Share

บทที่ 944

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
เขาไม่แม้แต่จะเห็นเข้าว่านางได้หลบอย่างไร แค่รู้สึกว่าเมื่อมีดฟาดลงจากข้างบน เมื่อจ้องมองใกล้ๆ นางยังคงอยู่ที่นั่นราวกับว่าไม่เคยขยับไปไหนเลย

โคมไฟลมในรถม้าเปล่งแสงสลัวๆ สองดวง แสงนั้นทำให้สีหน้าของซ่งซีซีดูซีดเล็กน้อย ใบหน้านั้นเย็นเฉียบราวกับน้ำค้างแข็งในสายลมหนาว แต่กลับเผยรอยยิ้มให้เขา รอยยิ้มนี้ทำให้ผู้คนรู้สึกขนลุกทันที

ไม่ใช่แค่ขนลุก แต่เสียวสันหลังวาบด้วย

เมื่อเขาตอบสนองได้ เขาก็ตระหนักว่าตนเองถูกเฆี่ยนตีในอากาศ ปลายแส้ถูกดึงออกจากใบหน้าของเขา และผ้าสีดำที่คลุมใบหน้าของเขาก็ถูกกระแทกออก ทันใดนั้นเขาหันตัวเพื่อบินไปในอากาศอย่างรวดเร็ว ในระหว่างทางเขารีบปิดหน้าให้มิด

กระโดดขึ้นไปบนกำแพงแล้วหันหน้ากลับมา จากนั้นได้เห็นแส้สีแดงเหมือนงูพิษกำลังพ่นลิ้นออกมา พันรอบคอของนักรบสิ้นหวังทางซ้าย เฆี่ยนอย่างแรงแล้วเตะนักรบสิ้นหวังทางขวาด้วย เท้าของนางที่ลอยอยู่ในอากาศ

พอหมุมตัว นักรบสิ้นหวัง ซึ่งถูกรัดคอเอาไว้นั้นก็ถูกลากไปที่ด้านหน้าของรถม้า อาวุธในมือของเขาหล่นลงพร้อมกับเสียงดัง ก่อนที่มันจะตกลงกับพื้น ซ่งซีซีก็ใช้เท้าเตะมัน ดาบบินขึ้นไป และนางก็ลากนักรบสิ้นหวังบินขึ้นไปอย่างรวดเร็วเช
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Busara
That’s all
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 945

    หลังจากที่องค์หญิงใหญ่เหลิ่งอวี่กลับมาถึงหอฮุยตง นางก็พบว่าซูลันซือและเจิ้งหยงโซวยังไม่ได้กลับมาหัวใจของนางจมดิ่งลง โดยมีความรู้สึกมีเรื่องไม่ดีจะเกิดขึ้นซูลันซือเป็นลุงเล็กของนาง แต่กลับเป็นคนไม่เอาไหนที่สุดในตระกูลซู ไม่ใช่ว่าเขาไร้ความสามารถ แต่เขาเป็นคนชอบใช้กำลังชอบแย่งชิงอำนาจ หุนหันพลันแล่นและประมาท"ไปตามหาเหลียงอันมา!" นางสั่งขุนนางหญิงที่ชื่อเซี่ยงผิง "เดี๋ยวนี้เลย!"เหลียงอันเป็นมหาอำมาตย์คณะรัฐมนตรีในการเดินทางนี้ และยังเป็นน้องชายของภรรยาของซูลันซือด้วย ทั้งสองคนได้หารือกันมาตลอดทาง และเหลียงอันต้องรู้ว่าเขากับเจิ้งหยงโซวไปทำอะไรคืนนี้เหลียงอันกำลังรอข่าวอยู่เมื่อกลับมาที่ห้อง โดยธรรมชาติแล้วเขารู้เกี่ยวกับแผนการของซูลันซือ แผนการนี้ไม่ได้คิดมาอย่างกะทันหัน แต่ได้วางแผนไว้มานานแล้วเมื่อเขาจากไปนั้น เขาเห็นว่าซูลันซือประสบความสำเร็จมากกว่าครึ่งหนึ่งแล้ว เพราะเขาก็พาเป่ยหมิงอ๋องออกไปแล้วตราบใดที่เขาหลอกให้เป่ยหมิงอ๋องออกไป งั้นการลักพาตัวซ่งซีซีก็เป็นเรื่องง่ายแล้ว เพราะในคืนนี้พวกเขาแค่พาคนขับรถม้าคนหนึ่งและสาวใช้คนหนึ่งเท่านั้น รวมทั้งคู่สามีภรรยาเป่ยหมิงอ๋องด้

