แชร์

บทที่ 868

ผู้เขียน: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-08-14 18:38:37
หลังจากที่จางต้าจ้วงถูกอาจารย์หยูลงโทษด้วยวิธีไปกวาดลานบ้าน หลานเชวี่ยนจากร้านขายยาเย่าหวังก็มาถึงด้วย

หลานเชวี่ยนเป็นลูกศิษย์คนที่หกของหมอมหัศจรรย์ดัน เขาอายุยังน้อยแต่มีทักษะทางการแพทย์ที่โดดเด่น ในปกติแล้วเขาจะประจำอยู่ร้านขายยาเย่าหวัง และไม่ค่อยได้ออกไปข้างนอกเพื่อรักษาให้คนไข้

วันนี้ท่านอ๋องได้รับบาดเจ็บจากการล้ม และหมอมหัศจรรย์ดันจึงส่งเขามาที่นี่โดยเฉพาะ จุดประสงค์คือเพื่อตรวจสอบทุกอย่างทั้งหมดเพื่อให้แน่ใจว่าได้บาดเจ็บที่จึดสำคัญหรือไม่ เขายังหนุ่มยังไม่มีลูก แต่กินยาพวกนั้นตลอด แล้วจะไม่ให้หมอมหัศจรรย์ดันไม่กังวลได้อย่างไร?

สนมฮุ่ยไทเฟยและเสิ่นว่านจือกลับมาจากการซื้อของ เมื่อได้ยินว่าเซี่ยหลูโม่ได้รับบาดเจ็บ สนมฮุ่ยไทเฟยก็รีบร้อนเดินเข้ามา

หลานเชวี่ยนกำลังรักษาให้เขาอยู่ และซ่งซีซีเฝ้าดูอยู่ข้างกาย เมื่อเห็นไทเฟย มา นางก็ทำการไหว้ "คารวะเสด็จแม่"

สนมตอบีบอืม จากนั้นก็มองดูบุตรชายของตนทันที เนื่องจากหลังกลับมายังไม่ทันได้อาบน้ำอาบท่า มรงผมยังชี้ตั้ง และมองดูใบหน้าที่ช้ำของเขาและแผลบวมบนหน้าผาก สนมฮุ่ยไทเฟยก็หัวเราะอย่างเห็นใจ "ฮะ ทำไม...ทำไมกายเป็นสภาพแบบนี้เล่า ไหนบอกว่า
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 869

    ซ่งซีซีรีบเดินกลับมา และปลอบใจสนมฮุ่ยไทเฟยก่อน และส่งนางออกไป สนมฮุ่ยไทเฟยยังคงพูดอยู่ในขณะเดินออกไป "ก็จริงนี่ ก็แต่งงานกันแล้วจะมาอายอะไร ตอนเด็กๆ ยังพูดกับเสด็จแม่ได้ บัดนี้พูดไม่ได้แล้วเหรอ เจ้าไม่รู้ตอนเด็กเนื่องจากจุดนั้นโดนยุงกัด ยังถอดกางเกงให้ข้าทายา...""เสด็จแม่!" เสียงคำรามของเซี่ยหลูโม่ดังมาจากห้องซ่งซีซีรีบตามหาว่านจือเพื่อมาจัดการต่อ จากนั้นสั่งป้าฉงและป้าหยินเตรียมน้ำร้อน นางจะสระผมให้เขาเองเนื่องจากเขาไม่สามารถอาบน้ำในบ่อน้ำพุร้อนได้ จึงต้องนั่งในห้องอาบน้ำ โน้มตัวไปข้างหน้าเพื่อให้ซ่งซีซีสระผมให้ และยังต้องป้องกันไม่ให้เท้าโดนน้ำแม้ว่ารู้สึกตนเองไม่ได้เรื่องจริงๆ แต่พอรู้สึกถึงนิ้วของภรรยานวดหนังศีรษะและถูผมทำให้ เขารู้สึกมีความสุขในท่ามกลางความรู้สึกอับอายเขาปลอบใจตัวเองโดยคิดว่าถ้าไม่ได้รับบาดเจ็บในครั้งนี้ เขาคงไม่ได้รับการปฏิบัติที่ดีขนาดนี้ เมื่อก่อนที่ตนเองบาดเจ็บก็เป็นจางต้าจ้วงที่ช่วยหลังจากสระผมแล้ว ซ่งซีซีก็ช่วยเขาเช็ดผม หลังจากผ่านไปนานสองนานถึงพูดหดหู่ว่า "เสด็จแม่พูดไปเรื่อย เจ้าอย่าไปฟังนางเลย""อืม" ซ่งซีซีใช้ผ้าขนหนูหนาๆ ลูบผม "ข้าจำไม่ได้ด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-14
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 870

