แชร์

บทที่ 754

ผู้เขียน: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-07-30 18:24:33
นับตั้งแต่คืนเทศกาลหันอี้ เมื่อนางเสิ่นและชายารองจินกลับจวนตอนดึกได้พูดคุยเหตุการณ์ที่จวนองค์หญิงใหญ่แล้ว อ๋องเยี่ยน ก็วุ่นวายใจ ต่อมาก็ตกอยู่ภาวะที่ตื่นกลัวอย่างง่าย

ไม้ต้องให้คุณชายอู๋เซี่ยงโน้มน้าว เขาก็รู้ดีว่าเขาไม่สามารถออกจากเมืองหลวงและกลับไปที่เยี่ยนโจวได้ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ ไม่เช่นนั้นก็เท่ากับยอมรับความจริงไปแล้ว

อู๋เซี่ยงให้เขาไม่ต้องไปสนใจเรื่องอะไรทั้งนั้น แต่ยังเข้าวังทุกวันเพื่อดูแลผู้ป่วย โดยแสร้งทำเป็นไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสิ่งเหล่านั้น

สำหรับคนที่เขาพาเข้ามาในเมืองหลวง ไม่มีใครสามารถทำอะไรบุ่มบ่ามได้

อ๋องเยี่ยนแสร้งทำเป็นสงบภายนอก แต่จริงๆ แล้ว ในใจของเขาได้เกิดพยุงรุนแรงแล้ว เขาต้องการสอบถามเกี่ยวกับข่าวนี้ แต่หาแหล่งสืบสวนไม่ได้

เขารู้ว่าผู้ที่ใกล้ชิดกับทางจวนองค์หญิงใหญ่กำลังตกอยู่ในอันตรายในขณะนี้ และตัวตนที่เขาในฐานะท่านอ๋องยิ่งอ่อนไหวมากขึ้น

หลังจากการไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนแล้ว คนเดียวที่สามารถสืบสวนข้อมูลออกมาได้ก็คือนางเสิ่น เสิ่นว่านจือ ลูกพี่ลูกน้องของนางเสิ่นอาศัยอยู่ในจวนเป่ยหมิงอ๋อง และเป็นเพื่อนสนิทกับซ่งซีซี พระชายาเป่ยหมิงอ๋อง

ดังนั้น ก่อนเข้าว
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 755

    นางเสิ่นพูดอย่างเย็นชา "ข้ากับท่านอ๋องเป็นสามีภรรยากัน ระหว่างสามีและภรรยาจะตำหนิกันได้อย่างไร แต่ถ้าท่านอ๋องเร่งรีบกับเรื่องนี้ข้าก็ต้องให้ความสำคัญ เจ้าออกไปให้คนเตรียมรถม้า ข้าจะไปเดี๋ยวนี้"เมื่อชายารองจินเห็นว่านางยอมออกไปแล้ว โดยไม่สนใจสายตานางเต็มไปด้วยความดูถูกมากเพียงใด จากนั้นก็ออกไปให้คนใช้เตรียมรถม้าแต่แล้ว ทันทีที่นางเสิ่นออกจากบ้านก็เห็นซ่งซีซีกำลังมาพร้อมกับกองกำลังเมืองหลวงจำนวนมาก เมื่อมองแวบแรก นางยังมองไม่ออกว่าคือซ่งซีซี หลังจากมองดูอย่างละเอียดถึงจำนางออกซ่งซีซีนำปี้หมิงและกองกำลังเมืองหลวงอีกหลายสิบคน และมาที่นี่พร้อมกับกระบวนยิ่งใหญ่ขนาดนี้เพื่อสอบปากคำสตรีจากตระกูลขุนนางหรือฮูหยินมียศ นางจงใจจัดฉากใหญ่เพื่อให้ตระกูลขุนนางอื่นๆ เห็นว่าขนาดปฏิบัติต่อจวนอ๋องเยี่ยนก็เป็นเช่นนี้ หากไม่ได้ปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างก่อเสียงดังแบบนี้ถือว่าไว้หน้ามากแล้วที่ทำแบบนี้ไม่เพียงแต่ไม่ทำให้พวกเขาไม่พอใจ ในทางหลับกัน กลับให้คนอื่นๆ ซาบซึ้งใจด้วยเมื่อนางเสิ่นเห็นว่าพวกเขากำลังจะเข้าไปจวนอ๋องก็ตะโกนด้วยความโกรธทันทีว่า "พวกเจ้ากำลังทำอะไรอยู่ ช่างบังอาจจัง ที่นี่คือจวนอ๋องเยี่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-30
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 756

