เมื่อซ่งซีซีได้รับคำสั่งเรียกจากฮองเฮา นางก็รู้สึกงุนงงมากทำไมถึงให้นางไปหาอาจารย์ฉี? หากต้องการเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เช่นนั้นก็ออกคำสั่งเรียกให้นางเข้าวังก็ได้ ทำไมต้องไปเจออาจารย์ฉีที่ตระกูลฉีด้วย?ตอนนี้อาจารย์ฉีป่วยหนัก หากเขาจะดุด่านาง นางก็คงไม่สามารถเถียงกลับได้จริงๆ ไม่เช่นนั้นถ้าตายต่อหน้านาง แม้นางพูดอะไรไปก็ไม่สามารถอธิบายได้ชัดเจนอยู่ดีเสิ่นว่านจือเล่าสถานการณ์ปัจจุบันของอาจารย์ฉีให้นางฟัง ซึ่งก็ไปได้ยินมาภายในสองวันนี้ บอกว่าเขาไม่กินไม่ดื่ม เป็นเหมือนตะเกียงน้ำมันที่ใกล้จะดับมอด เพียงถูกใครกระตุ้นก็สามารถสิ้นแรงไปได้ตอนนั้นเลย“อาจารย์ฉีคงไม่ได้อยากให้เจ้าไปส่งเขาเป็นครั้งสุดท้ายกระมัง? ตาแก่นี่ใจคอโหดร้ายจริงๆ” เฉินเฉินก็รู้เรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่ต้น นางเป็นคนปากคอเราะรายมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ประกอบกับที่นางรู้มาว่าอาจารย์ฉีเคยวิจารณ์ซ่งซีซี ดังนั้นจึงพูดจาไม่ไว้หน้าเลย“อย่าไป อย่างมากก็แค่ฝ่าฝืนคำสั่ง” หมั่นโถวที่อยู่ข้างๆ ก็พูดเช่นกัน “คำสั่งของฮองเฮาไม่สำคัญ แค่ไม่ฝ่าฝืนฝ่าบาทก็พอ”ส่วนเสิ่นว่านจือมีวุฒิภาวะมาก “หากไม่ทำตามพระประสงค์ของฮองเฮา ดูเผินๆ ฝ่าบาทอาจไม่
เสนาบดีมู่ประกบมือคำนับ “คำสั่งของฮองเฮา กระหม่อมไม่กล้าฝ่าฝืน ถึงอย่างไรท่านก็เป็นเจ้านาย กระหม่อมเป็นขุนนาง กษัตริย์และข้าเป็นรัฐมนตรี แต่พระชายามาที่นี่เพื่อเยี่ยมไข้ และทั้งสองคนไม่มีความแค้นส่วนตัวใน คิดว่าคงไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ เกิดขึ้นอีก”ต่อหน้าสุนัขจิ้งจอกพันปี ฮองเฮาฉีเป็นเพียงพังพอนตัวน้อย แม้จะมีเจตนาร้ายแต่ก็ใช้วิธีการที่ซ้ำซากจำเจอาศัยสถานะฮองเฮา ใส่ร้ายป้ายสีอย่างเปิดเผย แม้จะรู้ว่ามันอาจจะถึงแก่ชีวิตของปู่ แต่นางก็ไม่สนใจเสนาบดีมู่ยินดีที่จะมา แต่จริงๆ แล้วมันตรงกันข้ามกับสิ่งที่ซ่งซีซีคิดเลย เขาจะให้การเป็นพยานและโต้แย้งด้วยเหตุผลนอกจากนี้เขายังมองหน้าคนตระกูลฉีด้วยสีหน้าเย็นชา “ดีนักนะ ลูกหลานกตัญญูทั้งกลุ่ม อาจารย์ฉีคงจะไม่เสียใจเลย”ทุกคนที่เข้าใจในใจก็ก้มหน้าลง ไม่กล้ามองตรงไปที่เสนาบดีมู่ก่อนที่ซ่งซีซีจะพูดอะไร ฉีฮูหยินใหญ่ก็ยืนขึ้นแล้วพูดว่า “ใต้เท้าซ่ง ขอบคุณท่านมากที่เชิญหมอมหัศจรรย์ดันมารักษานายท่านผู้เฒ่า ใต้เท้าเป็นคนใจดีมีเมตตา ข้ารู้สึกขอบคุณอย่างสุดซึ้ง”ฮองเฮาฉีดูเหมือนจะไม่คาดคิดว่ามารดาจะพูดแบบนี้ ทันใดนั้นสีหน้าก็มืดมนลงพลัน “ท่านแม่ มีแค่หม
