Share

บทที่ 860

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
ฮูหยินผู้เฒ่าจ้านนิ่งไป นางมองไปที่นางจี นางทำหน้าไม่สู้ดี ดวงตาของนางเต็มไปด้วยวิจารณญาณเพื่อดูว่านางกำลังล้อเล่นหรือเอาจริงกันแน่

แต่นางไม่ได้ล้อเล่น นางจริงจังมาก

เลือดทั้งหมดในร่างกายของเธอก็พุ่งปรี๊ดไปที่ศีรษะของนาง และนางก็หายใจลำบาก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฮูหยินป๋อผิงซีจะขอเงินจากนางเพื่อซื้อยา

ความเป็นญาติกันแท้ๆ อีกอย่างให้ซื้อยา จำเป็นต้องคิดเล็กคิดดน้อยเช่นนี้หรือ

กว่าจะนางจะระงับความรู้สึกอับอายนั้นก็ใช้เวลาไปนาน จากนั้นขยิบตาให้ป้าซุนที่อยู่ข้างๆ คำพูดบางคำที่นางในฐานะผู้ใหญ่ย่อมจะไม่พูดหรอก

ป้าซุนได้แต่กัดฟันถามว่า "รบกวนฮูหยินออกเงินให้ก่อน เดี๋ยวเราจะคืนให้ทีหลังได้ไหม"

นางจีพูดว่า "ข้าออกจากบ้านรีร้อน จะนำเงินจำนวนก้อนใหญ่มาพกตัวได้ยังไง"

เสียงของป้าซุนแผ่วเบามาก "ฮูหยินกลับไปเอาก่อนค่อยไปซื้อก็ได้เจ้าคะ"

นางจีหัวเราะออกมา "ทำไมต้องให้เรื่องมันยุ่งยากเล่า ให้ข้ากลับจวนไปเอาเงิน พวกเจ้าให้ข้าไปตรงๆ ไม่ได้เหรอ ถึงยังไงก็ต้องคืน อย่าบอกนะว่าจวนแม่ทัพที่ใหญ่โตเช่นนี้ แม้แต่เงินสองร้อยตำลังก็ไม่มีสินะ"

ฮูหยินผู้เฒ่าหน้าดำหน้าแดงขึ้นมา เห็นได้ชัดว่านางจีกำลังหัวเราะนาง
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 861

    ก่อนหน้านี้หวังชิงหลูมักจะผลักความผิดออกไป ไม่ว่าทำให้เกิดปัญหาร้ายแรงขนาดไหน นางจะตีตนเองให้ห่างจากเรื่องนั้น โดยบอกว่าตนเองไม่เกี่ยวด้วยและเป็นผู้บริสุทธิ์แต่คราวนี้ นางไม่ได้ปฏิเสธคำพูดของนางจี เพียงปาดน้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุดเท่านั้นนางจีมองไปที่นาง และถอนหายใจ ในจวนแม่ทัพ จ้านเป่ยชิงไร้ประโยชน์แล้ว เขาสูญเสียสถานะข้าราชการและภรรยาก็จากไปแล้ว เขาขังตัวเองอยู่ในห้องตลอดเวลาจ้านเป่ยเซินเป็นคนไม่ได้เรื่อง เขาไม่ถนัดศิลปะการต่อสู้ เรียนหนังสือก็ไม่เก่ง อย่าหวังกับเขาเลยบ้ารองบอกว่าไม่ยุ่งก็จะไม่ยุงจริงๆ ถึงขั้นสั่งคนเริ่มสร้างกำแพงเพื่อแบ่งจวนแม่ทัพออกเป็นสองส่วนมีแต่จ้านเป่ยว่างเท่านั้น นอกเหนือจากการฝึกพิเศษแล้ว เขายังกลับบ้านดูแลหวังชิงหลูด้วย ผู้ชายมาดูแลบ้าน หลังจากอ่านนายการบัญชีเสร็จถึงรู้ว่าจวนแม่ทัพหมดตัวแล้วจริงๆสองชั่วยามต่อมา มีเงินสองร้อยตำลึงมายื่นตรงหน้านางจี เป็นป้าซุนที่สาส่งเอง นางเดินเร่งรีบและหายใจหอบ เห็นได้ชัดว่าเพิ่งกลับมาจากนอกบ้านนางจีรู้อะไรมากมายจากหงเอ๋อร์ นางหมินเคยขอให้ฮูหยินผู้เฒ่าจำนำเครื่องประดับของนาง แต่ฮูหยินผู้เฒ่าไม่เห็นด้วยและยังทุบตี

