Share

บทที่ 856

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
ฮูหยินผู้เฒ่าป๋อผิงซีอยู่ในห้องคลอดสักพักหนึ่ง แล้วพูดกับนางจีว่า "ตอนนี้ที่จวนไม่มีนายหญิงที่ดูแลงานบ้านงานเรือน ฮูหยินผู้เฒ่าก็ป่วยอยู่ ชิงหลูผ่านการทรมานนี้ ได้ปวดทั้งใจและกาย ต้องการดูแลให้ดีๆ เจ้าช่วยพวกเขาที่นี่สักสองสามวันเถอะ"

สุดท้ายแล้ว นางก็กลัวว่าหวังชิงหลูจะมีชีวิตไม่ดี หญิงชรานั้นโหดร้ายจริงๆ เอาชามไปขว้างใส่ทั้งอย่างนั้น ก็ไม่รู้ว่าในปกติแล้วลูกสาวของตนเองต้องโดนรังแกขนาดไหนเชียว

แต่นางไม่ได้ไปหาฮูหยินผู้เฒ่าเพื่อเอาเรื่อง ที่จวนเพิ่งเสียคนไป และลูกสาวก็คลอดบุตรยากและเด็กก็ไม่รอดชีวิต หากเกิดอะไรขึ้นกับหญิงชราคนนั้นอีก...

ช่างเถอะ ช่างเถอะ การแท้งบุตรไม่สามารถปกปิดได้อีก แต่จ้านเป่ยว่างอาจคิดว่าเป็นเด็กของนางกับเจ้าสิบเอ็ดฝาง แต่แค่รักษาเด็กไว้ไม่ได้

ดังนั้นหากเรื่องนี้ผ่านได้ก็ให้มันผ่านไปเลย

นางไม่มีหน้าเผชิญกับเรื่องนี้จริงๆ

นางจีไม่อยากอยู่ต่อเพื่อจัดการกับเรื่องยุ่งวุ่นวายทั้งหมดของจวนแม่ทัพจริงๆ แต่ในเมื่อท่านแม่ได้สั่งไว้แล้ว อีกอย่างจวนแม่ทัพไม่มีนายหญิงจริงๆ งั้นนางอยู่ต่อเพื่อดูแลให้สักสองสามวันก็ถือว่ามีน้ำใจมากพอแล้ว

อย่างไรก็ตาม นางจะไม่อาศัยอยู่ในจวน
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Puranamee
ทำไมตัดยอดแล้วอ่านต่อไม่ได้ หักยอดผ่านเบอร์ก็ไม่ได้ บังคับให้เติมวอลเลท พอเติมวอลเลท หักไปแล้วก็บอกว่าหักไม่ได้ แล้วยังบังคับให้จ่ายที่ 399 บ. ถึงจะเลือกเป็น 199 บ. ก็ไม่ได้
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 857

    เมื่อนางจีได้ยินอย่างนั้น ก็พอจะรู้ว่าพี่น้องสะใภ้สองคนนี้เคยมีเรื่องกัน และหัวใจของนางก็จมดิ่งลง แต่จะต้องไม่ทะเลาะก่อนที่นางหมินเกิดเรื่อง"เล่าเลย ข้าต้องการรู้ทุกอย่างต้องละเอียดด้วย" นางจีกล่าวหงเอ๋อร์จึงเล่าทุกอย่างที่นางรู้ให้ นางจีสรุปว่า "สามเรื่อง เรื่องแรกคือนางให้ฮูหยิใหญ่ดูแลบ้าน แต่ให้เงินเดือนเพียงสามส่วนของจ้านเป่ยว่าง แต่ของกินของใช้รวมค่าขนมค่าแรงคนใช้ให้จวนออกให้หมด เรื่องที่สอง หลังจากทะเลาะกับฮูหยินใหญ่เนื่องจากเหตุผลนี้ จากนั้นใช้วิธีรุนแรง โดยยื่นยื่นกรรไกรให้ฮูหยินใหญ่เพื่อให้แทงที่ท้องของนาง เรื่องที่สาม โทษฮูหยินใหญ่ซื้อเม็ดซืนเจียวน้อยไป ใช่ไหม"หงเอ๋อร์พยักหน้า "ถูกต้องเจ้าค่ะ""ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นก่อนที่ฮูหยินใหญ่จะแขวนคอตาย แล้วก่อนหน้านี้ล่ะ? ได้มีเรื่องกันไหม"หงเอ๋อร์คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า "ไม่มีความขัดแย้งอย่างรุนแรงอะไร แต่ฮูหยินก็ดูถูกฮูหยินใหญ่มาตลอด บางครั้งอาจจะพูดจาหยาบคายไปหน่อย""หยาบคายยังไง ถึงขั้นไหน?"หงเอ๋อร์อาจจะชินแล้ว หลังๆ นางก็คิดว่าก็ไม่ได้หยาบคายมากเท่าไร "ส่วนมากก็ว่าฮูหยินใหญ่เป็นคนชั้นต่ำ ไม่มีพ่อแม่สั่งสอน ใจแคบ ชอบคิ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 858

