้เกิดขึ้นแล้ว การไม่แสวงหาความก้าวหน้าไม่ช่วยอะไร จะยิ่งทำให้เจ้าดูเหมือนกบที่ก้นบ่อ ที่มองเห็นแค่ท้องฟ้าเหนือศีรษะเท่านั้น”“การตายของแม่นางฉี ท่านพี่ไม่ได้ตั้งใจ ถ้าไม่ใช่เพราะนางใช้วิชาแปลงโฉมปลอมตัวเป็นนักฆ่า มายั่วยุที่อิ๋นเฉิง นางคงไม่ตายที่นี่ แม้ว่าความตั้งใจเดิมของนางคือก

    Last Updated : 2024-07-28
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1041 ความสงสัยของผู้อาวุโสหัน

    ตำหนักเทพหอทองคำผู้อาวุโสหันก็มองท้องฟ้าเช่นกัน นัยน์ตาฉายแววประหลาด การขับเคลื่อนของชี่นี้มาจากไหน หรือว่าในโลกนี้มีพลังอันทรงพลังที่สามารถกระตุ้นพลังแห่งดวงดาวได้?หากเขาสามารถได้ความช่วยเหลือจากคนผู้นี้ ทางสู่วิถีแห่งสวรรค์ก็จะตกไปอยู่ในมือของตัวเองอย่างไม่ต้องสงสัยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เขาจงใจเฟ้นหาคนที่มีความสามารถจากทั่วทุกสารทิศก็เพื่อจุดประสงค์นี้มีแต่ต้องหาความบังเอิญเหมาะๆ เท่านั้น ถึงจะสามารถช่วยเหลือเจิงหมิงได้ เขามีลูกชายเพียงคนเดียว นัยน์ตาของผู้อาวุโสหันฉายแววเคียดแค้นชิงชังทั้งหมดเป็นความผิดของนังสารเลวเหมยชิงเกอ หากนางตกลงที่จะแต่งงานกับเจิงหมิงก่อนหน้า เจิงหมิงจะกลายเป็นคนบ้าได้อย่างไร เขาเป็นเด็กดีว่านอนสอนง่าย เป็นเพราะตกหลุมรักนังแพศยาเหมยชิงเกอคนนั้น จึงทำให้ดื้อรั้น จนนำไปสู่การถูกธาตุไฟเข้าแทรกแม้ว่าเหมยชิงเกอจะถูกกักตัวในผาเฟิงเริ่นมานานกว่าสิบปี แต่ก็ยังไม่สามารถบรรเทาความเกลียดชังที่อยู่ในใจได้โชคดีที่ลูกสาวและหลานชายของนางอยู่ที่เทือกเขาเชื่อมเมฆาเช่นกัน แค้นนี้ เขาจะค่อยๆ ชำระสะสาง ไม่มีวันให้พวกเขาตายอย่างมีความสุขขนาดนี้แต่ก่อนอื่น ต้องไป

    Last Updated : 2024-07-28
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1042 บุกผาเฟิงเริ่น