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 862

    จ้านเป่ยว่างตัดสินใจเด็ดขาด เตรียมที่จะขายคนรับใช้จำนวนหนึ่งออกไปจวนแม่ทัพไม่สามารถเลี้ยงคนจำนวนมากได้อีกต่อไป พี่ชายใหญ่ถูกปลดจากตำแหน่ง บ้านรองถูกแบ่งออกไป ส่วนตัวเขาเองจะกลับไปดำรงตำแหน่งได้เมื่อใดยังไม่แน่ ในกรณีไม่มีรายได้นั้นก็ได้แต่ประหยัดรายจ่ายโดยทั่วไปแล้วตระกูลผู้สูงศักดิ์จะไม่ขายคนรับใช้ของพวกเขา ในแต่ละตระกูลมีเรื่องอื้อฉาวที่ไม่อาจเปิดเผยได้ก็มีไม่น้อย หากขายคนรับใช้ออกไป พอเจอกับเจ้านายใหม่ที่ดีก็ว่าไปอย่างหนึ่ง หากเจอเจ้านายใหม่ที่ไม่ดี คนใช้อาจจะมีความเกลียดในใจแล้วเปิดเผยเรื่องอื้อฉาวพวกนั้นไปทั้งหมดก็เป็นได้ดังนั้น นี่จะเป็นเรื่องห้ามสำหรับตระกูลผู้สูงศักดิ์แต่สำหรับจวนแม่ทัพในตอนนี้ยังมีเรื่องอื้อฉาวอะไรที่คนนอกจะไม่รู้ล่ะ? จ้านเป่ยว่างไม่สนใจแล้ว คำสาปที่รุนแรงที่สุดก็ด่าจากปากของชาวบ้านทุกๆ วันอยู่แล้ว เขายังต้องมาถือสาอะไรอีก?ไม่ทำงานก็ไม่รู้ว่าดูแลงานบ้านงานเรือนจะยากลำบากเช่นนี้ ขณะนี้จ้านเป่ยว่างก็เข้าใจนางหมินและกลายเป็นคนอย่างนางหมินตอนนี้เขามีความรู้สึกที่ซับซ้อนมากกับหวังชิงหลู เขารู้สึกเห็นใจที่นางเสียลูกไป แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกโกรธที่นางทะ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 863

    หลี่เต๋อฮวยตอบ "ไร้สาระ แน่นอนว่าข้าต้องเป็นผู้ชายอยู่แล้ว แต่ผู้ชายสามารถทำทุกอย่างที่เขาต้องการไม่ว่าจะผิดจะถูกก็ได้หมด สามารถมีภรรยาและอนุหลายๆ คน มีลูกไม่ได้ก็สามารถรับเด็กมาเลี้ยง พอป่วยหนักก็มีภรรยาคอดูแล ผู้ชายใช้ชีวิตอย่างตามอำเภอใจเช่นนี้ก็ไม่เห็นบ้านเมืองก่อความวุ่นวายเลย แล้วทำไมมีสถานที่แห่งหนึ่งมาช่วยเหลือผู้หญิงที่ถูกทอดทิ้งจะสามีก็ทำให้บ้านเมืองไม่สงบสุขเล่า?""แค่ให้ผู้หญิงมีทางเลือกเพิ่มมาอีกทางหนึ่งเอง พวกเจ้ากำลังกลัวอะไรอยู่หรือ ไม่มีใครอยากใช้ทางออกนี้หรอก นอกเสียจากว่านางจนมุมจริงๆ หรือว่าทุกคนต่างก็คิดจะบีบบังคับให้พวกนางเดินเส้นทางนี้เหรอ หากมิใช่ พวกเจ้ากลัวทำไม"หลี่เต๋อฮวยไม่ค่อยได้แสดงความเห็นบ่อยๆ หรอก พอแสดงความเห็นก็เป็นเพราะมีภารกิจต้องทำ ภรรยาที่บ้านได้กำชับไว้แล้วต้องสนับสนุนท่านอ๋องอย่างเต็มที่ซ่งซีซีก็ฟังอยู่ในการประชุมเช่นกัน นางไม่ได้พูดอะไรเพราะนาง เป็นผู้หญิง หากนางพูดแทนผู้หญิง การตอบโต้จะยิ่งรุนแรงมากกว่า ผลประโยชน์กำหนดจุดยืนต่อให้นางจะพูดเก่งมากแค่ไหนก็ไม่สามารถสู้การต่อต้านที่ถล่มมาจากพวกเขาดังนั้นนางแค่รอดู รอให้ฝ่าบาทสั่งให้นางพูด

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 864

    เสียงของซ่งซีซีนั้นไม่ดังหรือเบาเกินไป และทำให้ทุกคนในท้องพระโรงได้ยินหมด "บางทีทุกท่านอาจคิดว่าการตายของนางหมินมันไม่สำคัญ แต่ถ้านางเป็นน้องสาวพี่สาว ลูกสาว หรือญาติของพวกท่านล่ะ จะรู้สึกเห็นใจนางบ้านหรือไม่?เพราะถึงยังไงคนที่อยู่ที่นี่ต่างก็เรียนหนังสือมา ต่างมีความเห็นอกเห็นใจกับผู้เฒ่าและผู้อ่อนแอที่สุด ผู้หญิงหลายคนถูกหย่าและถูกไล่ออกจากบ้าน ส่วนใหญ่เป็นเพราะโรคร้ายแรงหรือไม่ก็มีบุตรไม่ได้ พวกนางไม่ได้ทำอะไรผิดนะ"นางถอนหายใจอย่างๆ เศร้าอีกครั้ง "ชีวิตของผู้หญิงก็มีค่าด้วยนะ หรือว่าโลกนี้ต้องการกำจัดพวกนางให้สิ้นซากหรือ"หลายคนแอบถุยน้ำลายในใจ ถ้านางเป็นน้องสาวพี่สาว ลูกสาว หรือญาติของพวกท่านงั้นเหรอแต่คำว่าเรียนหนังสือมา มีความเห็นอกเห็นใจกับผู้เฒ่าและผู้อ่อนแอที่สุด ทำให้พวกเขาถูกผูกมัดด้วยศีลธรรม นี่จะโต้ตอบได้อย่างไร การโต้แย้งกับคำพูดเหล่านี้ก็จะทำให้พวกเขาดูไร้เหตุผลมากและต้องการกำจัดพวกผู้หญิงให้สิ้นซากหากเป็นผู้ชายที่พูดคำเหล่านี้ออกมาก็พอจะโต้แย้งได้แต่มันออกจากปากของผู้หญิง ทั้งท้องพระโรงมีผู้หญิงเพียงนางคนเดียว ฝ่าบาทให้นางแสดงความเห็น นางพูดคำเหล่านี้ด้วยความเม