    ในตอนกลางคืน ณ จวนเป่ยหมิงอ๋อง ห้องหนังสือก็สว่างไสว"เจ้าตัดสินใจดีแล้วจริงๆ เหรอ?" เซี่ยหลูโม่ถามซ่งซีซีอีกครั้ง "เจ้าต้องรู้ว่าการทำเช่นนี้อาจทำให้เกิดปัญหามากมายและอาจนำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์"ซ่งซีซีมองดูเขา "ท่านจะสนับสนุนข้าใช่ไหม?""มันเป็นการตัดสินใจของเจ้า และข้าจะสนับสนุนเจ้าอย่างแน่นอน" เซี่ยหลูโม่ยิ้มอย่างอบอุ่นเสิ่นว่านจือเท้าคาง "ข้าไม่เพียงแต่สนับสนุนเท่านั้น ข้ายังออกเงินและออกแรงเพื่อสนับสนุนเจ้าด้วย"ซ่งซีซีมองไปที่อาจารย์หยู "อาจารย์หยูคิดว่าอย่างไรเล่า?"อาจารย์หยูครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง "จากมุมมองของจวนอ๋อง ข้าไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน แต่จากมุมมองของมนุษย์ ข้าก็สนับสนุนด้วย""ศิษย์พี่?" ซ่งซีซีมองไปที่เสิ่นชิงเหอ ศิษย์พี่ยังไม่ได้แสดงจุดยืนของเขาเสิ่นชิงเหอพยักหน้า "ศิษย์พี่จะไม่สนับสนุนสิ่งที่เจ้าต้องการทำได้อย่างไร แต่ขอพูดไว้ก่อน ในเมื่อเจ้าตัดสินใจแล้ว ก็ต้องคำนึงถึงผลที่ตามมาและสามารถรับผลที่ตามมาได้""ข้ารู้" แสงส่องไปที่ดวงตาของซ่งซีซี ซึ่งทำให้นางดูสดใสมากยิ่งขึ้น "ข้าไม่ได้หุนหันพลันแล่น ข้าคิดเรื่องการจัดตั้งสถาบันการศึกษาสตรีมาหลายวันแล้ว แต่อย่า

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 859

    ในท้องพระโรง เสียงต่อต้านก็ท่วมท้น"เหลวไหล ถ้าสถานที่เช่นนั้นถูกจัดตั้งขึ้นมา งั้นสามคล้อยสี่คุณธรรมจะไม่กลายเป็นเรื่องไร้สาระแล้วหรือ?" (สามคล้อยสี่คุณธรรม "สามคล้อย" คือ ยังไม่ออกเรือนคล้อยตามบิดา ออกเรือนคล้อยตามสามี สามีถึงแก่กรรมแล้วคล้อยตามบุตรชาย ส่วน "สี่คุณธรรม" คือ นารีธรรม นารีพงษ์ นารีลักษณ์ นารีกิจ)"ใช่ สิ่งนี้จะส่งเสริมให้ผู้หญิงเกิดความเย่อหยิ่ง ทำให้พวกนางไม่เคารพผู้ใหญ่ อิจฉาขี้หึง และแม้กระทั่งสร้างปัญหาให้ฝ่ายในครอบครัวด้วย""ข้าว่านี่คงมิใช่ความเห็นของท่านอ๋อง แต่เป็นความเห็นของพระชายามากกว่ากระมัง เพื่อที่จะเอาใจพระชายา ถึงกับสละศักดิ์ศรีความเป็นลูกผู้ชาย มันน่าขำจริงๆ"จักรพรรดิ์ซูชิงมองดูความปั่นป่วนด้านล่างจากบัลลังก์ของเขา เม้มริมฝีปากบ้างและยกริมฝีปากบ้าง แต่มันก็เรื่องน่าดูจริงๆ เพราะตั้งแต่เซี่ยหลูโม่กลับมาจากสนามรบเขตหนานเจียง มีเพียงคนที่ยกย่องเขาและน้อยมากเลยที่ด่าเขาเขาถอนหายใจในใจ น้องโม่เอ๊ย เจ้านี่ยังอ่อนไปหน่อย นี่เจ้ากำลังแตะต้องจุดห้ามของทุกคน หากสตรีมีทางออก แล้วให้พวกเขาควบคุมสตรีได้อย่างไร? เจ้าต้องการที่จะชนะใจประชาชน แต่กลับไม่รู้ว่าเจ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 860

