แชร์

บทที่ 643

ผู้เขียน: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
ซ่งซีซีจะปล่อยให้นางสมหวังได้อย่างไร? ในเมื่อนางไม่กลัวที่จะหน้าแตก ไม่กลัวจะทำให้ทางจวนอ๋องฮวยและจวนเฉิงเอินป๋อเสียหน้า งั้นก็เอาเลย

ซ่งซีซีกล่าวอย่างเคร่งเครียด "ก่อนอื่น เมื่อเหลียงเส้ารักใคร่อนุไม่สนใจภรรยาเอกนั้น หลานเอ่อร์ได้ขอความช่วยเหลือจากครอบครัวพ่อแม่ของนาง แต่พวกเจ้าแค่อยู่เฉยๆ ยังให้นางอดทนเอาไว้ เป็นถึงท่านหญิงผู้สูงศักดิ์และเป็นภรรยาเอกของซื่อจื่อกลับต้องยอมให้หญิงงามเมืองคนหนึ่ง มิทราบว่าพวกเจ้าได้คำนึงถึงศักดิ์ศรีของราชวงศ์หรือไม่ ที่สอง ครั้งแรกที่หลานเอ่อร์ถูกเหลียงเส้าทุบตีอย่างหนักจนต้องนอนพักบนเตียงเพื่อดูแลครรภ์ เจ้ากับท่านอ๋องไม่เคยออกหน้าเพื่อตำหนิเหลียงเส้าสักคำ แต่เพียงสั่งคนส่งอาหารเสริมไปที่จวนเฉิงเอินป๋อ แล้วให้นางอดทนต่อ รอให้เหลียงเส้ากลับเนื้อกลับใจ ที่สาม ที่หลานเอ่อร์แท้งบุตรเพราะถูกเหลียงเส้าผลักลงบันไดหิน และเกือบจะไม่รอดเลย ในช่วงเวลาวิกฤตนั้นคนที่นางเรียกคือท่านพี่ มิใช่เป็นเสด็จแม่อย่างกับเจ้า ตอนที่ฮ่องเต้ทรงทราบเรื่องนี้ก็โกรธที่เหลียงเส้าใจร้ายกับภรรยาของเขา และปฏิบัติต่อท่านหญิงอย่างโหดร้าย แทนที่จะรู้สึกห่วงใยเป็นทุกข์ใจกับลูกสาวตอนเอง กลั
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 644

    ในห้องหนังสือของจวนเป่ยหมิงอ๋องอาจารย์หยูรายงานสถานการณ์เสร็จแล้วก็นั่งลงก่อนจะจิบชา"หลังจากที่เฉิงเอินป๋อออกมาจากจวนอ๋องฮวย เขาก็ตรงไปที่จวนอ๋องเยี่ยนแล้วเหรอ?" เซี่ยหลูโม่เลิกคิ้ว "ฮ่าฮ่า ดูเหมือนว่าการคาดเดาของเราจะไม่ผิด พวกเขาพี่น้องกำลังสมรู้ร่วมคิดกับองค์หญิงใหญ่""เพียงแต่ว่าอ๋องฮวยคนนี้เก็บลึกจริงๆ ก่อนหน้านี้เราไม่เคยสนใจเขาเลย" อาจารย์หยูกล่าว"หลายปีมานี้ข้าอยู่ในสนามรบเขตหนานเจียงมาโดยตลอด เรื่องมากมายในเมืองหลวงล้วนไม่รู้เรื่อง" เซี่ยหลูโม่วิเคราะห์ว่า "ตอนนี้พวกเขาน่าจะยังไม่พร้อม ไม่เช่นนั้นเมื่อฮ่องเต้ขึ้นครองบัลลังก์นั้น พวกเขาจะต้องลงมือแล้ว ตอนนั้นชายแดนเฉิงหลิงเกิดโกลาหล เขตหนานเจียงเกิดสงคราม และจักรพรรดิองค์ใหม่ขึ้นครองบัลลังก์หลังจากเสด็จพ่อสิ้นพระชนม์ น่าจะเป็นโอกาสที่ดีที่สุดของพวกเขา"อาจารย์หยูคิดอยู่ครู่หนึ่งส่ายหัวแล้วพูดว่า "ตอนนั้นมันเป็นโอกาสที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขา แต่ไม่ใช่เวลาที่ดีที่สุดที่จะยึดแำนาจเป็นฮ่องเต้ มีปัญหาทั้งภายในและภายนอก มารับช่วงต่อที่ยุ่งยากเช่นนี้ต้องไปต่อยาก""ยุ่งยาก แต่ก็มีความเป็นไปได้มากที่พวกเขาจะประสบความสำเร็จ""ท่า