    ซ่งซีซีไม่ได้โกรธกับน้ำเสียงของนาง แค่พูดกับเจ้าหน้าที่บันทึกข้อความหลิงอย่างใจเย็นว่า "จดไว้ เขียนว่าเสี้ยนจู่อวี้ชิงมีท่าทีหงุดหงิด ดูเหมือนไม่เต็มใจที่จะให้ความร่วมมือ สงสัยว่าคัดค้านพระราชกฤษฎีกา"เจ้าหน้าที่บันทึกข้อความหลิงเปิดสมุด ปี้หมิงรีบเทหมึกให้ก่อนพูดว่า "ขอรับ ผู้บัญชาการซ่ง"อวี้ชิงสะดุ้ง ใบหน้าชมพูของนางยิ่งเย็นยาขึ้น "ซ่งซีซี อย่าพูดอะไรมั่วซั่ว ข้าจะคัดค้านพระราชกฤษฎีกาตั้งแต่เมื่อไหร่?"ซ่งซีซีนั่งนิ่งและพูดต่อ "จดต่อว่าเสี้ยนจู่อวี้ชิงดุข้าด้วยความโกรธ มีท่าทางแย่มาก"เจ้าหน้าที่บันทึกข้อความหลิงเริ่มเขียนอย่างรวดเร็ว "ขอรับ ข้าจดไว้แล้ว"เสี้ยนจู่อวี้ชิงเดินเข้าไปและเห็นว่าเขาได้เขียนอย่างที่ซ่งซีซีพูดไว้จริงๆ จึงเอื้อมมือออกไปเพื่อฉีกมันออก ปี้หมิงสกัดกั้นมันด้วยดาบของเขา และพูดอย่างเย็นชา "จดไว้ว่าเสี้ยนจู่อวี้ชิงพยายามจะฉีกข้อมูลปากคำออก"อวี้ชิงถูกดาบขวางไว้และถอยหลังไปสองก้าว แต่นางไม่กล้าที่จะเอาแต่ใจอีกเมื่อเห็นซ่งซีซีไม่คำนึงถึงความเป็นพี่น้องกัน ชายารองจินจึงรีบลุกขึ้นยืนเพื่อไกล่เกลี่ย "ผู้บัญชาการซ่งอย่าไปถือสาอวี้ชิงเลย นางอายุยังน้อยไม่รู้ความ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-30
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 757

    เมื่อซ่งซีซีถามคำถามนี้ออกมา ไม่มีใครตอบเพราะคำตอบของพวกนางจะถูกบันทึกไว้การอกตัญญูถือเป็นอาชญากรรมร้ายแรง แม้ว่าจะไม่ได้รับการลงโทษ แต่หากคำพูดนี้ถูกแพร่กระจายออกไปก็จะไม่ดีต่อการหาคู่ครองของพวกนาง ตระกูลขุนนางชั้นสูงมีผู้ใดบ้างอยากมีสะใภ้ที่อกตัญญูล่ะ?ในบรรดาคนทั้งหมด มีเพียงเซี่ยหรูหลิงที่ทำหน้าสำนึกผิด แต่เขาไม่ได้พูดอะไรซ่งซีซีเหลือบมองพวกเขาแล้วพูดกับเจ้าหน้าที่บันทึกข้อความหลิง "จดไว้ ลูกๆ ของอดีตพระชายาอ๋องเยี่ยนล้วนให้คำตอบไม่ได้ ไม่รู้ว่าพวกเขาละอายใจหรือไม่แยแส"อวี้ชิงรีบพูดขึ้นว่า "เจ้าพูดแบบนี้ได้ยังไง ทำไมเราไม่อยากไปดูแลเสด็จแม่ล่ะ เป็นเพราะเสด็จพ่อสุขภาพไม่ดีในเวลานั้นด้วย และเราก็ต้องดูแลเขา นอกจากนี้ เรายังเด็กและยังไม่ได้ออกเรือนก็ไม่เหมาะที่จะไปสำนักแม่ชีชิงมู่"มีการเสียดสีในสายตาของซ่งซีซี "เสด็จพ่อของเจ้ามีสุขภาพไม่ดี ดังนั้นพวกเจ้าทุกคนจึงอยู่ในจวนเพื่อรับใช้เขา แต่เสด็จแม่ของเจ้าป่วยหนักกลับต้องไปที่สำนักแม่ชีชิงมู่ ทำไมนางไม่สามารถพักฟื้นที่จวนอ๋องเยี่ยน เป็นเพราะพวกเจ้าปฏิบัติต่อนางไม่ดี หรือว่านางได้พบกับความลับที่ไม่อาจเปิดเผยได้ของจวนอ๋องเยี่ยนล่ะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-30
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 758

