Share

บทที่ 850

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
จ้านเป่ยชิงรับปากจ้านเป่ยชิงแล้ว แต่เขายังคงคงดื้อรั้นและคิดว่านางหมินต้องได้รับการอภัยจากท่านแม่ก่อน

ตอนนี้เขาก็คิดตกแล้ว จริงๆ แล้วท่านทำแบบนี้ก็ไม่ผิด เอะอะโวยวายก็จะเอาความตายมาข่มขู่ มีครั้งแรกก็จะมีครั้งที่สอง ต้องให้นางตัดความคิดนี้ทิ้งโดยแท้จริง จะใจแข็งหน่อยไม่ไปสนใจนาง

คืนนี้อุณหภูมิลดลง อากาศหนาวมาก นางหมินคุกเข่ามาครึ่งวันก็เหมือนรูปปั้นไม่ขยับเขยื้อน

ป้าซุนสวมเสื้อคลุมให้นาง จากนั้นก็เข้าไปในห้องเพื่อพูดเกลี้ยกล่อม แต่ฮูหยินผู้เฒ่าปฏิเสธและยืนกรานที่ให้นางคุกเข่าจนถึงวันพรุ่งนี้

"ถ้าไม่ลงโทษนางให้กนักๆ แล้วนางจะสำนึกผิดได้ยังไง" ฮูหยินผู้เฒ่าพูดอย่างเย็นชา

"เพียงแต่มันหนาวมากจริงๆ ฮูหยินใหญ่ยังลงไปในแม่น้ำร่างกายไม่ไหวแน่ๆ กลัวว่าจะเป็นอะไรขึ้นมาได้"

น้ำเสียงของฮูหยินผู้เฒ่าไม่แยแส เต็มไปด้วยความเกลียดชังและการข่มขู่ "ห้ามพูดอะไรอีก ปิดประตู หากใครกล้ามาขอความเมตตาอีก พรุ่งนี้ก็ให้คุกเข่าต่อไป"

ป้าซุนไม่กล้าชักชวนอีกต่อไป ได้แต่แอบออกไปเติมเสื้อผ้าอีกชิ้นให้นางหมิน จากนั้นจึงสั่งให้สาวใช้ออกไปและเข้าไปดูแลฮูหยินผู้เฒ่า ฮูหยินผู้เฒ่าจะต้องตื่นขึ้นทำเรื่องส่วนตัวสองหร
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 851

    หลังจากที่ฮูหยินผู้เฒ่าจ้านตื่นขึ้น ดวงตาของนางก็จับจ้องไปที่เพดาน และภาพที่นางหมินแขวนอยู่นอกประตูก็ยังคงปรากฏในหัวของนาง นางรู้สึกขนลุกจากนั้นก็แน่นหน้าอกขึ้นมา"นังสารเลว!" ผ่านไปพักใหญ่ นางถึงสาปแช่งด้วยความโกรธ "นังสารเลวที่ไม่รู้จักบุญคุณเลย"ป้าซุนร้องไห้หนักมากและเสียใจที่ไม่ได้ออกไปดูสักหน่อย ถ้าออกไปเร็วกว่านั้นคงทันเวลาที่ช่วยชีวิตนางนางรู้สึกอึดอัดใจถึงที่สุดแล้ว เมื่อได้ยินฮูหยินผู้เฒ่าด่าแบบนี้ ก็อดช่วยพูแทนนางหมินไม่ได้ด้วยเสียงแผ่วเบา "ฮูหยินผู้เฒ่า ไม่ว่ายังไงฮูหยินใหญ่ก็เคยดูแลท่านมา ถือว่าเต็มที่แล้ว ตอนนี้ไม่อยู่แล้ว อย่าด่าเลย"ฮูหยินผู้เฒ่าจ้านพูดด้วยอารมณ์ปรี๊ดแตก "ทำไมจะไม่ด่า หากจะตายก็ตายไปไกลๆ เลย มาตายต่อหน้าห้องข้าแบบนี้คิดจะมาหาเรื่องผู้ใด"หลังจากที่นางด่าเสร็จก็อดไม่ได้ที่จะร้องไห้ "ไม่นึกเลยว่านางเป็นคนใจร้ายแบบนี้ นางแขวนคอตายที่ประตูบ้านของข้า นั่นไม่เท่ากับว่าข้าเป็นคนร้ายกาจหรือ มันทำให้ข้าเสียชื่อเลย หากเจ้าสามจะหาคู่ครองก็ยากแล้ว ทำไมโชคชะตาของข้าจะไม่ดีเช่นนี้ ที่บ้านเจอแต่คนแบบนี้หมด""ตายแล้ว ชื่อเสียงของจวนแม่ทัพของเราเสียหายไปหมดแล้ว ม

