แชร์

บทที่ 947

ผู้เขียน: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-08-29 18:00:01
เกือบจะถึงยามจือแล้วแต่ตึกว่างจิงยังเปิดไฟสว่างอยู่ มีโคมไฟแตรแกะสองตัวที่มีคำว่า "ปิดร้าน" แขวนอยู่ที่ประตู

ห้องส่วนตัวบนชั้นสามเดิมเป็นสถานที่สำหรับดื่มชา แต่ตอนนี้มีสุราหนึ่งขวดและอาหารหลายอย่าง

เซี่ยหลูโม่ไม่ได้นำองครักษ์มาด้วย ส่วนซูลันซือก็นำคนใช้ไปเพียงคนเดียวซึ่งยืนอยู่ที่หน้าประตู

สุราดื่มไปครึ่งทางแล้ว แม้ว่าทั้งสองจะพูดคุยเกี่ยวกับการเจรจาในวันพรุ่งนี้ แต่ก็ไม่มีใครเปิดเผยประเด็นหลักออกไป

จุดประสงค์ของซูลันซือก็คือยืดเยื้อให้เขาอยู่ต่อให้นานๆ ที่นี่และจะไม่เปิดเผยสิ่งใดออกไปเลย ยามนี้เขาคาดว่าแผนการคงสิ้นสุดลงแล้วและบุคคลนั้นก็ถูกจับตัวไปแล้ว

ทว่าเซี่ยหลูโม่ไม่รู้อะไรทั้งนั้นเลย เมื่อนึกถึงเช่นนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกได้ใจ พวกเขายังคิดว่าเป่ยหมิงอ๋องคงจัดการได้ยากมากทีเดียว ใครจะรู้ว่าแค่คำพุดไม่กี่คำเองก็ถูกหลอกมาได้

ทว่าแต่ก็ไม่สามารถสรุปได้ว่าเขาไม่ตื่นตัวเอาไว้ ถึงยังไงการเจรจาในวันพรุ่งนี้ ทางแคว้นซางต้องให้ความสำคัญอย่างมาก พวกเขารู้ว่าตนเองเป็นฝ่ายผิด เลยกะว่าจะมาสอดรู้ข้อเสนอของอีกฝ่าย

นี่แสดงว่าพวกเขาวิตกกังวลจริงๆ

อีกอย่างสิ่งที่ทำให้เขาน่าขำก็คือ เป่ยห
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (5)
goodnovel comment avatar
Supattra
ลงซ้ำค่ะ โดนตัดเหรียญไป2รอบ
goodnovel comment avatar
INDY. Maew
เสียดายเหรียญ ตอนซ้ำ แล้วจะยังไง แอดมินอยู่ไหน
goodnovel comment avatar
จำเนียร โอ่เจริญ
แอดมินช่วยแก้ไขด่วนคะ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 948

    หลังจากกลับมามีสติได้ ซูลันจีก็วิ่งลงไปชั้นล่างอย่างบ้าคลั่งเมื่อเห็นคนในเครื่องแบบองครักษ์หลายคนยืนอยู่ใกล้โต๊ะทำงานในห้องโถงใหญ่ชั้นที่หนึ่ง กำลังพูดคุยกับคนที่มารายงานหัวใจของเขาเต้นรัว เมื่อเขามา มีเพียงเถ้าแก่และเด็กหนุ่นคนหนึ่งที่นี่และไม่เห็นองครักษ์เลย องครักษ์พวกนี้มาเมื่อใดคนที่มารายงานนั้นคือหวังเจิง เขามากับคนอีกสามคน เมื่อเห็นซูลันซือ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ "ใต้เท้าซู ทางซีจิง ของเจ้าหมายความอย่างไร กลับจะทำร้ายใต้เท้าซ่งของเรา"ซูลันซือเหลือบมองรอบๆ และไม่พบซ่งซีซี เมื่อตระหนักว่ามันอาจเป็นกลอุบาย เขาก็ทำหน้าแดงก่ำออกมาและพูดว่า "ไม่มีทาง เจ้าอย่าพูดไปเรื่อย"เจิ้งหยงโซวไม่มีทางจะล้มเหลว แผนนั้นคือใช้คนสิบกว่าคนไปจัดการคนแค่สามสี่คนนั้นแล้วจะพลาดได้อย่างไร ยิ่งไปกว่านั้น ศิลปะการต่อสู้ของเจิ้งหยงโซวแข็งแกร่งเช่นนั้น ต่อให้อีกฝ่ายได้ตั้งตัวไว้ก็แค่จับตัวไม่สำเร็จ แต่ไม่มีทางโดนจับดังนั้นมันย่อมเป็นกลอุบาย เมื่อซ่งซีซีถูกจับตัวไป พวกเขาเดาว่าเป็นฝีมือของซีจิง จงใจให้เขาติดกับดักเพื่อให้เขาเปิดเผยความจริงออกมาเขาหันไปมองเซี่ยหลูโม่ด้วยความโกรธและถามอย่างเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-30
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 949