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 946

    เมื่อเขารู้ว่ามันมีโอกาสที่จะชนะสูงมาก แถมมีคำสั่งจากฝ่าบาทด้วย เหลียงอันก็ยืดหลังให้ตรงพลางขมวดคิ้วและพูดว่า "คำพูดขององค์หญิงใหญ่จะไม่น่าฟังหน่อย เอาแต่กล่าวว่าซีจิงจะจบเห่ มาดูถูกประเทศของตนเองเช่นนี้ มันไม่ควรออกมาจากปากขององค์หญิงใหญ่จริงๆ กระหม่อมไม่คิดว่าการกระทำของใต้เท้าซูจะผิดตรงไหน ก็บอกไปแล้วว่าได้เตรียมแผนการไว้สองแผน หากพวกเขายอมอ่อนข้อให้ งั้นเราก็ยินยอมที่จะเจรจาโดยธรรมชาติ แต่หากพวกเขาไม่ยอมอ่อนข้อ ในที่สุดก็จะทำสงครามอยู่ดี การจับตัวพระชายาเป่ยหมิงอ๋องก็แค่เลียนแบบการกระทำที่ยี่ฝางทำกับอดีตรัชทายาท หากทั้งสองประเทศทำสงคราม พระชายาเป่ยหมิงอ๋องจะกลายเป็นผู้ถูกจับปรากฏตัวในสนามรบชายแดนเฉิงหลิง มันย่อมทำให้ตระกูลเซียวยอมจำนน เช่นเดียวกับที่แม่ทัพซูลันจีทำในเมื่อก่อนเพื่ออดีตรัชทายาทแล้วทำสนธิสัญญาสันติภาพที่ให้ซีจิงของเราต้องอับอาย"องค์หญิงใหญ่เหลิ่งอวี่โกรธมากเมื่อได้ยินคำพูดนี้ "โง่เขลาเอาซะ ที่แม่ทัพซูลันจีทำเช่นนั้นเป็นเพราะยี่ฝางได้จับมรัชทายาทของประเทศเราไป ในเวลานั้นเกิดความขัดแย้งรุนแรงในราชสำนักเนื่องจากอดีตฮ่องเต้ป่วยหนัก หากไม่สามารถให้ประเทศภายในมั่นคงได้ เก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 947

    เกือบจะถึงยามจือแล้วแต่ตึกว่างจิงยังเปิดไฟสว่างอยู่ มีโคมไฟแตรแกะสองตัวที่มีคำว่า "ปิดร้าน" แขวนอยู่ที่ประตูห้องส่วนตัวบนชั้นสามเดิมเป็นสถานที่สำหรับดื่มชา แต่ตอนนี้มีสุราหนึ่งขวดและอาหารหลายอย่างเซี่ยหลูโม่ไม่ได้นำองครักษ์มาด้วย ส่วนซูลันซือก็นำคนใช้ไปเพียงคนเดียวซึ่งยืนอยู่ที่หน้าประตูสุราดื่มไปครึ่งทางแล้ว แม้ว่าทั้งสองจะพูดคุยเกี่ยวกับการเจรจาในวันพรุ่งนี้ แต่ก็ไม่มีใครเปิดเผยประเด็นหลักออกไปจุดประสงค์ของซูลันซือก็คือยืดเยื้อให้เขาอยู่ต่อให้นานๆ ที่นี่และจะไม่เปิดเผยสิ่งใดออกไปเลย ยามนี้เขาคาดว่าแผนการคงสิ้นสุดลงแล้วและบุคคลนั้นก็ถูกจับตัวไปแล้วทว่าเซี่ยหลูโม่ไม่รู้อะไรทั้งนั้นเลย เมื่อนึกถึงเช่นนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกได้ใจ พวกเขายังคิดว่าเป่ยหมิงอ๋องคงจัดการได้ยากมากทีเดียว ใครจะรู้ว่าแค่คำพุดไม่กี่คำเองก็ถูกหลอกมาได้ทว่าแต่ก็ไม่สามารถสรุปได้ว่าเขาไม่ตื่นตัวเอาไว้ ถึงยังไงการเจรจาในวันพรุ่งนี้ ทางแคว้นซางต้องให้ความสำคัญอย่างมาก พวกเขารู้ว่าตนเองเป็นฝ่ายผิด เลยกะว่าจะมาสอดรู้ข้อเสนอของอีกฝ่ายนี่แสดงว่าพวกเขาวิตกกังวลจริงๆอีกอย่างสิ่งที่ทำให้เขาน่าขำก็คือ เป่ยห

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 948

    หลังจากกลับมามีสติได้ ซูลันจีก็วิ่งลงไปชั้นล่างอย่างบ้าคลั่งเมื่อเห็นคนในเครื่องแบบองครักษ์หลายคนยืนอยู่ใกล้โต๊ะทำงานในห้องโถงใหญ่ชั้นที่หนึ่ง กำลังพูดคุยกับคนที่มารายงานหัวใจของเขาเต้นรัว เมื่อเขามา มีเพียงเถ้าแก่และเด็กหนุ่นคนหนึ่งที่นี่และไม่เห็นองครักษ์เลย องครักษ์พวกนี้มาเมื่อใดคนที่มารายงานนั้นคือหวังเจิง เขามากับคนอีกสามคน เมื่อเห็นซูลันซือ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ "ใต้เท้าซู ทางซีจิง ของเจ้าหมายความอย่างไร กลับจะทำร้ายใต้เท้าซ่งของเรา"ซูลันซือเหลือบมองรอบๆ และไม่พบซ่งซีซี เมื่อตระหนักว่ามันอาจเป็นกลอุบาย เขาก็ทำหน้าแดงก่ำออกมาและพูดว่า "ไม่มีทาง เจ้าอย่าพูดไปเรื่อย"เจิ้งหยงโซวไม่มีทางจะล้มเหลว แผนนั้นคือใช้คนสิบกว่าคนไปจัดการคนแค่สามสี่คนนั้นแล้วจะพลาดได้อย่างไร ยิ่งไปกว่านั้น ศิลปะการต่อสู้ของเจิ้งหยงโซวแข็งแกร่งเช่นนั้น ต่อให้อีกฝ่ายได้ตั้งตัวไว้ก็แค่จับตัวไม่สำเร็จ แต่ไม่มีทางโดนจับดังนั้นมันย่อมเป็นกลอุบาย เมื่อซ่งซีซีถูกจับตัวไป พวกเขาเดาว่าเป็นฝีมือของซีจิง จงใจให้เขาติดกับดักเพื่อให้เขาเปิดเผยความจริงออกมาเขาหันไปมองเซี่ยหลูโม่ด้วยความโกรธและถามอย่างเ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 949

