Share

บทที่ 799

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
last update Last Updated: 2024-08-06 18:55:54
เป็นอย่างที่คิดจริงๆ ทันทีที่อกจากถนนซือเยี่ยน ซ่งซีซีก็รู้สึกถึงกระแสลมแห่งการฆาตกรรมที่อยู่รอบตัวนาง

กระแสลมแห่งการฆาตกรรมแบบนี้รุนแรงมาก และมาพร้อมกับกลิ่นเลือดที่คนธรรมดาไม่สามารถได้กลิ่น ซ่งซีซีค่อนข้างคุ้นเคยกับความรู้สึกนี้ นักรบสิ้นหวังเหล่านั้นที่อยู่ในจวนแม่ทัพคืนนั้น

อาจารย์เคยบอกนางเรื่องกระบวนการฝึกนักรบสิ้นหวังในก่อนหน้านี้ มันโหดร้ายมาก ผู้ที่รอดชีวิตมาได้นั้นถือว่าได้เหยียบย่ำออกจากซากศพของสัตว์ร้ายหรือผู้คน ถือว่าเดินออกจากภูเขาซากศพและทะเลแห่งเลือดก็ไม่เกินจริง

ดังนั้น แม้ว่าพวกเขาจะมีทักษะศิลปะการต่อสู้ที่แข็งแกร่งมาก และท่าสู้ที่ร้ายกาจ แต่พวกเขาก็มีกลิ่นแรงของเจตนาฆ่าและคาวเลือดอยู่เสมอ

"ทุกคนเตรียมพร้อม!" เสียงของนางลอดผ่านสายลมและกระทบหูของทุกคน

สายตาของทุกคนตื่นตัว มีอาวุธอยู่ในมือ รู้สึกถึงทุกการเคลื่อนไหวรอบตัว

หลังจากข้ามทางแยกอีกครั้ง ก็ได้ยินเสียงสั่นเล็กน้อยในอากาศ มันคือเสียงดาบที่ถูกลมพัดขณะที่มันถูกแกะออกจากฝัก

"หยุด!" ปี้หมิงยกมือขึ้นและหยุดขบวน จากนั้นตะโกนเสียงดังและแยกย้ายประชาชนที่อยู่ใกล้เคียง "มีมือสังหาร อันตราย!"

มีประชาชนไม่มาก ล้วนเป็
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 800

    เมื่อเสียงกรีดร้องดังขึ้น มือสังหารทั้งเก้าก็รีบบินออกไปและกระจัดกระจายอย่างรวดเร็วปี้หมิงรู้สึกว่าเขาเดาถูกแล้ว พวกเขาไม่ได้มาช่วยคน แต่มาเพื่อฆ่าเซี่ยอวี้นต่างหากแต่เมื่อเขามองไปที่รถม้าก็ตกตะลึงมือสังหารคนนั้นถูกลากเข้าไปในรถม้า โดยทิ้งเท้าของเขาอยู่ข้างนอก และเห็นได้ชัดว่าไม่สามารถขยับได้อีกเลยซ่งซีซีก้าวไปข้างหน้าด้วยรอยยิ้มและเปิดม่านรถม้า ปี้หมิงเดินไปดูใกล้ๆ และอดไม่ได้ที่จะอึ้งไป ท่านอ๋อง?นอกจากท่านอ๋องแล้ว เซี่ยอวี้นก็ถูกมัดไว้ที่ด้านหนึ่งของรถม้าด้วย นางคือคนที่ส่งเสียงกรีดร้องเมื่อสักครู่นี้ ตอนนี้นางกำลังจ้องมองไปที่มือสังหารด้วยสายตาที่ดุร้ายเซี่ยหลูโม่ดึงมือสังหารออกจากรถม้าแล้วส่งให้ปี้หมิง "พาเขากลับไปที่หอต้าหลี่ เขาถูกจุดฝังเข็ม และยาพิษในปากของเขาก็ถูกขุดออกมาแล้ว แต่เราไม่สามารถประมาทไป หลังจากนำเขากลับไปให้ป้อนผงอ่อนแรงด้วย นักรบสิ้นหวังแบบนี้ นอกจากกินยาพิษได้ก็ยังสามารถตัดเส้นลมปราณของตัวเอง"ปี้หมิงให้คนเจ้าไปจับมือสังหาร แต่ก็เหลือบมองท่านอ๋องอย่างสับสน ท่านอ๋องขึ้นไปในรถม้าตั้งแต่เมื่อไร เห็นๆ อยู่ว่าตอนที่ขนส่งเซี่ยอวี้นนั้น ข้างในรถม้าไม่มีคนอย

    Last Updated : 2024-08-06
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 801