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 645

    เซี่ยหลูโม่รู้ว่านี่คือเรื่องที่เขาทุกข์ใจที่สุด และเขายังสาบานด้วยว่าหากไม่พบน้องสาว เขาจะไม่มีวันแต่งงาน"ก็ได้ เรื่องนี้ข้าจะไปคุยกับพระชายาเอง" เซี่ยหลูโม่กล่าว "แต่ไม่รับประกันว่าศิษย์พี่เสิ่นจะเห็นด้วย ฟังดูเหลือเชื่อนิดหน่อย"สีหน้าของอาจารย์หยูสงบ "รบกวนท่านอ๋องช่วยถามให้ หากไม่ได้การ ข้าก็ไม่รู้สึกผิดหวัง""อืม!" เซี่ยหลูโม่พยักหน้า พูดคุยเรื่องอื่นๆ กับเขาอยู่พักหนึ่ง จากนั้นก็กลับเรือนซ่งซีซีเพิ่งกลับมาจากทางฝั่งหลานเอ่อร์ เมื่อเซี่ยหลูโม่พูดต่อคำขอของอาจารย์หยู นางก็ประหลาดใจมาก "ที่แท้อาจารย์หยูมีน้องสาวที่หายไปในก่อนหน้านนี้เหรอ?""แต่ในเมื่อเขาให้หงเซียวส่งจดหมายถึงศิษย์พี่ผิงของข้าแล้ว ทำไมไม่ส่งจดหมายไปถามศิษย์พี่ชายใหญ่ของข้าล่ะ?""อาจารย์หยูแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวอย่างชัดเจน เขาให้หงเซียวเขียนจดหมายถึงศิษย์พี่ผิงเพื่อเรื่องของจวนอ๋อง แต่ตามหาศิษย์พี่ชายใหญ่มันเป็นเรื่องส่วนตัว เขาต้องหาคนกลางมาช่วยพูดคุยให้"ซ่งซีซีเข้าใจ "ได้ ข้าจะเขียนจดหมายไปถามให้ แต่ข้าไม่รู้ว่าศิษย์พี่ชายใหญ่จะอยู่ที่ภูเขาเหม่ยชานหรือไม่ เขาชอบออกไปข้างนอกเสมอ"เซี่ยหลูโม่กล่าว

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 646

    ซ่งซีซีอึ้งไปครู่หนึ่ง นางได้ทำอย่างนั้นหรือ?นางไม่ขัดขืนที่จะใกล้ชิดกับเขา พวกเขาจะสนิททุกคืน และนอนกอดด้วยกัน ตลอดทั้งคืนหัวของนางไม่เคยหลุดจากแขนหรืออกของเขาเลยเมื่อเห็นท่าทางสับสนของนาง เป่าจูก็โกรธขึ้นมาอย่างผิดหวังและถามตรงๆ "คุณหนู ท่านอยากจะปฏิบัติต่อท่านอ๋องด้วยความเคารพและเป็นคู่รักที่สุภาพกันและกัน หรืออยากเป็นคู่รักที่มีความรักอย่างแท้จริง?""เป่าจู เจ้ากำลังทำให้เรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ไปหรือเปล่า?" ซ่งซีซีเอื้อมมือไปแตะหน้าผากนาง "เป็นอะไรไป เป็นไข้หรือเปล่า?"เป่าจูโกรธจัดและจ้องมองนาง "คุณหนูตอบสิ!"ซ่งซีซีเอียงศีรษะเล็กน้อย และมีผมสั้นไม่กี่เส้นอยู่บนขมับของนางซึ่งไม่สามารถกดทับเอาไว้ได้ และดูน่ารักเล็กน้อยภายใต้แสงพระอาทิตย์ "การเคารพซึ่งกันและกัน และการเป็นคู่รักที่รักใคร่กันต่างก็เอานี่ หรือว่าหากรักใคร่กันแล้วเขาก็จะไม่เคารพข้าหรือข้าจะไม่เคารพเขางั้นหรือ ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้นหรือ ไม่สามารถเอาทั้งสองหรือ?""เออ?" เป่าจูก็อึ้งไป เอาทั้งสองงั้นหรือ หาใช่ว่าไม่ได้ หลังจะชะงักไปชั่วคราวแล้วพูดว่า "แต่บางครั้งข้าน้อยรู้สึกว่าคุณหนูไม่ค่อยสนใจความรู้

