แชร์

บทที่ 360

ผู้เขียน: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
หัวหน้าลู่สั่งให้องครักษ์สองคนเข้าไปทันที และทำท่าจะจับหัวหน้าจ้าวไปที่สำนักรัฐ

หัวหน้าจ้าวตกใจกลัว และตะโกนว่า "พระชายาท่านอ๋องทรงไว้ชีวิตข้าน้อยขอรับ นี่ไม่ใช่เจตนาของข้าน้อย นี่เป็นความคิดของท่านหญิงเจียอี้ นางเป็นคนสั่งให้ข้าน้อยทำสมุดบัญชีเหล่านี้เพื่อหลอกลวงไทเฟยขอรับ"

"อะไรนะ?" สนมฮุ่ยไทเฟยโกรธมากจนทุบถ้วยลงกับพื้น "เจียอี้นำสมุดบัญชีปลอมมาหลอกข้าด้วยหรือ"

ซ่งซีซีขยับมือ และพูดตัดหน้าสนมฮุ่ยไทเฟย "ในเมื่อสมุดบัญชีก่อนหน้านี้ล้วนเป็นของปลอม ดังนั้นจึงต้องมีสมุดบัญชีจริง"

หัวหน้าจ้าวถูกองครักษ์จับตัวไว้ และแขนของเขาก็เจ็บราวกับจะหักเอาอยู่แล้ว เขาไม่กล้าโกหกอีกต่อไป และพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า "มีขอรับ มีขอรับ"

เนื่องจากซ่งซีซีต้องการกลับบ้านวันนี้ นางจึงไม่อยากเสียเวลากับเขา เรียกหัวหน้าลู่เข้ามา "รบกวนเจ้าพาสองคนไปร้านจินพร้อมกับเขา เพื่อนำสมุดบัญชีทั้งหมดที่ผ่านๆ มากลับมา แล้วมอบให้กับนักบัญชีของเราคอยตรวจสอบอย่างละเอียด จำเป็นต้องตรวจสอบในแน่ใจว่าสมุดบัญชีเป็นของแท้หรือไม่ หากยังกล้าที่จะกระทำการฉ้อโกง เจ้าไม่จำเป็นต้องกลับมารายงาน เพียงแค่ส่งบุคคลนั้นไปที่สำนักเขตจิงจ้าวโด
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Tiwapon Prasertsarn
ศิษย์พี่แต่ละคนช่วยแบ่งการลงโทษ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 361

    เซี่ยหลูโม่กำลังคิดถึงเรื่องสถาบันว่านซงเหมินในขณะจัดเก็บของขวัญแน่นอนว่าเขาดีใจที่ซีซีมีคนปกป้องนางมากมาย แต่เขาก็ต้องการให้ศิษย์ลุงและคนอื่นๆ รู้ว่า ตอนนี้ซีซีมีเขาคอยปกป้องแล้ว ไม่ได้เป็นห่วงอีกเลยสิ่งที่สำคัญที่สุดคือวันนี้เขาต้องพูดสิ่งหนึ่งกับศิษย์ลุง นั่นคือเขาจะคอยเตือนให้ซีซีเขียนจดหมายอย่างน้อยสองฉบับกลับไปหาอาจารย์ในหนึ่งเดือนอีกอย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีใจหรือเลวร้าย ล้วนต้องแจ้งให้คนของสถาบั้นทราบโดยไม่จำเป็นต้องให้พวกเขาเสียแรงกายแรงใจมาสอบถามหลังจากจัดของขวัญสามรถเต็มๆแล้ว ก็เห็นซ่งซีซีพารุ่ยเอ๋อร์และเป่าจูออกมาใบหน้าของซีซีสงบและนิ่งเงียบ นางสวมชุดสีม่วงทำให้ผิวของนางดูกระจ่างใสขึ้น ที่ผมมีที่ปักผมทรงดอกโบตั๋นสองอัน แต่นางก็ดูสวยกว่าดอกไม้เสียอีกเมื่อนึกถึงเมื่อคืน เขารู้สึกว่าเลือดในร่างกายของเขาพุ่งไปที่จุดเดียว และดวงตาของเขาก็เผยสายตาอย่างมีเลศนัยซ่งซีซีเงยหน้าขึ้นมอง เห็นดวงตาและสีหน้าของเขา สองคื่นแล้ว นางจำสายตานี้ได้สองคืนที่ผ่านมา เขาเป็นเหมือนเด็กทารกที่กินนมไปครั้งแรก จากนั้นก็เข้าสู่ภาวะที่ไม่สามารถหยุดได้ แทบจะเรียกร้องอย่างไม่หยุดยั้งแก้มข

