“ไอ้ชมพู!!!”
“ห๊ะ.....”
“เหม่ออะไร พวกฉันเรียกตั้งหลายรอบ” พศินถามเสียงดัง
“โทษที พยายามคิดถึงเรื่องเมื่อคืน แต่จำไม่ค่อยได้”
“เอาน่า ช่างมันเถอะ คิดซะว่ามันคือประสบการณ์ครั้งแรก” ปรางค์วลัยพูดปลอบใจ
“ฉันก็ไม่ได้คิดมากนะ เพียงแต่ฉันจำไม่ได้ว่าเกิดขึ้นได้ยังไง” ชมพูแพรบอกเพื่อนพลางขมวดคิ้วที่ตัวเองนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก
“ไม่โดนหลอกไปขายก็ดีแค่ไหนแล้วแม่คุณ รอยดูดทั่วตัวขนาดนั้น” พศินมองแวบเดียวก็รู้ว่าผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดา เมื่อดูจากร่องรอยบนเนื้อตัวของชมพูแพร
“พอๆ แล้ววันนี้กลับคอนโดเลยไหม” ปรางค์วลัยปรามห้ามทัพ
“ยัง ว่าจะไปโรงพยาบาลก่อน ฉันมีอาการหายใจไม่ค่อยออกอีกแล้ว”
“โอเค งั้นก็เดินทางดีๆ กลับถึงบ้านแล้วบอกด้วย”
ชมพูแพรพยักหน้ารับ เมื่อปรางค์วลัยบอกกำชับเธอ ก่อนที่พวกเธอจะแยกย้ายกันหลังเวลาเลิกงาน
ชมพูแพรเดินทางมาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากคอนโดมาก เธอเป็นภูมิแพ้ เวลาที่หายใจเอาไอฝุ่นมากๆ ก็จะมีอาการหายใจติดขัดหรือ ไอจามอยู่หลายวัน หนักเข้าก็จะมีน้ำมูกและเสมหะ พอรู้ตัวว่าถ้าปล่อยเอาไว้นานเธอจะเป็นหนัก เมื่อมีอาการเธอก็จะรีบมาหาหมอก่อนทุกครั้ง
“สวัสดีค่ะ มีอาการยังไงมาคะ” เจ้าหน้าที่หน้าเคาน์เตอร์สอบถามอาการหญิงสาวเมื่อเธอเดินเข้าไปนั่ง
หลังจากที่หญิงสาวทำประวัติเสร็จแล้วก็ถูกส่งไปยังห้องตรวจ เธอนั่งรอเงียบๆ จนกระทั่งพยาบาลเรียกชื่อก็ลุกเดินตามเข้าไปในห้องตรวจอย่างคนเคยชินกับการมาหาหมอเป็นประจำ
“เป็นอะไรมาครับ…..” เสียงทุ้มพูดนุ่มนวลก่อนจะเงยหน้ามองคนไข้แล้วก็ชะงักไป
“หายใจติดขัดค่ะ” ชมพูแพรตอบอย่างไม่ได้คิดอะไร เธอนั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้ามกับคุณหมอหนุ่ม แล้วรอเขาสอบถามอาการหมดเช่นทุกครั้ง
“พอดีคุณหมอทั่วไปวันนี้ไม่เข้าหลายท่าน หมอปอดเลยลงมาอยู่เวรแทนค่ะ” พยาบาลสาวบอกชมพูแพรด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“อ๋อ ค่ะ” หญิงสาวพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ
ชยกรอ่านอาการของหญิงสาวแล้วก็เปิดแฟ้มประวัติของเธอดู เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะบอกให้พยาบาลช่วยปิดประตูห้องตรวจให้
“หมอขอฟังเสียงปอดหน่อยนะ” เขาบอกเธอหลังจากวางปากกา
“เอ่อ ค่ะ” ชมพูแพรมีอาการกระอักกระอ่วนเล็กน้อย ซึ่งเขาก็พอเดาได้ว่าเพราะอะไร
ชยกรเลื่อนเก้าอี้เข้าไปใกล้ร่างเล็ก หยิบสเต็ทโตสโคปขึ้นมาวางแนบไปที่หน้าอกของหญิงสาว ก่อนที่พยาบาลจะเข้ามาช่วยจับเสื้อของเธอยกขึ้น แล้วเขาก็วางแนบไปยังจุดต่างๆ เพื่อฟังเสียงปอดของหญิงสาว ก่อนที่จะพยักหน้าแล้วพยาบาลก็ปิดเสื้อลง
“คุณเคยเทสไหม ว่าแพ้อะไรบ้าง”
“ยังค่ะ”
“หาเวลาเข้ามาเทสหน่อยนะ จากอาการเหมือนว่าจะไม่ได้แพ้แค่ฝุ่น วันนี้เดี๋ยวผมสั่งจ่ายยาแก้แพ้ให้ แล้วก็ยาละลายเสมหะ”