    สนมฮุ่ยไทเฟยมักจะพูดถึงฮ่องเต้องค์ก่อนสมอ บางครั้งก็บอกว่าฮ่องเต้องค์ก่อนนั้นดีต่อนาง บางครั้งก็บ่นเกี่ยวกับฮ่องเต้องค์ก่อน แต่เมื่อใดก็ตามที่นางพูดถึงพระองค์ นางก็มักจะทำตัวเหมือนเด็กผู้หญิงตัวน้อย ราวกับว่านางไม่เคยโตเลยนางเป็นพระสนมที่ใช้ชีวิตอย่างไร้กังวลที่สุดในวังหลังที่มีการช่วงชิงอำนาจแย่างรุนแรง นางอยู่ในตำแหน่งพระสนม และไม่เคยถูกมุ่งร้าย แม้ว่ามีผู้ใดอยากใช้แปนการอะไรก็จะไม่มุ่งเป้านาง ต่อให้มุ่งเป้านาง ก็ยังมีไทเฮาอย่างข้าหน้านางที่ช่วยจัดการให้นางถูกเลี้ยงแบบเอาอกเอาใจตั้งแต่เด็กจนโต และถูกกล่อมให้นางมีลูกๆ อย่างเอาใจใส่ ตอนนี้ก็มีลูกสะใภ้คอยดูแลอยู่ ดูเหมือนว่านางไม่จำเป็นต้องกังวลกับเรื่อใดๆ ทั้งสิ้นเลยแต่นางมักจะชอบหาเรื่องมาให้ตนเองกลุ้มใจ และหาเรื่องให้ตนเองต้องปวดหัว อย่างเช่นชอบไปแข่งกับพวกของเต๋อกุ้ยไทเฟยและฉีกุ้ยไทเฟยเมื่อนางชนะก็จะดีใจจนกระโดดโลดเต้น พอแพ้ไป นางก็พองแก้มและอารมณ์เสียอยู่พักหนึ่ง จากนั้นก็จบเรื่องไปที่นางถูกเจียอี้และเซี่ยอวี้นวางแผนหลอกลวงนั้น นางก็แค่โกรธไปไม่กี่วันเอง จากนั้นก็ลืมเรื่องนั้นไปเลย นางจะไม่เก็บเรื่องไม่ดีมาใส่ใจจนให้ตนเอง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-15
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 871

    เรื่องโรงงานเย็บปักถักร้อยไม่ว่าโดนด่าหรือมีคนเข้าใจด้วย ในที่สุดมันก็ขยายการประชาสัมพันธ์ออกไปโรงงานเย็บปักถักร้อยสามารถก่อตั้งเสร็จเรียบร้อยได้หลังปีใหม่ ทั้งนี้ต้องขอบคุณการกำกับดูแลของอาจารย์หยูและบวกกับดำเนินขั้นตอนทางเอกสารต่างๆ เสร็จสิ้นตั้งแต่เนิ่นๆ หัวหน้าลู่เป็นผู้รับผิดชอบในการจัดซื้อเสิ่นว่านจือโยนตัวเงินออกมาก้อนหนึ่งแล้วพูดอย่างใจปล้ำว่า "ถ้าไม่พอก็บอกข้าได้ทุกเมื่อ"หัวหน้าลู่ไม่ได้ไปซื้อมันด้วยตนเอง แต่เป็นฮูหยินของหลี่เต๋อฮวย เจ้ากรมกระทรวงกลาโหมพาเขาไปด้วยสิ่งที่ใช้ตกแต่งพื้นที่ เครื่องนอน ผ้าปูที่นอน หม้อ กระทะ เครื่องทอผ้า ด้ายไหมหลากสี เข็ม ผ้าปัก ถัง กระโถนเป็นต้น ทุกอย่างที่คิดได้ หลี่ฮูหยินก็ซื้อมันหมดแล้วถึงยังไงแล้วนางหลี่ได้บริหารดูแลครอบครัวมานานหลายปี อีกอย่างคู่กับหัวหน้าลู่ที่ ผู้ดูแลกิจการทั่วไปของจวนอ๋อง ในเวลาเพียงไม่กี่วัน ทุกอย่างที่ต้องซื้อก็จะถูกจัดซื้อเรียบร้อย ของที่ต้องสั่งทำพิเศษนั้นก็จะถูกส่งมาหลังปีใหม่โรงงานเย็บปักถักร้อยตั้งชื่อว่าโรงงานซู่เจิน เขียนโดยเสิ่นชิงเหอ จากนั้นจึงสลักไว้บนแผ่นไม้ที่แขวนอยู่ที่ประตูโรงงานเย็บปักถักร้อย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-15
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 872