    มีไฟสองดวงห้อยอยู่ด้านนอกร้านขายยาเย่าหวัง เมื่อพวกของเซี่ยหลูโม่ขี่ม้ามาถึงนั้น ซ่งซีซีก็เดินออกมาโดยได้รับการพยุงจากเสิ่นว่านจือตอนที่นางเดินออกออกนั้น ร่างกายของซูลันซือก็แข็งทื่อ และหัวใจก็เต้นผิดจังหวะ มันล้มเหลวแล้วเหรอทันใดนั้นดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้นอย่างนองเลือด ต้องเป็นอ๋องฮวย จะต้องเป็นอ๋องฮวยแน่ๆ เขาไม่ต้องการสร้างพันธมิตรกับซีจิงเพื่อก่อกบฏ เขาถูกฮ่องเต้แคว้นซางส่งไปโดยตั้งใจผมของซ่งซีซียุ่งเหยิงเล็กน้อย บาดแผลที่แขนก็ถูกพันแผลเรียบร้อย และได้เปลี่ยนชุดชั้นนอกไปด้วย เห็นได้ชัดว่ามีคนกลับจวนนำชุดใหม่ให้นางเซี่ยหลูโม่กระโดดลงจากม้าทันทีและรีบเดินเข้าไปหาภายใต้แสงสลัว พูดน้ำเสียงด้วยความกังวล "เป็นอะไรหรือไม่?"น้ำเสียงของซ่งซีซีเต็มไปด้วยความไม่พอใจและความคับข้องใจ "ถ้าข้าหนีไม่ทัน แขนของข้าก็คงถูกเขาตัดออกแล้ว ข้ามิรู้ว่าข้าไปทำอะไรให้ใต้เท้าเจิ้งต้องแค้นใจและเกลียดข้าขนาดนี้ กลับนำผู้คนมาลอบสังหารข้า"นางพูดแบบนี้ แต่ในเวลาเดียวกันก็จับมือของเซี่ยหลูโม่ แล้วตบหลังมือเขาเบาๆ เพื่อบ่งบอกว่านางสบายดีเสียงเอาความนี้กระทบหูของซูลันซือ เขายังคงมีท่าทีไม่อยาก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-30
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 950

    เซี่ยหลูโม่รู้ว่าเขาหุนหันพลันแล่นและประมาท แผนการนี้โดนทำลายอย่างง่ายดายแถมยังได้จับตัวเจิ้งหยงโซวในที่เกิดเหตุ เขาจะสงสัยเป็นอ๋องฮวยหลังจากครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้สักครู่ จากนั้นก็จะสงสัยว่าพวกเขากำลังสมรู้ร่วมคิดกัน แต่เมื่อเห็นเขาเปิดปากกำลังจะพูดนั้นก็หยุดพูดทันที ซึ่งแสดงให้เห็นว่าถึงแม้เขาจะหุนหันพลันแล่น แต่เขาก็ไม่โง่"เฉินยี สอบสวนต่อไป" เซี่ยหลูโม่ไม่ได้ผิดหวัง หลังจากออกคำสั่งกับเฉินยีแล้วก็บอกกับหวังเจิงว่า "ส่งใต้เท้าซูกลับไปหอฮุยตงและรายงานเรื่องนี้ให้องค์หญิงใหญ่ทราบด้วย""ขอรับ!" หวังเจิงรับคำสั่งและพูดกับซูลันซือว่า "ใต้เท้าซู เชิญ"ซูลันซือเหลือบมองเจิ้งหยงโซวแวบหนึ่ง และเอื้อมมือไปจับกระเป๋าแขนเสื้อซึ่งเป็นที่ที่เก็บพระราชโองการจากฝ่าบาทอยู่ เพื่อส่งสัญญาณให้เจิ้งหยงโซวอย่าพูดอะไรเรื่อยเปื่อยเมื่อเห็นการกระทำในมือของเขา หัวใจของเจิ้งหยงโซวเย็นวาบทันที เพราะเขารู้ว่าตนเองกลายเป็นหมากไร้ค่าแล้วเขาถูกจับตัวได้ในที่เกิดเหตุมันแก้ตัวไม่ได้อีกเลย แต่ต้องไม่ส่งผลทำให้ซีจิงประสบความล้มเหลวของการเจรจาครั้งนี้เด็ดขาด เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องแบกรับความผิดของเรื่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-30
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 951

