แชร์

บทที่ 1210

ผู้เขียน: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-05 18:56:11
จิงเจ๋อที่อยู่หน้าประตูเมื่อได้ยินเช่นนั้น น้ำตาก็ไหลลงมาอย่างรวดเร็วอย่างไม่อาจกลั้นน้ำตาไว้ได้

นางรู้ดีที่สุดว่าช่วงเวลานี้คุณหนูใช้ชีวิตแบบไหน รู้สึกทรมานจิตใจเพียงใด ตอนนี้แม่ทัพฝางก็มาตีฆ้องร้องป่าวเพื่อขอแต่งงาน ทั้งยังได้เชิญฮูหยินเสนาบดีมาเป็นแม่สื่อให้ด้วย หากการแต่งงานเป็นไปได้ด้วยดี ไม่รู้ว่าจะตบหน้าคนไปมากมายเพียงใด

เหตุใดคุณหนูถึงไม่ตกลงนะ? นางอยากจะหันหลังกลับ ไปตอบตกลงแทนคุณหนูเสียเลย

หยานหรูอวี้แสบจมูก "ถ้าวันนี้ข้าไม่ตกลง แม่ทัพจะต้องถูกหัวเราะเยาะ"

เจ้าสิบเอ็ดฝางยิ้มแล้วพูดว่า "ข้าไม่กลัวที่จะถูกคนหัวเราะเยาะ ให้พวกเขาหัวเราะเยาะข้า มาหัวเราะเยาะข้าให้หมดเลย ข้าเป็นบุรุษจะต้องกลัวอะไร? คุณหนูช่วยชีวิตผู้คนอย่างกล้าหาญในสถาบันการศึกษาสตรี ไม่ควรถูกโจมตีด้วยข่าวลือพวกนั้นด้วยซ้ำ”

เมื่อหยานหรูอวี้ได้ยินเช่นนี้ ดูเหมือนนางจะตระหนักถึงบางสิ่งบางอย่าง ที่เขามาอย่างเอิกเกริกยิ่งใหญ่ขนาดนี้ เพราะเขาคิดว่าถ้ามันไม่สำเร็จ ประเด็นต่างๆ ก็จะมุ่งเป้าไปที่เขาแทน เพื่อช่วยนางคลี่คลายสถานการณ์กระนั้นหรือ?

เจ้าสิบเอ็ดฝางยืนขึ้น ยังคงยิ้มอยู่ "คุณหนูค่อยค่อยๆ ไตร่ตรองดู ไม่จำเป็
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1211

    ทั้งหมดจึงถูกจัดการเช่นนี้ ซ่งซีซีจึงมีอิสระที่จะจัดการกับคนที่ก่อความวุ่นวายเจ้าสิบเอ็ดฝางเรียกคนเหล่านั้นมาแค่ตอนแต่งงานเท่านั้น ไม่ได้ใช้การลงโทษ ซ่งซีซีก็ไม่ทำ ต่างก็ทำงานโดนยคำนึงถึงสถานการณ์โดยรวมนางให้ลู่เจินนำคนทั้งหมดกลับมา ลงโทษพวกเขาที่แพร่ข่าวลือและสร้างปัญหาถ้าไม่จ่ายค่าปรับก็ต้องถูกโบย ไม่ว่าใครที่มีชื่อปรากฏในรายชื่อของอาจารย์หยู ไม่มีใครสามารถหนีรอดได้แม้แต่คนเดียวสำหรับตระกูลฉีก็ยังส่งคนไปเบี่ยงเบนความสนใจด้วย มีความสงสัยว่าจงใจทำร้ายหยานหรูอวี้ ดังนั้นซ่งซีซีจึงมอบหลักฐานทั้งหมดที่รวบรวมได้ให้กับองค์หญิงใหญ่หมิ่นชิง องค์หญิงใหญ่หมิ่นชิงก็ส่งมอบให้ผู้ตรวจการกงเตีย ก่อนเลิกประชุม ยังฟ้องร้องตระกูลฉีด้วยแม้ว่าเจ้ากรมฉีจะบอกว่าเขาไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่จักรพรรดิซูชิงยังคงปรับเงินเดือนเขาครึ่งปี แถมยังไม่ได้ให้ประทานรางวัลสิ้นปีให้เขาด้วยซ้ำ เนื่องจากการควบคุมที่หละหลวมเมื่ออู๋ต้าปั้นส่งรางวัลไปที่จวนเป่ยหมิงอ๋อง ซ่งซีซีก็มาต้อนรับเขาด้วยตัวเอง และเชิญเขาไปดื่มชารุ่ยเอ๋อร์รับไว้แล้ว ซ่งซีซีก็ดึงเขาออกมาคำนับอู๋ต้าปั้นในปีนี้รุ่ยเอ๋อร์เติบโตขึ้นมา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-05
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1212