    มีไฟสองดวงห้อยอยู่ด้านนอกร้านขายยาเย่าหวัง เมื่อพวกของเซี่ยหลูโม่ขี่ม้ามาถึงนั้น ซ่งซีซีก็เดินออกมาโดยได้รับการพยุงจากเสิ่นว่านจือตอนที่นางเดินออกออกนั้น ร่างกายของซูลันซือก็แข็งทื่อ และหัวใจก็เต้นผิดจังหวะ มันล้มเหลวแล้วเหรอทันใดนั้นดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้นอย่างนองเลือด ต้องเป็นอ๋องฮวย จะต้องเป็นอ๋องฮวยแน่ๆ เขาไม่ต้องการสร้างพันธมิตรกับซีจิงเพื่อก่อกบฏ เขาถูกฮ่องเต้แคว้นซางส่งไปโดยตั้งใจผมของซ่งซีซียุ่งเหยิงเล็กน้อย บาดแผลที่แขนก็ถูกพันแผลเรียบร้อย และได้เปลี่ยนชุดชั้นนอกไปด้วย เห็นได้ชัดว่ามีคนกลับจวนนำชุดใหม่ให้นางเซี่ยหลูโม่กระโดดลงจากม้าทันทีและรีบเดินเข้าไปหาภายใต้แสงสลัว พูดน้ำเสียงด้วยความกังวล "เป็นอะไรหรือไม่?"น้ำเสียงของซ่งซีซีเต็มไปด้วยความไม่พอใจและความคับข้องใจ "ถ้าข้าหนีไม่ทัน แขนของข้าก็คงถูกเขาตัดออกแล้ว ข้ามิรู้ว่าข้าไปทำอะไรให้ใต้เท้าเจิ้งต้องแค้นใจและเกลียดข้าขนาดนี้ กลับนำผู้คนมาลอบสังหารข้า"นางพูดแบบนี้ แต่ในเวลาเดียวกันก็จับมือของเซี่ยหลูโม่ แล้วตบหลังมือเขาเบาๆ เพื่อบ่งบอกว่านางสบายดีเสียงเอาความนี้กระทบหูของซูลันซือ เขายังคงมีท่าทีไม่อยาก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 950

    เซี่ยหลูโม่รู้ว่าเขาหุนหันพลันแล่นและประมาท แผนการนี้โดนทำลายอย่างง่ายดายแถมยังได้จับตัวเจิ้งหยงโซวในที่เกิดเหตุ เขาจะสงสัยเป็นอ๋องฮวยหลังจากครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้สักครู่ จากนั้นก็จะสงสัยว่าพวกเขากำลังสมรู้ร่วมคิดกัน แต่เมื่อเห็นเขาเปิดปากกำลังจะพูดนั้นก็หยุดพูดทันที ซึ่งแสดงให้เห็นว่าถึงแม้เขาจะหุนหันพลันแล่น แต่เขาก็ไม่โง่"เฉินยี สอบสวนต่อไป" เซี่ยหลูโม่ไม่ได้ผิดหวัง หลังจากออกคำสั่งกับเฉินยีแล้วก็บอกกับหวังเจิงว่า "ส่งใต้เท้าซูกลับไปหอฮุยตงและรายงานเรื่องนี้ให้องค์หญิงใหญ่ทราบด้วย""ขอรับ!" หวังเจิงรับคำสั่งและพูดกับซูลันซือว่า "ใต้เท้าซู เชิญ"ซูลันซือเหลือบมองเจิ้งหยงโซวแวบหนึ่ง และเอื้อมมือไปจับกระเป๋าแขนเสื้อซึ่งเป็นที่ที่เก็บพระราชโองการจากฝ่าบาทอยู่ เพื่อส่งสัญญาณให้เจิ้งหยงโซวอย่าพูดอะไรเรื่อยเปื่อยเมื่อเห็นการกระทำในมือของเขา หัวใจของเจิ้งหยงโซวเย็นวาบทันที เพราะเขารู้ว่าตนเองกลายเป็นหมากไร้ค่าแล้วเขาถูกจับตัวได้ในที่เกิดเหตุมันแก้ตัวไม่ได้อีกเลย แต่ต้องไม่ส่งผลทำให้ซีจิงประสบความล้มเหลวของการเจรจาครั้งนี้เด็ดขาด เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องแบกรับความผิดของเรื่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 951