“ค่ะ”
“เรียบร้อยแล้วนะครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
หลังจากหญิงสาวลุกขึ้นก็หยิบกระเป๋าขึ้นสะพายข้าง แล้วหันหลังเดินออกจากห้องไป โดยไม่ได้เอะใจเลยสักนิดว่าคุณหมอหนุ่มที่เธอหันหลังให้มองตามเธอจนลับตา
“คุณหมอรู้จักคนไข้คนเมื่อสักครู่เหรอคะ”
“ทำไมคิดแบบนั้นล่ะครับ”
“ก็ปกติคุณหมอไม่เคยแทนตัวกับคนไข้ว่าผมหรือคุณเลยนี่คะ”
“งั้นเหรอครับ วันนี้มีอะไรอีกไหมครับ”
“ไม่มีแล้วค่ะ”
“งั้นเดี๋ยวผมกลับก่อน แล้วถ้ามีอะไรฉุกเฉินก็โทรไปได้เลยนะ”
“ค่ะ สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีครับ”
ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ดวงตาคมมองไปเห็นอะไรบางอย่างหล่นอยู่ที่พื้นก็ก้มลงหยิบแล้วเดินออกจากห้องไป
หลังจากออกจากโรงพยาบาล ชมพูแพรก็ตรงกลับที่พักเลย ตอนนี้เธอพักอยู่คอนโดคนเดียว เป็นคอนโดที่พ่อแม่ของเธอซื้อให้เพราะต้องการให้เธออยู่ใกล้ที่ทำงาน จะได้ไม่ต้องเดินทางไปกลับไกลๆ
เมื่อกลับมาถึงที่คอนโด หญิงสาวก็จัดการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเลย ก่อนที่จะออกมากดโทรศัพท์เพื่อสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชันดัง แล้วนั่งดูซีรี่ส์รออยู่เงียบๆ จนกระทั่งอาหารมาถึง เธอจึงลงไปรับที่หน้าคอนโด แล้วกลับมายืนรอลิฟต์เพื่อจะกลับขึ้นมาชั้นบน เมื่อลิฟต์เปิดก็เดินเข้าไป โดยไม่รู้เลยว่าหลังจากที่ประตูลิฟต์ปิด ก็มีร่างสูงเดินเข้ามาหยุดยืนรอลิฟต์พอดี
หลายชั่วโมงผ่านไป หลังจากที่กินมื้อเย็นเสร็จ แล้วอาบน้ำอีกครั้งเพื่อเตรียมตัวเข้านอน ชมพูแพรก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถือ ตั้งใจจะเดินกลับเข้าห้องนอน ก็ต้องสะดุ้งเมื่อโทรศัพท์ที่อยู่ในมือแผดเสียงดังลั่น
“ฮัลโหล” คิ้วเรียวสวยขมวดเล็กน้อยเมื่อเบอร์ที่โชว์เป็นเบอร์ที่เธอไม่รู้จัก
“ทำไมคุณไม่ติดต่อผมมา” เสียงนุ่มที่ติดจะกระชากเล็กน้อยเพราะความไม่พอใจ
“.....ใครคะ”
“ลืมผัวตัวเองเหรอ”
“.....เฮ้ย คุณเองเหรอ”
“อือ”
“เอาเบอร์ฉันมาจากไหน”
“ผมหามาได้ก็แล้วกัน แล้วทำไมไม่ติดต่อผมมา”
“ก็ยุ่งๆ แล้วก็คิดว่าไม่จำเป็นด้วยอะ” ชมพูแพรพูดเสียงอ่อย
“นี่คุณ ไม่คิดจะเสียดายครั้งแรกของตัวเองหน่อยเหรอ”
“ก็ไม่นะ”
“.....” ชยกรอึ้ง เขาถอนหายใจเสียงดังจนหญิงสาวได้ยิน
“ว่าแต่มีอะไรคะ”
“คุณทำอะไรหาย ไม่สังเกตเลยเหรอ”
“ก็ไม่มีนะ”
“.....บัตรประชาชนคุณอยู่ที่ผม”
“จะไปอยู่ที่คุณได้ยังไง เมื่อเย็นฉันยังใช้อยู่เลย.....อ๊ะ แป๊บนะ”
ชมพูแพรเถียงก่อนจะนึกขึ้นมาได้ว่าเธอไปโรงพยาบาลมา และไม่แน่ใจว่าได้เก็บบัตรประชาชนลงในกระเป๋าหรือยัง หญิงสาวรีบเดินไปหยิบกระเป๋าเงินที่ยังไม่ได้เก็บเข้ากระเป๋าสะพายมาเปิดดู และก็จริงเหมือนที่เขาบอก มันไม่ได้อยู่ในกระเป๋าของเธอ
“เอ่อ อยู่ที่คุณจริงเหรอ อยู่ได้ยังไง”
“แล้ววันนี้คุณไปไหนมา”
“ไปโรงพยาบาล”
“อืม”
“.....”