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 362

    "อ๊า?" เซี่ยหลูโม่สะดุ้งครู่หนึ่ง จากนั้นดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสุข "เจ้าเป็นห่วงข้าถูกอาจารย์ลงโทษ เจ้ากำลังเป็นห่วงข้าหรือ""ข้าเป็นห่วงท่านอยู่แล้วนี่ ท่านไม่เคยได้รับความเจ็บจากหมัดแข็งๆ ของศิษย์อาเหรอ?" ซ่งซีซีเลิกคิ้ว"อืม ไม่ค่อยถูกทุบตีมากนัก" เซี่ยหลูโม่คิดถึงเวลาที่เขาในสถาบัน พูดตามตรง ปีหนึ่งก็อยู่ได้ไม่ถึงหนึ่งเดือน หาใช่ว่าไม่เคยถูกทุบตี แต่นี่เกี่ยวกับศักดิ์ศรี แม้ว่าเขาจะถูกทุบตี แต่ก็ไม่สามารถบอกได้"ท่านประพฤติตัวดีมาตลอดเหรอ" ซ่งซีซีถามอย่างสงสัย ในสถาบันว่านซงเหมิน แม้แต่ศิษย์พี่ใหญ่ยังถูกลงโทษมาก่อน เขาจะประพฤติตัวดีกว่าศิษย์พี่อีกด้วยเหรอเซี่ยหลูโม่หันศีรษะและคิดอยู่ครู่หนึ่ง "หลักๆ ก็คือตอนที่ข้าไปสถาบันว่านซงเหมิน พวกเจ้าก็ไม่มาเล่นกับข้า ข้าได้แต่ฝึกฝนอย่างขยันขันแข็งเท่านั้น อาจารย์เลยพอใจกับข้ามาก"ซ่งซีซีอดไม่ได้ที่จะมองดูเขาด้วยความชื่นชม ในฐานะศิษย์หลานอย่างพวกเขาล้วนถูกศิษย์อาลงโทษมา แต่เขาซึ่งเป็นลูกศิษย์โดยตรงกลับไม่เคยถูกลงโทษเลยไม่น่าแปลกใจเลยที่เขามทักษะการต่อสู้เก่งเช่นนั้น เขาโดดเด่นมากทีเดียวจริงๆในความเห็นนาง ผู้ที่อยู่ในสถาบันว่านซงเ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 363

    เซี่ยหลูโม่และซ่งซีซีได้ไหว้กับอาจารย์ ศิษย์อา และพวกศิษย์พี่ตามลำอับดวงตาเล็กๆ ของศิษย์อาหรี่ตาลง มันมองไม่ออกจริงๆ ว่าเขาลืมตาอยู่หรือว่าหลับตาไว้ แต่ซ่งซีซีรู้ดีว่า ศิษย์อาในสภาพแบบนี้น่ากลัวที่สุด เพราะเขากำลังจับจ้องเจ้าอยู่ว่าได้ทำผิดอะไรหรือไม่ดังนั้น ซ่งซีซีจึงกราบไหว้อย่างจริงจังและออกแรงพอเหมาะ ยังสามารถได้ยินเสียง "ตงตง" และเสียงดังก้องมาก การกราบไหว้โดยใช้หัวจรดพื้นนั้นก็ถือว่าผ่านเกณฑ์ซ่งซีซีเคยได้รับการฝึกวิธีการการบไหว้ด้วยศิษย์อา เพราะเมื่อนางกราบไหว้ให้อาจารย์นั้น ไหว้อย่างขอไปทีมากคืนที่นางได้รับการฝึกฝนนั้น ศีรษะของนางแตะกับพื้นจนเวียนหัวและหน้าผากก็มีเลือดออก จนถึงเช่นนั้น ศิษย์อาถึงลืมตาขึ้นเล็กน้อยแล้วยกมือยอมปล่อยให้นางไปนางถึงขั้นเดินเองไม่ได้ สุดท้ายเป็นศิษย์พี่สาวรองที่ให้นางขี่หลังตนเองกลับห้องเมื่อนึกย้อนกลับไปในอดีต ช่างสงสารจริงๆเมื่อนางทำการกราบไหว้โดยเอาหัวจรดที่พื้นนั้น กลับพบว่าเซี่ยหลูโม่แค่โค้งคำนับให้อาจารย์และคนอื่นๆ และเพียงกราบไหว้ให้กับศิษย์อาเท่านั้น ยิ่งไปกว่าการเอาหัวแตะพื้นนั้นไม่มีเสียงอะไรเลย นี่มันไม่ผ่านเลยแย่แล้ว... ซ่งซ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 364

