Share

บทที่ 758

Penulis: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
หลังจากที่นางพูดจบ จู่ๆ นางก็ปิดปากอยู่ครู่หนึ่งแล้วมองซ่งซีซีด้วยความตกตะลึง "เมื่อกี้ผู้บัญชาการซ่งบอกว่าผู้หญิงคนนั้นเสียชีวิตเมื่อสามปีหลังจากแต่งเข้าจวนงั้นเหรอ? ยังถูกตัดนิ้วมือและนิ้วเท้าออกด้วยเหรอ? คุณพระช่วย จะเป็นแบบนี้ได้อย่างไร นางทำผิดอะไรไป ข้าเห็นว่านางมาจากครอบครัวที่เรียบง่าย มีนิสัยใจคอที่ดี เลยส่งให้กับองค์หญิงใหญ่ นางทำอะไรผิดไป ทำไมองค์หญิงใหญ่ถึงทำเช่นนี้กับนางเล่า?"

"นางผิดที่โดนเจ้าเห็นเข้า"

"นี่…" ชายารองจินทำท่าไร้เดียงสา "ข้าไม่ได้คิดว่าเรื่องจะเป็นแบบนี้ ข้าก็หวังดีกับนาง โดยคิดว่าจวนโหวกู้ก็เป็นตระกูลใหญ่ ต่อให้นางเป็นแค่อนุภรรยา ก็ยังดีกว่าแต่งงานกับสามัญชนข้างนอก"

ซ่งซีซีพูดอย่างเย็นชา "ชายารองจินพูดแบบนี้ คือไม่รู้เหรอว่านางจะอยู่ในจวนองค์หญิง ทำเหมือนไม่เกี่ยวข้องกับตนเองเลย"

ชายารองจินรีบอธิบายว่า "ข้าไม่รู้จริงๆ เพราะฝู้หม่าไม่ได้อาศัยอยู่ในจวนองค์หญิง ข้าคิดว่าในเมื่อฝู้หม่าอาศัยอยู่ในจวนโหวกู้ งั้นอนุภรรยาของเขาก็ต้องอยู่ในจวนโหวกู้ และข้าก็ไม่รู้จริงๆ ว่าทำไมองค์หญิงใหญ่ถึงทำกับนางเช่นนี้"

โดยปกติแล้ว นางเสิ่นจะไม่พูดแทนชายารองจิน แต่คราวนี้ซ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 759

    ตระกูลฉีรับข้าราชการมานานมาก และตอนนี้ถือว่าอยู่ในช่วงรุ่งเรือง เจ้ากรมฉีได้รับการยกย่องอย่างสูงในราชวงศ์ของจักรพรรดิองค์ก่อน เขาบอกได้ว่าตนเองสามารถเข้าใจความคิดของจักรพรรดิองค์ก่อนไปหมดแล้ว แต่เขาไม่เข้าใจความคิดของฮ่องเต้ปัจจุบันได้เขาไม่เข้าใจว่าทำไมฮ่องเต้จึงให้ซ่งซีซีเป็นผู้บัญชาการ ตำแหน่งนี้มีความสำคัญมาก หากทางจวนเป่ยหมิงอ๋องมีใจไม่ซื่อ งั้นใช้งานตำแหน่งนี้สามารถทำสิ่งหลายอย่างได้ดังนั้น ตอนที่เขาจัดการประชุมครอบครัว นอกจะให้ทุกคนยับยั้งชั่งใจอย่างเข้มงวด ก็แสดงความไม่พอใจกับซ่งซีซีด้วย"หากปล่อยนางทำเช่นนี้ต่อไป งั้นจะทำให้ตระกูลขุนนางในเมืองหลวงเกิดโกลาหล เกรงว่าจะมีคดีไม่ยุติธรรมเกิดขึ้น ในปกติกลับไม่ได้มองออกว่านางเป็นคนรีบร้อนที่อยากสร้างผลงานแบบนี้ โดยจัดการกับจวนอ๋องเยี่ยนก่อนเพื่อวางอำนาจ งั้นสำหรับตระกูลอื่นๆ นางจะออมมือให้ไหมล่ะ ไร้สาระจริงๆ"ฉีฟางและฉีลิ่วก็อยู่ด้วย หลังจากฟังคำพูดของเจ้ากรมฉี พวกเขาก็อยากจะช่วยพูดแทนซ่งซีซีสักหน่อย แต่ก่อนที่เขาจะอ้าปาก เจ้ากรมฉีก็เหลือบมองอย่างเย็นชา "บ้านสามของพวกเจ้าก็ต้องระมัดระวังด้วย เจ้าหก โดยเฉพาะตอนนี้เจ้าแต่งงานกับอ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 760