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 852

    แม้ว่าบอกว่าฆ่าตัวตาย แต่สำนักเขตจิงจ้าวยังคงต้องการสอบสวนว่ามีใครบางคนจงใจฆ่านางหรือไม่จ้านกังทำงานในสำนักเขตจิงจ้าว แต่คดีนี้เกี่ยวข้องกับจวนแม่ทัพ และเขาไม่สามารถมีส่วนร่วมในการสอบสวนคดีนี้ได้ขงหยาง เจ้าสำนักเขตจิงจ้าวส่งคนไปสอบถาม นางหมินในปากของทุกคนมันแตกต่างกันหวังชิงหลูบอกว่านางเห็นแก่ตัวและเกียจคร้านจ้านเป่ยว่างกล่าวว่านางมีน้ำใจมีเหตุผลฮูหยินผู้เฒ่าจ้านด่านางตรงๆ ว่าเป็นผู้หญิงร้ายกาจ เจ้าเล่ห์ไม่ได้เรื่อง ทำลายชื่อเสียงของจวนแม่ทัพเป็นเรื่องหายากเลยที่ยี่ฝางออกจากเรืองมงคล แต่แค่กล่าวว่า มันเกี่ยวอะไรกับข้าด้วยคนรับใช้บอกว่านางใจดี แต่ก็อ่อนแอและถูกรังแกได้ง่ายฮูหยินผู้เฒ่ารองพูดพลางร้องไห้ว่านางเป็นคนน่าสงสาร นางไม่มีทางเลือกแล้วมีเพียงจ้านเป่ยชิง สามีของนางเท่านั้นที่ไม่สามารถบอกได้ว่านางเป็นคนแบบไหนเขาคิดอยู่นานแต่ก็แค่นึกถึงรูปร่างหน้าตาของนางหมินเท่านั้น ทุกครั้งที่เขากลับบ้านอย่างเมามายจากงานสังสรรค์ นางจะคอยดูแลตนเองอย่างเงียบๆ ไม่พูดอะไร ไม่น่าสนใจ ทื่อๆ และน่าเบื่อเนื่องจากนางเองเคยกระโดดลงไปในแม่น้ำ ดังนั้นหลังจากการสอบสวนได้สรุปว่า เป็นเพราะโ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 853

    หลังจากนางหมินไม่อยู่แล้ว หวังชิงหลูก็ต้องดูแลเรื่องงานบ้านงานเรือนต่อไป แต่ไม่มีเงินในบัญชี นางก็ไม่อยากใช้ทรัพย์สินส่วนตัวมาอุดหนุน ดังนั้นไม่อยากรับภาระนี้ เลยไปบ้านรองเพื่อตามหาฮูหยินผู้เฒ่ารอง จากนั้นโยนป้ายบนโต๊ะแล้วบอกว่าให้นางมาดูแลบ้านในอนาคตฮูหยินผู้เฒ่ารองกำลังเสียใจกับการตายของนางหมิน เมื่อเห็นการกระทำของหวังชิงหลู ก็โกรธมากจนโยนป้ายกลับไปให้นางทันที และตรงไปที่ห้องของฮูหยินผู้เฒ่า "ข้าต้องการแยกบ้าน"ฮูหยินผู้เฒ่าจ้านโกรธเคืองมาก "ตอนนี้ที่คนนอกมานินทาและหัวเราะเยาะจวนแม่ทัพของเรายังไม่มากพอหรือไง มาแยกในเวลานี้ จะให้คนนอกมานินทาอะไรอีก""มันเป็นกรรมที่พวกเจ้าก่อไว้ ทำไมให้ข้าโดนด่ากับพวกเจ้า แยกบ้าน ให้ผู้ชายกลับมาคืนนี้มานั่งหารือกัน จะแบ่งแยกให้ตามข้อตกลงเลย""นี่ไร้เหตุผลจริงๆ มาแยกบ้านตอนนี้ได้ยังไง ไม่มีทรัพย์สินเงินทอง ที่ดินบ้านไร่ก็ไม่มี มีแต่จวนแม่ทัพที่ว่างเปล่า จะแบางยังไง""สร้างกำแพงเพื่อแยกออก แล้วข้าจะทำประตูเอง" ฮูหยินผู้เฒ่ารองแสดงท่าทีแข็งกร้าวในครั้งนี้และจะไม่มีทางอ่อนข้อให้"เจ้าเป็นบ้าหรือไง บ้านรองอย่างเจ้าทั้งไร้ความสามารถและไม่มีเส้นสาย แยก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 854