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 647

    คดีของเหลียงเส้าเริ่มให้ตัดสินโทษแล้ว สิ่งแรกตัดสินท่านหญิงหยงอันกับเขาตัดขาดความสัมพันธ์เลย ไม่ไว้หน้าให้จวนเฉิงเอินป๋อแม้แต่น้อยประการที่สอง เขาทุบตีภรรยาของเขาจนทำให้ทารกในท้องตาย ยิ่งกว่านั้นหลานเอ่อร์ยังเป็นถึงท่านหญิงผู้สูงศักดิ์ บวกกับพระราชโองการที่ฮ่องเต้ออกให้ เฉินยี ผู้ตัดสินโทษแห่งหอต้าหลี่ได้ตัดสินให้เหลียงเส้าเนรเทศไปที่เมืองเฉียงโจวเป็นเวลาสิบปีและได้รับการดูแลโดยรัฐบาลเฉียงโจวให้เป็นนักโทษที่ทำหน้าที่ทำไร่คำตัดสินมีมีผลทันที ให้เดินทางในวันรุ่งขึ้น โดยไม่เปิดโอกาสให้ทางจวนเฉิงเอินป๋อไปอ้อนวอนใครอีกเลยแต่ทางเฉิงเอินป๋อไม่ได้วิงวอนอีกเลย เขาไปหาอ๋องเยี่ยน อ๋องเยี่ยนบอกเขาว่าเขาได้วิงวอนเพื่อครอบครัวของเขาต่อหน้าไทเฮาแล้ว ดังนั้นคราวนี้แค่ลงโทษเหลียงเส้าเท่านั้น จะไม่ถอนยศถาบรรดาศักดิ์ของพวกเขา และให้พวกเขาเลิกวุ่ยนวายอีก ไม่เช่นนั้นเรื่องจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้พวกเขาไม่กล้าบอกคุณนายใหญ่ว่าเหลียงเส้าถูกตัดสินให้เนรเทศ ตอนนี้คุณนายใหญ่รู้แค่ว่าเขาจะไม่ต้องทนทุกข์ทรมานในคุกเท่านั้น แต่นางไม่สามารถเจอหน้าเขา ยังไงก็กังวลอยู่ดี เพราะเขาเป็นเด็กที่นางรักที่สุดจนกระทั่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 648

    ดวงตาของเหลียงเส้าว่างเปล่า เขาถูกผลักไปสองก้าว และทันใดนั้นก็หันกลับมามองพ่อของเขา "ท่านพ่อ ถ้าท่านเห็นเยียนหลิว ลองถามนางว่าเคยจริงใจกับข้าบ้างไหม"เมื่อเฉิงเอินป๋อได้ยินคำพูดนี้ เขาตาพร่ามัว รู้แต่ว่ามีอะไรบางอย่างปิดในลำคอของเขา เขาเกือบจะหายใจไม่ออก เกิดมีอาการเซและล้มลงกับพื้นฮูหยินเฉิงเอินป๋อร้องไห้เสียงดัง ดึงดูดชาวบ้านมากมายล้อมรอบเข้ามาดูเดิมทีเรื่องระหว่างจวนเฉิงเอินป๋อกับจวนอ๋องฮวยได้สร้างความวุ่นวายจนทุกคนรู้หมด บัดนี้ชาวเมืองหลวงกำลังพูดถึงเรื่องนี้ ตอนนี้ทั้งสองคนนี้ คนหนึ่งนั่งอยู่บนพื้นส่วนอีกคนกำลังร้องไห้ ชาวบ้านชาวเมืองเพียงแต่ดูสนุกเฉยๆ เรื่องความสุขความทุกข์ของตระกูลชั้นสูง ชาวบ้านจะไม่เกิดความเห็นใจใดๆ แค่ให้พวกเขามีเรื่องสนุกๆ ให้นินทามากขึ้นก็เท่านั้นเมื่อสองสามีภรรยาเฉิงเอินป๋อกลับบ้าน พวกเขาได้ยินว่าคุณนายใหญ่เป็นลมและเป็นอัมพาตครึ่งซีก แม้ว่าจะรีบสั่งให้คนในจวนหุบปากและห้ามบอกคนนอกเกี่ยวกับเรื่องนี้เด็ดขาด แต่เรื่องที่คุณนายใหญ่ป่วยหนักเพราะเหลียงเส้ายังคงถูกแพร่กระจายออกไปอยู่ดี นี่จะทำให้เหลียงเส้าขึ้นชื่อเป็นคนอกตัญญูมาก แม้ว่าในอนาคตเขาจะกลับมาหลั

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 649

    อ๋องฮวยลดสายตาลงและไม่แสดงทีท่าไม่พอใจใดๆ แต่มือที่เขาวางอยู่ที่จับนั้นมีเส้นเลือดในมือของเขาปูดออกมาเล็กน้อย "เสด็จพี่พูดถูก""ทางหลานเอ่อร์เจ้าก็ไม่ต้องไปสนใจอีกเลย ลูกสาวของเจ้านี่เข้าข้างคนนอก บัดนี้นางยอมอยู่กับซ่งซีซีก็ไม่คิดจะกลับจวนอ๋องของพวกเจ้า ทอดทิ้งไปก็ไม่เสียดายหรอก"อ๋องฮวยไม่พูดอะไร แต่ดวงตาของเขาค่อยๆ เต็มไปด้วยความโกรธเมื่อเห็นเช่นนี้ อ๋องเยี่ยนก็เปลี่ยนเรื่อง "เอาล่ะ เรื่องของจวนเฉิงเอินป๋อได้ผ่านไปแล้ว ทางราชสำนักจะไม่ใช้ขุนนางที่อกตัญญู พวกเขาจบเห่แล้ว ที่ข้ามาครั้งนี้เพื่อมุ่งเป้ายี่ฝาง ข้าส่งคนไปลอบสังหารนางมาก่อน แต่ได้รับการช่วยเหลือจากซ่งซีซี และทำให้ข้าสูญเสียนักรบสิ้นหวังไปหลายคน""พี่สาม บัดนี้อยากจะฆ่ายี่ฝางมิใช่เรื่องง่ายแล้ว ฮ่องเต้ส่งกองกำลังหลวงไปเฝ้าจวนแม่ทัพ แม้ว่าพวกเขาจะแต่งกายด้วยชุดลำลอง แต่ข้าได้ตรวจสอบมา พวกเขาคือกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยเมืองหลวงจริงๆ"อ๋องฮวยยังกล่าวอีกว่า "อีกอย่างยี่ฝางคนนี้มีไหวพริบมาก และไม่เคยก้าวออกจากจวนแม่ทัพเลย""หากติดสินบนคนของจวนแม่ทัพเพื่อวางยาพิษล่ะ?" อ๋องเยี่ยนถามอ๋องฮวยกล่าวว่า "ลองมาแล้ว แต่ก็ไร้