    ฮูหยินผู้เฒ่าจ้านนิ่งไป นางมองไปที่นางจี นางทำหน้าไม่สู้ดี ดวงตาของนางเต็มไปด้วยวิจารณญาณเพื่อดูว่านางกำลังล้อเล่นหรือเอาจริงกันแน่แต่นางไม่ได้ล้อเล่น นางจริงจังมากเลือดทั้งหมดในร่างกายของเธอก็พุ่งปรี๊ดไปที่ศีรษะของนาง และนางก็หายใจลำบาก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฮูหยินป๋อผิงซีจะขอเงินจากนางเพื่อซื้อยาความเป็นญาติกันแท้ๆ อีกอย่างให้ซื้อยา จำเป็นต้องคิดเล็กคิดดน้อยเช่นนี้หรือกว่าจะนางจะระงับความรู้สึกอับอายนั้นก็ใช้เวลาไปนาน จากนั้นขยิบตาให้ป้าซุนที่อยู่ข้างๆ คำพูดบางคำที่นางในฐานะผู้ใหญ่ย่อมจะไม่พูดหรอกป้าซุนได้แต่กัดฟันถามว่า "รบกวนฮูหยินออกเงินให้ก่อน เดี๋ยวเราจะคืนให้ทีหลังได้ไหม"นางจีพูดว่า "ข้าออกจากบ้านรีร้อน จะนำเงินจำนวนก้อนใหญ่มาพกตัวได้ยังไง"เสียงของป้าซุนแผ่วเบามาก "ฮูหยินกลับไปเอาก่อนค่อยไปซื้อก็ได้เจ้าคะ"นางจีหัวเราะออกมา "ทำไมต้องให้เรื่องมันยุ่งยากเล่า ให้ข้ากลับจวนไปเอาเงิน พวกเจ้าให้ข้าไปตรงๆ ไม่ได้เหรอ ถึงยังไงก็ต้องคืน อย่าบอกนะว่าจวนแม่ทัพที่ใหญ่โตเช่นนี้ แม้แต่เงินสองร้อยตำลังก็ไม่มีสินะ"ฮูหยินผู้เฒ่าหน้าดำหน้าแดงขึ้นมา เห็นได้ชัดว่านางจีกำลังหัวเราะนาง

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 861

    ก่อนหน้านี้หวังชิงหลูมักจะผลักความผิดออกไป ไม่ว่าทำให้เกิดปัญหาร้ายแรงขนาดไหน นางจะตีตนเองให้ห่างจากเรื่องนั้น โดยบอกว่าตนเองไม่เกี่ยวด้วยและเป็นผู้บริสุทธิ์แต่คราวนี้ นางไม่ได้ปฏิเสธคำพูดของนางจี เพียงปาดน้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุดเท่านั้นนางจีมองไปที่นาง และถอนหายใจ ในจวนแม่ทัพ จ้านเป่ยชิงไร้ประโยชน์แล้ว เขาสูญเสียสถานะข้าราชการและภรรยาก็จากไปแล้ว เขาขังตัวเองอยู่ในห้องตลอดเวลาจ้านเป่ยเซินเป็นคนไม่ได้เรื่อง เขาไม่ถนัดศิลปะการต่อสู้ เรียนหนังสือก็ไม่เก่ง อย่าหวังกับเขาเลยบ้ารองบอกว่าไม่ยุ่งก็จะไม่ยุงจริงๆ ถึงขั้นสั่งคนเริ่มสร้างกำแพงเพื่อแบ่งจวนแม่ทัพออกเป็นสองส่วนมีแต่จ้านเป่ยว่างเท่านั้น นอกเหนือจากการฝึกพิเศษแล้ว เขายังกลับบ้านดูแลหวังชิงหลูด้วย ผู้ชายมาดูแลบ้าน หลังจากอ่านนายการบัญชีเสร็จถึงรู้ว่าจวนแม่ทัพหมดตัวแล้วจริงๆสองชั่วยามต่อมา มีเงินสองร้อยตำลึงมายื่นตรงหน้านางจี เป็นป้าซุนที่สาส่งเอง นางเดินเร่งรีบและหายใจหอบ เห็นได้ชัดว่าเพิ่งกลับมาจากนอกบ้านนางจีรู้อะไรมากมายจากหงเอ๋อร์ นางหมินเคยขอให้ฮูหยินผู้เฒ่าจำนำเครื่องประดับของนาง แต่ฮูหยินผู้เฒ่าไม่เห็นด้วยและยังทุบตี

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 862

    จ้านเป่ยว่างตัดสินใจเด็ดขาด เตรียมที่จะขายคนรับใช้จำนวนหนึ่งออกไปจวนแม่ทัพไม่สามารถเลี้ยงคนจำนวนมากได้อีกต่อไป พี่ชายใหญ่ถูกปลดจากตำแหน่ง บ้านรองถูกแบ่งออกไป ส่วนตัวเขาเองจะกลับไปดำรงตำแหน่งได้เมื่อใดยังไม่แน่ ในกรณีไม่มีรายได้นั้นก็ได้แต่ประหยัดรายจ่ายโดยทั่วไปแล้วตระกูลผู้สูงศักดิ์จะไม่ขายคนรับใช้ของพวกเขา ในแต่ละตระกูลมีเรื่องอื้อฉาวที่ไม่อาจเปิดเผยได้ก็มีไม่น้อย หากขายคนรับใช้ออกไป พอเจอกับเจ้านายใหม่ที่ดีก็ว่าไปอย่างหนึ่ง หากเจอเจ้านายใหม่ที่ไม่ดี คนใช้อาจจะมีความเกลียดในใจแล้วเปิดเผยเรื่องอื้อฉาวพวกนั้นไปทั้งหมดก็เป็นได้ดังนั้น นี่จะเป็นเรื่องห้ามสำหรับตระกูลผู้สูงศักดิ์แต่สำหรับจวนแม่ทัพในตอนนี้ยังมีเรื่องอื้อฉาวอะไรที่คนนอกจะไม่รู้ล่ะ? จ้านเป่ยว่างไม่สนใจแล้ว คำสาปที่รุนแรงที่สุดก็ด่าจากปากของชาวบ้านทุกๆ วันอยู่แล้ว เขายังต้องมาถือสาอะไรอีก?ไม่ทำงานก็ไม่รู้ว่าดูแลงานบ้านงานเรือนจะยากลำบากเช่นนี้ ขณะนี้จ้านเป่ยว่างก็เข้าใจนางหมินและกลายเป็นคนอย่างนางหมินตอนนี้เขามีความรู้สึกที่ซับซ้อนมากกับหวังชิงหลู เขารู้สึกเห็นใจที่นางเสียลูกไป แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกโกรธที่นางทะ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 863