    เมื่อรถม้ามาถึงสำนักกิจการราชวงศ์ ซ่งซีซีก็ดึงนางออกจากรถม้า หลิวอิน ผู้ดูแลนักโทษราชวงศ์คนสำคัญในสำนักกิจการราชวงศ์ออกมารับช่วงต่องาน หลังจากส่งมอบแล้ว หลิวอินก็ออกคำสั่งล่ามโซ่หนักๆ ไว้บนตัวนางหลิวอินกล่าวว่า "ใต้เท้าซ่ง ฝ่าบาทได้ออกคำสั่งว่าเพื่อป้องกันไม่ให้เซี่ยอวี้นกัดลิ้นและฆ่าตัวตาย ฟันส่วนใหญ่ของนางจะถูกดึงออก และตัดเอ็นร้อยหวายของนางด้วย โปรดขอให้ใต้เท้าซ่งมาเข้ามาช่วยกำกับดูแล พวกท่านจะได้กลับไปรายงานด้วย"เซี่ยอวี้นกัดฟันกรอด "เจ้ากล้าดียังไง?"ซ่งซีซีกล่าวว่า "รบกวนนำทาง"เซี่ยอวี้นถูกลากเข้าไปข้างใน นางคำรามและโกรธแค้นไปตลอดทาง ไม่สามารถรักษาความสงบตอนอยู่ในรถม้าได้อีกต่อไปสำนักกิจการราชวงศ์มีขนาดใหญ่มาก โดยมีตรอกกว้างขวางแยกฝั่งตะวันออกและตะวันตก ฝั่งตะวันออกเป็นที่ที่สำนักกิจการราชวงศ์ทำงาน และฝั่งตะวันตกเป็นที่ที่ผู้คนถูกกักขังเนื่องจากคนที่ถูกกักขังในสำนักกิจการราชวงศ์ล้วนเป็นสมาชิกของราชวงศ์ จึงไม่มีเรือนจำ มีเพียงลานเล็กๆ ที่แยกออกเป็นหลายๆ หลังเท่านั้นแต่พื้นที่กักขังทั้งหมดถูกล้อมรอบด้วยกำแพงสูงและมีการป้องกันอย่างแน่นหนา ซ่งซีซีได้ออกคำสั่งให้หวังเจิง

    Last Updated : 2024-08-06
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 802

    หลังจากที่หวังเจิงอดทนต่อความเจ็บปวดที่รุนแรง เขาก็เกิดความโกรธจัดขึ้นมาและรีบพุ่งเข้าไปยังซ่งซีซีโดยไม่คำนึงถึงฐานะแต่อย่างใดแต่แล้วก็ถูกต่อยที่หน้าซ้ายและขวาอย่างละฉาด แต่เขาก็ไม่ทันได้เห็นซ่งซีซีต่อยตนเองได้อย่างไรให้ชัดเจนหลังจากกลับมาถึงเมืองหลวง ซ่งซีซีก็กลายเป็นคนมีน้ำใจและเอาใจคนอื่นมาก เพื่อให้เขาได้มองเห็นอย่างชัดเจน นางจึงคว้าเสื้อผ้าที่หน้าอกของเขาแล้วยกกำปั้นขึ้น เมื่อเขายกมือขึ้นเพื่อต่อต้าน นางก็ต่อยหน้าเขาโดยหลีกเลี่ยงมือของเขาได้ในขณะที่เขาตกตะลึงนั้นก็ยกเท้าเตะเขา แล้วเขาบินออกไปชนกับกำแพงอีกครั้งคราวนี้การเขาได้เห็นเคลื่อนไหวชัดเจน แต่เขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ตอนนางเริ่มยกเท้าขึ้นนั้นมันก็ช้ามาก และเตะออกไปไม่เร็ว ทว่าจู่ๆ ก็เร่งความขึ้น และคาดเดาทิศทางของการหลีกเลี่ยงของเขา เขาทำได้เพียงถูกซัดคนและเตะอีกครั้งอย่างทำอะไรไม่ได้ใบหน้าของหวังเจิงเปลี่ยนเป็นแดงก่ำ แต่อาจเป็นเพราะความเจ็บปวด เพราะการเตะสองครั้งนั้นหนักมากจนเขาไม่สามารถมีพลังงานในตันเถียนได้ชั่วขณะหนึ่งซ่งซีซีปัดแขนเสื้อของนาง มองดวงตาที่ประหลาดใจของหลิวอินแล้วพูดว่า "มาเริ่มกันเลย ข้าจะเฝ้าด

    Last Updated : 2024-08-06
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 803