    อินชิงเสวียนผลักประตูหินออกไปทันที แล้วก็เห็นลิ่นเซียวยืนอยู่หน้าประตูเขาสวมเสื้อคลุมสีเทาผ้าเนื้อหยาบ ผมสีขาวโดดเด่นภายใต้แสงจันทร์ศิษย์ด้านนอกสองคนล้มลงที่ประตู เช่นเดียวกับฉางเฮิ่นเทียนที่เพิ่งมาถึง“เสี่ยวเฟิ่งเอ๋อร์อยู่ที่ไหน”ลิ่นเซียวก้มหน้าถามฟังจากเสียงของเขา ดูเหมือนจะไม่มั่นคงทางอารมณ์อินชิงเสวียนกลัวว่าหากพูดมากเกินไปจะผิดพลาด ทำให้เขาโกรธ จึงชี้ไปที่ผาเฟิงเริ่นทันทีพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ข้าได้ยินมาว่ามีหญิงสาวรูปงามถูกขังที่นั่น นางยังเล่นพิณได้ ข้าจึงเดาว่านางอาจจะเป็นผู้อาวุโสหลี่”ลิ่นเซียวสะบัดเส้นผมสีขาวที่เหมือนสิงโต กำหมัดแน่นแล้วคำราม “เป็นไปไม่ได้ พวกเขากล้าดีอย่างไรถึงกักขังเสี่ยวเฟิ่งเอ๋อร์”เพื่อป้องกันไม่ให้เขาส่งเสียงจนดึงดูดความสนใจผู้อื่น อินชิงเสวียนจึงรีบพูดเบาๆ “หูได้ยินอาจเป็นเท็จ เมื่อได้เห็นก็จะรู้ว่าเป็นจริง ทำไมเราไม่ขึ้นไปดูล่ะ ถ้าไม่ใช่ ผู้อาวุโสจะได้สบายใจได้”ลิ่นเซียวพยักหน้า“ที่เจ้าพูดก็มีเหตุผล ไป!”เขาเอื้อมมือออกไปคว้าสายรัดเอวของอินชิงเสวียน แล้วใช้วิชาตัวเบาเหาะไปยังผาเฟิงเริ่นทันทีเมื่อก้มมองบ้านเรือนที่อยู่ข้างล่าง

    Last Updated : 2024-07-28
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1043 พลังจากมิติ

    บนแท่นกลมมีเสาเหล็กแปดต้นทอดขึ้นไปบนฟ้า แต่ละเสามีโซ่เหล็กท่อนหนา ยื่นออกไปตรงกลางที่จุดตัดของโซ่เหล็ก มีผู้หญิงคนหนึ่งคุกเข่าอยู่บนพื้นที่ถูกตรวนไว้ลมแรงที่พัดมานานหลายปีได้กัดกร่อนเสื้อผ้าของนางจนหมด แขนที่เปลือยเปล่าของนางถูกโซ่เหล็กดึงรั้งจนต้องเหยียดตรง ผมเผ้าที่ยุ่งเหยิงของนางก็ร่วงหล่นลงมาจนแทบคลุมร่างของนางไว้ไม่อยู่ในเวลานี้ นางก้มหน้าก้มตา ร่างผอมเพรียวถูกแรงลมพัดแรงจนตัวสั่น อย่างไม่รู้ว่านางยังมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้วแววตาของอินชิงเสวียนไหววูบ นางคิดถึงความเป็นไปได้นับร้อยของวิธีทรมานที่เหมยชิงเกอถูกทรมาน แต่นางไม่เคยคิดเลยว่ามันจะเป็นฉากที่โหดร้ายเช่นนี้“เสี่ยวเฟิ่งเอ๋อร์!”ดวงตาของลิ่นเซียวกำลังจะถลนออกจากเบ้า ยกเท้าขึ้นกำลังจะวิ่งไปหาผู้หญิงคนนั้นอินชิงเสวียนคว้าแขนของเขา แล้วพูดอย่างเร่งรีบ “ผู้อาวุโส หญิงผู้นี้ไม่ได้สวมเสื้อผ้าใดๆ บนร่างกาย ถ้าไม่ใช่เพราะผู้อาวุโสหลี่ แล้วผู้อาวุโสผลีผลามเข้าไปอย่างกะทันหันจะไม่ดี ให้ผู้เยาว์ไปใส่เสื้อผ้าให้ผู้หญิงคนนี้ก่อนดีกว่า!”จากนั้นลิ่นเซียวก็เห็นว่าหัวเข่าของผู้หญิงคนนั้นถูกลมพัดเปิดออก ดูเหมือนนางไม่มีเสื้อผ้าเลย

    Last Updated : 2024-07-28
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1044 คนประหลาด

