อ๋องเยี่ยนก็กำลังหารือเรื่องนี้กับคุณชายอู๋เซี่ยงอยู่คุณชายอู๋เซี่ยงไม่เห็นด้วยกับการส่งคนไป แต่อ๋องเยี่ยนรู้สึกว่าหากเซี่ยอวี้นยังมีชีวิตอยู่ มันก็เป็นตัวอันตรายร้ายแรงที่ถูกทิ้งไว้ ตอนนี้ไม่ได้เปิดโปงเขา แต่อนาคตล่ะ?"ฮ่องเต้ผู้โง่เขลาผู้นี้มีไหวพริบจริงๆ ได้ค้นพบอาวุธและชุดเกราะมากมายที่ แทนที่จะถูกประหารชีวิตถือเป็นตัวอย่างตักเตือน เขากลับสั่งให้จำคุกในสำนักกิจการราชวงศ์ ยิ่งไปกว่านั้นไม่ปิดคดีนี้ หากคดีนี้ไม่ปิด งั้นเซี่ยหลูโม่ก็จะกัดเขาเหมือนหมาบ้า ที่เซี่ยอวี้นยังมีชีวิตอยู่ สำหรับข้าแล้วมันเป็นภัยคุกจริงๆ"อู๋เซี่ยงขมวดคิ้วและพูดว่า "แม้ว่ามันจะเป็นภัยคุกคาม แต่หากแผนการล้มเหลว จะมีผลกระทบร้ายแรง เซี่ยอวี้นอาจเปิดโปงท่านโดยตรง นางเป็นคนบ้า""ดังนั้นข้าจึงวางแผนที่จะอ้างว่าเป็นการช่วยชีวิตนาง ให้นางรู้ว่าเราไปช่วยนาง แล้วค่อยหาโอกาสที่จะฆ่านาง"อู๋เซี่ยงยังคงคัดค้าน "การทำเช่นนี้เสี่ยงเกินไป ท่านอ๋องไม่จำเป็นต้องรับความเสี่ยงเช่นนั้นจริงๆ ท่านเพียงแค่เข้าวังทุกวันเพื่อดูแลผู้ป่วยและไม่ต้องสนใจกับสิ่งอื่นใด การทำแบบนี้ถือว่าดีที่สุดเลย""ไม่ว่ายังไงมันก็มีความเสี่ยง ถ้านาง
เป็นอย่างที่คิดจริงๆ ทันทีที่อกจากถนนซือเยี่ยน ซ่งซีซีก็รู้สึกถึงกระแสลมแห่งการฆาตกรรมที่อยู่รอบตัวนางกระแสลมแห่งการฆาตกรรมแบบนี้รุนแรงมาก และมาพร้อมกับกลิ่นเลือดที่คนธรรมดาไม่สามารถได้กลิ่น ซ่งซีซีค่อนข้างคุ้นเคยกับความรู้สึกนี้ นักรบสิ้นหวังเหล่านั้นที่อยู่ในจวนแม่ทัพคืนนั้นอาจารย์เคยบอกนางเรื่องกระบวนการฝึกนักรบสิ้นหวังในก่อนหน้านี้ มันโหดร้ายมาก ผู้ที่รอดชีวิตมาได้นั้นถือว่าได้เหยียบย่ำออกจากซากศพของสัตว์ร้ายหรือผู้คน ถือว่าเดินออกจากภูเขาซากศพและทะเลแห่งเลือดก็ไม่เกินจริงดังนั้น แม้ว่าพวกเขาจะมีทักษะศิลปะการต่อสู้ที่แข็งแกร่งมาก และท่าสู้ที่ร้ายกาจ แต่พวกเขาก็มีกลิ่นแรงของเจตนาฆ่าและคาวเลือดอยู่เสมอ"ทุกคนเตรียมพร้อม!" เสียงของนางลอดผ่านสายลมและกระทบหูของทุกคนสายตาของทุกคนตื่นตัว มีอาวุธอยู่ในมือ รู้สึกถึงทุกการเคลื่อนไหวรอบตัวหลังจากข้ามทางแยกอีกครั้ง ก็ได้ยินเสียงสั่นเล็กน้อยในอากาศ มันคือเสียงดาบที่ถูกลมพัดขณะที่มันถูกแกะออกจากฝัก"หยุด!" ปี้หมิงยกมือขึ้นและหยุดขบวน จากนั้นตะโกนเสียงดังและแยกย้ายประชาชนที่อยู่ใกล้เคียง "มีมือสังหาร อันตราย!"มีประชาชนไม่มาก ล้วนเป็
