คำว่า "ต่ำต้อย" ทำให้ยี่ฝางโกรธเป็นฟืนเป็นไฟนางลุกขึ้นยืนอย่างกะทันหันและเตะท้องน้อยของซ่งซีซี ซ่งซีซี ไม่ได้หลบด้วยซ้ำ แต่ใช้ข้อศอกฟาดที่กระดูกน่องของนาง และยี่ฝางกรีดร้องออกมา และความเจ็บปวดจากกระดูกหักทำให้นางร้องออกมาซ่งซีซีจับคอเสื้อของนาง ผลักนางลงบนเก้าอี้ โน้มตัวลงมาและจ้องมองนางอย่างเย็นชา "มาลงไม้ลงมือที่จวนของข้า เจ้าคิดว่าตนเองเก่งแค่ไหนเชียว จุดประสงค์ที่เจ้ามาวันนี้คืออะไร"ยี่ฝางพยายามดิ้นรนอย่างหนัก แต่กลับไม่สามารถหลุดออกจากมือของนางได้กลับทำเอาผ้าคลุมหน้าของตนเองหลุดออก เผยให้เห็นใบหน้าที่น่าเกลียดครึ่งหนึ่งของนางเมื่อเห็นซ่งซีซีจ้องมองที่ใบหน้าของนาง นางก็สติแตกจนตะโกนว่า "เป็นเจ้าเอง ที่ข้ามาที่นี่ในวันนี้เพื่อเอาเรื่องเจ้า ตอนนั้นเจ้าสามารถนำกองทหารมาช่วยข้าได้ แต่เจ้าไม่ได้ทำ เจ้ายังห้ามจ้านเป่ยว่างไปช่วยข้า ซ่งซีซี เจ้าเกลียดข้าที่แย่งชิงทุกอย่างของเจ้าไป ดังนั้นเจ้าเลยจงใจให้ซูลันจีมาทำให้ข้าอับอาย เจ้าไม่พอใจข้า เจ้าเกลียดข้า เจ้ายังไม่ยอมรับอีกเหรอ เสแสร้งจริงๆ""เป็นเจ้าเอง เจ้าทำให้เราสามีภรรยาแตกคอกัน เขาไม่แม้แต่จะแตะต้องข้าเลยตอนนี้ ถ้าไม่ใช่เจ้าห
ซ่งซีซีเตะเข่าหลังของนาง และนางก็คุกเข่าลงเสียงดัง"เจ้ารู้ไหมว่าพวกเขาตายอย่างไร? แต่ละคนถูกฟันด้วยมีดสิบแปดครั้ง ทำไมจึงเป็นสิบแปดครั้ง? เจ้าคิดให้ดี!""ไม่!" ใบหน้าของยี่ฝางซีดอย่างผิดปกติ นางกลืนน้ำลายเต็มปากและกลอกตาไปมา นางจำได้ว่าหัวหน้าทหารจากราชวงศ์เมืองซีจิงนั้นถูกจับกุม และพวกเขาได้ฟันเขาถึงสิบแปดครั้ง ทั้งยังตอนเขา…"มันเป็นไปไม่ได้ มันเป็นอาชญากรรมที่ชาวซีจิงทำไว้ ครอบครัวของเจ้าถูกสังหารโดยสายลับเมืองซีจิง มันไม่เกี่ยวอะไรกับข้าเลย ไม่แม้แต่น้อยเลย"นางต้องการยืนขึ้นและวิ่งหนีออกไป แต่ซ่งซีซีจับไหล่ของนางไว้แน่น ทำให้นางคุกเข่าทั้งอย่างนั้นและขยับไม่ได้"เพราะสิ่งที่เจ้าทำในชายแดนเฉิงหลิง จนทำให้จวนโหวเจิ้นเป่ยของข้าไม่เหลือใครอีก แม้แต่หลานชายตัวน้อยของข้ายังไม่รอด ร่างกายเล็กๆ ของเขาอ่อนแอมาตั้งแต่เกิด และเขาต้องกินยาทุกวัน ถูกฟันสิบแปดครั้ง ร่างกายถูกสับเป็นชิ้นๆ เลือดไหลไปทั่ว จวนโหวเจิ้นเป่ยเต็มไปด้วยเลือด นี่เป็นกรรมที่เจ้าสร้างไว้ ยี่ฝาง เจ้าว่าขาจะเกลียดเจ้าหรือไม่"ดวงตาของซ่งซีซีเจ็บเมื่อนางพูดอย่างนั้น แต่กลับไม่มีน้ำตาไหลแม้แต่หยดเดียว ความเจ็บปวดที่แสนเ