    ซูลันซือโต้เถียงกลับด้วยจิตใต้สำนึก "เป็นไปไม่ได้ ไม่ว่าทักษะศิลปะการต่อสู้ของซ่งซีซีจะยอดเยี่ยมแค่ไหน นางสามารถเทียบนักรบอันดับหนึ่งแห่งเมืองซีจิงได้หรือ"องค์หญิงใหญ่พูดอย่างเย็นชา "ความจริงก็คือนางเก่งกว่า อีกอย่างเขาถูกจับตัวได้อย่างง่ายดาย นักรบอันดับหนึ่งแห่งเมืองซีจิงกลับหมกมุ่นกับอำนาจ การแสวงหาอำนาจของเขาเป็นตัวกำหนดขีดจำกัดสูงสุดของทักษะการต่อสู้ของเขา ในเมื่อพวกเข้าทำความเข้าใจกับซ่งซีซีมาแล้ว ย่อมรู้ว่านางฝึกศิลปะการต่อสู้ในสถาบันว่านซงเหมินตั้งแต่เด็ก พวกเจ้ารู้ไหมว่าสถาบันว่านซงเหมินคือสถานที่อะไรกัน""มันก็แค่นิกายในแวดวงการต่อสู้นิกายหนึ่งไม่ใช่เหรอ มีอะไรพิเศษช?" ซูลันซือกล่าว แม้ว่าความจริงอยู่ต่อหน้าต่อตาแล้ว เจิ้งหยงโซวพ่ายแพ้ให้กับแส้แดงของซ่งซีซี แต่เขาก็ไม่เชื่อว่าซ่งซีซีมีวรยุทธ์ที่แข็งแกร่งเช่นนี้ถ้าบอกว่าเป็นเป่ยหมิงอ๋องที่เอาชนะเจิ้งหยงโซว เขาคงไม่มีข้อสงสัยใดๆ"ศิษย์หญิงของนิกายหนึ่งแถมยังอายุน้อยเช่นนี้ มันจะมีวรยุทธ์เก่งขนาดไหนกันเชียว?" เหลียงอันก็พูดแบบเดียวกันอีกด้วย เขาไม่เชื่อว่าผู้หญิงคนหนึ่งจะแข็งแกร่งขนาดนั้นองค์หญิงใหญ่เหลิ่งอวี่มองดูพวกเขา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 952

    ก่อนการเจรจามีเรื่องเกิดขึ้นมากมายเกินไปมันเป็นคืนอดนอนที่หอฮุยตง และทางหอต้าหลี่ก็ดำเนินคดีในคืนนั้น ที่กรมราชทัณฑ์ หลังจากที่ยี่ฝางสารภาพเสร็จแล้วก็โวยวายจะขอพบจ้านเป่ยว่าง ขอพบหน้าเป็นครั้งสุดท้าย นาง ถึงขนาดก็คุกเข่าลงกับพื้นและร้องไห้ขอร้องนางไม่เคยอ่อนแอขนาดนี้ตั้งแต่เข้ามาในกรมราชทัณฑ์ หลี่ลี่คิดว่าหลังจากการเจรจาเสร็จ ยี่ฝางจะต้องถูกส่งมอบให้กับนักการทูตจากซีจิงอย่างแน่นอน ความตายจะเป็นเรื่องง่าย แต่อาจจะไม่ตายดีนักโทษที่ถูกประณามสามารถเจอญาติของตนเองเป็นครั้งสุดท้ายก่อนตายได้ ดังนั้นหลี่ลี่จึงอนุญาตให้ทั้งสองคนพบกันในคืนนี้ แน่นอนว่าเจอกันที่คุกเท่านั้นเขาส่งคนไปพาจ้านเป่ยว่างไปที่คุก เจ้าหน้าที่เปิดประตูคุกแล้วถอยตัวออกไปข้างนอกแน่นอนว่าก่อนที่จ้านเป่ยว่างเข้าไปนั้นก็ถูกค้นตัวไปหมดแล้ว และไม่อนุญาตให้นำของมีคมเข้าไป เผื่อยี่ฝางจะฆ่าตัวตาย งั้นพวกเขาก็งานเข้าแล้วปัจจุบันี้ยี่ฝางถูกคุมขังเพียงลำพังในเรือนจำหญิง เหตุผลหลักก็คือนางเป็นนักโทษที่สำคัญมาก และไม่อนุญาตให้เกิดข้อผิดพลาดใดๆ ดังนั้นหลี่ลี่จึงส่งกองกำลังแข็งแกร่งมาเฝ้าดูอย่างหนักแน่นแสงส่องลงบนใบหน้าที่ซีดเ

