แชร์

บทที่ 854

ผู้เขียน: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-08-14 18:38:28
หวังชิงหลูส่งเสียง "อ๊า" ในปาก รีบหลบชามยาที่ฮูหยินผู้เฒ่าขว้างใส่นาง และนางก็ล้มกระแทกกับพื้น เดิมทีท้องน้อยได้ปวดจี๊ดๆ อยู่แล้วเพราะยุ่งกับเรื่องมากมายในหลายวันที่ผ่านมา พอล้มกับพื้นในคราวนี้ ทำให้นางเลือดออกเลย

เมื่อฮูหยินผู้เฒ่าจ้านเห็นเช่นนั้นก็ตกใจมาก

ป้าซุนรีบเรียกคนใช้มาส่งหวังชิงหลูกลับไปที่เรือนเหวินซี แล้วส่งคนไปตามหาหมอและผดุงครรภ์

จ้านเป่ยว่างถูกเรียกกลับมาอย่างเร่งด่วน หมอและผดุงครรภ์ก็มาถึงแล้ว

ทารกในท้องมีอายุครรภ์ไม่ครบเวลา และตำแหน่งของทารกในครรภ์ก็ผิดปกติ บวกกับล้มลงทำให้มีเลือดออกและน้ำคร่ำแตก เมื่อผดุงครรภ์เห็นสถานการณ์แบบนี้ก็เหงื่อออกทั้งหน้าผาก

นอกห้องคลอด จ้านเป่ยว่างเป็นกังวลมาก นี่เป็นลูกคนแรกของเขา และเขาเป็นพ่อคนเป็นครั้งแรก ดังนั้นในใจของเขาจึงเต็มไปด้วยความคาดหวังเสมอ

เพราะเด็กคนนี้ เขาจึงอดทนหลายสิ่งหลายอย่างที่หวังชิงหลูทำ ไม่อารมณ์เสียใส่นางหรือทะเลาะกับนาง แต่ไม่เคยคาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดในช่วงเวลาสำคัญนี้

หมอเป็นสูตินรีแพทย์ชื่อดังในเมืองหลวง ขั้นแรกเขาตรวจชีพจรแล้วถอยกลับหลังฉากกันห้องเพื่อให้คำแนะนำ ทว่าสถานการณ์นี้รับมือยากจริง
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 855

    จ้านเป่ยว่างปกปิดไม่ได้ ได้แต่พูดตามความจริง "นางเถียงกับท่านแม่ไปกี่คำ และท่านแม่ใช้ชามไปขว้างใส่นาง นาเลยล้มลง..."ฮูหยินผู้เฒ่าป๋อผิงซีเกือบจะหายใจไม่ออกเลย นางพยายางทรงตัว "อะไรนะ แม่ของเจ้าเอาของขว้างใส่นางเหรอ?"จ้านเป่ยว่างทำหน้าอับอาย "ท่านแม่ยาย เรื่องนี้เป็นความผิดของท่านแม่ข้า แต่ตอนนี้สิ่งสำคัญอันดับแรกคือการช่วยชีวิตชิงหลู หมอบอกว่าชิงหลูเคยแท้งมาก่อน และมดลูกได้รับเสียหายจึงมีเลือดออกได้ง่าย ตอนนี้เลือดออกรุนแรงมาก จึงต้องดึงเด็กออกมาและใช้ยาห้ามเลือดเพื่อห้ามเลือดไว้"ใบหน้าที่โกรธเกรี้ยวของฮูหยินผู้เฒ่าป๋อผิงซีแข็งค้างทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของเขาเขารู้แล้วหรือ?นางจีกล่าวว่า "อย่าเพิ่งพูดเรื่องนี้เลย การช่วยชีวิตคนสำคัญกว่า เอาตามที่หมอบอกเลย""หมอบอกว่า" จ้านเป่ยว่างกังวลมาก "ให้ไปตามหาหมอมหัศจรรย์ดันมา แต่ตอนนี้ก็มืดแล้ว และหมอมหัศจรรย์ดันอาจไม่อยู่ในร้านขายยาเย่าหวัง ดังนั้นเราจึงใช้วิธีของเขาเท่านั้น"หมอได้เตรียมผงห้ามเลือดแล้ว นางจีเดินตามเข้าไป และเห็นหวังชิงหลูเหมือนกับเพิ่งออกมาจากแม่น้ำ เปียกโชกไปที่ทั้งตัวใบหน้าของนางซีดเซียวและแววตาก็ว่างเปล่า การทร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-14
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 856