    หลี่เต๋อฮวยตอบ "ไร้สาระ แน่นอนว่าข้าต้องเป็นผู้ชายอยู่แล้ว แต่ผู้ชายสามารถทำทุกอย่างที่เขาต้องการไม่ว่าจะผิดจะถูกก็ได้หมด สามารถมีภรรยาและอนุหลายๆ คน มีลูกไม่ได้ก็สามารถรับเด็กมาเลี้ยง พอป่วยหนักก็มีภรรยาคอดูแล ผู้ชายใช้ชีวิตอย่างตามอำเภอใจเช่นนี้ก็ไม่เห็นบ้านเมืองก่อความวุ่นวายเลย แล้วทำไมมีสถานที่แห่งหนึ่งมาช่วยเหลือผู้หญิงที่ถูกทอดทิ้งจะสามีก็ทำให้บ้านเมืองไม่สงบสุขเล่า?""แค่ให้ผู้หญิงมีทางเลือกเพิ่มมาอีกทางหนึ่งเอง พวกเจ้ากำลังกลัวอะไรอยู่หรือ ไม่มีใครอยากใช้ทางออกนี้หรอก นอกเสียจากว่านางจนมุมจริงๆ หรือว่าทุกคนต่างก็คิดจะบีบบังคับให้พวกนางเดินเส้นทางนี้เหรอ หากมิใช่ พวกเจ้ากลัวทำไม"หลี่เต๋อฮวยไม่ค่อยได้แสดงความเห็นบ่อยๆ หรอก พอแสดงความเห็นก็เป็นเพราะมีภารกิจต้องทำ ภรรยาที่บ้านได้กำชับไว้แล้วต้องสนับสนุนท่านอ๋องอย่างเต็มที่ซ่งซีซีก็ฟังอยู่ในการประชุมเช่นกัน นางไม่ได้พูดอะไรเพราะนาง เป็นผู้หญิง หากนางพูดแทนผู้หญิง การตอบโต้จะยิ่งรุนแรงมากกว่า ผลประโยชน์กำหนดจุดยืนต่อให้นางจะพูดเก่งมากแค่ไหนก็ไม่สามารถสู้การต่อต้านที่ถล่มมาจากพวกเขาดังนั้นนางแค่รอดู รอให้ฝ่าบาทสั่งให้นางพูด

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 864

    เสียงของซ่งซีซีนั้นไม่ดังหรือเบาเกินไป และทำให้ทุกคนในท้องพระโรงได้ยินหมด "บางทีทุกท่านอาจคิดว่าการตายของนางหมินมันไม่สำคัญ แต่ถ้านางเป็นน้องสาวพี่สาว ลูกสาว หรือญาติของพวกท่านล่ะ จะรู้สึกเห็นใจนางบ้านหรือไม่?เพราะถึงยังไงคนที่อยู่ที่นี่ต่างก็เรียนหนังสือมา ต่างมีความเห็นอกเห็นใจกับผู้เฒ่าและผู้อ่อนแอที่สุด ผู้หญิงหลายคนถูกหย่าและถูกไล่ออกจากบ้าน ส่วนใหญ่เป็นเพราะโรคร้ายแรงหรือไม่ก็มีบุตรไม่ได้ พวกนางไม่ได้ทำอะไรผิดนะ"นางถอนหายใจอย่างๆ เศร้าอีกครั้ง "ชีวิตของผู้หญิงก็มีค่าด้วยนะ หรือว่าโลกนี้ต้องการกำจัดพวกนางให้สิ้นซากหรือ"หลายคนแอบถุยน้ำลายในใจ ถ้านางเป็นน้องสาวพี่สาว ลูกสาว หรือญาติของพวกท่านงั้นเหรอแต่คำว่าเรียนหนังสือมา มีความเห็นอกเห็นใจกับผู้เฒ่าและผู้อ่อนแอที่สุด ทำให้พวกเขาถูกผูกมัดด้วยศีลธรรม นี่จะโต้ตอบได้อย่างไร การโต้แย้งกับคำพูดเหล่านี้ก็จะทำให้พวกเขาดูไร้เหตุผลมากและต้องการกำจัดพวกผู้หญิงให้สิ้นซากหากเป็นผู้ชายที่พูดคำเหล่านี้ออกมาก็พอจะโต้แย้งได้แต่มันออกจากปากของผู้หญิง ทั้งท้องพระโรงมีผู้หญิงเพียงนางคนเดียว ฝ่าบาทให้นางแสดงความเห็น นางพูดคำเหล่านี้ด้วยความเม

