Share

บทที่ 1217

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
เขาตกตะลึงเล็กน้อย หันกลับมามองซ่งซีซีด้วยสีหน้าไม่คาดคิด “พระชายาคิดว่าข้าพูดไม่ถูกต้องกระนั้นหรือ? หรือพระชายาคิดว่าตัวเองมีคุณสมบัติที่จะสั่งสอนได้?”

สนมฮุ่ยไทเฟยเอื้อมมือออกไปดึงซ่งซีซี บอกเป็นนัยว่าอย่าทะเลาะกับอาจารย์

สนมฮุ่ยไทเฟยรักอดีตฮ่องเต้ จึงเคารพอาจารย์ฉีเป็นอย่างมาก ถึงขั้นที่อยากให้เซี่ยหลูโม่แต่งงานกับบุตรีตระกูลฉี และสุดท้ายเซียนหนิงบุตรีของตนก็ได้แต่งงานกับฉีลิ่ว ซึ่งถือว่าสมความปรารถนา

ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่าแม้ว่าอาจารย์จะพูดกับซ่งซีซีด้วยน้ำเสียงในเชิงสั่งสอน นั่นก็เป็นเพียงคำตักเตือนจากผู้ใหญ่ถึงผู้เยาว์ ซ่งซีซีควรยอมรับอย่างถ่อมตน

แม้ว่าในใจของนางจะรู้สึกไม่สบายใจบ้าง เพราะน้ำเสียงของอาจารย์ฉีเจือไปด้วยความประชดประชัน แถมยังบอกว่าลูกสะใภ้ของนางไร้อารยธรรมอีก แต่ความรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยตรงนี้ก็สามารถมองข้ามไปได้เพราะสถานะของอีกฝ่าย

ให้เกียรติผู้สูงอายุอย่างไรล่ะ

ซ่งซีซีเงยหน้าขึ้นแล้วมองตรงไปที่เขา “อาจารย์พูดผิดไปแล้ว แม้ว่าข้าจะไม่สามารถอบรมสั่งสอนและให้ความรู้แก่ผู้คนนั้น แต่มีความมุ่งมั่นที่จะปกป้องสถาบันการศึกษาหย่าจวิน ข้ามีความผิด ผิดที่ไม่รู้ว่
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1218

    เมื่อซ่งซีซีกลับมาถึงบ้าน อาจารย์หยูยื่นจดหมายของเซี่ยหลูโม่ให้นาง แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “วันนี้ท่านเพิ่งออกไปข้างนอก จดหมายของท่านอ๋องก็ส่งมาถึง”ดวงตาของซ่งซีซีเป็นประกาย เอื้อมมือไปรับ ยังไม่รีบร้อนที่จะอ่าน ถามขึ้นว่า “ทำไมอาจารย์ไม่กลับบ้านไปฉลองปีใหม่กับครอบครัวล่ะ?”“ใกล้จะกลับไปเฝ้าปีกับพวกเขาแล้ว นี่ไง กำลังรอส่งจดหมายให้พระชายาด้วยมือตัวเองอยู่” อาจารย์หยูหรี่ตาลง “อยากเห็นพระชายามีความสุข และอยากรู้ว่านอกจากเรื่องส่วนตัวแล้ว ท่านอ๋องยังได้พูดถึงเรื่องอีกหรือไม่”ซ่งซีซีไม่ได้ปิดบังความสุขเลย “นี่เป็นจดหมายฉบับแรกจากเขา ข้าอ่านก่อน”นางรู้ว่าในจดหมายจะต้องมีข้อมูลของสถานการณ์ ฉะนั้นจึงต้องส่งจดหมายฉบับนี้ให้อาจารย์หยูดูเหมือนกันทว่าหลังจากที่นางเปิดจดหมายก็พบว่าจดหมายนั้นแบ่งออกเป็นสามแผ่น สองแผ่นแรกเขียนถึงนาง และอีกแผ่นหนึ่งเป็นคำอธิบายสถานการณ์หลังจากกวาดตาตูคร่าวๆ สักพัก นางก็ยื่นส่วนที่อธิบายสถานการณ์ให้อาจารย์หยู แล้วเก็บจดหมายสองแผ่นที่เขียนถึงนางไว้อ่านค่อยๆ บรรจงอ่านอาจารย์หยูพูดด้วยรอยยิ้ม “เขียนถึงพระชายาสองหน้าเต็มๆ ส่วนการตรวจสอบมีเพียงหน้าเดียว การไปทำงาน