Latest chapter

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1526

    ผ่านไปไม่กี่วัน วังหลังได้เคลื่อนย้ายร่างของนางกำนัลคนหนึ่งออกไปวันนั้น จักรพรรดิ์ซูชิงมีพระราชโองการให้พระสนมซูเฟยย้ายออกจากตำหนักฮุ่ยอี๋ นำนางกำนัล องค์หญิงสาม และองค์ชายสามไปพำนักที่ตำหนักกุ้ยหลานตำหนักกุ้ยหลานตั้งอยู่มุมทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ใกล้กับตำหนักเย็น ปกติแทบไม่มีใครไปเยือนเมื่อพระราชโองการประกาศออกมา พระสนมซูเฟยราวกับถูกฟ้าผ่า ยืนอึ้งอยู่นานกว่าจะตั้งสติได้ครู่หนึ่ง นางจึงเอ่ยสั่งบรรดาข้ารับใช้ด้วยใบหน้าซีดเผือด “เก็บข้าวของเถิด”นางรู้ดีว่า ตนเองและองค์ชายสามหมดโอกาสแล้วโดยสิ้นเชิงแต่ที่จริง นางไม่ได้นึกแปลกใจเลย นับตั้งแต่นางรู้ว่าฝูเจาอี๋สูญเสียลูกไป นางก็ทำใจไว้แล้วเพราะเรื่องนี้มันไม่ควรจะเกิดขึ้นเร็วถึงเพียงนี้ ยาที่นางให้ไปมีปริมาณเพียงน้อยนิด ต้องดื่มติดต่อกันครึ่งเดือนถึงจะเห็นผลแต่กลับกลายเป็นว่าเพียงวันรุ่งขึ้น ฝูเจาอี๋ก็ตกเลือดเสียแล้ว นั่นย่อมหมายความว่าคนของนางที่แทรกซึมอยู่ข้างกายฝูเจาอี๋ ได้ทรยศและหันไปเข้ากับฮองเฮา หรือมิฉะนั้นก็พระสนมเต๋อเฟยนางไม่จำเป็นต้องไปไตร่ตรองอีกแล้วว่าเป็นใคร เพราะไม่มีความหมายใดอีก ฮ่องเต้มีพระราชโองการให้ย้ายตำหน

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1525

    ซ่งซีซีรู้สึกว่าการเป็นฮ่องเต้ช่างอึดอัดยิ่งนัก เรื่องของอำนาจและการคำนวณผลประโยชน์ล้วนเป็นไปตามสถานการณ์โดยมิอาจควบคุมได้เองบัดนี้ฮ่องเต้คงต้องการแต่งตั้งองค์ชายใหญ่เป็นรัชทายาท เช่นนั้นฮองเฮาก็ไม่อาจเกี่ยวข้องได้ องค์ชายใหญ่เดิมทีก็เป็นเพียงบุคคลธรรมดา หากฮองเฮายังถูกกล่าวหาเรื่องวางแผนปองร้ายรัชทายาท ก่อความวุ่นวายในวังหลัง ตำแหน่งองค์รัชทายาทขององค์ชายใหญ่ก็คงไม่มั่นคงส่วนพระสนมซูเฟยที่เป็นผู้ลงมือโดยตรง ฮ่องเต้ย่อมต้องคำนึงถึงบิดาของนาง จึงมิอาจลงโทษอย่างรุนแรงได้กล่าวโดยสรุป เรื่องทั้งหมดนี้มิอาจเปิดเผยให้รับรู้โดยทั่วไปได้“แต่ละคนล้วนไม่ใช่คนที่จะจัดการได้ง่ายๆ” ไทเฮาถอนหายใจ “แต่เมื่ออยู่เบื้องหน้าอำนาจสูงสุดแล้ว มีผู้ใดบ้างที่ไม่อยากเดิมพันสุดกำลัง?”ซ่งซีซีกำลังจะเอ่ยถามว่าทำไมไทเฮาจึงเล่าเรื่องเหล่านี้ให้นางฟัง ทว่าไทเฮากลับตรัสขึ้นมาก่อน “เรื่องในวัง เจ้าควรรู้ไว้ว่าต้องระวังให้มากที่สุด จิตใจของผู้คนเป็นสิ่งที่ควบคุมได้ยาก ฮ่องเต้ทรงหวาดระแวงต่อจวนเป่ยหมิงอ๋อง บัดนี้กลับให้ความไว้วางใจพวกเจ้า หากพวกนางต้องการแย่งชิงบัลลังก์ ย่อมมิอาจเลี่ยงที่จะลงมือผ่านตัวเจ้า วัง