Latest chapter

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1522

    ในตำหนักฮุ่ยอี๋ องค์ชายสามนั่งอยู่บนเก้าอี้ องค์หญิงสามช่วยเช็ดเส้นผมที่เปียกชื้นของเขา นางกล่าวด้วยความขุ่นเคืองว่า “เพิ่งสระผมไปเมื่อวันก่อนแท้ๆ เจ้าต้องเล่นกับเจ้าแมวป่าตัวนั้นให้ได้ ทำให้เส้นผมและใบหน้าของเจ้ามีแต่ขนแมว ถ้ามีคราวหน้าอีก พี่จะตีเจ้าที่ก้น”เด็กชายตัวน้อยที่งดงามราวกับแกะสลักจากหยก ดวงตาดำขลับทอประกายราวดวงดาว ยิ้มแย้มขณะที่พิงตัวอยู่ในอ้อมกอดพี่สาว “ท่านพี่ เจ้าแมวป่าสนุกและน่ารักมาก มันใช้เท้าเล็กๆ เหยียบข้า รู้สึกสบายจริงๆ แถมเวลากอดมันก็อบอุ่นด้วย”องค์หญิงสามกล่าวว่า “เสด็จแม่บอกแล้วว่าเสด็จพ่อไม่ชอบเจ้าแมวป่า แต่เจ้ากลับเอาแต่นำเรื่องของมันไปพูดกับเสด็จพ่อ ไม่แปลกใจเลยที่ช่วงนี้เสด็จพ่อไม่มาหาเจ้าเลย”องค์ชายสามนั่งตัวตรง ปล่อยให้พี่สาวช่วยเช็ดผม แต่ปากยังไม่วายโต้กลับ “ข้ากับเสด็จพ่อเป็นคนละคน ย่อมมีสิ่งที่ชอบและไม่ชอบแตกต่างกัน เสด็จพ่อไม่ชอบ แต่ข้าชอบ ข้ารักมัน ต่อให้เสด็จพ่อไม่พอใจ ก็ใช่ว่าจะบังคับให้ข้าทิ้งมันได้”องค์หญิงสามเอานิ้วแตะจมูกเขาเบาๆ “ปากคมเสียจริง”องค์ชายสามยิ้มกว้าง “ท่านพี่เถียงข้าไม่ชนะ เพราะพี่ไม่มีเหตุผล เสด็จอาบอกว่าหากพี่มีเหตุผล

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1521

    ฝูเจาอี๋มิได้สังเกตเห็นรอยเย้ยหยันที่มุมปากของชุนถังชุนถังเป็นนางกำนัลที่คอยรับใช้ข้างกายนาง ตั้งแต่นางได้รับการเลื่อนขั้นเป็นเจี๋ยหยู นางเฉลียวฉลาดและสุขุม ยามที่ฝูเจาอี๋ต้องการคำแนะนำ นางก็มักเป็นผู้วางแผนให้อยู่เสมอ ครั้งนั้น ฮองเฮามีใจต้องการดึงนางเข้าสังกัด ทว่าชุนถังกลับเตือนว่าสถานะของฮองเฮาเริ่มสั่นคลอนแล้ว ถูกกักบริเวณอยู่บ่อยครั้ง ฝ่าบาททรงไม่โปรดอีกต่อไป อีกทั้งยังไม่มีอำนาจดูแลวังหลัง สู้ทำทีเป็นให้ความร่วมมือไปก่อน แล้วค่อยเบนเข้าหาเต๋อเฟยและซูเฟยจะดีกว่าและชุนถังก็คิดถูก เต๋อเฟยเมตตานางยิ่งนัก ทั้งอาหาร เครื่องนุ่งห่ม และข้าวของล้วนจัดหาให้อย่างดี ไม่มีใครกล้าดูแคลนนางอีกทว่า ในอดีต เต๋อเฟยเคยดีกับนางก็จริง แต่ตอนนี้กลับใช้ประโยชน์จากครรภ์ของนางเพื่อเข้าหาฝ่าบาท สิ่งนี้ทำให้นางรู้สึกไม่พอใจยิ่งนัก“เจาอี๋มิทรงยินดีให้พระนางเต๋อเฟยเสด็จมาหรือเพคะ?” ชุนถังช่วยประคองศีรษะและเอวของนางให้สูงขึ้นอีกเล็กน้อย การต้องนอนติดเตียงเป็นเวลานานเช่นนี้ ทำให้นางมักบ่นว่าปวดหลังฝูเจาอี๋วางใจชุนถังมาโดยตลอด ดังนั้นจึงไม่ลังเลที่จะเอ่ยความในใจ “ตอนที่ครรภ์ของข้ายังมั่นคงอยู่ พระน

