Share

บทที่ 287

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
ยี่ฝางนึกถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในสนามรบเขตหนานเจียง นางได้ทบทวนมาแล้วรอบนึง และพบว่านางติดกับดักจริงๆ

เรื่องบางเรื่อง นางเดาได้ นางรู้อยู่ในใจ แต่นางไม่อยากจะเชื่อ นางพยายามหาข้อแก้ตัวและเหตุผล

เหตุผลหลักๆ ก็คือ เป่ยหมิงอ๋องต้องการสนับสนุนซ่งซีซีให้เลื่อนตำแหน่ง ดังนั้นเขาจึงต้องการกำจัดผลงานของนางทั้งหมด เลยพูดไปก่อนว่านางจะไม่มีโอกาสได้สร้างผลงาน

แต่ซ่งซีซีบอกรายละเอียดทั้งหมดให้นาง นางหนีไปไหนไม่ได้ นางได้แต่ขดตัวที่ข้างๆ ประตูแล้วส่ายเสียดอยู่ที่นั่นพลางพึมพำ "ไม่ นั่นไม่ใช่อย่างนัน"

ซ่งซีซี ยืนอยู่หน้า ป้ายวิญญาณ โดยมีโคมไฟดอกบัวอยู่ข้างหลัง นาง ทำให้ใบหน้า นาง ไม่ชัดเจน "ยี่ฝาง คุณยังมีชีวิตอยู่ คุณยังมีชีวิตอยู่ คุณควรจะพอใจ"

เสียงของนางแผ่วเบา "แต่ครอบครัวของข้าจะไม่มีวันกลับมาอีกเลย ทั้งหมดเป็นเพราะเจ้า เจ้าคิดว่าข้าเกลียดเจ้าหรือไม่ ข้าทนมันมานานมากแล้ว ข้าไม่อยากลงมือกับเจ้า แต่ทำไมเจ้าถึงต้องหาข้าถึงบ้าน ที่เจ้าสรเางผลงานที่ชายแดนเฉิงหลิง ก่อนที่ความจริงมาถึงหูข้า ต่อให้เจ้ากับจ้านเป่ยว่างขอพระราชทานอภิเษกสมรส ข้ายังนับถือเจ้าที่เป็นผู้หญิง แต่กลับยอมออกศึกเพื่อ
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter
Mga Comments (7)
goodnovel comment avatar
Tiwapon Prasertsarn
เพื่อตอกย้ำการกระทำของตนเองที่ไม่ใช่แม่ทัพอย่างแท้จริง แต่เป็นการขโมยผลงานของทหาร
goodnovel comment avatar
Tiwapon Prasertsarn
เหตุการในอดีตย้อนกลับมา
goodnovel comment avatar
ทัศนี ทัศนี
ยาวมากๆเลยบางบทก็สั้นเกินไป
Tignan lahat ng Komento

Kaugnay na kabanata

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 288

    นางไม่กล้าสบตากับซ่งซีซีอีกเลย ซึ่งสายตานั้นเย็นชาราวกับมีดคำพูดทุกคำที่ซ่งซีซีพูดนั้นนางไม่ชอบฟังทั้งนั้น แต่มีคำนึงที่นางพูดถูกนางปรารถนาที่จะสร้างผลงานสงครามชายแดนเฉิงหลิง นางคิดว่าตนเองสร้างผลงานทางทหาร แถมยังเป็นผลงานสำคัญ นางจะไม่ใช่ลูกสาวของทหารเก่าอีก นางเป็นแม่ทัพยี่ฝางนางเย่อหยิ่ง และดูหมิ่นทุกสิ่ง แต่ในใจของนาง นางยังรู้สึกต้อยกว่าคนอื่นมิฉะนั้น ด้วยผลงานของนาง ให้แต่งเป็นภรรยาที่เท่าเทียมของจ้านเป่ยว่าง คนส่วนใหญ่จะไม่ยอมทั้งนั้นนางเต็มใจ หนึ่งคือเพราะนางมีใจให้จ้านเป่ยว่าง สองคือนางรู้ดีว่าหากไม่ใช่ที่ตนเองสร้างผลงานไว้ นางไม่มีวันเกาะจวนแม่ทัพได้นางบอกว่าตนเองไม่สนใจเรื่องการแย่งชิงอำนาจของฝ่ายใน และอยากจะเป็นผู้หญิงที่ออกศึกได้ สร้างผลงานให้บ้านเมือง ทำสงครามทุกที่ คำพูดนี้นางแค่พูดให้จ้านเป่ยว่างฟัง และจ้านเป่ยว่างก็เชื่อด้วย สายตามี่เขามองนางก็ฉายแววความนับถือและชื่นชมนางต้องการให้จ้านเป่ยว่างรู้ว่านางแตกต่างออกไปนางทำได้แล้ว และมอบตัวให้กับเขาก่อนจะกลับมาเมืองหลวง หากทำเช่นนี้อย่างน้อยก็ต้องแต่งเข้าจวนแม่ทัพอย่างแน่นอนส่วนภรรยาเอกอย่างซ่งซีซี ในตอน