    จู่ๆ ความบ้าคลั่งของลิ่นเซียวก็ปรากฏขึ้นอีกครั้งเขาตะคอกอย่างเย็นชา “เจ้ากับข้าไม่ได้ทำความผิดปล้นฆ่าสังหาร จะไปกลัวอะไร”อินชิงเสวียนพูดไม่ออก นี่เป็นเขตต้องห้าม ในฐานะผู้บุกรุก ลิ่นเซียวกลับมีเหตุผลพูดเต็มปากเต็มคำขนาดนี้ เหมือนจะดูไม่ดีกระมัง“ผู้อาวุโสเป็นอาคันตุกะ หากพวกเขารู้ว่าเราอยู่ที่นี่ จะส่งผลกระทบต่อการเป็นผู้บำเพ็ญตนของผู้อาวุโสอย่างแน่นอน ฉะนั้นพวกเราต้องรีบออกไปเจ้าค่ะ”อินชิงเสวียนชี้ไปทางด้านหลังของภูเขาราวกับกำลังเกลี้ยกล่อมเด็ก“ผู้อาวุโสมีวิชาตัวเบาสุดยอด เราสามารถไปที่นั่นได้ ที่นั่นมีคนอยู่เบาบาง บางทีอาจพบการสิ่งที่ไม่คาดคิดบางอย่างก็เป็นได้”ลิ่นเซียวยังคงยืนนิ่งราวกับกำลังครุ่นคิดอินชิงเสวียนกระวนกระวายใจแทบบ้า รีบแลกหมวกคลุมหน้ามาจากมิติ แล้วสวมให้กับลิ่นเซียวอย่างไม่ถืออาวุโส ผมสีขาวของเขาสะดุดตาเกินไป จากนั้นนางก็สวมหมวกคลุมตัวเอง ลมที่พัดมาทำให้นางเจ็บหน้ามาก“เจ้ากำลังทำอะไร”ลิ่นเซียวค่อนข้างไม่มีพอใจอินชิงเสวียนพูดด้วยท่าทางที่ประจบประแจง “ที่นี่หนาวมากไปจริงๆ ข้าเกรงว่าความเย็นจะทำให้ใบหน้าหล่อเหลาของผู้อาวุโสแข็ง เมื่อเจอกัน เกรงว่าผู้อาว

    Last Updated : 2024-07-29
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1045 ในโลกนี้มีเซียนมาจากไหน

    คนประหลาดตอบอย่างรวดเร็ว “ข้าถามเจ้าก่อนนะ”“สารเลว กล้าพูดเลียนแบบข้ารึ”ลิ่นเซียวยกมือขึ้นซัดฝ่ามือออกไปตัวประหลาดก็สบถเลียนแบบเช่นกัน“สารเลว กล้าพูดเลียนแบบข้ารึ”เมื่อเห็นการแสดงของทั้งสองคน อินชิงเสวียนก็เริ่มปวดเศียรเวียนเกล้า ดูเหมือนว่าพวกเขาทั้งสองไม่ได้อยู่ในสภาวะจิตใจปกติ“ผู้อาวุโส เราต้องรีบกลับไปก่อน รั้งอยู่นานไม่ได้”คนประหลาดก็ยังพูดตามอีกว่า “ผู้อาวุโส เราต้องรีบกลับไปก่อน รั้งอยู่นานไม่ได้”อินชิงเสวียนกล่าวเสริม “คนผู้นี้มีปัญหาทางสมอง ไม่จำเป็นต้องต่อล้อต่อเถียงกับเขา”“พวกเจ้ามีปัญหาทางสมอง ข้าไม่ต่อล้อต่อเถียงกับพวกเจ้าหรอก”คราวนี้คำพูดของคนประหลาดเปลี่ยนไป เขาซัดฝ่ามือหลายลูกติดต่อกัน วิชาฝ่ามือนั้นรุนแรงมาก จนแม้แต่ลิ่นเซียวก็ถูกบังคับให้ถอยกลับไปหนึ่งก้าว เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง คนผู้นั้นก็ฝังตัวเข้าไปในพงหญ้าลึกแล้วอินชิงเสวียนรีบฉวยโอกาสใช้ทักษะช่วงชิงโชคลาภกับตัวประหลาด ยังไม่ทันที่นางจะรับรู้อย่างรอบคอบถึงสิ่งที่นางได้รับ ลิ่นเซียวก็เอ่ยขึ้นด้วยอารมณ์ที่ยังคั่งค้าง “คิดไม่ถึงว่าในตำหนักเทพจะมียอดฝีมือเช่นนี้ น่าสนใจ”เขาก้าวขาหมายจะไล่ต