เมื่อเสียงกรีดร้องดังขึ้น มือสังหารทั้งเก้าก็รีบบินออกไปและกระจัดกระจายอย่างรวดเร็วปี้หมิงรู้สึกว่าเขาเดาถูกแล้ว พวกเขาไม่ได้มาช่วยคน แต่มาเพื่อฆ่าเซี่ยอวี้นต่างหากแต่เมื่อเขามองไปที่รถม้าก็ตกตะลึงมือสังหารคนนั้นถูกลากเข้าไปในรถม้า โดยทิ้งเท้าของเขาอยู่ข้างนอก และเห็นได้ชัดว่าไม่สามารถขยับได้อีกเลยซ่งซีซีก้าวไปข้างหน้าด้วยรอยยิ้มและเปิดม่านรถม้า ปี้หมิงเดินไปดูใกล้ๆ และอดไม่ได้ที่จะอึ้งไป ท่านอ๋อง?นอกจากท่านอ๋องแล้ว เซี่ยอวี้นก็ถูกมัดไว้ที่ด้านหนึ่งของรถม้าด้วย นางคือคนที่ส่งเสียงกรีดร้องเมื่อสักครู่นี้ ตอนนี้นางกำลังจ้องมองไปที่มือสังหารด้วยสายตาที่ดุร้ายเซี่ยหลูโม่ดึงมือสังหารออกจากรถม้าแล้วส่งให้ปี้หมิง "พาเขากลับไปที่หอต้าหลี่ เขาถูกจุดฝังเข็ม และยาพิษในปากของเขาก็ถูกขุดออกมาแล้ว แต่เราไม่สามารถประมาทไป หลังจากนำเขากลับไปให้ป้อนผงอ่อนแรงด้วย นักรบสิ้นหวังแบบนี้ นอกจากกินยาพิษได้ก็ยังสามารถตัดเส้นลมปราณของตัวเอง"ปี้หมิงให้คนเจ้าไปจับมือสังหาร แต่ก็เหลือบมองท่านอ๋องอย่างสับสน ท่านอ๋องขึ้นไปในรถม้าตั้งแต่เมื่อไร เห็นๆ อยู่ว่าตอนที่ขนส่งเซี่ยอวี้นนั้น ข้างในรถม้าไม่มีคนอย
เมื่อรถม้ามาถึงสำนักกิจการราชวงศ์ ซ่งซีซีก็ดึงนางออกจากรถม้า หลิวอิน ผู้ดูแลนักโทษราชวงศ์คนสำคัญในสำนักกิจการราชวงศ์ออกมารับช่วงต่องาน หลังจากส่งมอบแล้ว หลิวอินก็ออกคำสั่งล่ามโซ่หนักๆ ไว้บนตัวนางหลิวอินกล่าวว่า "ใต้เท้าซ่ง ฝ่าบาทได้ออกคำสั่งว่าเพื่อป้องกันไม่ให้เซี่ยอวี้นกัดลิ้นและฆ่าตัวตาย ฟันส่วนใหญ่ของนางจะถูกดึงออก และตัดเอ็นร้อยหวายของนางด้วย โปรดขอให้ใต้เท้าซ่งมาเข้ามาช่วยกำกับดูแล พวกท่านจะได้กลับไปรายงานด้วย"เซี่ยอวี้นกัดฟันกรอด "เจ้ากล้าดียังไง?"ซ่งซีซีกล่าวว่า "รบกวนนำทาง"เซี่ยอวี้นถูกลากเข้าไปข้างใน นางคำรามและโกรธแค้นไปตลอดทาง ไม่สามารถรักษาความสงบตอนอยู่ในรถม้าได้อีกต่อไปสำนักกิจการราชวงศ์มีขนาดใหญ่มาก โดยมีตรอกกว้างขวางแยกฝั่งตะวันออกและตะวันตก ฝั่งตะวันออกเป็นที่ที่สำนักกิจการราชวงศ์ทำงาน และฝั่งตะวันตกเป็นที่ที่ผู้คนถูกกักขังเนื่องจากคนที่ถูกกักขังในสำนักกิจการราชวงศ์ล้วนเป็นสมาชิกของราชวงศ์ จึงไม่มีเรือนจำ มีเพียงลานเล็กๆ ที่แยกออกเป็นหลายๆ หลังเท่านั้นแต่พื้นที่กักขังทั้งหมดถูกล้อมรอบด้วยกำแพงสูงและมีการป้องกันอย่างแน่นหนา ซ่งซีซีได้ออกคำสั่งให้หวังเจิง