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1520

    ครรภ์ของฝูเจาอี๋ เดิมทีก็มั่นคงดี หมอหลวงเองก็กล่าวว่าไม่มีปัญหาใหญ่อันใด แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด พอเข้าสู่เดือนเหมันต์ ครรภ์นี้กลับเริ่มไม่มั่นคง อีกทั้งยังมีเลือดออกถึงสองครั้งหมอหลวงจินทุ่มเทสรรพวิธีเพื่อรักษาครรภ์ของนางไว้ ทำให้พอประคองสถานการณ์ได้ แต่นางก็ต้องนอนพักอยู่บนเตียง ยังไม่อาจลุกเดินไปไหนได้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด หมอหลวงย่อมให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ตรวจสอบทั้งอาหารการกินและข้าวของที่ใช้ในวังอย่างละเอียด ทว่ากลับไม่พบความผิดปกติใดๆ จึงคาดว่าน่าจะเป็นผลมาจากการที่ฝ่าบาทเสวยโอสถมาเป็นเวลานาน จึงทำให้ครรภ์นี้ไม่มั่นคงจักรพรรดิ์ซูชิงทรงเป็นกังวลอย่างยิ่งกับครรภ์นี้ นับตั้งแต่นางต้องนอนพักรักษาครรภ์ ฝ่าบาทก็ทรงเสด็จมาเยี่ยมเกือบวันเว้นวัน บางคราก็ทรงประทับร่วมเสวยพระกระยาหารเมื่อเอาใจใส่สิ่งหนึ่ง ก็ย่อมละเลยอีกสิ่งหนึ่งไป ทำให้ช่วงนี้ฝ่าบาทแทบไม่ได้เสด็จไปยังตำหนักของซูเฟย อีกทั้งยังมิได้ทรงเรียกองค์ชายสามเข้าพบที่ห้องพระอักษรเลยส่วนเต๋อเฟยนั้น เนื่องจากต้องดูแลกิจการในวังหลัง เมื่อพอมีเวลาว่างก็มักจะพาองค์ชายรองมาเยี่ยมฝูเจาอี๋ด้วย ดังนั้นจึงได้มีโอกา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1519

    ในวังหลัง เดิมทีมีผู้คาดเดาเกี่ยวกับพระอาการของฝ่าบาทไม่น้อย แม้ยามนี้ฝูเจาอี๋จะตั้งครรภ์ ทว่าหมอมหัศจรรย์กลับพำนักอยู่ในวัง เป็นหลักฐานว่าพระวรกายของฝ่าบาทหาใช่เพียงต้องบำรุงรักษาเพียงเล็กน้อยเท่านั้นดังนั้น การที่ฝ่าบาทโปรดปรานเช่นนี้ ทำให้บางคนเริ่มอยู่นิ่งไม่ได้โดยเฉพาะฮองเฮา นางรับรู้เรื่องพระอาการของฝ่าบาทอยู่บ้าง ตอนนี้หมอมหัศจรรย์กลับเข้าวังเพื่อถวายการรักษา ผลลัพธ์จะเป็นเช่นไรนางไม่อาจคาดเดา เพียงแต่รู้สึกว่าฝ่าบาทอาจอยู่ในช่วงที่พละกำลังถดถอยเต็มที่แล้วครรภ์ของฝูเจาอี๋ นางไม่ได้ใส่ใจ ไม่ว่าบุตรในครรภ์จะเป็นชายหรือหญิงก็ยังไม่อาจทราบได้ ต่อให้เป็นองค์ชาย ก็ยังไม่ถึงคราวของเขาแต่การที่ฝ่าบาททรงเอ็นดูองค์ชายสามถึงเพียงนี้ กลับทำให้นางรู้สึกถึงภัยคุกคามเดิมทีฝ่าบาทให้ทางเลือกแก่นาง นางเลือกตำแหน่งฮองเฮา เลือกมีชีวิตรอด ทว่าหลังจากนิ่งเฉยมาพักหนึ่ง นางก็เข้าใจว่าฝ่าบาทจะไม่ทรงละทิ้งองค์ชายใหญ่ได้รวดเร็วเพียงนั้น ยิ่งตอนนี้องค์ชายใหญ่ขยันขันแข็งศึกษาหาความรู้ แม้แต่ไท่ฝู่และเสด็จอายังเอ่ยปากชม นางยังสืบมาว่าฝ่าบาททรงพอพระทัยองค์ชายใหญ่อยู่ไม่น้อยองค์ชายรองและองค์ชายสามล