    เหรินหยางอวิ๋นได้ยินคำตอบของนางอย่างว่าง่าย จากนั้นจึงยื่นมือออกไปเรียกนางว่า "มาหาอาจารย์"ซ่งซีซีเดินเข้าไปอย่างเชื่อฟัง และอาจารย์ก็ยื่นมือออกไปแล้วเคาะที่ปลายจมูกของนางซ่งซีซีคร่ำครวญว่า "อาจารย์ มันเจ็บนะ""การลงโทษ!" เหรินหยางอวิ๋นกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง "ใครใช้ให้เจ้าพอเจอเรื่องเข้าไม่ยอมบอก นี่ถือว่าลงโทษเบาแล้วนะ"ดวงตาของซ่งซีซีฉายแววด้วยความโศกเศร้า แต่ไม่นานนักก็ถูกปกปิดกลับไป "ข้ารู้แล้ว จะไม่ทำอีก"แน่นอนว่าเหรินหยางอวิ๋นจะไม่เพิกเฉยต่อสีหน้าของนาง และถอนหายใจในใจ ลูกศิษย์ตัวน้อยของเขาผ่านเรื่องพวกนั้น มันต้องห้ามคิด พอคิดแล้วก็ทำให้เขาใจหายเลยนางจับมือนาง ให้นางนั่งข้างเขาแล้วพูดว่า "นิสัยใจคอของเซี่ยหลูโม่ดีกว่าจ้านเป่ยว่างตั้งไม่รู้กี่เท่า ข้าเชื่อว่าเขาจะไม่ทำให้เจ้าผิดหวังหรือปฏิบัติต่อเจ้าไม่ดี แต่โลกนี้ก็ไม่แน่นอน และใจคนก็เช่นกัน เมื่อก่อนเขาชอบเจ้า เมื่อเขาไม่ได้เจ้าก็คิดถึงเจ้า บัดนี้ได้แต่งงานกับเจ้าตามที่เขาปรารถนาแล้ว ก็ไม่รับประกันว่าเขาจะไม่เบื่อและไปชอบคนใหม่เข้า ผู้ชายไว้ใจไม่ได้สักคนเลย ดังนั้นหากเจ้าชอบเขา ก็ไม่สามารถเปิดใจให้เขาได้อย่างทั้งหมด เ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 365

    ผิงหวูจูงปาดน้ำตาออก "ศิษย์พี่ไม่จากไป ศิษย์พี่จะอยู่ในเมืองหลวงเป็นเพื่อนเจ้า อยู่ในจวนเสนาบดีกั๋วกง เมื่อใดก็ตามที่เจ้าคิดถึงศิษย์พี่ ก็กลับมาจวนเสนาบดีกั๋วกงมาเยี่ยมข้า""เราจะอยู่ด้วย!" เมื่อได้ยินศิษย์พี่สาวรองพูดแบบนั้น ทุกคนก็พูดตามๆ ไปซ่งซีซีซุกตัวเข้าไปในอ้อมแขนของศิษย์พี่สาวรอง นานมากแล้วที่นางไม่ได้รู้สึกปลอดภัยเหมือนตอนนี้เลยนางอยากจะร้องไห้ และอาลัยอาวรณ์ไม่อยากให้พวกเขาไปแต่อาจารย์พูดด้วยสีหน้าเย็นชาว่า "เจ้าจะอยู่กับนางไปตลอดชีวิตหรือไง? ทุกคนต้องใช้ชีวิตของตัวเอง นอกจากนี้ เมืองหลวงแห่งนี้เป็นสถานที่ที่อยู่ได้อย่างง่ายๆ หรือ ต่อให้มันอยู่ได้ง่าย ก็ไม่ใช่สถานที่ที่คนของสถาบันว่านซงเหมินของเราจะอยู่อย่างถาวร"เหรินหยางอวิ๋นไม่ชอบเมืองหลวง และเขาก็ไม่มีความประทับใจที่ดีต่อผู้คนในราชวงศ์ แต่นิสัยใจคอของเซี่ยหลูโม่ดีอย่างไม่ต้องสงสัย ทั้งยังยึดเขตหนานเจียงกลับมาและทำให้ดินแดนของประเทศได้สมบูรณ์ ดังนั้นเขาจึงยอมรับเขา แต่ใจคนจะเปลี่ยนไปหรือไม่นั้น ยังต้องใช้เวลามาพิสูจน์ในตอนนั้น แต่เดิมเซี่ยหลูโม่อยากเป็นลูกศิษย์ของเขา แต่เขาไม่ต้องการยอมรับคนจากราชวงศ์ แต่ไม่รู้ว่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 366

    ดวงตาของซ่งซีซีร้อนขึ้นมา อาจารย์ อาจารย์ต้องการพารุ่ยเอ๋อร์กลับไปที่ภูเขาเหม่ยชานงั้นเหรอ?เหรินหยางอวิ๋นมองไปที่รุ่ยเอ๋อร์ และพูดอย่างมีเลศนัยว่า "ทำไมเจ้าถึงอยากฝึกทักษะการต่อสู้ให้ดีล่ะ""ปกป้องท่านอาของข้า" รุ่ยเอ๋อร์พูดเสียงดัง หลังจากหยุดชั่วคราว เขารู้สึกว่าตนเองมองโลกยังไม่ไกล "เช่นเดียวกับท่านปู่และท่านพ่อของข้า เข้าสู่สนามรบเพื่อปกป้องบ้านเมือง และปกป้องอาณาเขต"เหรินหยางอวิ๋นยิ้ม "ดีๆๆ อายุยังเด็ก แต่กลับมีความฝันที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ แต่การเป็นวีรบุรุษต้องทนต้องอดทนต่อความยากลำบาก เจ้าทำได้ไหม""ข้าทำได้!" รุ่ยเอ๋อร์ยืดอกของเขาให้ตรงและพูดเสียงดัง แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าทำไมซือกงถึงถามเช่นนี้ แต่การตอบเสียงดังย่อมไม่ผิดอย่างไรก็ตาม เขาได้อดทนต่อความยากลำบากทุกรูปแบบแล้ว"ถ้าต้องให้เจ้าแยกจากไปกับท่านอาของเจ้าล่ะ เจ้าก็ทำได้ไหม?" เหรินหยางอวิ๋นถาม"ข้าทำได้...อ๊า!" รุ่ยเอ๋อร์ถอยออกไปสองก้าวทันทีและส่ายหัวโดยไม่รู้ตัว "ไม่ ข้าจะไม่ออกไปจากท่านอาของข้า"ซ่งซีซีก็อาลัยอาวรณ์รุ่ยเอ๋อร์ บัดนี้เขาเป็นบุรุษคนเดียวในตระกูลซ่งแล้ว"อาจารย์ หากเขาต้องการเรียน ข้าจะสอนทักษะการต่อส