“มาหาผมที่ผับ เข้าไปที่บาร์ บอกบาเทนเดอร์ว่ามาหาผม พวกเขาจะให้คนพาคุณขึ้นมาที่ห้องทำงานผม”
“เดี๋ยวสิคุณ ฉันไม่รู้ชื่อคุณนะ”
“.....ผมชื่อหนึ่ง แล้วเจอกัน คุณชมพูแพร”
หญิงสาวหันหน้าจอโทรศัพท์มาดูแล้วก็ทำหน้าตาเหลอหลา สรุปว่าเธอต้องไปใช่ไหม เท้าเล็กก้าวไปยืนหน้ากระจกบานใหญ่ที่หน้าตู้เสื้อผ้าในห้องนอน ดวงตากลมโตมองสภาพของตัวเองที่พร้อมนอนก็ถอนหายใจ มองหากางเกงยีนขาสั้นสีขาวแล้วหยิบขึ้นมาสวม ก่อนจะมองไปที่เสื้อเชิ้ตตัวใหญ่สีดำที่เธอใส่กลับมาเมื่อเช้า ตอนนี้มันได้รับการซักตากไว้จนแห้ง เธอเพิ่งเก็บเข้ามาเมื่อตอนกลับมาถึงห้อง ใบหน้าหวานมองเงาสะท้อนในกระจก หยิบเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่สีดำขึ้นมาสวม ก่อนจะมัดผมขึ้นเป็นหางม้าแล้วเดินออกมาจากห้องนอน คว้ากระเป๋าสะพาย กระเป๋าเงิน และโทรศัพท์เดินออกจากห้องไป
“สวัสดีค่ะ มาหาคุณหนึ่งค่ะ” เสียงหวานใสเอ่ยเมื่อมาถึงที่หน้าบาร์
บาร์เทนเดอร์หนุ่มที่ได้รับคำสั่งจากเจ้านายเอาไว้อยู่แล้วพยักหน้ารับแล้ววอร์เรียกผู้จัดการให้มาทำหน้าที่พาหญิงสาวขึ้นไป
“รอสักครู่นะครับ” ชายหนุ่มบอกเธอก่อนจะยิ้มให้ รอจนเมื่อผู้จัดการของผับเดินเข้ามา เขาถึงกลับไปทำหน้าที่ของเขาต่อ
“เดี๋ยวผมพาไปส่งครับ คุณหนึ่งบอกให้คุณขึ้นไปที่ชั้น 2 ใช่ไหมครับ”
“ค่ะ เขาบอกให้ขึ้นไปชั้น 2 ค่ะ”
“ครับ งั้นตามผมมาเลยครับ”
ชมพูแพรเดินตามชายคนดังกล่าวที่เป็นผู้จัดการของผับไปเงียบๆ หญิงสาวกลายเป็นจุดสนใจของหลายคนเพราะเธอเดินขึ้นบันไดไปยังชั้น 2 ซึ่งขาประจำจะรู้กันดีว่าเป็นชั้นของเจ้าของผับ มันมีทั้งห้องทำงานและห้องส่วนตัวอยู่บนชั้นนี้
ก๊อก ก๊อก
“เชิญ”
“พามาส่งแล้วครับ”
หลังจากประตูถูกเปิด ก็ปรากฏร่างเล็กที่เดินตามชายหนุ่มผู้จัดการผับเข้ามาด้านใน เขารายงานกับเจ้านายหนุ่ม ก่อนจะเดินออกไปเงียบๆ ปล่อยให้ชมพูแพรอยู่กับชยกรตามลำพัง
“นั่งก่อนสิ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันมาเอาบัตรประชาชนคืน”
“จะเอาคืนไปง่ายๆ ได้ยังไงล่ะคุณ ผมอุตส่าห์เก็บมาให้นะ”
“ว่าแต่คุณไปเจอได้ยังไง ฉันไม่ได้ไปไหนนอกจากโรงพยาบาลนะ”
“ก็ที่โรงพยาบาลนั่นแหละ คุณทำหล่นเอาไว้ในห้องตรวจ”
“ห้องตรวจ.....?” เสียงหวานใสทวนคำพูดเขาก่อนจะพยายามนึก
“อือ”
“.....คุณ.....หมอ เหรอ”
“อือ หัวไวดีนี่ ถึงจะเซ่อซ่าไปหน่อยก็เถอะ”
“จริงดิ”
“แล้วทำไมถึงคิดว่าไม่จริง”
“ก็ ฉันเจอคุณที่ผับ”
“แล้วหมอเที่ยวไม่ได้เหรอ”
“คุณมาเที่ยวเหรอ”
“เปล่า มาทำงาน ผมเป็นเจ้าของที่นี่”
“หา.....”