    ซูลันซือโต้เถียงกลับด้วยจิตใต้สำนึก "เป็นไปไม่ได้ ไม่ว่าทักษะศิลปะการต่อสู้ของซ่งซีซีจะยอดเยี่ยมแค่ไหน นางสามารถเทียบนักรบอันดับหนึ่งแห่งเมืองซีจิงได้หรือ"องค์หญิงใหญ่พูดอย่างเย็นชา "ความจริงก็คือนางเก่งกว่า อีกอย่างเขาถูกจับตัวได้อย่างง่ายดาย นักรบอันดับหนึ่งแห่งเมืองซีจิงกลับหมกมุ่นกับอำนาจ การแสวงหาอำนาจของเขาเป็นตัวกำหนดขีดจำกัดสูงสุดของทักษะการต่อสู้ของเขา ในเมื่อพวกเข้าทำความเข้าใจกับซ่งซีซีมาแล้ว ย่อมรู้ว่านางฝึกศิลปะการต่อสู้ในสถาบันว่านซงเหมินตั้งแต่เด็ก พวกเจ้ารู้ไหมว่าสถาบันว่านซงเหมินคือสถานที่อะไรกัน""มันก็แค่นิกายในแวดวงการต่อสู้นิกายหนึ่งไม่ใช่เหรอ มีอะไรพิเศษช?" ซูลันซือกล่าว แม้ว่าความจริงอยู่ต่อหน้าต่อตาแล้ว เจิ้งหยงโซวพ่ายแพ้ให้กับแส้แดงของซ่งซีซี แต่เขาก็ไม่เชื่อว่าซ่งซีซีมีวรยุทธ์ที่แข็งแกร่งเช่นนี้ถ้าบอกว่าเป็นเป่ยหมิงอ๋องที่เอาชนะเจิ้งหยงโซว เขาคงไม่มีข้อสงสัยใดๆ"ศิษย์หญิงของนิกายหนึ่งแถมยังอายุน้อยเช่นนี้ มันจะมีวรยุทธ์เก่งขนาดไหนกันเชียว?" เหลียงอันก็พูดแบบเดียวกันอีกด้วย เขาไม่เชื่อว่าผู้หญิงคนหนึ่งจะแข็งแกร่งขนาดนั้นองค์หญิงใหญ่เหลิ่งอวี่มองดูพวกเขา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-31
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 952

    ก่อนการเจรจามีเรื่องเกิดขึ้นมากมายเกินไปมันเป็นคืนอดนอนที่หอฮุยตง และทางหอต้าหลี่ก็ดำเนินคดีในคืนนั้น ที่กรมราชทัณฑ์ หลังจากที่ยี่ฝางสารภาพเสร็จแล้วก็โวยวายจะขอพบจ้านเป่ยว่าง ขอพบหน้าเป็นครั้งสุดท้าย นาง ถึงขนาดก็คุกเข่าลงกับพื้นและร้องไห้ขอร้องนางไม่เคยอ่อนแอขนาดนี้ตั้งแต่เข้ามาในกรมราชทัณฑ์ หลี่ลี่คิดว่าหลังจากการเจรจาเสร็จ ยี่ฝางจะต้องถูกส่งมอบให้กับนักการทูตจากซีจิงอย่างแน่นอน ความตายจะเป็นเรื่องง่าย แต่อาจจะไม่ตายดีนักโทษที่ถูกประณามสามารถเจอญาติของตนเองเป็นครั้งสุดท้ายก่อนตายได้ ดังนั้นหลี่ลี่จึงอนุญาตให้ทั้งสองคนพบกันในคืนนี้ แน่นอนว่าเจอกันที่คุกเท่านั้นเขาส่งคนไปพาจ้านเป่ยว่างไปที่คุก เจ้าหน้าที่เปิดประตูคุกแล้วถอยตัวออกไปข้างนอกแน่นอนว่าก่อนที่จ้านเป่ยว่างเข้าไปนั้นก็ถูกค้นตัวไปหมดแล้ว และไม่อนุญาตให้นำของมีคมเข้าไป เผื่อยี่ฝางจะฆ่าตัวตาย งั้นพวกเขาก็งานเข้าแล้วปัจจุบันี้ยี่ฝางถูกคุมขังเพียงลำพังในเรือนจำหญิง เหตุผลหลักก็คือนางเป็นนักโทษที่สำคัญมาก และไม่อนุญาตให้เกิดข้อผิดพลาดใดๆ ดังนั้นหลี่ลี่จึงส่งกองกำลังแข็งแกร่งมาเฝ้าดูอย่างหนักแน่นแสงส่องลงบนใบหน้าที่ซีดเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-31
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 953

    นางไม่ใช่คนยอมทอดทิ้งชีวิตของตนเองอย่างง่ายดาย ต่อให้ใช้ชีวิตอย่างน่าอนาถแต่ก็ดีกว่าตายไปนางเชื่อมั่นว่าคนๆ หนึ่งจะไม่โชคร้ายไปตลอดชีวิต ตราบใดที่นางยังมีชีวิตอยู่ นางจะมีโอกาสพลิกผันได้ แม้ว่าจะเป็นแม่ทัพหญิงไม่ได้อีก งั้นนางก็สามารถเลือกเส้นทางอื่นได้ โลกมันใหญ่ขนาดนี้ แค่นางเข้มแข็งมากพอ สักวันหนึ่งนางจะประสบความสำเร็จได้เพราะงั้นนางจึงตายไม่ได้จ้านเป่ยว่างคิดว่านางกำลังพูดเพ้อเจ้อ "การมีเส้นทางจะมีประโยชน์อะไร? เจ้ารู้ไหมว่าครั้งนี้มีคนจากซีจิงมากันกี่คน มีทั้งหมดมากกว่าร้อยคนและมีองครักษ์อย่างน้อยหกสิบหรือเจ็ดสิบคน ข้าไม่มีทางช่วยจเจ้าได้""ไม่ได้ลำพังเจ้าผู้เดียวหรอก ทางจวนเป่ยหมิงอ๋องจะช่วยเจ้า" ยี่ฝางพูดด้วยน้ำเสียงเบาๆ และมันเบามากจนมีแต่จ้านเป่ยว่างคนเดียวเท่านั้นที่ได้ยินได้ "หลังจากที่ข้าตกไปอยู่ในกำมือของชาวซีจิง ข้ามีวิธีให้พวกเขาเอาเซียวเฉิงไปด้วย ทางจวนเป่ยหมิงอ๋องจะไม่เพิกเฉยต่อเซียวเฉิง เจ้าเพียงแค่ต้องติดตามพวกเขาและช่วยเหลือข้าในขณะที่พวกเขาช่วยเซียวเฉิงอยู่"จ้านเป่ยว่างรู้สึกตัวหนาวสั่งเมื่อได้ยินคำพูดของนาง "เจ้าว่าอะไรนะ เจ้ามีวิธีให้ชาวซีจิงจับตัวแม่ทัพ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-31
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 954