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 650

    หลังจากได้ยินสิ่งนี้ อ๋องเยี่ยนก็ครุ่นคิดอยู่นาน "แต่มันยังสู้ไม่ได้ให้นางตายไปเลยอยู่ดี จากนั้นความผิดจะตกอยู่ที่ตระกูลเซียวโดยตรง ยี่ฝางคนนี้กลัวตายและเป็นเจ้าแผนการด้วย บวกกับนางเป็นคนร้ายกาจมาก เกรงว่าคำพูดของนางยากที่จะทำให้คนอื่นเชื่อใจได้ อีกอย่าง ตระกูลเซียวเฝ้าอยู่ชายแดนเฉิงหลิงมานานหลายปี ไม่เคยฆ่าสามัญชนแม้แต่คนเดียวเลย หากมีคนทุ่มเทความพยายามพูดเข้าข้างเขา งั้นเขาก็จะพ้นจากเรื่องนี้ไปได้"อ๋องฮวยกล่าวว่า "แต่จุดประสงค์ของเราไม่ใช่ทำลายตระกูลเซียว เราเพียงแต่ต้องให้ชายแดนเฉิงหลิงเปลี่ยนหัวหน้าเท่านั้น ตระกูลเซียวถอนตัวออกไปและจัดคนของเราให้ไปเฝ้าดูแลชายแดนเฉิงหลิง ตอนนี้หวังเบียวยังไม่ได้มาเป็นพวกกับเรา ดังนั้นชายแดนเฉิงหลิงเราต้องเอาชนะให้ได้ ตราบใดที่เราควบคุมกองทหารสำคัญในทั้งสองแห่ง หรือถ่วงเวลาจากสงคราม เราทำตามแผนการเดิมให้ชาวบ้านทุกที่ประท้วง เพื่อสร้างบรรยากาศที่ฮ่องเต้ทำให้ประชาชนไม่พอใจ งั้นนั่นก็จะเป็นเวลาที่ดีที่เราจะกบฏ"หลังจากที่เขาพูดจบ ก็แอบมองไปที่ใบหน้าขององค์หญิงใหญ่ขณะยกภ้วยชาขึ้นมา และได้เห็นร่องรอยของความบูดบึ้งบนใบหน้าของนางอย่างที่คาดไว้เสียงของอ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 651

    ในสถาบันว่านซงเหมิน เสิ่นชิงเหอนำจดหมายไปหาศิษย์อา "ศิษย์อา จดหมายจากศิษย์น้องเซี่ย ขอให้ข้าไปเมืองหลวงสักหน่อย มีเรื่องต้องขอความช่วยเหลือหากจากข้า"ศิษย์อานั่งสมาธิหลับตาไม่ตอบเขาโกรธมานานแล้วและตอนนี้ยังโกรธอยู่ เขาไม่อยากคุยกับใคร และไม่ยอมปล่อยให้ใครลงจากภูเขาด้วยดังนั้น คนที่มักจะออกจากเขาพวกนั้นตอนนี้จึงติดอยู่ในนั้นทั้งหมด ส่วนคนที่ออกไปแล้วยังไม่ได้กลับมานั้นก็ไม่กล้ากลับมาอีก อย่างเช่นผิงหวูจูงก่อนที่เขาจะไปเขตหนานเจียง เขาได้ออกคำสั่งซ้ำแล้วซ้ำว่าห้ามสร้างบ้านพักในเป่ยซาน เพราะเขามีแผนสำหรับที่ดินนั้น เขาต้องการสร้างตึกดวงดาว ซึ่งเป็นอาคารห้าชั้น มันสามารถขึ้นไปที่สูงเพื่อรับชมดาวจันทร์ หรือไปฝึกทักษะการต่อสู้ที่นั่น มันดีต่อการฝึกวิชาตัวเบา และที่สำคัญกว่านั้น เขามีเหตุผลอื่นเดิมทีเขาวางแผนที่จะเริ่มก่อสร้างในฤดูใบไม้ผลิของปีหน้า แต่เมื่อเขากลับมา ก็เห็นว่าพวกเขาได้สร้างบ้านพักในภูเขาเป่ยซานแล้วภูมิภาคของภูเขาเป่ยซานนั้นสูงและมีน้ำตกอยู่ตรงข้ามกัน สร้างบ้านพักที่นั่น พูดตรงๆ ก็คือพวกเขาทุกคนอยากไปพักอยู่ที่นั่นและเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ที่สวยงามได้เปล่าๆความสามาร