ยี่ฝางนึกถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในสนามรบเขตหนานเจียง นางได้ทบทวนมาแล้วรอบนึง และพบว่านางติดกับดักจริงๆเรื่องบางเรื่อง นางเดาได้ นางรู้อยู่ในใจ แต่นางไม่อยากจะเชื่อ นางพยายามหาข้อแก้ตัวและเหตุผลเหตุผลหลักๆ ก็คือ เป่ยหมิงอ๋องต้องการสนับสนุนซ่งซีซีให้เลื่อนตำแหน่ง ดังนั้นเขาจึงต้องการกำจัดผลงานของนางทั้งหมด เลยพูดไปก่อนว่านางจะไม่มีโอกาสได้สร้างผลงานแต่ซ่งซีซีบอกรายละเอียดทั้งหมดให้นาง นางหนีไปไหนไม่ได้ นางได้แต่ขดตัวที่ข้างๆ ประตูแล้วส่ายเสียดอยู่ที่นั่นพลางพึมพำ "ไม่ นั่นไม่ใช่อย่างนัน"ซ่งซีซี ยืนอยู่หน้า ป้ายวิญญาณ โดยมีโคมไฟดอกบัวอยู่ข้างหลัง นาง ทำให้ใบหน้า นาง ไม่ชัดเจน "ยี่ฝาง คุณยังมีชีวิตอยู่ คุณยังมีชีวิตอยู่ คุณควรจะพอใจ"เสียงของนางแผ่วเบา "แต่ครอบครัวของข้าจะไม่มีวันกลับมาอีกเลย ทั้งหมดเป็นเพราะเจ้า เจ้าคิดว่าข้าเกลียดเจ้าหรือไม่ ข้าทนมันมานานมากแล้ว ข้าไม่อยากลงมือกับเจ้า แต่ทำไมเจ้าถึงต้องหาข้าถึงบ้าน ที่เจ้าสรเางผลงานที่ชายแดนเฉิงหลิง ก่อนที่ความจริงมาถึงหูข้า ต่อให้เจ้ากับจ้านเป่ยว่างขอพระราชทานอภิเษกสมรส ข้ายังนับถือเจ้าที่เป็นผู้หญิง แต่กลับยอมออกศึกเพื่อ
นางไม่กล้าสบตากับซ่งซีซีอีกเลย ซึ่งสายตานั้นเย็นชาราวกับมีดคำพูดทุกคำที่ซ่งซีซีพูดนั้นนางไม่ชอบฟังทั้งนั้น แต่มีคำนึงที่นางพูดถูกนางปรารถนาที่จะสร้างผลงานสงครามชายแดนเฉิงหลิง นางคิดว่าตนเองสร้างผลงานทางทหาร แถมยังเป็นผลงานสำคัญ นางจะไม่ใช่ลูกสาวของทหารเก่าอีก นางเป็นแม่ทัพยี่ฝางนางเย่อหยิ่ง และดูหมิ่นทุกสิ่ง แต่ในใจของนาง นางยังรู้สึกต้อยกว่าคนอื่นมิฉะนั้น ด้วยผลงานของนาง ให้แต่งเป็นภรรยาที่เท่าเทียมของจ้านเป่ยว่าง คนส่วนใหญ่จะไม่ยอมทั้งนั้นนางเต็มใจ หนึ่งคือเพราะนางมีใจให้จ้านเป่ยว่าง สองคือนางรู้ดีว่าหากไม่ใช่ที่ตนเองสร้างผลงานไว้ นางไม่มีวันเกาะจวนแม่ทัพได้นางบอกว่าตนเองไม่สนใจเรื่องการแย่งชิงอำนาจของฝ่ายใน และอยากจะเป็นผู้หญิงที่ออกศึกได้ สร้างผลงานให้บ้านเมือง ทำสงครามทุกที่ คำพูดนี้นางแค่พูดให้จ้านเป่ยว่างฟัง และจ้านเป่ยว่างก็เชื่อด้วย สายตามี่เขามองนางก็ฉายแววความนับถือและชื่นชมนางต้องการให้จ้านเป่ยว่างรู้ว่านางแตกต่างออกไปนางทำได้แล้ว และมอบตัวให้กับเขาก่อนจะกลับมาเมืองหลวง หากทำเช่นนี้อย่างน้อยก็ต้องแต่งเข้าจวนแม่ทัพอย่างแน่นอนส่วนภรรยาเอกอย่างซ่งซีซี ในตอน