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 289

    สองวันต่อมา เฉินฟูไปที่จวนแม่ทัพพร้อมผู้พิทักษ์สองคนหลังจากที่ยี่ฝางกลับมาเมื่อวานนี้ นางก็มีไข้สูง ได้ตามหาหมอประจำจวนในตอนเย็น พอดื่มยาและหลับนอนไปพักหนึ่ง นางฝันร้ายอยู่ตลอดเวลา และวันนี้ถึงได้ดีขึ้นมากแต่นางไม่ได้เก็บเรื่องที่มีใบเก็บหนี้ห้าสิบตำลึงไว้ในใจเลย โดยคิดว่าซ่งซีซีแค่ทำให้นางอับอายก็เท่านั้นห้าสิบตำลึง สำหรับซ่งซีซีมันมีค่าอะไร? นางจะเรียกร้องเงินห้าสิบตำลึงนี้ถึงจวนได้อย่างไร?แต่นางเอาจริงเมื่อนางได้ยินรายงาน นางก็ละอายใจมากจนไม่มีที่ซ่อนและรู้สึกว่าร่างกายของตนเองร้อนขึ้นอีกครั้งวันนี้ จ้านเป่ยว่างไม่เข้าเวรและอยู่ในจวนเขาไม่รู้ว่ายี่ฝางได้ไปที่จวนเสนาบดีกั๋วกงเพื่อก่อปัญหาในเมื่อวันก่อน และเขาไม่ได้สังเกตเห็นด้วยซ้ำว่านางออกไปข้างนอก ช่วงนี้พวกเขามักจะทะเลาะกัน และเขาก็อยู่ในห้องหนังสือตลอด ที่เขากลับจวนก็เพื่อตกแต่งเรือนเหวินซีก็เท่านั้น เพื่อแต่งคนใหม่เข้าจวนเมื่อเขาได้ยินมาว่ามีคนจากจวนเสนาบดีกั๋วกงมาทวงหนี้ ตอนแรกเขาคิดว่าพวกเขากำลังจัดการบัญชีเก่าอยู่ เขาจึงส่งคนไปเชิญเฉินฟูไปที่ห้องหนังสือ เพื่อไม่ให้รบกวนท่านแม่ของเขาเฉินฟูหยิบใบเก็บหนี้ออกมา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 290

    ทว่า เรื่องที่จวนเสนาบดีกั๋วกงมาทวงหนี้ คนรับใช้ก็รายงานเรื่องนี้แก่ฮูหยินผู้เฒ่า ฮูหยินผู้เฒ่าตามหาจ้านเป่ยว่างเพื่อสอบถามรายละเอียดทันทีจ้านเป่ยว่างรู้ว่าเขาไม่สามารถซ่อนเรื่องนี้ได้ คนรับใช้จำนวนมากได้เห็นและได้ยิน ดังนั้นเขาจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้นางทราบฮูหยินผู้เฒ่าโกรธมากจนหน้าเขียวคล้ำถมึงทึงและสาปแช่ง "หายนะ เจ้าได้แต่งงานกับหายนะจริงๆ แล้วทำไมเจ้าถึงตกหลุมรักนางในตอนนั้น? การพังสิ่งของในจวนทุกวันยังไม่เพียงพอ กลับไปจวนเสนาบดีกั๋วกงเพื่อพังของอีกด้วย และจวนเสนาบดีกั๋วกงในตอนนี้เป็นฝ่ายที่เรากล้ามีปัญหาได้หรือ นางไม่สองกระจกบ้างหรือ ไปจวนเสนาบดีกั๋วกงเพื่อขายขี้หน้าใช่ไหม"ฮูหยินผู้เฒ่าสาปแช่งไปพลางจับหน้าอกของนาง "ช่างเป็นหายนะ ช่างเป็นหายนะจริงๆ นางต้องตามหาซ่งซีซี เพื่อหยุดการแต่งงานของเจ้ากับครอบครัวหวัง"ทันใดนั้นจ้านเป่ยว่างก็ตระหนักได้ว่านางจะไม่ยั่วยุซ่งซีซีโดยไม่มีเหตุผล ต้องมีเหตุผลอะไร หรือว่าจะเป็นอย่างที่ท่านแม่พูด เพราะเรื่องแต่งงานระหว่างเขากับตระกูลหวังหรือเมื่อคิดถึงสิ่งนี้ จ้านเป่ยว่างก็อารมณ์หงุดหงิดขึ้นมาการแต่งงานครั้งนี้ เขาก็เป็นฝ่ายถูกบังคับ เป็