    หวังชิงหลูส่งเสียง "อ๊า" ในปาก รีบหลบชามยาที่ฮูหยินผู้เฒ่าขว้างใส่นาง และนางก็ล้มกระแทกกับพื้น เดิมทีท้องน้อยได้ปวดจี๊ดๆ อยู่แล้วเพราะยุ่งกับเรื่องมากมายในหลายวันที่ผ่านมา พอล้มกับพื้นในคราวนี้ ทำให้นางเลือดออกเลยเมื่อฮูหยินผู้เฒ่าจ้านเห็นเช่นนั้นก็ตกใจมากป้าซุนรีบเรียกคนใช้มาส่งหวังชิงหลูกลับไปที่เรือนเหวินซี แล้วส่งคนไปตามหาหมอและผดุงครรภ์จ้านเป่ยว่างถูกเรียกกลับมาอย่างเร่งด่วน หมอและผดุงครรภ์ก็มาถึงแล้วทารกในท้องมีอายุครรภ์ไม่ครบเวลา และตำแหน่งของทารกในครรภ์ก็ผิดปกติ บวกกับล้มลงทำให้มีเลือดออกและน้ำคร่ำแตก เมื่อผดุงครรภ์เห็นสถานการณ์แบบนี้ก็เหงื่อออกทั้งหน้าผากนอกห้องคลอด จ้านเป่ยว่างเป็นกังวลมาก นี่เป็นลูกคนแรกของเขา และเขาเป็นพ่อคนเป็นครั้งแรก ดังนั้นในใจของเขาจึงเต็มไปด้วยความคาดหวังเสมอเพราะเด็กคนนี้ เขาจึงอดทนหลายสิ่งหลายอย่างที่หวังชิงหลูทำ ไม่อารมณ์เสียใส่นางหรือทะเลาะกับนาง แต่ไม่เคยคาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดในช่วงเวลาสำคัญนี้หมอเป็นสูตินรีแพทย์ชื่อดังในเมืองหลวง ขั้นแรกเขาตรวจชีพจรแล้วถอยกลับหลังฉากกันห้องเพื่อให้คำแนะนำ ทว่าสถานการณ์นี้รับมือยากจริง

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 855

    จ้านเป่ยว่างปกปิดไม่ได้ ได้แต่พูดตามความจริง "นางเถียงกับท่านแม่ไปกี่คำ และท่านแม่ใช้ชามไปขว้างใส่นาง นาเลยล้มลง..."ฮูหยินผู้เฒ่าป๋อผิงซีเกือบจะหายใจไม่ออกเลย นางพยายางทรงตัว "อะไรนะ แม่ของเจ้าเอาของขว้างใส่นางเหรอ?"จ้านเป่ยว่างทำหน้าอับอาย "ท่านแม่ยาย เรื่องนี้เป็นความผิดของท่านแม่ข้า แต่ตอนนี้สิ่งสำคัญอันดับแรกคือการช่วยชีวิตชิงหลู หมอบอกว่าชิงหลูเคยแท้งมาก่อน และมดลูกได้รับเสียหายจึงมีเลือดออกได้ง่าย ตอนนี้เลือดออกรุนแรงมาก จึงต้องดึงเด็กออกมาและใช้ยาห้ามเลือดเพื่อห้ามเลือดไว้"ใบหน้าที่โกรธเกรี้ยวของฮูหยินผู้เฒ่าป๋อผิงซีแข็งค้างทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของเขาเขารู้แล้วหรือ?นางจีกล่าวว่า "อย่าเพิ่งพูดเรื่องนี้เลย การช่วยชีวิตคนสำคัญกว่า เอาตามที่หมอบอกเลย""หมอบอกว่า" จ้านเป่ยว่างกังวลมาก "ให้ไปตามหาหมอมหัศจรรย์ดันมา แต่ตอนนี้ก็มืดแล้ว และหมอมหัศจรรย์ดันอาจไม่อยู่ในร้านขายยาเย่าหวัง ดังนั้นเราจึงใช้วิธีของเขาเท่านั้น"หมอได้เตรียมผงห้ามเลือดแล้ว นางจีเดินตามเข้าไป และเห็นหวังชิงหลูเหมือนกับเพิ่งออกมาจากแม่น้ำ เปียกโชกไปที่ทั้งตัวใบหน้าของนางซีดเซียวและแววตาก็ว่างเปล่า การทร

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 856

    ฮูหยินผู้เฒ่าป๋อผิงซีอยู่ในห้องคลอดสักพักหนึ่ง แล้วพูดกับนางจีว่า "ตอนนี้ที่จวนไม่มีนายหญิงที่ดูแลงานบ้านงานเรือน ฮูหยินผู้เฒ่าก็ป่วยอยู่ ชิงหลูผ่านการทรมานนี้ ได้ปวดทั้งใจและกาย ต้องการดูแลให้ดีๆ เจ้าช่วยพวกเขาที่นี่สักสองสามวันเถอะ"สุดท้ายแล้ว นางก็กลัวว่าหวังชิงหลูจะมีชีวิตไม่ดี หญิงชรานั้นโหดร้ายจริงๆ เอาชามไปขว้างใส่ทั้งอย่างนั้น ก็ไม่รู้ว่าในปกติแล้วลูกสาวของตนเองต้องโดนรังแกขนาดไหนเชียวแต่นางไม่ได้ไปหาฮูหยินผู้เฒ่าเพื่อเอาเรื่อง ที่จวนเพิ่งเสียคนไป และลูกสาวก็คลอดบุตรยากและเด็กก็ไม่รอดชีวิต หากเกิดอะไรขึ้นกับหญิงชราคนนั้นอีก...ช่างเถอะ ช่างเถอะ การแท้งบุตรไม่สามารถปกปิดได้อีก แต่จ้านเป่ยว่างอาจคิดว่าเป็นเด็กของนางกับเจ้าสิบเอ็ดฝาง แต่แค่รักษาเด็กไว้ไม่ได้ดังนั้นหากเรื่องนี้ผ่านได้ก็ให้มันผ่านไปเลยนางไม่มีหน้าเผชิญกับเรื่องนี้จริงๆนางจีไม่อยากอยู่ต่อเพื่อจัดการกับเรื่องยุ่งวุ่นวายทั้งหมดของจวนแม่ทัพจริงๆ แต่ในเมื่อท่านแม่ได้สั่งไว้แล้ว อีกอย่างจวนแม่ทัพไม่มีนายหญิงจริงๆ งั้นนางอยู่ต่อเพื่อดูแลให้สักสองสามวันก็ถือว่ามีน้ำใจมากพอแล้วอย่างไรก็ตาม นางจะไม่อาศัยอยู่ในจวน