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1518

    จักรพรรดิ์ซูชิงทรงประชุมหารือกับขุนนางในห้องทรงอักษรยาวนานจนถึงดึกดื่น สุดท้ายเป็นหมอมหัศจรรย์ดันที่ต้องเข้าไปขัดจังหวะ แจ้งว่าดึกมากแล้ว พระองค์ถึงกับเหยียดพระกรพลางแย้มพระสรวล “ถึงกับดึกเพียงนี้แล้วรึ? เช่นนั้นก็เลิกประชุมเถิด ประตูวังใกล้จะปิดแล้ว”แม้จะเป็นช่วงเวลาดึกมากแล้ว แต่พระองค์กลับยังดูสดชื่น โดยเฉพาะบนพระพักตร์ที่มีเลือดฝาดขึ้น ดูอย่างไรก็ไม่เหมือนผู้ที่ประชวรเลยซ่งซีซีรอให้เซี่ยหลูโม่ประชุมเสร็จ ก่อนจะออกจากวังกลับจวนพร้อมกันนางอ่อนล้ามาก พิงไหล่ของเซี่ยหลูโม่แล้วเผลอหลับไปอย่างไม่รู้ตัวเมื่อรถม้ามาถึงหน้าจวน เซี่ยหลูโม่อุ้มนางขึ้นมา ซ่งซีซีรับรู้ได้รางๆ แต่ก็ขี้เกียจจะตื่น เลยปล่อยให้เขาอุ้มเข้าไป อ้อมแขนอบอุ่นแข็งแกร่งช่างสบายเหลือเกินตลอดสามเดือนที่ผ่านมา นอกจากตอนอยู่ที่ด่านเฉิงหลิง นางแทบไม่มีคืนไหนที่สามารถนอนหลับได้อย่างสนิทใจ แต่เมื่อกลับถึงจวน ก็รู้สึกผ่อนคลายลงอย่างสมบูรณ์ ดำดิ่งสู่ห้วงนิทราลึกทว่า…นอนหลับไปก็ยังรู้สึกว่ามีมือร้อนจัดคู่หนึ่งลูบไล้ไปทั่วร่างนางยังคงหลับตา เอ่ยขึ้นด้วยเสียงแหบพร่า “ลืมที่ท่านลุงดันบอกไปแล้วหรือ?”เสียงร้อนผ่าวกระซิบข

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1517

    วันที่ 15 เดือนสิบ คณะทูตจึงเดินทางกลับมาถึงเมืองหลวงในที่สุดกองทัพซวนเจียได้รับคำสั่งให้แยกย้ายไปพักก่อน ขณะที่หลี่เต๋อฮวยและขุนนางจากสำนักหงหลู่ต้องเข้าเฝ้าพระองค์เพื่อถวายรายงาน ส่วนฉินอ๋องที่ตลอดทางอ่อนแอราวกับช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ตอนนี้กลับกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที กล่าวว่าจะเข้าเฝ้าพร้อมกับพวกเขาด้วยส่วนซ่งซีซีนั้น ถูกเซี่ยหลูโม่ที่เฝ้ารออยู่ที่ประตูเมืองรับตัวกลับจวนไปก่อนแล้วช่วงเวลาที่ผ่านมา เขาสั่งให้คนคอยเฝ้ารอที่ประตูเมืองทุกวัน บางครั้งตอนพักกลางวันก็ยังมารอด้วยตนเอง และวันนี้ก็บังเอิญได้พบกันจริงๆขณะที่หลี่เต๋อฮวยและคนอื่นๆเข้าเฝ้าในวัง ซ่งซีซีก็ได้เข้าไปคารวะฮุ่ยไท่เฟยก่อนแล้วเมื่อฮุ่ยไท่เฟยรู้ว่านางเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง ก็ให้รีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าซ่งซีซีและเซี่ยหลูโม่ถวายคำนับก่อนออกไป และกลับไปยังเรือนเหมยฮวาหลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ริมฝีปากของนางกลับดูบวมขึ้นเล็กน้อย รุ่ยจูที่เห็นถึงกับตกตะลึงไปชั่วขณะ ก่อนจะเหลือบมองไปทางท่านอ๋อง พระชายาเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ท่านอ๋องยืนกรานจะปรนนิบัติด้วยตัวเอง แต่ดูเหมือนจะปรนนิบัติได้ไม่ดีเท่าไรน

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1516

    เมื่อได้พักฟื้นอยู่ห้าวันที่ด่านเฉิงหลิง ฉินอ๋องก็ฟื้นตัวขึ้นมาบ้างแล้วเมื่อฉินอ๋องหายดี ก็ถึงเวลาต้องออกเดินทางกลับเมืองหลวงแม้จะอาลัยเพียงใด ซ่งซีซีก็ทำได้เพียงกลั้นน้ำตากล่าวคำอำลา นางคุกเข่าคารวะต่อหน้าแม่ทัพใหญ่เซียวอยู่หลายครั้ง จนแทบจะทำให้ท่านน้ำตาคลอหลี่เต๋อฮวยเป็นผู้ที่เคารพนับถือแม่ทัพใหญ่เซียวที่สุด เมื่อซ่งซีซีเพียงแค่น้ำตาคลอ แต่เขากลับปิดหน้าและร้องไห้ออกมาเต็มที่ เพราะเขารู้ว่า บางทีตลอดชีวิตนี้ อาจไม่มีโอกาสได้พบกับท่านแม่ทัพผู้เฝ้ารักษาด่านเฉิงหลิงมาเป็นสิบๆ ปีอีกแล้วแม่ทัพใหญ่เซียวเข้าสู่วัยชราโดยสมบูรณ์ เมื่อมองดูอีกครั้งก็ดูแก่ชรากว่าครั้งก่อนอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าฮ่องเต้จะพระราชทานอนุญาตให้ท่านกลับเมืองหลวงได้ แต่ด้วยความเหนื่อยล้าจากการเดินทางอันยากลำบาก ทายาทตระกูลเซียวก็คงไม่ยอมให้ท่านเดินทางกลับอีกแล้วแม่ทัพใหญ่เซียวสนทนากับหลี่เต๋อฮวยอยู่ครู่หนึ่ง ทว่าแทนที่จะบรรเทาความรู้สึกของเขา กลับทำให้เขาร้องไห้หนักกว่าเดิมเสียอีกด้านนางหนานผู้เป็นป้าใหญ่ ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่เคยถามถึงเรื่องของ พระชายาอ๋องฮวยเลย จนกระทั่งถึงเวลาต้องอำลากัน นางจึงดึงซ่งซีซีไปค