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 865

    วันรุ่งขึ้น คู่สามีภรรยาก็ออกจากบ้าน และเซี่ยหลูโม่ก็ยังแกล้งถามเสิ่นว่านจือว่าอยากไปกับพวกเขาหรือไม่เสิ่นว่านจือมองหน้าเขาอย่างแปลกๆ เขาพูดในเมื่อคืนนี้แล้วว่าวันนี้จะพาซีซีออกไปเที่ยวตามลำพัง ไม่ให้ติดตามไปด้วย แม้แต่จางต้าจ้วงก็ไม่ให้ไป แล้วตอนนี้มาถามนางว่าจะไปหรือไม่ มันจะดูจอมปลอมไปหน่อนหรือเปล่าทว่าแม้ว่าเขาจะไม่พูด นางก็ไม่ไป ยังไงพอนางมีเวลาก็จะไปจัดการเรื่องโรงงานเย็บปักถักร้อย โรงงานเย็บปักถักร้อยกำลังได้รับการซ่อมแซม ดังนั้นจึงเป็นการดีที่จะคอยจับตาดูมันไว้นอกจากนี้ หากทางโรงงานเย็บปักถักร้อยไม่ต้องให้นางเฝ้าดูไว้ งั้นนางจะไปดื่มชาและซื้อของ หรือไม่ก็ไปเดินเล่นที่ตึกว่างจิงหรือร้านจินจิงกับไทเฟยจะไม่น่าสนุกกว่าเหรออากาศก็หนาวจัด ขึ้นเขาโดนลมพัดจนเป็นหวัดเอาก็จะรู้ว่ามันจะสนุกอีกหรือไม่ในตึกว่างจิง เซี่ยหลูโม่สั่งอาหารหลายอย่าง รวมถึงปลากะพงนึ่ง เนื้อหนังเสือ เนื้อสันผัดผัก แกงจืดเต้าหู้ และเพิ่มกุ้งตุ๋นหนึ่งอีกจานอาหารเหล่านี้เป็นอาหารพื้นบ้าน ไม่ใช่อาหารราคาแพง แต่ตึกว่างจิงสามารถทำอาหารขั้นพื้นฐานได้อย่างอร่อยสุดๆ เลยเนื่องจากอีกเดี๋ยวต้องขึ้นเขา และอากาศก็ห

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 866

    ยิ่งเดินขึ้นไปบนภู เซี่ยหลูโม่ก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติมากขึ้นไม่มีดอกไม้ที่บานสะพรั่งบนภูเขาหรือน้ำตกไหลตามที่เจ้าสิบเอ็ดฝางกล่าวไว้เลย มีเพียงต้นไม้เปลือยเปล่าและทิวทัศน์หิมะสีขาวกว้างใหญ่เท่านั้นในเวลานี้ มันไม่มีน้ำตกอะไรอีกเลย พอเข้าสู่ช่วงต้นฤดูหนาวก็เริ่มแห้งแล้งแล้วไม่ใช่ว่าทิวทัศน์หิมะไม่สวย แค่อยู่ในเขตหนานเจียงมานาน เลยหมดอารมณ์ตื่นเต้นกับทัศน์หิมะแล้ว หากมีน้ำไหลน้ตกบ้าง และคู่กับทัศน์หิมะ บวกกับดอกไม้หน้าหนาวบานสะพรั่งบนเขา งั้นก็แตกต่างออกไปเลยติดที่ว่ามันไม่มีอะไรเลย บนภูเขาลูกนี้ไม่มีดอกไม้ที่บานในฤดูหนาวเลย น่าตลกจริงๆ ไม่มีแม้แต่ดอกบ๊วยด้วยซ้ำทว่า ทางด้านเหนือของภูเขาว่านจินมีความลาดชัน ตรงนั้นมีหิมะปกคลุมไปหมด และไม่มีสิ่งกีดขวาง สามารถเล่นกีฬาเลื่อนบนหิมะได้ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนแผน นำซ่งซีซีไปทางเหนือชาตัวเบาบวกกับวิ่งเองด้วยเขาขึ้นไปบนยอดเขาด้วยความสนใจอย่างมาก หายใจเข้าแล้วพูดกับซ่งซีซี "นี่ยังสวยอยู่ใช่มั้ย? รอพระอาทิตย์ตกดิน หลังจากชมพระอาทิตย์ตกดินเสร็จเราไปเลื่อนบนหิมะเลื่อนจากตรงนี้เลย มันสนุกดี"ซ่งซีซี เงยหน้าขึ้นและพยักหน้าอีกครั้ง สิ่งเห็