    Last Updated : 2024-07-29

Latest chapter

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1540 สองพระองค์ครองราชย์ จบบริบูรณ์

    ปีที่สามของการครองราชย์ในราชวงศ์ต้าโจวฮองเฮาให้กำเนิดพระธิดา ได้รับพระราชทานนามว่าองค์หญิงเจ๋อเทียน นามว่าเจิน มีชื่อเล่นว่าฝูเอ๋อร์ในเดือนเก้าของปีเดียวกัน เย่จิ่งอวี้และอินชิงเสวียนปกครองร่วมกัน แบ่งกันปกครองบ้านเมืองและการดำรงชีวิตของผู้คน ราษฎรเคารพทั้งสองในฐานะพระองค์ฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา ประวัติศาสตร์ได้บันทึกช่วงเวลานี้ไว้ด้วยถ้อยคำที่งดงามที่สุด และเรียกช่วงเวลานี้อย่างเคารพว่า ยุคที่สององค์ปกครอง!ห้าปีต่อมา เครื่องกำเนิดพลังงานลมเครื่องแรกปรากฏขึ้นด้วยฝีมือความสามารถของชาวต้าโจว ซึ่งก้าวล้ำหน้าสมัยโบราณที่ล้าหลังไปอย่างมากด้วยก้าวที่ยิ่งใหญ่นักเรียนจากทั่วแคว้นได้แสดงความสามารถ พัฒนาสิ่งที่ล้ำหน้าต่างๆ ผ่านความรู้ทางคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และเคมีใหม่ล่าสุด บุปผานับร้อยบานสะพรั่งพร้อมกัน ก่อให้เกิดยุครุ่งเรืองของราชวงศ์ต้าโจวตอนนี้อาหารไม่ขาดแคลน ราษฎรไม่ต้องทนทุกข์กับความหิวโหยอีกต่อไป ยิ่งไม่มีการอพยพย้ายถิ่นฐาน โครงการคลองส่งน้ำก็สำเร็จลุล่วง ด้วยการคมนาคมสะดวกระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ ก็สามารถแลกเปลี่ยนสิ่งที่ต้องการได้ในที่สุด อ่างเก็บน้ำที่สร้างขึ้นยังสามารถเปลี่ยนเส้นท

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1539 เสวียนเอ๋อร์ขอบคุณเจ้านะ

    ตำหนักจินอู๋อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามาราวกับกระแสน้ำ แต่ไม่กล้าโคจรกำลังภายในต้านทานไว้ เพราะกลัวว่าจะทำร้ายลูกของนางเมื่อเห็นนางกัดริมฝีปากล่างแน่น มีเหงื่อไหลอาบหน้า หัวใจของเย่จิ่งอวี้ก็รู้สึกเหมือนถูกมีดคมๆ นับพันทิ่มแทง รู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่ง“ต้องทำอย่างไรถึงจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาได้ ต้องปล่อยให้นางเจ็บปวดทนทุกข์เช่นนี้หรือ”หมอตำแยกล่าวอย่างกล้าหาญว่า “สตรีคลอดบุตรก็เป็นเช่นนี้เพคะ อดทนไว้ แล้วจะดีเอง”เย่จิ่งอวี้พูดด้วยความโกรธ “ฮองเฮาของข้าจะเทียบได้กับสตรีทั่วไปได้อย่างไร รีบหาทางบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาเดี๋ยวนี้”“ข้าไม่เป็นไร อาอวี้ออกไปก่อนเถอะ!”เสียงของอินชิงเสวียนนั้นอ่อนแรง แม้จะเป็นสามีภรรยากัน แต่ถูกเห็นเข้าในสถานการณ์เช่นนี้ก็น่าอายอยู่เหมือนกันเย่จิ่งอวี้เดินก้าวเดียวก็ไปถึงเตียง จับมือของนางแน่นๆ แล้วพูดอย่างกระวนกระวายใจ “ข้าไม่วางใจ มีวิธีถ่ายทอดความเจ็บปวดให้ข้าได้ไหม เจ้าอยู่กับลั่วสุ่ยชิงมานานแล้ว ไม่ได้เรียนวิชาอาคมอะไรจากนางบ้างหรือ”อินชิงเสวียนเจ็บปวดเจียนตายอยู่แล้ว เมื่อได้ยินคำนี้ก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1538 ไท่เฟยไท่ผินออกจากวัง

    อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดและกล่าวว่า “ฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ วันนี้เป็นวันแต่งงานของไห่ถัง ในฐานะพี่ชาย ควรเป็นประธานงานแต่งของนางด้วยตนเอง หากไม่มีคนในราชวงศ์ไป ไห่ถังจะผิดหวังได้”แม้น้องสาวจะเป็นญาติ แต่ก็ไม่ชิดเชื้อเท่ากับภรรยา ลูกคนแรกเกิดในตำหนักเย็น ซึ่งทำให้เย่จิ่งอวี้รู้สึกผิดไปครึ่งชีวิตแล้ว ยากนี้เด็กคนนี้คือสมบัติล้ำค่าที่แท้จริงระหว่างพวกเขา ในฐานะพ่อของลูก เขาจะจากไปได้อย่างไรเมื่อเห็นว่าใบหน้าของนางซีด มีเม็ดเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดพรายขึ้นเต็มขมับของนาง เย่จิ่งอวี้ก็รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อปลอบนาง “ไม่เป็นไร มีแม่ทัพอินและจอมพลกวนอยู่ด้วย ไห่ถังก็ไม่นับว่าเสียเกียรติอะไรนัก”อินชิงเสวียนคว้าแขนของเขา“จะได้อย่างไร หากไม่มีใครจากในวังไป มันจะกลายเป็นปมในใจของไห่ถังอย่างแน่นอน นี่คือวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของนาง”ไม่ว่าอย่างไรเย่จิ่งอวี้ก็ไม่ยอมไป แต่ก็ไม่สามารถปล่อยให้น้องสาวเสียหน้าได้ เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย มีความคิดอยู่ในใจ“เจวี๋ยอิ่ง ไปเชิญไท่เฟยไท่ผินทุกท่าน ให้พวกนางออกจากวัง ร่วมงานเสกสมรสขององค์หญิงเดี๋ยวนี้”ทุกคนตกตะลึง ไม่มีใครคาดคิดว่าเย่จิ่งอวี้จ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1537 ฮองเฮาทรงมีพระประสูติการ