    ดวงตาของจ้านเป่ยว่างเต็มไปด้วยความโศกเศร้า "ข้ารู้ว่าข้าทำให้ท่าหมอต้องผิดหวัง ข้าเองก็รู้สึกเวียใจอย่างมากเช่นกัน""ตอนแรกทางตระกูลซ่งมองหาลูกเขย คนที่มาสู่ขอมีจำนวนนับไม่ถ้วนเลย แต่กลับเลือกเจ้า รู้หรือไม่ว่าซ่งฮูหยินเลือกเจ้าด้วยเหตุผลอันใด"เมื่อพูดถึงแม่ยายผู้ล่วงลับของเขา จ้านเป่ยว่างก็ส่งเสียงสะอื้น "รู้ขอรับ นางบอกว่าข้าติดดินและซื่อสัตย์ บวกกับข้าสัญญาว่าจะไม่แต่งอนุภรรยาเด็ดขาด... มันเป็นความผิดของข้าเอง ข้าผิดสัญญา ข้าขอโทษนาง""นั่นมันเหตุผลหนึ่ง อีกเหตุผลคือเห็นๆ อยู่ว่าเจ้าเป็นลูกชายคนรองแต่กลับยินยอมแบกรับความรับผิดชอบที่สำคัญของตระกูล มันแสดงว่าเจ้าเป็นคนที่มีความรับผิดชอบ ขอพูดตรงๆ ว่ามันจะเป็นเรื่องยากที่ตั้งหลักจวนแม่ทัพให้ใหม่อีกครั้ง ด้วยความสามารถของเจ้าคนเดียวมันยิ่งยากว่า ในกระบวนการที่ยากลำบากในการต่อสู้เพื่ออนาคตของเจา นางคิดว่าเจ้าจะเป็นคนเหมือนแม่ทัพซ่งฮวยอันในอดีต ด้วยความตั้งใจอันแรงกล้าและมีใจหนักแน่น เพราะนี่คือสิ่งที่ผู้คนซื่อตรงและมีความรับผิดชอบนั้นมักจะทำเช่นนี้ หากเจ้าดูแลเรื่องฝ่ายนอก ส่วนซีซีดูแลกิจการฝ่ายใน เจ้าหาใช่ว่าจะประสบความสำเร็จสูงนัก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-15
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 873

    จ้านเป่ยว่างออกจากร้านขายยาเย่าหวังด้วยความสิ้นหวังหงเชวี่ยเข้ามาถามว่า "อาจารย์ เหตุใดท่านจึงต้องพูดกับเขามากขนาดนี้?"หงเชวี่ยไม่เข้าใจ อาจารย์รำคาญกับคนในจวนแม่ทัพมากที่สุด เขามักจะปฏิเสธที่จะพูดอะไรกับพวกเขาด้วยซ้ำ แต่วันนี้กลับสละเวลาที่พักผ่อนเพื่อพูดตักเตือนเขาหมอมหัศจรรย์ดันถอนหายใจเบาๆ "ไม่ต้องการให้คนในโลกคิดว่าซ่งฮูหยินไม่เพียงแต่ตาบอดและยังซื่อไป แม้ว่าจะเป็นเรื่องจริง อาจารย์ก็ไม่ชอบได้ยินคนอื่นต่อว่านางแบบนี้"เขาลุกขึ้นยืนวางถ่านไฟชิ้นหนึ่งลงในเตาถ่านแล้วเอามือไปเข้าใกล้เพื่อทำให้อุ่น "นอกจากนี้ เขาไม่ใช่คนชั่วร้ายถึงขั้นร้ายแรงจริงๆ เขาสามารถแยกแยะระหว่างสิ่งถูกและผิดได้ด้วย คุณชายสามของตระกูลเซียวเพื่อช่วยเขาต้องเสียแขนไปข้างหนึ่ง หากไม่ตักเตือนเขา ให้ถูกหลอกไปต้องทำผิดตลอดไป งั้นแขนที่คุณชายสามเสียไปนั้นก็เท่ากับเสียเปล่า""อาจารย์ ยังมีเรื่องอย่างอื่นหรือเปล่า?" หงเชวี่ยมักรู้สึกว่ามันไม่ง่ายขนาดนั้น เนื่องจากหากอาจารย์เกลียดบุคคลใดบุคคลหนึ่ง เขาจึงจะไม่มีทางพูดอะไรกับคนๆ นั้นมากนักหมอมหัศจรรย์ดันมีดวงตาสีเข้ม "อย่าถามเลย หวังว่าจะใช้งานไม่ได้"จ้านเป่ยว่าง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-16
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 874

    ในคืนแรม ๑๐ ค่ำเดือนสิบสอง ฮูหยินผู้เฒ่าจ้านก็มองเห็นภาพหลอนขึ้นจริงๆ ร่างกายของนางดูเหมือนจะหายแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถลุกขึ้นนั่งชี้ด่าอากาศ "ไสหัวออกไป ไสหัวออกไป พวกสวะไร้ประโยชน์ พวกเจ้าต่างเป็นสวะไร้ประโยชน์""นางหมิน เจ้ากล้ามาก เจ้ากล้าบีบคอข้า? เจ้ามันอกตัญญู..."มือทั้งสองข้างของนางจับคอ เหมือนกับกำลังดิ้นรนอย่างนั้น อึดอัดจนหน้าแดงก่ำแต่เพราะท่านหมอได้บอกอาการของนางไว้ก่อนแล้ว ดังนั้นทุกคนเลยไม่คิดว่านางจะเห็นผี จากนั้นจ้านเป่ยว่างก็ไปเอามือของนางออก และเรียกขึ้นเสียงดัง "ท่านแม่ ไม่มีใครขอรับ พี่สะใภ้ใหญ่ก็ไม่ได้มาที่นี่ขอรับ""นางมาแก้แค้นข้า นางแค้นข้า" ฮูหยินผู้เฒ่าจ้านจับแขนเสื้อของจ้านเป่ยว่าง และความดุร้ายบนใบหน้าของนางก็กลายเป็นความหวาดกลัว "เจ้าบอกกับนาง ข้าแค่จะให้นางรู้กฎเกณฑ์เท่านั้น ข้าต้องการสั่งสอนนาง อ้า... ไปให้พ้น นางหมิน เจ้ากล้ามาก"มือของนางยังคงปัดไปมาไม่หยุด และตบลงไปบนหน้าของจ้านเป่ยว่าง จ้านเปยว่างเองก็ไม่ขยับ ปล่อยให้นางตบอย่างนั้นหลังจากดิ้นอยู่ครึ่งชั่วยาม ในที่สุดถึงจะสงบลง แต่ลมหายใจของนางกลับแผ่วเบาแล้วบางครั้งนางก็มีสติ ลืมตามองผ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-16
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 875