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 857

    เมื่อนางจีได้ยินอย่างนั้น ก็พอจะรู้ว่าพี่น้องสะใภ้สองคนนี้เคยมีเรื่องกัน และหัวใจของนางก็จมดิ่งลง แต่จะต้องไม่ทะเลาะก่อนที่นางหมินเกิดเรื่อง"เล่าเลย ข้าต้องการรู้ทุกอย่างต้องละเอียดด้วย" นางจีกล่าวหงเอ๋อร์จึงเล่าทุกอย่างที่นางรู้ให้ นางจีสรุปว่า "สามเรื่อง เรื่องแรกคือนางให้ฮูหยิใหญ่ดูแลบ้าน แต่ให้เงินเดือนเพียงสามส่วนของจ้านเป่ยว่าง แต่ของกินของใช้รวมค่าขนมค่าแรงคนใช้ให้จวนออกให้หมด เรื่องที่สอง หลังจากทะเลาะกับฮูหยินใหญ่เนื่องจากเหตุผลนี้ จากนั้นใช้วิธีรุนแรง โดยยื่นยื่นกรรไกรให้ฮูหยินใหญ่เพื่อให้แทงที่ท้องของนาง เรื่องที่สาม โทษฮูหยินใหญ่ซื้อเม็ดซืนเจียวน้อยไป ใช่ไหม"หงเอ๋อร์พยักหน้า "ถูกต้องเจ้าค่ะ""ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นก่อนที่ฮูหยินใหญ่จะแขวนคอตาย แล้วก่อนหน้านี้ล่ะ? ได้มีเรื่องกันไหม"หงเอ๋อร์คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า "ไม่มีความขัดแย้งอย่างรุนแรงอะไร แต่ฮูหยินก็ดูถูกฮูหยินใหญ่มาตลอด บางครั้งอาจจะพูดจาหยาบคายไปหน่อย""หยาบคายยังไง ถึงขั้นไหน?"หงเอ๋อร์อาจจะชินแล้ว หลังๆ นางก็คิดว่าก็ไม่ได้หยาบคายมากเท่าไร "ส่วนมากก็ว่าฮูหยินใหญ่เป็นคนชั้นต่ำ ไม่มีพ่อแม่สั่งสอน ใจแคบ ชอบคิ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 858

    ในตอนกลางคืน ณ จวนเป่ยหมิงอ๋อง ห้องหนังสือก็สว่างไสว"เจ้าตัดสินใจดีแล้วจริงๆ เหรอ?" เซี่ยหลูโม่ถามซ่งซีซีอีกครั้ง "เจ้าต้องรู้ว่าการทำเช่นนี้อาจทำให้เกิดปัญหามากมายและอาจนำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์"ซ่งซีซีมองดูเขา "ท่านจะสนับสนุนข้าใช่ไหม?""มันเป็นการตัดสินใจของเจ้า และข้าจะสนับสนุนเจ้าอย่างแน่นอน" เซี่ยหลูโม่ยิ้มอย่างอบอุ่นเสิ่นว่านจือเท้าคาง "ข้าไม่เพียงแต่สนับสนุนเท่านั้น ข้ายังออกเงินและออกแรงเพื่อสนับสนุนเจ้าด้วย"ซ่งซีซีมองไปที่อาจารย์หยู "อาจารย์หยูคิดว่าอย่างไรเล่า?"อาจารย์หยูครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง "จากมุมมองของจวนอ๋อง ข้าไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน แต่จากมุมมองของมนุษย์ ข้าก็สนับสนุนด้วย""ศิษย์พี่?" ซ่งซีซีมองไปที่เสิ่นชิงเหอ ศิษย์พี่ยังไม่ได้แสดงจุดยืนของเขาเสิ่นชิงเหอพยักหน้า "ศิษย์พี่จะไม่สนับสนุนสิ่งที่เจ้าต้องการทำได้อย่างไร แต่ขอพูดไว้ก่อน ในเมื่อเจ้าตัดสินใจแล้ว ก็ต้องคำนึงถึงผลที่ตามมาและสามารถรับผลที่ตามมาได้""ข้ารู้" แสงส่องไปที่ดวงตาของซ่งซีซี ซึ่งทำให้นางดูสดใสมากยิ่งขึ้น "ข้าไม่ได้หุนหันพลันแล่น ข้าคิดเรื่องการจัดตั้งสถาบันการศึกษาสตรีมาหลายวันแล้ว แต่อย่า

