Share

บทที่ 642

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
สิ่งของทั้งหมดบนรถม้าถูกขนลงและวางไว้นอกห้องโถงหลักของจวนอ๋องฮวย

พระชายาอ๋องฮวยไม่ได้มองเลย นางแค่ทำหน้าบึ้งตึง

ซ่งซีซีกล่าวว่า "ถ้าพระชายาอ๋องฮวยไม่ตรวจดูตอนนี้ เดี๋ยวค่อยตรวจที่หลังก็ได้ หากมีสิ่งใดขาดหายไปก็แค่ส่งคนมาแจ้งหน่อย ส่วนของขวัญที่ท่านแม่มอบให้พระชายาอ๋องฮวยนั้นก็คืนมาให้ด้วยนะ ข้าจำได้ว่ามียาของร้านขายยาเย่าหวังไม่น้อยเลย"

พระชายาอ๋องฮวยหันหลังออกไปพูดอย่างเย็นชา "ยากินหมดตั้งนานแล้ว ให้ข้าคืนให้อย่างไร เจ้าทำเช่นนี้มิกลัวท่านแม่ของเจ้าจะเสียใจเหรอ?"

ซ่งซีซีกล่าวว่า "ท่านแม่เอ็นดูหลานเอ่อร์มาโดยตลอด ถ้านางรู้ว่าเจ้าปฏิบัติต่อหลานเอ่อร์เช่นนี้ ข้าเชื่อว่านางจะตัดความเป็นพี่น้องกับเจ้าด้วยเช่นกัน"

มีน้ำตาในดวงตาของพระชายาอ๋องฮวย "ซีซี ทำไมเจ้ากลายเป็นแบบนี้ ไม่แม้แต่เห็นน้าอยู่ในสายตา บีบบังคับให้น้องของเจ้าหย่า น้าทำอะไรให้เจ้าไม่พอใจกัน เป็นเพราะตอนที่เจ้าหย่ากับจ้านเป่ยว่างนั้น น้าไม่ได้ออกหน้าช่วยเจ้าหรือ"

"อย่าพูดเรื่องเก่าๆ อีก หวังว่าพระชายาจะเป็นคนทำอะไรเด็ดขาดหน่อย"

พระชายาอ๋องฮวยมองดูนางด้วยสีหน้าโศกเศร้าและเสียใจ "น้าคุยกับเจ้าดีๆ ได้ไหม? เราสองครอบครัวไม่
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 643

    ซ่งซีซีจะปล่อยให้นางสมหวังได้อย่างไร? ในเมื่อนางไม่กลัวที่จะหน้าแตก ไม่กลัวจะทำให้ทางจวนอ๋องฮวยและจวนเฉิงเอินป๋อเสียหน้า งั้นก็เอาเลยซ่งซีซีกล่าวอย่างเคร่งเครียด "ก่อนอื่น เมื่อเหลียงเส้ารักใคร่อนุไม่สนใจภรรยาเอกนั้น หลานเอ่อร์ได้ขอความช่วยเหลือจากครอบครัวพ่อแม่ของนาง แต่พวกเจ้าแค่อยู่เฉยๆ ยังให้นางอดทนเอาไว้ เป็นถึงท่านหญิงผู้สูงศักดิ์และเป็นภรรยาเอกของซื่อจื่อกลับต้องยอมให้หญิงงามเมืองคนหนึ่ง มิทราบว่าพวกเจ้าได้คำนึงถึงศักดิ์ศรีของราชวงศ์หรือไม่ ที่สอง ครั้งแรกที่หลานเอ่อร์ถูกเหลียงเส้าทุบตีอย่างหนักจนต้องนอนพักบนเตียงเพื่อดูแลครรภ์ เจ้ากับท่านอ๋องไม่เคยออกหน้าเพื่อตำหนิเหลียงเส้าสักคำ แต่เพียงสั่งคนส่งอาหารเสริมไปที่จวนเฉิงเอินป๋อ แล้วให้นางอดทนต่อ รอให้เหลียงเส้ากลับเนื้อกลับใจ ที่สาม ที่หลานเอ่อร์แท้งบุตรเพราะถูกเหลียงเส้าผลักลงบันไดหิน และเกือบจะไม่รอดเลย ในช่วงเวลาวิกฤตนั้นคนที่นางเรียกคือท่านพี่ มิใช่เป็นเสด็จแม่อย่างกับเจ้า ตอนที่ฮ่องเต้ทรงทราบเรื่องนี้ก็โกรธที่เหลียงเส้าใจร้ายกับภรรยาของเขา และปฏิบัติต่อท่านหญิงอย่างโหดร้าย แทนที่จะรู้สึกห่วงใยเป็นทุกข์ใจกับลูกสาวตอนเอง กลั