    ฮูหยินผู้เฒ่าป๋อผิงซีอยู่ในห้องคลอดสักพักหนึ่ง แล้วพูดกับนางจีว่า "ตอนนี้ที่จวนไม่มีนายหญิงที่ดูแลงานบ้านงานเรือน ฮูหยินผู้เฒ่าก็ป่วยอยู่ ชิงหลูผ่านการทรมานนี้ ได้ปวดทั้งใจและกาย ต้องการดูแลให้ดีๆ เจ้าช่วยพวกเขาที่นี่สักสองสามวันเถอะ"สุดท้ายแล้ว นางก็กลัวว่าหวังชิงหลูจะมีชีวิตไม่ดี หญิงชรานั้นโหดร้ายจริงๆ เอาชามไปขว้างใส่ทั้งอย่างนั้น ก็ไม่รู้ว่าในปกติแล้วลูกสาวของตนเองต้องโดนรังแกขนาดไหนเชียวแต่นางไม่ได้ไปหาฮูหยินผู้เฒ่าเพื่อเอาเรื่อง ที่จวนเพิ่งเสียคนไป และลูกสาวก็คลอดบุตรยากและเด็กก็ไม่รอดชีวิต หากเกิดอะไรขึ้นกับหญิงชราคนนั้นอีก...ช่างเถอะ ช่างเถอะ การแท้งบุตรไม่สามารถปกปิดได้อีก แต่จ้านเป่ยว่างอาจคิดว่าเป็นเด็กของนางกับเจ้าสิบเอ็ดฝาง แต่แค่รักษาเด็กไว้ไม่ได้ดังนั้นหากเรื่องนี้ผ่านได้ก็ให้มันผ่านไปเลยนางไม่มีหน้าเผชิญกับเรื่องนี้จริงๆนางจีไม่อยากอยู่ต่อเพื่อจัดการกับเรื่องยุ่งวุ่นวายทั้งหมดของจวนแม่ทัพจริงๆ แต่ในเมื่อท่านแม่ได้สั่งไว้แล้ว อีกอย่างจวนแม่ทัพไม่มีนายหญิงจริงๆ งั้นนางอยู่ต่อเพื่อดูแลให้สักสองสามวันก็ถือว่ามีน้ำใจมากพอแล้วอย่างไรก็ตาม นางจะไม่อาศัยอยู่ในจวน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-14
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 857

    เมื่อนางจีได้ยินอย่างนั้น ก็พอจะรู้ว่าพี่น้องสะใภ้สองคนนี้เคยมีเรื่องกัน และหัวใจของนางก็จมดิ่งลง แต่จะต้องไม่ทะเลาะก่อนที่นางหมินเกิดเรื่อง"เล่าเลย ข้าต้องการรู้ทุกอย่างต้องละเอียดด้วย" นางจีกล่าวหงเอ๋อร์จึงเล่าทุกอย่างที่นางรู้ให้ นางจีสรุปว่า "สามเรื่อง เรื่องแรกคือนางให้ฮูหยิใหญ่ดูแลบ้าน แต่ให้เงินเดือนเพียงสามส่วนของจ้านเป่ยว่าง แต่ของกินของใช้รวมค่าขนมค่าแรงคนใช้ให้จวนออกให้หมด เรื่องที่สอง หลังจากทะเลาะกับฮูหยินใหญ่เนื่องจากเหตุผลนี้ จากนั้นใช้วิธีรุนแรง โดยยื่นยื่นกรรไกรให้ฮูหยินใหญ่เพื่อให้แทงที่ท้องของนาง เรื่องที่สาม โทษฮูหยินใหญ่ซื้อเม็ดซืนเจียวน้อยไป ใช่ไหม"หงเอ๋อร์พยักหน้า "ถูกต้องเจ้าค่ะ""ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นก่อนที่ฮูหยินใหญ่จะแขวนคอตาย แล้วก่อนหน้านี้ล่ะ? ได้มีเรื่องกันไหม"หงเอ๋อร์คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า "ไม่มีความขัดแย้งอย่างรุนแรงอะไร แต่ฮูหยินก็ดูถูกฮูหยินใหญ่มาตลอด บางครั้งอาจจะพูดจาหยาบคายไปหน่อย""หยาบคายยังไง ถึงขั้นไหน?"หงเอ๋อร์อาจจะชินแล้ว หลังๆ นางก็คิดว่าก็ไม่ได้หยาบคายมากเท่าไร "ส่วนมากก็ว่าฮูหยินใหญ่เป็นคนชั้นต่ำ ไม่มีพ่อแม่สั่งสอน ใจแคบ ชอบคิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-14
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 858