    เสิ่นว่านจือไม่มีความรู้สึกเห็นใจจ้านเป่ยว่างอยู่แล้ว นางพูดขึ้น "ได้ยินหงเซียวบอกว่า จ้านเส้าฮวนไม่ได้กลับไปร่วมงานศพ แต่ยี่ฝางออกมาจากเรืองมงคลเพื่อไว้ทุกข์ให้กับยายแก่นั่น"หลังจากถูกลอบสังหาร ยี่ฝางก็แทบจะไม่ออกจากเรืองมงคลเลย ตอนที่ฮูหยินผู้เฒ่าจ้านใกล้สิ้นใจ นางก็ไม่ออกมาดูแม้แต่นิดเดียว แต่ตอนนี้กลับมาไว้ทุกข์ มันไม่แปลกหรือ?ถ้ามีคนคิดจะฆ่านางอีกครั้ง ถือโอกาสตอนที่ในจวนกำลังจัดพิธีศพ ฉวยโอกาสลอบเข้าไปก็ไม่ใช่เรื่องยากทว่ายี่ฝางก็ยังคงมีสมองอยู่บ้าง เพิ่งจะสืบคดีกบฏ คดีนี้ยังไม่ปิด ใครจะกล้าทำอะไรบุ่มบ่ามในเวลานี้"พิธีศพใครเป็นคนช่วยจัดหรือ? " ซ่งซีซีถามขึ้นประโยคหนึ่ง หลังจากหวังชิงหลูคลอดก่อนกำหนดร่างกายก็รักษาไม่หายมาโดยตลอด นางไม่มีทางเป็นคนจัดแน่นอน ยี่ฝางเองก็ไม่น่าจะออกหน้าจัดพิธีศพ" ฮูหยินผู้เฒ่ารอง " เสิ่นว่านจือ กล่าว "ท้ายที่สุดแล้ว ไม่มีความเกลียดชังระหว่างพี่น้องสะใภ้ และไม่มีการแยกครอบครัวอย่างแท้จริง นางยังคงต้องทำสิ่งที่ต้องทำ""อันที่จริงฮูหยินผู้เฒ่ารองก็จิตใจดีมีความยุติธรรม" ซ่งซีซีกล่าวขึ้นประโยคหนึ่ง "ก็หายากมากแล้ว"ทุกคนต่างพยักหน้าเห็นด้วย ชื่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-16
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 876

    วันขึ้นปีใหม่ ก็ค่อนข้างน่าเบื่องานเลี้ยงในวัง เชื้อพระวงศ์บางคนที่พบเห็นกันปีละครั้งก็พาครอบครัวออกมาเข้าร่วมงานผู้ชายก็มีกลุ่มใหญ่ ผู้หญิงก็มีกลุ่มใหญ่เช่นกันซ่งซีซีอก็ตามฮองเฮากับพระสนมไปเข้าเฝ้าคารวะไทเฮาพร้อมกับเหล่าพระชายาและองค์หญิงเหล่าไทเฟยก็อยู่ด้วยกัน แน่นอนก็มีสนมฮุ่ยไทเฟยอยู่ในนั้นด้วยส่วนพระชายาอ๋องเยี่ยนนางเสิ่นกับชายารองจินก็อยู่ในตำหนักของหรงไทเฟย อยู่พูดคุยกับนาง ดังนั้นพวกนางจึงไม่ได้มาทุกคนพูดคุยเรื่องไร้สาระด้วยกัน ไม่ก็ชื่นชมกันไปมา ไม่ก็แข่งกันว่าใครงามกว่ากัน ไม่ก็โอ้อวดเครื่องประดับกันพระสนมของฮ่องเต้ก็อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา นางมองจนตาลาย ก็รู้จักเพียงฮองเฮา พระสนมซูเฟย พระสนมกง และพระสนมเต๋อ ส่วนสนมคนอื่นๆ ก็ไม่รู้จักสักคนเดียวสำหรับคนอื่นๆ ที่สถานะต่ำต้อย ก็ก้มหน้าต่ำตลอดเวลา บางครั้งก็ยิ้มให้ บางครั้งก็เงยหน้าขึ้นมองพระโอรสของฮองเฮาเป็นโอรสคนโต ดูเป็นคนเยือกเย็น อายุยังน้อย แต่ท่าทางการเดินเหมือนกับจักรพรรดิ์ซูชิง เอามือไขว้หลัง ยืดตัวตรง ถ้ารูปร่างไม่ผอมบาง ก็ยังคิดว่าเขาเป็นผู้ใหญ่พระสนมซูเฟยมีธิดาและโอรสหนึ่งคน โอรสนางเป็นคนเลี้ยงดู แ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-17