    หลังจากที่นางพูดจบ จู่ๆ นางก็ปิดปากอยู่ครู่หนึ่งแล้วมองซ่งซีซีด้วยความตกตะลึง "เมื่อกี้ผู้บัญชาการซ่งบอกว่าผู้หญิงคนนั้นเสียชีวิตเมื่อสามปีหลังจากแต่งเข้าจวนงั้นเหรอ? ยังถูกตัดนิ้วมือและนิ้วเท้าออกด้วยเหรอ? คุณพระช่วย จะเป็นแบบนี้ได้อย่างไร นางทำผิดอะไรไป ข้าเห็นว่านางมาจากครอบครัวที่เรียบง่าย มีนิสัยใจคอที่ดี เลยส่งให้กับองค์หญิงใหญ่ นางทำอะไรผิดไป ทำไมองค์หญิงใหญ่ถึงทำเช่นนี้กับนางเล่า?""นางผิดที่โดนเจ้าเห็นเข้า""นี่…" ชายารองจินทำท่าไร้เดียงสา "ข้าไม่ได้คิดว่าเรื่องจะเป็นแบบนี้ ข้าก็หวังดีกับนาง โดยคิดว่าจวนโหวกู้ก็เป็นตระกูลใหญ่ ต่อให้นางเป็นแค่อนุภรรยา ก็ยังดีกว่าแต่งงานกับสามัญชนข้างนอก"ซ่งซีซีพูดอย่างเย็นชา "ชายารองจินพูดแบบนี้ คือไม่รู้เหรอว่านางจะอยู่ในจวนองค์หญิง ทำเหมือนไม่เกี่ยวข้องกับตนเองเลย"ชายารองจินรีบอธิบายว่า "ข้าไม่รู้จริงๆ เพราะฝู้หม่าไม่ได้อาศัยอยู่ในจวนองค์หญิง ข้าคิดว่าในเมื่อฝู้หม่าอาศัยอยู่ในจวนโหวกู้ งั้นอนุภรรยาของเขาก็ต้องอยู่ในจวนโหวกู้ และข้าก็ไม่รู้จริงๆ ว่าทำไมองค์หญิงใหญ่ถึงทำกับนางเช่นนี้"โดยปกติแล้ว นางเสิ่นจะไม่พูดแทนชายารองจิน แต่คราวนี้ซ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-30
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 759

    ตระกูลฉีรับข้าราชการมานานมาก และตอนนี้ถือว่าอยู่ในช่วงรุ่งเรือง เจ้ากรมฉีได้รับการยกย่องอย่างสูงในราชวงศ์ของจักรพรรดิองค์ก่อน เขาบอกได้ว่าตนเองสามารถเข้าใจความคิดของจักรพรรดิองค์ก่อนไปหมดแล้ว แต่เขาไม่เข้าใจความคิดของฮ่องเต้ปัจจุบันได้เขาไม่เข้าใจว่าทำไมฮ่องเต้จึงให้ซ่งซีซีเป็นผู้บัญชาการ ตำแหน่งนี้มีความสำคัญมาก หากทางจวนเป่ยหมิงอ๋องมีใจไม่ซื่อ งั้นใช้งานตำแหน่งนี้สามารถทำสิ่งหลายอย่างได้ดังนั้น ตอนที่เขาจัดการประชุมครอบครัว นอกจะให้ทุกคนยับยั้งชั่งใจอย่างเข้มงวด ก็แสดงความไม่พอใจกับซ่งซีซีด้วย"หากปล่อยนางทำเช่นนี้ต่อไป งั้นจะทำให้ตระกูลขุนนางในเมืองหลวงเกิดโกลาหล เกรงว่าจะมีคดีไม่ยุติธรรมเกิดขึ้น ในปกติกลับไม่ได้มองออกว่านางเป็นคนรีบร้อนที่อยากสร้างผลงานแบบนี้ โดยจัดการกับจวนอ๋องเยี่ยนก่อนเพื่อวางอำนาจ งั้นสำหรับตระกูลอื่นๆ นางจะออมมือให้ไหมล่ะ ไร้สาระจริงๆ"ฉีฟางและฉีลิ่วก็อยู่ด้วย หลังจากฟังคำพูดของเจ้ากรมฉี พวกเขาก็อยากจะช่วยพูดแทนซ่งซีซีสักหน่อย แต่ก่อนที่เขาจะอ้าปาก เจ้ากรมฉีก็เหลือบมองอย่างเย็นชา "บ้านสามของพวกเจ้าก็ต้องระมัดระวังด้วย เจ้าหก โดยเฉพาะตอนนี้เจ้าแต่งงานกับอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-30
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 760

    ตอนนี้นางกำลังตั้งครรภ์ และนางจะชอบคิดมากและละเอียดอ่อนในระหว่างตั้งครรภ์ นางมีความสุขเมื่อรู้ว่าจ้านเป่ยว่างได้รับการเลื่อนตำแหน่ง แต่นางก็เศร้ามากจนร้องไห้เมื่อรู้ว่าซ่งซีซีเป็นหัวหน้าของจ้านเป่ยว่างนางพิงแขนของจ้านเป่ยว่าง และสำลัก "ข้าไม่อิจฉานาง แต่นางมีสิทธิ์อะไรมาอยู่เหนือกว่าเจ้า เป็นเจ้าที่พบหลักฐานของการกบฏองค์หญิงใหญ่ หากไม่มีเจ้า เกรงว่าจนถึงขณะนี้ก็จะไม่มีใครค้นพบเจตนากบฏขององค์หญิงใหญ่""ข้าแค่ไม่ยอม เหตุใดเจ้าถึงถูกนางปราบปรามตลอด? ในด้านผลงาน เรื่องงาน เจ้าสู้นางไม่ได้หรือ ทำไมฮ่องเต้จะผู้หญิงคนหนึ่งมาเป็นผู้บัญชาการได้อย่างไร ปล่อยให้ผู้หญิงคนหนึ่งไปดูแลกองทัพซวนเจีย รวมถึงทหารรักษาพระราชวังและองครักษ์รักษาพระองค์ด้วย นี่มันล้อเล่นหรือเปล่า ทำให้พวกผู้ชายต้องเสียหน้าไปหมดแล้ว"จ้านเป่ยว่างรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงสำลักของนางเขานึกถึงมือสังหารที่ต่อสู้กับเขาในคืนนั้น เขารู้ว่าคนนั้นคือใครเพราะงั้นผลงานนี้เป็นเขาที่ทำจริงๆ หรือ ไม่ คือคนนั้นส่งให้เขาคงรู้ว่าองค์หญิงใหญ่กำลังวางแผนกบฏและต้องการเปิดเผยแผนการสมรู้ร่วมคิดขององค์หญิงใหญ่ให้คนอื่นรู้ในช่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-30
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 761