    หลังจากส่งอู๋ต้าปั้นแล้ว ซ่งซีซีก็ไปคุยกับอาจารย์หยูสองสามคำ จากนั้นก็ไปร่วมกับเสิ่นว่านจือและศิษย์พี่ห้าที่ย่างมันเทศรอบกองไฟกิจการของหอหนานเฟิงจะถูกปล่อยให้เป็นของอาจารย์หยู ซึ่งอาจารย์หยูจะส่งคนไปจับตาดูพวกเขาทั้งสองกำลังพูดเรื่องอาจารย์ฉีกันอยู่เสิ่นว่านจือ รู้สึกว่าถ้าไม่ได้เห็นมันด้วยตาของตัวเอง คงจะไม่มีทางเชื่อมันหวังเยว่จางบอกว่าเขาเดินทางไปทั่วแคว้น ได้เห็นทุกอย่าง แต่เรื่องเช่นนี้...เขาไม่เคยเห็นมาก่อน อายุจนปูนนี้แล้ว สถานะก็ยังได้รับความเคารพมากมาย ทำไมถึงไปสถานที่แบบนั้น?จากการสังเกตของพวกเขา ตอนที่อาจารย์ฉีไปที่หอหนานเฟิง ก็ไม่ได้ทำอะไรที่อุจาดสายตา แค่เรียกบริกรสองสามคนยกอาหารเข้าไปให้ ดื่มสุรา ฟังบทเพลง และสัมผัสมือเล็กๆ อาจารย์ฉีเป็นอาจารย์ของอดีตฮ่องเต้ และอดีตฮ่องเต้ไม่ชอบชายรักชายมากที่สุด ถึงขั้นเกลียดชังด้วยซ้ำในฐานะอาจารย์ของอดีตฮ่องเต้ เขาได้ช่วยเหลืออดีตฮ่องเต้ในการปกครองบ้านเมืองหลังจากที่เขาขึ้นครองบัลลังก์ โดยปกติแล้ว เมื่อพิจารณาจากความระมัดระวังและความอ่อนน้อมถ่อมตนของตระกูลฉี ในช่วงปีแรกๆ เขาควรจะเกลียดกระแสเช่นนี้อย่างสุดซึ้งถึงจะถูกเป็น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-05
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1213

    เสิ่นว่านจือที่อยู่ข้างๆ พูดแทรกขึ้นว่า "จริงๆ แล้ว ข้าคิดว่าเจ้าได้ทั้งผู้ชายผู้หญิง""ขอบคุณที่ให้เกียรติ ถึงได้ทั้งชายทั้งหญิงก็ไม่ดี ขอบคุณ" หวังเยว่จางยืดเส้นยืดสาย "พวกเจ้าค่อยๆ กินไปนะ สองพี่น้องค่อยๆ คุยกันเถอะ"เขาลุกขึ้นยืนและเดินจากไป เดิมทีเขาเดินด้วยฝีเท้าสบายๆ บางครั้งก็แกว่งไปแกว่งมาตามสายลม บางครั้งก็ก้าวไปข้างหน้า ตอนนี้เขารู้สึกว่ามีดวงตาสองข้างจ้องมองเขาจากด้านหลัง"จริงสิ หมั่นโถวกับเฉินเฉินอาจะมาเฉลิมฉลองปีใหม่ด้วย ที่เขียนจดหมายส่งมาก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้ยังไม่เคยเห็นใครเลย คิดว่าคงไม่มาแล้ว" เสิ่นว่านจือจึงนึกถึงเรื่องนี้ได้ พูดกับซ่งซีซี“ช่วงฉลองวันปีใหม่ อาจารย์พวกเขาปล่อยคนหรือ?” ซ่งซีซีถาม“ถ้าไม่มา คิดว่าคงไม่ถูกปล่อยตัวให้มา บางทีอาจจะกลับมาอีกครั้งหลังปีใหม่” เสิ่นว่านจือเพิ่มถ่านจำนวนหนึ่ง มองดูถ่านสีแดงที่ถูกปกคลุมไปด้วยถ่านเงินที่เพิ่งเพิ่มเข้ามา ด้านข้างค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงอีกครั้ง “เดิมทีเจ้าบอกว่าเรามีคนไม่เพียงพอ ข้าก็เลยเขียนจดหมายไปบอกพวกเขา”“ถ้าเฉินเฉินมาได้ก็คงจะดีไม่น้อย” ซ่งซีซีพิงไหล่ของเสิ่นว่านจือด้วยสีหน้าที่เหนื่อยล้า “ปีนี้ข้ารู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-05
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1214