สองวันต่อมา เฉินฟูไปที่จวนแม่ทัพพร้อมผู้พิทักษ์สองคนหลังจากที่ยี่ฝางกลับมาเมื่อวานนี้ นางก็มีไข้สูง ได้ตามหาหมอประจำจวนในตอนเย็น พอดื่มยาและหลับนอนไปพักหนึ่ง นางฝันร้ายอยู่ตลอดเวลา และวันนี้ถึงได้ดีขึ้นมากแต่นางไม่ได้เก็บเรื่องที่มีใบเก็บหนี้ห้าสิบตำลึงไว้ในใจเลย โดยคิดว่าซ่งซีซีแค่ทำให้นางอับอายก็เท่านั้นห้าสิบตำลึง สำหรับซ่งซีซีมันมีค่าอะไร? นางจะเรียกร้องเงินห้าสิบตำลึงนี้ถึงจวนได้อย่างไร?แต่นางเอาจริงเมื่อนางได้ยินรายงาน นางก็ละอายใจมากจนไม่มีที่ซ่อนและรู้สึกว่าร่างกายของตนเองร้อนขึ้นอีกครั้งวันนี้ จ้านเป่ยว่างไม่เข้าเวรและอยู่ในจวนเขาไม่รู้ว่ายี่ฝางได้ไปที่จวนเสนาบดีกั๋วกงเพื่อก่อปัญหาในเมื่อวันก่อน และเขาไม่ได้สังเกตเห็นด้วยซ้ำว่านางออกไปข้างนอก ช่วงนี้พวกเขามักจะทะเลาะกัน และเขาก็อยู่ในห้องหนังสือตลอด ที่เขากลับจวนก็เพื่อตกแต่งเรือนเหวินซีก็เท่านั้น เพื่อแต่งคนใหม่เข้าจวนเมื่อเขาได้ยินมาว่ามีคนจากจวนเสนาบดีกั๋วกงมาทวงหนี้ ตอนแรกเขาคิดว่าพวกเขากำลังจัดการบัญชีเก่าอยู่ เขาจึงส่งคนไปเชิญเฉินฟูไปที่ห้องหนังสือ เพื่อไม่ให้รบกวนท่านแม่ของเขาเฉินฟูหยิบใบเก็บหนี้ออกมา
ทว่า เรื่องที่จวนเสนาบดีกั๋วกงมาทวงหนี้ คนรับใช้ก็รายงานเรื่องนี้แก่ฮูหยินผู้เฒ่า ฮูหยินผู้เฒ่าตามหาจ้านเป่ยว่างเพื่อสอบถามรายละเอียดทันทีจ้านเป่ยว่างรู้ว่าเขาไม่สามารถซ่อนเรื่องนี้ได้ คนรับใช้จำนวนมากได้เห็นและได้ยิน ดังนั้นเขาจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้นางทราบฮูหยินผู้เฒ่าโกรธมากจนหน้าเขียวคล้ำถมึงทึงและสาปแช่ง "หายนะ เจ้าได้แต่งงานกับหายนะจริงๆ แล้วทำไมเจ้าถึงตกหลุมรักนางในตอนนั้น? การพังสิ่งของในจวนทุกวันยังไม่เพียงพอ กลับไปจวนเสนาบดีกั๋วกงเพื่อพังของอีกด้วย และจวนเสนาบดีกั๋วกงในตอนนี้เป็นฝ่ายที่เรากล้ามีปัญหาได้หรือ นางไม่สองกระจกบ้างหรือ ไปจวนเสนาบดีกั๋วกงเพื่อขายขี้หน้าใช่ไหม"ฮูหยินผู้เฒ่าสาปแช่งไปพลางจับหน้าอกของนาง "ช่างเป็นหายนะ ช่างเป็นหายนะจริงๆ นางต้องตามหาซ่งซีซี เพื่อหยุดการแต่งงานของเจ้ากับครอบครัวหวัง"ทันใดนั้นจ้านเป่ยว่างก็ตระหนักได้ว่านางจะไม่ยั่วยุซ่งซีซีโดยไม่มีเหตุผล ต้องมีเหตุผลอะไร หรือว่าจะเป็นอย่างที่ท่านแม่พูด เพราะเรื่องแต่งงานระหว่างเขากับตระกูลหวังหรือเมื่อคิดถึงสิ่งนี้ จ้านเป่ยว่างก็อารมณ์หงุดหงิดขึ้นมาการแต่งงานครั้งนี้ เขาก็เป็นฝ่ายถูกบังคับ เป็