บทล่าสุด

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1447

    หลังจากรับประทานอาหารเสร็จเสิ่นว่านจือเอ่ยชวนผิงหนานป๋อและฮูหยินออกไปเดินเล่นในลานกว้างของตึกว่างจิง ไม่ไกลจากตึกว่างจิงมีโรงแสดงศิลปะพื้นบ้าน ซึ่งเต็มไปด้วยนักเล่านิทาน นักแสดงงิ้ว พ่อค้า และร้านขายอาหาร ครึกครื้นครบครันทุกอย่าง ตั้งแต่มาเมืองหลวง เสิ่นว่านจือก็ยุ่งตลอด ไม่เคยมีเวลาว่างไปเดินเที่ยวเล่นเลย ครั้งนี้จึงถือโอกาสแยก ผิงหนานป๋อ ออกไป ให้ซ่งซีซีได้พูดคุยกับจูจิ่นเป็นการส่วนตัว อีกทั้งตนเองก็จะได้ไปเที่ยวเล่นกับเฉินเฉินด้วย เมื่อคนอื่นออกไปแล้วซ่งซีซีกับจูจิ่นก็ลดเสียงให้เบาลง ก่อนหน้านี้ พวกนางไม่ได้พูดถึงเรื่องที่เป็นประเด็นสำคัญเลย บัดนี้ ย่อมต้องกล่าวถึงบ้างแล้ว แขกที่เฝ้าดูจากภายนอก เมื่อเห็นผิงหนานป๋อและฮูหยินออกไป ต่างพากันเข้าใจว่าพระชายาเป่ยหมิงอ๋องจะลงโทษคุณหนูเจ็ดเป็นการส่วนตัว จึงตั้งใจเงี่ยหูฟัง รอชมเรื่องสนุก ทว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกลับตรงกันข้าม สองคนนี้คุยกันด้วยเสียงเบาๆ แถมยังมีเสียงหัวเราะเป็นระยะๆ บรรยากาศกลับดูกลมเกลียวยิ่งกว่าเดิมเสียอีก! เมื่อมีบ่าวไพร่เข้าออกตลอดเวลา ก็มีคนช่างสังเกตจงใจเลิกม่านขึ้นด้านหนึ่ง ทำให้ทุกคนที่อยู่ภายนอกสามารถมองเ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1446

    ซ่งซีซีพร้อมด้วยเสิ่นว่านจือและเฉินเฉินรออยู่ในเรือนหลันซี เมื่อเด็กในร้านนำผิงหนานป๋อและครอบครัว รวมถึงบ่าวไพร่เดินผ่านสวนเข้ามาถึงด้านหน้าเรือนหลันซีก็ร้องบอก ซ่งซีซีได้รับการพยุงจากเสิ่นว่านจือและเฉินเฉินออกมาต้อนรับด้วยตนเอง ผิงหนานป๋อและภรรยา รวมถึง คุณหนูเจ็ดจูจิ่นรีบคำนับทำความเคารพ ซ่งซีซีแย้มยิ้มเอ่ยว่า “ไม่ต้องมากพิธี เชิญด้านในนั่งเถอะ” ระหว่างที่ซ่งซีซีกล่าวคำเชื้อเชิญ นางก็ลอบพินิจทั้งสามคน ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางพบเจอผู้คนมามากมาย การสังเกตสีหน้า แววตา และท่าทางก็พอจะทำให้นางมองเห็นอะไรบางอย่างได้ ผิงหนานป๋อสวมเสื้อคลุมขนสัตว์สีดำ ด้านในเป็นอาภรณ์ปักลายดอกไม้และวิหคขลิบทองบริเวณคอเสื้อ บริเวณอกมีสร้อยประคำขนาดใหญ่ห้อยอยู่ ดูเหมือนเป็นผู้มีฐานะดี แต่ก็แฝงกลิ่นอายของความละวางทางโลก ทว่าขณะยืนอยู่ ร่างของเขากลับโน้มเอียงไปทางบุตรสาวโดยไม่รู้ตัว รอยยิ้มบนใบหน้าเผยให้เห็นท่าทางประจบประแจงเล็กน้อย ชัดเจนว่าเป็นคนที่ไม่ถนัดเรื่องการเข้าสังคม ส่วนฮูหยินผิงหนานป๋อสวมเสื้อนอกสีแดงเข้มทับด้วยเสื้อคลุมขนจิ้งจอกขาว ทำให้ดูสดใสเปล่งประกาย นางเป็นสตรีร่างท้วม ผิวพรรณเปล่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1445