    พอองค์หญิงใหญ่เสร็จก็ถึงตาฝู้หม่ากู้เมื่อมีการส่งพระราชโองการมาได้ประกาศว่าข้อหาของเขามี: การข่มขืน การลักพาตัวคน และการฆาตกรรม ทำเรื่องผิดกฏหมายมากมายฝู้หม่ากู้รู้ว่าเขาไม่สามารถรอดชีวิตได้ ดังนั้นเขาจึงขอข้อแม้ข้อหนึ่งว่าอยากจะพบพวกอนุภรรยาของเขาเขาขอร้องเซี่ยหลูโม่ "ถึงยังไงข้ากับพวกนางเป็นสามีภรรยากันและมีลูกด้วยกัน ข้าแค่ขอให้พวกนางอย่าเกลียดข้ามากเกินไป พวกนางรู้ดีว่าข้าไม่มีทางเลือกอื่น ที่ข้าอยู่อย่างยากลำบากเพียงเพื่อที่พวกนางจะได้มีชีวิตอยู่ต่อและไม่ถูกเซี่ยอวี้นฆ่าตาย แต่ข้ายังรู้สึกว่าเป็นข้าที่ทำผิดกับพวกนาง ขอเจ้าช่วยรายงานกับฝ่าบาทให้ ให้ข้าคุกเข่ากล่าวขอโทษพวกนาง"ทุกๆ คำพูดมีแต่โยนความผิดให้ตนอื่น ไม่มีความรับผิดชอบแต่อย่างใดเลยเขาไม่เคยเอ่ยถึงจวนโหวกู้เลย นี่เขารู้จักปกป้องจวนโหวกู้เลยจริงๆ แม้ว่าจวนโหวกู้จะไม่มีตำแหน่งยศถาบรรดาศักดิ์แล้ว แต่ฝ่าบาทก็ไม่ได้ยึดทรัพย์สินพวกเขาและลงโทษสมาชิกในครอบครัวเขา รากฐานยังอยู่ ดังนั้นชีวิตก็คงไม่ยากเกินไปเซี่ยหลูโม่มองไปที่เขา อดีตอาเขยของตนเองกำลังโค้งคำบับหน้าเล็กน้อยแล้วพูดว่า "เลิกเสแสร้งได้เลย แม้แต่หลินเฟิ้งเอ๋อ ค

    Last Updated : 2024-08-06
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 804

    ตระกูลกู้ส่งเงินจำนวนห้าหมื่นตำลึงโดยบอกว่าใช้เพื่อชำระหนี้ให้กับผู้หญิงเหล่านั้น กู้ฮูหยินเอาแต่บอกว่าตนเองยากจน บอกว่าพวกเขามีเงินไม่มากนักอยู่แล้ว เงินจำนวนห้าหมื่นตำลึงนั้นถือว่าทำให้คระกูลหมดตัวไปเลยซ่งซีซีหยุดไม่ให้นางบ่นต่อไป "ฝ่าบาททรงสั่งให้พวกเจ้าออกเงินหนึ่งแสนตำลึง ขาดเบี้ยเดียวก็มิได้ อีกสามวันข้างหน้า บุตรชายของเจ้าจะถูกประหารชีวิต คนตระกูลกู้สามารถเข้าไปพบเขาเป็นครั้งสุดท้ายได้"แน่นอนว่ากู้ฮูหยินต้องการไปพบ บุตรชายที่นางเลี้ยงดูอย่างยากบาก ทว่าเมื่อเห็นสายตาที่เย็นชาของคุณท่านกู้ นางก็ยังคงร้องห่มร้องไห้ว่า "ไม่เจอแล้ว เจอแล้วมันจะได้อะไร มีแต่เพิ่มความเจ็บ...ความโกรธไปเปล่าๆ เท่านั้น เขาทำเรื่องแบบนั้นไป และตระกูลกู้ของเรารับไม่ได้""ใช่ เขามีโทษร้ายแรง ไม่เจอดีกว่า" คุณท่านกู้ก็พูดเช่นเดียวกันตอนนี้พวกเขาอยากจะขีดเส้นแบ่งที่ชัดเจนกับฝู้หม่ากู้มากกว่า ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่สงสารลูก แต่ไม่ว่ายังไงเขาก็ต้องตาย ดังนั้นอย่าเอาครอบครัวไปพัวพันจะดีกว่าซ่งซีซีแค่มีหน้าที่มาแจ้งให้พวกเขาทราบ มันขึ้นอยู่กับพวกเขาที่จะตัดสินใจว่าจะพบหรือไม่ ในเมื่อไม่อยากเจอ งั้นรับเงินเสร็จ

    Last Updated : 2024-08-06
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 805

    ซ่งซีซีมองเขาอย่างเย็นชา "ข้านึกว่าใต้เท้าฉีเป็นคนมีเหตุผลและรู้ความ แต่ข้าคิดผิดไปเอง คำว่ามิใช่เหยื่อที่พูดออกมาจากปากของเจ้าอย่างสบายๆ นั้น เจ้ารู้ไหมว่าจะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อคนมากเท่าไร ไม่เพียงแต่ผู้หญิงเหล่านี้ แต่ยังรวมถึงตระกูลขุนนางก็พวกนางเคยอาศัยอยู่ด้วยก็ต้องเดือดร้อนไป"ไม่ใช่ว่าซ่งซีซีต้องการมีปัญหากับเขา และไม่ใช่อยากดุเขาเพื่อระบายความโกรธ แต่เป็นเพราะว่าตอนนี้เขาเป็นคนสำคัญที่ได้รับความไว้วางใจจากฝ่าบาท คำพูดเหล่านี้เขาสามารถพูดกับนางได้ ก็หมายความว่าเขาอาจจะพูดกับฝ่าบาทเช่นกันตอนนี้ฝ่าบาทกำลังคิดที่จะสร้างชื่อเสียงที่ดี พอผ่านไปอีกสองปีเมื่อตั้งรากฐานมั่นคง หากเขาคิดถึงคำพูดของเขา ไม่อาจรับประกันว่าเขาจะไม่เกิดความคิดกำจัดอันตรายที่แอบแฝงให้สิ้นซาก งั้นพวกนางก็จะไม่มีทางอยู่รอดได้ฉีหลิงซีรู้ด้วยว่าเมื่อกี้เขาพูดผิดไป ไม่กล้าที่จะพูดเกี่ยวกับหัวข้อนี้อีก "ถ้าอย่างนั้นใต้เท้าซ่งตกลงที่จะช่วยข้าคุยกับเจ้าอาวาสและปล่อยให้เด็กอาศัยอยู่ในสำนักแม่ชีในฐานะเด็กกำพร้าได้หรือไม่? อันที่จริงทำแบบนี้ก็หวังดีกับนางด้วย อย่างน้อยแม่ลูกสองคนก็สามารถอยู่ด้วยกันได้""ถ้านี่เป็นกา