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1524

    เรื่องที่ฝูเจาอี๋แท้งลูก ซ่งซีซีได้รับรู้จากปากของเซี่ยหลูโม่พระชายาฉินอ๋องมาเชิญนางให้เข้าเฝ้าในวังด้วยกัน ซ่งซีซีก็ตอบตกลงเดิมทีซ่งซีซีกับพระชายาฉินอ๋องไม่มีความเกี่ยวข้องกันมากนัก แต่ตั้งแต่ฉินอ๋องเดินทางไปซีจิงด้วยกัน พระชายาฉินอ๋องก็ดูสนิทสนมกับซ่งซีซีมากขึ้น กล่าวว่าภรรยาของพี่น้องควรไปมาหาสู่กันบ่อยๆพระชายาฉินอ๋องเป็นสตรีตระกูลฉี เป็นลูกพี่ลูกน้องของฮองเฮา แต่หลังจากฮองเฮาถูกกักบริเวณ พระชายาฉินอ๋องก็ไม่ได้ไปเยี่ยมเยียนฮองเฮาอีกดังนั้น คำว่าภรรยาของพี่น้องควรไปมาหาสู่กันบ่อยๆ สำหรับนางแล้ว แท้จริงหมายความว่าหากไม่มีเรื่องเดือดร้อน ก็สามารถไปมาหาสู่กันได้ แต่หากมีปัญหา ก็ควรอยู่ให้ห่างตัวอย่างเช่น ตอนที่ฮ่องเต้ทรงระแวงจวนเป่ยหมิงอ๋อง พระชายาฉินอ๋องก็ถอยห่างจากซ่งซีซีอย่างชัดเจน ราวกับกลัวจะถูกลูกหลงแท้จริงแล้ว ฉินอ๋องไม่ได้สร้างผลงานอะไรมากนัก เพียงแต่ได้รับคำชมจากฮ่องเต้หนึ่งประโยค ซึ่งก็เพียงพอให้ฉินอ๋องลำพองใจไปได้อีกสองปีขณะที่ทั้งสองเดินทางเข้าเฝ้า พระชายาฉินอ๋องก็ไม่ได้พูดอะไรมากนัก เพียงแต่สนทนาเรื่องทั่วไปซ่งซีซีคิดว่าพระชายาฉินอ๋องเป็นคนฉลาด บางครั้งจงใจแ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1523

    จักรพรรดิ์ซูชิงเผยความผิดหวังออกมาเมื่อตรัสกลับถึงตำหนักของพระองค์การสอบสวนไม่พบอะไร ไม่ได้แปลว่าไม่มีปัญหาเล่ห์กลในวังหลังนั้น บางครั้งใช้ออกไปแล้วไม่เหลือร่องรอยให้ตามหาหมอมหัศจรรย์เคยกล่าวไว้ว่า ครรภ์ของฝูเจาอี๋อาจรักษาไว้ไม่ได้ แม้จะรักษาไว้ได้ เด็กที่เกิดมาอาจร่างกายอ่อนแอ หรือแม้กระทั่งเป็นคนปัญญาอ่อนพระองค์เองมิใช่ว่าไม่เคยคิดจะให้ฝูเจาอี๋ดื่มยาถ้วยหนึ่งแต่ท้ายที่สุดก็ยังลังเลไม่อาจตัดใจ นี่อาจเป็นพระโอรสองค์สุดท้ายของพระองค์แล้ว พระองค์จึงอยากลองเสี่ยงดูสักครั้งครานี้พระองค์มั่นใจว่ามีผู้ลงมือแน่นอน ช่วงที่ผ่านมา พระองค์เสด็จไปที่ตำหนักของฝูเจาอี๋บ่อยครั้ง เช่นนี้ย่อมทำให้บางคนรู้สึกไม่พอใจเต๋อเฟยมีใจอยากดูแลฝูเจาอี๋ แต่ฝูเจาอี๋กลับยโสโอหังเพราะความโปรดปราน จนถึงขั้นแสดงความไม่พอใจต่อนาง วันนั้นก็เอ่ยเตือนนางไปแล้ว น่าเสียดายที่นางกลับไม่เข้าใจความหมายเต๋อเฟยเป็นผู้ดูแลวังหลัง หญิงงามมากมายในตำหนักล้วนเป็นคนที่เต๋อเฟยและซูเฟยเป็นผู้เลือก หากคิดจะลงมือกับครรภ์ของฝูเจาอี๋ ก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยแม้แต่น้อยทว่าเต๋อเฟยคงไม่ได้เป็นคนลงมือเอง ไม่เช่นนั้น คงไม่ช่วยปกป้อง

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1522

    ในตำหนักฮุ่ยอี๋ องค์ชายสามนั่งอยู่บนเก้าอี้ องค์หญิงสามช่วยเช็ดเส้นผมที่เปียกชื้นของเขา นางกล่าวด้วยความขุ่นเคืองว่า “เพิ่งสระผมไปเมื่อวันก่อนแท้ๆ เจ้าต้องเล่นกับเจ้าแมวป่าตัวนั้นให้ได้ ทำให้เส้นผมและใบหน้าของเจ้ามีแต่ขนแมว ถ้ามีคราวหน้าอีก พี่จะตีเจ้าที่ก้น”เด็กชายตัวน้อยที่งดงามราวกับแกะสลักจากหยก ดวงตาดำขลับทอประกายราวดวงดาว ยิ้มแย้มขณะที่พิงตัวอยู่ในอ้อมกอดพี่สาว “ท่านพี่ เจ้าแมวป่าสนุกและน่ารักมาก มันใช้เท้าเล็กๆ เหยียบข้า รู้สึกสบายจริงๆ แถมเวลากอดมันก็อบอุ่นด้วย”องค์หญิงสามกล่าวว่า “เสด็จแม่บอกแล้วว่าเสด็จพ่อไม่ชอบเจ้าแมวป่า แต่เจ้ากลับเอาแต่นำเรื่องของมันไปพูดกับเสด็จพ่อ ไม่แปลกใจเลยที่ช่วงนี้เสด็จพ่อไม่มาหาเจ้าเลย”องค์ชายสามนั่งตัวตรง ปล่อยให้พี่สาวช่วยเช็ดผม แต่ปากยังไม่วายโต้กลับ “ข้ากับเสด็จพ่อเป็นคนละคน ย่อมมีสิ่งที่ชอบและไม่ชอบแตกต่างกัน เสด็จพ่อไม่ชอบ แต่ข้าชอบ ข้ารักมัน ต่อให้เสด็จพ่อไม่พอใจ ก็ใช่ว่าจะบังคับให้ข้าทิ้งมันได้”องค์หญิงสามเอานิ้วแตะจมูกเขาเบาๆ “ปากคมเสียจริง”องค์ชายสามยิ้มกว้าง “ท่านพี่เถียงข้าไม่ชนะ เพราะพี่ไม่มีเหตุผล เสด็จอาบอกว่าหากพี่มีเหตุผล