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 367

    บนรถม้า เซี่ยหลูโม่บอกกับซ่งซีซีเรื่องที่ศิษย์พี่สาวพูดกับเขาเมื่อกี้ซ่งซีซีเอาศีรษะพิงไหล่ของเขา กลั้นน้ำตาไว้เป็นเวลานาน แต่สุดท้ายก็ยังอดไม่ได้เซี่ยหลูโม่กอดนาง และวางคางบนหน้าผากของนาง "ศิษย์พี่สาวปฏิบัติต่อเจ้าเหมือนน้องสาวแท้ๆของนางเองจริงๆ""อืม ตอนที่ข้าไปที่สถาบันว่านซงเหมิน ส่วนมากเป็นศิษย์พี่สอนข้า นางเอ็นดูข้า เอ็นดูมากเลย"เซี่ยหลูโม่คิดในใจ มีผู้ใดหรือที่อยู่สถาบันว่านซงเหมินจะไม่เอ็นดูนาง? แม้ว่าตอนที่อาจารย์พูดคุยกับเขาอยู่ที่ห้องโถงด้านข้าง เขาก็กำชับตนเองต้องปฏิบัติต่อซ่งซีซีที่เป็นเด็ดซนอย่างดีอาจารย์แสดงสีหน้าเห็นอกเห็นใจอย่างที่ยากจะเห็น เขาพูดถึงครอบครัวของพ่อตา แววตาของเขาเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและความเสียใจทุกคนในโลกนี้ต่างรู้สึกซาบซึ้งกับความทุ่มเทและความเสียสละของบุรุษจากจวนเสนาบดีกั๋วกงที่เพื่อประเทศชาติซ่งซีซีปาดน้ำตาแล้วถามว่า "กุ้นเอ๋อร์จะอยู่ในเมืองหลวงต่อ ท่านมีงานอะไรให้เขาทำบ้างไหม เขาไม่อยากกลับไปอยู่กองทัพ"เซี่ยหลูโม่กล่าวว่า "ง่ายมาก เชื้อพระวงศ์สามารถมีทหารประจำจวนห้าร้อยคน ข้ายังไม่ได้ก่อตั้งหน่วยนี้เลย งั้นให้เขาเป็นผู้นำ แล้วค่อยหาค

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 368

    ก่อนอื่นนางไปหาหัวหน้าลู่ เพื่อเข้าใจภาพรวมของสถานการณ์ และการกระทำทางฝั่งร้านจิน หัวหน้าลู่ให้นางวางใจ หัวหน้าจ้าวถูกควบคุมตัวเอาไว้ และร้านจินก็ส่งคนจับตาดูว่ามีใครจะออกไป รายงานข่าวหรือไม่ซ่งซีซีเดินไปยังห้องบัญชีด้วยความวางใจสนมฮุ่ยไทเฟยยังตรวจสอบบัญชีไม่เสร็จ แต่ทุกคนในห้องบัญชีก็คุกเข่าลงด้วยความกลัวพื้นที่ไม่เป็นระเบียบ และทุกสิ่งที่สามารถโยนทิ้งบนโต๊ะก็ถูก นางโยนทิ้งไปหมด ยกเว้นสมุดบัญชี และนางยังทุบถ้วยชาไปสองสามใบด้วยซ้ำผมของสนมฮุ่ยไทเฟยยุ่งเหยิงและใบหน้าของนางซีดเผือด เมื่อนางเห็นซ่งซีซีกลับมา ความคับข้องใจและความอัปยศอดสูของนางก็ถึงจุดสูงสุด จากนั้นก็ร้องห่มร้องไห้ออกมา "พวกเขารังแกข้า!"ซ่งซีซีเข้าไปแล้วพูดกับทุกคน "พวกเจ้าลุกขึ้นก่อน นอกจากนักบัญชี คนอื่นๆ ก็ออกไปทั้งนั้น รวมถึงแม่นมเกาด้วย"ที่จวนอ๋องมีนักบัญชีหลายคน ยังมีหัวหน้าบัญชีหนึ่งคน ตอนนี้ล้วนคุกเข่าลงบนพื้นพลางตัวสั่น พวกเขาไม่เคยเห็นไทเฟยที่โกรธเกรี้ยวขนาดนี้มาก่อนคนรับใช้ที่เข้ามารับใช้นั้นต่างก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก จากนั้นลุกขึ้นยืนและทำการไหว้ก่อนออกไปหัวหน้าจ้าวที่ยังคงคุกเข่าอยู่บนพื้นนั้น