    Last Updated : 2024-08-06
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 806

    เสิ่นว่านจือเดินออกมาและถามว่า "เกิดอะไรขึ้น?"ซ่งซีซีเล่าให้ฟังอย่างคร่าวๆ ด้วยน้ำเสียงไม่ดีเท่าไร "เจ้ากรมฉีเคยบอกว่าข้างกายเขามีเด็กไม่ได้ ตอนนี้จะส่งเด็กมาที่นี่ การเป็นเจ้ากรมกลับกลับคำพูด ไม่สามารถจัดที่อยุ่ให้เด็กของตนเองด้วยซ้ำ ทำไมให้เด็กมาโลกนี้ล่ะ เด็กไม่รู้เรื่องอะไรเลย"เสิ่นว่านจือก็โมโหกับคนแบบนี้เช่นกัน "คาดว่าที่บอกว่าตนเองจะจัดการเองคงพูดด้วยอารมณ์ หลังจากกลับไปคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วถึงพบวว่ามันใช้ไม่ได้ ดังนั้นจึงมาขอเจ้าถึงสำนักแม่ชี แต่ส่งมาให้แล้วกลับให้แม่ลูกอยู่ด้วยกันไม่ได้ ใช้ตัวตนเป็นเด็กกำพร้าให้เจ้าอาวาสเลี้ยงดู บ้าจริงๆ มีพ่อแม่ชัดๆ กลับให้เป็นเด็กกำพร้า เจ้ากรมฉีนี่กำลังแช่งตัวเองเหรอ?"ซ่งซีซีกล่าวว่า "ช่างเถอะ เราแค่ทำหน้าที่ให้จัดการกับคนที่ต้องจัดการให้ดี หากตระกูลฉีไม่อยากเลี้ยงเด็กคนนั้น งั้นก็เลี้ยงไว้ที่สำนักแม่ชีแทน จริงๆ แล้วสำหรับฮูหยินเจ้ากรม ไม่ว่าจะเป็นกู้ชิงเมี่ยวหรือเด็กคนนี้ พวกเขาทั้งคู่มันอย่างกับสิ่งแทงใจ""จริงด้วย ความสุขที่พังไปแล้วยังเรียกว่ามีความสุขอยู่หรือเปล่า นางไม่รู้อะไรเลยจริงๆ เหรอ?""มีแต่นางเองที่รู้""จริงสิ" เ

    Last Updated : 2024-08-06
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 807

    ในขณะนี้ซ่งซีซีและเสิ่นว่านจือต่างก็รู้สึกอึดอัดใจมาก"หยงโน่ เราจะไปอยู่ที่อื่นแล้ว หนูจะไปกับน้าหรือเปล่า" เสิ่นว่านจือสงบลงและถามเด็กหญิงตัวเล็กๆ เบาๆเด็กหญิงวัยหนึ่งขวบยังพูดไม่คล่องนัก เอาแต่พูดว่าจะตามหาแม่เสิ่นว่านจือตอบด้วยรอยยิ้ม "ได้ ไปหาแม่นะ"นางและซ่งซีซีมองหน้ากัน ทั้งคู่หนักใจเล็กน้อย เพราะแม้ว่าจะไป นางก็จะอยู่กับเจ้าอาวาสหรือมีคนอื่นดูแลนาง และไม่สามารถอยู่ข้างกายกู้ชิงเมี่ยวได้พี่เลี้ยงเด็กหาสายรัดมาให้เด็กขี่หลังเสิ่นว่านจือไว้ พี่เลี้ยงเด็กไม่ได้ไปด้วย หยงโน่ร้องไห้อยู่นาง หลังจากถูกเสิ่นว่านจือกล่อมให้หยุด จากนั้นเสิ่นว่านจือถึงนำม้าออกมาทันทีที่มาถึงด้านนอกหมู่บ้านจาว ก็เห็นรถม้าจอดอยู่ข้างนอก ซ่งซีซีเหลือบมองตราสัญลักษณ์บนรถม้าซึ่งเป็นของจวนเจ้ากรมฉีนางลังเลอยู่ครู่หนึ่ง นั่นคือเจ้ากรมฉีหรือฉีหลิงซี? หรือว่าจะเป็น?เสิ่นว่านจือก็เห็นมันเช่นกัน นางทำกำลังจูงม้า ฝีเท้าหยุดลง จากนั้นเอื้อมมือไปตบก้นของหยงโน่เพื่อไม่ให้นางเคลื่อนไหวตลอดม่านรถม้าเปิดออกในเวลาต่อมา เผยให้เห็นใบหน้าของหญิงสาวที่ซีดเซียวนางสวมชุดผ้าสีฟ้า และมวยของนางก็ตกแต่งด้วยไข่มุกอย่