    อาจารย์หยูลูบท้องน้อยและถูมือไปมาบนใบหน้า เห้อ ยากเหลือเกิน "เกิดอะไรขึ้นกับจวนอ๋องฮวย""มีรถม้าสามคันถูกระดมมาจอดที่ประตูหลัง และพวกมันก็ขนของเข้าไปข้างในรถ เมื่อมองจากระยะไกล ดูเหมือนจะเป็นทองคำและพวกของมีค่า"อาจารย์หยูกล่าวว่า "เขากำลังจะหนี""อาจารย์อู อาจารย์หยู จะส่งคนไปหยุดพวกเขากลางทางหรือไม่?"อาจารย์หยูต้องถามศิษย์อาอย่างนอบน้อม "อาจารย์อูคิดว่าไง""เขาจะหนีไปไหนได้อีกเล่า จะต้องไปที่เยี่ยนโจวแน่ๆ ส่งคนไปติดตามเขา ในระหว่างทางก็ขโมยทองคำและพวกของมีค่าทั้งหมดไปและปล่อยให้เขาไปที่เยี่ยนโจวโดยมือเปล่า หลังจากถึงเยี่ยนโจว... " เขามองไปที่ผิงหวูจูงอย่างเรยบๆ แล้วพูดว่า "ส่งคนของเจ้าจับตาดูเขาอย่างใกล้ชิด และบันทึกและรายงานทุกสิ่งที่เขาทำ"ผิงหวูจูงกัดฟันแล้วตอบว่า "เจ้าค่ะ!"อาจารย์หยูรู้ว่าต้องการส่งคนไปจับตาดูพวกเขาเอาไว้ แต่ที่อาจารย์อูสั่งให้ไปขโมยทองคำและพวกของมีค่าทั้งหมด นี่ก็อุบายร้ายกาจจริงๆ แต่เขาชอบมากอูโซเว่ยชำเลืองมองพวกเขา ในที่สุดก็มีเมตตาขึ้นมา "รักษาท่านี้แล้วเดินออกไปวางถังลง จากนั้นก็ไปสิ่งที่พวกเจ้าต้องทำต่อไป"ราวกับว่าพวกเขาได้รับการนิรโทษกรรม ทั้ง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-01
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 955

    เซี่ยหลูโม่ไม่กล้าพูดต่อจึงรีบเปลี่ยนเรื่อง "มาถึงเมื่อไหร่เล่า? ทำไมไม่ส่งคนมาแจ้งให้ข้าทราบด้วยขอรับ?""พวกเจ้าก็ทำงานของตนเองไป ข้าจะคอยให้คำปรึกษาเจ้าที่นี่ แล้วเรื่องเป็นไงบ้าง ได้จับตัวไว้หรือเปล่า?"เมื่อได้ยินเขาถามแบบนี้ เห็นได้ชัดว่าเขารู้เกี่ยวกับการลอบสังหารในคืนนี้ เขาพูดอย่างภาคภูมิใจว่า "พวกซีซีสามคนนั้นได้จับเจิ้งหยงโซวเอาไว้แล้วส่งเขาไปที่หอต้าหลี่แล้ว เจิ้งหยงโซวคนนั้นเอาแต่ชมว่าตนเองเป็นนักรบอันดับหนึ่งแห่งเมืองซีจิง แต่เมื่อพบกับซีซี ก็ประสบความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่""อืม" อูโซเว่ยตอบรับเบาๆ จากนั้นมองไปที่ซ่งซีซี "นางไม่มีข้อดีอะไรทั้งนั้นเลย ยกเว้นมีวรยุทธ์ที่ค่อนข้างไม่เลว แล้วเจิ้งหยงโซวก็มิใช่นักรบอันดับหนึ่งแห่งซีจิงเลย นักรบแข็งแกร่งที่ซีจิงส่วนมากจะไม่เข้าราชการหรอก การเอาชนะเขาก็ไม่เห็นจะเก่งอะไรกัน ไม่ควรทะนงตน""เจ้าค่ะ" ซ่งซีซีตอบรับอย่างว่าง่ายซ่งซีซีผ่านอะไรมามากมาย และทุกคนที่มองนางมีความรู้สึกต่างๆ นานา บางคนรู้สึกเห็นใจกับนาง บางคนชื่นชมนาง และบางคนก็อิจฉานางแต่มีเพียงอูโซเว่ยยังคงปฏิบัติต่อนางในแบบเดียวกับที่เขาทำตอนที่นางยังอยู่ในภูเขาเหม่ยชาน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-01