หลังจากที่หวังเจิงอดทนต่อความเจ็บปวดที่รุนแรง เขาก็เกิดความโกรธจัดขึ้นมาและรีบพุ่งเข้าไปยังซ่งซีซีโดยไม่คำนึงถึงฐานะแต่อย่างใดแต่แล้วก็ถูกต่อยที่หน้าซ้ายและขวาอย่างละฉาด แต่เขาก็ไม่ทันได้เห็นซ่งซีซีต่อยตนเองได้อย่างไรให้ชัดเจนหลังจากกลับมาถึงเมืองหลวง ซ่งซีซีก็กลายเป็นคนมีน้ำใจและเอาใจคนอื่นมาก เพื่อให้เขาได้มองเห็นอย่างชัดเจน นางจึงคว้าเสื้อผ้าที่หน้าอกของเขาแล้วยกกำปั้นขึ้น เมื่อเขายกมือขึ้นเพื่อต่อต้าน นางก็ต่อยหน้าเขาโดยหลีกเลี่ยงมือของเขาได้ในขณะที่เขาตกตะลึงนั้นก็ยกเท้าเตะเขา แล้วเขาบินออกไปชนกับกำแพงอีกครั้งคราวนี้การเขาได้เห็นเคลื่อนไหวชัดเจน แต่เขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ตอนนางเริ่มยกเท้าขึ้นนั้นมันก็ช้ามาก และเตะออกไปไม่เร็ว ทว่าจู่ๆ ก็เร่งความขึ้น และคาดเดาทิศทางของการหลีกเลี่ยงของเขา เขาทำได้เพียงถูกซัดคนและเตะอีกครั้งอย่างทำอะไรไม่ได้ใบหน้าของหวังเจิงเปลี่ยนเป็นแดงก่ำ แต่อาจเป็นเพราะความเจ็บปวด เพราะการเตะสองครั้งนั้นหนักมากจนเขาไม่สามารถมีพลังงานในตันเถียนได้ชั่วขณะหนึ่งซ่งซีซีปัดแขนเสื้อของนาง มองดวงตาที่ประหลาดใจของหลิวอินแล้วพูดว่า "มาเริ่มกันเลย ข้าจะเฝ้าด
พอองค์หญิงใหญ่เสร็จก็ถึงตาฝู้หม่ากู้เมื่อมีการส่งพระราชโองการมาได้ประกาศว่าข้อหาของเขามี: การข่มขืน การลักพาตัวคน และการฆาตกรรม ทำเรื่องผิดกฏหมายมากมายฝู้หม่ากู้รู้ว่าเขาไม่สามารถรอดชีวิตได้ ดังนั้นเขาจึงขอข้อแม้ข้อหนึ่งว่าอยากจะพบพวกอนุภรรยาของเขาเขาขอร้องเซี่ยหลูโม่ "ถึงยังไงข้ากับพวกนางเป็นสามีภรรยากันและมีลูกด้วยกัน ข้าแค่ขอให้พวกนางอย่าเกลียดข้ามากเกินไป พวกนางรู้ดีว่าข้าไม่มีทางเลือกอื่น ที่ข้าอยู่อย่างยากลำบากเพียงเพื่อที่พวกนางจะได้มีชีวิตอยู่ต่อและไม่ถูกเซี่ยอวี้นฆ่าตาย แต่ข้ายังรู้สึกว่าเป็นข้าที่ทำผิดกับพวกนาง ขอเจ้าช่วยรายงานกับฝ่าบาทให้ ให้ข้าคุกเข่ากล่าวขอโทษพวกนาง"ทุกๆ คำพูดมีแต่โยนความผิดให้ตนอื่น ไม่มีความรับผิดชอบแต่อย่างใดเลยเขาไม่เคยเอ่ยถึงจวนโหวกู้เลย นี่เขารู้จักปกป้องจวนโหวกู้เลยจริงๆ แม้ว่าจวนโหวกู้จะไม่มีตำแหน่งยศถาบรรดาศักดิ์แล้ว แต่ฝ่าบาทก็ไม่ได้ยึดทรัพย์สินพวกเขาและลงโทษสมาชิกในครอบครัวเขา รากฐานยังอยู่ ดังนั้นชีวิตก็คงไม่ยากเกินไปเซี่ยหลูโม่มองไปที่เขา อดีตอาเขยของตนเองกำลังโค้งคำบับหน้าเล็กน้อยแล้วพูดว่า "เลิกเสแสร้งได้เลย แม้แต่หลินเฟิ้งเอ๋อ ค