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 867

    มันทั้งน่าโมโหทั้งน่าขำจริงๆซ่งซีซีพยุงเซี่ยหลูโม่ที่เดินกะโผลกกะเผลกและเดินลงภูเขาอย่างช้าๆปิ่นปักผมของเขาหายไปแล้ว และผมยุ่งเหยิง มันมีหิมะติดอยู่ จนเปียกไปหมด และปลิวไปด้านข้าง แข้งทื่อเป็นแผ่นหนึ่ง มันตกอยู่ในสภาพไม่น่ามองมากเลยบนใบหน้าก็ฟกช้ำดำเขียวและแดงด้วย ที่มีสีแดงเพราะมันเป็นรอยขีดข่วนและมีเลือดออก โชคดีที่บาดแผลตื้นและเล็กน้อย และบวกกับอากาศหนาวจัด เลือดก็หยุดอย่างรวดเร็วบนหน้าผากได้บวมขึ้นอย่างกับไข่ห่านไม่มีผิด ซึ่งดูทั้งน่าสางสารแต่ก็ตลกมากการฝึกศิลปะการต่อสู้ การต่อสู้ และการรับใช้ราชการล้วนเป็นจุดแข็งของเขา แต่เล่นสนุกนั้น เขาไม่เป็นจริงๆ ด้วย เลื่อนบนหิมะจะเลื่อนแบบนั้นได้อย่างไรใครๆ ก็รู้ดีว่าเล่นบนภูเขาแต่อย่าเล่นกับน้ำ เพราะว่าบริเวณน้ำลึกนั้นจะอันตรายมาก ก็ไม้ไม่ได้บอกว่าจะให้เล่นบนภูเขาได้ตามอำเภอใจนี่ โดยเฉพาะปกติแล้วภูเขาจะไม่มีหิมะ มีแต่ฤดูหนาวที่หนาวจัดนั้นถึงมีหิมะปกคลุม ภูเขาขรุขระที่ซ่อนอยู่ใต้หิมะนั้นมันจะเล่นได้ยังไงภูมิประเทศที่นี่แตกต่างจากทางเขตหนานเจียง อีกอย่างตอนออกรบได้สวมชุดเกราะ แต่ตอนนี้ก็ไม่มีเซี่ยหลูโม่รู้สึกอับอายถึงขีดสุด เข

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 868

    หลังจากที่จางต้าจ้วงถูกอาจารย์หยูลงโทษด้วยวิธีไปกวาดลานบ้าน หลานเชวี่ยนจากร้านขายยาเย่าหวังก็มาถึงด้วยหลานเชวี่ยนเป็นลูกศิษย์คนที่หกของหมอมหัศจรรย์ดัน เขาอายุยังน้อยแต่มีทักษะทางการแพทย์ที่โดดเด่น ในปกติแล้วเขาจะประจำอยู่ร้านขายยาเย่าหวัง และไม่ค่อยได้ออกไปข้างนอกเพื่อรักษาให้คนไข้วันนี้ท่านอ๋องได้รับบาดเจ็บจากการล้ม และหมอมหัศจรรย์ดันจึงส่งเขามาที่นี่โดยเฉพาะ จุดประสงค์คือเพื่อตรวจสอบทุกอย่างทั้งหมดเพื่อให้แน่ใจว่าได้บาดเจ็บที่จึดสำคัญหรือไม่ เขายังหนุ่มยังไม่มีลูก แต่กินยาพวกนั้นตลอด แล้วจะไม่ให้หมอมหัศจรรย์ดันไม่กังวลได้อย่างไร?สนมฮุ่ยไทเฟยและเสิ่นว่านจือกลับมาจากการซื้อของ เมื่อได้ยินว่าเซี่ยหลูโม่ได้รับบาดเจ็บ สนมฮุ่ยไทเฟยก็รีบร้อนเดินเข้ามาหลานเชวี่ยนกำลังรักษาให้เขาอยู่ และซ่งซีซีเฝ้าดูอยู่ข้างกาย เมื่อเห็นไทเฟย มา นางก็ทำการไหว้ "คารวะเสด็จแม่"สนมตอบีบอืม จากนั้นก็มองดูบุตรชายของตนทันที เนื่องจากหลังกลับมายังไม่ทันได้อาบน้ำอาบท่า มรงผมยังชี้ตั้ง และมองดูใบหน้าที่ช้ำของเขาและแผลบวมบนหน้าผาก สนมฮุ่ยไทเฟยก็หัวเราะอย่างเห็นใจ "ฮะ ทำไม...ทำไมกายเป็นสภาพแบบนี้เล่า ไหนบอกว่า