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 291

    ในที่สุด จ้านเป่ยว่างก็ไปหายี่ฝาง เขาไม่ต้องการทะเลาะกันอีกต่อไป พวกเขาจำเป็นต้องพูดคุยกันดีๆ ให้เข้าใจกันเมื่อเข้าห้องก็เห็น นางนอนอยู่บนที่นอนโดยห่มผ้าห่มไว้ ใบหน้าของนางยังคงคลุมด้วยผ้าคลุมสีดำเนื่องจากที่ใบหน้ามีรอยแผลเป็น นางก็ทำผ้าคลุมหลากสีสันมากมาย หากไม่มีผ้าคลุมหน้าหรือหมวกคลุมศีรษะนางจะไม่มีทางออกไปข้างนอกเมื่อก่อนที่เห็นนาง นางดูเหมือนนักชนไก่อยู่เสมอ อยากจะสู้กับเขาทุกที่ทุกเวลาแต่วันนี้ นางอยู่ในสภาพนิ่งเงียบและดูเหมือนป่วยหนัก เมื่อเห็นเขา นางก็เพียงแต่เงยหน้าขึ้นมองแวบนึงแล้วหรี่ตาลง จากนั้นก็เพิกเฉยต่อเขาเมื่อสาวใช้ที่อยู่ข้างๆ นางเห็นเช่นนั้น จึงพูดว่า "ท่านแม่ทัพ ท่านมาสักที ฮูหยินไม่สบายมาสองวันแล้วเจ้าคะ"เขารู้ว่านางตามหาหมอประจำจวนมา จึงถามว่า "อาการดีขึ้นหรือยัง"ยี่ฝางหันหน้าออกไป และไม่คุยกับเขาวันนี้ ดูเหมือนทั้งสองต่างก็ไม่อยากทะเลาะกันจ้านเป่ยว่างนั่งบนเก้าอี้ เงียบอยู่นาน และพูดว่า "วันนี้ ท่างฝั่งจวนเสนาบดีกั๋วกงมาทวงเงิน"ดวงตาของยี่ฝางเปลี่ยนเป็นเย็นชา นางรู้เรื่องนี้ สาวใช้ได้มารายงานแล้ว"เจ้าต้องการสื่ออะไร กล่าวหาว่าข้าไปก่อเรื่องท

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 292

    จ้านเป่ยว่างออกไปจากจวน และเขามีความรู้สึกนึงติดอยูาในใจ อยากจะมุ่งหน้าไปที่จวนเสนาบดีกั๋วกงเขาต้องการถามซ่งซีซีด้วยตนเองว่าพวกเขายังมีความเป็นไปได้หรือไม่แม้ว่าวันนี้ยี่ฝางพูดว่าซ่งซีซีไม่เห็นเขามีค่าเลย ต่อให้ทัศนคติของซ่งซีซีจะบอกชัดเจนอยู่แล้วในสนามรบ แม้ว่าตอนนั้นที่เขาขอหย่าอย่างเด็ดขาดแต่เขาก็ยังรู้สึกว่าซ่งซีซีไม่สามารถกำจัดเขาออกจากใจของนางออกไปได้อย่างรวดเร็วนางแค่โกรธความโหดเหี้ยมของเขา นางแค่เกลียดเขาที่ไม่รักษาสัญญาดั้งเดิมของเขาในเมื่อยังคงเกลียด และยังคงโกรธอยู่ นั่นหมายความว่าอีกฝ่ายยังห่วงใยแต่ลมหนาวที่โหมกระหน่ำปลุกเขาให้ตื่น หรือบอกอีกนัยว่าเขาอาจจะมีสติโดยตลอด แต่มันก็เป็นเพียงความหุนหันพลันแล่นชั่วขณะนึงก็เท่านั้นสถานการณ์โดยรวมได้รับการกำหนดแล้ว และมันก็ไม่สมเหตุสมผลสำหรับเขาที่จะไปที่ซ่งซีซีอีก แม้ว่าซ่งซีซีจะยังมีใจให้เขาแม้แต่น้อย ทว่านางก็จะแต่งงานกับเป่ยหมิงอ๋อง ส่วนเขาจะแต่งงานกับคุณหนูแห่งตระกูงหวัง และพวกเขาจะไม่มีวันได้มีความข้องเกี่ยวอีกเขากลับไปที่ห้องหนังสืออย่างเงียบๆ และนั่งเป็นเวลานาน ในสมองของเขามีแต่ภาพที่เขาแต่งงานกับซ่งซีซี ตอนนั

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 293

    จ้านเส้าฮวนตกตะลึงด้วยการโดนตบไปฉาดนึงนางเอามือปิดหน้าพลางจ้องมองอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะร้องออกมาว่า "เจ้าตบหน้าข้าเหรอ เจ้าตบหน้าข้าเพียงเพื่อนังซ่งซีซีนั่น ข้าจะไปฟ้องท่านแม่"หลังจากพูดจบ นางก็กุมหน้าพลางวิ่งหนีไปจ้านเป่ยว่างต่อยประตูห้องหนังสือด้วยสีหน้าเจ็บปวด ซ่งซีซีไม่บริสุทธิ์งั้นเหรอ ในทางกลับกัน ซ่งซีซีบริสุทธิ์มากเขาไม่เคยแตะต้องซ่งซีซี นางยังคงบริสุทธิ์มาก น่าตลกสิ้นดี บัดนี้พอรู้ใจของตนเองแล้ว กลับพบว่าเขาไม่เคยได้ซ่งซีซีมาก่อนด้วยซ้ำถ้าตอนนั้นพวกเขาร่วมรักก่อนที่จะออกศึก งั้นตอนที่เขาแต่งงานกับยี่ฝางนั้น นางคงไม่ได้จะตัดสินหย่าอย่างเด็ดขาดขนาดนั้นกระมังหลังจากนั้นได้สักพักหนึ่ง ฮูหยินผู้เฒ่าก็ตามหาเขาไปก่อนที่เขาจะพูดอะไร ฮูหยินผู้เฒ่าก็ชิงกล่าวว่า "แม่คิดว่าเส้าฮวนคิดแบบนี้ดีแล้ว แม่สนับสนุนนางมาก ขอแค่องค์หญิงใหญ่ยินยอมที่จะแนะนำนางให้รู้จักกับสนมฮุ่ยไทเฟย นางก็สามารถแต่งเข้าจวนเป่ยหมิงอ๋องได้ งั้นก็จะเป็นการแต่งงานที่ดีที่สุดและแม่จะสนับสนุนนางอย่างเต็มที่"จ้านเส้าฮวนที่อยู่ด้านข้างก็หยุดร้องไห้แล้ว และเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างยั่วยุจ้านเป่ยว่างส่ายหัว "เป