    ในตอนกลางคืน ณ จวนเป่ยหมิงอ๋อง ห้องหนังสือก็สว่างไสว"เจ้าตัดสินใจดีแล้วจริงๆ เหรอ?" เซี่ยหลูโม่ถามซ่งซีซีอีกครั้ง "เจ้าต้องรู้ว่าการทำเช่นนี้อาจทำให้เกิดปัญหามากมายและอาจนำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์"ซ่งซีซีมองดูเขา "ท่านจะสนับสนุนข้าใช่ไหม?""มันเป็นการตัดสินใจของเจ้า และข้าจะสนับสนุนเจ้าอย่างแน่นอน" เซี่ยหลูโม่ยิ้มอย่างอบอุ่นเสิ่นว่านจือเท้าคาง "ข้าไม่เพียงแต่สนับสนุนเท่านั้น ข้ายังออกเงินและออกแรงเพื่อสนับสนุนเจ้าด้วย"ซ่งซีซีมองไปที่อาจารย์หยู "อาจารย์หยูคิดว่าอย่างไรเล่า?"อาจารย์หยูครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง "จากมุมมองของจวนอ๋อง ข้าไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน แต่จากมุมมองของมนุษย์ ข้าก็สนับสนุนด้วย""ศิษย์พี่?" ซ่งซีซีมองไปที่เสิ่นชิงเหอ ศิษย์พี่ยังไม่ได้แสดงจุดยืนของเขาเสิ่นชิงเหอพยักหน้า "ศิษย์พี่จะไม่สนับสนุนสิ่งที่เจ้าต้องการทำได้อย่างไร แต่ขอพูดไว้ก่อน ในเมื่อเจ้าตัดสินใจแล้ว ก็ต้องคำนึงถึงผลที่ตามมาและสามารถรับผลที่ตามมาได้""ข้ารู้" แสงส่องไปที่ดวงตาของซ่งซีซี ซึ่งทำให้นางดูสดใสมากยิ่งขึ้น "ข้าไม่ได้หุนหันพลันแล่น ข้าคิดเรื่องการจัดตั้งสถาบันการศึกษาสตรีมาหลายวันแล้ว แต่อย่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-14
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 859

    ในท้องพระโรง เสียงต่อต้านก็ท่วมท้น"เหลวไหล ถ้าสถานที่เช่นนั้นถูกจัดตั้งขึ้นมา งั้นสามคล้อยสี่คุณธรรมจะไม่กลายเป็นเรื่องไร้สาระแล้วหรือ?" (สามคล้อยสี่คุณธรรม "สามคล้อย" คือ ยังไม่ออกเรือนคล้อยตามบิดา ออกเรือนคล้อยตามสามี สามีถึงแก่กรรมแล้วคล้อยตามบุตรชาย ส่วน "สี่คุณธรรม" คือ นารีธรรม นารีพงษ์ นารีลักษณ์ นารีกิจ)"ใช่ สิ่งนี้จะส่งเสริมให้ผู้หญิงเกิดความเย่อหยิ่ง ทำให้พวกนางไม่เคารพผู้ใหญ่ อิจฉาขี้หึง และแม้กระทั่งสร้างปัญหาให้ฝ่ายในครอบครัวด้วย""ข้าว่านี่คงมิใช่ความเห็นของท่านอ๋อง แต่เป็นความเห็นของพระชายามากกว่ากระมัง เพื่อที่จะเอาใจพระชายา ถึงกับสละศักดิ์ศรีความเป็นลูกผู้ชาย มันน่าขำจริงๆ"จักรพรรดิ์ซูชิงมองดูความปั่นป่วนด้านล่างจากบัลลังก์ของเขา เม้มริมฝีปากบ้างและยกริมฝีปากบ้าง แต่มันก็เรื่องน่าดูจริงๆ เพราะตั้งแต่เซี่ยหลูโม่กลับมาจากสนามรบเขตหนานเจียง มีเพียงคนที่ยกย่องเขาและน้อยมากเลยที่ด่าเขาเขาถอนหายใจในใจ น้องโม่เอ๊ย เจ้านี่ยังอ่อนไปหน่อย นี่เจ้ากำลังแตะต้องจุดห้ามของทุกคน หากสตรีมีทางออก แล้วให้พวกเขาควบคุมสตรีได้อย่างไร? เจ้าต้องการที่จะชนะใจประชาชน แต่กลับไม่รู้ว่าเจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-14
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 860

    ฮูหยินผู้เฒ่าจ้านนิ่งไป นางมองไปที่นางจี นางทำหน้าไม่สู้ดี ดวงตาของนางเต็มไปด้วยวิจารณญาณเพื่อดูว่านางกำลังล้อเล่นหรือเอาจริงกันแน่แต่นางไม่ได้ล้อเล่น นางจริงจังมากเลือดทั้งหมดในร่างกายของเธอก็พุ่งปรี๊ดไปที่ศีรษะของนาง และนางก็หายใจลำบาก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฮูหยินป๋อผิงซีจะขอเงินจากนางเพื่อซื้อยาความเป็นญาติกันแท้ๆ อีกอย่างให้ซื้อยา จำเป็นต้องคิดเล็กคิดดน้อยเช่นนี้หรือกว่าจะนางจะระงับความรู้สึกอับอายนั้นก็ใช้เวลาไปนาน จากนั้นขยิบตาให้ป้าซุนที่อยู่ข้างๆ คำพูดบางคำที่นางในฐานะผู้ใหญ่ย่อมจะไม่พูดหรอกป้าซุนได้แต่กัดฟันถามว่า "รบกวนฮูหยินออกเงินให้ก่อน เดี๋ยวเราจะคืนให้ทีหลังได้ไหม"นางจีพูดว่า "ข้าออกจากบ้านรีร้อน จะนำเงินจำนวนก้อนใหญ่มาพกตัวได้ยังไง"เสียงของป้าซุนแผ่วเบามาก "ฮูหยินกลับไปเอาก่อนค่อยไปซื้อก็ได้เจ้าคะ"นางจีหัวเราะออกมา "ทำไมต้องให้เรื่องมันยุ่งยากเล่า ให้ข้ากลับจวนไปเอาเงิน พวกเจ้าให้ข้าไปตรงๆ ไม่ได้เหรอ ถึงยังไงก็ต้องคืน อย่าบอกนะว่าจวนแม่ทัพที่ใหญ่โตเช่นนี้ แม้แต่เงินสองร้อยตำลังก็ไม่มีสินะ"ฮูหยินผู้เฒ่าหน้าดำหน้าแดงขึ้นมา เห็นได้ชัดว่านางจีกำลังหัวเราะนาง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-14
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 861