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1219

    ซ่งซีซีไม่สามารถตอบจดหมายได้ เพราะพวกเขาไม่มีที่อยู่อาศัยที่แน่นอน จึงได้แต่ซ่อนความปรารถนาไว้ในใจ รอให้เขากลับมาแล้วค่อยบอกเขาปีนี้เป็นปีที่ผ่านไปอย่างรื่นรมย์มีความสุข มีทั้งการให้และการได้รับ เป่าจูแทบอยากจะสวมเสื้อผ้าชุดใหม่ทั้งหมดให้นาง เพื่อไม่ให้กลับไปที่จวนกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยเมืองหลวง และสวมชุดทางการอีกเช้าตรู่ของทุกวัน เป่าจูจะวางนางไว้หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ไม่ว่าจะเป็นการแต่งหน้าแบบดอกท้อ แต่งหน้าแบบดอกสาลี่ ล้วนสลับปรับเปลี่ยนเพื่อแต่งตัวให้นางดูสวยงาม แม้แต่ฮูหยินเสนาบดีมู่ยังกล่าวว่าสตรีที่ผิวไม่ขาวมากก็สวยที่สุดเช่นกันซ่งซีซีไม่ได้ผิวขาว ตะลอนออกไปข้างนอกทุกวัน แม้จะมีรากฐานที่ดีแค่ไหน ก็สูญเสียความขาวอันละเอียดอ่อนของสตรีในห้องหอเหมือนกัน ทว่าผิวพรรณสีข้าวสาลีกลับดูเปล่งปลั่ง ราวกับดอกท้อที่บานสะพรั่ง เหมือนผลผิงกั๋วที่สุกงอมฮองเฮาได้รับการปล่อยตัวจากการกักบริเวณในวันที่แปด ประกาศให้บรรดาสตรีชั้นสูงทั้งในและนอกเมืองหลวงเข้ามาถวายพระพรในไม่ช้า ก็มีข่าวลือว่า เดิมทีคุณหนูของบ้านหนึ่งเป็นคู่หมั้นกับหลานชายของเสนาบดีกั๋วกงเว่ย ต่อมาเพื่อเรื่องของสถาบันการศึ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1220

    เสิ่นว่านจือกล่าวว่า “แต่ว่า ค่าเล่าเรียนที่พวกนางจ่ายจะอยู่ได้นานแค่ไหน? ยิ่งกว่านั้นลูกสาวของครอบครัวชาวบ้านต้องออกไปหาเลี้ยงชีพ การเรียนไม่ได้ทำให้หาเงินได้”“นั่นเป็นเงินจำนวนไม่น้อย สามารถอยู่ได้หนึ่งปีสองปี” ซ่งซีซีคิดอยู่พักหนึ่ง “ไม่คิดค่าเล่าเรียนไม่ได้ แต่คิดแค่เล็กน้อย ใช้เวลาเรียนครึ่งวัน ให้เวลาพวกนางกลับไปช่วยทำงานที่บ้านอีกครึ่งวัน”“อีกอย่าง ยังมีพ่อค้าอยู่ไม่ใช่หรือ? พวกเขาไม่ตระหนี่เรื่องเงิน ไม่ว่ากฎเกณฑ์และข้อจำกัดอะไร เหล่าพ่อค้าก็ไม่ได้เข้มงวดขนาดนั้น”เสิ่นว่านจือพยักหน้า “นั่นก็จริง นอกจากตระกูลใหญ่หรือพ่อค้าในราชวงศ์แล้ว หากเป็นพ่อค้าธรรมดา ก็ยังมีผู้หญิงออกมาทำการค้าอยู่”กั๋วไท่ฮูหยินยังกล่าวอีกว่า “ชาวบ้านธรรมดาก็จะมาเช่นกัน หนึ่งเป็นเพราะชื่อเสียงของอาจารย์เสิ่น อีกประการหนึ่งคือหลายครอบครัวไม่มีเงินพอที่จะส่งลูกชายไปเรียน ถ้าลูกสาวสามารถเข้าเรียนในสถาบันการศึกษาสตรีได้ แถมค่าเล่าเรียนยังถูกมาก พวกเขาก็ยินดีที่จะส่งลูกสาวมาเรียน ถึงแม้เพื่อจะให้ลูกสาวกลับไปสอนพี่ชายน้องชายให้รู้หนังสือ ก็คุ้มค่าทั้งนั้น”ซ่งซีซีพยักหน้าเห็นด้วย แต่ก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชม

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1221

    ในตำหนักฉือหนิงฮองไทเฮาเพิ่งฟังรายงานสถานการณ์ของเหล่าหรงไทเฟยทางนั้น ถอนหายใจเล็กน้อย “รู้แล้ว ให้หมอหลวงรักษาเต็มที่ ต้องใช้ยาดีอะไรก็ใช้ได้เลย”“พ่ะย่ะค่ะ!” เกากงกงพูดด้วยดวงตาแดงก่ำ “ขอบพระทัยไทเฮา”“เหตุใดจึงไม่รายงานเรื่องนี้ต่อฮองเฮา?” ไทเฮาถามเรียบๆเกากงกงกล่าวว่า “ไปรายงานแล้ว ฮองเฮาตรัสว่า นางแก่แล้ว อย่างไรก็ต้องเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ แล้วให้คนไปส่งอาหารของกิน จากนั้นตรัสว่าขอให้ไทเฟยสบายใจ เรื่องการเตรียมงานศพคงจะเตรียมไว้อย่างดี บ่าวไม่กล้าบอกไทเฟยเช่นนี้”ไทเฮาขมวดคิ้วเล็กน้อย “อึ้ม ไม่จำเป็นต้องพูด สิ่งที่ควรเตรียมก็ต้องเตรียม แต่ตอนนี้ต้องยายามรักษากันอย่างเต็มที่ก่อน”เกากงกงสะอื้นและกล่าวว่า “ไทเฮาตรัสเช่นนี้บ่าวก็วางใจ มีหมอหลวงคอยวินิจฉัยและรักษา อย่างน้อยไทเฟยก็จะรู้สึกสบายขึ้นบ้าง”“ไปเถอะ ประเดี๋ยวข้าก็จะไปหานางเช่นกัน” ไทเฮาตรัสเกากงกงคุกเข่าลงกราบขอบพระทัย แล้วจากไป“ฉีฉิวอัน” ไทเฮาทรงร้องเรียก กระแสเสียงกริ้วเล็กน้อย “ไปสำนักหมอหลวง สืบดูว่าฮองเฮาไม่อนุญาตให้หมอหลวงไปตรวจรักษาเหล่าหรงไทเฟยจริงหรือไม่?”ฝูฉิวอันรับคำสั่งแล้วออกไป ทันทีที่ไปถึงประตูก็