    Last Updated : 2024-08-06

Latest chapter

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1386

    จีซูเซิ่นไม่ได้บอกเรื่องนี้แก่ฮูหยินผู้เฒ่าและหวังชิงหรู ในวันรุ่งขึ้นขณะที่พวกนางออกไปตรวจที่ร้านขายยาเย่าหวัง นางแปลงตัวเป็นชาวนาและแอบตามไป เพียงแต่ตลอดทางจากไปจนกลับ ไม่มีใครเข้ามาใกล้รถลาของพวกนาง และระหว่างทางรถลานั้นก็ไม่ได้หยุดเลย หลังจากกลับมาถึงโรงงาน หวังชิงหรูก็เริ่มต้มยา ในโรงงานไม่มีใครคอยรับใช้ ทุกคนต้องผลัดกันทำอาหาร ตอนแรกหวังชิงหรูทำอะไรไม่เป็นเลย แม้แต่การก่อไฟยังต้องใช้เวลาฝึกถึงสามวัน อาหารมื้อแรกที่นางทำถึงกับกินไม่ได้เลย คนในโรงงานช่วยเหลือกัน แต่ก็ล้อกันด้วย พวกเขาหัวเราะเยาะว่านางมีร่างกายเหมือนฮูหยิน แต่โชคชะตาไม่ใช่ฮูหยินตอนแรกนางโกรธและรู้สึกน้อยใจ คิดว่าทำไมต้องมาเจอกับความลำบากเช่นนี้ นางถึงขั้นคิดว่าพวกเขาตั้งใจกลั่นแกล้ง จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อเจียอี้มาที่โรงงานเพื่อเยี่ยม นางลงมือทำอาหารเอง มันอาจจะไม่เลิศรส แต่ก็รสชาติกลมกล่อมพอดี นางนิ่งเงียบไป หวังชิงหรูรู้ดีว่าเจียอี้เคยเป็นคนอย่างไร อดีตท่านหญิงที่หยิ่งยโส แต่หลังจากถูกหย่าแล้วได้รับการพากลับมา นางยังสามารถลดตัวเองลงและลงมือทำอาหารให้กลุ่มสตรีที่ถูกทอดทิ้งเหล่านี้ได้ ที่สำค

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1385

    สถานการณ์ของหวังเบียวทำให้ซ่งซีซีแปลกใจไม่น้อย นางคิดว่าเขาจะพาคนสนิทหนีไปซ่อนได้อย่างน้อยสองสามปี ใครจะคาดคิดว่า ระหว่างทางเขาจะถูกปล้นทรัพย์สิน แม้แต่อนุที่รักก็ยังทอดทิ้งเขา ไม่รู้ว่าในเวลานั้น เขาเคยเสียใจต่อความโง่เขลาของตัวเองบ้างหรือไม่ คนวัยกลางคน กลับยังหลงเชื่อในความรักแท้ คิดจะทิ้งภรรยาที่อยู่เคียงข้างและดูแลเขามากว่าสิบปี สุดท้ายกลับถูกคนอื่นทิ้งเสียเอง นับว่าเป็นกรรมที่ตามสนอง แต่กรรมที่เขาได้รับยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ด้วยนิสัยของกู้ชิงหวู่ ตอนที่จากไปนางต้องเคยดูถูกเหยียดหยามเขาอย่างแน่นอน เช่นเดียวกับที่นางเคยดูถูกเหลียงเส้า กู้ชิงหวู่ใช้ความงามของตัวเองเป็นเครื่องมือ แต่ในขณะเดียวกันก็เกลียดชังชายที่หลงใหลในความงามของนางอย่างยุติธรรม ในความเป็นจริง ซ่งซีซีคิดว่าหวังเบียวอาจไม่ได้อยู่ที่อำเภอหยง เพราะด้วยสถานะของเขาในฐานะผู้หลบหนี เขาไม่สามารถปรากฏตัวด้วยหน้าตาที่แท้จริง และไม่กล้าพำนักในที่ใดที่หนึ่งนานเกินไป ได้แต่หนีซุกซ่อน เขายังพาลูกไปด้วยอีก ซ่งซีซีคิดว่า หากเขาจนตรอก เขาอาจจะแอบกลับเมืองหลวงหรือไม่?แม้เขาจะโง่ แต่ก็ไม่ถึงกับโง่สิ้นดี เขารู

