ซ่งซีซีไม่รู้ว่าหวังชิงหลูกลับบ้านพ่อแม่ของนางแล้ว นางมาเพราะมีเรื่องจะบอกนางจี เหตุผลที่เลือกมาตอนกลางคืนก็เพราะนางต้องจัดการคดีในตอนกลางวันนอกจากนี้ จวนป๋อผิงซีไม่มีการติดต่อใกล้ชิดกับจวนองค์หญิง ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องไปเยี่ยมเยียนเพื่อซักถาม หากมาในระหว่างวัน งั้นต้องนำกองกำลังเมืองหลวงไปด้วยเหมือนกับการไปจวนอื่นๆ มิฉะนั้นจะถูกมองว่าได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างออกไปเมื่อเห็นซ่งซีซีอย่ในชุดสตรีและไม่ใช่เครื่องแบบข้าราชการ นางจีก็โล่งใจเล็กน้อยและพูดอย่างสุภาพ "คารวะพระชายา คารวะคุณหนูเสิ่น!""คารวะฮูหยิน!" เสิ่นว่านจือชอบนางจีเป็นพิเศษ แม้ว่าวันนี้นางจะเหนื่อยมาก แต่เมื่อได้ยินซีซีจะไปจวนป๋อผิงซี นางก็เลยตามนางมา"เชิญนั่งเร็วๆ !" นางจีทักทายด้วยรอยยิ้มและสั่งให้คนรับใช้นำน้ำชามาให้หลังจากนั่งลงแล้ว นางจีก็พูดว่า "ถ้าพระชายามีอะไรแค่ส่งคนมาบอกข้าจะไปหาเองเลย ทำไมต้องให้พระชายามาด้วยตนเองเล่า""ฮูหยินไม่จำเป็นต้องเกรงใจเช่นนั้น ที่ข้ามาวันนี้เพื่อบอกเจ้าสักสองสามคำ" ซ่งซีซีเหลือบมองผู้คนที่รออยู่ห้องโถงหลัก "ให้พวกเขาออกไปได้ไหม"นางจีขยิบตาให้จินซิ่ว จินซิ่วพูดทันที "ทุกคนออ
นางจีจับที่วางแขนของเก้าอี้แล้วขมวดคิ้วเล็กน้อยสีหน้าของนางก็ดูซับซ้อนเช่นกันภรรยาย่อมรู้จักสามีตนเองเป็นอย่างดีเมื่อเขาไปเฝ้าเขตหนานเจียง เขาได้นำอนุภรรยาสองคนไปด้วย แต่เมื่อไปถึงที่นั่น เขาก็รับผู้หญิงเพิ่มอีกสองคน แม้ว่ายังไม่แต่งตั้งตำแหน่งให้ แต่เนื่องจากได้รับมแล้ว ฐานะอนุก็ต้องแต่งตั้งให้ในไม่ช้าก็เร็วนางเข้มงวดมากในการบริหารครอบครัว และอนุภรรยาในจวนต่างก็เชื่อฟังและนับถือนาง เพราะงั้นจวนป๋อผิงซีจึงไม่เคยมีเรื่องอื้อฉาวเรื่องอนุภรรยาที่ก่อปัญหานางเกือบจะรับประกันได้ว่าหากกู้ชิงหวู่เข้าใกล้เขาได้ นางไม่จำเป็นต้องไปเอาใจเขา แค่แสดงใบหน้าของหญิงงามเมืองนั้นก็มากพอที่จะทำให้เขาตกหลุมรักเสิ่นว่านจือมองดูสีหน้าของนางจี และดูท่านางรู้ว่าหวังเบียวไม่สามารถต้านทานความงามของกู้ชิงหวู่ได้เสิ่นว่านจือคิดว่ามันค่อนข้างน่าเศร้า นางจีเป็นคนเยี่ยมมาก แต่นางไม่ได้พบกับผู้ชายดีๆ เลย แม้ว่าหวังเบียวจะเป็นผู้บัญชาการที่เฝ้าเขตหนานเจียง แต่เขาก็ไม่คู่ควรกับนางนางทำงานอย่างหนักเพื่อจัดการทั้งเรื่องภายในและภายนอกจวนในเมืองหลวง รับใช้แม่สามี แก้ปัญหาให้น้องสามี และต่อต้านผู้คนและสิ่งของ