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 294

    แน่นอนว่าซ่งซีซีเองก็ไม่ต้องการเข้าร่วมงานเลี้ยงของสนมฮุ่ยไทเฟยด้วย หลังจากที่รุ่ยเอ๋อร์พูดได้แล้ว นางก็ผ่อนคลายลงมากอ และเริ่มจัดการแผนการป้องกันทางทหารและแผนการฝึกหัดที่ท่านพ่อและพี่ชายของนางเขียนก่อนที่พวกเขายังมีชีวิตอยู่ไม่ว่าจะเป็นชายแดนเฉิงหลิง หรือว่าเขตหนานเจียง ทั้งท่านพ่อและพี่ชายของนางต่างเคยเฝ้ามา พวกเขาคุ้นเคยกับช่องทางสำคัญมากและได้วาดแผนการป้องกันไว้มากมายเมื่อไม่มีสงคราม พวกเขาก็ยังส่งคนไปสำรวจทุกที่โดยได้ทำเครื่องหมายป้อมปราการแถมชายแดนไว้อย่างชัดเจนมันจะเขียนลวกๆ ไปหน่อยและยุ่งเหยิงนิดหน่อย ดังนั้นซ่งซีซีจึงเปรียบเทียบร่างของพวกเขาและร่างใหม่อีกฉบับนึงแน่นอนว่าเรื่องนี้ต้องทุ่มเทความพยายาม และไม่สามารถบรรลุผลได้ในเวลาอันสั้น เมื่อพิจารณาจากกองร่างพวกนั้น ซ่งซีซีคาดว่าถ้านางทำมันด้วยตัวเอง หากไม่มีสองสามเดือนคงทำไม่เสร็จแน่นางอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ ถ้าศิษย์พี่ชายใหญ่อยู่ที่นี่คงจะดี ทั้งสายตาและสมองของศิษย์พี่ชายใหญ่เฉียบแหลม และทุกสิ่งที่เขามองแค่แวบเดียวก็สามารถจำขึ้นใจได้ เขาถือปากกา ราวกับมีสิงเข้าร่าง ก็จะเขียนอย่างคล่องแค่ลวนางทำจนปวดตา ทำมาสามวันแล้ว

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 295

    ซ่งซีซีจับแขนของเขาด้วยความตื่นเต้นมากและถามคำถามหลายข้อ "ศิษย์พี่ใหญ่ ท่านมาจากไหน? จากภูเขาเหม่ยชานหรือ ท่านมาคนเดียวเหรอ? แล้วอาจารย์ล่ะ? ศิษย์พี่สาวอยู่ไหน?"เสิ่นชิงเหอเคาะหัวของนาง ดวงตาของเขายังคงเต็มไปด้วยความเอ็นดู "ศิษย์พี่ยังไม่กลับภูเขาเหม่ยชาน กลับมาจากชายแดนเฉิงหลิง สำหรับศิษย์พี่สาวรองของเจ้า อีกไม่กี่วันนางก็จะมาเช่นกัน นางกลับมาจากแคว้นซา และคอยจับตาเฝ้าดูการเคลื่อนไหวของแคว้นซาอยู่เลย ในจดหมายที่นางส่งมา เห็นบอกว่าได้สืบข้อมูลมาไม่น้อยเลย""ศิษย์พี่สาวรองก็มาด้วยเหรอ เยี่ยมมากเลย" ซ่งซีซีมีความสุขมากจนรอยยิ้มของนางเบ่งบานเหมือนดอกไม้เฉินฟูนำเสื้อคลุมมา และถึงนึกได้ว่าที่ห้องโถงใหญ่มีเครื่องทำความร้อนอยู่ เฮอะ ไม่จำเป็นนำเสื้อมาเลย เพียงแค่ยืนอยู่ที่ประตูและมองไปที่คุณชายเสิ่นชิงเหอที่น่าทึ่งนั้น เขาก็รู้สึกประทับใจมากจนอยากจะร้องไห้ และอยากไปที่ห้องอ่านหนังสือเพื่อนำเครื่องเขียนมาให้ อยากให้คุณชายเสิ่นชิงเหอเขียนอักษรวิจิตรให้เขาสักหน่อย เขาจะเก็บไว้และทำให้มันเป็นมรดกตกทอดของครอบครัวอย่างแน่นอนซ่งซีซีไม่ได้สังเกตเห็นสายตาที่ตื่นเต้นของเฉินฟู นางเองก็ตื่นเต้นมาก