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1515

    การเดินทางกลับเริ่มขึ้นในช่วงต้นเดือนเก้าอากาศไม่ร้อนจัดอีกต่อไป เริ่มมีความเย็นสบายแผ่วเบาซูลันจีนำทัพออกมาส่งด้วยตัวเอง พาพวกเขาไปจนถึงเมืองลู่เปินเอ่อร์ตลอดเส้นทางขากลับ ไม่มีการลอบสังหารเกิดขึ้น ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นเมื่อข้ามภูเขาสลับซับซ้อนมาได้ ก็เข้าสู่เขตแดนของแคว้นซางเดิมทีพวกเขาไม่ได้แจ้งแม่ทัพใหญ่เซียวล่วงหน้า คิดว่าคงไม่มีใครมารับ แต่ทันทีที่เข้าสู่ชายแดนแคว้นซาง ก็พบว่าจ้านเป่ยว่างนำทัพเซียวเจียจวินรออยู่ที่นั่นเมื่อเห็นว่าพวกเขากลับมาโดยปลอดภัย จ้านเป่ยว่างก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกอย่างเห็นได้ชัด เขากระตุ้นม้าเข้ามาใกล้ ก่อนลงจากหลังม้าแล้วทำความเคารพฉินอ๋อง หลี่เต๋อฮวยและขุนนางท่านอื่นๆ “ท่านอ๋อง เสนาบดีหลี่ ท่านขุนนางทั้งหลาย แม่ทัพใหญ่เซียวสั่งให้ข้านำทัพมาคอยเฝ้ารอที่นี่ทุกวัน เพื่อคุ้มกันพวกท่านกลับไปยังเฉิงหลิงกวน”หลี่เต๋อฮวยเอ่ยถามด้วยความสงสัย “แม่ทัพใหญ่รู้ได้อย่างไรว่าพวกเราจะกลับมาวันนี้?”จ้านเป่ยว่างตอบว่า “แม่ทัพใหญ่ไม่ทราบ เพียงแต่สั่งให้ข้าและกองทัพมาเฝ้าอยู่ที่นี่ทุกวัน”“ที่แท้เป็นเช่นนี้” หลี่เต๋อฮวยรู้สึกว่าแม่ทัพใหญ่เซียวเป็นคนรอบคอบย

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1514

    อันเฟิงชินอ๋องกล่าวว่า “การเดินทางครั้งนี้ มิใช่เพียงเพื่อซีจิงและแคว้นซาง แต่ก็เพื่อเป่ยถังของเราด้วย มิจำเป็นต้องกล่าวขอบคุณ ระหว่างแคว้นต่อแคว้น สิ่งที่มาก่อนคือผลประโยชน์ มีเพียงความสัมพันธ์ส่วนตัวเท่านั้น ที่จะสามารถปฏิบัติต่อกันด้วยใจจริง”ซ่งซีซีรับคำสอน แต่ก็นึกสงสัย จึงเอ่ยถามว่า “ท่านเคยรู้จักอาจารย์เหรินหยางอวิ๋นของข้าหรือไม่?”อันเฟิงชินอ๋องหัวเราะเบาๆ “รู้จัก เขาเคยมาเยือนเป่ยถัง และเคยพำนักอยู่ที่ไจ้ซิงโหลวอยู่ช่วงหนึ่ง แม่ทัพองครักษ์เงาของข้า ‘เฮยอิ่ง’ สนิทสนมกับอาจารย์ของเจ้ามาก พวกเขามักดื่มสุราด้วยกันเป็นประจำ”“เช่นนี้เองหรือ” ซ่งซีซีนึกถึงบรรดาผู้สวมชุดดำพวกนั้น ไม่รู้ว่าคนไหนคือเฮยอิ่ง หากไม่ได้พบหน้าสักครั้ง คงเป็นเรื่องน่าเสียดายอันเฟิงชินอ๋องคล้ายจะมองออกถึงความคิดของนาง ยิ้มพลางกล่าวว่า “อีกสามปี หรืออาจห้าปี พวกเราจะไปเยือนแคว้นซาง ถึงตอนนั้น ข้าจะแนะนำให้เจ้ารู้จักกับเฮยอิ่ง”ซ่งซีซีกำลังจะกล่าวขอบคุณ ทว่าเสิ่นว่านจือก็ถามขึ้นก่อน “เหตุใดต้องเป็นสามปีหรือห้าปี? ไปเร็วกว่านี้ไม่ได้หรือ? พวกเราตั้งตารอให้ท่านกับพระชายามาเยือน”อันเฟิงชินอ๋องเพียงยิ้ม แต่

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status