บทล่าสุด

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1600

    แต่จะว่าไปแล้ว สตรีเช่นข้า ก็เป็นที่โปรดปรานของบุรุษไม่น้อยที่ภูเขาเหม่ยชาน มีบุรุษมากมายชื่นชอบข้า เด็กหนุ่มวัยกำลังขึ้นหนวดอ่อนส่งจดหมายรักให้ข้าเขินๆ อายๆ ส่งมาครั้งแล้วครั้งเล่าข้าก็ไม่เคยเปิดดู ต่อหน้าพวกเขาก็ฉีกมันทิ้งเสียเลยในเมื่อยามนั้น ข้ายังไม่ได้เข้าใจตรรกะของคำปฏิญาณที่ตนตั้งไว้ดีนัก ในใจก็ยังมีคำว่า "ไม่แต่ง" ขวางอยู่เต็มอกข้าฉีกจดหมายรักต่อหน้าพวกเขา ข้ารู้ว่าตนโหดร้าย แต่ขอโทษเถิด ในเมื่อข้าคือสตรีที่ตั้งใจว่าจะไม่ข้องเกี่ยวกับเรื่องรักใคร่ชั่วชีวิต ข้าย่อมต้องใจแข็ง ไม่ปล่อยให้พวกเขามีแม้แต่นิดเดียวของความหวังร้องไห้เสียในตอนนี้ ยังดีกว่าติดบ่วงในวันหน้า จนเจ็บปวดปานฉีกหัวใจแม้พวกเขาจะบอกหน้าตาเศร้าว่าให้ข้าช่วยส่งจดหมายรักให้ซ่งซีซีก็ตาม ข้าก็ไม่หวั่นไหวเลยแม้แต่น้อยหึๆ ยังไม่ทันได้เป็นบุรุษเต็มตัว ก็รู้จักใช้เล่ห์กลยั่วยวนหญิงเสียแล้วที่ภูเขาเหม่ยชาน เพื่อนเล่นที่ดีที่สุดของข้าก็คือพวกซีซี หมั่นโถว เฉินเฉิน และกุ้นเอ๋อร์อ้อ เคยมีอยู่ช่วงหนึ่ง ศิษย์พี่ใหญ่ของเฉินเฉินก็มาเล่นกับพวกเราด้วย แต่น่าเสียดาย ต่อมาเขาก็ลงเขาไปผดุงคุณธรรมเสียแล้ว แต่เฉินเฉินบ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1599

    ข้า...เสิ่นว่านจือคนดีคนเดิม ยังคงอยากจะบ่นอยู่ บ่นถึงบุรุษของข้าหวังเยว่จาง เจ้านี่ช่างสมกับเป็นบุตรของท่านฮูหยินผู้เฒ่าหวังเสียจริงก่อนแต่งงานเราก็ตกลงกันไว้ชัดเจนแล้วว่า ต่อแต่นี้ไปไม่ว่าข้าจะทำสิ่งใด เขาห้ามแทรกแซง ห้ามห้ามปราม และห้ามเข้าร่วมโดยเด็ดขาดผลสุดท้าย เพิ่งแต่งได้ปีเดียว เขาก็ฉีกสัญญาทิ้งหมดสิ้น จะทำด้วยทุกเรื่องตามข้าสิ่งที่ข้าทำนั้น เขาเกี่ยวข้องได้หรือ? ย่อมไม่ได้ สำนักว่านซงมีกฎเข้มงวด อีกทั้งยังมีอาจารย์อาผู้เหี้ยมโหดนั่งประจำอยู่ หากรู้ว่าข้าพาหวังเยว่จางไปตัดหัวคน เกรงว่าจะบดกระดูกข้าเป็นผุยผงไปแล้วแต่เขาว่า เดิมเขาก็เป็นคนในยุทธภพ คนในยุทธภพล้วนถือความสะใจเป็นใหญ่ ทั้งบุญคุณและความแค้น ไม่ว่าเป็นของผู้ใด ก็ล้วนต้องตอบแทนอีกทั้งเราทำอย่างลับๆ สถาบันว่านซงเหมินย่อมไม่รู้เรื่องแต่พี่ห้า ท่านเข้าสังกัดกรมกลาโหมไปแล้วนะ ท่านก็เป็นขุนนางแล้ว จะยังพูดเรื่องยุทธภพสะใจล้างแค้นอะไรอีกเล่า?สิ่งที่ข้าทำ แม้แต่ซ่งซีซีก็ยังไม่รู้ทั้งหมด หรือหากนางรู้ นางก็คงเลือกที่จะปิดหูปิดตาเสีย เพราะว่ามันขัดแย้งกับสถานะ เข้าใจหรือไม่?ข้า...เสิ่นว่านจือ ไม่ย่างกรายเข้าสู่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1598