บทล่าสุด

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1388

    นางไม่ได้ไปหา หวังเยว่จาง ในอดีตนางอาจหน้าหนาพอที่จะคิดว่า เขาอย่างไรก็เป็นสายเลือดของจวนป๋อผิงซี เมื่อครอบครัวหรือญาติเกิดปัญหา การช่วยเหลือย่อมเป็นหน้าที่ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ตอนนี้นางจะไม่ทำเช่นนั้นอีก นางเข้าใจความจริงบางประการว่า ในวันที่จวนป๋อผิงซีรุ่งเรือง เขาไม่เคยได้สัมผัสแม้เศษเสี้ยวของเกียรติยศนั้น แต่พอถึงวันที่ล่มจม กลับต้องการให้เขายื่นมือช่วยเหลือ นางทำเช่นนั้นไม่ได้ ส่วนเรื่องว่าจะไปหาพี่สะใภ้ใหญ่เพื่อพูดเรื่องนี้หรือไม่ นางลังเลใจยิ่งนัก เพราะอย่างไรเสีย นางก็ไม่อยากให้พี่ใหญ่ตาย นางนั่งอยู่ใต้ต้นไหว มองเหม่อลอยอยู่นาน พอดีศิษย์พี่ซือโซยกตะกร้าไหมเดินผ่านมา เมื่อเห็นนางก็รีบเลี้ยวหลบไปทางอื่น ท่าทางเหมือนไม่อยากเผชิญหน้ากับนาง หวังชิงหรูนึกถึงเรื่องเข้าใจผิดก่อนหน้านี้ รีบเรียกนางไว้ “ศิษย์พี่ซือโซ ขอโทษเรื่องเมื่อครู่นี้ ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น” ศิษย์พี่ซือโซเหลือบมองนางแวบหนึ่ง “อืม” พูดจบ นางก็เตรียมเดินจากไป หวังชิงหรูคิดถึงนิสัยของหญิงสาวในยุทธภพเหล่านี้ ที่มักซื่อสัตย์ตรงไปตรงมา ไม่คิดอะไรซับซ้อน จึงถามว่า “ศิษย์พี่ซือโซ ข้าขอพูดคุย

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1387

    หวังชิงหรูรู้ว่าศิษย์พี่ซือโซเข้าใจผิด แต่ก็ไม่ได้รีบอธิบาย เพราะในใจยังว้าวุ่น นางปิดประตู ยกยาเข้าไปแล้วกล่าวว่า “ท่านแม่ ดื่มยาก่อนเถอะ เรื่องอื่นค่อยคิดหาวิธีแก้ทีหลัง” ฮูหยินผู้เฒ่าส่ายหน้า มองหน้านางพลางกล่าวว่า “ชิงเอ๋อร์ เจ้าลองถามใจตัวเองดูว่าพี่ชายของเจ้าเคยปฏิบัติกับเจ้าอย่างไร?” หวังชิงหรูขมวดคิ้วเล็กน้อย “ท่านแม่ พวกเราไม่มีความสามารถจะช่วยเขาได้ พวกเรายังอาศัยอยู่ในโรงงาน เงินที่ใช้ซื้อยาของท่านยังเป็นของแม่นางเสิ่นเลย” ฮูหยินผู้เฒ่ากล่าวว่า “เจ้าคิดผิด เงินเหล่านี้ล้วนเป็นของเยว่จาง เขาแม้จะไม่ได้ยอมรับพวกเรา แต่ช่วงนี้เขาก็ไม่ได้หยุดช่วยเหลือเราเลย” หวังชิงหรูกล่าวว่า “แม้ว่าเงินจะเป็นของเขา พวกเราก็ไม่มีสิทธิ์จะขอให้เขาเอาเงินไปช่วยพี่ใหญ่ของเรา” “เงินเหล่านั้น” ฮูหยินผู้เฒ่ากัดฟัน กล่าวความจริงออกมาว่า “ไม่ใช่ของเขา ในตอนนั้นที่เขากลับมา พี่สะใภ้ใหญ่ของเจ้าแนะนำให้ชดเชยเขา จึงโอนที่ดินและร้านค้าให้เขาบางส่วน” “ในเมื่อโอนให้เขาไปแล้ว และเขาก็ช่วยเหลือพวกเราอย่างลับๆ เสมอมา ยังจะให้เขาคืนกลับมาอีกหรือ? ท่านแม่ เรื่องนี้ไม่ยุติธรรมสำหรับเขาเลย” ฮู