    ตอนนี้นางกำลังตั้งครรภ์ และนางจะชอบคิดมากและละเอียดอ่อนในระหว่างตั้งครรภ์ นางมีความสุขเมื่อรู้ว่าจ้านเป่ยว่างได้รับการเลื่อนตำแหน่ง แต่นางก็เศร้ามากจนร้องไห้เมื่อรู้ว่าซ่งซีซีเป็นหัวหน้าของจ้านเป่ยว่างนางพิงแขนของจ้านเป่ยว่าง และสำลัก "ข้าไม่อิจฉานาง แต่นางมีสิทธิ์อะไรมาอยู่เหนือกว่าเจ้า เป็นเจ้าที่พบหลักฐานของการกบฏองค์หญิงใหญ่ หากไม่มีเจ้า เกรงว่าจนถึงขณะนี้ก็จะไม่มีใครค้นพบเจตนากบฏขององค์หญิงใหญ่""ข้าแค่ไม่ยอม เหตุใดเจ้าถึงถูกนางปราบปรามตลอด? ในด้านผลงาน เรื่องงาน เจ้าสู้นางไม่ได้หรือ ทำไมฮ่องเต้จะผู้หญิงคนหนึ่งมาเป็นผู้บัญชาการได้อย่างไร ปล่อยให้ผู้หญิงคนหนึ่งไปดูแลกองทัพซวนเจีย รวมถึงทหารรักษาพระราชวังและองครักษ์รักษาพระองค์ด้วย นี่มันล้อเล่นหรือเปล่า ทำให้พวกผู้ชายต้องเสียหน้าไปหมดแล้ว"จ้านเป่ยว่างรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงสำลักของนางเขานึกถึงมือสังหารที่ต่อสู้กับเขาในคืนนั้น เขารู้ว่าคนนั้นคือใครเพราะงั้นผลงานนี้เป็นเขาที่ทำจริงๆ หรือ ไม่ คือคนนั้นส่งให้เขาคงรู้ว่าองค์หญิงใหญ่กำลังวางแผนกบฏและต้องการเปิดเผยแผนการสมรู้ร่วมคิดขององค์หญิงใหญ่ให้คนอื่นรู้ในช่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 761

    ในฐานะภรรยาไม่มีเหตุผลที่จะตบหน้าสามีของตนเอง อย่าว่าแต่จวนแม่ทัพที่เป็นตระกูลใหญ่ แม้แต่คนธรรมดาก็จะไม่สามารถตบหน้าโดยตรง โกรธมากสุดก็แค่ต่อยที่ร่างกายสักหน่อย เพราะหมัดของผู้หญิงก็มีแรงไม่มากนักการตบหน้าคือการทำลายศักดิ์ศรีความเป็นลูกผู้ชายมีคนรับใช้อยู่ข้างนอกด้วย งั้นจ้านเป่ยว่างยังจะมีเกียรติในจวนแห่งนี้ได้อย่างไร? โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นหัวหน้าองครักษ์รักษาพระองค์ การตบครั้งนี้ทำให้ความสุขที่หลงเหลืออยู่ในใจของจ้านเป่ยว่างหายไปจริงๆหวังชิงหลูกัดริมฝีปากและหลั่งน้ำตา นางรู้ดีว่าตนเองทำมากเกินไป แต่นางก็ไม่สามารถก้มหน้ากล่าวขอโทษให้"ช่างเถอะ เจ้าออกไปได้แล้ว" จ้านเป่ยว่างระงับความโกรธของเขาและไม่ต้องการโต้เถียงกับเขา ความทุกข์ใจจากความขัดแย้งระหว่างสามีภรรยาเขาทนมามากพอแล้ว มันกินพลังงานมากเกินไปหวังชิงหลูรู้สึกผิดเล็กน้อยหลังจากตบหน้าเขา แต่เมื่อได้ยินคำพูดเย็นชาของเขา ก็รู้สึกอึดอัดใจ "ข้ากำลังท้องอยู่ยังมาดูแลเจ้า อยากให้เจ้าพักฟื้นดีๆ จะได้หายไวๆ ไปขอบพระทัยฮ่องเต้เพื่อรับตำแหน่ง แต่ท่าทางของเจ้าทำให้ข้าผิดหวังมาก"จ้านเป่ยว่างหลับตา ไม