Pinakabagong kabanata

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1598

    บางครั้งข้าก็สอนศิษย์ทั้งหลายให้กล้าเผชิญหน้ากับชีวิต กล้าเผชิญหน้ากับความผิดพลาด แต่ตัวข้าเองกลับมิอาจกระทำได้เช่นนั้นหลายปีมานี้ ข้าแทบไม่ได้พบหน้าเขาเลย หากรู้ว่าเขาจะไปที่ใด ข้าย่อมหลีกเลี่ยงไม่ไปเมื่อครั้งที่ข้ายังดื้อดึงอยู่ เคยถูกพี่สะใภ้ตำหนิว่าข้ายังติดหนี้เจ้าสิบเอ็ดฝางอยู่ แต่ในใจข้ากลับไม่ยอมรับนัก ยังรู้สึกน้อยใจอยู่บ้างแต่ตอนนี้เมื่อคิดย้อนกลับไป ข้าน้อยใจไปเพื่ออะไรเล่า? ใครเป็นคนที่ติดหนี้ข้ากัน? ฟ้าดินเมตตาข้าไม่มากพอแล้วหรือ? ทุกสิ่งล้วนเป็นผลจากการกระทำของข้าเองทั้งสิ้นหลายครา ข้าเปิดกระดาษเขียนจดหมาย ตั้งใจจะเขียนถึงเขาเพื่อขอขมาจากใจจริงแต่ยามจับพู่กันลงหมึก พอหมึกหยดลงกระดาษกลับเขียนไม่ออกแม้แต่คำเดียวข้ากลัวว่าจดหมายขอขมานั้นจะดูแปลกประหลาดเกินไป ทำให้ภรรยาของเขาระแวง หรือแม้แต่ทำให้จ้านเป่ยว่างคิดมากแม้ว่าตอนนี้ ข้ากับจ้านเป่ยว่างจะมิได้เป็นสามีภรรยากันจริงๆ แล้วก็ตาม แต่ข้าก็ไม่ต้องการทำลายความสงบเช่นนี้ระหว่างนั้น จ้านเป่ยว่างเคยกลับมาสองสามครั้ง อาจเพราะเห็นกองกระดาษที่ถูกขยำทิ้งในห้องหนังสือของข้า เขาจึงสั่งให้เตรียมเหล้าหนึ่งเหยือก กับกับข้า

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1597

    ข้ามาอยู่ชายแดนเฉิงหลิงได้หนึ่งเดือนแล้ว ก็กำลังครุ่นคิดว่าจะทำสิ่งใดดีในนามแล้ว ข้าคือภรรยาของจ้านเป่ยว่าง ทว่าความสัมพันธ์ระหว่างเรากลับมีน้อยนัก เขามักพำนักอยู่ในค่ายทหาร มีเพียงบางครั้งที่กลับมามองข้าสองสามตาด้วยเหตุนี้ ข้าจึงมีเวลาว่างมากมาย พอจะทำกิจการเล็กๆ ได้ชายแดนเฉิงหลิงนั้นต่างจากที่ข้าคาดไว้เล็กน้อย เดิมทีข้าคิดว่าดินแดนชายขอบย่อมแร้นแค้น ขาดแคลนสิ่งของ แต่เหนือความคาดหมาย ที่นี่แทบจะมีทุกอย่างขาย ยกเว้นเพียงเครื่องประดับล้ำค่าและผ้าไหมชั้นดีจากแคว้นสู่เท่านั้นสิ่งเหล่านี้ก็หาใช่ว่าไม่มีไม่ เพียงแต่ว่าหลังจากพ่อค้าเดินทางนำมาถึงแล้ว ก็มักเก็บไว้รอส่งไปขายแก่พวกขุนนางมั่งคั่งในซีจิงชาวบ้านที่ชายแดนเฉิงหลิงซื้อเครื่องประดับเพียงเพื่อความสวยงาม ไม่ได้ใส่ใจว่าล้ำค่าหรือไม่ข้ากำลังตรองว่าจะค้าขายสิ่งใดดี เพียงแต่ไม่ว่าคิดจะค้าขายอะไร สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือต้องซื้อร้านก่อนมิใช่หรือ?ดังนั้น ข้าจึงพาบ่าวชายและสาวใช้เดินไปตามตรอกซอกซอย ค้นหาร้านค้าที่เหมาะสมการมาครั้งนี้ พี่สะใภ้ใหญ่ให้เงินติดตัวข้ามาด้วย พี่สะใภ้รองกับว่านจือก็ให้มาบ้าง รวมกับเงินที่ข้าเก็บไว้เอง ที