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 644

    ในห้องหนังสือของจวนเป่ยหมิงอ๋องอาจารย์หยูรายงานสถานการณ์เสร็จแล้วก็นั่งลงก่อนจะจิบชา"หลังจากที่เฉิงเอินป๋อออกมาจากจวนอ๋องฮวย เขาก็ตรงไปที่จวนอ๋องเยี่ยนแล้วเหรอ?" เซี่ยหลูโม่เลิกคิ้ว "ฮ่าฮ่า ดูเหมือนว่าการคาดเดาของเราจะไม่ผิด พวกเขาพี่น้องกำลังสมรู้ร่วมคิดกับองค์หญิงใหญ่""เพียงแต่ว่าอ๋องฮวยคนนี้เก็บลึกจริงๆ ก่อนหน้านี้เราไม่เคยสนใจเขาเลย" อาจารย์หยูกล่าว"หลายปีมานี้ข้าอยู่ในสนามรบเขตหนานเจียงมาโดยตลอด เรื่องมากมายในเมืองหลวงล้วนไม่รู้เรื่อง" เซี่ยหลูโม่วิเคราะห์ว่า "ตอนนี้พวกเขาน่าจะยังไม่พร้อม ไม่เช่นนั้นเมื่อฮ่องเต้ขึ้นครองบัลลังก์นั้น พวกเขาจะต้องลงมือแล้ว ตอนนั้นชายแดนเฉิงหลิงเกิดโกลาหล เขตหนานเจียงเกิดสงคราม และจักรพรรดิองค์ใหม่ขึ้นครองบัลลังก์หลังจากเสด็จพ่อสิ้นพระชนม์ น่าจะเป็นโอกาสที่ดีที่สุดของพวกเขา"อาจารย์หยูคิดอยู่ครู่หนึ่งส่ายหัวแล้วพูดว่า "ตอนนั้นมันเป็นโอกาสที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขา แต่ไม่ใช่เวลาที่ดีที่สุดที่จะยึดแำนาจเป็นฮ่องเต้ มีปัญหาทั้งภายในและภายนอก มารับช่วงต่อที่ยุ่งยากเช่นนี้ต้องไปต่อยาก""ยุ่งยาก แต่ก็มีความเป็นไปได้มากที่พวกเขาจะประสบความสำเร็จ""ท่า

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 645

    เซี่ยหลูโม่รู้ว่านี่คือเรื่องที่เขาทุกข์ใจที่สุด และเขายังสาบานด้วยว่าหากไม่พบน้องสาว เขาจะไม่มีวันแต่งงาน"ก็ได้ เรื่องนี้ข้าจะไปคุยกับพระชายาเอง" เซี่ยหลูโม่กล่าว "แต่ไม่รับประกันว่าศิษย์พี่เสิ่นจะเห็นด้วย ฟังดูเหลือเชื่อนิดหน่อย"สีหน้าของอาจารย์หยูสงบ "รบกวนท่านอ๋องช่วยถามให้ หากไม่ได้การ ข้าก็ไม่รู้สึกผิดหวัง""อืม!" เซี่ยหลูโม่พยักหน้า พูดคุยเรื่องอื่นๆ กับเขาอยู่พักหนึ่ง จากนั้นก็กลับเรือนซ่งซีซีเพิ่งกลับมาจากทางฝั่งหลานเอ่อร์ เมื่อเซี่ยหลูโม่พูดต่อคำขอของอาจารย์หยู นางก็ประหลาดใจมาก "ที่แท้อาจารย์หยูมีน้องสาวที่หายไปในก่อนหน้านนี้เหรอ?""แต่ในเมื่อเขาให้หงเซียวส่งจดหมายถึงศิษย์พี่ผิงของข้าแล้ว ทำไมไม่ส่งจดหมายไปถามศิษย์พี่ชายใหญ่ของข้าล่ะ?""อาจารย์หยูแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวอย่างชัดเจน เขาให้หงเซียวเขียนจดหมายถึงศิษย์พี่ผิงเพื่อเรื่องของจวนอ๋อง แต่ตามหาศิษย์พี่ชายใหญ่มันเป็นเรื่องส่วนตัว เขาต้องหาคนกลางมาช่วยพูดคุยให้"ซ่งซีซีเข้าใจ "ได้ ข้าจะเขียนจดหมายไปถามให้ แต่ข้าไม่รู้ว่าศิษย์พี่ชายใหญ่จะอยู่ที่ภูเขาเหม่ยชานหรือไม่ เขาชอบออกไปข้างนอกเสมอ"เซี่ยหลูโม่กล่าว