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1384

    กู้ชิงหวู่กำหมัดแน่น ดวงตาเปล่งประกายแห่งความโกรธ "ดังนั้นข้าถึงบอกว่า สวรรค์ไม่ยุติธรรม ไยต้องเป็นเช่นนี้?" "เจ้าพูดเอง ด้วยชาติกำเนิดที่ดีของข้า รวมถึงสตรีหน้าเหลืองที่เจ้ากล่าวถึง นางก็เป็นสตรีผู้สูงศักดิ์" ซ่งซีซีตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย แต่เต็มไปด้วยท่าทีเหนือกว่า กู้ชิงหวู่เกลียดชังท่าทางเช่นนี้ที่สุด มันเหมือนกับอดีตองค์หญิงใหญ่ที่อยู่บนหอคอยสูง ในขณะที่ตนต้องก้มต่ำอยู่ในโคลนตม นางโกรธจัด หน้าอกสะท้อนขึ้นลง "ถึงจะเป็นสตรีผู้สูงศักดิ์แล้วอย่างไร? ก็ยังถูกสามีรังเกียจอยู่ดีมิใช่หรือ?" "หวังเบียวหรือ? นางไม่เคยใส่ใจเขาเลย มีแต่เจ้าที่มองเขาเหมือนสมบัติ" ซ่งซีซีตอบอย่างไม่ใส่ใจ "สำหรับข้า เขาก็ไม่ใช่สมบัติอะไร แค่ขยะชิ้นหนึ่ง" กู้ชิงหวู่ตอบด้วยแววตาดุดัน ซ่งซีซีหัวเราะเยาะ "ข้ารู้ว่าไม่ใช่เช่นนั้น เจ้าถึงกับให้กำเนิดบุตรให้เขา ทั้งที่รู้ว่าการหนีจากสนามรบเป็นความผิดร้ายแรง เจ้ากลับไม่สนใจและหนีตามเขาไป ข้าเคยเจอคนปากไม่ตรงกับใจเช่นเจ้ามานักต่อนัก" "ไร้สาระ!" กู้ชิงหวู่ตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยว ใบหน้าแดงก่ำ แต่ไม่นานก็หัวเราะเยาะ "ฮะ คิดจะหลอกข้าหรือ? ใช่ ข้ารักเขาจนถ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1383

    สถานที่อันเป็นมงคลนี้ถูกเลือกโดยสำนักโหรหลวง เป็นสถานที่ที่งดงามด้วยภูเขาและสายน้ำ มีหมู่บ้านอยู่ใกล้ๆ สองแห่ง แม้จะเรียกว่าด้านข้างพระราชสุสาน แต่ความจริงแล้วห่างจากพระราชสุสานถึงสามสิบลี้ หลังจากงานศพ กู้ชิงหยิงมาพบซ่งซีซีและเสิ่นว่านจือเพื่อกล่าวลา บอกว่าจะไปสร้างกระท่อมเล็กๆ อยู่ในหมู่บ้านใกล้เคียงเพื่อเฝ้าสุสานของบิดาบุญธรรม เสิ่นว่านจือถามว่านางต้องการความช่วยเหลือเรื่องเงินหรือไม่ นางตอบว่าไม่จำเป็น เพราะนางจะขายเครื่องประดับที่เคยซื้อไว้ ก็เพียงพอจะกลายเป็นคนมีฐานะเล็กๆ ได้ วันที่นางจากไปพอดีกับวันที่เจ้าสิบเอ็ดฝางคุมตัวอ๋องเยี่ยนและคนอื่นๆ กลับเมืองหลวง นางยืนอยู่ที่ประตูเมือง มองเข้าไปในรถนักโทษที่มีอ๋องเยี่ยนและอ๋องฮวย ความเกลียดชังพลันผุดขึ้นในใจ แต่เมื่อเห็นชาวบ้านต่างด่าทอและโยนใบไม้เน่าใส่พวกเขา นางก็รู้สึกคลายความโกรธ เพราะคิดว่าคนชั่วได้กรรมของตนเองแล้ว สำหรับนาง นับจากนี้ก็เป็นอิสระแล้ว ไม่มีใครหรือสิ่งใดมาผูกมัดนางได้อีก ในการคุมตัวครั้งนี้ ยังมีข้าราชการของหนิงโจวและชิวเหมิงถูกนำตัวกลับมาด้วย สิ่งที่ทำให้ซ่งซีซีประหลาดใจคือ นางยังเห็นกู้ชิงหวู่ด