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1386

    จีซูเซิ่นไม่ได้บอกเรื่องนี้แก่ฮูหยินผู้เฒ่าและหวังชิงหรู ในวันรุ่งขึ้นขณะที่พวกนางออกไปตรวจที่ร้านขายยาเย่าหวัง นางแปลงตัวเป็นชาวนาและแอบตามไป เพียงแต่ตลอดทางจากไปจนกลับ ไม่มีใครเข้ามาใกล้รถลาของพวกนาง และระหว่างทางรถลานั้นก็ไม่ได้หยุดเลย หลังจากกลับมาถึงโรงงาน หวังชิงหรูก็เริ่มต้มยา ในโรงงานไม่มีใครคอยรับใช้ ทุกคนต้องผลัดกันทำอาหาร ตอนแรกหวังชิงหรูทำอะไรไม่เป็นเลย แม้แต่การก่อไฟยังต้องใช้เวลาฝึกถึงสามวัน อาหารมื้อแรกที่นางทำถึงกับกินไม่ได้เลย คนในโรงงานช่วยเหลือกัน แต่ก็ล้อกันด้วย พวกเขาหัวเราะเยาะว่านางมีร่างกายเหมือนฮูหยิน แต่โชคชะตาไม่ใช่ฮูหยินตอนแรกนางโกรธและรู้สึกน้อยใจ คิดว่าทำไมต้องมาเจอกับความลำบากเช่นนี้ นางถึงขั้นคิดว่าพวกเขาตั้งใจกลั่นแกล้ง จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อเจียอี้มาที่โรงงานเพื่อเยี่ยม นางลงมือทำอาหารเอง มันอาจจะไม่เลิศรส แต่ก็รสชาติกลมกล่อมพอดี นางนิ่งเงียบไป หวังชิงหรูรู้ดีว่าเจียอี้เคยเป็นคนอย่างไร อดีตท่านหญิงที่หยิ่งยโส แต่หลังจากถูกหย่าแล้วได้รับการพากลับมา นางยังสามารถลดตัวเองลงและลงมือทำอาหารให้กลุ่มสตรีที่ถูกทอดทิ้งเหล่านี้ได้ ที่สำค

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1385

    สถานการณ์ของหวังเบียวทำให้ซ่งซีซีแปลกใจไม่น้อย นางคิดว่าเขาจะพาคนสนิทหนีไปซ่อนได้อย่างน้อยสองสามปี ใครจะคาดคิดว่า ระหว่างทางเขาจะถูกปล้นทรัพย์สิน แม้แต่อนุที่รักก็ยังทอดทิ้งเขา ไม่รู้ว่าในเวลานั้น เขาเคยเสียใจต่อความโง่เขลาของตัวเองบ้างหรือไม่ คนวัยกลางคน กลับยังหลงเชื่อในความรักแท้ คิดจะทิ้งภรรยาที่อยู่เคียงข้างและดูแลเขามากว่าสิบปี สุดท้ายกลับถูกคนอื่นทิ้งเสียเอง นับว่าเป็นกรรมที่ตามสนอง แต่กรรมที่เขาได้รับยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ด้วยนิสัยของกู้ชิงหวู่ ตอนที่จากไปนางต้องเคยดูถูกเหยียดหยามเขาอย่างแน่นอน เช่นเดียวกับที่นางเคยดูถูกเหลียงเส้า กู้ชิงหวู่ใช้ความงามของตัวเองเป็นเครื่องมือ แต่ในขณะเดียวกันก็เกลียดชังชายที่หลงใหลในความงามของนางอย่างยุติธรรม ในความเป็นจริง ซ่งซีซีคิดว่าหวังเบียวอาจไม่ได้อยู่ที่อำเภอหยง เพราะด้วยสถานะของเขาในฐานะผู้หลบหนี เขาไม่สามารถปรากฏตัวด้วยหน้าตาที่แท้จริง และไม่กล้าพำนักในที่ใดที่หนึ่งนานเกินไป ได้แต่หนีซุกซ่อน เขายังพาลูกไปด้วยอีก ซ่งซีซีคิดว่า หากเขาจนตรอก เขาอาจจะแอบกลับเมืองหลวงหรือไม่?แม้เขาจะโง่ แต่ก็ไม่ถึงกับโง่สิ้นดี เขารู

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1384

    กู้ชิงหวู่กำหมัดแน่น ดวงตาเปล่งประกายแห่งความโกรธ "ดังนั้นข้าถึงบอกว่า สวรรค์ไม่ยุติธรรม ไยต้องเป็นเช่นนี้?" "เจ้าพูดเอง ด้วยชาติกำเนิดที่ดีของข้า รวมถึงสตรีหน้าเหลืองที่เจ้ากล่าวถึง นางก็เป็นสตรีผู้สูงศักดิ์" ซ่งซีซีตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย แต่เต็มไปด้วยท่าทีเหนือกว่า กู้ชิงหวู่เกลียดชังท่าทางเช่นนี้ที่สุด มันเหมือนกับอดีตองค์หญิงใหญ่ที่อยู่บนหอคอยสูง ในขณะที่ตนต้องก้มต่ำอยู่ในโคลนตม นางโกรธจัด หน้าอกสะท้อนขึ้นลง "ถึงจะเป็นสตรีผู้สูงศักดิ์แล้วอย่างไร? ก็ยังถูกสามีรังเกียจอยู่ดีมิใช่หรือ?" "หวังเบียวหรือ? นางไม่เคยใส่ใจเขาเลย มีแต่เจ้าที่มองเขาเหมือนสมบัติ" ซ่งซีซีตอบอย่างไม่ใส่ใจ "สำหรับข้า เขาก็ไม่ใช่สมบัติอะไร แค่ขยะชิ้นหนึ่ง" กู้ชิงหวู่ตอบด้วยแววตาดุดัน ซ่งซีซีหัวเราะเยาะ "ข้ารู้ว่าไม่ใช่เช่นนั้น เจ้าถึงกับให้กำเนิดบุตรให้เขา ทั้งที่รู้ว่าการหนีจากสนามรบเป็นความผิดร้ายแรง เจ้ากลับไม่สนใจและหนีตามเขาไป ข้าเคยเจอคนปากไม่ตรงกับใจเช่นเจ้ามานักต่อนัก" "ไร้สาระ!" กู้ชิงหวู่ตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยว ใบหน้าแดงก่ำ แต่ไม่นานก็หัวเราะเยาะ "ฮะ คิดจะหลอกข้าหรือ? ใช่ ข้ารักเขาจนถ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1383