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 646

    ซ่งซีซีอึ้งไปครู่หนึ่ง นางได้ทำอย่างนั้นหรือ?นางไม่ขัดขืนที่จะใกล้ชิดกับเขา พวกเขาจะสนิททุกคืน และนอนกอดด้วยกัน ตลอดทั้งคืนหัวของนางไม่เคยหลุดจากแขนหรืออกของเขาเลยเมื่อเห็นท่าทางสับสนของนาง เป่าจูก็โกรธขึ้นมาอย่างผิดหวังและถามตรงๆ "คุณหนู ท่านอยากจะปฏิบัติต่อท่านอ๋องด้วยความเคารพและเป็นคู่รักที่สุภาพกันและกัน หรืออยากเป็นคู่รักที่มีความรักอย่างแท้จริง?""เป่าจู เจ้ากำลังทำให้เรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ไปหรือเปล่า?" ซ่งซีซีเอื้อมมือไปแตะหน้าผากนาง "เป็นอะไรไป เป็นไข้หรือเปล่า?"เป่าจูโกรธจัดและจ้องมองนาง "คุณหนูตอบสิ!"ซ่งซีซีเอียงศีรษะเล็กน้อย และมีผมสั้นไม่กี่เส้นอยู่บนขมับของนางซึ่งไม่สามารถกดทับเอาไว้ได้ และดูน่ารักเล็กน้อยภายใต้แสงพระอาทิตย์ "การเคารพซึ่งกันและกัน และการเป็นคู่รักที่รักใคร่กันต่างก็เอานี่ หรือว่าหากรักใคร่กันแล้วเขาก็จะไม่เคารพข้าหรือข้าจะไม่เคารพเขางั้นหรือ ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้นหรือ ไม่สามารถเอาทั้งสองหรือ?""เออ?" เป่าจูก็อึ้งไป เอาทั้งสองงั้นหรือ หาใช่ว่าไม่ได้ หลังจะชะงักไปชั่วคราวแล้วพูดว่า "แต่บางครั้งข้าน้อยรู้สึกว่าคุณหนูไม่ค่อยสนใจความรู้

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 647

    คดีของเหลียงเส้าเริ่มให้ตัดสินโทษแล้ว สิ่งแรกตัดสินท่านหญิงหยงอันกับเขาตัดขาดความสัมพันธ์เลย ไม่ไว้หน้าให้จวนเฉิงเอินป๋อแม้แต่น้อยประการที่สอง เขาทุบตีภรรยาของเขาจนทำให้ทารกในท้องตาย ยิ่งกว่านั้นหลานเอ่อร์ยังเป็นถึงท่านหญิงผู้สูงศักดิ์ บวกกับพระราชโองการที่ฮ่องเต้ออกให้ เฉินยี ผู้ตัดสินโทษแห่งหอต้าหลี่ได้ตัดสินให้เหลียงเส้าเนรเทศไปที่เมืองเฉียงโจวเป็นเวลาสิบปีและได้รับการดูแลโดยรัฐบาลเฉียงโจวให้เป็นนักโทษที่ทำหน้าที่ทำไร่คำตัดสินมีมีผลทันที ให้เดินทางในวันรุ่งขึ้น โดยไม่เปิดโอกาสให้ทางจวนเฉิงเอินป๋อไปอ้อนวอนใครอีกเลยแต่ทางเฉิงเอินป๋อไม่ได้วิงวอนอีกเลย เขาไปหาอ๋องเยี่ยน อ๋องเยี่ยนบอกเขาว่าเขาได้วิงวอนเพื่อครอบครัวของเขาต่อหน้าไทเฮาแล้ว ดังนั้นคราวนี้แค่ลงโทษเหลียงเส้าเท่านั้น จะไม่ถอนยศถาบรรดาศักดิ์ของพวกเขา และให้พวกเขาเลิกวุ่ยนวายอีก ไม่เช่นนั้นเรื่องจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้พวกเขาไม่กล้าบอกคุณนายใหญ่ว่าเหลียงเส้าถูกตัดสินให้เนรเทศ ตอนนี้คุณนายใหญ่รู้แค่ว่าเขาจะไม่ต้องทนทุกข์ทรมานในคุกเท่านั้น แต่นางไม่สามารถเจอหน้าเขา ยังไงก็กังวลอยู่ดี เพราะเขาเป็นเด็กที่นางรักที่สุดจนกระทั่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 648

    ดวงตาของเหลียงเส้าว่างเปล่า เขาถูกผลักไปสองก้าว และทันใดนั้นก็หันกลับมามองพ่อของเขา "ท่านพ่อ ถ้าท่านเห็นเยียนหลิว ลองถามนางว่าเคยจริงใจกับข้าบ้างไหม"เมื่อเฉิงเอินป๋อได้ยินคำพูดนี้ เขาตาพร่ามัว รู้แต่ว่ามีอะไรบางอย่างปิดในลำคอของเขา เขาเกือบจะหายใจไม่ออก เกิดมีอาการเซและล้มลงกับพื้นฮูหยินเฉิงเอินป๋อร้องไห้เสียงดัง ดึงดูดชาวบ้านมากมายล้อมรอบเข้ามาดูเดิมทีเรื่องระหว่างจวนเฉิงเอินป๋อกับจวนอ๋องฮวยได้สร้างความวุ่นวายจนทุกคนรู้หมด บัดนี้ชาวเมืองหลวงกำลังพูดถึงเรื่องนี้ ตอนนี้ทั้งสองคนนี้ คนหนึ่งนั่งอยู่บนพื้นส่วนอีกคนกำลังร้องไห้ ชาวบ้านชาวเมืองเพียงแต่ดูสนุกเฉยๆ เรื่องความสุขความทุกข์ของตระกูลชั้นสูง ชาวบ้านจะไม่เกิดความเห็นใจใดๆ แค่ให้พวกเขามีเรื่องสนุกๆ ให้นินทามากขึ้นก็เท่านั้นเมื่อสองสามีภรรยาเฉิงเอินป๋อกลับบ้าน พวกเขาได้ยินว่าคุณนายใหญ่เป็นลมและเป็นอัมพาตครึ่งซีก แม้ว่าจะรีบสั่งให้คนในจวนหุบปากและห้ามบอกคนนอกเกี่ยวกับเรื่องนี้เด็ดขาด แต่เรื่องที่คุณนายใหญ่ป่วยหนักเพราะเหลียงเส้ายังคงถูกแพร่กระจายออกไปอยู่ดี นี่จะทำให้เหลียงเส้าขึ้นชื่อเป็นคนอกตัญญูมาก แม้ว่าในอนาคตเขาจะกลับมาหลั