Latest chapter

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1606

    ผู้ใต้บัญชาทำงานรวดเร็วยิ่งนัก ตอนที่เขาลืมตาตื่น เครื่องทรมานก็ถูกขนเข้ามาเรียบร้อยแล้วเตาถ่านถูกตั้งขึ้น คีมเหล็กถูกเผาจนแดง แส้ที่เปื้อนเลือดฟาดกลางอากาศสองสามครั้ง เพี้ยะ เพี้ยะ ดังสะท้านใจหลิวเซิ่งถึงอย่างไรก็เคยฆ่าคนมาก่อน ใจคอจึงหนักแน่นแม้ยามเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ มิแม้แต่กระพริบตา กล่าวว่า “พวกเจ้าตั้งศาลเถื่อนเช่นนี้ ถือเป็นความผิดใหญ่หลวง พวกเจ้ายังมีขื่อมีแปหรือไม่?”คนบางประเภทก็มักเป็นเช่นนี้ คิดว่ากฎหมายใช้บังคับกับใครก็ได้ ยกเว้นตนเองตนกระทำผิด แต่กลับคิดใช้กฎหมายปกป้องตนกับคนประเภทนี้ ไม่จำเป็นต้องโต้แย้ง การโต้แย้งมีแต่จะยิ่งเปิดช่องให้เขาพูดจาไร้สาระมากขึ้นข้าหยิบคีมเหล็กที่ถูกเผาจนแดงก่ำหนีบเข้าที่แขนเขาทันที พอกดแน่นลงไป เสื้อก็ละลายจนเป็นรู เสียงเนื้อถูกไหม้ดัง ซี่ๆๆ…เสียงกรีดร้องโหยหวนดังลั่นไม่เป็นไร ที่นี่เป็นห้องใต้ดินลับ ต่อให้ร้องจนเสียงขาดหาย ก็ไม่มีผู้ใดได้ยินแม้กระดูกจะแข็งเพียงใด แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเครื่องทรมาน ก็ไร้ซึ่งพลังต่อต้านข้ายังมิทันได้เริ่มถอนเล็บ เขาก็สารภาพทุกสิ่งอย่างละเอียดทั้งสองครอบครัวสนิทกันจริง พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายร

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1605

    ข้ามองดูหลิวเซิ่งพูดยั่วยุนางไม่หยุด คล้ายจะจงใจยั่วยุให้นางคิดสั้น ไม่ได้มีเจตนาจะลงมือฆ่าเอง“ครอบครัวเจ้าตายหมดแล้ว เจ้ายังจะอยู่ต่อไปอย่างครึ่งคนครึ่งผี บ้าๆ บอๆ เช่นนี้อีกหรือ? เจ้าก็แค่สวะ ครอบครัวเจ้าก็เป็นสวะ! ยังจะกล้ามาหัวเราะเยาะข้าว่าสอบไม่ติดอีกหรือ? พวกเจ้ามันสมควรตายทั้งบ้าน เจ้าดูเชือกที่ห้องเก็บฟืนสิ ใช้มันแขวนคอตัวเองเสีย แล้วจะได้ไปอยู่กับครอบครัวเจ้า”“หากเจ้ายังไม่ตาย พวกเขาจะต้องตกนรกสิบแปดชั้น ถูกไฟเผาทุกวัน ถูกควักหัวใจ ถอนลิ้น เพราะพวกเจ้ามันใจดำอำมหิต ชอบใส่ร้ายป้ายสี นี่คือกรรมสนองที่สวรรค์ประทานให้ พวกทำชั่วไม่สมควรมีชีวิตอยู่”ข้ายิ่งฟังยิ่งโกรธจนแทบระเบิด คนทำชั่วคือเขาชัดๆ แต่กลับพลิกกลับความหมายเสียอย่างหน้าด้านๆแม่นางสุ่ยในยามนี้ก็บ้าเสียแล้ว หากถูกเขายั่วยุหนักเข้า ก็อาจคิดฆ่าตัวตายได้จริงๆข้าเปิดประตูพุ่งออกไป ห้องข้ากับห้องแม่นางสุ่ยอยู่ติดกัน พอข้าไปถึง หลิวเซิ่งยังไม่ทันตั้งตัว ยังปิดปากแม่นางสุ่ยอยู่เมื่อเห็นข้า แววตาเขาก็สั่นไหว รีบปล่อยมือทันทีแม่นางสุ่ยตกใจจนน้ำตาร่วง แต่นางไม่ได้ส่งเสียงร้อง แม้แต่เสียงสะอื้นก็ไม่มีข้าจ้องหน้าเขาแ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1604