    ในวันก่อนตรุษจีน รุ่ยเอ๋อร์สวมใส่เสื้อกันหนาวบุนวมผ้าไหมสีแดง สวมหมวกใบหนา รอบๆ หมวกมีขนสุนัขจิ้งจอกแซมอยู่รอบใบ ท่าทางร่าเริงสดใส รอคอยรถมาของตระกูลขงอย่างตื่นเต้นอาจารย์หยูได้เตรียมของขวัญไว้มากมายแล้ว ของส่วนใหญ่เป็นรุ่ยเอ๋อร์เลือกมาด้วยตัวเองเมื่อคืนลุงฟูส่งบัญชีจากจวนเสนาบดีกั๋วกงมาให้ เขาอดหลับอดนอนทั้งคืนตั้งใจตรวจสอบบัญชีนั้น อาจารย์หยูบอกแล้วว่าไม่รีบเร่ง ยังไปขอซ่งซีซีเมตตา ซ่งซีซียังบอกอีกว่าให้เขาเรียนรู้การจัดการบัญชีเร็วหน่อยก็ดี จวนเสนาบดีกั๋วกงนี้สุดท้ายเขาก็ต้องขึ้นมาเป็นคนดูแลอยู่ดีเขาดูบัญชี เฉินเสี่ยวเหนียนเด็กรับใช้อยู่เป็นเพื่อนเขาข้างๆ ทว่าวันนี้ เฉินเสี่ยวเหนียนก็จะกลับบ้านไปฉลองวันปีใหม่แล้ว ไม่สามารถไปตระกูลขงกับเขาได้เรื่องที่ซ่งซีซีดีใจมากที่สุดคือรุ่ยเอ๋อร์นั้นมีความคิดละเอียดรอบคอบมาก หนักแน่นมั่นคง แต่ก็ยังไม่สูญเสียความใสซื่อของวัยเยาว์ บางทีอาจเป็นเพราะแสร้งทำ เพราะเขาผ่านความลำบากมามาก แต่ต่อให้เป็นการแสร้งทำ ก็ดีเหมือนกัน เกิดเป็นคน บางทีก็ต้องแสร้งทำ ต้องอยู่ให้เป็นแม้ว่ารุ่ยเอ๋ฮร์จะอยากไปฉลองวันปีใหม่กับตระกูลขง แต่วันนี้ท่านอาเขยไม่อยู่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-05
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1215

    ก่อนงานเลี้ยงในวัง ไปนั่งที่ไทเฮาครู่หนึ่ง ไปนั่งที่ที่พระสนมเต๋อเฟยครู่หนึ่ง ไปนั่งที่พระสนมกงเฟยครู่หนึ่ง จากนั้นจึงเล่นในดอกไม้กับเซียนหนิง หมินชิง และองค์หญิงใหญ่คนอื่นๆองค์หญิงใหญ่หมินชิงวันนี้สวมชุดฉิงหลวนปักสีแดงและใบหน้าของนางดูสง่างามยิ่งขึ้น นางถือพัดกลมๆ ไว้เพื่อปกปิดใบหน้าของนางแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม "หลังจากได้ยินว่าตระกูลฉีถูกรายงานแล้ว อาจารย์ฉีเรียกสมาชิกในตระกูลมาในคืนนั้นและลงโทษเรือนสี่อย่างรุนแรงโดยบอกว่าปัญหานี้ทั้งหมดเกิดจากเรือนสี่”องค์หญิงใหญ่หมินชิงถือกำเนิดมาจากไทเฮา และองค์หญิงสายตรงย่อมมีเกียรติกว่าเสมอ และองค์หญิงคนอื่นๆ ก็เดินตามนางไป นางพูดเรื่องตระกูลฉี คนอื่นๆ เห็นพ้องตาม แม้แต่องค์หญิงฮุ่ยเจิงก็ยังหัวเราะตามด้วยองค์หญิงใหญ่ฮุ่ยเจิงเป็นองค์หญิงของฉีกุ้ยไทเฟยซึ่งเป็นหลานสาวของตระกูลฉี องค์หญิงใหญ่ฮุ่ยเจิงไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กับตระกูลฉีในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเพราะองค์ชายมเหสีหลี่โย ในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นองค์หญิงหรือองค์ชายส่วนใหญ่แต่งงานกับตระกูลฉี ตระกูลฉีมีอำนาจมากเกินไป ไม่ว่าอะไรก็ตามเมื่อถึงจุดสูงสุดก็จะตกลงมาสู่จุดต่ำสุด ดังนั้นจึงเป็นการดีที่จะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-05
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1216

    โดยที่ไม่รู้เลยว่าตลอดเวลาหลังจากนั้น ถงเจี๋ยหยูจะยังคงพูดคุยกับนาง บางครั้งในขณะที่พูดก็หัวเราะเขินๆ ทั้งยังใช้มือผลักซ่งซีซี ทำท่าทางอ้อนๆ อย่างน่ารัก ราวกับว่านางคุ้นเคยกับซ่งซีซีมากปฏิสัมพันธ์ระหว่างพวกนางทั้งสอง ยังดึงดูดความสนใจของบรรดาสนมที่อยู่ใกล้เคียง บางคนก็มองดูพวกนางหลายครั้งถ้าจะบอกว่าเป็นปฏิสัมพันธ์ แต่จริงๆ แล้วซ่งซีซีก็แค่คล้อยตามหรือพยักหน้าเป็นครั้งคราว และยิ้มเพื่อไว้หน้าเท่านั้นแต่คนอื่นๆ ก็ไม่ได้คิดอย่างนั้น แม้แต่องค์หญิงใหญ่หมิ่นชิงและองค์หญิงเซียนหนิงที่หลังจากดูละครจบ ก็ถามซ่งซีซีเป็นการส่วนตัวว่า “ที่แท้เจ้ากับถงเจี๋ยหยูรู้จักกันมาก่อนหรือ?”ซ่งซีซีสั่นศีรษะ “ไม่รู้จัก เพิ่งเจอกันครั้งแรก”“พบกันครั้งแรกก็ดูสนิทกันขนาดนี้เชียวหรือ?” เซียนหนิงดูตกตะลึงกลับเป็นองค์หญิงหมิ่นชิงที่สังเกตเห็นเค้าลางบางอย่าง ขมวดคิ้ว “ต่อไปอย่าติดต่อกับนางอีก แรงจูงใจไม่บริสุทธิ์”อันที่จริงซ่งซีซีก็รู้เรื่องนี้ แต่เวลานั้นทุกคนกำลังดูละคร หากนางลุกขึ้นจากไปอย่างกะทันหัน จะทำลายอารมณ์สุนทรีย์ของไทเฮาและไทเฟยแต่ซ่งซีซีรู้สึกว่าถงเจี๋ยหยูคนนี้ ก็ไม่ได้ฉลาดมากนักหลังจาก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-05
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1217