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 649

    อ๋องฮวยลดสายตาลงและไม่แสดงทีท่าไม่พอใจใดๆ แต่มือที่เขาวางอยู่ที่จับนั้นมีเส้นเลือดในมือของเขาปูดออกมาเล็กน้อย "เสด็จพี่พูดถูก""ทางหลานเอ่อร์เจ้าก็ไม่ต้องไปสนใจอีกเลย ลูกสาวของเจ้านี่เข้าข้างคนนอก บัดนี้นางยอมอยู่กับซ่งซีซีก็ไม่คิดจะกลับจวนอ๋องของพวกเจ้า ทอดทิ้งไปก็ไม่เสียดายหรอก"อ๋องฮวยไม่พูดอะไร แต่ดวงตาของเขาค่อยๆ เต็มไปด้วยความโกรธเมื่อเห็นเช่นนี้ อ๋องเยี่ยนก็เปลี่ยนเรื่อง "เอาล่ะ เรื่องของจวนเฉิงเอินป๋อได้ผ่านไปแล้ว ทางราชสำนักจะไม่ใช้ขุนนางที่อกตัญญู พวกเขาจบเห่แล้ว ที่ข้ามาครั้งนี้เพื่อมุ่งเป้ายี่ฝาง ข้าส่งคนไปลอบสังหารนางมาก่อน แต่ได้รับการช่วยเหลือจากซ่งซีซี และทำให้ข้าสูญเสียนักรบสิ้นหวังไปหลายคน""พี่สาม บัดนี้อยากจะฆ่ายี่ฝางมิใช่เรื่องง่ายแล้ว ฮ่องเต้ส่งกองกำลังหลวงไปเฝ้าจวนแม่ทัพ แม้ว่าพวกเขาจะแต่งกายด้วยชุดลำลอง แต่ข้าได้ตรวจสอบมา พวกเขาคือกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยเมืองหลวงจริงๆ"อ๋องฮวยยังกล่าวอีกว่า "อีกอย่างยี่ฝางคนนี้มีไหวพริบมาก และไม่เคยก้าวออกจากจวนแม่ทัพเลย""หากติดสินบนคนของจวนแม่ทัพเพื่อวางยาพิษล่ะ?" อ๋องเยี่ยนถามอ๋องฮวยกล่าวว่า "ลองมาแล้ว แต่ก็ไร้

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 650

    หลังจากได้ยินสิ่งนี้ อ๋องเยี่ยนก็ครุ่นคิดอยู่นาน "แต่มันยังสู้ไม่ได้ให้นางตายไปเลยอยู่ดี จากนั้นความผิดจะตกอยู่ที่ตระกูลเซียวโดยตรง ยี่ฝางคนนี้กลัวตายและเป็นเจ้าแผนการด้วย บวกกับนางเป็นคนร้ายกาจมาก เกรงว่าคำพูดของนางยากที่จะทำให้คนอื่นเชื่อใจได้ อีกอย่าง ตระกูลเซียวเฝ้าอยู่ชายแดนเฉิงหลิงมานานหลายปี ไม่เคยฆ่าสามัญชนแม้แต่คนเดียวเลย หากมีคนทุ่มเทความพยายามพูดเข้าข้างเขา งั้นเขาก็จะพ้นจากเรื่องนี้ไปได้"อ๋องฮวยกล่าวว่า "แต่จุดประสงค์ของเราไม่ใช่ทำลายตระกูลเซียว เราเพียงแต่ต้องให้ชายแดนเฉิงหลิงเปลี่ยนหัวหน้าเท่านั้น ตระกูลเซียวถอนตัวออกไปและจัดคนของเราให้ไปเฝ้าดูแลชายแดนเฉิงหลิง ตอนนี้หวังเบียวยังไม่ได้มาเป็นพวกกับเรา ดังนั้นชายแดนเฉิงหลิงเราต้องเอาชนะให้ได้ ตราบใดที่เราควบคุมกองทหารสำคัญในทั้งสองแห่ง หรือถ่วงเวลาจากสงคราม เราทำตามแผนการเดิมให้ชาวบ้านทุกที่ประท้วง เพื่อสร้างบรรยากาศที่ฮ่องเต้ทำให้ประชาชนไม่พอใจ งั้นนั่นก็จะเป็นเวลาที่ดีที่เราจะกบฏ"หลังจากที่เขาพูดจบ ก็แอบมองไปที่ใบหน้าขององค์หญิงใหญ่ขณะยกภ้วยชาขึ้นมา และได้เห็นร่องรอยของความบูดบึ้งบนใบหน้าของนางอย่างที่คาดไว้เสียงของอ