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1222

    เมื่อได้ยินดังนั้น ไทเฮาก็เงยหน้าขึ้นมองเล็กน้อยแล้วยิ้ม “ข้าจำได้ว่าก่อนที่ฮองเฮาจะอภิเษกสมรสกับฮ่องเต้ ก็เคยเป็นสตรีผู้มีความสามารถมีชื่อเสียงในเมืองหลวง เจ้าเคยอ่านตำรามามากมาย แต่สุดท้ายกลับคิดว่าสตรีเรียนหนังสือไม่ใช่เรื่องดี? แล้วเมื่อครู่ที่เจ้าพูดว่าอ่านหนังสือเพื่อความรู้แจ้งนั้นดีมาก? ฮองเฮาพูดขัดแย้งกันเองเช่นนี้ ไม่รู้ตัวเลยหรือ?”ฮองเฮาสะดุ้ง “หม่อมฉัน...ไม่ได้หมายความอย่างนั้น ไม่ใช่ว่าผู้หญิงเรียนหนังสือไม่ดี สตรีจากตระกูลสูงศักดิ์ได้ศึกษาเล่าเรียนก็เป็นสิ่งที่ดีเพราะจะได้เปิดโลกทัศน์ ถึงอย่างไรก็มีกฎบ้านและจริยธรรม การศึกษาสามารถทำให้สิ่งที่ดีอยู่แล้วดียิ่งขึ้นไปอีก”“ฮองเฮา ข้ารู้สึกว่าเจ้าชอบพูดเรื่องกฎเกณฑ์และมารยาท เจ้าชอบถูกผูกมัดด้วยกฎเกณฑ์และมารยาทกระนั้นหรือ?”ฮองเฮาได้ยินเช่นนี้ก็รู้สึกประหลาดใจมาก “เสด็จแม่ นี่คือพื้นฐานที่สำคัญที่สุดสำหรับสตรีที่จะดำเนินชีวิตในสังคม จะบอกว่าชอบหรือไม่ชอบได้อย่างไร? คนที่ประพฤติตนตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด ย่อมต้องปฏิบัติตาม เหมือนกฎของราชวงศ์ซางเรา ผูกมัดไม่ให้ผู้คนทำชั่วหรือฝ่าฝืนกฎหมาย คนที่มีเจตนาชั่วร้ายย่อมไม่ชอบกฎเหล

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1223

    หลังจากส่งฮองเฮาออกไปแล้ว ไทเฮาก็ส่งคนออกจากวัง ไปถ่ายทอดพระราชเสาวนีย์กับซ่งซีซีว่า สถาบันการศึกษาหย่าจวินจะจัดการอย่างไรนั้น ก็ให้นางจัดการได้เลย คนอื่นจะว่าอย่างไรก็ไม่ต้องไปสนใจส่งคนไปถ่ายทอดพระราชเสาวนีย์แล้ว ก็ยังส่งคนไปบอกจักรพรรดิซูชิง ให้เขามาเสวยอาหารเย็นด้วยฝูฉิวอันชงชาให้นางแล้วพูดว่า “อย่าทรงกริ้วไปเลย ไม่คู่ควร ฮองเฮาไม่เข้าใจ ท่านแค่สอนนางก็พอ”“หลายปีมานี้ยังสอนไม่พออีกหรือ? มีคำไหนบ้างที่นางเชื่อฟัง? เหตุใดข้าต้องเสียเวลาพูดกับนางอีก?” ไทเฮาขมวดคิ้ว “ขนาดเรื่องที่สร้างความลำบากให้เหล่าหรงไทเฟยนางยังกล้าทำ นางกลัวอ๋องเยี่ยนจะหาเหตุผลออกไปป่าวประกาศข้างนอกไม่ได้หรืออย่างไร”ตอนนี้อ๋องเยี่ยนกลับมาที่เยี่ยนโจวแล้ว เมื่อคนพิการ ย่อมจะกลายเป็นคนโหดเหี้ยมมากขึ้น หากสนมหรงตายอย่างน่าเวทนา มันจะทำให้เขามีโอกาสหาข้ออ้างที่จะปลุกปั่นชาวเยี่ยนโจวได้พอดี ซึ่งหมอนนี้นางส่งได้เหมาะเจาะยิ่งนักถ้าไม่ไหวจริงๆ งั้นตำแหน่งฮองเฮานี้ก็เปลี่ยนคนเถอะในห้องทรงพระอักษร จักรพรรดิซูชิงได้ยินคนจากตำหนักฉือหนิงมารายงาน บอกว่าไทเฮาเชิญเขาไปเสวยคืนนี้จักรพรรดิซูชิงรู้สึกชาวาบไปทั่วศีรษะ เ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1224

    จักรพรรดิซูชิงโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย นัยน์ตาฉายแววโกรธขึ้ง “ข้าบอกเจ้าหรือยังว่าจะปิดสถาบันการศึกษาสตรีหญ่าจวิน? สถาบันการศึกษาสตรีก่อตั้งโดยเสด็จแม่ อนาคตจะสามารถรวบรวมสตรีจากตระกูลขุนนางมารวมตัวกันได้มากมาย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อข้ามาก ทำไมข้าถึงอยากปิด?”ฮองเฮาพูดอย่างว่างเปล่า “แต่ฝ่าบาทไม่ต้องการให้ซ่งซีซีติดต่อกับพวกนางอย่างใกล้ชิด ไม่ใช่หรือ?”จักรพรรดิซูชิงจ้องมองนาง พูดเน้นทีละคำ “ฮองเฮาไม่มีความสามารถที่จะมาแทนที่ซ่งซีซีกระนั้นหรือ?”ฮองเฮาเบิกตากว้าง ราวกับแทบไม่เชื่อหูตัวเอง “ฝ่าบาทหมายความว่า ให้หม่อมฉันลดตัวลงไปหาสถาบันการศึกษาสตรี? หรือไปเอาใจบรรดาฮูหยินของขุนนาง?”นางเป็นฮองเฮานะ ให้นางไปสถาบันการศึกษาสตรีจะเป็นการสมควรหรือ? แล้วฮูหยินขุนนางเหล่านั้น ทำไมต้องให้นางที่เป็นฮองเฮาไปเอาใจพวกนางด้วย? ไม่ใช่พวกนางหรอกหรือที่ต้องมาประจบประแจงนางที่นี่?นี่ไม่เท่ากับว่าทำลายศักดิ์ศรีหรือ?จักรพรรดิซูชิงกล่าวอย่างเย็นชา “อำนาจกษัตริย์ดูอาจดูเหมือนสูงส่งยิ่งใหญ่ แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่สามารถสูงส่งได้จริง ถ้าไม่ระวังก็จะตกต่ำลงอย่างรวดเร็วและพังทลาย ข้าเป็นฮ่องเต้ มีหลายเ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1225

    เมื่อประตูตำหนักเปิดออก อู๋ต้าปั้นก็รีบร้องว่ายกเกี้ยว ส่วนป้าหลานเจี่ยนก็รีบเดินเข้าไปในตำหนัก ช่วยพยุงฮองเฮาขึ้นมา“มือของฮองเฮาได้รับบาดเจ็บ” ป้าหลานเจี่ยนรีบเช็ดเลือดด้วยผ้าเช็ดหน้า จากนั้นจึงเรียกนางกำนัลเข้ามาทำความสะอาดบาดแผลฮองเฮาฉีนั่งอิดโรยบนเก้าอี้ สีหน้าตื่นตระหนกหวาดกลัว “เขาบอกว่าเขาจะปลดฮองเฮา ฝ่าบาทบอกว่าจะปลดฮองเฮา”“ฝ่าบาททรงพิโรธเพียงชั่วขณะ จะทรงปลดฮองเฮาได้อย่างไร? ไม่ต้องกังวลเพคะ” ป้าหลานเจี่ยนไล่นางกำนัลที่เข้ามารับใช้ออกไป มองดูฮองเฮาที่มีสีหน้าซีดเซียว แล้วถอนหายใจ “ฮองเฮาไม่ควรไปพูดเรื่องนั้นกับไทเฮา อีกอย่างเรื่องเหล่าหรงไทเฟย บ่าวก็เกลี้ยกล่อมท่านแล้ว แต่ท่านไม่ฟัง”“ข้าไม่เข้าใจ มันผิดอะไร!” ดวงตาของฮองเฮาฉีเต็มไปด้วยเพลิงโทสะ “เรื่องสองเรื่องนี้ แม้จะมีความผิด แต่ก็เป็นเพียงความผิดเล็กน้อย ไม่ควรค่าแก่การกล่าวถึงด้วยซ้ำ”ป้าหลานเจี่ยนถอนหายใจ เห็นได้ชัดว่านางไม่ฟังสิ่งที่ไทเฮาและฝ่าบาทพูด ตอนนี้จิตใจของนางมุ่งความสนใจไปที่การโจมตีซ่งซีซี และวางแผนเพื่อองค์ชายใหญ่แต่นี่เป็นวิธีที่ผิด“ฮองเฮาสามารถตีสนิทซ่งซีซีได้ ไม่จำเป็นต้องต่อต้านนาง นางไม่ใช่ส