    ซ่งซีซีรู้สึกว่าคุณหนูเจ็ดไม่ควรต้องรับคำด่าทอโดยไร้เหตุผล อีกทั้งนางเองก็ไม่ต้องการเป็นศัตรูกับจวนป๋อผิงหนานในเมื่อเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะนาง นางก็ต้องให้คำอธิบายที่เหมาะสม ดังนั้น นางจึงสั่งให้หัวหน้าลู่ส่งเทียบเชิญไปยังจวนป๋อผิงหนาน ขอเชิญทั้งครอบครัวไปตึกว่างจิงเพื่อร่วมรับประทานอาหาร ขณะเดียวกัน เมื่อส่งเทียบเชิญ นางก็ปล่อยข่าวนี้ออกไปด้วย ส่วนเหตุผลที่ไม่เชิญไปที่จวนของตนเอง นั่นเพราะเรื่องนี้ต้องการให้มีการชี้แจงความเข้าใจผิดต่อสาธารณะ การนัดพบกันภายในจวนจึงไม่เหมาะสม ตึกว่างจิงเป็นสถานที่หรูหรา เพื่อแสดงความเคารพต่อจวนป๋อผิงหนานและคุณหนูเจ็ดการปล่อยข่าวล่วงหน้า ทำให้บรรดาพ่อค้าและขุนนางผู้สูงศักดิ์ที่ชอบสู่รู้เรื่องชาวบ้านย่อมไม่พลาดโอกาสเฝ้าดูเรื่องนี้ เมื่อมีคนจับตาอยู่มาก ย่อมเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการคลี่คลายปัญหา ภายในเรื่องนี้ยังมีเจตนาชดเชยให้กับคุณหนูเจ็ดตลอดหลายปีที่นางทำการค้า ผู้คนมักดูถูกนางเพียงเพราะเป็นสตรี ถูกเอาเปรียบและถูกกดขี่อยู่เสมอ จวนป๋อผิงหนาน ก็ไม่มีบุรุษคนใดที่สามารถเป็นเสาหลักได้ เดิมทีตระกูลนี้เคยเป็นตระกูลสูงศักดิ์ แต่บัดนี้กลับตกต่ำจนแท

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1444

    ฮองเฮาถูกลงโทษให้กักบริเวณอีกครั้ง ครั้งนี้เป็นไทเฮาที่มีรับสั่งให้กักบริเวณ อีกทั้งยังสั่งถอนข้ารับใช้ในตำหนักของนางไปกว่าครึ่ง คงเหลือเพียงคนสนิทไว้รับใช้ จากนั้นยังทรงเลือกคนที่ไว้ใจได้ให้ไปเฝ้าสังเกตการณ์ที่ ตำหนักฉางชุน ขณะที่ฮองเฮาเฝ้าดูแลจักรพรรดิ์ซูชิงนางได้ยินอู๋ย่วนเจิ้งเอ่ยว่าฮ่องเต้ทรงประชวรเป็นโรคปอดเรื้อรัง แรกเริ่มนางยังไม่รู้ว่าโรคนี้คืออะไร แต่หลังจากถูกกักบริเวณ นางจึงถามหลานเจี่ยนกูกู เมื่อหลานเจี่ยนกูกูบอกว่านี่เป็นโรคที่อันตรายถึงชีวิต นางก็ทรุดตัวลงร้องไห้สะอึกสะอื้น ประการแรก นางร้องไห้เพราะฮ่องเต้ทรงประชวร ประการที่สอง นางร้องไห้เพราะฮ่องเต้ทรงล้มป่วยด้วยโรคนี้ ก็สมควรต้องกำหนดองค์รัชทายาทแล้ว ทว่ากลับถูกไทเฮากักบริเวณ ยิ่งไปกว่านั้น นางยังโง่เขลาไปล่วงเกินซ่งซีซีเพราะความสัมพันธ์ของ รองแม่ทัพซ่ง ฮ่องเต้ทรงให้ความสำคัญกับซ่งรุ่ยเป็นพิเศษ หากนางไม่เคยล่วงเกินซ่งซีซีและให้ซ่งซีซีส่งซ่งรุ่ยเข้ามาวัง เพื่ออยู่เป็นเพื่อน องค์ชายใหญ่ แล้วล่ะก็ฮ่องเต้คงจะทรงสนพระทัยในตัวเขามากขึ้น “หลานเจี่ยน ข้าควรทำสิ่งใด? ข้าทำอะไรได้บ้าง?” นางร่ำไห้ครู่หนึ่งแล้วก็คิดก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1443