Latest chapter

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1606

    ผู้ใต้บัญชาทำงานรวดเร็วยิ่งนัก ตอนที่เขาลืมตาตื่น เครื่องทรมานก็ถูกขนเข้ามาเรียบร้อยแล้วเตาถ่านถูกตั้งขึ้น คีมเหล็กถูกเผาจนแดง แส้ที่เปื้อนเลือดฟาดกลางอากาศสองสามครั้ง เพี้ยะ เพี้ยะ ดังสะท้านใจหลิวเซิ่งถึงอย่างไรก็เคยฆ่าคนมาก่อน ใจคอจึงหนักแน่นแม้ยามเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ มิแม้แต่กระพริบตา กล่าวว่า “พวกเจ้าตั้งศาลเถื่อนเช่นนี้ ถือเป็นความผิดใหญ่หลวง พวกเจ้ายังมีขื่อมีแปหรือไม่?”คนบางประเภทก็มักเป็นเช่นนี้ คิดว่ากฎหมายใช้บังคับกับใครก็ได้ ยกเว้นตนเองตนกระทำผิด แต่กลับคิดใช้กฎหมายปกป้องตนกับคนประเภทนี้ ไม่จำเป็นต้องโต้แย้ง การโต้แย้งมีแต่จะยิ่งเปิดช่องให้เขาพูดจาไร้สาระมากขึ้นข้าหยิบคีมเหล็กที่ถูกเผาจนแดงก่ำหนีบเข้าที่แขนเขาทันที พอกดแน่นลงไป เสื้อก็ละลายจนเป็นรู เสียงเนื้อถูกไหม้ดัง ซี่ๆๆ…เสียงกรีดร้องโหยหวนดังลั่นไม่เป็นไร ที่นี่เป็นห้องใต้ดินลับ ต่อให้ร้องจนเสียงขาดหาย ก็ไม่มีผู้ใดได้ยินแม้กระดูกจะแข็งเพียงใด แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเครื่องทรมาน ก็ไร้ซึ่งพลังต่อต้านข้ายังมิทันได้เริ่มถอนเล็บ เขาก็สารภาพทุกสิ่งอย่างละเอียดทั้งสองครอบครัวสนิทกันจริง พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายร

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1605

    ข้ามองดูหลิวเซิ่งพูดยั่วยุนางไม่หยุด คล้ายจะจงใจยั่วยุให้นางคิดสั้น ไม่ได้มีเจตนาจะลงมือฆ่าเอง“ครอบครัวเจ้าตายหมดแล้ว เจ้ายังจะอยู่ต่อไปอย่างครึ่งคนครึ่งผี บ้าๆ บอๆ เช่นนี้อีกหรือ? เจ้าก็แค่สวะ ครอบครัวเจ้าก็เป็นสวะ! ยังจะกล้ามาหัวเราะเยาะข้าว่าสอบไม่ติดอีกหรือ? พวกเจ้ามันสมควรตายทั้งบ้าน เจ้าดูเชือกที่ห้องเก็บฟืนสิ ใช้มันแขวนคอตัวเองเสีย แล้วจะได้ไปอยู่กับครอบครัวเจ้า”“หากเจ้ายังไม่ตาย พวกเขาจะต้องตกนรกสิบแปดชั้น ถูกไฟเผาทุกวัน ถูกควักหัวใจ ถอนลิ้น เพราะพวกเจ้ามันใจดำอำมหิต ชอบใส่ร้ายป้ายสี นี่คือกรรมสนองที่สวรรค์ประทานให้ พวกทำชั่วไม่สมควรมีชีวิตอยู่”ข้ายิ่งฟังยิ่งโกรธจนแทบระเบิด คนทำชั่วคือเขาชัดๆ แต่กลับพลิกกลับความหมายเสียอย่างหน้าด้านๆแม่นางสุ่ยในยามนี้ก็บ้าเสียแล้ว หากถูกเขายั่วยุหนักเข้า ก็อาจคิดฆ่าตัวตายได้จริงๆข้าเปิดประตูพุ่งออกไป ห้องข้ากับห้องแม่นางสุ่ยอยู่ติดกัน พอข้าไปถึง หลิวเซิ่งยังไม่ทันตั้งตัว ยังปิดปากแม่นางสุ่ยอยู่เมื่อเห็นข้า แววตาเขาก็สั่นไหว รีบปล่อยมือทันทีแม่นางสุ่ยตกใจจนน้ำตาร่วง แต่นางไม่ได้ส่งเสียงร้อง แม้แต่เสียงสะอื้นก็ไม่มีข้าจ้องหน้าเขาแ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1604