Latest chapter

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1606

    ผู้ใต้บัญชาทำงานรวดเร็วยิ่งนัก ตอนที่เขาลืมตาตื่น เครื่องทรมานก็ถูกขนเข้ามาเรียบร้อยแล้วเตาถ่านถูกตั้งขึ้น คีมเหล็กถูกเผาจนแดง แส้ที่เปื้อนเลือดฟาดกลางอากาศสองสามครั้ง เพี้ยะ เพี้ยะ ดังสะท้านใจหลิวเซิ่งถึงอย่างไรก็เคยฆ่าคนมาก่อน ใจคอจึงหนักแน่นแม้ยามเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ มิแม้แต่กระพริบตา กล่าวว่า “พวกเจ้าตั้งศาลเถื่อนเช่นนี้ ถือเป็นความผิดใหญ่หลวง พวกเจ้ายังมีขื่อมีแปหรือไม่?”คนบางประเภทก็มักเป็นเช่นนี้ คิดว่ากฎหมายใช้บังคับกับใครก็ได้ ยกเว้นตนเองตนกระทำผิด แต่กลับคิดใช้กฎหมายปกป้องตนกับคนประเภทนี้ ไม่จำเป็นต้องโต้แย้ง การโต้แย้งมีแต่จะยิ่งเปิดช่องให้เขาพูดจาไร้สาระมากขึ้นข้าหยิบคีมเหล็กที่ถูกเผาจนแดงก่ำหนีบเข้าที่แขนเขาทันที พอกดแน่นลงไป เสื้อก็ละลายจนเป็นรู เสียงเนื้อถูกไหม้ดัง ซี่ๆๆ…เสียงกรีดร้องโหยหวนดังลั่นไม่เป็นไร ที่นี่เป็นห้องใต้ดินลับ ต่อให้ร้องจนเสียงขาดหาย ก็ไม่มีผู้ใดได้ยินแม้กระดูกจะแข็งเพียงใด แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเครื่องทรมาน ก็ไร้ซึ่งพลังต่อต้านข้ายังมิทันได้เริ่มถอนเล็บ เขาก็สารภาพทุกสิ่งอย่างละเอียดทั้งสองครอบครัวสนิทกันจริง พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายร

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1605

    ข้ามองดูหลิวเซิ่งพูดยั่วยุนางไม่หยุด คล้ายจะจงใจยั่วยุให้นางคิดสั้น ไม่ได้มีเจตนาจะลงมือฆ่าเอง“ครอบครัวเจ้าตายหมดแล้ว เจ้ายังจะอยู่ต่อไปอย่างครึ่งคนครึ่งผี บ้าๆ บอๆ เช่นนี้อีกหรือ? เจ้าก็แค่สวะ ครอบครัวเจ้าก็เป็นสวะ! ยังจะกล้ามาหัวเราะเยาะข้าว่าสอบไม่ติดอีกหรือ? พวกเจ้ามันสมควรตายทั้งบ้าน เจ้าดูเชือกที่ห้องเก็บฟืนสิ ใช้มันแขวนคอตัวเองเสีย แล้วจะได้ไปอยู่กับครอบครัวเจ้า”“หากเจ้ายังไม่ตาย พวกเขาจะต้องตกนรกสิบแปดชั้น ถูกไฟเผาทุกวัน ถูกควักหัวใจ ถอนลิ้น เพราะพวกเจ้ามันใจดำอำมหิต ชอบใส่ร้ายป้ายสี นี่คือกรรมสนองที่สวรรค์ประทานให้ พวกทำชั่วไม่สมควรมีชีวิตอยู่”ข้ายิ่งฟังยิ่งโกรธจนแทบระเบิด คนทำชั่วคือเขาชัดๆ แต่กลับพลิกกลับความหมายเสียอย่างหน้าด้านๆแม่นางสุ่ยในยามนี้ก็บ้าเสียแล้ว หากถูกเขายั่วยุหนักเข้า ก็อาจคิดฆ่าตัวตายได้จริงๆข้าเปิดประตูพุ่งออกไป ห้องข้ากับห้องแม่นางสุ่ยอยู่ติดกัน พอข้าไปถึง หลิวเซิ่งยังไม่ทันตั้งตัว ยังปิดปากแม่นางสุ่ยอยู่เมื่อเห็นข้า แววตาเขาก็สั่นไหว รีบปล่อยมือทันทีแม่นางสุ่ยตกใจจนน้ำตาร่วง แต่นางไม่ได้ส่งเสียงร้อง แม้แต่เสียงสะอื้นก็ไม่มีข้าจ้องหน้าเขาแ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1604