    เขาตกตะลึงเล็กน้อย หันกลับมามองซ่งซีซีด้วยสีหน้าไม่คาดคิด “พระชายาคิดว่าข้าพูดไม่ถูกต้องกระนั้นหรือ? หรือพระชายาคิดว่าตัวเองมีคุณสมบัติที่จะสั่งสอนได้?”สนมฮุ่ยไทเฟยเอื้อมมือออกไปดึงซ่งซีซี บอกเป็นนัยว่าอย่าทะเลาะกับอาจารย์สนมฮุ่ยไทเฟยรักอดีตฮ่องเต้ จึงเคารพอาจารย์ฉีเป็นอย่างมาก ถึงขั้นที่อยากให้เซี่ยหลูโม่แต่งงานกับบุตรีตระกูลฉี และสุดท้ายเซียนหนิงบุตรีของตนก็ได้แต่งงานกับฉีลิ่ว ซึ่งถือว่าสมความปรารถนายิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่าแม้ว่าอาจารย์จะพูดกับซ่งซีซีด้วยน้ำเสียงในเชิงสั่งสอน นั่นก็เป็นเพียงคำตักเตือนจากผู้ใหญ่ถึงผู้เยาว์ ซ่งซีซีควรยอมรับอย่างถ่อมตนแม้ว่าในใจของนางจะรู้สึกไม่สบายใจบ้าง เพราะน้ำเสียงของอาจารย์ฉีเจือไปด้วยความประชดประชัน แถมยังบอกว่าลูกสะใภ้ของนางไร้อารยธรรมอีก แต่ความรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยตรงนี้ก็สามารถมองข้ามไปได้เพราะสถานะของอีกฝ่ายให้เกียรติผู้สูงอายุอย่างไรล่ะซ่งซีซีเงยหน้าขึ้นแล้วมองตรงไปที่เขา “อาจารย์พูดผิดไปแล้ว แม้ว่าข้าจะไม่สามารถอบรมสั่งสอนและให้ความรู้แก่ผู้คนนั้น แต่มีความมุ่งมั่นที่จะปกป้องสถาบันการศึกษาหย่าจวิน ข้ามีความผิด ผิดที่ไม่รู้ว่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-05
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1218

    เมื่อซ่งซีซีกลับมาถึงบ้าน อาจารย์หยูยื่นจดหมายของเซี่ยหลูโม่ให้นาง แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “วันนี้ท่านเพิ่งออกไปข้างนอก จดหมายของท่านอ๋องก็ส่งมาถึง”ดวงตาของซ่งซีซีเป็นประกาย เอื้อมมือไปรับ ยังไม่รีบร้อนที่จะอ่าน ถามขึ้นว่า “ทำไมอาจารย์ไม่กลับบ้านไปฉลองปีใหม่กับครอบครัวล่ะ?”“ใกล้จะกลับไปเฝ้าปีกับพวกเขาแล้ว นี่ไง กำลังรอส่งจดหมายให้พระชายาด้วยมือตัวเองอยู่” อาจารย์หยูหรี่ตาลง “อยากเห็นพระชายามีความสุข และอยากรู้ว่านอกจากเรื่องส่วนตัวแล้ว ท่านอ๋องยังได้พูดถึงเรื่องอีกหรือไม่”ซ่งซีซีไม่ได้ปิดบังความสุขเลย “นี่เป็นจดหมายฉบับแรกจากเขา ข้าอ่านก่อน”นางรู้ว่าในจดหมายจะต้องมีข้อมูลของสถานการณ์ ฉะนั้นจึงต้องส่งจดหมายฉบับนี้ให้อาจารย์หยูดูเหมือนกันทว่าหลังจากที่นางเปิดจดหมายก็พบว่าจดหมายนั้นแบ่งออกเป็นสามแผ่น สองแผ่นแรกเขียนถึงนาง และอีกแผ่นหนึ่งเป็นคำอธิบายสถานการณ์หลังจากกวาดตาตูคร่าวๆ สักพัก นางก็ยื่นส่วนที่อธิบายสถานการณ์ให้อาจารย์หยู แล้วเก็บจดหมายสองแผ่นที่เขียนถึงนางไว้อ่านค่อยๆ บรรจงอ่านอาจารย์หยูพูดด้วยรอยยิ้ม “เขียนถึงพระชายาสองหน้าเต็มๆ ส่วนการตรวจสอบมีเพียงหน้าเดียว การไปทำงาน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-05