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 762

    ฮูหยินผู้เฒ่าป๋อผิงซีไม่ใช่คนไมเธอรู้่รู้ความ นางรู้ดีว่าลูกสาวตนเองมีนิสัยอย่างไร แต่เมื่อเห็นนางกลับมาพลางร้องไห้ในขณะตั้งท้องอย่างนั้นก็อดใจอ่อนลงไม่ได้เพราะช่วงนี้นาง ชไม่ก่อปัญหาใดๆ เลย เรื่องในอดีตก็ถือว่าผ่านไปแล้ว ผู้เป็นแม่จะคิดเล็กคิดน้อยกับลูกตนเองได้อย่างไรดังนั้น หลังจากได้ยินหวังชิงหลูพูดว่าจ้านเป่ยว่างละเลยนาง และนางกลับบ้านพ่อแม่ทั้งๆ ที่ยังตั้งท้องอยู่กลับไม่สนใจใยดี นางเลยส่งคนไปตามหาลูกสะใภ้มา เพื่อให้ช่วยหาทางออกมาจัดการเรื่องระหว่างนางกับสามีนางเมื่อนางจีมาถึง นางหลานจากห้องสองก็นั่งอยู่ในห้องของฮูหยินผู้เฒ่าแล้ว"พี่สะใภ้มาแล้ว!" นางหลานยืนขึ้นและแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก ถ้าพี่สะใภ้ยังไม่มา นางก็ต้องหาทางหลบหนีแล้วนางจีพยักหน้าให้นาง แล้วคารวะต่อฮูหยินผู้เฒ่า "คารวะท่านแม่เจ้าค่ะ""อืม เจ้ามาพอดีเลย" ฮูหยินผู้เฒ่านั่งอยู่บนที่นั่งหลักด้วยสีหน้าจริงจัง ข้างๆ นางคือหวังชิงหลู ซึ่งยังคงร้องไห้อยู่ เนื่องจากหวังชิงหลูกำลังตั้งครรภ์ นางแค่เรียก "พี่สะใภ้" แล้วไม่ได้ยืนขึ้นไหว้นางนางจีนั่งลง เงยหน้าขึ้นมองหวังชิงหลู แล้วถามโดยแสร้งทำเป็นไม่รู้อะไรเลย "คุณหน

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 763

    หลังจากได้ยินดังนั้น ฮูหยินผู้เฒ่าก็โกรธมากจนเกือบหัวใจวาย นางชี้ไปที่หวังชิงหลูพลางตะโกนด้วยความโมโห "มันไร้สาระจริงๆ การเลื่อนตำแหน่งของลูกเขยไม่ใช่เรื่องดีได้อย่างไร? ทำไมเจ้าต้องพูดไม่น่าฟังอย่างนั้น เอาแต่พูดถึงพระชายาเพื่ออะไร เขาจะชอบที่เจ้าพูดแบบนี้ไหม อีกอย่างแม่เคยสอนเจ้าในฐานะภรรยาจะไปตบหน้าสามีเมื่อไรกัน ยังมีหน้ากลับมาร้องห่มร้องไห้อีก ข้ายังว่าอยู่ว่าเขาทะเลาะกับเจ้าเพราะเรื่องที่เจ้าว่าในก่อนหน้านี้ แต่แล้วนี่มันเจ้าเล่นแง่เอาแต่ใจจริงๆ เขาได้รับบาดเจ็บ เจ้าเป็นภรรยาเขาไม่ดูแลเขาอย่างดี กลับตบหน้าเขาเพราะคำพูดไม่กี่คำเอง เจ้านี่หังแข็งไม่เปลี่ยนเลย เจ้าอยากให้ข้าโกรธจนหัววายตายหรือไง"หวังชิงหลูก้มหัวลง แต่ก็ยังรู้สึกน้อยใจมาก นางไม่กล้าอาละวาด แต่แค่พูดสำลัก "ท่านแม่ พี่สะใภ้ หาใช่ว่าข้าอยากทะเลาะกับเขา ข้าตั้งครรภ์คอย่างลากลำบากเช่นนี้ แต่ในใจของเขากลับมีซ่ง...อดีตภรรยา แล้วให้ใครยอมรับกับเรื่องแบบนี้ได้ล่ะ"นางจียังคงเงียบ นางไม่อยากพูดถึงเรื่องพวกนี้ แม่สามีของนางค่อนข้างมีเหตุผล นับจากนี้ไป เรื่องของหวังชิงหลูก็ปล่อยให้ท่านแม่ไปจัดการ นางก็นั่งฟังเฉยๆ ก็พอฮูหยิน

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 764

    ซ่งซีซีไม่รู้ว่าหวังชิงหลูกลับบ้านพ่อแม่ของนางแล้ว นางมาเพราะมีเรื่องจะบอกนางจี เหตุผลที่เลือกมาตอนกลางคืนก็เพราะนางต้องจัดการคดีในตอนกลางวันนอกจากนี้ จวนป๋อผิงซีไม่มีการติดต่อใกล้ชิดกับจวนองค์หญิง ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องไปเยี่ยมเยียนเพื่อซักถาม หากมาในระหว่างวัน งั้นต้องนำกองกำลังเมืองหลวงไปด้วยเหมือนกับการไปจวนอื่นๆ มิฉะนั้นจะถูกมองว่าได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างออกไปเมื่อเห็นซ่งซีซีอย่ในชุดสตรีและไม่ใช่เครื่องแบบข้าราชการ นางจีก็โล่งใจเล็กน้อยและพูดอย่างสุภาพ "คารวะพระชายา คารวะคุณหนูเสิ่น!""คารวะฮูหยิน!" เสิ่นว่านจือชอบนางจีเป็นพิเศษ แม้ว่าวันนี้นางจะเหนื่อยมาก แต่เมื่อได้ยินซีซีจะไปจวนป๋อผิงซี นางก็เลยตามนางมา"เชิญนั่งเร็วๆ !" นางจีทักทายด้วยรอยยิ้มและสั่งให้คนรับใช้นำน้ำชามาให้หลังจากนั่งลงแล้ว นางจีก็พูดว่า "ถ้าพระชายามีอะไรแค่ส่งคนมาบอกข้าจะไปหาเองเลย ทำไมต้องให้พระชายามาด้วยตนเองเล่า""ฮูหยินไม่จำเป็นต้องเกรงใจเช่นนั้น ที่ข้ามาวันนี้เพื่อบอกเจ้าสักสองสามคำ" ซ่งซีซีเหลือบมองผู้คนที่รออยู่ห้องโถงหลัก "ให้พวกเขาออกไปได้ไหม"นางจีขยิบตาให้จินซิ่ว จินซิ่วพูดทันที "ทุกคนออ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 765