จินซิ่วก้าวไปข้างหน้าทันทีเพื่อพยุงนางพร้อมกับหงเอ๋อร์ และพูดว่า "หมอบอกว่าคุณหนูไม่ควรเคลื่อนไหวมากเกินไป รีบกลับไปพักผ่อนเถอะ แค่ให้ฮูหยินไปส่งพระชายาก็พอ ท่านไม่ต้องไปส่งด้วย"คำว่า "พระชายา" ทำให้หวังชิงหลูกลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง นางตระหนักว่าตนเองหุนหันพลันแล่นไป ถ้าพี่สะใภ้ต้องการพูดถึงเรื่องของนางจะให้ซ่งซีซีมาถึงที่ได้อย่างไร เกรงว่ามาเพราะการกบฏขององค์หญิงใหญ่นางรู้สึกอึดอัดใจมากและวุานวายใจ จากนั้นไหว้ให้กับซ่งซีซีอย่างขอไปที่ก่อนจะจากไปซ่งซีซีและเสิ่นว่านจือมองหน้ากัน นางเป็นบ้าอะไรอีก?ขณะที่นางจีส่งพวกนางออกไป เสิ่นว่านจือก็ถามว่า "นี่ก็ดึกแล้วทำไมคุณหนูของพวกเจ้ายังอยู่นี่ล่ะ กลับมาพักที่บ้านพ่อแม่เหรอ ทะเลาะกับสามีงั้นเหรอ"ไม่ใช่ว่าเสิ่นว่านจืออยากรู้อยากเห็น เป็นเพราะหวังชิงหลูชอบหาเรื่องจริงๆ เมื่อกี้จู่ๆ ก็พูดอย่างก้าวร้าว บอกว่าเรื่องกับจ้านเป่ยว่าง เห็นๆ อยู่ว่าต้องเกี่ยวข้องกับซีซี นางเลยถามอย่างนั้นนางจีรู้ดีว่าไม่ควรเปิดเผยความอัปลักษณ์ของครอบครัวต่อสาธารณะ แต่พวกนางทุกคนรู้ถึงธาตุแท้ของหวังชิงหลู ดังนั้นจึงอาจพูดตรงๆ ว่า "ต้องมาขายหน้าต่อพระชายาและคุณห
หลายวันต่อมา ผู้คนในจวนองค์หญิงใหญ่ต่างก็ได้รับการสอบสวนแล้ว เซี่ยหลูโม่คิดว่าถึงเวลาที่จะสอบปากคำเซี่ยอวี้นแล้ววันนี้ ซ่งซีซีไปที่จวนโหวผิงหยางเพื่อตามหาท่านหญิงเจียอี้ ส่วนเซี่ยหลูโม่สอบปากคำเซี่ยอวี้น และทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกันหลังจากถูกขังอยู่ในคุกใต้ดินเป็นเวลาห้าหกวัน แรกๆ เซี่ยอวี้นยังคงแสร้งทำเป็นบ้า แต่หลังจากตระหนักว่าแผนไม่ได้ผล นาง ก็หยุดเอะอะและดูเหมือนจะยอมรับชะตากรรมของตนเองอย่างใจเย็นอย่างน้อยมองจากภายนอกคือเป็นเช่นนั้นในห้องสอบสวน อาหลานสองคนนั่งหันหลังให้กันเซี่ยอวี้นยังคงสวมชุดธรรมดาในคืนเทศกาลหันอี้ แค่อยู่ในคุกใต้ดินเพียงไม่กี่วันเท่านั้น เสื้อผ้าก็มีรอยยับ และทรงผมก็หลวม ท่าทางของนางดูไร้ชีวิตชีวา ใต้ตาลึกคล้ำและทรุดตัวลง เมื่อมองดูรูปร่างของนาง ไม่กี่วันมานนี้นางผอมลงมาก ทำให้ผิวหน้าดูหย่อนคล้อย ทำเอานางดูแก่กว่าห้าปีในชั่วพริบตาจู่ๆ นางก็ผอมลงในวัยกลางคน และทำให้ก็ดูใจร้ายมาก โดยเฉพาะนิสัยของนางร้ายกาจอยู่แล้ว ตอนนี้ก็ใจตรงกับหน้าตาแล้วเซี่ยหลูโม่พูดก่อนว่า "ที่ผ่านมา เจ้าขังพวกอนุภรรยาเหล่านั้นไว้ในคุกใต้ดิน แต่ตอนนี้เจ้าก็มีโอกาสพักอยู่ในคุกด้วย