    สถานที่อันเป็นมงคลนี้ถูกเลือกโดยสำนักโหรหลวง เป็นสถานที่ที่งดงามด้วยภูเขาและสายน้ำ มีหมู่บ้านอยู่ใกล้ๆ สองแห่ง แม้จะเรียกว่าด้านข้างพระราชสุสาน แต่ความจริงแล้วห่างจากพระราชสุสานถึงสามสิบลี้ หลังจากงานศพ กู้ชิงหยิงมาพบซ่งซีซีและเสิ่นว่านจือเพื่อกล่าวลา บอกว่าจะไปสร้างกระท่อมเล็กๆ อยู่ในหมู่บ้านใกล้เคียงเพื่อเฝ้าสุสานของบิดาบุญธรรม เสิ่นว่านจือถามว่านางต้องการความช่วยเหลือเรื่องเงินหรือไม่ นางตอบว่าไม่จำเป็น เพราะนางจะขายเครื่องประดับที่เคยซื้อไว้ ก็เพียงพอจะกลายเป็นคนมีฐานะเล็กๆ ได้ วันที่นางจากไปพอดีกับวันที่เจ้าสิบเอ็ดฝางคุมตัวอ๋องเยี่ยนและคนอื่นๆ กลับเมืองหลวง นางยืนอยู่ที่ประตูเมือง มองเข้าไปในรถนักโทษที่มีอ๋องเยี่ยนและอ๋องฮวย ความเกลียดชังพลันผุดขึ้นในใจ แต่เมื่อเห็นชาวบ้านต่างด่าทอและโยนใบไม้เน่าใส่พวกเขา นางก็รู้สึกคลายความโกรธ เพราะคิดว่าคนชั่วได้กรรมของตนเองแล้ว สำหรับนาง นับจากนี้ก็เป็นอิสระแล้ว ไม่มีใครหรือสิ่งใดมาผูกมัดนางได้อีก ในการคุมตัวครั้งนี้ ยังมีข้าราชการของหนิงโจวและชิวเหมิงถูกนำตัวกลับมาด้วย สิ่งที่ทำให้ซ่งซีซีประหลาดใจคือ นางยังเห็นกู้ชิงหวู่ด

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1382

    ใช้เวลาห้าวันกว่าจะกวาดล้างเศษซากกบฏได้หมดสิ้น เจ้าสิบเอ็ดฝางและมู่ฉงกุยส่งข่าวชัยชนะมาว่าได้จับชิวเหมิงกบฏตัวสำคัญเป็นเชลย พร้อมนำตัวอ๋องเยี่ยน อ๋องหวย และอู๋เซียงผู้ทรยศกลับมายังเมืองหลวง ซึ่งอีกไม่นานจะมาถึง ยกเว้นเพียงหวังเบียวที่ยังคงหลบหนี นอกนั้นกบฏส่วนใหญ่ล้วนถูกจับกุมได้หมดแล้ว วันที่ 25 เดือนเจ็ด สำนักราชวังจัดพิธีศพให้ท่านอ๋องฮุย เพราะเหตุการณ์กบฏของเซี่ยทิงเหยียน พิธีศพจึงจัดอย่างเรียบง่าย และจักรพรรดิ์ซูชิงทรงเรียกขุนนางมาหารือว่าท่านอ๋องฮุยควรได้ฝังในสุสานอ๋องหรือไม่ แม้ว่าท่านอ๋องฮุยจะบริสุทธิ์ แต่ความผิดของเซี่ยทิงเหยียนเป็นโทษที่เกี่ยวพันถึงทั้งตระกูล ซ่งซีซีไม่ได้รับการเรียกตัวให้เข้าร่วมพิธี นางจึงพาผู้คนจากจวนเป่ยหมิงอ๋องมาร่วมงานศพของอ๋องฮุย พิธีศพจัดอย่างเรียบง่าย ไม่มีขุนนางมาร่วมงาน นอกจากจักรพรรดิ์จะทรงอนุญาตให้อ๋องฮุยฝังในสุสานอ๋อง มิฉะนั้นจะไม่มีใครกล้าเข้าร่วม กู้ชิงหยิงสวมชุดไว้ทุกข์คุกเข่าเผากระดาษหน้าโลงศพ ศพของอ๋องฮุยถูกบรรจุในโลงแล้วแต่ยังไม่ได้ปิดฝา เมื่อซ่งซีซีและเสิ่นว่านจือมาถึง ยังสามารถไปดูหน้าศพครั้งสุดท้ายได้ มีโลงศพสา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1381