    บางครั้งข้าก็สอนศิษย์ทั้งหลายให้กล้าเผชิญหน้ากับชีวิต กล้าเผชิญหน้ากับความผิดพลาด แต่ตัวข้าเองกลับมิอาจกระทำได้เช่นนั้นหลายปีมานี้ ข้าแทบไม่ได้พบหน้าเขาเลย หากรู้ว่าเขาจะไปที่ใด ข้าย่อมหลีกเลี่ยงไม่ไปเมื่อครั้งที่ข้ายังดื้อดึงอยู่ เคยถูกพี่สะใภ้ตำหนิว่าข้ายังติดหนี้เจ้าสิบเอ็ดฝางอยู่ แต่ในใจข้ากลับไม่ยอมรับนัก ยังรู้สึกน้อยใจอยู่บ้างแต่ตอนนี้เมื่อคิดย้อนกลับไป ข้าน้อยใจไปเพื่ออะไรเล่า? ใครเป็นคนที่ติดหนี้ข้ากัน? ฟ้าดินเมตตาข้าไม่มากพอแล้วหรือ? ทุกสิ่งล้วนเป็นผลจากการกระทำของข้าเองทั้งสิ้นหลายครา ข้าเปิดกระดาษเขียนจดหมาย ตั้งใจจะเขียนถึงเขาเพื่อขอขมาจากใจจริงแต่ยามจับพู่กันลงหมึก พอหมึกหยดลงกระดาษกลับเขียนไม่ออกแม้แต่คำเดียวข้ากลัวว่าจดหมายขอขมานั้นจะดูแปลกประหลาดเกินไป ทำให้ภรรยาของเขาระแวง หรือแม้แต่ทำให้จ้านเป่ยว่างคิดมากแม้ว่าตอนนี้ ข้ากับจ้านเป่ยว่างจะมิได้เป็นสามีภรรยากันจริงๆ แล้วก็ตาม แต่ข้าก็ไม่ต้องการทำลายความสงบเช่นนี้ระหว่างนั้น จ้านเป่ยว่างเคยกลับมาสองสามครั้ง อาจเพราะเห็นกองกระดาษที่ถูกขยำทิ้งในห้องหนังสือของข้า เขาจึงสั่งให้เตรียมเหล้าหนึ่งเหยือก กับกับข้า

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1597

    ข้ามาอยู่ชายแดนเฉิงหลิงได้หนึ่งเดือนแล้ว ก็กำลังครุ่นคิดว่าจะทำสิ่งใดดีในนามแล้ว ข้าคือภรรยาของจ้านเป่ยว่าง ทว่าความสัมพันธ์ระหว่างเรากลับมีน้อยนัก เขามักพำนักอยู่ในค่ายทหาร มีเพียงบางครั้งที่กลับมามองข้าสองสามตาด้วยเหตุนี้ ข้าจึงมีเวลาว่างมากมาย พอจะทำกิจการเล็กๆ ได้ชายแดนเฉิงหลิงนั้นต่างจากที่ข้าคาดไว้เล็กน้อย เดิมทีข้าคิดว่าดินแดนชายขอบย่อมแร้นแค้น ขาดแคลนสิ่งของ แต่เหนือความคาดหมาย ที่นี่แทบจะมีทุกอย่างขาย ยกเว้นเพียงเครื่องประดับล้ำค่าและผ้าไหมชั้นดีจากแคว้นสู่เท่านั้นสิ่งเหล่านี้ก็หาใช่ว่าไม่มีไม่ เพียงแต่ว่าหลังจากพ่อค้าเดินทางนำมาถึงแล้ว ก็มักเก็บไว้รอส่งไปขายแก่พวกขุนนางมั่งคั่งในซีจิงชาวบ้านที่ชายแดนเฉิงหลิงซื้อเครื่องประดับเพียงเพื่อความสวยงาม ไม่ได้ใส่ใจว่าล้ำค่าหรือไม่ข้ากำลังตรองว่าจะค้าขายสิ่งใดดี เพียงแต่ไม่ว่าคิดจะค้าขายอะไร สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือต้องซื้อร้านก่อนมิใช่หรือ?ดังนั้น ข้าจึงพาบ่าวชายและสาวใช้เดินไปตามตรอกซอกซอย ค้นหาร้านค้าที่เหมาะสมการมาครั้งนี้ พี่สะใภ้ใหญ่ให้เงินติดตัวข้ามาด้วย พี่สะใภ้รองกับว่านจือก็ให้มาบ้าง รวมกับเงินที่ข้าเก็บไว้เอง ที

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1596

    นายท่านป๋ออันถูกหวังเยว่จางเหน็บแนมอยู่ไม่น้อย ท้ายที่สุดก็ยอมปล่อยเส้าหมิ่นออกมา ให้เส้าหมิ่นไปขอความเห็นใจ ถึงได้ช่วยชีวิตคุณชายเส้าเอาไว้เรื่องราวคลี่คลาย พวกเขาก็กล่าวขอบคุณหวังเยว่จางอย่างสุดซึ้ง แม้จะรู้ว่าถูกจงใจบีบไว้ แต่จะทำเช่นไรได้เล่า ใครใช้ให้บุตรชายของตนประพฤติผิด ไร้คุณธรรม ถูกจับได้คาหนังคาเขาเล่า?เส้าหมิ่นรู้ว่ามารดาของตนเคยกลั่นแกล้งเสี่ยวอวี่ เขาจึงอดทนไว้ก่อน รอจนแต่งงานแล้วจึงกล่าวขอแยกเรือนทันทีเขามิได้ทะเลาะกับทางบ้าน เพราะราชสำนักแคว้นซางสอบคุณธรรมข้าราชการเป็นสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณธรรมแห่งความกตัญญู หากมีตราบาปว่าอกตัญญู วันหน้าอย่าหวังจะยืนหยัดในวงราชการเหตุผลที่เขาขอแยกเรือนก็สมเหตุสมผล กล่าวว่าสำคัญต่ออนาคต การสอบใกล้เข้ามาแล้ว คนในเรือนมากเกินไปย่อมรบกวนสมาธิ หากแยกเรือนไปจะได้เตรียมสอบอย่างสงบเพราะเขาเป็นบุตรที่กตัญญูมาโดยตลอด อีกทั้งฮูหยินเส้าเพิ่งก่อเรื่องใหญ่ขึ้นมา รู้ดีว่าเบื้องหลังของหวังจืออวี่มั่นคงนัก จึงมิได้ขัดขวางมากนัก อนุญาตให้พวกเขาแยกเรือนไปเรื่องนี้ถูกจัดการอย่างเงียบเชียบ มิได้ก่อผลกระทบอันใด ไม่มีผู้ใดเอ่ยคำซุบซิบนินทาเด