    ในฐานะภรรยาไม่มีเหตุผลที่จะตบหน้าสามีของตนเอง อย่าว่าแต่จวนแม่ทัพที่เป็นตระกูลใหญ่ แม้แต่คนธรรมดาก็จะไม่สามารถตบหน้าโดยตรง โกรธมากสุดก็แค่ต่อยที่ร่างกายสักหน่อย เพราะหมัดของผู้หญิงก็มีแรงไม่มากนักการตบหน้าคือการทำลายศักดิ์ศรีความเป็นลูกผู้ชายมีคนรับใช้อยู่ข้างนอกด้วย งั้นจ้านเป่ยว่างยังจะมีเกียรติในจวนแห่งนี้ได้อย่างไร? โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นหัวหน้าองครักษ์รักษาพระองค์ การตบครั้งนี้ทำให้ความสุขที่หลงเหลืออยู่ในใจของจ้านเป่ยว่างหายไปจริงๆหวังชิงหลูกัดริมฝีปากและหลั่งน้ำตา นางรู้ดีว่าตนเองทำมากเกินไป แต่นางก็ไม่สามารถก้มหน้ากล่าวขอโทษให้"ช่างเถอะ เจ้าออกไปได้แล้ว" จ้านเป่ยว่างระงับความโกรธของเขาและไม่ต้องการโต้เถียงกับเขา ความทุกข์ใจจากความขัดแย้งระหว่างสามีภรรยาเขาทนมามากพอแล้ว มันกินพลังงานมากเกินไปหวังชิงหลูรู้สึกผิดเล็กน้อยหลังจากตบหน้าเขา แต่เมื่อได้ยินคำพูดเย็นชาของเขา ก็รู้สึกอึดอัดใจ "ข้ากำลังท้องอยู่ยังมาดูแลเจ้า อยากให้เจ้าพักฟื้นดีๆ จะได้หายไวๆ ไปขอบพระทัยฮ่องเต้เพื่อรับตำแหน่ง แต่ท่าทางของเจ้าทำให้ข้าผิดหวังมาก"จ้านเป่ยว่างหลับตา ไม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-30
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 762

    ฮูหยินผู้เฒ่าป๋อผิงซีไม่ใช่คนไมเธอรู้่รู้ความ นางรู้ดีว่าลูกสาวตนเองมีนิสัยอย่างไร แต่เมื่อเห็นนางกลับมาพลางร้องไห้ในขณะตั้งท้องอย่างนั้นก็อดใจอ่อนลงไม่ได้เพราะช่วงนี้นาง ชไม่ก่อปัญหาใดๆ เลย เรื่องในอดีตก็ถือว่าผ่านไปแล้ว ผู้เป็นแม่จะคิดเล็กคิดน้อยกับลูกตนเองได้อย่างไรดังนั้น หลังจากได้ยินหวังชิงหลูพูดว่าจ้านเป่ยว่างละเลยนาง และนางกลับบ้านพ่อแม่ทั้งๆ ที่ยังตั้งท้องอยู่กลับไม่สนใจใยดี นางเลยส่งคนไปตามหาลูกสะใภ้มา เพื่อให้ช่วยหาทางออกมาจัดการเรื่องระหว่างนางกับสามีนางเมื่อนางจีมาถึง นางหลานจากห้องสองก็นั่งอยู่ในห้องของฮูหยินผู้เฒ่าแล้ว"พี่สะใภ้มาแล้ว!" นางหลานยืนขึ้นและแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก ถ้าพี่สะใภ้ยังไม่มา นางก็ต้องหาทางหลบหนีแล้วนางจีพยักหน้าให้นาง แล้วคารวะต่อฮูหยินผู้เฒ่า "คารวะท่านแม่เจ้าค่ะ""อืม เจ้ามาพอดีเลย" ฮูหยินผู้เฒ่านั่งอยู่บนที่นั่งหลักด้วยสีหน้าจริงจัง ข้างๆ นางคือหวังชิงหลู ซึ่งยังคงร้องไห้อยู่ เนื่องจากหวังชิงหลูกำลังตั้งครรภ์ นางแค่เรียก "พี่สะใภ้" แล้วไม่ได้ยืนขึ้นไหว้นางนางจีนั่งลง เงยหน้าขึ้นมองหวังชิงหลู แล้วถามโดยแสร้งทำเป็นไม่รู้อะไรเลย "คุณหน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-30