Latest chapter

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1606

    ผู้ใต้บัญชาทำงานรวดเร็วยิ่งนัก ตอนที่เขาลืมตาตื่น เครื่องทรมานก็ถูกขนเข้ามาเรียบร้อยแล้วเตาถ่านถูกตั้งขึ้น คีมเหล็กถูกเผาจนแดง แส้ที่เปื้อนเลือดฟาดกลางอากาศสองสามครั้ง เพี้ยะ เพี้ยะ ดังสะท้านใจหลิวเซิ่งถึงอย่างไรก็เคยฆ่าคนมาก่อน ใจคอจึงหนักแน่นแม้ยามเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ มิแม้แต่กระพริบตา กล่าวว่า “พวกเจ้าตั้งศาลเถื่อนเช่นนี้ ถือเป็นความผิดใหญ่หลวง พวกเจ้ายังมีขื่อมีแปหรือไม่?”คนบางประเภทก็มักเป็นเช่นนี้ คิดว่ากฎหมายใช้บังคับกับใครก็ได้ ยกเว้นตนเองตนกระทำผิด แต่กลับคิดใช้กฎหมายปกป้องตนกับคนประเภทนี้ ไม่จำเป็นต้องโต้แย้ง การโต้แย้งมีแต่จะยิ่งเปิดช่องให้เขาพูดจาไร้สาระมากขึ้นข้าหยิบคีมเหล็กที่ถูกเผาจนแดงก่ำหนีบเข้าที่แขนเขาทันที พอกดแน่นลงไป เสื้อก็ละลายจนเป็นรู เสียงเนื้อถูกไหม้ดัง ซี่ๆๆ…เสียงกรีดร้องโหยหวนดังลั่นไม่เป็นไร ที่นี่เป็นห้องใต้ดินลับ ต่อให้ร้องจนเสียงขาดหาย ก็ไม่มีผู้ใดได้ยินแม้กระดูกจะแข็งเพียงใด แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเครื่องทรมาน ก็ไร้ซึ่งพลังต่อต้านข้ายังมิทันได้เริ่มถอนเล็บ เขาก็สารภาพทุกสิ่งอย่างละเอียดทั้งสองครอบครัวสนิทกันจริง พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายร

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1605

    ข้ามองดูหลิวเซิ่งพูดยั่วยุนางไม่หยุด คล้ายจะจงใจยั่วยุให้นางคิดสั้น ไม่ได้มีเจตนาจะลงมือฆ่าเอง“ครอบครัวเจ้าตายหมดแล้ว เจ้ายังจะอยู่ต่อไปอย่างครึ่งคนครึ่งผี บ้าๆ บอๆ เช่นนี้อีกหรือ? เจ้าก็แค่สวะ ครอบครัวเจ้าก็เป็นสวะ! ยังจะกล้ามาหัวเราะเยาะข้าว่าสอบไม่ติดอีกหรือ? พวกเจ้ามันสมควรตายทั้งบ้าน เจ้าดูเชือกที่ห้องเก็บฟืนสิ ใช้มันแขวนคอตัวเองเสีย แล้วจะได้ไปอยู่กับครอบครัวเจ้า”“หากเจ้ายังไม่ตาย พวกเขาจะต้องตกนรกสิบแปดชั้น ถูกไฟเผาทุกวัน ถูกควักหัวใจ ถอนลิ้น เพราะพวกเจ้ามันใจดำอำมหิต ชอบใส่ร้ายป้ายสี นี่คือกรรมสนองที่สวรรค์ประทานให้ พวกทำชั่วไม่สมควรมีชีวิตอยู่”ข้ายิ่งฟังยิ่งโกรธจนแทบระเบิด คนทำชั่วคือเขาชัดๆ แต่กลับพลิกกลับความหมายเสียอย่างหน้าด้านๆแม่นางสุ่ยในยามนี้ก็บ้าเสียแล้ว หากถูกเขายั่วยุหนักเข้า ก็อาจคิดฆ่าตัวตายได้จริงๆข้าเปิดประตูพุ่งออกไป ห้องข้ากับห้องแม่นางสุ่ยอยู่ติดกัน พอข้าไปถึง หลิวเซิ่งยังไม่ทันตั้งตัว ยังปิดปากแม่นางสุ่ยอยู่เมื่อเห็นข้า แววตาเขาก็สั่นไหว รีบปล่อยมือทันทีแม่นางสุ่ยตกใจจนน้ำตาร่วง แต่นางไม่ได้ส่งเสียงร้อง แม้แต่เสียงสะอื้นก็ไม่มีข้าจ้องหน้าเขาแ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1604