เซี่ยอวี้นเอียงหัว หยุดหัวเราะ และพูดอย่างจริงจัง "ก็อาจารย์หยู ในจวนของเจ้าทำหน้าที่ติดต่อกับข้ามาโดยตลอดไง เจ้าลืมไปแล้วเหรอ? เจ้าบอกว่าเจ้าไม่สามารถแสดงตนได้ ไม่งั้นเดี๋ยวโดนคนอื่นมาจับจุดอ่อนได้ ดังนั้นครั้งแรกที่เจ้าบอกข้าว่าเจ้าต้องการก่อกบฏ เรื่องทั้งหมดก็มอบให้อาจารย์หยูมารับผิดชอบ เจ้าไปนำตัวอาจารย์หยูมาสอบสวน ให้ใช้วิธีทรมานสุดๆ เลย เช่นนี้ก็รู้ความจริงแล้วนี่ ใช่แล้ว หลังจากเจ้ากลับมาจากสนามรบ และคนที่รับผิดชอบติดต่อข้านอกจากอาจารย์หยูแล้ว ยังมีซ่งซีซี อาวุธเหล่านั้นก็เป็นนางที่ให้นักรบจากแวดวงการต่อสู้ให้ส่งมามิใช่หรือ จับตัวนาง สอบสวนให้ดีๆ นางก็จะยอมรับแน่ๆ"นางพูดพลางยิ้มกว้าง "แต่ถ้าเจ้าไม่สอบสวนพวกเขาอย่างหนักหน่วงด้วยวิธีรุนแรง งั้นเจ้าก็ทำกับข้าไม่ได้เช่นกัน นั่นเป็นการปฏิบัติที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ ข้าชี้แจงว่าเจ้าคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ เจ้าไม่สามารถรับผิดชอบต่อคดีนี้ได้ เปลี่ยนคนมาทำเถอะ"เซี่ยหลูโม่กล่าวว่า "เจ้าไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ หลังจากที่ฝ่าบาทอ่านคำสารภาพของเจ้าแล้วพระองค์จะตัดสินเอง หากพระองค์คิดว่าจำเป็นต้องเปลี่ยนคน งั้นคนที่มาสอบสวน
เซี่ยหลูโม่ยิ้มให้นางโดยเผยให้เห็นฟันขาวสองแถว "การสอบสวนของข้าพอแค่นี้""แค่นี้เหรอ?" เซี่ยอวี้นยิ้มเยาะ "จะไม่ถามต่อเหรอ? มาต่อสิ"เซี่ยหลูโม่กล่าวว่า "วางใจได้เลย ข้าไม่สอบสวน เดี๋ยวมีคนอื่นมาสอบสวนแทน เจ้าเตรียมใจไว้เลย คืนนี้อาจจะอดนอน"เซี่ยอวี้นจ้องมองเขาอย่างดุเดือด "เจ้าคิดว่าข้าจะกลัวงั้นหรือ? ไม่ว่าใครมาถามก็มีคำตอบเดียว เซี่ยหลูโม่ อย่าคิดว่าข้าไม่รู้เจ้ากำลังคิดอะไร เจ้ามันผู้ก่อกบฏอย่าคิดจะเอาตัวรอด ข้าจะกัดเจ้าไม่ปล่อย มีกลอุบายอะไรก็เอาเลย""ไม่มีกลอุบายอะไร ทุกอย่างได้รับการจัดการตามกฎหมาย" เซี่ยหลูโม่เดินออกไปเซี่ยหลูโม่ออกจากห้องสอบสวน และเฉินยีก็เข้าไปนั่ง"เซี่ยอวี้น ข้าไม่ได้มาเจ้าเกี่ยวกับคดีกบฏ เราพบศพหลายศพและโครงกระดูกทารกหลายสิบโครงจากบ่อน้ำในจวนของเจ้า เราได้สอบปากคำคนรับใช้ในจวนของเจ้าแล้ว พวกเขาทั้งหมดบอกว่าคนเหล่านี้ถูกเจ้าฆ่าตาย เจ้ายอมรับหรือไม่"เซี่ยอวี้นมองเฉินยีด้วยสายตาที่เยือกเย็น และเงียบพลางทำท่าดูถูกเฉินยีเอนหลังและพูดว่า "ไม่เป็น เรามีเวลาเล่นกับเจ้า!"ณ จวนโหวผิงหยาง ท่านหญิงเจียอี้กำลังจ้องมองซ่งซีซีด้วยสายตาอาฆาตโหวผิงหยางก็อยู