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1382

    ใช้เวลาห้าวันกว่าจะกวาดล้างเศษซากกบฏได้หมดสิ้น เจ้าสิบเอ็ดฝางและมู่ฉงกุยส่งข่าวชัยชนะมาว่าได้จับชิวเหมิงกบฏตัวสำคัญเป็นเชลย พร้อมนำตัวอ๋องเยี่ยน อ๋องหวย และอู๋เซียงผู้ทรยศกลับมายังเมืองหลวง ซึ่งอีกไม่นานจะมาถึง ยกเว้นเพียงหวังเบียวที่ยังคงหลบหนี นอกนั้นกบฏส่วนใหญ่ล้วนถูกจับกุมได้หมดแล้ว วันที่ 25 เดือนเจ็ด สำนักราชวังจัดพิธีศพให้ท่านอ๋องฮุย เพราะเหตุการณ์กบฏของเซี่ยทิงเหยียน พิธีศพจึงจัดอย่างเรียบง่าย และจักรพรรดิ์ซูชิงทรงเรียกขุนนางมาหารือว่าท่านอ๋องฮุยควรได้ฝังในสุสานอ๋องหรือไม่ แม้ว่าท่านอ๋องฮุยจะบริสุทธิ์ แต่ความผิดของเซี่ยทิงเหยียนเป็นโทษที่เกี่ยวพันถึงทั้งตระกูล ซ่งซีซีไม่ได้รับการเรียกตัวให้เข้าร่วมพิธี นางจึงพาผู้คนจากจวนเป่ยหมิงอ๋องมาร่วมงานศพของอ๋องฮุย พิธีศพจัดอย่างเรียบง่าย ไม่มีขุนนางมาร่วมงาน นอกจากจักรพรรดิ์จะทรงอนุญาตให้อ๋องฮุยฝังในสุสานอ๋อง มิฉะนั้นจะไม่มีใครกล้าเข้าร่วม กู้ชิงหยิงสวมชุดไว้ทุกข์คุกเข่าเผากระดาษหน้าโลงศพ ศพของอ๋องฮุยถูกบรรจุในโลงแล้วแต่ยังไม่ได้ปิดฝา เมื่อซ่งซีซีและเสิ่นว่านจือมาถึง ยังสามารถไปดูหน้าศพครั้งสุดท้ายได้ มีโลงศพสา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1381

    เมื่อได้ยินว่าอ๋องฮุยปลิดชีพตนเอง เซี่ยทิงเหยียนถึงกับอึ้งไป ก่อนจะร้องไห้เสียงดังว่า “เสด็จพ่อ ทำไมต้องกลัวโทษจนถึงกับฆ่าตัวตาย? ลูกสัญญาไว้ว่าจะรับโทษแทนท่านแล้ว” เมื่อได้ยินคำพูดนี้ กู้ชิงหยิงที่ไม่ได้หวังจะมีชีวิตรอดอยู่แล้วก็พุ่งเข้าไปชกหัวเขาอย่างแรง หมัดของกู้ชิงหยิงใหญ่โตนัก ฟาดเข้าที่กระหม่อมของเซี่ยทิงเหยียนจนเขารู้สึกราวกับโดนฟ้าผ่า หูอื้ออยู่นานก่อนจะเงยหน้ามองนางด้วยสายตาเย็นเยียบดุจอสรพิษ กู้ชิงหยิงถ่มน้ำลายใส่เขาแล้วกล่าวว่า “เจ้าสัตว์เดรัจฉาน เจ้าใช้อำนาจข่มขู่ชีวิตชาวเมืองหนิงโจวและคนเก่าของวังให้ท่านอ๋องต้องรับผิดแทนเจ้า ท่านอ๋องไม่เคยมีจิตคิดกบฏ แม้แต่ตอนที่ถูกเจ้าจับตาอย่างใกล้ชิด ท่านยังพยายามส่งข่าวให้ใต้เท้าซ่ง เจ้าจงหยุดทำลายชื่อเสียงของท่านอ๋องหลังจากตายเถิด” นางพูดจบก็รีบคุกเข่าลง น้ำตาไหลอาบหน้า “ฝ่าบาท ขอพระองค์ทรงโปรดพิจารณา ท่านอ๋องไม่ได้ก่อกบฏ แต่เป็นเซี่ยทิงเหยียนที่พูดเองว่า หากเขาสำเร็จ ทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดี แต่หากล้มเหลว ลูกน้องของเขาจะสังหารชาวเมืองหนิงโจว เขาข่มขู่ท่านอ๋องเช่นนี้มาตลอด คนเก่าของวังที่อยู่ข้างกายท่านอ๋องถูกเขาฆ่าจนแทบไม่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1380

    จักรพรรดิ์ซูชิงมองลงมาจากที่สูง ดวงตาเต็มไปด้วยความชิงชัง “อย่างนั้นหรือ? แม้เจ้าจะยอมรับโทษแทนบิดา แต่ข้าไม่อาจกล่าวโทษผู้บริสุทธิ์โดยไร้เหตุผลได้ ใครกันที่เป็นกบฏวางแผนชิงบัลลังก์ ข้าจะสืบสวนให้กระจ่างเอง” “ฝ่าบาท” เซี่ยทิงเหยียนน้ำตาคลอ ดวงหน้าเต็มไปด้วยความเสียใจอย่างยิ่ง “ไม่ต้องสืบสวนแล้ว ขอพระองค์ทรงตัดสินโทษกระหม่อมเถิด เสด็จพ่อเพียงหลงผิดชั่วขณะ” จักรพรรดิ์ซูชิงหัวเราะเยาะ “เจ้าทำให้ข้าผิดหวังนัก เหตุใดถึงไร้เกียรติเช่นนี้? ไหนล่ะความตระหนักของผู้แพ้ในสงคราม เจ้าไม่คู่ควรแม้แต่จะเป็นยอดคนผู้ห้าวหาญ ผู้เช่นเจ้ากล้าหมายปองบัลลังก์ คิดจะเป็นประมุขของแผ่นดินหรือ? เซี่ยทิงเหยียน อย่าให้ผู้ติดตามเจ้าเขาต้องผิดหวังนัก” “กระหม่อมยินดีรับโทษแทนเสด็จพ่อ! ขอพระองค์โปรดเมตตาไว้ชีวิตเสด็จพ่อด้วย” เซี่ยทิงเหยียนไม่สนว่าจักรพรรดิ์ซูชิงจะตรัสสิ่งใด เขาก็ยังคงกล่าวแต่คำนี้ด้วยความปวดร้าวและความกตัญญู ขุนนางที่อยู่ในที่นั้นย่อมไม่เชื่อ ต่างตำหนิเขาด้วยถ้อยคำรุนแรงถึงความทะเยอทะยานราวหมาป่า แต่หากคนใดหน้าหนาเพียงพอ ย่อมไม่สะทกสะท้านต่อคำด่าว่า เขายังคงแสดงสีหน้าเจ็บปวดและกล่าวว่า