ในเรือนเหวินซี โคมไฟที่อยู่หน้าทางเดินส่องภาพกระดาษตัดบนโครงตาข่ายหน้าต่าง และสะท้อนมันลงบนผนังบ้านราวกับสัตว์ขนาดยักษ์อย่างไรอย่างนั้นซ่งซีซีนั่งบนเก้าอี้ไม้ที่มีพนักพิง ประสานมือไว้ข้างหน้า ร่างเพรียวบางห่อด้วยเสื้อผ้าเรียบๆ นางมองไปที่คนอยู่ตรงหน้า ซึ่งเป็นสามีที่เพิ่งต่างงานของนาง ซึ่งนางรอคอยมานานหนึ่งปีชุดเกราะทหารที่ดูค่อนข้างเก่าของจ้านเป่ยว่างยังไม่ได้ถอด และเขาดูสง่างาม ใบหน้าหล่อเหลาของเขามีความรู้สึกขอโทษแฝงไว้ "ซีซี ได้ออกพระราชกฤษฎีกาให้สมรสกันแล้ว ยี่ฝางจะต้องแต่งเข้ามาอย่างแน่นอน"ซ่งซีซีประสานมือไว้หน้าลำตัว ดวงตาของนางมืดมัว นางถามอย่างสงสัย "ไทโฮ่วเคยกล่าวไว้ว่าแม่ทัพยี่ฝางเป็นแบบอย่างสำหรับผู้หญิงในใต้หล้า นางยอมที่จะเป็นอนุภรรยาหรือ? "ดวงตาที่หนักอึ้งของจ้านเป่ยว่างฉายแววความไม่พอใจขึ้นมาเล็กน้อย "ไม่ ไม่ใช่อนุภรรยา นางเป็นภรรยาเท่าเทียม ไม่ต่างจากเจ้า"ซ่งซีซียังคงนิ่งเฉยและพูดว่า "ท่านแม่ทัพรู้ดีว่าภรรยาเท่าเทียมแค่ฟังดูดีเท่านั้น แต่จริงๆ แล้วนางก็เป็นอนุภรรยาอยู่ดี"จ้านเป่ยว่างขมวดคิ้ว "จะอนุอะไรกัน นางกับข้ามีใจให้กันในสนามรบและตกหลุมรักกัน อีกอย่างเ
จ้านเป่ยว่างจนใจเล็กน้อย "ทำไมต้องหาเรื่องด้วยล่ะ? นี่คือพระราชทานสมรสที่ฝ่าบาทออกให้ และแม้ว่ายี่ฝางจะเข้ามา พวกเจ้าก็อยู่คนละเรือนกัน และนางก็จะไม่แย่งชิงสิทธิในการบริหารครอบครัวกับเจ้า ซีซี สิ่งที่เจ้าให้สำคัญนั้นนางไม่สนหรอก""ท่านคิดว่าข้าสนใจอยากกุมอำนาจดูแลบ้านเหรอ?" ซ่งซีซีถามกลับ มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นผู้นำที่ดูแลจวนแม่ทัพ แค่ยาที่หมอมหัศจรรย์ดันออกให้ฮูหยินผู้เฒ่ากินในแต่ละเดือนก็ต้องเสียเงินหลายสิบตำลึง ไหนจะของกินของใช้ของทุกคน ไหนจะมีญาติพี่น้องและเพื่อนต้องติดต่ออีก ต้องใช้เงินไปหมดจวนแม่ทัพมีแค่มีชื่อเสียงเท่านั้น ในปีที่ผ่านมา เงินสินเดิมของนางใช้อุดหนุนไปไม่น้อยเลย แต่นี่คือผลที่นางแลกมางั้นหรือจ้านเป่ยว่างหมดความอดทนโดยสิ้นเชิง "ช่างเถอะ ข้าไม่อยากเสียน้ำลายกับเจ้า ข้าแค่ต้องแจ้งให้เจ้าทราบเรื่องก็เท่านั้น ไม่ว่าเจ้าจะเห็นด้วยหรือไม่ก็ตาม เจ้าไม่สามารถเปลี่ยนใจข้าได้"ซ่งซีซีเฝ้าดูเขาเดินจากไปอย่างเย็นชา รู้สึกตัวเองน่าขำมากทีเดียว"คุณหนู" เป่าจูเช็ดน้ำตาอยู่ข้างๆ "ท่านเขยเขารังแกคนมากเกินไปจริงๆ""อย่าเรียกไปมั่ว!" ซ่งซีซีเหลือบมองนางเบาๆ "เขาและข้ายังไม่ได้