บทล่าสุด

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1386

    จีซูเซิ่นไม่ได้บอกเรื่องนี้แก่ฮูหยินผู้เฒ่าและหวังชิงหรู ในวันรุ่งขึ้นขณะที่พวกนางออกไปตรวจที่ร้านขายยาเย่าหวัง นางแปลงตัวเป็นชาวนาและแอบตามไป เพียงแต่ตลอดทางจากไปจนกลับ ไม่มีใครเข้ามาใกล้รถลาของพวกนาง และระหว่างทางรถลานั้นก็ไม่ได้หยุดเลย หลังจากกลับมาถึงโรงงาน หวังชิงหรูก็เริ่มต้มยา ในโรงงานไม่มีใครคอยรับใช้ ทุกคนต้องผลัดกันทำอาหาร ตอนแรกหวังชิงหรูทำอะไรไม่เป็นเลย แม้แต่การก่อไฟยังต้องใช้เวลาฝึกถึงสามวัน อาหารมื้อแรกที่นางทำถึงกับกินไม่ได้เลย คนในโรงงานช่วยเหลือกัน แต่ก็ล้อกันด้วย พวกเขาหัวเราะเยาะว่านางมีร่างกายเหมือนฮูหยิน แต่โชคชะตาไม่ใช่ฮูหยินตอนแรกนางโกรธและรู้สึกน้อยใจ คิดว่าทำไมต้องมาเจอกับความลำบากเช่นนี้ นางถึงขั้นคิดว่าพวกเขาตั้งใจกลั่นแกล้ง จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อเจียอี้มาที่โรงงานเพื่อเยี่ยม นางลงมือทำอาหารเอง มันอาจจะไม่เลิศรส แต่ก็รสชาติกลมกล่อมพอดี นางนิ่งเงียบไป หวังชิงหรูรู้ดีว่าเจียอี้เคยเป็นคนอย่างไร อดีตท่านหญิงที่หยิ่งยโส แต่หลังจากถูกหย่าแล้วได้รับการพากลับมา นางยังสามารถลดตัวเองลงและลงมือทำอาหารให้กลุ่มสตรีที่ถูกทอดทิ้งเหล่านี้ได้ ที่สำค

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1385

    สถานการณ์ของหวังเบียวทำให้ซ่งซีซีแปลกใจไม่น้อย นางคิดว่าเขาจะพาคนสนิทหนีไปซ่อนได้อย่างน้อยสองสามปี ใครจะคาดคิดว่า ระหว่างทางเขาจะถูกปล้นทรัพย์สิน แม้แต่อนุที่รักก็ยังทอดทิ้งเขา ไม่รู้ว่าในเวลานั้น เขาเคยเสียใจต่อความโง่เขลาของตัวเองบ้างหรือไม่ คนวัยกลางคน กลับยังหลงเชื่อในความรักแท้ คิดจะทิ้งภรรยาที่อยู่เคียงข้างและดูแลเขามากว่าสิบปี สุดท้ายกลับถูกคนอื่นทิ้งเสียเอง นับว่าเป็นกรรมที่ตามสนอง แต่กรรมที่เขาได้รับยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ด้วยนิสัยของกู้ชิงหวู่ ตอนที่จากไปนางต้องเคยดูถูกเหยียดหยามเขาอย่างแน่นอน เช่นเดียวกับที่นางเคยดูถูกเหลียงเส้า กู้ชิงหวู่ใช้ความงามของตัวเองเป็นเครื่องมือ แต่ในขณะเดียวกันก็เกลียดชังชายที่หลงใหลในความงามของนางอย่างยุติธรรม ในความเป็นจริง ซ่งซีซีคิดว่าหวังเบียวอาจไม่ได้อยู่ที่อำเภอหยง เพราะด้วยสถานะของเขาในฐานะผู้หลบหนี เขาไม่สามารถปรากฏตัวด้วยหน้าตาที่แท้จริง และไม่กล้าพำนักในที่ใดที่หนึ่งนานเกินไป ได้แต่หนีซุกซ่อน เขายังพาลูกไปด้วยอีก ซ่งซีซีคิดว่า หากเขาจนตรอก เขาอาจจะแอบกลับเมืองหลวงหรือไม่?แม้เขาจะโง่ แต่ก็ไม่ถึงกับโง่สิ้นดี เขารู