    สุดท้ายข้าก็ทำได้เพียงลอบเฝ้าติดตามแม่นางสุ่ยในเงามืดข้าคิดว่า ฆาตกรที่ฆ่าล้างครอบครัวนาง ย่อมต้องมีแรงจูงใจเป็นแน่หากโหดเหี้ยมถึงเพียงนี้ ไม่เพราะรัก ก็ต้องเพราะแค้น หรือไม่ก็เพราะเงินทอง อย่างไรเสียย่อมต้องมีสักอย่างแม่นางสุ่ยยังมีชีวิตอยู่ แล้วฆาตกรจะสามารถหลบหนีไปได้อย่างสงบเช่นนั้นหรือ?มีความเป็นไปได้หรือไม่ว่า พอเรื่องราวเงียบไปแล้ว ฆาตกรจะย้อนกลับมาฆ่านางอีกครั้ง?การคาดคะเนนี้ดูจะมีเหตุผล แต่ประเด็นสำคัญคือ ข้าไม่อาจหาทิศทางอื่นได้อีกแล้วเถ้าแก่สวีเดิมทีจ้างแม่นมมาคอยดูแลแม่นางสุ่ย แต่แม่นางสุ่ยนั้นหวาดกลัวคนแปลกหน้าอย่างยิ่ง ดังนั้นเถ้าแก่สวีจึงได้แต่ขอร้องให้เพื่อนบ้านโดยรอบแวะเวียนมาดูบ้าง ส่งอาหารมาให้บ้างมารดาของหลิวเซิ่งจะมาทุกวันเว้นวัน เพื่ออาบน้ำล้างหน้าให้แม่นางสุ่ย คอยดูแลให้สะอาดเรียบร้อยข้าพบว่าตระกูลหลิวยังปฏิบัติต่อนางด้วยดี เพียงแต่หลิวเซิ่งผู้นั้นกลับไม่เคยมา หนึ่งคือเขาต้องกลับไปยังโรงเรียน สองคืออาจเพราะในใจก็ยังมีความคับแค้นอยู่บ้าง เพราะคำกล่าวหาของแม่นางสุ่ยที่ทำให้เขาต้องติดคุกอยู่ช่วงหนึ่งชายหนุ่มผู้เป็นบัณฑิตย่อมมีความเย่อหยิ่งในใจบ้าง

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1603

    ก่อนจะไปยังหนานเจียง ข้าไม่เคยมีแผนการใดในชีวิต ไม่มีเป้าหมาย ไม่เคยมีสิ่งใดที่อยากทำเป็นพิเศษเมื่อยึดหนานเจียงกลับคืนมาแล้วเดินทางกลับสู่เมืองหลวง เสียงโห่ร้องยินดีจากราษฎรทำให้ข้ารู้สึกว่า หากมนุษย์ใช้ชีวิตอย่างไร้จุดหมายไปวันๆ เช่นนั้นจะไม่สูญเปล่าหรือ?ข้าจึงเริ่มครุ่นคิดถึงความหมายของชีวิตจากการติดตามย่างก้าวของซีซี ข้าก็ได้ทำสิ่งต่างๆ มากมาย ตั้งแต่โรงงานช่างไปจนถึงสถาบันการศึกษาหย่าจวินหญิงมากหลายล้วนประสบชะตาน่าเวทนา และข้ามีความสามารถที่จะช่วยพวกนางได้ ข้าคิดว่า นี่คงเป็นหนึ่งในความหมายของชีวิตว่าเป็น “หนึ่ง” ก็หมายความว่ายังอาจมี “สอง” และ “สาม” ตามมาได้มิใช่ข้าจะโอ้อวดตนเอง แต่เนื้อแท้ของข้าคือคนที่ชังความชั่วโดยสันดานดังนั้น เมื่อได้ยินว่ามีฆาตกรฆ่าคนจำนวนมาก แต่กลับลอยนวลเพราะหลักฐานไม่เพียงพอ ไม่อาจเอาผิดได้ ข้าย่อมโกรธเคืองนัก ข้าเห็นว่า คนฆ่าย่อมต้องชดใช้ด้วยชีวิตแรกเริ่ม ข้าไม่ได้กระทำการอันใดหุนหันพลันแล่น เพียงแต่เดินตามแนวทางของสำนักเขตจิงจ้าว สืบสาวเรื่องราวต่อไป และส่งมอบหลักฐานที่ได้มาให้แก่เจ้ากรมแห่งสำนักเขตจิงจ้าวจนกระทั่งข้าได้พบกับคดีหนึ่งที

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1602

    ดอกเหมยบนภูเขาเหม่ยชานบานแล้ว ร่วงโรยแล้วเช่นกันในใจข้าย่อมอดเคืองนางไม่ได้ กลับบ้านไปแล้ว ก็จะทอดทิ้งพวกข้าด้วยหรือ? ไม่นึกถึงน้ำใจไมตรีที่มีต่อกันตลอดหลายปีมานี้เลยหรือ?เฉินเฉินก็ด่านางว่าไร้หัวใจ ไปก็แล้วไป ไยจึงไม่แม้แต่จะส่งจดหมายมาสักฉบับ?นานวันเข้าพวกข้าก็เลิกพูดถึงนางเสียเอง ราวกับว่าการไม่เอ่ยชื่อนางเลย คือการแก้แค้นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดต่อผู้ละทิ้งพวกข้าต่างก็ตกลงกันไว้ว่า หากนางกลับมายังภูเขาเหม่ยชานอีกครั้ง ไม่ว่าใครก็จะไม่ไปพบนาง ไม่พูดกับนางสักคำ แม้นางจะให้คนส่งจดหมายมา ข้าก็จะไม่ตอบกลับ แม้แต่จะอ่านยังไม่อ่านวันเวลาผ่านไปกลางดาบคมและเงาเย็น พวกข้าทุกคนต่างฝึกฝนวิชาให้แกร่งกล้า ราวกับได้ตกลงกันไว้แล้วว่า หากยังไม่ตาย ก็จะฝึกจนสุดกำลังแม้ไม่มีผู้ใดเอ่ยวาจา แต่ข้าย่อมรู้ว่าในใจของทุกคนคิดไม่ต่างกัน ย่อมไม่มีวันเป็น ‘นางที่ยิ้มแย้ม’ ได้อีกแล้ว เพราะเจ้าหวังห้าเล่าว่า ตั้งแต่นางจากเขาลงไป ท่านอาจารย์ก็ไม่เคยยิ้มอีกเลย มีแต่สีหน้าเคร่งเครียดทุกเมื่อเชื่อวันพวกข้าไม่รู้ว่านางประสบเรื่องราวใด แต่ข้าก็ฝึกฝนจนกล้าแข็ง เพียงรอวันที่นางต้องการข้า ดาบในมือย่อมพร้อมชักออกจา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1601