    สุดท้ายข้าก็ทำได้เพียงลอบเฝ้าติดตามแม่นางสุ่ยในเงามืดข้าคิดว่า ฆาตกรที่ฆ่าล้างครอบครัวนาง ย่อมต้องมีแรงจูงใจเป็นแน่หากโหดเหี้ยมถึงเพียงนี้ ไม่เพราะรัก ก็ต้องเพราะแค้น หรือไม่ก็เพราะเงินทอง อย่างไรเสียย่อมต้องมีสักอย่างแม่นางสุ่ยยังมีชีวิตอยู่ แล้วฆาตกรจะสามารถหลบหนีไปได้อย่างสงบเช่นนั้นหรือ?มีความเป็นไปได้หรือไม่ว่า พอเรื่องราวเงียบไปแล้ว ฆาตกรจะย้อนกลับมาฆ่านางอีกครั้ง?การคาดคะเนนี้ดูจะมีเหตุผล แต่ประเด็นสำคัญคือ ข้าไม่อาจหาทิศทางอื่นได้อีกแล้วเถ้าแก่สวีเดิมทีจ้างแม่นมมาคอยดูแลแม่นางสุ่ย แต่แม่นางสุ่ยนั้นหวาดกลัวคนแปลกหน้าอย่างยิ่ง ดังนั้นเถ้าแก่สวีจึงได้แต่ขอร้องให้เพื่อนบ้านโดยรอบแวะเวียนมาดูบ้าง ส่งอาหารมาให้บ้างมารดาของหลิวเซิ่งจะมาทุกวันเว้นวัน เพื่ออาบน้ำล้างหน้าให้แม่นางสุ่ย คอยดูแลให้สะอาดเรียบร้อยข้าพบว่าตระกูลหลิวยังปฏิบัติต่อนางด้วยดี เพียงแต่หลิวเซิ่งผู้นั้นกลับไม่เคยมา หนึ่งคือเขาต้องกลับไปยังโรงเรียน สองคืออาจเพราะในใจก็ยังมีความคับแค้นอยู่บ้าง เพราะคำกล่าวหาของแม่นางสุ่ยที่ทำให้เขาต้องติดคุกอยู่ช่วงหนึ่งชายหนุ่มผู้เป็นบัณฑิตย่อมมีความเย่อหยิ่งในใจบ้าง

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1603

    ก่อนจะไปยังหนานเจียง ข้าไม่เคยมีแผนการใดในชีวิต ไม่มีเป้าหมาย ไม่เคยมีสิ่งใดที่อยากทำเป็นพิเศษเมื่อยึดหนานเจียงกลับคืนมาแล้วเดินทางกลับสู่เมืองหลวง เสียงโห่ร้องยินดีจากราษฎรทำให้ข้ารู้สึกว่า หากมนุษย์ใช้ชีวิตอย่างไร้จุดหมายไปวันๆ เช่นนั้นจะไม่สูญเปล่าหรือ?ข้าจึงเริ่มครุ่นคิดถึงความหมายของชีวิตจากการติดตามย่างก้าวของซีซี ข้าก็ได้ทำสิ่งต่างๆ มากมาย ตั้งแต่โรงงานช่างไปจนถึงสถาบันการศึกษาหย่าจวินหญิงมากหลายล้วนประสบชะตาน่าเวทนา และข้ามีความสามารถที่จะช่วยพวกนางได้ ข้าคิดว่า นี่คงเป็นหนึ่งในความหมายของชีวิตว่าเป็น “หนึ่ง” ก็หมายความว่ายังอาจมี “สอง” และ “สาม” ตามมาได้มิใช่ข้าจะโอ้อวดตนเอง แต่เนื้อแท้ของข้าคือคนที่ชังความชั่วโดยสันดานดังนั้น เมื่อได้ยินว่ามีฆาตกรฆ่าคนจำนวนมาก แต่กลับลอยนวลเพราะหลักฐานไม่เพียงพอ ไม่อาจเอาผิดได้ ข้าย่อมโกรธเคืองนัก ข้าเห็นว่า คนฆ่าย่อมต้องชดใช้ด้วยชีวิตแรกเริ่ม ข้าไม่ได้กระทำการอันใดหุนหันพลันแล่น เพียงแต่เดินตามแนวทางของสำนักเขตจิงจ้าว สืบสาวเรื่องราวต่อไป และส่งมอบหลักฐานที่ได้มาให้แก่เจ้ากรมแห่งสำนักเขตจิงจ้าวจนกระทั่งข้าได้พบกับคดีหนึ่งที

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1602

    ดอกเหมยบนภูเขาเหม่ยชานบานแล้ว ร่วงโรยแล้วเช่นกันในใจข้าย่อมอดเคืองนางไม่ได้ กลับบ้านไปแล้ว ก็จะทอดทิ้งพวกข้าด้วยหรือ? ไม่นึกถึงน้ำใจไมตรีที่มีต่อกันตลอดหลายปีมานี้เลยหรือ?เฉินเฉินก็ด่านางว่าไร้หัวใจ ไปก็แล้วไป ไยจึงไม่แม้แต่จะส่งจดหมายมาสักฉบับ?นานวันเข้าพวกข้าก็เลิกพูดถึงนางเสียเอง ราวกับว่าการไม่เอ่ยชื่อนางเลย คือการแก้แค้นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดต่อผู้ละทิ้งพวกข้าต่างก็ตกลงกันไว้ว่า หากนางกลับมายังภูเขาเหม่ยชานอีกครั้ง ไม่ว่าใครก็จะไม่ไปพบนาง ไม่พูดกับนางสักคำ แม้นางจะให้คนส่งจดหมายมา ข้าก็จะไม่ตอบกลับ แม้แต่จะอ่านยังไม่อ่านวันเวลาผ่านไปกลางดาบคมและเงาเย็น พวกข้าทุกคนต่างฝึกฝนวิชาให้แกร่งกล้า ราวกับได้ตกลงกันไว้แล้วว่า หากยังไม่ตาย ก็จะฝึกจนสุดกำลังแม้ไม่มีผู้ใดเอ่ยวาจา แต่ข้าย่อมรู้ว่าในใจของทุกคนคิดไม่ต่างกัน ย่อมไม่มีวันเป็น ‘นางที่ยิ้มแย้ม’ ได้อีกแล้ว เพราะเจ้าหวังห้าเล่าว่า ตั้งแต่นางจากเขาลงไป ท่านอาจารย์ก็ไม่เคยยิ้มอีกเลย มีแต่สีหน้าเคร่งเครียดทุกเมื่อเชื่อวันพวกข้าไม่รู้ว่านางประสบเรื่องราวใด แต่ข้าก็ฝึกฝนจนกล้าแข็ง เพียงรอวันที่นางต้องการข้า ดาบในมือย่อมพร้อมชักออกจา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1601

    เพียงแต่ ข้ากับซีซีพบกันแทบทุกวัน หากนางไม่มาหาข้าที่สถาบันชื่อเยียน ข้าก็จะไปหานางที่สำนักว่านซง ด้วยเหตุนี้ ข้าจึงยังคงได้พบหวังเยว่จางอยู่เสมอทว่า ทุกคราที่เขาเห็นข้า ก็จะส่งสายตาเคียดแค้นมาให้ ราวกับข้าเป็นผู้ล่วงเกินเขากระนั้นครั้งหนึ่งข้าทนไม่ไหว เอ่ยถามเขาว่าจะมองเขม่นข้าไปถึงไหน เขากลับว่าข้าเป็นคนแพร่ข่าวลือ ว่าเขาไปเที่ยวหอนางโลมข้าก็โกรธแทบขาดใจ! เขาประพฤติเสียเอง ไม่รู้จักสำนึก กลับมาโทษคนที่บริสุทธิ์ ข้าไม่ได้แพร่ข่าวลือเสียหน่อย!ข้าแค่เล่าเรื่องนี้ให้สหายสนิทของข้าฟัง แล้วจะนับว่าแพร่ข่าวลือได้อย่างไร?ข้าโมโหจนต่อยเขาไปหนึ่งหมัด แล้วก็ประกาศตัดขาดกับเขาเสียเลยต่อมา ซีซีกลับบ้าน ข้าคิดว่าไม่นานนางก็คงกลับมาเช่นเคย แต่ครานี้ นางกลับหายไปเนิ่นนาน มิได้กลับสำนักภูเขาเหม่ยชานอีกเลยข้าไปที่สำนักว่านซงเพื่อถามหา แต่มิมีผู้ใดยอมปริปากแม้แต่คนเดียวด้วยความร้อนใจ ข้าคิดจะพาเฉินเฉินกับมันโถวออกเดินทางไปเมืองหลวงตามหานาง ก่อนออกเดินทาง หวังเยว่จางก็มาหาเราครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่ข้าเห็นเขามีสีหน้าเคร่งขรึม เขาบอกพวกเราว่า ซีซีมีเรื่องในบ้าน บิดาและพี่ชายล้วนเสียชีวิ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1600

    แต่จะว่าไปแล้ว สตรีเช่นข้า ก็เป็นที่โปรดปรานของบุรุษไม่น้อยที่ภูเขาเหม่ยชาน มีบุรุษมากมายชื่นชอบข้า เด็กหนุ่มวัยกำลังขึ้นหนวดอ่อนส่งจดหมายรักให้ข้าเขินๆ อายๆ ส่งมาครั้งแล้วครั้งเล่าข้าก็ไม่เคยเปิดดู ต่อหน้าพวกเขาก็ฉีกมันทิ้งเสียเลยในเมื่อยามนั้น ข้ายังไม่ได้เข้าใจตรรกะของคำปฏิญาณที่ตนตั้งไว้ดีนัก ในใจก็ยังมีคำว่า "ไม่แต่ง" ขวางอยู่เต็มอกข้าฉีกจดหมายรักต่อหน้าพวกเขา ข้ารู้ว่าตนโหดร้าย แต่ขอโทษเถิด ในเมื่อข้าคือสตรีที่ตั้งใจว่าจะไม่ข้องเกี่ยวกับเรื่องรักใคร่ชั่วชีวิต ข้าย่อมต้องใจแข็ง ไม่ปล่อยให้พวกเขามีแม้แต่นิดเดียวของความหวังร้องไห้เสียในตอนนี้ ยังดีกว่าติดบ่วงในวันหน้า จนเจ็บปวดปานฉีกหัวใจแม้พวกเขาจะบอกหน้าตาเศร้าว่าให้ข้าช่วยส่งจดหมายรักให้ซ่งซีซีก็ตาม ข้าก็ไม่หวั่นไหวเลยแม้แต่น้อยหึๆ ยังไม่ทันได้เป็นบุรุษเต็มตัว ก็รู้จักใช้เล่ห์กลยั่วยวนหญิงเสียแล้วที่ภูเขาเหม่ยชาน เพื่อนเล่นที่ดีที่สุดของข้าก็คือพวกซีซี หมั่นโถว เฉินเฉิน และกุ้นเอ๋อร์อ้อ เคยมีอยู่ช่วงหนึ่ง ศิษย์พี่ใหญ่ของเฉินเฉินก็มาเล่นกับพวกเราด้วย แต่น่าเสียดาย ต่อมาเขาก็ลงเขาไปผดุงคุณธรรมเสียแล้ว แต่เฉินเฉินบ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1599