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1384

    กู้ชิงหวู่กำหมัดแน่น ดวงตาเปล่งประกายแห่งความโกรธ "ดังนั้นข้าถึงบอกว่า สวรรค์ไม่ยุติธรรม ไยต้องเป็นเช่นนี้?" "เจ้าพูดเอง ด้วยชาติกำเนิดที่ดีของข้า รวมถึงสตรีหน้าเหลืองที่เจ้ากล่าวถึง นางก็เป็นสตรีผู้สูงศักดิ์" ซ่งซีซีตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย แต่เต็มไปด้วยท่าทีเหนือกว่า กู้ชิงหวู่เกลียดชังท่าทางเช่นนี้ที่สุด มันเหมือนกับอดีตองค์หญิงใหญ่ที่อยู่บนหอคอยสูง ในขณะที่ตนต้องก้มต่ำอยู่ในโคลนตม นางโกรธจัด หน้าอกสะท้อนขึ้นลง "ถึงจะเป็นสตรีผู้สูงศักดิ์แล้วอย่างไร? ก็ยังถูกสามีรังเกียจอยู่ดีมิใช่หรือ?" "หวังเบียวหรือ? นางไม่เคยใส่ใจเขาเลย มีแต่เจ้าที่มองเขาเหมือนสมบัติ" ซ่งซีซีตอบอย่างไม่ใส่ใจ "สำหรับข้า เขาก็ไม่ใช่สมบัติอะไร แค่ขยะชิ้นหนึ่ง" กู้ชิงหวู่ตอบด้วยแววตาดุดัน ซ่งซีซีหัวเราะเยาะ "ข้ารู้ว่าไม่ใช่เช่นนั้น เจ้าถึงกับให้กำเนิดบุตรให้เขา ทั้งที่รู้ว่าการหนีจากสนามรบเป็นความผิดร้ายแรง เจ้ากลับไม่สนใจและหนีตามเขาไป ข้าเคยเจอคนปากไม่ตรงกับใจเช่นเจ้ามานักต่อนัก" "ไร้สาระ!" กู้ชิงหวู่ตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยว ใบหน้าแดงก่ำ แต่ไม่นานก็หัวเราะเยาะ "ฮะ คิดจะหลอกข้าหรือ? ใช่ ข้ารักเขาจนถ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1383

    สถานที่อันเป็นมงคลนี้ถูกเลือกโดยสำนักโหรหลวง เป็นสถานที่ที่งดงามด้วยภูเขาและสายน้ำ มีหมู่บ้านอยู่ใกล้ๆ สองแห่ง แม้จะเรียกว่าด้านข้างพระราชสุสาน แต่ความจริงแล้วห่างจากพระราชสุสานถึงสามสิบลี้ หลังจากงานศพ กู้ชิงหยิงมาพบซ่งซีซีและเสิ่นว่านจือเพื่อกล่าวลา บอกว่าจะไปสร้างกระท่อมเล็กๆ อยู่ในหมู่บ้านใกล้เคียงเพื่อเฝ้าสุสานของบิดาบุญธรรม เสิ่นว่านจือถามว่านางต้องการความช่วยเหลือเรื่องเงินหรือไม่ นางตอบว่าไม่จำเป็น เพราะนางจะขายเครื่องประดับที่เคยซื้อไว้ ก็เพียงพอจะกลายเป็นคนมีฐานะเล็กๆ ได้ วันที่นางจากไปพอดีกับวันที่เจ้าสิบเอ็ดฝางคุมตัวอ๋องเยี่ยนและคนอื่นๆ กลับเมืองหลวง นางยืนอยู่ที่ประตูเมือง มองเข้าไปในรถนักโทษที่มีอ๋องเยี่ยนและอ๋องฮวย ความเกลียดชังพลันผุดขึ้นในใจ แต่เมื่อเห็นชาวบ้านต่างด่าทอและโยนใบไม้เน่าใส่พวกเขา นางก็รู้สึกคลายความโกรธ เพราะคิดว่าคนชั่วได้กรรมของตนเองแล้ว สำหรับนาง นับจากนี้ก็เป็นอิสระแล้ว ไม่มีใครหรือสิ่งใดมาผูกมัดนางได้อีก ในการคุมตัวครั้งนี้ ยังมีข้าราชการของหนิงโจวและชิวเหมิงถูกนำตัวกลับมาด้วย สิ่งที่ทำให้ซ่งซีซีประหลาดใจคือ นางยังเห็นกู้ชิงหวู่ด