    นางจีจับที่วางแขนของเก้าอี้แล้วขมวดคิ้วเล็กน้อยสีหน้าของนางก็ดูซับซ้อนเช่นกันภรรยาย่อมรู้จักสามีตนเองเป็นอย่างดีเมื่อเขาไปเฝ้าเขตหนานเจียง เขาได้นำอนุภรรยาสองคนไปด้วย แต่เมื่อไปถึงที่นั่น เขาก็รับผู้หญิงเพิ่มอีกสองคน แม้ว่ายังไม่แต่งตั้งตำแหน่งให้ แต่เนื่องจากได้รับมแล้ว ฐานะอนุก็ต้องแต่งตั้งให้ในไม่ช้าก็เร็วนางเข้มงวดมากในการบริหารครอบครัว และอนุภรรยาในจวนต่างก็เชื่อฟังและนับถือนาง เพราะงั้นจวนป๋อผิงซีจึงไม่เคยมีเรื่องอื้อฉาวเรื่องอนุภรรยาที่ก่อปัญหานางเกือบจะรับประกันได้ว่าหากกู้ชิงหวู่เข้าใกล้เขาได้ นางไม่จำเป็นต้องไปเอาใจเขา แค่แสดงใบหน้าของหญิงงามเมืองนั้นก็มากพอที่จะทำให้เขาตกหลุมรักเสิ่นว่านจือมองดูสีหน้าของนางจี และดูท่านางรู้ว่าหวังเบียวไม่สามารถต้านทานความงามของกู้ชิงหวู่ได้เสิ่นว่านจือคิดว่ามันค่อนข้างน่าเศร้า นางจีเป็นคนเยี่ยมมาก แต่นางไม่ได้พบกับผู้ชายดีๆ เลย แม้ว่าหวังเบียวจะเป็นผู้บัญชาการที่เฝ้าเขตหนานเจียง แต่เขาก็ไม่คู่ควรกับนางนางทำงานอย่างหนักเพื่อจัดการทั้งเรื่องภายในและภายนอกจวนในเมืองหลวง รับใช้แม่สามี แก้ปัญหาให้น้องสามี และต่อต้านผู้คนและสิ่งของ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 766

    จินซิ่วก้าวไปข้างหน้าทันทีเพื่อพยุงนางพร้อมกับหงเอ๋อร์ และพูดว่า "หมอบอกว่าคุณหนูไม่ควรเคลื่อนไหวมากเกินไป รีบกลับไปพักผ่อนเถอะ แค่ให้ฮูหยินไปส่งพระชายาก็พอ ท่านไม่ต้องไปส่งด้วย"คำว่า "พระชายา" ทำให้หวังชิงหลูกลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง นางตระหนักว่าตนเองหุนหันพลันแล่นไป ถ้าพี่สะใภ้ต้องการพูดถึงเรื่องของนางจะให้ซ่งซีซีมาถึงที่ได้อย่างไร เกรงว่ามาเพราะการกบฏขององค์หญิงใหญ่นางรู้สึกอึดอัดใจมากและวุานวายใจ จากนั้นไหว้ให้กับซ่งซีซีอย่างขอไปที่ก่อนจะจากไปซ่งซีซีและเสิ่นว่านจือมองหน้ากัน นางเป็นบ้าอะไรอีก?ขณะที่นางจีส่งพวกนางออกไป เสิ่นว่านจือก็ถามว่า "นี่ก็ดึกแล้วทำไมคุณหนูของพวกเจ้ายังอยู่นี่ล่ะ กลับมาพักที่บ้านพ่อแม่เหรอ ทะเลาะกับสามีงั้นเหรอ"ไม่ใช่ว่าเสิ่นว่านจืออยากรู้อยากเห็น เป็นเพราะหวังชิงหลูชอบหาเรื่องจริงๆ เมื่อกี้จู่ๆ ก็พูดอย่างก้าวร้าว บอกว่าเรื่องกับจ้านเป่ยว่าง เห็นๆ อยู่ว่าต้องเกี่ยวข้องกับซีซี นางเลยถามอย่างนั้นนางจีรู้ดีว่าไม่ควรเปิดเผยความอัปลักษณ์ของครอบครัวต่อสาธารณะ แต่พวกนางทุกคนรู้ถึงธาตุแท้ของหวังชิงหลู ดังนั้นจึงอาจพูดตรงๆ ว่า "ต้องมาขายหน้าต่อพระชายาและคุณห