    ก่อนหน้านี้หวังชิงหลูมักจะผลักความผิดออกไป ไม่ว่าทำให้เกิดปัญหาร้ายแรงขนาดไหน นางจะตีตนเองให้ห่างจากเรื่องนั้น โดยบอกว่าตนเองไม่เกี่ยวด้วยและเป็นผู้บริสุทธิ์แต่คราวนี้ นางไม่ได้ปฏิเสธคำพูดของนางจี เพียงปาดน้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุดเท่านั้นนางจีมองไปที่นาง และถอนหายใจ ในจวนแม่ทัพ จ้านเป่ยชิงไร้ประโยชน์แล้ว เขาสูญเสียสถานะข้าราชการและภรรยาก็จากไปแล้ว เขาขังตัวเองอยู่ในห้องตลอดเวลาจ้านเป่ยเซินเป็นคนไม่ได้เรื่อง เขาไม่ถนัดศิลปะการต่อสู้ เรียนหนังสือก็ไม่เก่ง อย่าหวังกับเขาเลยบ้ารองบอกว่าไม่ยุ่งก็จะไม่ยุงจริงๆ ถึงขั้นสั่งคนเริ่มสร้างกำแพงเพื่อแบ่งจวนแม่ทัพออกเป็นสองส่วนมีแต่จ้านเป่ยว่างเท่านั้น นอกเหนือจากการฝึกพิเศษแล้ว เขายังกลับบ้านดูแลหวังชิงหลูด้วย ผู้ชายมาดูแลบ้าน หลังจากอ่านนายการบัญชีเสร็จถึงรู้ว่าจวนแม่ทัพหมดตัวแล้วจริงๆสองชั่วยามต่อมา มีเงินสองร้อยตำลึงมายื่นตรงหน้านางจี เป็นป้าซุนที่สาส่งเอง นางเดินเร่งรีบและหายใจหอบ เห็นได้ชัดว่าเพิ่งกลับมาจากนอกบ้านนางจีรู้อะไรมากมายจากหงเอ๋อร์ นางหมินเคยขอให้ฮูหยินผู้เฒ่าจำนำเครื่องประดับของนาง แต่ฮูหยินผู้เฒ่าไม่เห็นด้วยและยังทุบตี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-14
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 862

    จ้านเป่ยว่างตัดสินใจเด็ดขาด เตรียมที่จะขายคนรับใช้จำนวนหนึ่งออกไปจวนแม่ทัพไม่สามารถเลี้ยงคนจำนวนมากได้อีกต่อไป พี่ชายใหญ่ถูกปลดจากตำแหน่ง บ้านรองถูกแบ่งออกไป ส่วนตัวเขาเองจะกลับไปดำรงตำแหน่งได้เมื่อใดยังไม่แน่ ในกรณีไม่มีรายได้นั้นก็ได้แต่ประหยัดรายจ่ายโดยทั่วไปแล้วตระกูลผู้สูงศักดิ์จะไม่ขายคนรับใช้ของพวกเขา ในแต่ละตระกูลมีเรื่องอื้อฉาวที่ไม่อาจเปิดเผยได้ก็มีไม่น้อย หากขายคนรับใช้ออกไป พอเจอกับเจ้านายใหม่ที่ดีก็ว่าไปอย่างหนึ่ง หากเจอเจ้านายใหม่ที่ไม่ดี คนใช้อาจจะมีความเกลียดในใจแล้วเปิดเผยเรื่องอื้อฉาวพวกนั้นไปทั้งหมดก็เป็นได้ดังนั้น นี่จะเป็นเรื่องห้ามสำหรับตระกูลผู้สูงศักดิ์แต่สำหรับจวนแม่ทัพในตอนนี้ยังมีเรื่องอื้อฉาวอะไรที่คนนอกจะไม่รู้ล่ะ? จ้านเป่ยว่างไม่สนใจแล้ว คำสาปที่รุนแรงที่สุดก็ด่าจากปากของชาวบ้านทุกๆ วันอยู่แล้ว เขายังต้องมาถือสาอะไรอีก?ไม่ทำงานก็ไม่รู้ว่าดูแลงานบ้านงานเรือนจะยากลำบากเช่นนี้ ขณะนี้จ้านเป่ยว่างก็เข้าใจนางหมินและกลายเป็นคนอย่างนางหมินตอนนี้เขามีความรู้สึกที่ซับซ้อนมากกับหวังชิงหลู เขารู้สึกเห็นใจที่นางเสียลูกไป แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกโกรธที่นางทะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-14