ในที่สุด จ้านเป่ยว่างก็ไปหายี่ฝาง เขาไม่ต้องการทะเลาะกันอีกต่อไป พวกเขาจำเป็นต้องพูดคุยกันดีๆ ให้เข้าใจกันเมื่อเข้าห้องก็เห็น นางนอนอยู่บนที่นอนโดยห่มผ้าห่มไว้ ใบหน้าของนางยังคงคลุมด้วยผ้าคลุมสีดำเนื่องจากที่ใบหน้ามีรอยแผลเป็น นางก็ทำผ้าคลุมหลากสีสันมากมาย หากไม่มีผ้าคลุมหน้าหรือหมวกคลุมศีรษะนางจะไม่มีทางออกไปข้างนอกเมื่อก่อนที่เห็นนาง นางดูเหมือนนักชนไก่อยู่เสมอ อยากจะสู้กับเขาทุกที่ทุกเวลาแต่วันนี้ นางอยู่ในสภาพนิ่งเงียบและดูเหมือนป่วยหนัก เมื่อเห็นเขา นางก็เพียงแต่เงยหน้าขึ้นมองแวบนึงแล้วหรี่ตาลง จากนั้นก็เพิกเฉยต่อเขาเมื่อสาวใช้ที่อยู่ข้างๆ นางเห็นเช่นนั้น จึงพูดว่า "ท่านแม่ทัพ ท่านมาสักที ฮูหยินไม่สบายมาสองวันแล้วเจ้าคะ"เขารู้ว่านางตามหาหมอประจำจวนมา จึงถามว่า "อาการดีขึ้นหรือยัง"ยี่ฝางหันหน้าออกไป และไม่คุยกับเขาวันนี้ ดูเหมือนทั้งสองต่างก็ไม่อยากทะเลาะกันจ้านเป่ยว่างนั่งบนเก้าอี้ เงียบอยู่นาน และพูดว่า "วันนี้ ท่างฝั่งจวนเสนาบดีกั๋วกงมาทวงเงิน"ดวงตาของยี่ฝางเปลี่ยนเป็นเย็นชา นางรู้เรื่องนี้ สาวใช้ได้มารายงานแล้ว"เจ้าต้องการสื่ออะไร กล่าวหาว่าข้าไปก่อเรื่องท
จ้านเป่ยว่างออกไปจากจวน และเขามีความรู้สึกนึงติดอยูาในใจ อยากจะมุ่งหน้าไปที่จวนเสนาบดีกั๋วกงเขาต้องการถามซ่งซีซีด้วยตนเองว่าพวกเขายังมีความเป็นไปได้หรือไม่แม้ว่าวันนี้ยี่ฝางพูดว่าซ่งซีซีไม่เห็นเขามีค่าเลย ต่อให้ทัศนคติของซ่งซีซีจะบอกชัดเจนอยู่แล้วในสนามรบ แม้ว่าตอนนั้นที่เขาขอหย่าอย่างเด็ดขาดแต่เขาก็ยังรู้สึกว่าซ่งซีซีไม่สามารถกำจัดเขาออกจากใจของนางออกไปได้อย่างรวดเร็วนางแค่โกรธความโหดเหี้ยมของเขา นางแค่เกลียดเขาที่ไม่รักษาสัญญาดั้งเดิมของเขาในเมื่อยังคงเกลียด และยังคงโกรธอยู่ นั่นหมายความว่าอีกฝ่ายยังห่วงใยแต่ลมหนาวที่โหมกระหน่ำปลุกเขาให้ตื่น หรือบอกอีกนัยว่าเขาอาจจะมีสติโดยตลอด แต่มันก็เป็นเพียงความหุนหันพลันแล่นชั่วขณะนึงก็เท่านั้นสถานการณ์โดยรวมได้รับการกำหนดแล้ว และมันก็ไม่สมเหตุสมผลสำหรับเขาที่จะไปที่ซ่งซีซีอีก แม้ว่าซ่งซีซีจะยังมีใจให้เขาแม้แต่น้อย ทว่านางก็จะแต่งงานกับเป่ยหมิงอ๋อง ส่วนเขาจะแต่งงานกับคุณหนูแห่งตระกูงหวัง และพวกเขาจะไม่มีวันได้มีความข้องเกี่ยวอีกเขากลับไปที่ห้องหนังสืออย่างเงียบๆ และนั่งเป็นเวลานาน ในสมองของเขามีแต่ภาพที่เขาแต่งงานกับซ่งซีซี ตอนนั