เป่าจูหยิบรายการสินเดิมมา "ในเวลาหนึ่งปีนี้ ท่านได้อุดหนุนเงินไปมากกว่าหกพันตำลึง แต่ร้านค้า บ้านพัก และสวนต่างไม่ได้แตะต้องเลย ใบรับรองเงินฝากของฮูหยิงที่เก็บไว้ในร้านฝากเงินตอนมีชีวิต และโฉนดบ้าน โฉนดที่ดิน ฯลฯ ทั้งหมดอยู่ในกล่องแถมได้ปิดไว้เรียบร้อย""อืม!" ซ่งซีซีดูรายการนั้น ท่านแม่ของนางให้สินเดิมก้อนโตแก่นางในเวลานั้น คงกลัวว่านางจะต้องทนทุกข์ในครอบครัวของสามี และนางรู้สึกเจ็บปวดใจอย่างรุนแรงขึ้นมาเป่าจูถามอย่างเศร้าๆ จากด้านข้าง "คุณหนู เราจะไปที่ไหนได้บ้าง หรือว่าจะกลับจวนโหวเหรอ ไม่งั้นเรากลับภูเขาเหม่ยชานดีไหม"สายตาของนางแวบภาพที่ทั้งจวนเต็มไปด้วยเลือดและศพอันน่าสลดใจของคนในครอบครัว นางรู้สึกเจ็บปวดใจทันที "ไปไหนก็ได้ ยังไงก็ดีกว่าอยู่ที่นี่""พอท่านไปแล้ว มันก็ให้พวกเขาได้สมหวังสินะ"ซ่งซีซีพูดดรียบๆ "ถ้าอย่างนั้นก็ให้พวกเขาได้สมหวังเถอะ หากข้าอยู่ต่อ ก็จะใช้ชีวิตอย่างทรมานเมื่อต้องเห็นพวกเขารักใคร่กัน เป่าจู ยามนี้ จวนโหวเหลือข้าเพียงคนเดียว ข้าต้องอยู่ดีกินดีเพื่อที่พ่อแม่และพี่ๆ ของข้าที่อยู่ในสวรรค์ได้หายห่วง""คุณหนู!" เป่าจูร้องไห้อย่างหนัก นางเป็นผู้รับใช้ที่
ฮูหยินผู้เฒ่าฝืนยิ้ม "จะชอบหรือไม่ยังให้คำตอบไม่ได้ เพิ่งพบกันครั้งแรก แต่ในเมื่อฝ่าบาททรงพระราชทานอภิเษกสมรสแล้ว มันก็เป็นเรื่องที่กำหนดไว้แล้ว ต่อไปนางและเป่ยว่างร่วมือกันเพื่อสร้างผลงานในกองทัพ ส่วนเจ้าจัดการดูแลเรื่องฝ่ายในของจวนแม่ทัพ เพลิดเพลินกับความสำเร็จทางการทหารที่พวกเขาต่อสู้มา ช่างดีเหลือเกิน""ดีจริงๆ!" ซ่งซีซียิ้ม "แต่ให้แม่ทัพยี่เป็นแค่อนุภรรยาคงไม่เหมาะกับสถานะของนางสินะ"ฮูหยินผู้เฒ่ายิ้มแล้วกล่าวว่า "เจ้าเด็กโง่เอ๊ย นางจะเป็นแค่อนุภรรยาได้ยังไง ในเมื่อฝ่าพระบาททรงพระราชทานอภิเษกสมรสแล้ว อีกอย่างนางยังเป็นผู้บัญชาการทหาร เป็นข้าราชการในราชสำนักด้วย ข้าราชการจะเป็นอนุภรรยาได้ยังไง เป็นภรรยาที่เท่าเทียมกัน ไม่มีใครเหนือกว่า"ซ่งซีซีกล่าวว่า "ไม่มีใครเหนือกว่างั้นเหรอ ราชวงศ์ของเรามีกฎเช่นนี้หรือ"ฮูหยินผู้เฒ่าดูเย็นชาเล็กน้อย "ซีซี เจ้าเป็นคนมีเหตุผลเสมอ ในเมื่อเจ้าได้แต่งเข้าตระกูลจ้านแล้ว ควรตามกฏของตระกูลจ้านก่อน หลังจากได้รับตรวจสอบโดยกระทรวงกลาโหมแล้ว ยี่ฝางสร้างผลงานโดดเด่นกว่าเป่ยว่างในสงครามครั้งนี้ ต่อไปสองสามีภรรยาพวกเขามีใจเดียวกันกัน บวกกับมีเจ้าดูแลฝ่าย