บทล่าสุด

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1388

    นางไม่ได้ไปหา หวังเยว่จาง ในอดีตนางอาจหน้าหนาพอที่จะคิดว่า เขาอย่างไรก็เป็นสายเลือดของจวนป๋อผิงซี เมื่อครอบครัวหรือญาติเกิดปัญหา การช่วยเหลือย่อมเป็นหน้าที่ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ตอนนี้นางจะไม่ทำเช่นนั้นอีก นางเข้าใจความจริงบางประการว่า ในวันที่จวนป๋อผิงซีรุ่งเรือง เขาไม่เคยได้สัมผัสแม้เศษเสี้ยวของเกียรติยศนั้น แต่พอถึงวันที่ล่มจม กลับต้องการให้เขายื่นมือช่วยเหลือ นางทำเช่นนั้นไม่ได้ ส่วนเรื่องว่าจะไปหาพี่สะใภ้ใหญ่เพื่อพูดเรื่องนี้หรือไม่ นางลังเลใจยิ่งนัก เพราะอย่างไรเสีย นางก็ไม่อยากให้พี่ใหญ่ตาย นางนั่งอยู่ใต้ต้นไหว มองเหม่อลอยอยู่นาน พอดีศิษย์พี่ซือโซยกตะกร้าไหมเดินผ่านมา เมื่อเห็นนางก็รีบเลี้ยวหลบไปทางอื่น ท่าทางเหมือนไม่อยากเผชิญหน้ากับนาง หวังชิงหรูนึกถึงเรื่องเข้าใจผิดก่อนหน้านี้ รีบเรียกนางไว้ “ศิษย์พี่ซือโซ ขอโทษเรื่องเมื่อครู่นี้ ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น” ศิษย์พี่ซือโซเหลือบมองนางแวบหนึ่ง “อืม” พูดจบ นางก็เตรียมเดินจากไป หวังชิงหรูคิดถึงนิสัยของหญิงสาวในยุทธภพเหล่านี้ ที่มักซื่อสัตย์ตรงไปตรงมา ไม่คิดอะไรซับซ้อน จึงถามว่า “ศิษย์พี่ซือโซ ข้าขอพูดคุย

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1387

    หวังชิงหรูรู้ว่าศิษย์พี่ซือโซเข้าใจผิด แต่ก็ไม่ได้รีบอธิบาย เพราะในใจยังว้าวุ่น นางปิดประตู ยกยาเข้าไปแล้วกล่าวว่า “ท่านแม่ ดื่มยาก่อนเถอะ เรื่องอื่นค่อยคิดหาวิธีแก้ทีหลัง” ฮูหยินผู้เฒ่าส่ายหน้า มองหน้านางพลางกล่าวว่า “ชิงเอ๋อร์ เจ้าลองถามใจตัวเองดูว่าพี่ชายของเจ้าเคยปฏิบัติกับเจ้าอย่างไร?” หวังชิงหรูขมวดคิ้วเล็กน้อย “ท่านแม่ พวกเราไม่มีความสามารถจะช่วยเขาได้ พวกเรายังอาศัยอยู่ในโรงงาน เงินที่ใช้ซื้อยาของท่านยังเป็นของแม่นางเสิ่นเลย” ฮูหยินผู้เฒ่ากล่าวว่า “เจ้าคิดผิด เงินเหล่านี้ล้วนเป็นของเยว่จาง เขาแม้จะไม่ได้ยอมรับพวกเรา แต่ช่วงนี้เขาก็ไม่ได้หยุดช่วยเหลือเราเลย” หวังชิงหรูกล่าวว่า “แม้ว่าเงินจะเป็นของเขา พวกเราก็ไม่มีสิทธิ์จะขอให้เขาเอาเงินไปช่วยพี่ใหญ่ของเรา” “เงินเหล่านั้น” ฮูหยินผู้เฒ่ากัดฟัน กล่าวความจริงออกมาว่า “ไม่ใช่ของเขา ในตอนนั้นที่เขากลับมา พี่สะใภ้ใหญ่ของเจ้าแนะนำให้ชดเชยเขา จึงโอนที่ดินและร้านค้าให้เขาบางส่วน” “ในเมื่อโอนให้เขาไปแล้ว และเขาก็ช่วยเหลือพวกเราอย่างลับๆ เสมอมา ยังจะให้เขาคืนกลับมาอีกหรือ? ท่านแม่ เรื่องนี้ไม่ยุติธรรมสำหรับเขาเลย” ฮู