บทล่าสุด

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1340

    ซ่งซีซีนั่งกลับลงบนเก้าอี้ กล่าวว่า “เรื่องที่พวกเจ้าทุจริตนั้น ฝ่าบาททรงทราบดีแล้ว ตอนนี้ที่ทรงให้ข้าสอบสวนเป็นการส่วนตัว ก็เพื่อมอบโอกาสให้พวกเจ้า หากพูดความจริง หัวของเจ้าจะยังปลอดภัย หากให้ข้อมูลที่มีค่าเพิ่มเติม อย่างมากก็แค่ถูกเนรเทศไปทำงานนอกเมือง ยังสามารถโลดแล่นในวงราชการได้”เกาหมิงอวี้ที่มีประสบการณ์ในราชสำนักมานานย่อมรู้ดีว่าให้ข้อมูลที่มีค่ามากขึ้น หมายถึงการขายเจ้านายและผู้ใต้บังคับบัญชาเขาไม่มีข้อสงสัยในคำพูดของซ่งซีซีด้วยสองเหตุผล หนึ่งคือ ช่วงนี้อู๋เยว่และคนของเขาตรวจสอบทางน้ำอยู่เสมอ สองคือ ซ่งซีซีออกหน้ามาสอบสวนด้วยตัวเอง หากไม่มีพระราชโองการจากฝ่าบาท นางไม่จำเป็นต้องลงมือเอง จะส่งใครมาทรมานเขาก็ได้แน่นอนว่าเขาไม่รู้ว่าซ่งซีซีวิเคราะห์เขาได้อย่างทะลุปรุโปร่ง และคาดการณ์ความคิดของเขาไปก่อนแล้ว“พวกเจ้าทุจริตทั้งระบบ ท่าทีของจินชางหมิงเป็นอย่างไร?”เกาหมิงอวี้ครุ่นคิดก่อนตอบว่า “จะว่าไปจริงๆ แล้ว เขาเป็นคนเริ่มเปิดทางให้เราทุจริต โดยอ้างว่าเป็นค่าเหนื่อยของเรา เมื่อเริ่มต้นแล้ว เราลองเบิกเงินเกินมาเล็กน้อย เขาก็ไม่ว่าอะไร จากนั้นเรากล้าขึ้นเรื่อยๆ ต่อมาเขาเตือนเ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1339

    หลังจากเฝ้าสังเกตอยู่สองวัน ซ่งซีซีตัดสินใจลงมือกับเกาหมิงอวี้ รองหัวหน้ากรมจัดการแม่น้ำเกาหมิงอวี้อายุสามสิบห้าปี รับราชการในกรมโยธามาแล้วห้าปี เขามีพื้นเพมาจากครอบครัวชาวไร่ชาวนา เมื่อยังเยาว์วัยพ่อแม่เสียชีวิต เพื่อให้เขาได้เรียนในสำนักที่ดีที่สุด เขาดูดทรัพย์สมบัติของพี่น้องจนหมดสิ้นหลังสอบจอหงวนได้ เขาเข้ารับราชการ และกลายเป็นคนโลภเงินอย่างที่สุด ขี้เหนียวอย่างยิ่งยวด ทอดทิ้งพี่น้องที่เคยเลี้ยงดูเขาไปเหมือนของไร้ค่า และไม่ติดต่อพวกเขาอีกเลยยังไม่หมดแค่นั้น เขาอ้างความหึงหวงเป็นเหตุผลในการหย่ากับภรรยาคนแรก แล้วแต่งงานกับบุตรสาวของอาจารย์ผู้มีพระคุณอาจารย์ผู้มีพระคุณของเขาคืออธิการสำนักไป๋หยุน ซึ่งปัจจุบันเสียชีวิตไปแล้ว ลูกสาวคนเดียวของอาจารย์แต่งงานกับเขา แต่ก็ไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างดีเขาคือคนไร้ค่าและทรยศทว่าคนไร้ค่าเช่นนี้กลับใช้งานได้ดี เพราะความโลภ โกรธ หลง และความเห็นแก่ตัวของเขา มีจุดอ่อนที่สามารถกดดันจนยอมพูดทุกอย่างคืนนั้น ซ่งซีซีสั่งให้กุ้นเอ๋อร์จับตัวเขามายังเรือนทางตะวันตกของเมือง ขังเขาไว้หนึ่งคืน ให้เขาหวาดกลัวและหิวโหย จากนั้นค่อยสอบสวนในวันถัดไปเกาห