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1521

    ฝูเจาอี๋มิได้สังเกตเห็นรอยเย้ยหยันที่มุมปากของชุนถังชุนถังเป็นนางกำนัลที่คอยรับใช้ข้างกายนาง ตั้งแต่นางได้รับการเลื่อนขั้นเป็นเจี๋ยหยู นางเฉลียวฉลาดและสุขุม ยามที่ฝูเจาอี๋ต้องการคำแนะนำ นางก็มักเป็นผู้วางแผนให้อยู่เสมอ ครั้งนั้น ฮองเฮามีใจต้องการดึงนางเข้าสังกัด ทว่าชุนถังกลับเตือนว่าสถานะของฮองเฮาเริ่มสั่นคลอนแล้ว ถูกกักบริเวณอยู่บ่อยครั้ง ฝ่าบาททรงไม่โปรดอีกต่อไป อีกทั้งยังไม่มีอำนาจดูแลวังหลัง สู้ทำทีเป็นให้ความร่วมมือไปก่อน แล้วค่อยเบนเข้าหาเต๋อเฟยและซูเฟยจะดีกว่าและชุนถังก็คิดถูก เต๋อเฟยเมตตานางยิ่งนัก ทั้งอาหาร เครื่องนุ่งห่ม และข้าวของล้วนจัดหาให้อย่างดี ไม่มีใครกล้าดูแคลนนางอีกทว่า ในอดีต เต๋อเฟยเคยดีกับนางก็จริง แต่ตอนนี้กลับใช้ประโยชน์จากครรภ์ของนางเพื่อเข้าหาฝ่าบาท สิ่งนี้ทำให้นางรู้สึกไม่พอใจยิ่งนัก“เจาอี๋มิทรงยินดีให้พระนางเต๋อเฟยเสด็จมาหรือเพคะ?” ชุนถังช่วยประคองศีรษะและเอวของนางให้สูงขึ้นอีกเล็กน้อย การต้องนอนติดเตียงเป็นเวลานานเช่นนี้ ทำให้นางมักบ่นว่าปวดหลังฝูเจาอี๋วางใจชุนถังมาโดยตลอด ดังนั้นจึงไม่ลังเลที่จะเอ่ยความในใจ “ตอนที่ครรภ์ของข้ายังมั่นคงอยู่ พระน

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1520

    ครรภ์ของฝูเจาอี๋ เดิมทีก็มั่นคงดี หมอหลวงเองก็กล่าวว่าไม่มีปัญหาใหญ่อันใด แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด พอเข้าสู่เดือนเหมันต์ ครรภ์นี้กลับเริ่มไม่มั่นคง อีกทั้งยังมีเลือดออกถึงสองครั้งหมอหลวงจินทุ่มเทสรรพวิธีเพื่อรักษาครรภ์ของนางไว้ ทำให้พอประคองสถานการณ์ได้ แต่นางก็ต้องนอนพักอยู่บนเตียง ยังไม่อาจลุกเดินไปไหนได้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด หมอหลวงย่อมให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ตรวจสอบทั้งอาหารการกินและข้าวของที่ใช้ในวังอย่างละเอียด ทว่ากลับไม่พบความผิดปกติใดๆ จึงคาดว่าน่าจะเป็นผลมาจากการที่ฝ่าบาทเสวยโอสถมาเป็นเวลานาน จึงทำให้ครรภ์นี้ไม่มั่นคงจักรพรรดิ์ซูชิงทรงเป็นกังวลอย่างยิ่งกับครรภ์นี้ นับตั้งแต่นางต้องนอนพักรักษาครรภ์ ฝ่าบาทก็ทรงเสด็จมาเยี่ยมเกือบวันเว้นวัน บางคราก็ทรงประทับร่วมเสวยพระกระยาหารเมื่อเอาใจใส่สิ่งหนึ่ง ก็ย่อมละเลยอีกสิ่งหนึ่งไป ทำให้ช่วงนี้ฝ่าบาทแทบไม่ได้เสด็จไปยังตำหนักของซูเฟย อีกทั้งยังมิได้ทรงเรียกองค์ชายสามเข้าพบที่ห้องพระอักษรเลยส่วนเต๋อเฟยนั้น เนื่องจากต้องดูแลกิจการในวังหลัง เมื่อพอมีเวลาว่างก็มักจะพาองค์ชายรองมาเยี่ยมฝูเจาอี๋ด้วย ดังนั้นจึงได้มีโอกา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1519