    เย่ไห่ถังยังคงมีความสุข แต่จู่ๆ เสียงของหลี่เต๋อฝูก็ทำให้นางรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยเมื่อเปิดประตู เห็นเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้ยืนอยู่ที่กลางเรือน น้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตา“ไห่ถังคารวะเสด็จพี่ เสด็จพี่สะใภ้เพคะ!”เย่ไห่ถังกำลังจะคุกเข่าลง แต่เย่จิ่งอวี้ก็ปราดเข้าประคองนางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ในฐานะสตรีที่ออกเรือนแล้ว ทุกสิ่งต้องคำนึงถึงสถานการณ์โดยรวม จะทำตัวเหลวไหลซุกซนเหมือนอยู่ในวังไม่ได้ หากใช้ชีวิตนอกวังจนเบื่อแล้ว ก็สามารถกลับมาได้ตลอดเวลา วังหลวงจะเป็นบ้านของเจ้าตลอดไป”อินชิงเสวียนก็ก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า “ถ้าพี่รองของข้ารังแกเจ้า เจ้าก็บอกข้าได้เลย ข้าจะทวงความยุติธรรมให้กับเจ้าแน่นอน”ถ้าคนที่เย่ไห่ถังแต่งงานด้วยไม่ใช่อินปู้อวี่ เย่จิ่งอวี้คงพูดคำนี้ไปนานแล้วเย่ไห่ถังสูดจมูก“ขอบพระทัยเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้เพคะ ตอนแรกข้าค่อนข้างมีความสุข แต่ตอนนี้ไม่อยากจากไปเลย”เมื่อเห็นว่าจมูกของเย่ไห่ถังแดง กำลังจะร้องไห้อีก เย่จิ่งอวี้จึงตีหน้าขรึมพูดทันที “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นข้าจะให้คนไปแจ้งอินปู้อวี่ ว่าการแต่งงานครั้งนี้ไม่มีแล้ว หลี่เต๋อฝู!”หลี่เต๋อฝูก็เป็นคนเจ้าเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1536 องค์หญิงกำลังจะเสกสมรส

    ในวันที่หนึ่งเดือนสี่ ลำดับการสอบการต่อสู้ชี้ให้เห็นว่า เฉินเซียงเยว่ที่อินชิงเสวียนสนใจ สอบได้ลำดับหนึ่ง คนผู้นี้หน้าตาดูดุร้ายและน่าเกลียด แต่กลับมีจิตใจอ่อนโยนดังเช่นสตรี ไม่เพียงแต่วรยุทธ์ดีเลิศเท่านั้น แต่ยังเก่งในเรื่องการจัดขบวนทัพด้วย เป็นยอดแม่ทัพที่หาได้ยากนางได้ลำดับหนึ่งก็คือจอหงวนด้านวิชาการต่อสู้ ไม่มีใครไม่ยอมรับเลย แค่ยืนอยู่เฉยๆ ก็ดูฮึกเหิมมีพลังมากกว่าผู้ชายทุกคนในตอนนั้นเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่งแซ่หลิวมีชื่อว่าเยว่ ก็ได้รับเลือกให้ติดอยู่ในสามอันดับแรก รั้งอยู่ในเมืองหลวงฝ่าบาทขานรายชื่อสตรีมามากขนาดนี้ เหล่าขุนนางข้าราชบริพารก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึงเรื่องนี้ ต่างรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องตามระเบียบประเพณี แต่ก็กล้าที่จะวิพากษ์วิจารณ์เป็นการส่วนตัวเท่านั้น ต้าโจวในวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว ที่ฝ่าบาทยินดีฟังพวกเขา ก็ถือเป็นการให้เกียรติพวกเขาแล้ว หากฝ่าบาทไม่อยากฟัง ถึงพูดมากไปก็ไร้ผลแต่ไม่มีใครกล้าพูดว่าเย่จิ่งอวี้เป็นทรราช ฝ่าบาททรงงานปกครองบ้านเมืองอย่างหนัก แม้ว่าพระองค์จะทรงปฏิรูปครั้งใหญ่ แต่ก็ทำเพื่อประชาชนในราชวงศ์ต้าโจวเท่านั้น ขณะนี้แผ่นดินสงบสุข มีธัญพืชอุดมสมบูรณ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1535 เหลวไหลจริงๆ