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1338

    จักรพรรดิซูชิงมีราชโองการให้อู๋เยว่พาคนไปควบคุมงานโดยตรง ทว่า จินชางหมิงรับมือได้อย่างคล่องแคล่ว พาอู๋เยว่ไปตรวจสอบผลสำเร็จด้วยตนเองหลังจากเริ่มงานมาเป็นเวลานาน อ่างเก็บน้ำก็ใกล้เสร็จสมบูรณ์คุณภาพของอ่างเก็บน้ำนั้นยอดเยี่ยม เขื่อนที่สร้างขึ้นมั่นคงดั่งกำแพงทองหลังจากตรวจสอบอ่างเก็บน้ำแล้ว ก็ไปตรวจสอบทางน้ำ ทุกพื้นที่ได้ขุดลอกเสร็จเรียบร้อย ส่วนเขื่อนที่เสียหายก่อนหน้านี้ก็ได้รับการซ่อมแซมและเสริมความแข็งแรงแล้วอู๋เยว่ยังส่งคนไปพูดคุยกับคนงานก่อสร้างทางน้ำ ชายฉกรรจ์แต่ละคนที่ผิวคล้ำแดด ดูซื่อๆ ขัดเขินเมื่อต้องอยู่ต่อหน้าขุนนางส่วนใหญ่ถามอะไรก็ตอบสิ่งนั้น หากให้พวกเขาบอกความไม่พอใจอะไร พวกเขามักลังเลครู่หนึ่งก่อนที่จะถามว่าอาหารสามารถปรับปรุงได้ไหม โดยเฉพาะเพิ่มหมูติดมันให้หน่อยอู๋เยว่คิดว่าคนเหล่านี้เป็นคนเรียบง่าย ไม่มีปัญหาอะไร และไม่มีความเคียดแค้นในแววตาเขายังพาคนไปดูที่พักชั่วคราวของคนงานก่อสร้างเหล่านี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกระท่อมไม้และกระท่อมหญ้าแฝก ภายในมีเพียงที่นอนใหญ่ที่รองรับคนได้เจ็ดแปดคน ดูรกเล็กน้อยในกระท่อมไม่มีอาวุธ เครื่องมือที่ต้องใช้ทั้งหมดจะถูกเก็บไว้ในค

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1337

    ซ่งซีซีแทบจะหัวเสียจนอกแตกตาย นางรู้สึกว่าเส้นผมสีขาวกำลังจะงอกออกมาบนหน้าผาก ไม่แปลกใจเลยที่ขุนนางในราชสำนักแต่ละคนดูแก่ก่อนวัย หรือแม้แต่เสนาบดีมู่ที่อายุเพียงหกสิบกว่า ผมก็หงอกไปกว่าครึ่งนางไปหาเสนาบดีมู่ด้วยความขุ่นเคือง หวังว่าเขาจะช่วยอะไรได้บ้างและกล่าวบางคำสนับสนุนนางต่อหน้าฮ่องเต้เสนาบดีมู่ยิ้มพลางมองนาง "แค่นี้ก็ถึงกับโกรธเลยหรือ?"ซ่งซีซีตอบ "มิกล้าโกรธเจ้าค่ะ แต่เรื่องนี้ชะลอความคืบหน้า และข้ากลัวว่าจะทำให้ผู้ต้องสงสัยตื่นตัว จนถูกชิงโอกาสไป ฝ่าบาทไม่ไว้ใจข้าเลย"เสนาบดีมู่ย้อนถาม "เขาไม่เชื่อเจ้าอย่างสมบูรณ์ก็เป็นเรื่องปกติ ต่อให้เป็นเจ้า หากคนใต้บัญชาไม่ได้ยกหลักฐานมาสนับสนุนคำพูด เจ้าจะเชื่อพวกเขาโดยไม่ตรวจสอบหรือ?"ซ่งซีซีกล่าว "แต่เขาไม่มีหลักฐานว่าท่านอ๋องมีความทะเยอทะยานใดๆ แต่เขาก็ยังระแวงทุกทางมิใช่หรือ?""ก็เพราะไม่มีหลักฐาน เขาจึงระแวง หากมีหลักฐาน เขาคงลงมือไปนานแล้ว" เสนาบดีมู่ถอนหายใจเบาๆ "ความจริงแล้ว หลายเรื่องไม่ได้ง่ายดายอย่างที่เจ้าคิด โดยเฉพาะการตัดสินใจสำคัญในราชสำนัก ต้องผ่านการหารือและอภิปรายหลายครั้ง บางเรื่องใช้เวลาเป็นปีจึงจะเดินหน้าได้ อีก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1336

    ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โครงการก่อสร้างแม่น้ำได้เกณฑ์แรงงานจากในและรอบๆ เมืองหลวง โดยเป็นกลุ่มคนงานและแรงงานหนักกลุ่มเดียวกันหน่วยงานด้านแม่น้ำทั้งหมดอยู่ภายใต้การนำของจินชางหมิง เขาใช้ข้ออ้างเรื่องการซ่อมแซมแม่น้ำและโครงการระบายน้ำเข้ายึดครองภูเขาและที่ดินจำนวนไม่น้อยบ้านเรือนถูกสร้างขึ้นอย่างกระจัดกระจายในพื้นที่เหล่านี้ โดยไม่ได้จัดเป็นชุมชนที่มีขนาดใหญ่ คนงานแม่น้ำและแรงงานบางส่วนอาศัยอยู่ในบริเวณนี้เส้นทางแม่น้ำที่พวกเขาครอบครองกระจัดกระจายไปในทุกทิศ เมื่ออาจารย์หยูทำเครื่องหมายและเชื่อมจุดบนแผนที่ พบว่าพื้นที่เหล่านี้โอบล้อมพระราชวังหลวงไว้เหมือนตาข่ายที่กางปิดหากพวกเขาเป็นทหารลับของนกต่อ การเฝ้าประตูเมืองจะไร้ประโยชน์ เพราะพวกเขาอยู่ในเมืองหลวงมาตลอด และเมื่อไม่มีงานทำ พวกเขาก็สำรวจภูมิประเทศจนคุ้นเคย แม้แต่ค่ายลาดตระเวนหรือทหารรักษาการณ์อาจยังไม่รู้จักเส้นทางในเมืองหลวงดีเท่าพวกเขาซ่งซีซีมองดูแผนที่ด้วยความตระหนก แต่ก็ยังตั้งคำถามว่า "พวกเขาได้รับที่ดินเหล่านี้ ต้องได้รับการอนุมัติจากกรมโยธาธิการและฝ่าบาทใช่หรือไม่?""ถูกต้อง แต่ถ้าใช้เพื่อการซ่อมแซมแม่น้ำและระบายน้ำ ก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1335

    กล่องผ้าไหมสีแดงเข้มชิ้นนั้นเต็มไปด้วยฝุ่น ว่านกงกงเป่าฝุ่นออกก่อนจะใช้แขนเสื้อเช็ด แล้วเปิดกลไกอย่างแผ่วเบา ก่อนจะหยิบหยกชิ้นหนึ่งออกมาเขาส่งสัญญาณให้มอบหยกชิ้นนั้นแก่เสนาบดีมู่เสนาบดีมู่รับมาด้วยความสงสัย เมื่อมองดู เห็นว่าหยกทรงวงแหวนชิ้นนี้แกะสลักลวดลายมังกร ชัดเจนว่าเป็นของจักรพรรดิ์องค์ก่อน"ท่านเสนาบดีลองดูด้านหลัง" ว่านกงกงกล่าวเมื่อเสนาบดีมู่พลิกดูด้านหลัง เขาถึงกับตะลึงจนเหมือนร่างแข็งทื่อด้านหลังยังคงมีลวดลายมังกร แต่ลวดลายนี้ห่อหุ้มใบเมเปิลหนึ่งใบ และข้างใบเมเปิลนั้นยังมีอักษร "สือ" เล็กๆ แกะสลักไว้ใบเมเปิลและตัวอักษรแบ่งพื้นที่คนละด้าน ใบหนึ่งใหญ่ ใบหนึ่งเล็กซ่งซีซีก็เห็นเช่นกัน แต่ไม่เข้าใจความหมายเสนาบดีมู่ถอนหายใจและอธิบายเบาๆ "สือจิ้ง เป็นนามอักษรของจักรพรรดิ์องค์ก่อน ส่วนชิวเหมิงเคยเดินทางในยุทธภพช่วงหนึ่ง และได้รับสมญานามว่า 'คุณชายเหล็กแห่งใบเมเปิล'""หยกชิ้นนี้จักรพรรดิ์องค์ก่อนประทานให้แม่ทัพชิว ด้านหลังเดิมมีเพียงลวดลายมังกร แต่ใบเมเปิลและอักษร 'สือ' นั้น แม่ทัพชิวแกะสลักเพิ่มเอง หยกนี้เขาพกติดตัวตลอด ใส่ไว้ในถุงผ้าไหม แต่ไม่รู้อย่างไรถูกจักรพรรดิ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1334

    อย่างไรเสีย หัวข้อสนทนานี้เป็นเรื่องที่พูดยาก เสนาบดีมู่จึงดื่มชาสองสามอึกก่อนจะกล่าวว่า "ความจริงเรื่องนี้ข้าเองก็ไม่แน่ใจ ในตอนนั้นมีการประกาศว่าชิวเหมิงกระทำการหมิ่นพระเกียรติ จักรพรรดิ์องค์ก่อนทรงกริ้วและปลดเขาออกจากตำแหน่ง ก่อนจะพระราชทานยศเจวี๋ยให้แทน มีข่าวลือเล็กๆ น้อยๆ หลุดออกมาจากในวังว่าเขาและอาจารย์ฉีมีความสัมพันธ์ที่คลุมเครือบางอย่าง เมื่อจักรพรรดิ์องค์ก่อนทรงทราบ ก็ไม่อาจยอมรับเรื่องนี้ได้ ด้วยความโกรธจึงตรัสคำดูหมิ่นเขาอย่างรุนแรง รวมถึงการลดตำแหน่ง ทำให้ชิวเหมิงรู้สึกหมดกำลังใจจนตัดสินใจออกจากเมืองหลวงไป"สำหรับเหตุผลนี้ ซ่งซีซีเคยคาดเดาไว้บ้าง แต่คิดว่าในฐานะคนที่ทำงานใกล้ชิดราชวงศ์ ไม่น่าจะกล้าแสดงความคิดหรือความรู้สึกเช่นนั้นออกมา อีกทั้งนางก็รู้จักอุปนิสัยของจักรพรรดิ์องค์ก่อนดี จึงยิ่งไม่น่าจะไม่ระมัดระวังตัวและหากการลดตำแหน่งเกิดจากเรื่องนี้ ก็ดูเหมือนจะเป็นการทำเรื่องเล็กให้กลายเป็นเรื่องใหญ่แต่จากที่ได้ฟัง บางทีชิวเหมิงอาจมองจักรพรรดิ์องค์ก่อนเป็นเพื่อนจริงๆ จึงไม่ได้ปิดบังตัวเองมากนัก หรืออาจเพราะเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ทำให้จักรพรรดิ์องค์ก่อนทรงไม