    เพียงแต่ ข้ากับซีซีพบกันแทบทุกวัน หากนางไม่มาหาข้าที่สถาบันชื่อเยียน ข้าก็จะไปหานางที่สำนักว่านซง ด้วยเหตุนี้ ข้าจึงยังคงได้พบหวังเยว่จางอยู่เสมอทว่า ทุกคราที่เขาเห็นข้า ก็จะส่งสายตาเคียดแค้นมาให้ ราวกับข้าเป็นผู้ล่วงเกินเขากระนั้นครั้งหนึ่งข้าทนไม่ไหว เอ่ยถามเขาว่าจะมองเขม่นข้าไปถึงไหน เขากลับว่าข้าเป็นคนแพร่ข่าวลือ ว่าเขาไปเที่ยวหอนางโลมข้าก็โกรธแทบขาดใจ! เขาประพฤติเสียเอง ไม่รู้จักสำนึก กลับมาโทษคนที่บริสุทธิ์ ข้าไม่ได้แพร่ข่าวลือเสียหน่อย!ข้าแค่เล่าเรื่องนี้ให้สหายสนิทของข้าฟัง แล้วจะนับว่าแพร่ข่าวลือได้อย่างไร?ข้าโมโหจนต่อยเขาไปหนึ่งหมัด แล้วก็ประกาศตัดขาดกับเขาเสียเลยต่อมา ซีซีกลับบ้าน ข้าคิดว่าไม่นานนางก็คงกลับมาเช่นเคย แต่ครานี้ นางกลับหายไปเนิ่นนาน มิได้กลับสำนักภูเขาเหม่ยชานอีกเลยข้าไปที่สำนักว่านซงเพื่อถามหา แต่มิมีผู้ใดยอมปริปากแม้แต่คนเดียวด้วยความร้อนใจ ข้าคิดจะพาเฉินเฉินกับมันโถวออกเดินทางไปเมืองหลวงตามหานาง ก่อนออกเดินทาง หวังเยว่จางก็มาหาเราครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่ข้าเห็นเขามีสีหน้าเคร่งขรึม เขาบอกพวกเราว่า ซีซีมีเรื่องในบ้าน บิดาและพี่ชายล้วนเสียชีวิ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1600

    แต่จะว่าไปแล้ว สตรีเช่นข้า ก็เป็นที่โปรดปรานของบุรุษไม่น้อยที่ภูเขาเหม่ยชาน มีบุรุษมากมายชื่นชอบข้า เด็กหนุ่มวัยกำลังขึ้นหนวดอ่อนส่งจดหมายรักให้ข้าเขินๆ อายๆ ส่งมาครั้งแล้วครั้งเล่าข้าก็ไม่เคยเปิดดู ต่อหน้าพวกเขาก็ฉีกมันทิ้งเสียเลยในเมื่อยามนั้น ข้ายังไม่ได้เข้าใจตรรกะของคำปฏิญาณที่ตนตั้งไว้ดีนัก ในใจก็ยังมีคำว่า "ไม่แต่ง" ขวางอยู่เต็มอกข้าฉีกจดหมายรักต่อหน้าพวกเขา ข้ารู้ว่าตนโหดร้าย แต่ขอโทษเถิด ในเมื่อข้าคือสตรีที่ตั้งใจว่าจะไม่ข้องเกี่ยวกับเรื่องรักใคร่ชั่วชีวิต ข้าย่อมต้องใจแข็ง ไม่ปล่อยให้พวกเขามีแม้แต่นิดเดียวของความหวังร้องไห้เสียในตอนนี้ ยังดีกว่าติดบ่วงในวันหน้า จนเจ็บปวดปานฉีกหัวใจแม้พวกเขาจะบอกหน้าตาเศร้าว่าให้ข้าช่วยส่งจดหมายรักให้ซ่งซีซีก็ตาม ข้าก็ไม่หวั่นไหวเลยแม้แต่น้อยหึๆ ยังไม่ทันได้เป็นบุรุษเต็มตัว ก็รู้จักใช้เล่ห์กลยั่วยวนหญิงเสียแล้วที่ภูเขาเหม่ยชาน เพื่อนเล่นที่ดีที่สุดของข้าก็คือพวกซีซี หมั่นโถว เฉินเฉิน และกุ้นเอ๋อร์อ้อ เคยมีอยู่ช่วงหนึ่ง ศิษย์พี่ใหญ่ของเฉินเฉินก็มาเล่นกับพวกเราด้วย แต่น่าเสียดาย ต่อมาเขาก็ลงเขาไปผดุงคุณธรรมเสียแล้ว แต่เฉินเฉินบ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1599