    เสียงเรียกว่าท่านพี่นั้นทำให้เย่จิ่งอวี้ใจอ่อนลงมากโข ความโกรธทั้งหมดพลันหายไปอย่างไร้ร่องรอยในทันทีไม่เช่นนั้นจะทำอะไรได้อีก ภรรยาที่เลือกมาเอง มีแต่ต้องตามใจเองเท่านั้น“เจ้าคนโกหกตัวน้อย กลับไปสามีจะคิดบัญชีเจ้าหนักๆ ถอนกำลังภายในของเจ้าออก สามีจะทำแทนเจ้าเอง ประเดี๋ยวจะทำร้ายลูกในท้องเอา”เสียงของเย่จิ่งอวี้เชื่อมโยงเป็นเส้น ไหลผ่านกระทบโสตประสาทของอินชิงเสวียนคำต่อคำอย่างแจ่มชัดนางยกมุมปากขึ้น เผยเป็นรอยยิ้มภาคภูมิใจเมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเย่จิ่งอวี้ นางจึงเปิดโสตประสาท เหตุผลที่ขอให้เย่จิ่งอวี้ช่วย ก็เพราะว่ากำลังภายในในร่างกายของนางซับซ้อนเกินไป ยากต่อการควบคุม ในงานที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ จะให้เกิดข้อผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาดเย่จิ่งอวี้ไม่เหมือนกัน เขาบำเพ็ญตบะกำลังภายในของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังประสานพลังแห่งฟ้าดิน แม้ว่าอินชิงเสวียนจะมีพลังลมปราณของหลายสำนัก แต่ก็ไม่สามารถเทียบกับกำลังภายในอันบริสุทธิ์และทรงพลังของฮ่องเต้ได้ในชั่วพริบตา กำลังภายในดุจธารานิ่งลึกหลั่งไหลเข้ามาจากด้านนอกประตู เหมือนโลกลึกล้ำ โอบกอดและยืดหยุ่น บรรยากาศที่มืดมนในห้องโถงคล้ายจะถูก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1534 ท่านพี่ช่วยข้าได้ไหม

    “ฟางรั่วเข้าวัง?”เย่จิ่งอวี้หยุดฝีเท้าหลี่เต๋อฝูโค้งคำนับและพูดว่า “กระหม่อมถามองครักษ์ที่เฝ้าหน้าประตูวังแล้ว แม่นางฟางรั่วเข้ามาเมื่อสามชั่วยามที่แล้ว”เจวี๋ยอิ่งคุกเข่าลงและพูดว่า “กระหม่อมเห็นฟางรั่วเข้าไปในตำหนักจินอู๋ แต่ไม่เห็นนางและฮองเฮาออกมา”เย่จิ่งอวี้หรี่ตาลงเล็กน้อย สายตาคล้ายจะสดใสและมืดมน กำลังตกอยู่ในอาการครุ่นคิดด้วยวรยุทธ์ของฟางรั่ว ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะทำอันตรายต่ออินชิงเสวียน นางยังมีใบมีดแห่งมิติอยู่ในมือ แม้ว่าเหล่าเทพเซียนจะลงมาเอง แต่นางก็ยังสามารถต่อสู้ได้จากมุมมองนี้ ควรไม่ใช่การหายตัวไปง่ายๆ นางเรียกฟางรั่วมา ต้องมีเหตุผลอื่นเป็นแน่เจวี๋ยอิ่งโค้งคำนับและถามว่า “ต้องการให้กระหม่อมปิดล้อมพระนคร สืบหาที่อยู่ของฮองเฮาอย่างถี่ถ้วนหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”เย่จิ่งอวี้เหลือบมองเจวี๋ยอิ่ง“ไม่ต้อง หลี่เต๋อฝู ไปเชิญกวนเซี่ยวเข้ามาด้วย”ครู่ต่อมา กวนเซี่ยวก็วิ่งเหยาะๆ มาถึงประตูตำหนัก ยกเสื้อคลุมขึ้นและคุกเข่าลงกับพื้น“กวนเซี่ยวถวายบังคมฝ่าบาท ฝ่าบาททรง...”เย่จิ่งอวี้ได้ยินเช่นนั้นก็รำคาญ โบกมือห้าม“ตามสบาย เจ้ารู้ไหมว่าทำไมฟางรั่วถึงมาที่วัง”กวนเซี่ยว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1533 เจ้าน่ะ ยังมีนิสัยดื้อรั้นเหมือนเดิม