    สุดท้ายข้าก็ทำได้เพียงลอบเฝ้าติดตามแม่นางสุ่ยในเงามืดข้าคิดว่า ฆาตกรที่ฆ่าล้างครอบครัวนาง ย่อมต้องมีแรงจูงใจเป็นแน่หากโหดเหี้ยมถึงเพียงนี้ ไม่เพราะรัก ก็ต้องเพราะแค้น หรือไม่ก็เพราะเงินทอง อย่างไรเสียย่อมต้องมีสักอย่างแม่นางสุ่ยยังมีชีวิตอยู่ แล้วฆาตกรจะสามารถหลบหนีไปได้อย่างสงบเช่นนั้นหรือ?มีความเป็นไปได้หรือไม่ว่า พอเรื่องราวเงียบไปแล้ว ฆาตกรจะย้อนกลับมาฆ่านางอีกครั้ง?การคาดคะเนนี้ดูจะมีเหตุผล แต่ประเด็นสำคัญคือ ข้าไม่อาจหาทิศทางอื่นได้อีกแล้วเถ้าแก่สวีเดิมทีจ้างแม่นมมาคอยดูแลแม่นางสุ่ย แต่แม่นางสุ่ยนั้นหวาดกลัวคนแปลกหน้าอย่างยิ่ง ดังนั้นเถ้าแก่สวีจึงได้แต่ขอร้องให้เพื่อนบ้านโดยรอบแวะเวียนมาดูบ้าง ส่งอาหารมาให้บ้างมารดาของหลิวเซิ่งจะมาทุกวันเว้นวัน เพื่ออาบน้ำล้างหน้าให้แม่นางสุ่ย คอยดูแลให้สะอาดเรียบร้อยข้าพบว่าตระกูลหลิวยังปฏิบัติต่อนางด้วยดี เพียงแต่หลิวเซิ่งผู้นั้นกลับไม่เคยมา หนึ่งคือเขาต้องกลับไปยังโรงเรียน สองคืออาจเพราะในใจก็ยังมีความคับแค้นอยู่บ้าง เพราะคำกล่าวหาของแม่นางสุ่ยที่ทำให้เขาต้องติดคุกอยู่ช่วงหนึ่งชายหนุ่มผู้เป็นบัณฑิตย่อมมีความเย่อหยิ่งในใจบ้าง

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1603

    ก่อนจะไปยังหนานเจียง ข้าไม่เคยมีแผนการใดในชีวิต ไม่มีเป้าหมาย ไม่เคยมีสิ่งใดที่อยากทำเป็นพิเศษเมื่อยึดหนานเจียงกลับคืนมาแล้วเดินทางกลับสู่เมืองหลวง เสียงโห่ร้องยินดีจากราษฎรทำให้ข้ารู้สึกว่า หากมนุษย์ใช้ชีวิตอย่างไร้จุดหมายไปวันๆ เช่นนั้นจะไม่สูญเปล่าหรือ?ข้าจึงเริ่มครุ่นคิดถึงความหมายของชีวิตจากการติดตามย่างก้าวของซีซี ข้าก็ได้ทำสิ่งต่างๆ มากมาย ตั้งแต่โรงงานช่างไปจนถึงสถาบันการศึกษาหย่าจวินหญิงมากหลายล้วนประสบชะตาน่าเวทนา และข้ามีความสามารถที่จะช่วยพวกนางได้ ข้าคิดว่า นี่คงเป็นหนึ่งในความหมายของชีวิตว่าเป็น “หนึ่ง” ก็หมายความว่ายังอาจมี “สอง” และ “สาม” ตามมาได้มิใช่ข้าจะโอ้อวดตนเอง แต่เนื้อแท้ของข้าคือคนที่ชังความชั่วโดยสันดานดังนั้น เมื่อได้ยินว่ามีฆาตกรฆ่าคนจำนวนมาก แต่กลับลอยนวลเพราะหลักฐานไม่เพียงพอ ไม่อาจเอาผิดได้ ข้าย่อมโกรธเคืองนัก ข้าเห็นว่า คนฆ่าย่อมต้องชดใช้ด้วยชีวิตแรกเริ่ม ข้าไม่ได้กระทำการอันใดหุนหันพลันแล่น เพียงแต่เดินตามแนวทางของสำนักเขตจิงจ้าว สืบสาวเรื่องราวต่อไป และส่งมอบหลักฐานที่ได้มาให้แก่เจ้ากรมแห่งสำนักเขตจิงจ้าวจนกระทั่งข้าได้พบกับคดีหนึ่งที

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1602

    ดอกเหมยบนภูเขาเหม่ยชานบานแล้ว ร่วงโรยแล้วเช่นกันในใจข้าย่อมอดเคืองนางไม่ได้ กลับบ้านไปแล้ว ก็จะทอดทิ้งพวกข้าด้วยหรือ? ไม่นึกถึงน้ำใจไมตรีที่มีต่อกันตลอดหลายปีมานี้เลยหรือ?เฉินเฉินก็ด่านางว่าไร้หัวใจ ไปก็แล้วไป ไยจึงไม่แม้แต่จะส่งจดหมายมาสักฉบับ?นานวันเข้าพวกข้าก็เลิกพูดถึงนางเสียเอง ราวกับว่าการไม่เอ่ยชื่อนางเลย คือการแก้แค้นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดต่อผู้ละทิ้งพวกข้าต่างก็ตกลงกันไว้ว่า หากนางกลับมายังภูเขาเหม่ยชานอีกครั้ง ไม่ว่าใครก็จะไม่ไปพบนาง ไม่พูดกับนางสักคำ แม้นางจะให้คนส่งจดหมายมา ข้าก็จะไม่ตอบกลับ แม้แต่จะอ่านยังไม่อ่านวันเวลาผ่านไปกลางดาบคมและเงาเย็น พวกข้าทุกคนต่างฝึกฝนวิชาให้แกร่งกล้า ราวกับได้ตกลงกันไว้แล้วว่า หากยังไม่ตาย ก็จะฝึกจนสุดกำลังแม้ไม่มีผู้ใดเอ่ยวาจา แต่ข้าย่อมรู้ว่าในใจของทุกคนคิดไม่ต่างกัน ย่อมไม่มีวันเป็น ‘นางที่ยิ้มแย้ม’ ได้อีกแล้ว เพราะเจ้าหวังห้าเล่าว่า ตั้งแต่นางจากเขาลงไป ท่านอาจารย์ก็ไม่เคยยิ้มอีกเลย มีแต่สีหน้าเคร่งเครียดทุกเมื่อเชื่อวันพวกข้าไม่รู้ว่านางประสบเรื่องราวใด แต่ข้าก็ฝึกฝนจนกล้าแข็ง เพียงรอวันที่นางต้องการข้า ดาบในมือย่อมพร้อมชักออกจา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1601