คนของตระกูลจ้านต่างมองหน้ากัน คิดไม่ถึงว่าซ่งซีซีมักจะที่อ่อนแอนั้น ยามนี้จะเด็ดขาดเช่นนี้ยิ่งกว่านั้นนางไม่ยอมเชื่อฟังท่านแม่ด้วยซ้ำฮูหยินผู้เฒ่าพูดอย่างเย็นชา "นางต้องยอมแน่นอน นางไม่มีทางเลือกอื่น"ใช่ไง บัดนี้นางไม่มีครอบครัวที่ให้พึ่งพา นางไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องอยู่ในตระกูลจ้าน ยิ่งไปกว่านั้นตระกูลจ้านไม่ได้ปฏิบัติไม่ดีต่อนาง นางยังเป็นภรรยาเอกเช้าวันรุ่งขึ้น ซ่งซีซีนำเป่าจูกลับจวนโหวเจิ้นเป่ยภายในจวนก็รกร้าง ใบไม้ร่วงหล่นกองอยู่อย่างไรก็ตาม ไม่มีคนดูแลมาครึ่งปีแล้ว และลานบ้านของจวนโหวมีวัชพืชที่สูงพอๆ กับผู้ใหญ่ได้เมื่อเหยียบเข้าไปในจวนโหวอีกครั้ง ซ่งซีซีก็รู้สึกเจ็บใจจนเหมือนโดนมีดแทงใจเมื่อหกเดือนก่อน นางตกใจเมื่อได้ยินว่าครอบครัวของนางถูกสังหารไปหมด นางทรุดตัวลงคุกเข่าต่อหน้าศพของท่านย่าและท่านแม่ พวกนางหนาวมากจนไม่มีความอบอุ่นแม้แต่นิดเลย และทุกที่ของจวนก็เปื้อนไปด้วยเลือดหมดมีห้องโถงของบรรพบุรุษอยู่ในจวนโหว และป้ายวิญญาณของบรรพบุรุษของตระกูลซ่งและท่านแม่ของนางล้วนอยู่ในห้องโถงของบรรพบุรุษนางและเป่าจูกำลังเตรียมเครื่องบูชา และน้ำตาของพวกนางก็ไม่เคยหยุด
ซ่งซีซีคุกเข่าในห้องอ่านหนังสือของจักรวรรดิ ลดศีรษะลงพลางหรี่ตาลงจักรพรรดิ์ซูชิงจำได้ว่าทั้งครอบครัวจวนโหวเจิ้นเป่ยตอนนี้เหลือนางเพียงคนเดียวแล้ว เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสารขึ้นมา "ลุกขึ้นค่อยพูด!"ซ่งซีซีประสานมือแล้วกราบ "ฝ่าบาทเพค่ะ ที่หม่อมฉันมาขอพบในวันนี้ถือว่าทำตัวล่วงเกินไปจริงๆ แต่หม่อมฉันอยากขอเรื่องหนึ่งจากฝ่าบาทเพค่ะ"จักรพรรดิ์ซูชิงว่า "ซ่งซีซี ข้าได้ออกพระราชโองการแล้ว และไม่สามารถกลับคำได้"ซ่งซีซีส่ายหัวเบาๆ "หม่อมฉันขอร้องฝ่าบาทออกพระราชโองการให้หม่อมฉันกับแม่ทัพจ้านหย่าโดยสันติเพค่ะ"จักรพรรดิ์หนุ่มตกใจ "หย่า? เจ้าต้องการหย่าหรือ?"เดิมทีเขาคิดว่านางมาที่นี่เพื่อขอร้องให้เขาถอนพระราชโองการกาแต่งงาน แต่ไม่ได้คาดคิดว่านางมาขอออกพระราชโองการให้หย่าโดยสันติซ่งซีซีกลั้นน้ำตา "ฝ่าบาทเพค่ะ แม่ทัพจ้านและแม่ทัพยี่ใช้ผลงานการเอาชนะศึกเพื่อขอพระราชทานอภิเษกสมรส วันนี้เป็นวันครบรอบการเสียชีวิตของท่านพ่อและพี่ชายของหม่อมฉัน หม่อมฉันก็ต้องการใช้ผลงานทางทหารของพวกเขาเพื่อขอพระราชโองการให้หย่า หวังว่าฝ่าบาทจะทรงอนุญาตให้!"ดวงตาของจักรพรรดิ์ซูชิงมีความซับซ้อน "ซีซี เจ้ารู้ห