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1595

    ตอนนี้เองที่ข้าพึ่งเข้าใจเจตนาของซีซี เส้าฮูหยินนำคนไปก่อเรื่องถึงตระกูลหวังจนเสียหน้า เช่นนั้นก็ต้องไปขอขมาถึงที่นั่นด้วย และใช้เรื่องที่เส้าซื่อจื่อประพฤติตัวต่ำทรามมาจับจุดอ่อนตระกูลเส้า ต่อจากนี้ ต่อให้จืออวี่แต่งเข้ามา พวกเขาก็จะไม่กล้ารังแกอีกทั้งมีคนหนุนหลัง ทั้งมีเรื่องให้ถือไพ่เหนือกว่าแต่วันนี้ข้ามาเพื่อระบายความโกรธ เป้าหมายก็เส้าฮูหยิน ข้าย่อมไม่ยอมจากไปง่ายๆข้ารอจนปี้หมิงกับคนของเขาออกไปหมด จึงกล่าวกับเส้าฮูหยินว่า “เมื่อครู่ได้ยินท่านพูดว่าจวนป๋อเจวี๋ยของพวกท่านเป็นตระกูลขุนนางผู้ดีฟังแล้วช่างน่าขัน ตระกูลขุนนางผู้ดีที่ไหนจะทำเรื่องล่อลวงภรรยาน้อย บุกบ้านผู้อื่นอาละวาดไร้เหตุผล? วันนี้ข้าตั้งใจจะฉีกหน้าตระกูลเส้าให้ขาดเป็นชิ้นๆ อยู่แล้ว แต่เพราะเห็นว่าเส้าหมิ่นรักเสี่ยวอวี่ด้วยใจจริง ข้าจึงไม่อยากทำให้เรื่องเลวร้ายจนเด็กทั้งสองต้องอับอาย แต่เรื่องที่เสี่ยวอวี่ถูกกดขี่ ข้าไม่อาจปล่อยผ่านได้ เด็กคนนี้ข้าเสิ่นว่านจือเลี้ยงดูมาเองกับมือ จะยอมให้ใครรังแกไม่ได้ เจ้าอาศัยว่าตัวเองเป็นจวนป๋อเจวี๋ย ก็เลยกล้ารังแกตระกูลหวังที่ไร้บรรดาศักดิ์ ตอนเจ้ารังแกผู้อื่นก็อย่ามาโทษคนอื่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1594

    ดูสีหน้าของคนตระกูลเส้าหลังจากข้าพูดจบแต่ละคำ…แต่ละคนเหมือนถูกสาปกลายเป็นท่อนไม้ ยืนนิ่งไม่ไหวติง ก็รู้แล้วว่าเหล่าขุนนางใหญ่โตในเมืองหลวงล้วนไม่ให้ตระกูลเส้าเข้าสมาคมด้วย แม้แต่เรื่องนี้ก็ไม่รู้เลยด้วยซ้ำข้าฉวยจังหวะที่เส้าฮูหยินยังตกตะลึง กล่าวเย็นชาต่อว่า “ใครไม่รู้ว่านายท่านสามบ้านข้ารักเสี่ยวอวี่ที่สุด? นางถูกทำให้เจ็บช้ำน้ำใจถึงเพียงนี้ นายท่านสามของข้าก็เสียใจแทบคลั่ง ข้าต้องพูดทั้งปลอบทั้งเตือน จึงห้ามเขาไว้ได้ ไม่เช่นนั้น วันนี้เขาคงไปฟ้องไทเฮาไปแล้ว ในเมื่อข้ามาแล้ว เช่นนั้นใครเป็นคนลงมือ ก็ออกมายอมรับโทษเสีย”หวังเยว่จางมีหลายสถานะในเมืองหลวง แต่ที่ผู้คนรู้จักมากที่สุด ก็คือสามีของข้าเสิ่นว่านจือ ศิษย์แห่งสถาบันว่านซงเหมิน เจ้าหน้าที่ฝ่ายคลังยุทโธปกรณ์แห่งกรมทหาร อีกทั้งยังเป็นเจ้าของกิจการหลายแห่งของว่านซงเหมินในเมืองหลวงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับตระกูลหวัง ถูกจงใจทำให้ดูเลือนราง แต่ในยามจำเป็น ก็ย่อมนำมาใช้งานได้ในบรรดาสถานะทั้งจริงทั้งเท็จเหล่านี้ ต่อให้มีผู้สงสัยว่ามีความเกี่ยวพันกับไทเฮา ก็ย่อมไม่มีใครกล้าปฏิเสธ เพราะไทเฮานั้นเคารพอาจารย์เหรินแห่งว่านซงเหมินอย่างย