    เพียงแต่ ข้ากับซีซีพบกันแทบทุกวัน หากนางไม่มาหาข้าที่สถาบันชื่อเยียน ข้าก็จะไปหานางที่สำนักว่านซง ด้วยเหตุนี้ ข้าจึงยังคงได้พบหวังเยว่จางอยู่เสมอทว่า ทุกคราที่เขาเห็นข้า ก็จะส่งสายตาเคียดแค้นมาให้ ราวกับข้าเป็นผู้ล่วงเกินเขากระนั้นครั้งหนึ่งข้าทนไม่ไหว เอ่ยถามเขาว่าจะมองเขม่นข้าไปถึงไหน เขากลับว่าข้าเป็นคนแพร่ข่าวลือ ว่าเขาไปเที่ยวหอนางโลมข้าก็โกรธแทบขาดใจ! เขาประพฤติเสียเอง ไม่รู้จักสำนึก กลับมาโทษคนที่บริสุทธิ์ ข้าไม่ได้แพร่ข่าวลือเสียหน่อย!ข้าแค่เล่าเรื่องนี้ให้สหายสนิทของข้าฟัง แล้วจะนับว่าแพร่ข่าวลือได้อย่างไร?ข้าโมโหจนต่อยเขาไปหนึ่งหมัด แล้วก็ประกาศตัดขาดกับเขาเสียเลยต่อมา ซีซีกลับบ้าน ข้าคิดว่าไม่นานนางก็คงกลับมาเช่นเคย แต่ครานี้ นางกลับหายไปเนิ่นนาน มิได้กลับสำนักภูเขาเหม่ยชานอีกเลยข้าไปที่สำนักว่านซงเพื่อถามหา แต่มิมีผู้ใดยอมปริปากแม้แต่คนเดียวด้วยความร้อนใจ ข้าคิดจะพาเฉินเฉินกับมันโถวออกเดินทางไปเมืองหลวงตามหานาง ก่อนออกเดินทาง หวังเยว่จางก็มาหาเราครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่ข้าเห็นเขามีสีหน้าเคร่งขรึม เขาบอกพวกเราว่า ซีซีมีเรื่องในบ้าน บิดาและพี่ชายล้วนเสียชีวิ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1600

    แต่จะว่าไปแล้ว สตรีเช่นข้า ก็เป็นที่โปรดปรานของบุรุษไม่น้อยที่ภูเขาเหม่ยชาน มีบุรุษมากมายชื่นชอบข้า เด็กหนุ่มวัยกำลังขึ้นหนวดอ่อนส่งจดหมายรักให้ข้าเขินๆ อายๆ ส่งมาครั้งแล้วครั้งเล่าข้าก็ไม่เคยเปิดดู ต่อหน้าพวกเขาก็ฉีกมันทิ้งเสียเลยในเมื่อยามนั้น ข้ายังไม่ได้เข้าใจตรรกะของคำปฏิญาณที่ตนตั้งไว้ดีนัก ในใจก็ยังมีคำว่า "ไม่แต่ง" ขวางอยู่เต็มอกข้าฉีกจดหมายรักต่อหน้าพวกเขา ข้ารู้ว่าตนโหดร้าย แต่ขอโทษเถิด ในเมื่อข้าคือสตรีที่ตั้งใจว่าจะไม่ข้องเกี่ยวกับเรื่องรักใคร่ชั่วชีวิต ข้าย่อมต้องใจแข็ง ไม่ปล่อยให้พวกเขามีแม้แต่นิดเดียวของความหวังร้องไห้เสียในตอนนี้ ยังดีกว่าติดบ่วงในวันหน้า จนเจ็บปวดปานฉีกหัวใจแม้พวกเขาจะบอกหน้าตาเศร้าว่าให้ข้าช่วยส่งจดหมายรักให้ซ่งซีซีก็ตาม ข้าก็ไม่หวั่นไหวเลยแม้แต่น้อยหึๆ ยังไม่ทันได้เป็นบุรุษเต็มตัว ก็รู้จักใช้เล่ห์กลยั่วยวนหญิงเสียแล้วที่ภูเขาเหม่ยชาน เพื่อนเล่นที่ดีที่สุดของข้าก็คือพวกซีซี หมั่นโถว เฉินเฉิน และกุ้นเอ๋อร์อ้อ เคยมีอยู่ช่วงหนึ่ง ศิษย์พี่ใหญ่ของเฉินเฉินก็มาเล่นกับพวกเราด้วย แต่น่าเสียดาย ต่อมาเขาก็ลงเขาไปผดุงคุณธรรมเสียแล้ว แต่เฉินเฉินบ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1599