บทล่าสุด

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1388

    นางไม่ได้ไปหา หวังเยว่จาง ในอดีตนางอาจหน้าหนาพอที่จะคิดว่า เขาอย่างไรก็เป็นสายเลือดของจวนป๋อผิงซี เมื่อครอบครัวหรือญาติเกิดปัญหา การช่วยเหลือย่อมเป็นหน้าที่ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ตอนนี้นางจะไม่ทำเช่นนั้นอีก นางเข้าใจความจริงบางประการว่า ในวันที่จวนป๋อผิงซีรุ่งเรือง เขาไม่เคยได้สัมผัสแม้เศษเสี้ยวของเกียรติยศนั้น แต่พอถึงวันที่ล่มจม กลับต้องการให้เขายื่นมือช่วยเหลือ นางทำเช่นนั้นไม่ได้ ส่วนเรื่องว่าจะไปหาพี่สะใภ้ใหญ่เพื่อพูดเรื่องนี้หรือไม่ นางลังเลใจยิ่งนัก เพราะอย่างไรเสีย นางก็ไม่อยากให้พี่ใหญ่ตาย นางนั่งอยู่ใต้ต้นไหว มองเหม่อลอยอยู่นาน พอดีศิษย์พี่ซือโซยกตะกร้าไหมเดินผ่านมา เมื่อเห็นนางก็รีบเลี้ยวหลบไปทางอื่น ท่าทางเหมือนไม่อยากเผชิญหน้ากับนาง หวังชิงหรูนึกถึงเรื่องเข้าใจผิดก่อนหน้านี้ รีบเรียกนางไว้ “ศิษย์พี่ซือโซ ขอโทษเรื่องเมื่อครู่นี้ ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น” ศิษย์พี่ซือโซเหลือบมองนางแวบหนึ่ง “อืม” พูดจบ นางก็เตรียมเดินจากไป หวังชิงหรูคิดถึงนิสัยของหญิงสาวในยุทธภพเหล่านี้ ที่มักซื่อสัตย์ตรงไปตรงมา ไม่คิดอะไรซับซ้อน จึงถามว่า “ศิษย์พี่ซือโซ ข้าขอพูดคุย

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1387

    หวังชิงหรูรู้ว่าศิษย์พี่ซือโซเข้าใจผิด แต่ก็ไม่ได้รีบอธิบาย เพราะในใจยังว้าวุ่น นางปิดประตู ยกยาเข้าไปแล้วกล่าวว่า “ท่านแม่ ดื่มยาก่อนเถอะ เรื่องอื่นค่อยคิดหาวิธีแก้ทีหลัง” ฮูหยินผู้เฒ่าส่ายหน้า มองหน้านางพลางกล่าวว่า “ชิงเอ๋อร์ เจ้าลองถามใจตัวเองดูว่าพี่ชายของเจ้าเคยปฏิบัติกับเจ้าอย่างไร?” หวังชิงหรูขมวดคิ้วเล็กน้อย “ท่านแม่ พวกเราไม่มีความสามารถจะช่วยเขาได้ พวกเรายังอาศัยอยู่ในโรงงาน เงินที่ใช้ซื้อยาของท่านยังเป็นของแม่นางเสิ่นเลย” ฮูหยินผู้เฒ่ากล่าวว่า “เจ้าคิดผิด เงินเหล่านี้ล้วนเป็นของเยว่จาง เขาแม้จะไม่ได้ยอมรับพวกเรา แต่ช่วงนี้เขาก็ไม่ได้หยุดช่วยเหลือเราเลย” หวังชิงหรูกล่าวว่า “แม้ว่าเงินจะเป็นของเขา พวกเราก็ไม่มีสิทธิ์จะขอให้เขาเอาเงินไปช่วยพี่ใหญ่ของเรา” “เงินเหล่านั้น” ฮูหยินผู้เฒ่ากัดฟัน กล่าวความจริงออกมาว่า “ไม่ใช่ของเขา ในตอนนั้นที่เขากลับมา พี่สะใภ้ใหญ่ของเจ้าแนะนำให้ชดเชยเขา จึงโอนที่ดินและร้านค้าให้เขาบางส่วน” “ในเมื่อโอนให้เขาไปแล้ว และเขาก็ช่วยเหลือพวกเราอย่างลับๆ เสมอมา ยังจะให้เขาคืนกลับมาอีกหรือ? ท่านแม่ เรื่องนี้ไม่ยุติธรรมสำหรับเขาเลย” ฮู

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1386

    จีซูเซิ่นไม่ได้บอกเรื่องนี้แก่ฮูหยินผู้เฒ่าและหวังชิงหรู ในวันรุ่งขึ้นขณะที่พวกนางออกไปตรวจที่ร้านขายยาเย่าหวัง นางแปลงตัวเป็นชาวนาและแอบตามไป เพียงแต่ตลอดทางจากไปจนกลับ ไม่มีใครเข้ามาใกล้รถลาของพวกนาง และระหว่างทางรถลานั้นก็ไม่ได้หยุดเลย หลังจากกลับมาถึงโรงงาน หวังชิงหรูก็เริ่มต้มยา ในโรงงานไม่มีใครคอยรับใช้ ทุกคนต้องผลัดกันทำอาหาร ตอนแรกหวังชิงหรูทำอะไรไม่เป็นเลย แม้แต่การก่อไฟยังต้องใช้เวลาฝึกถึงสามวัน อาหารมื้อแรกที่นางทำถึงกับกินไม่ได้เลย คนในโรงงานช่วยเหลือกัน แต่ก็ล้อกันด้วย พวกเขาหัวเราะเยาะว่านางมีร่างกายเหมือนฮูหยิน แต่โชคชะตาไม่ใช่ฮูหยินตอนแรกนางโกรธและรู้สึกน้อยใจ คิดว่าทำไมต้องมาเจอกับความลำบากเช่นนี้ นางถึงขั้นคิดว่าพวกเขาตั้งใจกลั่นแกล้ง จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อเจียอี้มาที่โรงงานเพื่อเยี่ยม นางลงมือทำอาหารเอง มันอาจจะไม่เลิศรส แต่ก็รสชาติกลมกล่อมพอดี นางนิ่งเงียบไป หวังชิงหรูรู้ดีว่าเจียอี้เคยเป็นคนอย่างไร อดีตท่านหญิงที่หยิ่งยโส แต่หลังจากถูกหย่าแล้วได้รับการพากลับมา นางยังสามารถลดตัวเองลงและลงมือทำอาหารให้กลุ่มสตรีที่ถูกทอดทิ้งเหล่านี้ได้ ที่สำค

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1385

    สถานการณ์ของหวังเบียวทำให้ซ่งซีซีแปลกใจไม่น้อย นางคิดว่าเขาจะพาคนสนิทหนีไปซ่อนได้อย่างน้อยสองสามปี ใครจะคาดคิดว่า ระหว่างทางเขาจะถูกปล้นทรัพย์สิน แม้แต่อนุที่รักก็ยังทอดทิ้งเขา ไม่รู้ว่าในเวลานั้น เขาเคยเสียใจต่อความโง่เขลาของตัวเองบ้างหรือไม่ คนวัยกลางคน กลับยังหลงเชื่อในความรักแท้ คิดจะทิ้งภรรยาที่อยู่เคียงข้างและดูแลเขามากว่าสิบปี สุดท้ายกลับถูกคนอื่นทิ้งเสียเอง นับว่าเป็นกรรมที่ตามสนอง แต่กรรมที่เขาได้รับยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ด้วยนิสัยของกู้ชิงหวู่ ตอนที่จากไปนางต้องเคยดูถูกเหยียดหยามเขาอย่างแน่นอน เช่นเดียวกับที่นางเคยดูถูกเหลียงเส้า กู้ชิงหวู่ใช้ความงามของตัวเองเป็นเครื่องมือ แต่ในขณะเดียวกันก็เกลียดชังชายที่หลงใหลในความงามของนางอย่างยุติธรรม ในความเป็นจริง ซ่งซีซีคิดว่าหวังเบียวอาจไม่ได้อยู่ที่อำเภอหยง เพราะด้วยสถานะของเขาในฐานะผู้หลบหนี เขาไม่สามารถปรากฏตัวด้วยหน้าตาที่แท้จริง และไม่กล้าพำนักในที่ใดที่หนึ่งนานเกินไป ได้แต่หนีซุกซ่อน เขายังพาลูกไปด้วยอีก ซ่งซีซีคิดว่า หากเขาจนตรอก เขาอาจจะแอบกลับเมืองหลวงหรือไม่?แม้เขาจะโง่ แต่ก็ไม่ถึงกับโง่สิ้นดี เขารู

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1384

    กู้ชิงหวู่กำหมัดแน่น ดวงตาเปล่งประกายแห่งความโกรธ "ดังนั้นข้าถึงบอกว่า สวรรค์ไม่ยุติธรรม ไยต้องเป็นเช่นนี้?" "เจ้าพูดเอง ด้วยชาติกำเนิดที่ดีของข้า รวมถึงสตรีหน้าเหลืองที่เจ้ากล่าวถึง นางก็เป็นสตรีผู้สูงศักดิ์" ซ่งซีซีตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย แต่เต็มไปด้วยท่าทีเหนือกว่า กู้ชิงหวู่เกลียดชังท่าทางเช่นนี้ที่สุด มันเหมือนกับอดีตองค์หญิงใหญ่ที่อยู่บนหอคอยสูง ในขณะที่ตนต้องก้มต่ำอยู่ในโคลนตม นางโกรธจัด หน้าอกสะท้อนขึ้นลง "ถึงจะเป็นสตรีผู้สูงศักดิ์แล้วอย่างไร? ก็ยังถูกสามีรังเกียจอยู่ดีมิใช่หรือ?" "หวังเบียวหรือ? นางไม่เคยใส่ใจเขาเลย มีแต่เจ้าที่มองเขาเหมือนสมบัติ" ซ่งซีซีตอบอย่างไม่ใส่ใจ "สำหรับข้า เขาก็ไม่ใช่สมบัติอะไร แค่ขยะชิ้นหนึ่ง" กู้ชิงหวู่ตอบด้วยแววตาดุดัน ซ่งซีซีหัวเราะเยาะ "ข้ารู้ว่าไม่ใช่เช่นนั้น เจ้าถึงกับให้กำเนิดบุตรให้เขา ทั้งที่รู้ว่าการหนีจากสนามรบเป็นความผิดร้ายแรง เจ้ากลับไม่สนใจและหนีตามเขาไป ข้าเคยเจอคนปากไม่ตรงกับใจเช่นเจ้ามานักต่อนัก" "ไร้สาระ!" กู้ชิงหวู่ตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยว ใบหน้าแดงก่ำ แต่ไม่นานก็หัวเราะเยาะ "ฮะ คิดจะหลอกข้าหรือ? ใช่ ข้ารักเขาจนถ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1383