ซ่งซีซีผลักท่านหญิงเจียอี้ไปข้างหน้าและปล่อยนางไป แต่ในขณะเดียวกันก็พูดด้วยน้ำเสียงไม่แยแส "ข้าถามอะไรเจ้าก็ตอบไป หากไม่ให้ความร่วมมือ จะไม่มีโอกาสครั้งที่สาม ข้าจะนำเจ้ากลับไปที่หอต้าหลี่โดยตรง แม่ของเจ้าถูกลดระดับเป็นสามัญชนแล้ว ฮ่องเต้ยังคำนึงถึงความสัมพันธ์กับเจ้าไว้ฐานะท่านหญิงให้เจ้า หากเจ้าปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือ งั้นเรื่องที่เจ้าสังหารหวงชุนเหยียนก็จะเข้าหูฮ่องเต้ เป็นถึงท่านหญิงกลับฆ่าชีวิตคน ข้าจะดูว่าใครจะช่วยเจ้าได้อีก"มือซ้ายของท่านหญิงเจียอี้หลุด และความเจ็บปวดทำให้นางหลั่งน้ำตา แม้ว่าในใจของนางจะเกลียดซ่งซีซีเข้ากระดูกดำ แต่นางรู้ดีว่าอีกฝ่ายเป็นคนคำไหนคำนั้น ร้ายกาจมากโหวผิงหยางก้าวไปข้างหน้าเพื่อช่วยนางนั่งลง แล้วพูดอย่างเฉยเมยว่า "ใต้เท้าซ่งทำงานตามคำสั่ง นางถามเจ้าอะไร ตอบคำถามไปก็พอ"เขาไม่ได้สนใจใยดีกับท่านหญิงเจียอี้เลยแม้แต่นิด แต่ถ้านางจะถูกพาตัวไป ก็ต้องให้เขาออกหนังสือหย่าก่อน จะให้นางถูกนำตัวไปสำนักรัฐโดยใช้ในนามฮูหยินโหวผิงหยางไม่ได้เด็ดขาด"ข้าไม่ได้ฆ่านาง!" ท่านหญิงเจียอี้คำรามด้วยความโกรธ "ข้าแค่ให้คนรับใช้ตบนางสักสองสามฉาดเอง นางชนกำแพงตาย"นางย
พ่อบ้านเหรินของโหวผิงหยางยืนอยู่นอกประตู เขาเข้ามาแล้วโค้งคำนับ "หลานฮูหยิน เรื่องนี้จะกังวลไปก็ไรเผล ที่เซี่ยอวี้นก่อกบฏได้รับการยืนยันโดยทั่วไปแล้ว การให้หอต้าหลี่มาสอบสวนคดีนี้เป็นเพียงการขุดค้นคนที่อยู่เบื้องหลัง แม้ว่าจะไม่สามารถตามหาคนๆ นั้นออกมาได้ ทางหอต้าหลี่ก็ต้องทำงานตามขั้นตอน เนื่องจากจวนโหวและจวนองค์หญิงถือเป็นญาติกันจึงแน่นอนว่าต้องมีผลกระทบด้วย วันนี้พระชายาเพียงแต่เรียกท่านโหวและท่านหญิงออกไปเพื่อซักถาม เห็นได้ชัดว่านางไม่ได้คิดจะทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่ ไม่งั้นคงเรียกคนข้างกายของท่านหญิงไปหมดแล้ว"หลานฮูหยินกล่าวว่า "เฮ๊ย ไม่เข้าใจจริงๆ องค์หญิงใหญ่ก็มีฐานะสูงส่งอยู่แล้ว เหตุใดนางจึงอยากก่อกบฏเล่า อีกอย่างพวกอนุภรรยาเหล่านั้นด้วย ข้าได้ยินมาว่ามีคนมากกว่าร้อยคน ส่วนใหญ่ตายไปหมดเลย และเมื่อให้กำเนิดลูกชายก็ฆ่าหมด จะโหดร้ายขนาดนี้ได้อย่างไร"นางอยากจะพูดว่าไม่น่าแปลกใจเลยที่เจียอี้มีลูกไม่ได้ แต่มันรุนแรงเกินไป นางไม่สามารถพูดออกมาได้ จึงแค่คิดอย่างนั้นในใจกรรมใดใครก่อ กรรมนั้นคืนสนองฮูหยินผู้เฒ่าโหวผิงหยางรู้สึกหนาวสั่นในใจ มันช่างเลวร้าย น่ากลัวเหลือเกิน"พ่อบ้าน