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1382

    ใช้เวลาห้าวันกว่าจะกวาดล้างเศษซากกบฏได้หมดสิ้น เจ้าสิบเอ็ดฝางและมู่ฉงกุยส่งข่าวชัยชนะมาว่าได้จับชิวเหมิงกบฏตัวสำคัญเป็นเชลย พร้อมนำตัวอ๋องเยี่ยน อ๋องหวย และอู๋เซียงผู้ทรยศกลับมายังเมืองหลวง ซึ่งอีกไม่นานจะมาถึง ยกเว้นเพียงหวังเบียวที่ยังคงหลบหนี นอกนั้นกบฏส่วนใหญ่ล้วนถูกจับกุมได้หมดแล้ว วันที่ 25 เดือนเจ็ด สำนักราชวังจัดพิธีศพให้ท่านอ๋องฮุย เพราะเหตุการณ์กบฏของเซี่ยทิงเหยียน พิธีศพจึงจัดอย่างเรียบง่าย และจักรพรรดิ์ซูชิงทรงเรียกขุนนางมาหารือว่าท่านอ๋องฮุยควรได้ฝังในสุสานอ๋องหรือไม่ แม้ว่าท่านอ๋องฮุยจะบริสุทธิ์ แต่ความผิดของเซี่ยทิงเหยียนเป็นโทษที่เกี่ยวพันถึงทั้งตระกูล ซ่งซีซีไม่ได้รับการเรียกตัวให้เข้าร่วมพิธี นางจึงพาผู้คนจากจวนเป่ยหมิงอ๋องมาร่วมงานศพของอ๋องฮุย พิธีศพจัดอย่างเรียบง่าย ไม่มีขุนนางมาร่วมงาน นอกจากจักรพรรดิ์จะทรงอนุญาตให้อ๋องฮุยฝังในสุสานอ๋อง มิฉะนั้นจะไม่มีใครกล้าเข้าร่วม กู้ชิงหยิงสวมชุดไว้ทุกข์คุกเข่าเผากระดาษหน้าโลงศพ ศพของอ๋องฮุยถูกบรรจุในโลงแล้วแต่ยังไม่ได้ปิดฝา เมื่อซ่งซีซีและเสิ่นว่านจือมาถึง ยังสามารถไปดูหน้าศพครั้งสุดท้ายได้ มีโลงศพสา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1381

    เมื่อได้ยินว่าอ๋องฮุยปลิดชีพตนเอง เซี่ยทิงเหยียนถึงกับอึ้งไป ก่อนจะร้องไห้เสียงดังว่า “เสด็จพ่อ ทำไมต้องกลัวโทษจนถึงกับฆ่าตัวตาย? ลูกสัญญาไว้ว่าจะรับโทษแทนท่านแล้ว” เมื่อได้ยินคำพูดนี้ กู้ชิงหยิงที่ไม่ได้หวังจะมีชีวิตรอดอยู่แล้วก็พุ่งเข้าไปชกหัวเขาอย่างแรง หมัดของกู้ชิงหยิงใหญ่โตนัก ฟาดเข้าที่กระหม่อมของเซี่ยทิงเหยียนจนเขารู้สึกราวกับโดนฟ้าผ่า หูอื้ออยู่นานก่อนจะเงยหน้ามองนางด้วยสายตาเย็นเยียบดุจอสรพิษ กู้ชิงหยิงถ่มน้ำลายใส่เขาแล้วกล่าวว่า “เจ้าสัตว์เดรัจฉาน เจ้าใช้อำนาจข่มขู่ชีวิตชาวเมืองหนิงโจวและคนเก่าของวังให้ท่านอ๋องต้องรับผิดแทนเจ้า ท่านอ๋องไม่เคยมีจิตคิดกบฏ แม้แต่ตอนที่ถูกเจ้าจับตาอย่างใกล้ชิด ท่านยังพยายามส่งข่าวให้ใต้เท้าซ่ง เจ้าจงหยุดทำลายชื่อเสียงของท่านอ๋องหลังจากตายเถิด” นางพูดจบก็รีบคุกเข่าลง น้ำตาไหลอาบหน้า “ฝ่าบาท ขอพระองค์ทรงโปรดพิจารณา ท่านอ๋องไม่ได้ก่อกบฏ แต่เป็นเซี่ยทิงเหยียนที่พูดเองว่า หากเขาสำเร็จ ทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดี แต่หากล้มเหลว ลูกน้องของเขาจะสังหารชาวเมืองหนิงโจว เขาข่มขู่ท่านอ๋องเช่นนี้มาตลอด คนเก่าของวังที่อยู่ข้างกายท่านอ๋องถูกเขาฆ่าจนแทบไม่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1380

    จักรพรรดิ์ซูชิงมองลงมาจากที่สูง ดวงตาเต็มไปด้วยความชิงชัง “อย่างนั้นหรือ? แม้เจ้าจะยอมรับโทษแทนบิดา แต่ข้าไม่อาจกล่าวโทษผู้บริสุทธิ์โดยไร้เหตุผลได้ ใครกันที่เป็นกบฏวางแผนชิงบัลลังก์ ข้าจะสืบสวนให้กระจ่างเอง” “ฝ่าบาท” เซี่ยทิงเหยียนน้ำตาคลอ ดวงหน้าเต็มไปด้วยความเสียใจอย่างยิ่ง “ไม่ต้องสืบสวนแล้ว ขอพระองค์ทรงตัดสินโทษกระหม่อมเถิด เสด็จพ่อเพียงหลงผิดชั่วขณะ” จักรพรรดิ์ซูชิงหัวเราะเยาะ “เจ้าทำให้ข้าผิดหวังนัก เหตุใดถึงไร้เกียรติเช่นนี้? ไหนล่ะความตระหนักของผู้แพ้ในสงคราม เจ้าไม่คู่ควรแม้แต่จะเป็นยอดคนผู้ห้าวหาญ ผู้เช่นเจ้ากล้าหมายปองบัลลังก์ คิดจะเป็นประมุขของแผ่นดินหรือ? เซี่ยทิงเหยียน อย่าให้ผู้ติดตามเจ้าเขาต้องผิดหวังนัก” “กระหม่อมยินดีรับโทษแทนเสด็จพ่อ! ขอพระองค์โปรดเมตตาไว้ชีวิตเสด็จพ่อด้วย” เซี่ยทิงเหยียนไม่สนว่าจักรพรรดิ์ซูชิงจะตรัสสิ่งใด เขาก็ยังคงกล่าวแต่คำนี้ด้วยความปวดร้าวและความกตัญญู ขุนนางที่อยู่ในที่นั้นย่อมไม่เชื่อ ต่างตำหนิเขาด้วยถ้อยคำรุนแรงถึงความทะเยอทะยานราวหมาป่า แต่หากคนใดหน้าหนาเพียงพอ ย่อมไม่สะทกสะท้านต่อคำด่าว่า เขายังคงแสดงสีหน้าเจ็บปวดและกล่าวว่า