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1596

    นายท่านป๋ออันถูกหวังเยว่จางเหน็บแนมอยู่ไม่น้อย ท้ายที่สุดก็ยอมปล่อยเส้าหมิ่นออกมา ให้เส้าหมิ่นไปขอความเห็นใจ ถึงได้ช่วยชีวิตคุณชายเส้าเอาไว้เรื่องราวคลี่คลาย พวกเขาก็กล่าวขอบคุณหวังเยว่จางอย่างสุดซึ้ง แม้จะรู้ว่าถูกจงใจบีบไว้ แต่จะทำเช่นไรได้เล่า ใครใช้ให้บุตรชายของตนประพฤติผิด ไร้คุณธรรม ถูกจับได้คาหนังคาเขาเล่า?เส้าหมิ่นรู้ว่ามารดาของตนเคยกลั่นแกล้งเสี่ยวอวี่ เขาจึงอดทนไว้ก่อน รอจนแต่งงานแล้วจึงกล่าวขอแยกเรือนทันทีเขามิได้ทะเลาะกับทางบ้าน เพราะราชสำนักแคว้นซางสอบคุณธรรมข้าราชการเป็นสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณธรรมแห่งความกตัญญู หากมีตราบาปว่าอกตัญญู วันหน้าอย่าหวังจะยืนหยัดในวงราชการเหตุผลที่เขาขอแยกเรือนก็สมเหตุสมผล กล่าวว่าสำคัญต่ออนาคต การสอบใกล้เข้ามาแล้ว คนในเรือนมากเกินไปย่อมรบกวนสมาธิ หากแยกเรือนไปจะได้เตรียมสอบอย่างสงบเพราะเขาเป็นบุตรที่กตัญญูมาโดยตลอด อีกทั้งฮูหยินเส้าเพิ่งก่อเรื่องใหญ่ขึ้นมา รู้ดีว่าเบื้องหลังของหวังจืออวี่มั่นคงนัก จึงมิได้ขัดขวางมากนัก อนุญาตให้พวกเขาแยกเรือนไปเรื่องนี้ถูกจัดการอย่างเงียบเชียบ มิได้ก่อผลกระทบอันใด ไม่มีผู้ใดเอ่ยคำซุบซิบนินทาเด

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1595

    ตอนนี้เองที่ข้าพึ่งเข้าใจเจตนาของซีซี เส้าฮูหยินนำคนไปก่อเรื่องถึงตระกูลหวังจนเสียหน้า เช่นนั้นก็ต้องไปขอขมาถึงที่นั่นด้วย และใช้เรื่องที่เส้าซื่อจื่อประพฤติตัวต่ำทรามมาจับจุดอ่อนตระกูลเส้า ต่อจากนี้ ต่อให้จืออวี่แต่งเข้ามา พวกเขาก็จะไม่กล้ารังแกอีกทั้งมีคนหนุนหลัง ทั้งมีเรื่องให้ถือไพ่เหนือกว่าแต่วันนี้ข้ามาเพื่อระบายความโกรธ เป้าหมายก็เส้าฮูหยิน ข้าย่อมไม่ยอมจากไปง่ายๆข้ารอจนปี้หมิงกับคนของเขาออกไปหมด จึงกล่าวกับเส้าฮูหยินว่า “เมื่อครู่ได้ยินท่านพูดว่าจวนป๋อเจวี๋ยของพวกท่านเป็นตระกูลขุนนางผู้ดีฟังแล้วช่างน่าขัน ตระกูลขุนนางผู้ดีที่ไหนจะทำเรื่องล่อลวงภรรยาน้อย บุกบ้านผู้อื่นอาละวาดไร้เหตุผล? วันนี้ข้าตั้งใจจะฉีกหน้าตระกูลเส้าให้ขาดเป็นชิ้นๆ อยู่แล้ว แต่เพราะเห็นว่าเส้าหมิ่นรักเสี่ยวอวี่ด้วยใจจริง ข้าจึงไม่อยากทำให้เรื่องเลวร้ายจนเด็กทั้งสองต้องอับอาย แต่เรื่องที่เสี่ยวอวี่ถูกกดขี่ ข้าไม่อาจปล่อยผ่านได้ เด็กคนนี้ข้าเสิ่นว่านจือเลี้ยงดูมาเองกับมือ จะยอมให้ใครรังแกไม่ได้ เจ้าอาศัยว่าตัวเองเป็นจวนป๋อเจวี๋ย ก็เลยกล้ารังแกตระกูลหวังที่ไร้บรรดาศักดิ์ ตอนเจ้ารังแกผู้อื่นก็อย่ามาโทษคนอื่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1594