    ฮองเฮา ยังมีหยาดน้ำตาเกาะบนใบหน้า ดวงตาทั้งสองข้างบวมแดงจากการร่ำไห้เมื่อได้ยินประโยคแรกที่ฮ่องเต้ตรัสหลังฟื้นคืนสติ กลับเป็นคำสั่งให้นางถอยออกไป นางถึงกับตะลึงงันอยู่กับที่พอฟื้นคืนสติ นางก็สะอื้นพลางเอ่ยว่า “หม่อมฉันไม่ไปเพคะ หม่อมฉันจะอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนฮ่องเต้เพคะ”ไทเฮา เอ่ยด้วยสุรเสียงแหบพร่า ทว่ามีอำนาจล้นเหลือ “ประคองฮองเฮาออกไป”ฮองเฮาอยู่เฝ้าที่นี่นานเท่าใดไทเฮาก็อยู่เฝ้าที่นี่นานเท่านั้น ไม่เห็นว่าฮ่องเต้จะฟื้นคืนสติเสียที รอคอยมาจนใจแทบขาด ทว่ากลับต้องฝืนรักษาความสงบเพื่อมิให้เหล่าขุนนางที่คุกเข่าอยู่นอกตำหนักต้องขาดหลักยึดเดิมทีขุนนางทั้งหมดคุกเข่าอยู่ภายนอกตำหนัก ทว่าความหนาวเหน็บเกินทน พอไทเฮามาถึงก็ทรงให้พวกเขาเข้าไปคอยด้านในตำหนัก แต่พวกเขากลับยังยืนกรานจะคุกเข่าต่อไปฮ่องเต้สิ้นสติไปนานเท่าใด พวกเขาก็คุกเข่าอยู่อย่างนั้นตลอดมาไทเฮาคอยให้หมอหลวงตรวจชีพจรเสร็จก่อนจึงเดินเข้าไปนั่งใกล้ แล้วตรัสห้ามไม่ให้หมอหลวงเอ่ยสิ่งใดก่อนจะกล่าวด้วยสุรเสียงอ่อนโยนว่า “ไม่เป็นไรแล้ว”นางกำมือของบุตรชายแน่น พระหัตถ์เย็นเฉียบจนจับข่มไว้สุดแรงก็ยังสั่นระริกอย่างห้ามมิได้จัก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1442

    จักรพรรดิ์ซูชิงกลับไม่รู้เลยว่าความวุ่นวายในครั้งนี้จะลุกลามใหญ่โตถึงเพียงนี้ ช่วงหลายวันที่ผ่านมา พระองค์ทรงให้ความร่วมมือกับหมอหลวงในการทดลองสูตรยารักษาใหม่ ทรงมอบหมายกิจการราชการสำคัญให้แก่เสนาบดีใหญ่ ตำรับยารักษาใหม่นี้เป็นผลจากการวิจัยอย่างหนักของหมอหลวงหลายคน ซึ่งใช้การบำบัดด้วยความร้อนเป็นหลัก ร่วมกับการฝังเข็ม และเสริมด้วยยาต้มเพื่อบำรุงร่างกาย ผ่านไปปหลายวัน มีผลดีอยู่บ้าง อาการปวดศีรษะลดลง และไม่ทรงมีเหงื่อออกในเวลากลางคืน ดังนั้น ในวันนี้ที่เสด็จมาร่วมประชุมราชการ พระพักตร์ของพระองค์ดูสดใสขึ้นกว่าหลายวันที่ผ่านมา เจ้ากรมฉีแม้จะได้ไปพบอวี้ฉื่อสวี่แล้ว แต่ความคิดของอวี้ฉื่อสวี่กลับไม่เปลี่ยนแปลง เขารู้สึกผิดหวังในตัวฮ่องเต้ เพราะทรงทำตัวโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย ไม่คำนึงถึงกฎเกณฑ์ และไม่สนใจสถานการณ์สงคราม เป็นการกระทำที่ดูไร้ความรับผิดชอบเกินไป ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่เชื่อคำกล่าวของเจ้ากรมฉีที่ว่า การเลือกพระชายารองให้เป่ยหมิงอ๋องเป็นความคิดของฮองเฮา โดยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับฮ่องเต้ ตามที่เขารู้มา ฮองเฮาเพิ่งถูกปลดจากการกักบริเวณได้ไม่นาน หลังจากได้รับอิ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1441

    ฉีฮองเฮายิ้มอย่างไม่ใส่ใจ “ท่านแม่พูดอะไรเช่นนี้ เรื่องนี้จะไปเกี่ยวอะไรกับฮ่องเต้ได้? ฮ่องเต้มีงานราชกิจล้นมือ จะมายุ่งเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร? ส่วนอวี้ฉื่อสวี่นั่น ข้าจะไปทำให้เขาตายได้อย่างไร?” อวี้ฉื่อสวี่ เป็นพ่อตาขององค์หญิงใหญ่หมินฉิง ฉีฮองเฮาเห็นว่าไม่มีเหตุผลที่จะไปขัดแย้งกับตระกูลนี้ ฉีฮูหยินใหญ่ถอนหายใจ “เจ้านี่ช่างโง่เขลาเสียจริง เป่ยหมิงอ๋องกำลังออกรบ เจ้ากลับไปยุ่งเรื่องหา พระชายารองให้เขา ไหนจะเรื่องที่ฮ่องเต้เคยให้พระชายาเป่ยหมิงอ๋องอยู่ในห้องทรงพระอักษรคนเดียวหลายวัน แล้วเสด็จไปเยี่ยมกลางดึก เรื่องนั้นยังไม่ได้รับการชี้แจงให้กระจ่าง เจ้ายังจะสร้างเรื่องนี้เพิ่มขึ้นมาอีก จะไม่ให้คนเขาคิดมากได้อย่างไร?” “นั่นมันพวกเขาคิดมากไปเองทั้งนั้น เป็นการคาดเดาแบบไม่มีมูล” ฉีฮองเฮากล่าวด้วยท่าทีไม่ใส่ใจ ฉีฮูหยินใหญ่เห็นสีหน้าที่ไม่ทุกข์ร้อนของนางก็ได้แต่ส่ายหน้าเบาๆ ด้วยความผิดหวัง “อย่าว่าแต่เรื่องร้อยเรียงที่ผู้คนเขาคาดเดากันเลย แค่ฮ่องเต้ขมวดคิ้วหรือพูดอะไรออกมา ขุนนางก็ยังตีความกันไปต่างๆ นานา เจ้าจะพูดว่าไม่เกี่ยว แต่แม้แต่ในวังหลัง ฮ่องเต้ทำสีหน้ากับเจ้า เจ้าจะไม่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1440