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1386

    จีซูเซิ่นไม่ได้บอกเรื่องนี้แก่ฮูหยินผู้เฒ่าและหวังชิงหรู ในวันรุ่งขึ้นขณะที่พวกนางออกไปตรวจที่ร้านขายยาเย่าหวัง นางแปลงตัวเป็นชาวนาและแอบตามไป เพียงแต่ตลอดทางจากไปจนกลับ ไม่มีใครเข้ามาใกล้รถลาของพวกนาง และระหว่างทางรถลานั้นก็ไม่ได้หยุดเลย หลังจากกลับมาถึงโรงงาน หวังชิงหรูก็เริ่มต้มยา ในโรงงานไม่มีใครคอยรับใช้ ทุกคนต้องผลัดกันทำอาหาร ตอนแรกหวังชิงหรูทำอะไรไม่เป็นเลย แม้แต่การก่อไฟยังต้องใช้เวลาฝึกถึงสามวัน อาหารมื้อแรกที่นางทำถึงกับกินไม่ได้เลย คนในโรงงานช่วยเหลือกัน แต่ก็ล้อกันด้วย พวกเขาหัวเราะเยาะว่านางมีร่างกายเหมือนฮูหยิน แต่โชคชะตาไม่ใช่ฮูหยินตอนแรกนางโกรธและรู้สึกน้อยใจ คิดว่าทำไมต้องมาเจอกับความลำบากเช่นนี้ นางถึงขั้นคิดว่าพวกเขาตั้งใจกลั่นแกล้ง จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อเจียอี้มาที่โรงงานเพื่อเยี่ยม นางลงมือทำอาหารเอง มันอาจจะไม่เลิศรส แต่ก็รสชาติกลมกล่อมพอดี นางนิ่งเงียบไป หวังชิงหรูรู้ดีว่าเจียอี้เคยเป็นคนอย่างไร อดีตท่านหญิงที่หยิ่งยโส แต่หลังจากถูกหย่าแล้วได้รับการพากลับมา นางยังสามารถลดตัวเองลงและลงมือทำอาหารให้กลุ่มสตรีที่ถูกทอดทิ้งเหล่านี้ได้ ที่สำค

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1385

    สถานการณ์ของหวังเบียวทำให้ซ่งซีซีแปลกใจไม่น้อย นางคิดว่าเขาจะพาคนสนิทหนีไปซ่อนได้อย่างน้อยสองสามปี ใครจะคาดคิดว่า ระหว่างทางเขาจะถูกปล้นทรัพย์สิน แม้แต่อนุที่รักก็ยังทอดทิ้งเขา ไม่รู้ว่าในเวลานั้น เขาเคยเสียใจต่อความโง่เขลาของตัวเองบ้างหรือไม่ คนวัยกลางคน กลับยังหลงเชื่อในความรักแท้ คิดจะทิ้งภรรยาที่อยู่เคียงข้างและดูแลเขามากว่าสิบปี สุดท้ายกลับถูกคนอื่นทิ้งเสียเอง นับว่าเป็นกรรมที่ตามสนอง แต่กรรมที่เขาได้รับยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ด้วยนิสัยของกู้ชิงหวู่ ตอนที่จากไปนางต้องเคยดูถูกเหยียดหยามเขาอย่างแน่นอน เช่นเดียวกับที่นางเคยดูถูกเหลียงเส้า กู้ชิงหวู่ใช้ความงามของตัวเองเป็นเครื่องมือ แต่ในขณะเดียวกันก็เกลียดชังชายที่หลงใหลในความงามของนางอย่างยุติธรรม ในความเป็นจริง ซ่งซีซีคิดว่าหวังเบียวอาจไม่ได้อยู่ที่อำเภอหยง เพราะด้วยสถานะของเขาในฐานะผู้หลบหนี เขาไม่สามารถปรากฏตัวด้วยหน้าตาที่แท้จริง และไม่กล้าพำนักในที่ใดที่หนึ่งนานเกินไป ได้แต่หนีซุกซ่อน เขายังพาลูกไปด้วยอีก ซ่งซีซีคิดว่า หากเขาจนตรอก เขาอาจจะแอบกลับเมืองหลวงหรือไม่?แม้เขาจะโง่ แต่ก็ไม่ถึงกับโง่สิ้นดี เขารู

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1384

    กู้ชิงหวู่กำหมัดแน่น ดวงตาเปล่งประกายแห่งความโกรธ "ดังนั้นข้าถึงบอกว่า สวรรค์ไม่ยุติธรรม ไยต้องเป็นเช่นนี้?" "เจ้าพูดเอง ด้วยชาติกำเนิดที่ดีของข้า รวมถึงสตรีหน้าเหลืองที่เจ้ากล่าวถึง นางก็เป็นสตรีผู้สูงศักดิ์" ซ่งซีซีตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย แต่เต็มไปด้วยท่าทีเหนือกว่า กู้ชิงหวู่เกลียดชังท่าทางเช่นนี้ที่สุด มันเหมือนกับอดีตองค์หญิงใหญ่ที่อยู่บนหอคอยสูง ในขณะที่ตนต้องก้มต่ำอยู่ในโคลนตม นางโกรธจัด หน้าอกสะท้อนขึ้นลง "ถึงจะเป็นสตรีผู้สูงศักดิ์แล้วอย่างไร? ก็ยังถูกสามีรังเกียจอยู่ดีมิใช่หรือ?" "หวังเบียวหรือ? นางไม่เคยใส่ใจเขาเลย มีแต่เจ้าที่มองเขาเหมือนสมบัติ" ซ่งซีซีตอบอย่างไม่ใส่ใจ "สำหรับข้า เขาก็ไม่ใช่สมบัติอะไร แค่ขยะชิ้นหนึ่ง" กู้ชิงหวู่ตอบด้วยแววตาดุดัน ซ่งซีซีหัวเราะเยาะ "ข้ารู้ว่าไม่ใช่เช่นนั้น เจ้าถึงกับให้กำเนิดบุตรให้เขา ทั้งที่รู้ว่าการหนีจากสนามรบเป็นความผิดร้ายแรง เจ้ากลับไม่สนใจและหนีตามเขาไป ข้าเคยเจอคนปากไม่ตรงกับใจเช่นเจ้ามานักต่อนัก" "ไร้สาระ!" กู้ชิงหวู่ตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยว ใบหน้าแดงก่ำ แต่ไม่นานก็หัวเราะเยาะ "ฮะ คิดจะหลอกข้าหรือ? ใช่ ข้ารักเขาจนถ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1383