    สถานที่อันเป็นมงคลนี้ถูกเลือกโดยสำนักโหรหลวง เป็นสถานที่ที่งดงามด้วยภูเขาและสายน้ำ มีหมู่บ้านอยู่ใกล้ๆ สองแห่ง แม้จะเรียกว่าด้านข้างพระราชสุสาน แต่ความจริงแล้วห่างจากพระราชสุสานถึงสามสิบลี้ หลังจากงานศพ กู้ชิงหยิงมาพบซ่งซีซีและเสิ่นว่านจือเพื่อกล่าวลา บอกว่าจะไปสร้างกระท่อมเล็กๆ อยู่ในหมู่บ้านใกล้เคียงเพื่อเฝ้าสุสานของบิดาบุญธรรม เสิ่นว่านจือถามว่านางต้องการความช่วยเหลือเรื่องเงินหรือไม่ นางตอบว่าไม่จำเป็น เพราะนางจะขายเครื่องประดับที่เคยซื้อไว้ ก็เพียงพอจะกลายเป็นคนมีฐานะเล็กๆ ได้ วันที่นางจากไปพอดีกับวันที่เจ้าสิบเอ็ดฝางคุมตัวอ๋องเยี่ยนและคนอื่นๆ กลับเมืองหลวง นางยืนอยู่ที่ประตูเมือง มองเข้าไปในรถนักโทษที่มีอ๋องเยี่ยนและอ๋องฮวย ความเกลียดชังพลันผุดขึ้นในใจ แต่เมื่อเห็นชาวบ้านต่างด่าทอและโยนใบไม้เน่าใส่พวกเขา นางก็รู้สึกคลายความโกรธ เพราะคิดว่าคนชั่วได้กรรมของตนเองแล้ว สำหรับนาง นับจากนี้ก็เป็นอิสระแล้ว ไม่มีใครหรือสิ่งใดมาผูกมัดนางได้อีก ในการคุมตัวครั้งนี้ ยังมีข้าราชการของหนิงโจวและชิวเหมิงถูกนำตัวกลับมาด้วย สิ่งที่ทำให้ซ่งซีซีประหลาดใจคือ นางยังเห็นกู้ชิงหวู่ด

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1382

    ใช้เวลาห้าวันกว่าจะกวาดล้างเศษซากกบฏได้หมดสิ้น เจ้าสิบเอ็ดฝางและมู่ฉงกุยส่งข่าวชัยชนะมาว่าได้จับชิวเหมิงกบฏตัวสำคัญเป็นเชลย พร้อมนำตัวอ๋องเยี่ยน อ๋องหวย และอู๋เซียงผู้ทรยศกลับมายังเมืองหลวง ซึ่งอีกไม่นานจะมาถึง ยกเว้นเพียงหวังเบียวที่ยังคงหลบหนี นอกนั้นกบฏส่วนใหญ่ล้วนถูกจับกุมได้หมดแล้ว วันที่ 25 เดือนเจ็ด สำนักราชวังจัดพิธีศพให้ท่านอ๋องฮุย เพราะเหตุการณ์กบฏของเซี่ยทิงเหยียน พิธีศพจึงจัดอย่างเรียบง่าย และจักรพรรดิ์ซูชิงทรงเรียกขุนนางมาหารือว่าท่านอ๋องฮุยควรได้ฝังในสุสานอ๋องหรือไม่ แม้ว่าท่านอ๋องฮุยจะบริสุทธิ์ แต่ความผิดของเซี่ยทิงเหยียนเป็นโทษที่เกี่ยวพันถึงทั้งตระกูล ซ่งซีซีไม่ได้รับการเรียกตัวให้เข้าร่วมพิธี นางจึงพาผู้คนจากจวนเป่ยหมิงอ๋องมาร่วมงานศพของอ๋องฮุย พิธีศพจัดอย่างเรียบง่าย ไม่มีขุนนางมาร่วมงาน นอกจากจักรพรรดิ์จะทรงอนุญาตให้อ๋องฮุยฝังในสุสานอ๋อง มิฉะนั้นจะไม่มีใครกล้าเข้าร่วม กู้ชิงหยิงสวมชุดไว้ทุกข์คุกเข่าเผากระดาษหน้าโลงศพ ศพของอ๋องฮุยถูกบรรจุในโลงแล้วแต่ยังไม่ได้ปิดฝา เมื่อซ่งซีซีและเสิ่นว่านจือมาถึง ยังสามารถไปดูหน้าศพครั้งสุดท้ายได้ มีโลงศพสา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1381