    สุดท้ายข้าก็ทำได้เพียงลอบเฝ้าติดตามแม่นางสุ่ยในเงามืดข้าคิดว่า ฆาตกรที่ฆ่าล้างครอบครัวนาง ย่อมต้องมีแรงจูงใจเป็นแน่หากโหดเหี้ยมถึงเพียงนี้ ไม่เพราะรัก ก็ต้องเพราะแค้น หรือไม่ก็เพราะเงินทอง อย่างไรเสียย่อมต้องมีสักอย่างแม่นางสุ่ยยังมีชีวิตอยู่ แล้วฆาตกรจะสามารถหลบหนีไปได้อย่างสงบเช่นนั้นหรือ?มีความเป็นไปได้หรือไม่ว่า พอเรื่องราวเงียบไปแล้ว ฆาตกรจะย้อนกลับมาฆ่านางอีกครั้ง?การคาดคะเนนี้ดูจะมีเหตุผล แต่ประเด็นสำคัญคือ ข้าไม่อาจหาทิศทางอื่นได้อีกแล้วเถ้าแก่สวีเดิมทีจ้างแม่นมมาคอยดูแลแม่นางสุ่ย แต่แม่นางสุ่ยนั้นหวาดกลัวคนแปลกหน้าอย่างยิ่ง ดังนั้นเถ้าแก่สวีจึงได้แต่ขอร้องให้เพื่อนบ้านโดยรอบแวะเวียนมาดูบ้าง ส่งอาหารมาให้บ้างมารดาของหลิวเซิ่งจะมาทุกวันเว้นวัน เพื่ออาบน้ำล้างหน้าให้แม่นางสุ่ย คอยดูแลให้สะอาดเรียบร้อยข้าพบว่าตระกูลหลิวยังปฏิบัติต่อนางด้วยดี เพียงแต่หลิวเซิ่งผู้นั้นกลับไม่เคยมา หนึ่งคือเขาต้องกลับไปยังโรงเรียน สองคืออาจเพราะในใจก็ยังมีความคับแค้นอยู่บ้าง เพราะคำกล่าวหาของแม่นางสุ่ยที่ทำให้เขาต้องติดคุกอยู่ช่วงหนึ่งชายหนุ่มผู้เป็นบัณฑิตย่อมมีความเย่อหยิ่งในใจบ้าง

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1603

    ก่อนจะไปยังหนานเจียง ข้าไม่เคยมีแผนการใดในชีวิต ไม่มีเป้าหมาย ไม่เคยมีสิ่งใดที่อยากทำเป็นพิเศษเมื่อยึดหนานเจียงกลับคืนมาแล้วเดินทางกลับสู่เมืองหลวง เสียงโห่ร้องยินดีจากราษฎรทำให้ข้ารู้สึกว่า หากมนุษย์ใช้ชีวิตอย่างไร้จุดหมายไปวันๆ เช่นนั้นจะไม่สูญเปล่าหรือ?ข้าจึงเริ่มครุ่นคิดถึงความหมายของชีวิตจากการติดตามย่างก้าวของซีซี ข้าก็ได้ทำสิ่งต่างๆ มากมาย ตั้งแต่โรงงานช่างไปจนถึงสถาบันการศึกษาหย่าจวินหญิงมากหลายล้วนประสบชะตาน่าเวทนา และข้ามีความสามารถที่จะช่วยพวกนางได้ ข้าคิดว่า นี่คงเป็นหนึ่งในความหมายของชีวิตว่าเป็น “หนึ่ง” ก็หมายความว่ายังอาจมี “สอง” และ “สาม” ตามมาได้มิใช่ข้าจะโอ้อวดตนเอง แต่เนื้อแท้ของข้าคือคนที่ชังความชั่วโดยสันดานดังนั้น เมื่อได้ยินว่ามีฆาตกรฆ่าคนจำนวนมาก แต่กลับลอยนวลเพราะหลักฐานไม่เพียงพอ ไม่อาจเอาผิดได้ ข้าย่อมโกรธเคืองนัก ข้าเห็นว่า คนฆ่าย่อมต้องชดใช้ด้วยชีวิตแรกเริ่ม ข้าไม่ได้กระทำการอันใดหุนหันพลันแล่น เพียงแต่เดินตามแนวทางของสำนักเขตจิงจ้าว สืบสาวเรื่องราวต่อไป และส่งมอบหลักฐานที่ได้มาให้แก่เจ้ากรมแห่งสำนักเขตจิงจ้าวจนกระทั่งข้าได้พบกับคดีหนึ่งที

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1602

    ดอกเหมยบนภูเขาเหม่ยชานบานแล้ว ร่วงโรยแล้วเช่นกันในใจข้าย่อมอดเคืองนางไม่ได้ กลับบ้านไปแล้ว ก็จะทอดทิ้งพวกข้าด้วยหรือ? ไม่นึกถึงน้ำใจไมตรีที่มีต่อกันตลอดหลายปีมานี้เลยหรือ?เฉินเฉินก็ด่านางว่าไร้หัวใจ ไปก็แล้วไป ไยจึงไม่แม้แต่จะส่งจดหมายมาสักฉบับ?นานวันเข้าพวกข้าก็เลิกพูดถึงนางเสียเอง ราวกับว่าการไม่เอ่ยชื่อนางเลย คือการแก้แค้นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดต่อผู้ละทิ้งพวกข้าต่างก็ตกลงกันไว้ว่า หากนางกลับมายังภูเขาเหม่ยชานอีกครั้ง ไม่ว่าใครก็จะไม่ไปพบนาง ไม่พูดกับนางสักคำ แม้นางจะให้คนส่งจดหมายมา ข้าก็จะไม่ตอบกลับ แม้แต่จะอ่านยังไม่อ่านวันเวลาผ่านไปกลางดาบคมและเงาเย็น พวกข้าทุกคนต่างฝึกฝนวิชาให้แกร่งกล้า ราวกับได้ตกลงกันไว้แล้วว่า หากยังไม่ตาย ก็จะฝึกจนสุดกำลังแม้ไม่มีผู้ใดเอ่ยวาจา แต่ข้าย่อมรู้ว่าในใจของทุกคนคิดไม่ต่างกัน ย่อมไม่มีวันเป็น ‘นางที่ยิ้มแย้ม’ ได้อีกแล้ว เพราะเจ้าหวังห้าเล่าว่า ตั้งแต่นางจากเขาลงไป ท่านอาจารย์ก็ไม่เคยยิ้มอีกเลย มีแต่สีหน้าเคร่งเครียดทุกเมื่อเชื่อวันพวกข้าไม่รู้ว่านางประสบเรื่องราวใด แต่ข้าก็ฝึกฝนจนกล้าแข็ง เพียงรอวันที่นางต้องการข้า ดาบในมือย่อมพร้อมชักออกจา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1601