Bab terbaru

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1520

    ครรภ์ของฝูเจาอี๋ เดิมทีก็มั่นคงดี หมอหลวงเองก็กล่าวว่าไม่มีปัญหาใหญ่อันใด แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด พอเข้าสู่เดือนเหมันต์ ครรภ์นี้กลับเริ่มไม่มั่นคง อีกทั้งยังมีเลือดออกถึงสองครั้งหมอหลวงจินทุ่มเทสรรพวิธีเพื่อรักษาครรภ์ของนางไว้ ทำให้พอประคองสถานการณ์ได้ แต่นางก็ต้องนอนพักอยู่บนเตียง ยังไม่อาจลุกเดินไปไหนได้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด หมอหลวงย่อมให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ตรวจสอบทั้งอาหารการกินและข้าวของที่ใช้ในวังอย่างละเอียด ทว่ากลับไม่พบความผิดปกติใดๆ จึงคาดว่าน่าจะเป็นผลมาจากการที่ฝ่าบาทเสวยโอสถมาเป็นเวลานาน จึงทำให้ครรภ์นี้ไม่มั่นคงจักรพรรดิ์ซูชิงทรงเป็นกังวลอย่างยิ่งกับครรภ์นี้ นับตั้งแต่นางต้องนอนพักรักษาครรภ์ ฝ่าบาทก็ทรงเสด็จมาเยี่ยมเกือบวันเว้นวัน บางคราก็ทรงประทับร่วมเสวยพระกระยาหารเมื่อเอาใจใส่สิ่งหนึ่ง ก็ย่อมละเลยอีกสิ่งหนึ่งไป ทำให้ช่วงนี้ฝ่าบาทแทบไม่ได้เสด็จไปยังตำหนักของซูเฟย อีกทั้งยังมิได้ทรงเรียกองค์ชายสามเข้าพบที่ห้องพระอักษรเลยส่วนเต๋อเฟยนั้น เนื่องจากต้องดูแลกิจการในวังหลัง เมื่อพอมีเวลาว่างก็มักจะพาองค์ชายรองมาเยี่ยมฝูเจาอี๋ด้วย ดังนั้นจึงได้มีโอกา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1519

    ในวังหลัง เดิมทีมีผู้คาดเดาเกี่ยวกับพระอาการของฝ่าบาทไม่น้อย แม้ยามนี้ฝูเจาอี๋จะตั้งครรภ์ ทว่าหมอมหัศจรรย์กลับพำนักอยู่ในวัง เป็นหลักฐานว่าพระวรกายของฝ่าบาทหาใช่เพียงต้องบำรุงรักษาเพียงเล็กน้อยเท่านั้นดังนั้น การที่ฝ่าบาทโปรดปรานเช่นนี้ ทำให้บางคนเริ่มอยู่นิ่งไม่ได้โดยเฉพาะฮองเฮา นางรับรู้เรื่องพระอาการของฝ่าบาทอยู่บ้าง ตอนนี้หมอมหัศจรรย์กลับเข้าวังเพื่อถวายการรักษา ผลลัพธ์จะเป็นเช่นไรนางไม่อาจคาดเดา เพียงแต่รู้สึกว่าฝ่าบาทอาจอยู่ในช่วงที่พละกำลังถดถอยเต็มที่แล้วครรภ์ของฝูเจาอี๋ นางไม่ได้ใส่ใจ ไม่ว่าบุตรในครรภ์จะเป็นชายหรือหญิงก็ยังไม่อาจทราบได้ ต่อให้เป็นองค์ชาย ก็ยังไม่ถึงคราวของเขาแต่การที่ฝ่าบาททรงเอ็นดูองค์ชายสามถึงเพียงนี้ กลับทำให้นางรู้สึกถึงภัยคุกคามเดิมทีฝ่าบาทให้ทางเลือกแก่นาง นางเลือกตำแหน่งฮองเฮา เลือกมีชีวิตรอด ทว่าหลังจากนิ่งเฉยมาพักหนึ่ง นางก็เข้าใจว่าฝ่าบาทจะไม่ทรงละทิ้งองค์ชายใหญ่ได้รวดเร็วเพียงนั้น ยิ่งตอนนี้องค์ชายใหญ่ขยันขันแข็งศึกษาหาความรู้ แม้แต่ไท่ฝู่และเสด็จอายังเอ่ยปากชม นางยังสืบมาว่าฝ่าบาททรงพอพระทัยองค์ชายใหญ่อยู่ไม่น้อยองค์ชายรองและองค์ชายสามล