ตระกูลกู้ส่งเงินจำนวนห้าหมื่นตำลึงโดยบอกว่าใช้เพื่อชำระหนี้ให้กับผู้หญิงเหล่านั้น กู้ฮูหยินเอาแต่บอกว่าตนเองยากจน บอกว่าพวกเขามีเงินไม่มากนักอยู่แล้ว เงินจำนวนห้าหมื่นตำลึงนั้นถือว่าทำให้คระกูลหมดตัวไปเลยซ่งซีซีหยุดไม่ให้นางบ่นต่อไป "ฝ่าบาททรงสั่งให้พวกเจ้าออกเงินหนึ่งแสนตำลึง ขาดเบี้ยเดียวก็มิได้ อีกสามวันข้างหน้า บุตรชายของเจ้าจะถูกประหารชีวิต คนตระกูลกู้สามารถเข้าไปพบเขาเป็นครั้งสุดท้ายได้"แน่นอนว่ากู้ฮูหยินต้องการไปพบ บุตรชายที่นางเลี้ยงดูอย่างยากบาก ทว่าเมื่อเห็นสายตาที่เย็นชาของคุณท่านกู้ นางก็ยังคงร้องห่มร้องไห้ว่า "ไม่เจอแล้ว เจอแล้วมันจะได้อะไร มีแต่เพิ่มความเจ็บ...ความโกรธไปเปล่าๆ เท่านั้น เขาทำเรื่องแบบนั้นไป และตระกูลกู้ของเรารับไม่ได้""ใช่ เขามีโทษร้ายแรง ไม่เจอดีกว่า" คุณท่านกู้ก็พูดเช่นเดียวกันตอนนี้พวกเขาอยากจะขีดเส้นแบ่งที่ชัดเจนกับฝู้หม่ากู้มากกว่า ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่สงสารลูก แต่ไม่ว่ายังไงเขาก็ต้องตาย ดังนั้นอย่าเอาครอบครัวไปพัวพันจะดีกว่าซ่งซีซีแค่มีหน้าที่มาแจ้งให้พวกเขาทราบ มันขึ้นอยู่กับพวกเขาที่จะตัดสินใจว่าจะพบหรือไม่ ในเมื่อไม่อยากเจอ งั้นรับเงินเสร็จ
ซ่งซีซีมองเขาอย่างเย็นชา "ข้านึกว่าใต้เท้าฉีเป็นคนมีเหตุผลและรู้ความ แต่ข้าคิดผิดไปเอง คำว่ามิใช่เหยื่อที่พูดออกมาจากปากของเจ้าอย่างสบายๆ นั้น เจ้ารู้ไหมว่าจะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อคนมากเท่าไร ไม่เพียงแต่ผู้หญิงเหล่านี้ แต่ยังรวมถึงตระกูลขุนนางก็พวกนางเคยอาศัยอยู่ด้วยก็ต้องเดือดร้อนไป"ไม่ใช่ว่าซ่งซีซีต้องการมีปัญหากับเขา และไม่ใช่อยากดุเขาเพื่อระบายความโกรธ แต่เป็นเพราะว่าตอนนี้เขาเป็นคนสำคัญที่ได้รับความไว้วางใจจากฝ่าบาท คำพูดเหล่านี้เขาสามารถพูดกับนางได้ ก็หมายความว่าเขาอาจจะพูดกับฝ่าบาทเช่นกันตอนนี้ฝ่าบาทกำลังคิดที่จะสร้างชื่อเสียงที่ดี พอผ่านไปอีกสองปีเมื่อตั้งรากฐานมั่นคง หากเขาคิดถึงคำพูดของเขา ไม่อาจรับประกันว่าเขาจะไม่เกิดความคิดกำจัดอันตรายที่แอบแฝงให้สิ้นซาก งั้นพวกนางก็จะไม่มีทางอยู่รอดได้ฉีหลิงซีรู้ด้วยว่าเมื่อกี้เขาพูดผิดไป ไม่กล้าที่จะพูดเกี่ยวกับหัวข้อนี้อีก "ถ้าอย่างนั้นใต้เท้าซ่งตกลงที่จะช่วยข้าคุยกับเจ้าอาวาสและปล่อยให้เด็กอาศัยอยู่ในสำนักแม่ชีในฐานะเด็กกำพร้าได้หรือไม่? อันที่จริงทำแบบนี้ก็หวังดีกับนางด้วย อย่างน้อยแม่ลูกสองคนก็สามารถอยู่ด้วยกันได้""ถ้านี่เป็นกา