    “ในเมื่อเจ้าเตรียมตัวพร้อมแล้ว เช่นนั้นก็ตามข้าไปที่อื่น”อินชิงเสวียนดีดปลายเท้าขึ้น ร่างนั้นก็กระโดดออกจากตำหนักจินอู๋ ท่วงท่ากิริยาเบาบางและสง่างาม ราวกับเทพธิดาในวังพระจันทร์ที่ทิ้งร่องรอยความงดงามไว้บนโลกมนุษย์ฟางรั่วติดตามอย่างใกล้ชิด พลางชื่นชมในใจอินชิงเสวียนเป็นคนพิเศษจริงๆ!ราวสิบห้านาที ร่างที่สง่างามทั้งสองก็ปรากฏตัวขึ้นในตำหนักฉือหนิงหลังจากไทเฮาสิ้นพระชนม์ สถานที่แห่งนี้ก็ว่างเปล่า ขณะนี้มีไท่เฟยและไท่ผินเพียงไม่กี่คนที่เหลืออยู่ในวัง ที่พักอาศัยมีมากมาย เหตุผลที่อินชิงเสวียนเลือกสถานที่นี้ ก็เพราะเย่จิ่งอวี้จะไม่มาจากนั้นก็นึกในใจ ครั้นแล้วถังไม้ขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า และในพริบตาเดียว มันก็เต็มไปด้วยน้ำพุวิญญาณที่ใสสะอาด“เข้าไปสิ สิ่งนี้สามารถรับรองความปลอดภัยของเจ้าได้ในระดับสูงสุด”“เพคะ”ฟางรั่วก้าวเข้าไปในถังโดยไม่ลังเลใดๆ แม้เป็นฤดูหนาว น้ำในถังนี้กลับไม่เย็น แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นที่ปกคลุมผิวหนังและเส้นลมปราณทั้งหมดของนางอินชิงเสวียนตามเข้ามา จากนั้นนั่งตรงข้ามนางแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น น้ำพุวิญญาณก็สามารถรับรองความปลอดภัยในชีวิตขอ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1532 คืนชีวิตให้ท่านแล้วจะเป็นไร

    “เจ้าลุกขึ้น ข้าหมายถึงอาจจะทำได้ แต่จะมีโอกาสฟื้นตัวได้มากเพียงใด ข้าก็ไม่แน่ใจ เรื่องนี้ เจ้าควรปรึกษากับกวนเซี่ยวก่อนดีกว่า ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเจ้าเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับเขาด้วย”อินชิงเสวียนพยุงฟางรั่วด้วยมือทั้งสองข้าง และอธิบายข้อดีข้อเสียฟางรั่วพยักหน้า“ข้าเข้าใจ เพียงแต่ สุขภาพของฮองเฮา”อินชิงเสวียนท้องโตขนาดนี้ หากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา นางไม่สามารถรับผิดชอบไหวอินชิงเสวียนยิ้มละไม“ร่างกายของข้าแข็งแรงมาก ไม่เป็นไร เจ้าคิดดีแล้วก็มาหาข้าที่วังหลวงได้เลย”“เพคะ”ขณะที่กำลังคุยกัน ทั้งสองคนก็เดินไปที่แท่นประลองข้างๆ แล้วเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งอายุสิบห้าหรือสิบหกปี ถือดาบคู่อยู่ในมือ กระโดดขึ้นลงด้วยท่าทางที่เบาและกล้าหาญ บีบชายที่อยู่ตรงข้ามหลังให้ล่าถอยทีละก้าว จนตกแท่นประลอง ล้มลงต่อหน้าผู้ชม อินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะชื่นชมมัน“ทำได้ดีมาก!”ใบหน้าของฟางรั่วแสดงถึงความภาคภูมิใจ“เด็กหญิงคนนี้ชื่อหลิวซู่เยว่ เมื่อก่อนเป็นลูกสาวของหัวหน้าคณะละคร นางมีทักษะการต่อสู้อยู่บ้าง หลังจากที่บิดาเสียชีวิต นางไม่สามารถดูแลคณะละครได้ จึงมาที่เมืองหลวง เข้ามาเรี

DMCA.com Protection Status