    ในวังหลัง เดิมทีมีผู้คาดเดาเกี่ยวกับพระอาการของฝ่าบาทไม่น้อย แม้ยามนี้ฝูเจาอี๋จะตั้งครรภ์ ทว่าหมอมหัศจรรย์กลับพำนักอยู่ในวัง เป็นหลักฐานว่าพระวรกายของฝ่าบาทหาใช่เพียงต้องบำรุงรักษาเพียงเล็กน้อยเท่านั้นดังนั้น การที่ฝ่าบาทโปรดปรานเช่นนี้ ทำให้บางคนเริ่มอยู่นิ่งไม่ได้โดยเฉพาะฮองเฮา นางรับรู้เรื่องพระอาการของฝ่าบาทอยู่บ้าง ตอนนี้หมอมหัศจรรย์กลับเข้าวังเพื่อถวายการรักษา ผลลัพธ์จะเป็นเช่นไรนางไม่อาจคาดเดา เพียงแต่รู้สึกว่าฝ่าบาทอาจอยู่ในช่วงที่พละกำลังถดถอยเต็มที่แล้วครรภ์ของฝูเจาอี๋ นางไม่ได้ใส่ใจ ไม่ว่าบุตรในครรภ์จะเป็นชายหรือหญิงก็ยังไม่อาจทราบได้ ต่อให้เป็นองค์ชาย ก็ยังไม่ถึงคราวของเขาแต่การที่ฝ่าบาททรงเอ็นดูองค์ชายสามถึงเพียงนี้ กลับทำให้นางรู้สึกถึงภัยคุกคามเดิมทีฝ่าบาทให้ทางเลือกแก่นาง นางเลือกตำแหน่งฮองเฮา เลือกมีชีวิตรอด ทว่าหลังจากนิ่งเฉยมาพักหนึ่ง นางก็เข้าใจว่าฝ่าบาทจะไม่ทรงละทิ้งองค์ชายใหญ่ได้รวดเร็วเพียงนั้น ยิ่งตอนนี้องค์ชายใหญ่ขยันขันแข็งศึกษาหาความรู้ แม้แต่ไท่ฝู่และเสด็จอายังเอ่ยปากชม นางยังสืบมาว่าฝ่าบาททรงพอพระทัยองค์ชายใหญ่อยู่ไม่น้อยองค์ชายรองและองค์ชายสามล

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1518

    จักรพรรดิ์ซูชิงทรงประชุมหารือกับขุนนางในห้องทรงอักษรยาวนานจนถึงดึกดื่น สุดท้ายเป็นหมอมหัศจรรย์ดันที่ต้องเข้าไปขัดจังหวะ แจ้งว่าดึกมากแล้ว พระองค์ถึงกับเหยียดพระกรพลางแย้มพระสรวล “ถึงกับดึกเพียงนี้แล้วรึ? เช่นนั้นก็เลิกประชุมเถิด ประตูวังใกล้จะปิดแล้ว”แม้จะเป็นช่วงเวลาดึกมากแล้ว แต่พระองค์กลับยังดูสดชื่น โดยเฉพาะบนพระพักตร์ที่มีเลือดฝาดขึ้น ดูอย่างไรก็ไม่เหมือนผู้ที่ประชวรเลยซ่งซีซีรอให้เซี่ยหลูโม่ประชุมเสร็จ ก่อนจะออกจากวังกลับจวนพร้อมกันนางอ่อนล้ามาก พิงไหล่ของเซี่ยหลูโม่แล้วเผลอหลับไปอย่างไม่รู้ตัวเมื่อรถม้ามาถึงหน้าจวน เซี่ยหลูโม่อุ้มนางขึ้นมา ซ่งซีซีรับรู้ได้รางๆ แต่ก็ขี้เกียจจะตื่น เลยปล่อยให้เขาอุ้มเข้าไป อ้อมแขนอบอุ่นแข็งแกร่งช่างสบายเหลือเกินตลอดสามเดือนที่ผ่านมา นอกจากตอนอยู่ที่ด่านเฉิงหลิง นางแทบไม่มีคืนไหนที่สามารถนอนหลับได้อย่างสนิทใจ แต่เมื่อกลับถึงจวน ก็รู้สึกผ่อนคลายลงอย่างสมบูรณ์ ดำดิ่งสู่ห้วงนิทราลึกทว่า…นอนหลับไปก็ยังรู้สึกว่ามีมือร้อนจัดคู่หนึ่งลูบไล้ไปทั่วร่างนางยังคงหลับตา เอ่ยขึ้นด้วยเสียงแหบพร่า “ลืมที่ท่านลุงดันบอกไปแล้วหรือ?”เสียงร้อนผ่าวกระซิบข

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status