    ดูสีหน้าของคนตระกูลเส้าหลังจากข้าพูดจบแต่ละคำ…แต่ละคนเหมือนถูกสาปกลายเป็นท่อนไม้ ยืนนิ่งไม่ไหวติง ก็รู้แล้วว่าเหล่าขุนนางใหญ่โตในเมืองหลวงล้วนไม่ให้ตระกูลเส้าเข้าสมาคมด้วย แม้แต่เรื่องนี้ก็ไม่รู้เลยด้วยซ้ำข้าฉวยจังหวะที่เส้าฮูหยินยังตกตะลึง กล่าวเย็นชาต่อว่า “ใครไม่รู้ว่านายท่านสามบ้านข้ารักเสี่ยวอวี่ที่สุด? นางถูกทำให้เจ็บช้ำน้ำใจถึงเพียงนี้ นายท่านสามของข้าก็เสียใจแทบคลั่ง ข้าต้องพูดทั้งปลอบทั้งเตือน จึงห้ามเขาไว้ได้ ไม่เช่นนั้น วันนี้เขาคงไปฟ้องไทเฮาไปแล้ว ในเมื่อข้ามาแล้ว เช่นนั้นใครเป็นคนลงมือ ก็ออกมายอมรับโทษเสีย”หวังเยว่จางมีหลายสถานะในเมืองหลวง แต่ที่ผู้คนรู้จักมากที่สุด ก็คือสามีของข้าเสิ่นว่านจือ ศิษย์แห่งสถาบันว่านซงเหมิน เจ้าหน้าที่ฝ่ายคลังยุทโธปกรณ์แห่งกรมทหาร อีกทั้งยังเป็นเจ้าของกิจการหลายแห่งของว่านซงเหมินในเมืองหลวงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับตระกูลหวัง ถูกจงใจทำให้ดูเลือนราง แต่ในยามจำเป็น ก็ย่อมนำมาใช้งานได้ในบรรดาสถานะทั้งจริงทั้งเท็จเหล่านี้ ต่อให้มีผู้สงสัยว่ามีความเกี่ยวพันกับไทเฮา ก็ย่อมไม่มีใครกล้าปฏิเสธ เพราะไทเฮานั้นเคารพอาจารย์เหรินแห่งว่านซงเหมินอย่างย

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1593

    ข้าชื่อเสิ่นว่านจือ เรื่องอื่นไว้ทีหลัง ข้าขอระบายเรื่องหนึ่งก่อนเถิดมันช่างเกินจะทนได้แล้ว!ตระกูลเส้าเป็นเพียงจวนป๋อเจวี๋ยเล็กๆ เท่านั้น ฮูหยินตระกูลเส้ากลับกล้าโอหังถึงเพียงนี้ ข้าเสิ่นว่านจือมีชีวิตอยู่มานาน ปากมากปากจัดก็เห็นมาหลายคน แต่พวกสตรีที่ปากมากในหมู่ผู้มีอำนาจ ข้ายังได้พบเพียงไม่กี่คนพอรู้ว่าเสี่ยวอวี่ถูกลากออกไปตบหน้า แล้วถูกกล่าวหาว่าไร้ยางอายไปยั่วยวนบุรุษ ข้าก็แทบอยากจะพังประตูตระกูลเส้าไปเตะใครสักคน ลากคนออกมาแล้วตบกลับให้สาสมใจซีซีเองก็โกรธ แต่เตือนข้าว่าเมื่อเกิดเรื่องขึ้นแล้ว อย่าเพิ่งเอาแต่ระบายอารมณ์ ให้รีบไปดูเสี่ยวอวี่กับหวังชิงหรูก่อน เผื่อว่าทั้งสองจะทำเรื่องไม่คาดฝันต้องยอมรับว่าซีซีเป็นขุนนางมาหลายปี ย่อมมีวิจารณญาณในการแยกแยะเรื่องเร่งด่วนกับเรื่องสำคัญข้าจึงรีบเร่งไปยังตระกูลหวัง แล้วก็ได้รู้ว่าเสี่ยวอวี่กรีดข้อมือ ส่วนหวังชิงหรูก็ไล่สาวใช้ในเรือนออก ข้าจึงรู้สึกทันทีว่าจะต้องเกิดเรื่องขึ้นแน่จริงอย่างที่คาด หิมะยังไม่ทันตก หวังชิงหรูก็คิดจะแขวนคอตัวเองให้เป็นหมูตากแห้ง ข้าโกรธจนฟาดหน้านางไปหนึ่งฉาดที่จริงช่วงหลังมานี้ข้าเป็นคนอารมณ์ดีมาก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1592

    ข้ารู้ตัวอย่างแท้จริงว่าตนเองผิดมหันต์นั้น...เกิดขึ้นเมื่อใดกันนะ?มิใช่ตอนที่เจ้าสิบเอ็ดฝางกลับมา มิใช่ตอนที่หย่าขาดกับจ้านเป่ยว่าง และก็ไม่ใช่ตอนที่ตระกูลหวังประสบเคราะห์กรรมแต่เป็นตอนที่อวี่เจี่ยเอ่อร์กำลังจะออกเรือนตอนที่ตระกูลหวังตกอับ ข้าอยู่ในคุก เกือบเอาชีวิตไม่รอด เมื่อนึกย้อนกลับไปถึงเรื่องราวในอดีต ข้าก็รู้ว่าตัวเองมีเรื่องผิด ข้ายินดีจะขัดเกลาความแข็งกร้าว เปลี่ยนแปลงตนเองแต่ในตอนนั้น ข้ายังไม่อาจเรียกได้ว่าได้สำนึกอย่างแท้จริง เพราะข้ายังคิดว่าทั้งหมดคือเรื่องของตนเอง ต่อให้ต้องทนทุกข์ทรมานเพียงใด ก็เป็นข้าเองที่รับกรรม ใครอื่นล้วนไม่มีสิทธิ์มาตัดสินข้ารู้ดีว่าพี่สะใภ้ใหญ่ต้องลำบากวุ่นวายเพราะความเอาแต่ใจของข้า ต้องวิ่งวุ่นไปทั่ว ข้าอาจเคยชินกับการที่นางดูแลข้าเช่นนี้ จึงมีทั้งความรู้สึกขอบคุณและเคารพนางแต่เรื่องราวในอดีตของข้า ข้ามิเคยอยากย้อนกลับไปคิด เพราะนั่นคือการทำร้ายตนเอง เป็นความทุกข์ทรมานกระทั่งวันที่อวี่เจี่ยเอ่อร์กำลังจะหมั้นหมาย ข้าจึงเริ่มพลิกดูตัวเองทุกแง่ทุกมุม ให้ความเสียใจแทรกซึมกัดกินหัวใจทุกลมหายใจอวี่เจี่ยเอ่อร์กับคุณชายเส้าหมิ่นแห่งจวนป