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1518

    จักรพรรดิ์ซูชิงทรงประชุมหารือกับขุนนางในห้องทรงอักษรยาวนานจนถึงดึกดื่น สุดท้ายเป็นหมอมหัศจรรย์ดันที่ต้องเข้าไปขัดจังหวะ แจ้งว่าดึกมากแล้ว พระองค์ถึงกับเหยียดพระกรพลางแย้มพระสรวล “ถึงกับดึกเพียงนี้แล้วรึ? เช่นนั้นก็เลิกประชุมเถิด ประตูวังใกล้จะปิดแล้ว”แม้จะเป็นช่วงเวลาดึกมากแล้ว แต่พระองค์กลับยังดูสดชื่น โดยเฉพาะบนพระพักตร์ที่มีเลือดฝาดขึ้น ดูอย่างไรก็ไม่เหมือนผู้ที่ประชวรเลยซ่งซีซีรอให้เซี่ยหลูโม่ประชุมเสร็จ ก่อนจะออกจากวังกลับจวนพร้อมกันนางอ่อนล้ามาก พิงไหล่ของเซี่ยหลูโม่แล้วเผลอหลับไปอย่างไม่รู้ตัวเมื่อรถม้ามาถึงหน้าจวน เซี่ยหลูโม่อุ้มนางขึ้นมา ซ่งซีซีรับรู้ได้รางๆ แต่ก็ขี้เกียจจะตื่น เลยปล่อยให้เขาอุ้มเข้าไป อ้อมแขนอบอุ่นแข็งแกร่งช่างสบายเหลือเกินตลอดสามเดือนที่ผ่านมา นอกจากตอนอยู่ที่ด่านเฉิงหลิง นางแทบไม่มีคืนไหนที่สามารถนอนหลับได้อย่างสนิทใจ แต่เมื่อกลับถึงจวน ก็รู้สึกผ่อนคลายลงอย่างสมบูรณ์ ดำดิ่งสู่ห้วงนิทราลึกทว่า…นอนหลับไปก็ยังรู้สึกว่ามีมือร้อนจัดคู่หนึ่งลูบไล้ไปทั่วร่างนางยังคงหลับตา เอ่ยขึ้นด้วยเสียงแหบพร่า “ลืมที่ท่านลุงดันบอกไปแล้วหรือ?”เสียงร้อนผ่าวกระซิบข

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1517

    วันที่ 15 เดือนสิบ คณะทูตจึงเดินทางกลับมาถึงเมืองหลวงในที่สุดกองทัพซวนเจียได้รับคำสั่งให้แยกย้ายไปพักก่อน ขณะที่หลี่เต๋อฮวยและขุนนางจากสำนักหงหลู่ต้องเข้าเฝ้าพระองค์เพื่อถวายรายงาน ส่วนฉินอ๋องที่ตลอดทางอ่อนแอราวกับช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ตอนนี้กลับกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที กล่าวว่าจะเข้าเฝ้าพร้อมกับพวกเขาด้วยส่วนซ่งซีซีนั้น ถูกเซี่ยหลูโม่ที่เฝ้ารออยู่ที่ประตูเมืองรับตัวกลับจวนไปก่อนแล้วช่วงเวลาที่ผ่านมา เขาสั่งให้คนคอยเฝ้ารอที่ประตูเมืองทุกวัน บางครั้งตอนพักกลางวันก็ยังมารอด้วยตนเอง และวันนี้ก็บังเอิญได้พบกันจริงๆขณะที่หลี่เต๋อฮวยและคนอื่นๆเข้าเฝ้าในวัง ซ่งซีซีก็ได้เข้าไปคารวะฮุ่ยไท่เฟยก่อนแล้วเมื่อฮุ่ยไท่เฟยรู้ว่านางเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง ก็ให้รีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าซ่งซีซีและเซี่ยหลูโม่ถวายคำนับก่อนออกไป และกลับไปยังเรือนเหมยฮวาหลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ริมฝีปากของนางกลับดูบวมขึ้นเล็กน้อย รุ่ยจูที่เห็นถึงกับตกตะลึงไปชั่วขณะ ก่อนจะเหลือบมองไปทางท่านอ๋อง พระชายาเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ท่านอ๋องยืนกรานจะปรนนิบัติด้วยตัวเอง แต่ดูเหมือนจะปรนนิบัติได้ไม่ดีเท่าไรน

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1516

    เมื่อได้พักฟื้นอยู่ห้าวันที่ด่านเฉิงหลิง ฉินอ๋องก็ฟื้นตัวขึ้นมาบ้างแล้วเมื่อฉินอ๋องหายดี ก็ถึงเวลาต้องออกเดินทางกลับเมืองหลวงแม้จะอาลัยเพียงใด ซ่งซีซีก็ทำได้เพียงกลั้นน้ำตากล่าวคำอำลา นางคุกเข่าคารวะต่อหน้าแม่ทัพใหญ่เซียวอยู่หลายครั้ง จนแทบจะทำให้ท่านน้ำตาคลอหลี่เต๋อฮวยเป็นผู้ที่เคารพนับถือแม่ทัพใหญ่เซียวที่สุด เมื่อซ่งซีซีเพียงแค่น้ำตาคลอ แต่เขากลับปิดหน้าและร้องไห้ออกมาเต็มที่ เพราะเขารู้ว่า บางทีตลอดชีวิตนี้ อาจไม่มีโอกาสได้พบกับท่านแม่ทัพผู้เฝ้ารักษาด่านเฉิงหลิงมาเป็นสิบๆ ปีอีกแล้วแม่ทัพใหญ่เซียวเข้าสู่วัยชราโดยสมบูรณ์ เมื่อมองดูอีกครั้งก็ดูแก่ชรากว่าครั้งก่อนอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าฮ่องเต้จะพระราชทานอนุญาตให้ท่านกลับเมืองหลวงได้ แต่ด้วยความเหนื่อยล้าจากการเดินทางอันยากลำบาก ทายาทตระกูลเซียวก็คงไม่ยอมให้ท่านเดินทางกลับอีกแล้วแม่ทัพใหญ่เซียวสนทนากับหลี่เต๋อฮวยอยู่ครู่หนึ่ง ทว่าแทนที่จะบรรเทาความรู้สึกของเขา กลับทำให้เขาร้องไห้หนักกว่าเดิมเสียอีกด้านนางหนานผู้เป็นป้าใหญ่ ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่เคยถามถึงเรื่องของ พระชายาอ๋องฮวยเลย จนกระทั่งถึงเวลาต้องอำลากัน นางจึงดึงซ่งซีซีไปค