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1333

    อาจารย์ฉีมอบหมายให้ซ่งซีซีตามหาบุคคลหนึ่งชื่อชิวเหมิงบรรพบุรุษของตระกูลชิวเคยร่วมรบสร้างแคว้นกับจักรพรรดิ์ผู้ก่อตั้งราชวงศ์ และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นขุนนางตลอดกาลในฐานติ้งปังโหว แต่ต่อมาชิวเหมิงกลับล่วงเกินจักรพรรดิ์องค์ก่อน และถูกลดตำแหน่งลงเป็นผิงอันป๋อเขาจึงย้ายออกจากเมืองหลวงไปปลีกวิเวกที่แถบเจียงหนาน และดูเหมือนว่าคนในเมืองหลวงที่จำเขาได้คงเหลือน้อยเต็มที"เขาไม่เคยแต่งงานเลยตลอดชีวิต และห้างชิวเจียก็เป็นของเขา"ซ่งซีซีประหลาดใจ "เขาคือเจ้าของเบื้องหลังของห้างชิวเจียอย่างนั้นหรือ?"ห้างชิวเจียในแถบเจียงหนานถือเป็นกิจการใหญ่โต แม้ทรัพย์สินจะไม่เทียบเท่าตระกูลเสิ่น แต่ครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรมและมีเครือข่ายความสัมพันธ์กว้างขวางในแคว้นซางมีคนแซ่ชิวอยู่ไม่น้อย ประกอบกับชิวเหมิงที่ซ่อนตัวและไม่พบปะใครเลย ทำให้ไม่มีใครคาดคิดว่าเขาจะเป็นเจ้าของห้างชิวเจียแต่ห้างชิวเจียมีอายุเกินร้อยปี เป็นป้ายเก่าแก่ ก่อนที่ชิวเหมิงจะออกจากเมืองหลวง ก็ไม่เคยมีข่าวว่าครอบครัวเขาทำธุรกิจหงเซียวรีบอธิบาย "เดิมทีห้างชิวเจียไม่ได้เป็นของชิวเหมิง แต่ภายหลังเมื่อเขาไปถึงเจียงหนาน ห้างชิวเจียประส

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1332

    ข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับจินชางหมิงถูกส่งมาถึงมืออาจารย์หยูจินชางหมิง เป็นชาวเยี่ยนโจว อายุ 47 ปี สอบได้ตำแหน่งซิ่วไฉตอนอายุ 13 ปี และจวี่เหรินตอนอายุ 18 ปี ในตอนนั้นเขาได้รับการยกย่องว่าเป็นอัจฉริยะในเยี่ยนโจวแต่หลังสอบจวี่เหรินได้ เขาถูกชะลอไม่ให้เดินทางไปสอบในเมืองหลวงเพราะมารดาป่วย เขาจึงหางานทำในสำนักอำเภอที่เยี่ยนโจว และได้ตำแหน่งเลขานุการเส้นทางการเลื่อนตำแหน่งของเขาไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งเยี่ยนโจวและกรมโยธาธิการต่างให้คะแนนว่าเขาเป็นคนมีวิสัยทัศน์และลงมือทำจริงในการประเมินผลสามปีครั้งของกรมการปกครอง เขาได้คะแนนดีเยี่ยมว่ากันว่าการเป็นหัวหน้ากรมแม่น้ำเพียงอย่างเดียวเป็นการฝังพรสวรรค์ของเขา บ้างก็ว่าเขาไม่มีสายสัมพันธ์ที่ดี มิฉะนั้นเขาคงได้รับการเลื่อนตำแหน่งไปเป็นรองเสนาบดีกรมโยธาธิการแล้วแคว้นต้าซางมีข้าราชการแบบเขาอยู่มากมาย ตำแหน่งไม่สูงนัก แต่ทำงานทุกอย่างราบรื่น ไม่มีความทะเยอทะยานมาก และทำงานเงียบๆ อย่างมีประสิทธิภาพเขาไม่ได้โดดเด่น ไม่มีเรื่องให้พูดถึง มีภรรยาหลวงหนึ่งคน ภรรยาน้อยหนึ่งคน ลูกชายหนึ่งคน ลูกสาวหนึ่งคน และคนรับใช้สามคน บ้านที่เขาอยู่เดิมเป็นบ้านเช่า เพิ

DMCA.com Protection Status