    เพียงแต่ ข้ากับซีซีพบกันแทบทุกวัน หากนางไม่มาหาข้าที่สถาบันชื่อเยียน ข้าก็จะไปหานางที่สำนักว่านซง ด้วยเหตุนี้ ข้าจึงยังคงได้พบหวังเยว่จางอยู่เสมอทว่า ทุกคราที่เขาเห็นข้า ก็จะส่งสายตาเคียดแค้นมาให้ ราวกับข้าเป็นผู้ล่วงเกินเขากระนั้นครั้งหนึ่งข้าทนไม่ไหว เอ่ยถามเขาว่าจะมองเขม่นข้าไปถึงไหน เขากลับว่าข้าเป็นคนแพร่ข่าวลือ ว่าเขาไปเที่ยวหอนางโลมข้าก็โกรธแทบขาดใจ! เขาประพฤติเสียเอง ไม่รู้จักสำนึก กลับมาโทษคนที่บริสุทธิ์ ข้าไม่ได้แพร่ข่าวลือเสียหน่อย!ข้าแค่เล่าเรื่องนี้ให้สหายสนิทของข้าฟัง แล้วจะนับว่าแพร่ข่าวลือได้อย่างไร?ข้าโมโหจนต่อยเขาไปหนึ่งหมัด แล้วก็ประกาศตัดขาดกับเขาเสียเลยต่อมา ซีซีกลับบ้าน ข้าคิดว่าไม่นานนางก็คงกลับมาเช่นเคย แต่ครานี้ นางกลับหายไปเนิ่นนาน มิได้กลับสำนักภูเขาเหม่ยชานอีกเลยข้าไปที่สำนักว่านซงเพื่อถามหา แต่มิมีผู้ใดยอมปริปากแม้แต่คนเดียวด้วยความร้อนใจ ข้าคิดจะพาเฉินเฉินกับมันโถวออกเดินทางไปเมืองหลวงตามหานาง ก่อนออกเดินทาง หวังเยว่จางก็มาหาเราครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่ข้าเห็นเขามีสีหน้าเคร่งขรึม เขาบอกพวกเราว่า ซีซีมีเรื่องในบ้าน บิดาและพี่ชายล้วนเสียชีวิ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1600

    แต่จะว่าไปแล้ว สตรีเช่นข้า ก็เป็นที่โปรดปรานของบุรุษไม่น้อยที่ภูเขาเหม่ยชาน มีบุรุษมากมายชื่นชอบข้า เด็กหนุ่มวัยกำลังขึ้นหนวดอ่อนส่งจดหมายรักให้ข้าเขินๆ อายๆ ส่งมาครั้งแล้วครั้งเล่าข้าก็ไม่เคยเปิดดู ต่อหน้าพวกเขาก็ฉีกมันทิ้งเสียเลยในเมื่อยามนั้น ข้ายังไม่ได้เข้าใจตรรกะของคำปฏิญาณที่ตนตั้งไว้ดีนัก ในใจก็ยังมีคำว่า "ไม่แต่ง" ขวางอยู่เต็มอกข้าฉีกจดหมายรักต่อหน้าพวกเขา ข้ารู้ว่าตนโหดร้าย แต่ขอโทษเถิด ในเมื่อข้าคือสตรีที่ตั้งใจว่าจะไม่ข้องเกี่ยวกับเรื่องรักใคร่ชั่วชีวิต ข้าย่อมต้องใจแข็ง ไม่ปล่อยให้พวกเขามีแม้แต่นิดเดียวของความหวังร้องไห้เสียในตอนนี้ ยังดีกว่าติดบ่วงในวันหน้า จนเจ็บปวดปานฉีกหัวใจแม้พวกเขาจะบอกหน้าตาเศร้าว่าให้ข้าช่วยส่งจดหมายรักให้ซ่งซีซีก็ตาม ข้าก็ไม่หวั่นไหวเลยแม้แต่น้อยหึๆ ยังไม่ทันได้เป็นบุรุษเต็มตัว ก็รู้จักใช้เล่ห์กลยั่วยวนหญิงเสียแล้วที่ภูเขาเหม่ยชาน เพื่อนเล่นที่ดีที่สุดของข้าก็คือพวกซีซี หมั่นโถว เฉินเฉิน และกุ้นเอ๋อร์อ้อ เคยมีอยู่ช่วงหนึ่ง ศิษย์พี่ใหญ่ของเฉินเฉินก็มาเล่นกับพวกเราด้วย แต่น่าเสียดาย ต่อมาเขาก็ลงเขาไปผดุงคุณธรรมเสียแล้ว แต่เฉินเฉินบ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1599