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1379

    ภายใต้การบัญชาของสือหงเซิน กองกำลังทหารส่วนตัวเหล่านี้ไม่เพียงไม่ล่าถอย แต่กลับต่อสู้อย่างดุดันยิ่งขึ้น พวกเขาไม่ใช่ทหารส่วนตัวของอ๋องเยี่ยน จำนวนกว่า 10,000 คน ล้วนเป็นผู้ที่เซี่ยทิงเหยียนคัดเลือกอย่างพิถีพิถันตลอดหลายปี และผ่านการฝึกฝนมานับครั้งไม่ถ้วน ในหมู่พวกเขา หลายคนมีชีวิตที่ขมขื่น และความเกลียดชังต่อโลกนี้ พวกเขาหวังว่าจะพลิกชะตาชีวิตของตนเองด้วยสงครามครั้งนี้ ดังนั้นตราบใดที่ยังมีผู้บัญชาการอยู่ข้างหน้า พวกเขาก็ไม่มีวันยอมแพ้ง่ายๆ กองทัพซวนเจียสามารถเอาชนะพวกเขาได้ แต่ชัยชนะนี้จะไม่ได้มาอย่างง่ายๆ และรวดเร็ว ซ่งซีซีรู้ว่าหากพวกเขาไม่ยอมจำนน จำนวนผู้เสียชีวิตจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น นางจึงเลือกกำลังพลที่ดีที่สุดกลุ่มหนึ่ง รวมถึงกลุ่มย่อยเหม่ยซานของพวกเขา วางแผนจะตัดศีรษะของสือหงเซินท่ามกลางกองทัพกบฏ เมื่อทัพไร้แม่ทัพ การสงครามย่อมสงบได้เร็วขึ้น ซ่งซีซีวางแผนให้หมั่นโถวและกุ้นเอ๋อร์เข้าไปทำลายรูปขบวนของพวกเขาก่อน จากนั้นนางและเสิ่นว่านจือจะบุกเข้าไปตัดศีรษะแล้วรีบถอยออกมา นี่คือการตัดหัวแม่ทัพศัตรูท่ามกลางกองทัพนับพันอย่างแท้จริง เป็นเรื่องที่ยากลำบาก เพราะเหล่าก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1378

    เซี่ยทิงเหยียนควบม้าออกไป และเห็นชิวเหมิงอยู่ไกลๆ เขาจึงวางใจจริงๆ เขารู้ดีว่าชิวเหมิงพร้อมจะแลกทุกสิ่ง ชายคนหนึ่ง หากทุ่มเทอย่างเต็มที่และไม่กลัวตาย ย่อมสามารถสร้างผลงานอันยิ่งใหญ่ได้ นี่คือสงครามที่เขาเฝ้าฝันถึง การต่อสู้เพื่ออุดมการณ์อันยิ่งใหญ่ของตนเอง ความเยือกเย็นและสงบนิ่งที่เคยมีถูกแทนที่ด้วยเลือดร้อนที่พลุ่งพล่านไปทั่วร่าง ความปรารถนาที่จะครอบครองแผ่นดินมอบพลังและความเชื่อมั่นแก่เขา เขาเชื่อมั่นว่าความทะเยอทะยานคือพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ไม่มีสิ่งใดขวางกั้นได้ แต่เขาไม่รู้เลยว่า ความทะเยอทะยานไม่เคยเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุด พลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือความรักและความเกลียดชัง รวมถึงความยุติธรรมและความสามัคคี มันคือความรักชาติของซ่งซีซี ผู้บัญชาการแห่งกองทัพซวนเจีย! มันคือความเกลียดชังจากการล้างโคตรตระกูลของซ่งซีซี! และยิ่งไปกว่านั้นคือการรวมพลังกันของทหารและชาวยุทธภพ เพื่อขับไล่กบฏและปกป้องความยุติธรรมของประชาชน เซี่ยทิงเหยียนสังเกตเห็นความผิดปกติในทันที ทหารที่ชิวเหมิงนำมา ต่างถอดเครื่องแบบออกพร้อมกัน เผยให้เห็นเสื้อผ้าธรรมดาที่สวมอยู่ด้านใน ซึ่งปักอักษร

DMCA.com Protection Status