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1593

    ข้าชื่อเสิ่นว่านจือ เรื่องอื่นไว้ทีหลัง ข้าขอระบายเรื่องหนึ่งก่อนเถิดมันช่างเกินจะทนได้แล้ว!ตระกูลเส้าเป็นเพียงจวนป๋อเจวี๋ยเล็กๆ เท่านั้น ฮูหยินตระกูลเส้ากลับกล้าโอหังถึงเพียงนี้ ข้าเสิ่นว่านจือมีชีวิตอยู่มานาน ปากมากปากจัดก็เห็นมาหลายคน แต่พวกสตรีที่ปากมากในหมู่ผู้มีอำนาจ ข้ายังได้พบเพียงไม่กี่คนพอรู้ว่าเสี่ยวอวี่ถูกลากออกไปตบหน้า แล้วถูกกล่าวหาว่าไร้ยางอายไปยั่วยวนบุรุษ ข้าก็แทบอยากจะพังประตูตระกูลเส้าไปเตะใครสักคน ลากคนออกมาแล้วตบกลับให้สาสมใจซีซีเองก็โกรธ แต่เตือนข้าว่าเมื่อเกิดเรื่องขึ้นแล้ว อย่าเพิ่งเอาแต่ระบายอารมณ์ ให้รีบไปดูเสี่ยวอวี่กับหวังชิงหรูก่อน เผื่อว่าทั้งสองจะทำเรื่องไม่คาดฝันต้องยอมรับว่าซีซีเป็นขุนนางมาหลายปี ย่อมมีวิจารณญาณในการแยกแยะเรื่องเร่งด่วนกับเรื่องสำคัญข้าจึงรีบเร่งไปยังตระกูลหวัง แล้วก็ได้รู้ว่าเสี่ยวอวี่กรีดข้อมือ ส่วนหวังชิงหรูก็ไล่สาวใช้ในเรือนออก ข้าจึงรู้สึกทันทีว่าจะต้องเกิดเรื่องขึ้นแน่จริงอย่างที่คาด หิมะยังไม่ทันตก หวังชิงหรูก็คิดจะแขวนคอตัวเองให้เป็นหมูตากแห้ง ข้าโกรธจนฟาดหน้านางไปหนึ่งฉาดที่จริงช่วงหลังมานี้ข้าเป็นคนอารมณ์ดีมาก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1592

    ข้ารู้ตัวอย่างแท้จริงว่าตนเองผิดมหันต์นั้น...เกิดขึ้นเมื่อใดกันนะ?มิใช่ตอนที่เจ้าสิบเอ็ดฝางกลับมา มิใช่ตอนที่หย่าขาดกับจ้านเป่ยว่าง และก็ไม่ใช่ตอนที่ตระกูลหวังประสบเคราะห์กรรมแต่เป็นตอนที่อวี่เจี่ยเอ่อร์กำลังจะออกเรือนตอนที่ตระกูลหวังตกอับ ข้าอยู่ในคุก เกือบเอาชีวิตไม่รอด เมื่อนึกย้อนกลับไปถึงเรื่องราวในอดีต ข้าก็รู้ว่าตัวเองมีเรื่องผิด ข้ายินดีจะขัดเกลาความแข็งกร้าว เปลี่ยนแปลงตนเองแต่ในตอนนั้น ข้ายังไม่อาจเรียกได้ว่าได้สำนึกอย่างแท้จริง เพราะข้ายังคิดว่าทั้งหมดคือเรื่องของตนเอง ต่อให้ต้องทนทุกข์ทรมานเพียงใด ก็เป็นข้าเองที่รับกรรม ใครอื่นล้วนไม่มีสิทธิ์มาตัดสินข้ารู้ดีว่าพี่สะใภ้ใหญ่ต้องลำบากวุ่นวายเพราะความเอาแต่ใจของข้า ต้องวิ่งวุ่นไปทั่ว ข้าอาจเคยชินกับการที่นางดูแลข้าเช่นนี้ จึงมีทั้งความรู้สึกขอบคุณและเคารพนางแต่เรื่องราวในอดีตของข้า ข้ามิเคยอยากย้อนกลับไปคิด เพราะนั่นคือการทำร้ายตนเอง เป็นความทุกข์ทรมานกระทั่งวันที่อวี่เจี่ยเอ่อร์กำลังจะหมั้นหมาย ข้าจึงเริ่มพลิกดูตัวเองทุกแง่ทุกมุม ให้ความเสียใจแทรกซึมกัดกินหัวใจทุกลมหายใจอวี่เจี่ยเอ่อร์กับคุณชายเส้าหมิ่นแห่งจวนป

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status