    ข้า...เสิ่นว่านจือคนดีคนเดิม ยังคงอยากจะบ่นอยู่ บ่นถึงบุรุษของข้าหวังเยว่จาง เจ้านี่ช่างสมกับเป็นบุตรของท่านฮูหยินผู้เฒ่าหวังเสียจริงก่อนแต่งงานเราก็ตกลงกันไว้ชัดเจนแล้วว่า ต่อแต่นี้ไปไม่ว่าข้าจะทำสิ่งใด เขาห้ามแทรกแซง ห้ามห้ามปราม และห้ามเข้าร่วมโดยเด็ดขาดผลสุดท้าย เพิ่งแต่งได้ปีเดียว เขาก็ฉีกสัญญาทิ้งหมดสิ้น จะทำด้วยทุกเรื่องตามข้าสิ่งที่ข้าทำนั้น เขาเกี่ยวข้องได้หรือ? ย่อมไม่ได้ สำนักว่านซงมีกฎเข้มงวด อีกทั้งยังมีอาจารย์อาผู้เหี้ยมโหดนั่งประจำอยู่ หากรู้ว่าข้าพาหวังเยว่จางไปตัดหัวคน เกรงว่าจะบดกระดูกข้าเป็นผุยผงไปแล้วแต่เขาว่า เดิมเขาก็เป็นคนในยุทธภพ คนในยุทธภพล้วนถือความสะใจเป็นใหญ่ ทั้งบุญคุณและความแค้น ไม่ว่าเป็นของผู้ใด ก็ล้วนต้องตอบแทนอีกทั้งเราทำอย่างลับๆ สถาบันว่านซงเหมินย่อมไม่รู้เรื่องแต่พี่ห้า ท่านเข้าสังกัดกรมกลาโหมไปแล้วนะ ท่านก็เป็นขุนนางแล้ว จะยังพูดเรื่องยุทธภพสะใจล้างแค้นอะไรอีกเล่า?สิ่งที่ข้าทำ แม้แต่ซ่งซีซีก็ยังไม่รู้ทั้งหมด หรือหากนางรู้ นางก็คงเลือกที่จะปิดหูปิดตาเสีย เพราะว่ามันขัดแย้งกับสถานะ เข้าใจหรือไม่?ข้า...เสิ่นว่านจือ ไม่ย่างกรายเข้าสู่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1598

    บางครั้งข้าก็สอนศิษย์ทั้งหลายให้กล้าเผชิญหน้ากับชีวิต กล้าเผชิญหน้ากับความผิดพลาด แต่ตัวข้าเองกลับมิอาจกระทำได้เช่นนั้นหลายปีมานี้ ข้าแทบไม่ได้พบหน้าเขาเลย หากรู้ว่าเขาจะไปที่ใด ข้าย่อมหลีกเลี่ยงไม่ไปเมื่อครั้งที่ข้ายังดื้อดึงอยู่ เคยถูกพี่สะใภ้ตำหนิว่าข้ายังติดหนี้เจ้าสิบเอ็ดฝางอยู่ แต่ในใจข้ากลับไม่ยอมรับนัก ยังรู้สึกน้อยใจอยู่บ้างแต่ตอนนี้เมื่อคิดย้อนกลับไป ข้าน้อยใจไปเพื่ออะไรเล่า? ใครเป็นคนที่ติดหนี้ข้ากัน? ฟ้าดินเมตตาข้าไม่มากพอแล้วหรือ? ทุกสิ่งล้วนเป็นผลจากการกระทำของข้าเองทั้งสิ้นหลายครา ข้าเปิดกระดาษเขียนจดหมาย ตั้งใจจะเขียนถึงเขาเพื่อขอขมาจากใจจริงแต่ยามจับพู่กันลงหมึก พอหมึกหยดลงกระดาษกลับเขียนไม่ออกแม้แต่คำเดียวข้ากลัวว่าจดหมายขอขมานั้นจะดูแปลกประหลาดเกินไป ทำให้ภรรยาของเขาระแวง หรือแม้แต่ทำให้จ้านเป่ยว่างคิดมากแม้ว่าตอนนี้ ข้ากับจ้านเป่ยว่างจะมิได้เป็นสามีภรรยากันจริงๆ แล้วก็ตาม แต่ข้าก็ไม่ต้องการทำลายความสงบเช่นนี้ระหว่างนั้น จ้านเป่ยว่างเคยกลับมาสองสามครั้ง อาจเพราะเห็นกองกระดาษที่ถูกขยำทิ้งในห้องหนังสือของข้า เขาจึงสั่งให้เตรียมเหล้าหนึ่งเหยือก กับกับข้า

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status