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1591

    ซ่งซีซีหยุดฝีเท้า หันกลับมากล่าวว่า “คนในครอบครัวของนางปฏิบัติต่อนางค่อนข้างดี เพียงแต่ตอนที่หลานสาวของนางจะออกเรือน เกิดเรื่องสะดุดอยู่บ้าง โชคดีที่ท้ายที่สุดก็แต่งกับบุรุษที่ดี นางคงกลัวว่าตนเป็นหญิงโสดสูงวัย เคยแต่งงานมาแล้วถึงสองครั้ง จะถูกผู้คนติฉินนินทา พลอยทำให้หลานๆ เดือดร้อน และไม่อยากให้พี่สะใภ้ใหญ่ของนางเป็นกังวลด้วย”ข้าตอบรับในลำคอ พลางนึกถึงฮูหยินจีผู้เด็ดเดี่ยวแต่จิตใจดีงามฮูหยินจีมีบุตรชายหนึ่ง บุตรหญิงหนึ่ง ด้านหลังยังมีลูกอนุอีกหลายคน เรือนรองก็เช่นกัน บัดนี้คงยังมีบางคนที่ยังไม่ได้ออกเรือนข้านึกถึงตอนที่ฮูหยินจีจะต้องไปเจรจาสู่ขอให้พวกเขา คงยากลำบากไม่น้อย ต้องเผชิญกับเสียงนินทานานัปการจากภายนอกข้าเห็นนางเป็นพี่สะใภ้ใหญ่ด้วยใจจริง และรู้สึกสงสารในสิ่งที่นางต้องพบเจอ“เจ้าลองคิดดูเถิด” ซ่งซีซีกล่าวข้าพยักหน้า แล้วเหลือบมองภายนอก เห็นว่าไม่มีผู้ใดอยู่แถบนั้น จึงอดถามไม่ได้ว่า “เจ้ามาอยู่กับข้าสองต่อสองเช่นนี้ มิกลัวเนี่ยเจิ้งอ๋องหึงหรือ? เขาไม่รู้หรือไร?”ซ่งซีซีมีท่าทีตกใจเล็กน้อย ดูเหมือนนึกไม่ถึงว่าข้าจะถามเรื่องเช่นนี้นางอาจไม่คิดจะตอบ เพราะนางก้าวเท้า

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1590

    เมื่อแม่ทัพใหญ่เซียวได้ฉลองวันเกิดอายุครบแปดสิบปี ข้าก็ได้พบกับซ่งซีซีอีกครั้งก่อนหน้านี้ ข้าก็เคยพบนางหลายครั้ง นางเคยมาที่ชายแดนเฉิงหลิงข้ากับนางดูเหมือนคนแปลกหน้า ไม่มีการพูดคุยกัน เพียงแต่ทุกครั้งที่นางจากไปจากชายแดนเฉิงหลิง ข้าก็มักจะแอบตามส่งนางอยู่ห่างๆใจลึกๆ ที่ทำเช่นนั้น ข้าก็ไม่รู้ว่าทำไปเพื่อสิ่งใดข้ามักรู้สึกผิดกับนางอยู่เสมอกับยี่ฝางและหวังชิงหรู ข้าก็มีสิ่งที่รู้สึกผิดอยู่เช่นกัน แต่ระหว่างข้ากับพวกนางต่างฝ่ายต่างบาดหมาง โต้เถียงกัน พวกนางเคยทำร้ายข้า ข้าก็เคยทำร้ายพวกนางแต่กับซ่งซีซี มีเพียงข้ากับคนในครอบครัวที่ทำร้ายนาง นางไม่เคยแม้แต่จะทำร้ายพวกเราเลยสักครั้ง แม้แต่หลังจากหย่าขาดกันแล้ว นางจะไม่สนใจอาการป่วยของท่านแม่ก็ได้ แต่นางกลับสอนพี่สะใภ้ใหญ่ให้รู้วิธีขอยาดันเสวี่ยเมื่อข้าได้พบกับนางในงานฉลองวันเกิดแปดสิบปีของแม่ทัพใหญ่เซียว นางได้กลายเป็นพระชายาของเนี่ยเจิ้งอ๋องแล้ว เรื่องราวในราชสำนักนั้น พวกทหารชายแดนอย่างพวกข้าไม่ค่อยใส่ใจนัก แต่เสบียงอาหารอุดมสมบูรณ์ อาวุธยุทโธปกรณ์ก็ครบครัน แม้แต่เงินเดือนที่เราได้รับก็เพิ่มขึ้น นี่คือผลประโยชน์ที่เห็นได้ชัด

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status