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1379

    ภายใต้การบัญชาของสือหงเซิน กองกำลังทหารส่วนตัวเหล่านี้ไม่เพียงไม่ล่าถอย แต่กลับต่อสู้อย่างดุดันยิ่งขึ้น พวกเขาไม่ใช่ทหารส่วนตัวของอ๋องเยี่ยน จำนวนกว่า 10,000 คน ล้วนเป็นผู้ที่เซี่ยทิงเหยียนคัดเลือกอย่างพิถีพิถันตลอดหลายปี และผ่านการฝึกฝนมานับครั้งไม่ถ้วน ในหมู่พวกเขา หลายคนมีชีวิตที่ขมขื่น และความเกลียดชังต่อโลกนี้ พวกเขาหวังว่าจะพลิกชะตาชีวิตของตนเองด้วยสงครามครั้งนี้ ดังนั้นตราบใดที่ยังมีผู้บัญชาการอยู่ข้างหน้า พวกเขาก็ไม่มีวันยอมแพ้ง่ายๆ กองทัพซวนเจียสามารถเอาชนะพวกเขาได้ แต่ชัยชนะนี้จะไม่ได้มาอย่างง่ายๆ และรวดเร็ว ซ่งซีซีรู้ว่าหากพวกเขาไม่ยอมจำนน จำนวนผู้เสียชีวิตจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น นางจึงเลือกกำลังพลที่ดีที่สุดกลุ่มหนึ่ง รวมถึงกลุ่มย่อยเหม่ยซานของพวกเขา วางแผนจะตัดศีรษะของสือหงเซินท่ามกลางกองทัพกบฏ เมื่อทัพไร้แม่ทัพ การสงครามย่อมสงบได้เร็วขึ้น ซ่งซีซีวางแผนให้หมั่นโถวและกุ้นเอ๋อร์เข้าไปทำลายรูปขบวนของพวกเขาก่อน จากนั้นนางและเสิ่นว่านจือจะบุกเข้าไปตัดศีรษะแล้วรีบถอยออกมา นี่คือการตัดหัวแม่ทัพศัตรูท่ามกลางกองทัพนับพันอย่างแท้จริง เป็นเรื่องที่ยากลำบาก เพราะเหล่าก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1378

    เซี่ยทิงเหยียนควบม้าออกไป และเห็นชิวเหมิงอยู่ไกลๆ เขาจึงวางใจจริงๆ เขารู้ดีว่าชิวเหมิงพร้อมจะแลกทุกสิ่ง ชายคนหนึ่ง หากทุ่มเทอย่างเต็มที่และไม่กลัวตาย ย่อมสามารถสร้างผลงานอันยิ่งใหญ่ได้ นี่คือสงครามที่เขาเฝ้าฝันถึง การต่อสู้เพื่ออุดมการณ์อันยิ่งใหญ่ของตนเอง ความเยือกเย็นและสงบนิ่งที่เคยมีถูกแทนที่ด้วยเลือดร้อนที่พลุ่งพล่านไปทั่วร่าง ความปรารถนาที่จะครอบครองแผ่นดินมอบพลังและความเชื่อมั่นแก่เขา เขาเชื่อมั่นว่าความทะเยอทะยานคือพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ไม่มีสิ่งใดขวางกั้นได้ แต่เขาไม่รู้เลยว่า ความทะเยอทะยานไม่เคยเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุด พลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือความรักและความเกลียดชัง รวมถึงความยุติธรรมและความสามัคคี มันคือความรักชาติของซ่งซีซี ผู้บัญชาการแห่งกองทัพซวนเจีย! มันคือความเกลียดชังจากการล้างโคตรตระกูลของซ่งซีซี! และยิ่งไปกว่านั้นคือการรวมพลังกันของทหารและชาวยุทธภพ เพื่อขับไล่กบฏและปกป้องความยุติธรรมของประชาชน เซี่ยทิงเหยียนสังเกตเห็นความผิดปกติในทันที ทหารที่ชิวเหมิงนำมา ต่างถอดเครื่องแบบออกพร้อมกัน เผยให้เห็นเสื้อผ้าธรรมดาที่สวมอยู่ด้านใน ซึ่งปักอักษร

DMCA.com Protection Status