    ข้า...เสิ่นว่านจือคนดีคนเดิม ยังคงอยากจะบ่นอยู่ บ่นถึงบุรุษของข้าหวังเยว่จาง เจ้านี่ช่างสมกับเป็นบุตรของท่านฮูหยินผู้เฒ่าหวังเสียจริงก่อนแต่งงานเราก็ตกลงกันไว้ชัดเจนแล้วว่า ต่อแต่นี้ไปไม่ว่าข้าจะทำสิ่งใด เขาห้ามแทรกแซง ห้ามห้ามปราม และห้ามเข้าร่วมโดยเด็ดขาดผลสุดท้าย เพิ่งแต่งได้ปีเดียว เขาก็ฉีกสัญญาทิ้งหมดสิ้น จะทำด้วยทุกเรื่องตามข้าสิ่งที่ข้าทำนั้น เขาเกี่ยวข้องได้หรือ? ย่อมไม่ได้ สำนักว่านซงมีกฎเข้มงวด อีกทั้งยังมีอาจารย์อาผู้เหี้ยมโหดนั่งประจำอยู่ หากรู้ว่าข้าพาหวังเยว่จางไปตัดหัวคน เกรงว่าจะบดกระดูกข้าเป็นผุยผงไปแล้วแต่เขาว่า เดิมเขาก็เป็นคนในยุทธภพ คนในยุทธภพล้วนถือความสะใจเป็นใหญ่ ทั้งบุญคุณและความแค้น ไม่ว่าเป็นของผู้ใด ก็ล้วนต้องตอบแทนอีกทั้งเราทำอย่างลับๆ สถาบันว่านซงเหมินย่อมไม่รู้เรื่องแต่พี่ห้า ท่านเข้าสังกัดกรมกลาโหมไปแล้วนะ ท่านก็เป็นขุนนางแล้ว จะยังพูดเรื่องยุทธภพสะใจล้างแค้นอะไรอีกเล่า?สิ่งที่ข้าทำ แม้แต่ซ่งซีซีก็ยังไม่รู้ทั้งหมด หรือหากนางรู้ นางก็คงเลือกที่จะปิดหูปิดตาเสีย เพราะว่ามันขัดแย้งกับสถานะ เข้าใจหรือไม่?ข้า...เสิ่นว่านจือ ไม่ย่างกรายเข้าสู่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1598

    บางครั้งข้าก็สอนศิษย์ทั้งหลายให้กล้าเผชิญหน้ากับชีวิต กล้าเผชิญหน้ากับความผิดพลาด แต่ตัวข้าเองกลับมิอาจกระทำได้เช่นนั้นหลายปีมานี้ ข้าแทบไม่ได้พบหน้าเขาเลย หากรู้ว่าเขาจะไปที่ใด ข้าย่อมหลีกเลี่ยงไม่ไปเมื่อครั้งที่ข้ายังดื้อดึงอยู่ เคยถูกพี่สะใภ้ตำหนิว่าข้ายังติดหนี้เจ้าสิบเอ็ดฝางอยู่ แต่ในใจข้ากลับไม่ยอมรับนัก ยังรู้สึกน้อยใจอยู่บ้างแต่ตอนนี้เมื่อคิดย้อนกลับไป ข้าน้อยใจไปเพื่ออะไรเล่า? ใครเป็นคนที่ติดหนี้ข้ากัน? ฟ้าดินเมตตาข้าไม่มากพอแล้วหรือ? ทุกสิ่งล้วนเป็นผลจากการกระทำของข้าเองทั้งสิ้นหลายครา ข้าเปิดกระดาษเขียนจดหมาย ตั้งใจจะเขียนถึงเขาเพื่อขอขมาจากใจจริงแต่ยามจับพู่กันลงหมึก พอหมึกหยดลงกระดาษกลับเขียนไม่ออกแม้แต่คำเดียวข้ากลัวว่าจดหมายขอขมานั้นจะดูแปลกประหลาดเกินไป ทำให้ภรรยาของเขาระแวง หรือแม้แต่ทำให้จ้านเป่ยว่างคิดมากแม้ว่าตอนนี้ ข้ากับจ้านเป่ยว่างจะมิได้เป็นสามีภรรยากันจริงๆ แล้วก็ตาม แต่ข้าก็ไม่ต้องการทำลายความสงบเช่นนี้ระหว่างนั้น จ้านเป่ยว่างเคยกลับมาสองสามครั้ง อาจเพราะเห็นกองกระดาษที่ถูกขยำทิ้งในห้องหนังสือของข้า เขาจึงสั่งให้เตรียมเหล้าหนึ่งเหยือก กับกับข้า

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status