    สถานที่อันเป็นมงคลนี้ถูกเลือกโดยสำนักโหรหลวง เป็นสถานที่ที่งดงามด้วยภูเขาและสายน้ำ มีหมู่บ้านอยู่ใกล้ๆ สองแห่ง แม้จะเรียกว่าด้านข้างพระราชสุสาน แต่ความจริงแล้วห่างจากพระราชสุสานถึงสามสิบลี้ หลังจากงานศพ กู้ชิงหยิงมาพบซ่งซีซีและเสิ่นว่านจือเพื่อกล่าวลา บอกว่าจะไปสร้างกระท่อมเล็กๆ อยู่ในหมู่บ้านใกล้เคียงเพื่อเฝ้าสุสานของบิดาบุญธรรม เสิ่นว่านจือถามว่านางต้องการความช่วยเหลือเรื่องเงินหรือไม่ นางตอบว่าไม่จำเป็น เพราะนางจะขายเครื่องประดับที่เคยซื้อไว้ ก็เพียงพอจะกลายเป็นคนมีฐานะเล็กๆ ได้ วันที่นางจากไปพอดีกับวันที่เจ้าสิบเอ็ดฝางคุมตัวอ๋องเยี่ยนและคนอื่นๆ กลับเมืองหลวง นางยืนอยู่ที่ประตูเมือง มองเข้าไปในรถนักโทษที่มีอ๋องเยี่ยนและอ๋องฮวย ความเกลียดชังพลันผุดขึ้นในใจ แต่เมื่อเห็นชาวบ้านต่างด่าทอและโยนใบไม้เน่าใส่พวกเขา นางก็รู้สึกคลายความโกรธ เพราะคิดว่าคนชั่วได้กรรมของตนเองแล้ว สำหรับนาง นับจากนี้ก็เป็นอิสระแล้ว ไม่มีใครหรือสิ่งใดมาผูกมัดนางได้อีก ในการคุมตัวครั้งนี้ ยังมีข้าราชการของหนิงโจวและชิวเหมิงถูกนำตัวกลับมาด้วย สิ่งที่ทำให้ซ่งซีซีประหลาดใจคือ นางยังเห็นกู้ชิงหวู่ด

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1382

    ใช้เวลาห้าวันกว่าจะกวาดล้างเศษซากกบฏได้หมดสิ้น เจ้าสิบเอ็ดฝางและมู่ฉงกุยส่งข่าวชัยชนะมาว่าได้จับชิวเหมิงกบฏตัวสำคัญเป็นเชลย พร้อมนำตัวอ๋องเยี่ยน อ๋องหวย และอู๋เซียงผู้ทรยศกลับมายังเมืองหลวง ซึ่งอีกไม่นานจะมาถึง ยกเว้นเพียงหวังเบียวที่ยังคงหลบหนี นอกนั้นกบฏส่วนใหญ่ล้วนถูกจับกุมได้หมดแล้ว วันที่ 25 เดือนเจ็ด สำนักราชวังจัดพิธีศพให้ท่านอ๋องฮุย เพราะเหตุการณ์กบฏของเซี่ยทิงเหยียน พิธีศพจึงจัดอย่างเรียบง่าย และจักรพรรดิ์ซูชิงทรงเรียกขุนนางมาหารือว่าท่านอ๋องฮุยควรได้ฝังในสุสานอ๋องหรือไม่ แม้ว่าท่านอ๋องฮุยจะบริสุทธิ์ แต่ความผิดของเซี่ยทิงเหยียนเป็นโทษที่เกี่ยวพันถึงทั้งตระกูล ซ่งซีซีไม่ได้รับการเรียกตัวให้เข้าร่วมพิธี นางจึงพาผู้คนจากจวนเป่ยหมิงอ๋องมาร่วมงานศพของอ๋องฮุย พิธีศพจัดอย่างเรียบง่าย ไม่มีขุนนางมาร่วมงาน นอกจากจักรพรรดิ์จะทรงอนุญาตให้อ๋องฮุยฝังในสุสานอ๋อง มิฉะนั้นจะไม่มีใครกล้าเข้าร่วม กู้ชิงหยิงสวมชุดไว้ทุกข์คุกเข่าเผากระดาษหน้าโลงศพ ศพของอ๋องฮุยถูกบรรจุในโลงแล้วแต่ยังไม่ได้ปิดฝา เมื่อซ่งซีซีและเสิ่นว่านจือมาถึง ยังสามารถไปดูหน้าศพครั้งสุดท้ายได้ มีโลงศพสา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1381