    ข้า...เสิ่นว่านจือคนดีคนเดิม ยังคงอยากจะบ่นอยู่ บ่นถึงบุรุษของข้าหวังเยว่จาง เจ้านี่ช่างสมกับเป็นบุตรของท่านฮูหยินผู้เฒ่าหวังเสียจริงก่อนแต่งงานเราก็ตกลงกันไว้ชัดเจนแล้วว่า ต่อแต่นี้ไปไม่ว่าข้าจะทำสิ่งใด เขาห้ามแทรกแซง ห้ามห้ามปราม และห้ามเข้าร่วมโดยเด็ดขาดผลสุดท้าย เพิ่งแต่งได้ปีเดียว เขาก็ฉีกสัญญาทิ้งหมดสิ้น จะทำด้วยทุกเรื่องตามข้าสิ่งที่ข้าทำนั้น เขาเกี่ยวข้องได้หรือ? ย่อมไม่ได้ สำนักว่านซงมีกฎเข้มงวด อีกทั้งยังมีอาจารย์อาผู้เหี้ยมโหดนั่งประจำอยู่ หากรู้ว่าข้าพาหวังเยว่จางไปตัดหัวคน เกรงว่าจะบดกระดูกข้าเป็นผุยผงไปแล้วแต่เขาว่า เดิมเขาก็เป็นคนในยุทธภพ คนในยุทธภพล้วนถือความสะใจเป็นใหญ่ ทั้งบุญคุณและความแค้น ไม่ว่าเป็นของผู้ใด ก็ล้วนต้องตอบแทนอีกทั้งเราทำอย่างลับๆ สถาบันว่านซงเหมินย่อมไม่รู้เรื่องแต่พี่ห้า ท่านเข้าสังกัดกรมกลาโหมไปแล้วนะ ท่านก็เป็นขุนนางแล้ว จะยังพูดเรื่องยุทธภพสะใจล้างแค้นอะไรอีกเล่า?สิ่งที่ข้าทำ แม้แต่ซ่งซีซีก็ยังไม่รู้ทั้งหมด หรือหากนางรู้ นางก็คงเลือกที่จะปิดหูปิดตาเสีย เพราะว่ามันขัดแย้งกับสถานะ เข้าใจหรือไม่?ข้า...เสิ่นว่านจือ ไม่ย่างกรายเข้าสู่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1598

    บางครั้งข้าก็สอนศิษย์ทั้งหลายให้กล้าเผชิญหน้ากับชีวิต กล้าเผชิญหน้ากับความผิดพลาด แต่ตัวข้าเองกลับมิอาจกระทำได้เช่นนั้นหลายปีมานี้ ข้าแทบไม่ได้พบหน้าเขาเลย หากรู้ว่าเขาจะไปที่ใด ข้าย่อมหลีกเลี่ยงไม่ไปเมื่อครั้งที่ข้ายังดื้อดึงอยู่ เคยถูกพี่สะใภ้ตำหนิว่าข้ายังติดหนี้เจ้าสิบเอ็ดฝางอยู่ แต่ในใจข้ากลับไม่ยอมรับนัก ยังรู้สึกน้อยใจอยู่บ้างแต่ตอนนี้เมื่อคิดย้อนกลับไป ข้าน้อยใจไปเพื่ออะไรเล่า? ใครเป็นคนที่ติดหนี้ข้ากัน? ฟ้าดินเมตตาข้าไม่มากพอแล้วหรือ? ทุกสิ่งล้วนเป็นผลจากการกระทำของข้าเองทั้งสิ้นหลายครา ข้าเปิดกระดาษเขียนจดหมาย ตั้งใจจะเขียนถึงเขาเพื่อขอขมาจากใจจริงแต่ยามจับพู่กันลงหมึก พอหมึกหยดลงกระดาษกลับเขียนไม่ออกแม้แต่คำเดียวข้ากลัวว่าจดหมายขอขมานั้นจะดูแปลกประหลาดเกินไป ทำให้ภรรยาของเขาระแวง หรือแม้แต่ทำให้จ้านเป่ยว่างคิดมากแม้ว่าตอนนี้ ข้ากับจ้านเป่ยว่างจะมิได้เป็นสามีภรรยากันจริงๆ แล้วก็ตาม แต่ข้าก็ไม่ต้องการทำลายความสงบเช่นนี้ระหว่างนั้น จ้านเป่ยว่างเคยกลับมาสองสามครั้ง อาจเพราะเห็นกองกระดาษที่ถูกขยำทิ้งในห้องหนังสือของข้า เขาจึงสั่งให้เตรียมเหล้าหนึ่งเหยือก กับกับข้า

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status