    ข้า...เสิ่นว่านจือคนดีคนเดิม ยังคงอยากจะบ่นอยู่ บ่นถึงบุรุษของข้าหวังเยว่จาง เจ้านี่ช่างสมกับเป็นบุตรของท่านฮูหยินผู้เฒ่าหวังเสียจริงก่อนแต่งงานเราก็ตกลงกันไว้ชัดเจนแล้วว่า ต่อแต่นี้ไปไม่ว่าข้าจะทำสิ่งใด เขาห้ามแทรกแซง ห้ามห้ามปราม และห้ามเข้าร่วมโดยเด็ดขาดผลสุดท้าย เพิ่งแต่งได้ปีเดียว เขาก็ฉีกสัญญาทิ้งหมดสิ้น จะทำด้วยทุกเรื่องตามข้าสิ่งที่ข้าทำนั้น เขาเกี่ยวข้องได้หรือ? ย่อมไม่ได้ สำนักว่านซงมีกฎเข้มงวด อีกทั้งยังมีอาจารย์อาผู้เหี้ยมโหดนั่งประจำอยู่ หากรู้ว่าข้าพาหวังเยว่จางไปตัดหัวคน เกรงว่าจะบดกระดูกข้าเป็นผุยผงไปแล้วแต่เขาว่า เดิมเขาก็เป็นคนในยุทธภพ คนในยุทธภพล้วนถือความสะใจเป็นใหญ่ ทั้งบุญคุณและความแค้น ไม่ว่าเป็นของผู้ใด ก็ล้วนต้องตอบแทนอีกทั้งเราทำอย่างลับๆ สถาบันว่านซงเหมินย่อมไม่รู้เรื่องแต่พี่ห้า ท่านเข้าสังกัดกรมกลาโหมไปแล้วนะ ท่านก็เป็นขุนนางแล้ว จะยังพูดเรื่องยุทธภพสะใจล้างแค้นอะไรอีกเล่า?สิ่งที่ข้าทำ แม้แต่ซ่งซีซีก็ยังไม่รู้ทั้งหมด หรือหากนางรู้ นางก็คงเลือกที่จะปิดหูปิดตาเสีย เพราะว่ามันขัดแย้งกับสถานะ เข้าใจหรือไม่?ข้า...เสิ่นว่านจือ ไม่ย่างกรายเข้าสู่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1598

    บางครั้งข้าก็สอนศิษย์ทั้งหลายให้กล้าเผชิญหน้ากับชีวิต กล้าเผชิญหน้ากับความผิดพลาด แต่ตัวข้าเองกลับมิอาจกระทำได้เช่นนั้นหลายปีมานี้ ข้าแทบไม่ได้พบหน้าเขาเลย หากรู้ว่าเขาจะไปที่ใด ข้าย่อมหลีกเลี่ยงไม่ไปเมื่อครั้งที่ข้ายังดื้อดึงอยู่ เคยถูกพี่สะใภ้ตำหนิว่าข้ายังติดหนี้เจ้าสิบเอ็ดฝางอยู่ แต่ในใจข้ากลับไม่ยอมรับนัก ยังรู้สึกน้อยใจอยู่บ้างแต่ตอนนี้เมื่อคิดย้อนกลับไป ข้าน้อยใจไปเพื่ออะไรเล่า? ใครเป็นคนที่ติดหนี้ข้ากัน? ฟ้าดินเมตตาข้าไม่มากพอแล้วหรือ? ทุกสิ่งล้วนเป็นผลจากการกระทำของข้าเองทั้งสิ้นหลายครา ข้าเปิดกระดาษเขียนจดหมาย ตั้งใจจะเขียนถึงเขาเพื่อขอขมาจากใจจริงแต่ยามจับพู่กันลงหมึก พอหมึกหยดลงกระดาษกลับเขียนไม่ออกแม้แต่คำเดียวข้ากลัวว่าจดหมายขอขมานั้นจะดูแปลกประหลาดเกินไป ทำให้ภรรยาของเขาระแวง หรือแม้แต่ทำให้จ้านเป่ยว่างคิดมากแม้ว่าตอนนี้ ข้ากับจ้านเป่ยว่างจะมิได้เป็นสามีภรรยากันจริงๆ แล้วก็ตาม แต่ข้าก็ไม่ต้องการทำลายความสงบเช่นนี้ระหว่างนั้น จ้านเป่ยว่างเคยกลับมาสองสามครั้ง อาจเพราะเห็นกองกระดาษที่ถูกขยำทิ้งในห้องหนังสือของข้า เขาจึงสั่งให้เตรียมเหล้าหนึ่งเหยือก กับกับข้า

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status