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1515

    การเดินทางกลับเริ่มขึ้นในช่วงต้นเดือนเก้าอากาศไม่ร้อนจัดอีกต่อไป เริ่มมีความเย็นสบายแผ่วเบาซูลันจีนำทัพออกมาส่งด้วยตัวเอง พาพวกเขาไปจนถึงเมืองลู่เปินเอ่อร์ตลอดเส้นทางขากลับ ไม่มีการลอบสังหารเกิดขึ้น ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นเมื่อข้ามภูเขาสลับซับซ้อนมาได้ ก็เข้าสู่เขตแดนของแคว้นซางเดิมทีพวกเขาไม่ได้แจ้งแม่ทัพใหญ่เซียวล่วงหน้า คิดว่าคงไม่มีใครมารับ แต่ทันทีที่เข้าสู่ชายแดนแคว้นซาง ก็พบว่าจ้านเป่ยว่างนำทัพเซียวเจียจวินรออยู่ที่นั่นเมื่อเห็นว่าพวกเขากลับมาโดยปลอดภัย จ้านเป่ยว่างก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกอย่างเห็นได้ชัด เขากระตุ้นม้าเข้ามาใกล้ ก่อนลงจากหลังม้าแล้วทำความเคารพฉินอ๋อง หลี่เต๋อฮวยและขุนนางท่านอื่นๆ “ท่านอ๋อง เสนาบดีหลี่ ท่านขุนนางทั้งหลาย แม่ทัพใหญ่เซียวสั่งให้ข้านำทัพมาคอยเฝ้ารอที่นี่ทุกวัน เพื่อคุ้มกันพวกท่านกลับไปยังเฉิงหลิงกวน”หลี่เต๋อฮวยเอ่ยถามด้วยความสงสัย “แม่ทัพใหญ่รู้ได้อย่างไรว่าพวกเราจะกลับมาวันนี้?”จ้านเป่ยว่างตอบว่า “แม่ทัพใหญ่ไม่ทราบ เพียงแต่สั่งให้ข้าและกองทัพมาเฝ้าอยู่ที่นี่ทุกวัน”“ที่แท้เป็นเช่นนี้” หลี่เต๋อฮวยรู้สึกว่าแม่ทัพใหญ่เซียวเป็นคนรอบคอบย

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1514

    อันเฟิงชินอ๋องกล่าวว่า “การเดินทางครั้งนี้ มิใช่เพียงเพื่อซีจิงและแคว้นซาง แต่ก็เพื่อเป่ยถังของเราด้วย มิจำเป็นต้องกล่าวขอบคุณ ระหว่างแคว้นต่อแคว้น สิ่งที่มาก่อนคือผลประโยชน์ มีเพียงความสัมพันธ์ส่วนตัวเท่านั้น ที่จะสามารถปฏิบัติต่อกันด้วยใจจริง”ซ่งซีซีรับคำสอน แต่ก็นึกสงสัย จึงเอ่ยถามว่า “ท่านเคยรู้จักอาจารย์เหรินหยางอวิ๋นของข้าหรือไม่?”อันเฟิงชินอ๋องหัวเราะเบาๆ “รู้จัก เขาเคยมาเยือนเป่ยถัง และเคยพำนักอยู่ที่ไจ้ซิงโหลวอยู่ช่วงหนึ่ง แม่ทัพองครักษ์เงาของข้า ‘เฮยอิ่ง’ สนิทสนมกับอาจารย์ของเจ้ามาก พวกเขามักดื่มสุราด้วยกันเป็นประจำ”“เช่นนี้เองหรือ” ซ่งซีซีนึกถึงบรรดาผู้สวมชุดดำพวกนั้น ไม่รู้ว่าคนไหนคือเฮยอิ่ง หากไม่ได้พบหน้าสักครั้ง คงเป็นเรื่องน่าเสียดายอันเฟิงชินอ๋องคล้ายจะมองออกถึงความคิดของนาง ยิ้มพลางกล่าวว่า “อีกสามปี หรืออาจห้าปี พวกเราจะไปเยือนแคว้นซาง ถึงตอนนั้น ข้าจะแนะนำให้เจ้ารู้จักกับเฮยอิ่ง”ซ่งซีซีกำลังจะกล่าวขอบคุณ ทว่าเสิ่นว่านจือก็ถามขึ้นก่อน “เหตุใดต้องเป็นสามปีหรือห้าปี? ไปเร็วกว่านี้ไม่ได้หรือ? พวกเราตั้งตารอให้ท่านกับพระชายามาเยือน”อันเฟิงชินอ๋องเพียงยิ้ม แต่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1513