    เมื่อการคาดเดาเช่นนี้แพร่กระจายออกไป บรรดาขุนนางบางคนก็เริ่มยุยงให้เจ้ากรมฉีไปสอบถาม ฮองเฮาเพื่อขอคำชี้แจง ถ้าข่าวลือนี้เป็นความจริง จะเป็นเรื่องร้ายแรงมาก!เป่ยหมิงอ๋อง กำลังออกรบที่หนานเจียงอย่างเต็มกำลัง แต่ถ้าข่าวลือว่าสตรีของเขาถูกคนอื่นเล็งไว้แพร่ไปถึงที่นั่น จะทำให้เสียขวัญและกำลังใจจนส่งผลกระทบต่อการรบได้! แม้แต่หลี่เต๋อฮวย เสนาบดีกรมทหาร ยังวิตกกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้จนต้องเข้าพบเจ้ากรมฉีด้วยตัวเองเพื่อชี้แจงถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น เขากล่าวว่า "เป่ยหมิงอ๋องกำลังเสี่ยงชีวิตอยู่ในสนามรบ ช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ จะเกิดเรื่องเลวร้ายเช่นนี้ไม่ได้!" จากนั้นเขายังเสริมว่า "ข้าได้ยินมาว่าอวี้ฉื่อสวี่มีแผนจะยื่นฎีกาคัดค้านในท้องพระโรงอย่างแข็งขัน" เจ้ากรมฉีตกใจจนหน้าซีด "เรื่องนี้ยังไม่มีการสอบสวนชัดเจน แล้วจะถึงขั้นยื่นฎีกาได้อย่างไร? อวี้ฉื่อสวี่จะไม่ใช่คนหุนหันพลันแล่นเช่นนั้นหรอก!" หลี่เต๋อฮวยตอบกลับ "เขาต้องการให้ฮ่องเต้ชี้แจงเรื่องนี้ หากปล่อยให้คนคาดเดาต่อไปเรื่อยๆ ไม่ช้าก็เร็วข่าวลือเหล่านี้จะไปถึงหนานเจียงและเมืองเฉิงหลิง แล้วคราวนี้ความวุ่นวายจะบังเกิด!" แม

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1439

    หลานเจี่ยนกูกูลังเลไปครู่หนึ่ง กล่าวว่า “แต่หากปล่อยให้เรื่องนี้แพร่ออกไป ชื่อเสียงของคุณหนูเจ็ดจะเสียหายไปด้วย และอาจกระทบถึงชื่อเสียงของบุตรสาวคนอื่นในจวนผิงหนานป๋อด้วยเพคะ” ฮองเฮามองด้วยสายตาเย็นชา “นางเป็นเพียงลูกสาวอนุ ใจสูงเกินตัว มองใครก็ไม่คู่ควร คงอยากแต่งงานสูงส่งเท่านั้น สตรีเช่นนี้ที่หวังเกินความสามารถ หากต้องพังพินาศก็เป็นเพราะตัวนางเอง และข้ายังได้ยินว่านางนิสัยดุร้าย ใครก็ไม่กลัว ถ้าหากนางกล้าไปก่อเรื่องกับซ่งซีซีให้เกิดความวุ่นวาย ข้าจะยิ่งดีใจ เพราะจะมีเรื่องให้นินทากันแทน เรื่องฮ่องเต้ก็จะถูกลืมไปเอง” หลานเจี่ยนกูกูเงียบไป ไม่กล้าพูดอะไร ฮองเฮาจึงโกรธขึ้นมา “ตอนนี้ข้าพูดอะไร เจ้ามีแต่จะคัดค้าน บอกว่าไม่เหมาะสม เจ้าก็ลองบอกข้าสิว่าจะทำอย่างไรให้เรื่องนี้สงบลงได้ หรือเจ้าจะให้ฮ่องเต้ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ไปตลอด?” หลานเจี่ยนกูกูอยากจะบอกว่าเรื่องนี้ไม่มีทางเกี่ยวโยงกันได้เลย แม้คุณหนูเจ็ดจะไปก่อเรื่องจริง แต่สุดท้ายก็เป็นเพียงเรื่องของหญิงสาวบ้านเล็กบ้านน้อย ไม่น่าจะกลบเรื่องของฮ่องเต้ได้ แต่เห็นฮองเฮาโกรธจัด นางจึงไม่กล้าพูดและจำต้องรับคำสั่งไป ช่วงนี้ใกล

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status