    เมื่อได้ยินว่าอ๋องฮุยปลิดชีพตนเอง เซี่ยทิงเหยียนถึงกับอึ้งไป ก่อนจะร้องไห้เสียงดังว่า “เสด็จพ่อ ทำไมต้องกลัวโทษจนถึงกับฆ่าตัวตาย? ลูกสัญญาไว้ว่าจะรับโทษแทนท่านแล้ว” เมื่อได้ยินคำพูดนี้ กู้ชิงหยิงที่ไม่ได้หวังจะมีชีวิตรอดอยู่แล้วก็พุ่งเข้าไปชกหัวเขาอย่างแรง หมัดของกู้ชิงหยิงใหญ่โตนัก ฟาดเข้าที่กระหม่อมของเซี่ยทิงเหยียนจนเขารู้สึกราวกับโดนฟ้าผ่า หูอื้ออยู่นานก่อนจะเงยหน้ามองนางด้วยสายตาเย็นเยียบดุจอสรพิษ กู้ชิงหยิงถ่มน้ำลายใส่เขาแล้วกล่าวว่า “เจ้าสัตว์เดรัจฉาน เจ้าใช้อำนาจข่มขู่ชีวิตชาวเมืองหนิงโจวและคนเก่าของวังให้ท่านอ๋องต้องรับผิดแทนเจ้า ท่านอ๋องไม่เคยมีจิตคิดกบฏ แม้แต่ตอนที่ถูกเจ้าจับตาอย่างใกล้ชิด ท่านยังพยายามส่งข่าวให้ใต้เท้าซ่ง เจ้าจงหยุดทำลายชื่อเสียงของท่านอ๋องหลังจากตายเถิด” นางพูดจบก็รีบคุกเข่าลง น้ำตาไหลอาบหน้า “ฝ่าบาท ขอพระองค์ทรงโปรดพิจารณา ท่านอ๋องไม่ได้ก่อกบฏ แต่เป็นเซี่ยทิงเหยียนที่พูดเองว่า หากเขาสำเร็จ ทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดี แต่หากล้มเหลว ลูกน้องของเขาจะสังหารชาวเมืองหนิงโจว เขาข่มขู่ท่านอ๋องเช่นนี้มาตลอด คนเก่าของวังที่อยู่ข้างกายท่านอ๋องถูกเขาฆ่าจนแทบไม่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1380

    จักรพรรดิ์ซูชิงมองลงมาจากที่สูง ดวงตาเต็มไปด้วยความชิงชัง “อย่างนั้นหรือ? แม้เจ้าจะยอมรับโทษแทนบิดา แต่ข้าไม่อาจกล่าวโทษผู้บริสุทธิ์โดยไร้เหตุผลได้ ใครกันที่เป็นกบฏวางแผนชิงบัลลังก์ ข้าจะสืบสวนให้กระจ่างเอง” “ฝ่าบาท” เซี่ยทิงเหยียนน้ำตาคลอ ดวงหน้าเต็มไปด้วยความเสียใจอย่างยิ่ง “ไม่ต้องสืบสวนแล้ว ขอพระองค์ทรงตัดสินโทษกระหม่อมเถิด เสด็จพ่อเพียงหลงผิดชั่วขณะ” จักรพรรดิ์ซูชิงหัวเราะเยาะ “เจ้าทำให้ข้าผิดหวังนัก เหตุใดถึงไร้เกียรติเช่นนี้? ไหนล่ะความตระหนักของผู้แพ้ในสงคราม เจ้าไม่คู่ควรแม้แต่จะเป็นยอดคนผู้ห้าวหาญ ผู้เช่นเจ้ากล้าหมายปองบัลลังก์ คิดจะเป็นประมุขของแผ่นดินหรือ? เซี่ยทิงเหยียน อย่าให้ผู้ติดตามเจ้าเขาต้องผิดหวังนัก” “กระหม่อมยินดีรับโทษแทนเสด็จพ่อ! ขอพระองค์โปรดเมตตาไว้ชีวิตเสด็จพ่อด้วย” เซี่ยทิงเหยียนไม่สนว่าจักรพรรดิ์ซูชิงจะตรัสสิ่งใด เขาก็ยังคงกล่าวแต่คำนี้ด้วยความปวดร้าวและความกตัญญู ขุนนางที่อยู่ในที่นั้นย่อมไม่เชื่อ ต่างตำหนิเขาด้วยถ้อยคำรุนแรงถึงความทะเยอทะยานราวหมาป่า แต่หากคนใดหน้าหนาเพียงพอ ย่อมไม่สะทกสะท้านต่อคำด่าว่า เขายังคงแสดงสีหน้าเจ็บปวดและกล่าวว่า

DMCA.com Protection Status