    หลังจากเดินสำรวจอยู่สองวัน ซูลันจีก็กล่าวกับซ่งซีซีว่า “แคว้นของท่านมีหมอเทวดาผู้หนึ่ง นามว่าหมอมหัศจรรย์ดัน เขาได้คิดค้นยาชนิดหนึ่งชื่อว่ายาดันเสวี่ย ซึ่งมีสมุนไพรสำคัญชนิดหนึ่งเป็นส่วนประกอบ นั่นคือเสวี่ยเหอฮวา ทว่าแคว้นของท่านผลิตได้น้อยมาก หนานเจียงเองก็มี แต่เติบโตอยู่บนยอดเขาหิมะ เก็บเกี่ยวได้ยากยิ่ง และมีปริมาณน้อย แต่ในซีจิงของเรา เสวี่ยเหอฮวามิใช่ของหายาก บนภูเขาสูงสามารถพบเห็นได้ทั่วไป หมอมหัศจรรย์ดันที่ใช้สมุนไพรชนิดนี้ ต้องลักลอบซื้อจากพ่อค้ายาในซีจิง ราคาจึงแพงมาก ด้วยต้นทุนขนาดนี้ ขายยาดันเสวี่ยไปหนึ่งเม็ด เขาก็ขาดทุนหนึ่งเม็ด”ซ่งซีซีทราบดีว่ายาดันเสวี่ยเป็นยาที่หายาก เนื่องจากมีสมุนไพรบางชนิดที่หาไม่ครบ แต่ท่านลุงดันก็ไม่เคยบอกอย่างชัดเจนว่าสมุนไพรตัวใดที่ขาดอย่างไรก็ตาม หากเขาต้องซื้อยาจากพ่อค้าชาวซีจิง ก็สามารถเข้าใจได้ว่าทำไมเขาถึงต้องปิดเป็นความลับ เพราะก่อนหน้านี้ ซีจิงและแคว้นซางมิได้มีการค้าขายกันโดยตรง โดยเฉพาะสมุนไพร ยิ่งต้องระมัดระวังเป็นพิเศษซูลันจีและจักรพรรดินีหยวนซินต่างคิดไปในทิศทางเดียวกัน พวกเขาสืบเรื่องนี้อย่างละเอียดขนาดนี้ นั่นหมายความว่าพวกเขาต

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1512

    ตำแหน่งที่เขานั่ง แสดงถึงจุดยืนของเป่ยถังในการเจรจาครั้งนี้!เป็นกลาง!ซ่งซีซีอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอีกครั้งว่า การที่แคว้นเข้มแข็งนั้นดีเพียงใดการเจรจาในช่วงแรกเป็นเรื่องที่น่าเบื่อ คำพูดซ้ำไปซ้ำมา ถูกเน้นย้ำไม่รู้จบ ล่ามของทั้งสองฝ่ายทำหน้าที่แปล โดยส่วนใหญ่เป็นการกล่าวถึงปัญหาทางประวัติศาสตร์นี่เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ หากเริ่มต้นด้วยการยอมถอยแต่แรก ก็จะต้องถอยไปเรื่อยๆดังนั้น การเจรจาครั้งแรกจึงไม่ได้ข้อสรุปใดๆ เป็นเพียงการลองเชิงขีดจำกัดของกันและกันในวันรุ่งขึ้น การเจรจาครั้งที่สองเริ่มต้นขึ้น ตอนแรกก็ยังคงเน้นย้ำเรื่องเดิมสองรอบ จนกระทั่งอันเฟิงชินอ๋องเอ่ยขึ้นว่า “ถ่วงเวลาเช่นนี้ไม่มีความหมาย สองแคว้นของพวกเจ้าโต้เถียงกันเรื่องพรมแดนมาหลายสิบปีแล้ว นี่ไม่ใช่ปัญหาที่จะสามารถแก้ไขได้ในวันเดียว เราพักเรื่องพรมแดนไว้ก่อน ข้าอยากรู้ว่าพวกเจ้ามีความตั้งใจจะทำสัญญาสันติระหว่างสองแคว้นหรือไม่ และจะไม่ละเมิดต่อกัน?”ทุกคนล้วนให้คำตอบที่แน่ชัด ต่างกล่าวว่าตนมาโดยมีความหวังที่ดี อยากให้สองแคว้นยุติความขัดแย้งอันเฟิงชินอ๋องหยิบแผ่นรายการออกมาแผ่นหนึ่ง บนกระดาษระบุรายการสินค้าของ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status