    เมื่อได้ยินว่าอ๋องฮุยปลิดชีพตนเอง เซี่ยทิงเหยียนถึงกับอึ้งไป ก่อนจะร้องไห้เสียงดังว่า “เสด็จพ่อ ทำไมต้องกลัวโทษจนถึงกับฆ่าตัวตาย? ลูกสัญญาไว้ว่าจะรับโทษแทนท่านแล้ว” เมื่อได้ยินคำพูดนี้ กู้ชิงหยิงที่ไม่ได้หวังจะมีชีวิตรอดอยู่แล้วก็พุ่งเข้าไปชกหัวเขาอย่างแรง หมัดของกู้ชิงหยิงใหญ่โตนัก ฟาดเข้าที่กระหม่อมของเซี่ยทิงเหยียนจนเขารู้สึกราวกับโดนฟ้าผ่า หูอื้ออยู่นานก่อนจะเงยหน้ามองนางด้วยสายตาเย็นเยียบดุจอสรพิษ กู้ชิงหยิงถ่มน้ำลายใส่เขาแล้วกล่าวว่า “เจ้าสัตว์เดรัจฉาน เจ้าใช้อำนาจข่มขู่ชีวิตชาวเมืองหนิงโจวและคนเก่าของวังให้ท่านอ๋องต้องรับผิดแทนเจ้า ท่านอ๋องไม่เคยมีจิตคิดกบฏ แม้แต่ตอนที่ถูกเจ้าจับตาอย่างใกล้ชิด ท่านยังพยายามส่งข่าวให้ใต้เท้าซ่ง เจ้าจงหยุดทำลายชื่อเสียงของท่านอ๋องหลังจากตายเถิด” นางพูดจบก็รีบคุกเข่าลง น้ำตาไหลอาบหน้า “ฝ่าบาท ขอพระองค์ทรงโปรดพิจารณา ท่านอ๋องไม่ได้ก่อกบฏ แต่เป็นเซี่ยทิงเหยียนที่พูดเองว่า หากเขาสำเร็จ ทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดี แต่หากล้มเหลว ลูกน้องของเขาจะสังหารชาวเมืองหนิงโจว เขาข่มขู่ท่านอ๋องเช่นนี้มาตลอด คนเก่าของวังที่อยู่ข้างกายท่านอ๋องถูกเขาฆ่าจนแทบไม่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1380

    จักรพรรดิ์ซูชิงมองลงมาจากที่สูง ดวงตาเต็มไปด้วยความชิงชัง “อย่างนั้นหรือ? แม้เจ้าจะยอมรับโทษแทนบิดา แต่ข้าไม่อาจกล่าวโทษผู้บริสุทธิ์โดยไร้เหตุผลได้ ใครกันที่เป็นกบฏวางแผนชิงบัลลังก์ ข้าจะสืบสวนให้กระจ่างเอง” “ฝ่าบาท” เซี่ยทิงเหยียนน้ำตาคลอ ดวงหน้าเต็มไปด้วยความเสียใจอย่างยิ่ง “ไม่ต้องสืบสวนแล้ว ขอพระองค์ทรงตัดสินโทษกระหม่อมเถิด เสด็จพ่อเพียงหลงผิดชั่วขณะ” จักรพรรดิ์ซูชิงหัวเราะเยาะ “เจ้าทำให้ข้าผิดหวังนัก เหตุใดถึงไร้เกียรติเช่นนี้? ไหนล่ะความตระหนักของผู้แพ้ในสงคราม เจ้าไม่คู่ควรแม้แต่จะเป็นยอดคนผู้ห้าวหาญ ผู้เช่นเจ้ากล้าหมายปองบัลลังก์ คิดจะเป็นประมุขของแผ่นดินหรือ? เซี่ยทิงเหยียน อย่าให้ผู้ติดตามเจ้าเขาต้องผิดหวังนัก” “กระหม่อมยินดีรับโทษแทนเสด็จพ่อ! ขอพระองค์โปรดเมตตาไว้ชีวิตเสด็จพ่อด้วย” เซี่ยทิงเหยียนไม่สนว่าจักรพรรดิ์ซูชิงจะตรัสสิ่งใด เขาก็ยังคงกล่าวแต่คำนี้ด้วยความปวดร้าวและความกตัญญู ขุนนางที่อยู่ในที่นั้นย่อมไม่เชื่อ ต่างตำหนิเขาด้วยถ้อยคำรุนแรงถึงความทะเยอทะยานราวหมาป่า แต่หากคนใดหน้าหนาเพียงพอ ย่อมไม่สะทกสะท้านต่อคำด่าว่า เขายังคงแสดงสีหน้าเจ็บปวดและกล่าวว่า

DMCA.com Protection Status