    เมื่อได้ยินว่าอ๋องฮุยปลิดชีพตนเอง เซี่ยทิงเหยียนถึงกับอึ้งไป ก่อนจะร้องไห้เสียงดังว่า “เสด็จพ่อ ทำไมต้องกลัวโทษจนถึงกับฆ่าตัวตาย? ลูกสัญญาไว้ว่าจะรับโทษแทนท่านแล้ว” เมื่อได้ยินคำพูดนี้ กู้ชิงหยิงที่ไม่ได้หวังจะมีชีวิตรอดอยู่แล้วก็พุ่งเข้าไปชกหัวเขาอย่างแรง หมัดของกู้ชิงหยิงใหญ่โตนัก ฟาดเข้าที่กระหม่อมของเซี่ยทิงเหยียนจนเขารู้สึกราวกับโดนฟ้าผ่า หูอื้ออยู่นานก่อนจะเงยหน้ามองนางด้วยสายตาเย็นเยียบดุจอสรพิษ กู้ชิงหยิงถ่มน้ำลายใส่เขาแล้วกล่าวว่า “เจ้าสัตว์เดรัจฉาน เจ้าใช้อำนาจข่มขู่ชีวิตชาวเมืองหนิงโจวและคนเก่าของวังให้ท่านอ๋องต้องรับผิดแทนเจ้า ท่านอ๋องไม่เคยมีจิตคิดกบฏ แม้แต่ตอนที่ถูกเจ้าจับตาอย่างใกล้ชิด ท่านยังพยายามส่งข่าวให้ใต้เท้าซ่ง เจ้าจงหยุดทำลายชื่อเสียงของท่านอ๋องหลังจากตายเถิด” นางพูดจบก็รีบคุกเข่าลง น้ำตาไหลอาบหน้า “ฝ่าบาท ขอพระองค์ทรงโปรดพิจารณา ท่านอ๋องไม่ได้ก่อกบฏ แต่เป็นเซี่ยทิงเหยียนที่พูดเองว่า หากเขาสำเร็จ ทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดี แต่หากล้มเหลว ลูกน้องของเขาจะสังหารชาวเมืองหนิงโจว เขาข่มขู่ท่านอ๋องเช่นนี้มาตลอด คนเก่าของวังที่อยู่ข้างกายท่านอ๋องถูกเขาฆ่าจนแทบไม่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1380

    จักรพรรดิ์ซูชิงมองลงมาจากที่สูง ดวงตาเต็มไปด้วยความชิงชัง “อย่างนั้นหรือ? แม้เจ้าจะยอมรับโทษแทนบิดา แต่ข้าไม่อาจกล่าวโทษผู้บริสุทธิ์โดยไร้เหตุผลได้ ใครกันที่เป็นกบฏวางแผนชิงบัลลังก์ ข้าจะสืบสวนให้กระจ่างเอง” “ฝ่าบาท” เซี่ยทิงเหยียนน้ำตาคลอ ดวงหน้าเต็มไปด้วยความเสียใจอย่างยิ่ง “ไม่ต้องสืบสวนแล้ว ขอพระองค์ทรงตัดสินโทษกระหม่อมเถิด เสด็จพ่อเพียงหลงผิดชั่วขณะ” จักรพรรดิ์ซูชิงหัวเราะเยาะ “เจ้าทำให้ข้าผิดหวังนัก เหตุใดถึงไร้เกียรติเช่นนี้? ไหนล่ะความตระหนักของผู้แพ้ในสงคราม เจ้าไม่คู่ควรแม้แต่จะเป็นยอดคนผู้ห้าวหาญ ผู้เช่นเจ้ากล้าหมายปองบัลลังก์ คิดจะเป็นประมุขของแผ่นดินหรือ? เซี่ยทิงเหยียน อย่าให้ผู้ติดตามเจ้าเขาต้องผิดหวังนัก” “กระหม่อมยินดีรับโทษแทนเสด็จพ่อ! ขอพระองค์โปรดเมตตาไว้ชีวิตเสด็จพ่อด้วย” เซี่ยทิงเหยียนไม่สนว่าจักรพรรดิ์ซูชิงจะตรัสสิ่งใด เขาก็ยังคงกล่าวแต่คำนี้ด้วยความปวดร้าวและความกตัญญู ขุนนางที่อยู่ในที่นั้นย่อมไม่เชื่อ ต่างตำหนิเขาด้วยถ้อยคำรุนแรงถึงความทะเยอทะยานราวหมาป่า แต่หากคนใดหน้าหนาเพียงพอ ย่อมไม่สะทกสะท้านต่อคำด่าว่า เขายังคงแสดงสีหน้าเจ็บปวดและกล่าวว่า

DMCA.com Protection Status