“เห้อ ไปเถอะ ลงไปหาอะไรดื่มกันหน่อย”
ร่างสูงที่นั่งอยู่ด้านหลังโต๊ะทำงานลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แล้วเดินออกมาดึงให้หญิงสาวที่ยืนงงอยู่ให้เดินตามเขาออกจากห้องไป
“เอาเหมือนเดิม” เจ้าของเสียงนุ่มสั่งลูกน้องหลังจากนั่งลงที่เก้าอี้ตัวสูงหน้าเคาน์เตอร์
“ครับ แล้วคุณผู้หญิงรับอะไรดีครับ”
“ขอค็อกเทลเบาๆ ก็พอค่ะ”
“รับทราบครับ”
หญิงสาวนั่งมองนั่นมองนี่ไปเรื่อยๆ บรรยากาศสนุกสนาน เสียงเพลงที่อยู่ในช่วงเวลาเพลงซึ้งเพื่อพักขาของเหล่านักเต้น ทำให้บรรยากาศดูไม่พลุกพล่าน
“ได้แล้วครับ แล้ววันนี้นายค้างคืนไหมครับ หรือกลับเลย”
“น่าจะกลับ พาเขาไปส่ง” ดวงตาคมมองไปที่ร่างเล็กเป็นเชิงบอก ก่อนที่เขาจะยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นจิบ
“แล้วมีคนขึ้นไปเคลียร์บนห้องหรือยัง”
“เรียบร้อยแล้วครับ แล้วชุดสีขาวให้ทำยังไงครับ”
“นี่ ชุดจะเอาไหม หรือจะให้ทิ้งไปเลย” ชยกรหันไปถามคนข้างๆ ที่นั่งมองนั่นมองนี่หลังจากลูกน้องถาม
“ชุดฉันเหรอ”
“ชุดสีขาวเมื่อวาน”
“อ๋อ ทิ้งไปก็ได้ มันไม่น่าจะซักออก”
“ตามนั้นแหละ”
เมื่อได้คำตอบจากหญิงสาว ชยกรก็พยักหน้ากับลูกน้อง เขานั่งคุยกับลูกน้องเบาๆ ปล่อยให้ชมพูแพรนั่งมองนั่นมองนี่พร้อมกับจิบเครื่องดื่มไปเรื่อยๆ รู้ตัวอีกที หญิงสาวตัวเล็กข้างๆ ก็เมาจากการดื่มไปหลายแก้ว
“กลับได้แล้วคุณ”“ดึกแล้วเหรอ”“เปล่า คุณเมาแล้ว”“เหรอ”“อือ กลับก็ได้”ใบหน้าหล่อเหลาส่ายเบาๆ ผู้หญิงคนนี้ไม่เคยระวังตัวเลย เพราะแบบนี้ถึงถูกเขาหลอกขึ้นห้องไปได้ง่ายๆ สงสัยเขาคงต้องคอยตามเฝ้าไม่ให้แอบไปไหนคนเดียว ไม่อย่างนั้นคงได้โดนใครหลอกไปอีกชมพูแพรถูกร่างสูงกึ่งลากกึ่งจูงออกมาจากผับไปที่รถ หญิงสาวบ่นเล็กน้อยเมื่อถูกเขาจับยัดใส่รถ ก่อนที่เขาจะกลับไปฝั่งคนขับแล้วเคลื่อนตัวออกไป“บ้านคุณอยู่ที่ไหน”“ฉันอยู่คอนโด แถวนี้แหละ”“ชื่อ”“.....” หญิงสาวบอกชื่อคอนโดที่เธออยู่เสียงอ้อแอ้ ก่อนจะปรับเบาะนอนลง“พูดจริง”“อือ”“บังเอิญไปหรือเปล่าเนี่ย” ชยกรพึมพำเบาๆ อย่างแปลกใจ แต่เมื่อหันไปมองคนข้างๆ ก็เห็นว่าเธอหลับไปแล้ว จึงหันมาตั้งสมาธิในการมองทาง เพราะเขาเองก็ดื่มไปนิดหน่อยเช่นกัน“คุณ อยู่ชั้นไหน”“ชั้น 19”“แปลก อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น”ร่างสูงที่เริ่มหงุดหงิดที่คนตัวเล็กยืนเอียงไปเอียงมาจึงอุ้มหญิงสาวขึ้น รอจนลิฟต์มาจอดที่ชั้น 19 ก็เดินออกมา“ห้องไหน”“ริมสุด ฝั่งขวา รหัสคือเลข 6 ตัวท้ายบัตรประชาชน” ชมพูแพรบอกเขาระหว่างที่ยังเอียงศีรษะซบกับบ่ากว้างเมื่อกดรหัสเข้าห้องเรียบร้อย ชยกรก็อุ้
‘พี่ไปทำงานก่อนนะชมพู เจอกันตอนเย็นครับ รหัสห้องพี่เปลี่ยนไปใช้รหัสเดียวกับชมพูแล้ว เผื่ออยากเข้าไปสำรวจอะไรก็เข้าไปได้เลยนะ อย่าซนล่ะ’“เดี๋ยวนะ ทำไมทุกอย่างกลายเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะเนี่ย”เสียงหวานใสพึมพำเบาๆ หลังจากที่เธอเห็นกระดาษที่ชยกรเขียนข้อความแปะเอาไว้ที่ประตูห้องนอน เมื่อเธอตื่นแล้วจะเปิดประตูออกไปก็จะเจอข้อความของเขาก่อนเป็นอย่างแรกหญิงสาวออกจากห้องนอนมาก็เจออาหารเช้าที่เขาซื้อเอาไว้ให้วางอยู่บนโต๊ะ พร้อมด้วยกุญแจสำรองของห้องเขากับกุญแจรถวางอยู่คู่กัน ชมพูแพรมองแล้วอมยิ้ม ทำเหมือนเธอจะหนีเที่ยงอย่างนั้นแหละ เตรียมทุกอย่างเอาไว้ให้พร้อมเลยถ้วยจานที่เก็บอยู่ในชั้นวางถูกหยิบออกมาที่โต๊ะ มือเล็กแกะอาหารที่เขาซื้อเอาไว้ให้เทใส่จานแล้วนั่งลงจัดการเงียบๆ ก่อนจะกดรับสายเมื่อมีสายเรียกเข้าดังมาจากโทรศัพท์“ไง”‘ตื่นเช้าจังวะ แล้วนี่กินอะไรเนี่ย’“มื้อเช้า คุณหมอเขาเตรียมเอาไว้ให้”‘ต๊าย ดูแลดีดั่งเมียแต่ง’“พูดมากน่า ว่าแต่มีอะไร”‘โทรมาเช็กดูเฉยๆ ว่ายังอยู่ดีไหม หรือตายคาเตียงไปแล้ว’“ยัยบ้า ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้นย่ะ แถมเมื่อคืนต้องบึ่งไปโรงพยาบาลเพราะมีเคสผ่าตัดด่วนอีกต่างหาก ต
ชมพูแพรนั่งเล่นโทรศัพท์ไปเรื่อยๆ จนเริ่มง่วง เพราะเมื่อคืนเธอตื่นมาโรงพยาบาลเป็นเพื่อนเขา หญิงสาวมองประตูห้องนอนอย่างชั่งใจ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ที่เธอเพิ่งวางลงบนโต๊ะ แล้วลุกออกจากโซฟา เดินหายเข้าไปในห้องหลังจากประชุมเรื่องงบประมาณของแต่ละแผนกอยู่หลายชั่วโมง ชยกรก็กลับมาที่ห้องทำงานด้วยสีหน้าเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด ดวงตาคมมองหาร่างเล็กก่อนจะไปสะดุดตากับกระเป๋าที่วางอยู่บนโต๊ะ จึงเดินไปเปิดประตูห้องนอนแล้วก็พบว่าหญิงสาวกำลังหลับสนิทอยู่บนเตียงเขาปิดประตูห้องนอนเอาไว้ตามเดิมแล้วกลับมานั่งที่โต๊ะทำงาน แล้วเริ่มเคลียร์งานบนโต๊ะต่อ โดยมีผู้ช่วยส่วนตัวนำแฟ้มเอกสารมาวางไว้ให้บนโต๊ะ“กลับบ้านกัน จะแวะไปหาอะไรกินก่อนไหม” ชยกรถามหลังปิดคอมพิวเตอร์แล้วลุกออกจากโต๊ะ“แล้วแต่เลยค่ะ” หญิงสาววางหนังสือในมือลงแล้วขยับตัวลุกขึ้นตามเขา“จะเอาไปอ่านที่บ้านไหม”“ไม่เป็นไรค่ะ”“งั้นก็หาอะไรคั่นไว้ ถ้ามาวันไหนก็ค่อยมาอ่าน”“ค่ะ พรุ่งนี้หยุดไหมคะ”“อื้อ หยุด จะไปไหนล่ะ”“ไปผับกันค่ะ ชวนยัยพินนี่กับการ์ตูนไปด้วย”“สองสาวนั่นน่ะเหรอ”“ค่ะ”“ตามใจ งั้นกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านก่อนแล้วกัน”ชมพูแพรยิ้มหวานอ
“อ้าว 2 สาวล่ะครับ” ชยกรกลับมาจากสูบบุหรี่ไม่เห็นชมพูแพรก็มีสีหน้าไม่พอใจ“นู่นค่ะ” ปรางค์วลัยชี้ไปที่เพื่อนสาวทั้งสองคนที่เต้นกันอย่างสนุกสนาน“ไอ้หมอ” เมฆาที่เพิ่งมาถึงเดินเข้ามาตบบ่าชยกรเป็นการบอกว่าเขามา“อะไรไอ้หมอ” เขาย้อนเพื่อนพร้อมกับมองไปที่หญิงสาวตัวเล็กตาวาว“จะมาไม่บอกเพื่อนนะมึง” เมฆาที่มัวแต่คุยไม่ทันได้หันไปมองรอบข้าง“คำสั่งเมีย” ชยกรบอกเสียงเรียบ“กูล่ะหมั่นไส้คนหลงเมีย” เมฆาแขวะเพื่อนด้วยความหมั่นไส้ ก่อนจะมองไปที่โซฟาก็เห็นว่าปรางค์วลัยนั่งอยู่ ก็หน้าเหวอไป“ไง” ปรางค์วลัยทักเมฆาสีหน้าเรียบเฉย“เฮ้ย ยัยปลาการ์ตูน มาได้ยังไง” เมฆาที่เห็นปรางค์วลัยก็โวยวาย“ฉันมากับเพื่อนฉันเหอะน่า”“เดี๋ยวนะ สองคนนี้รู้จักกันเหรอ” ชยกรถามเมื่อได้ยินทั้งสองคนคุยกัน“พี่ชายข้างบ้านค่ะ แต่ไม่ได้นับถือเป็นพี่ เพราะมันมั่วผู้หญิง” ปรางค์วลัยบอกชยกรแล้วยิ้มให้“ยัยปากจัด” เมฆาแขวะปรางค์วลัย แต่หญิงสาวก็ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้“อย่าฆ่ากันตายล่ะ เดี๋ยวมา” ชยกรหมุนตัวเดินออกไป ปล่อยให้เมฆากับปรางค์วลัยเถียงกันอยู่แบบนั้นทางด้านชมพูแพรกับพศินที่ออกมาเต้นกันอย่างสนุกสนานก็ไม่ได้สนใจว่าใครจะเข้ามาใก
“อ๊ะ.....” เสียงหวานใสอุทานตกใจ มือเล็กจับบ่ากว้างเอาไว้อย่างลืมตัว“บางทีเรื่องพวกนี้ใช้สัญชาตญาณก็ได้นะ อย่าไปเกร็งหรือกลัวมันเลย” เขาพึมพำเสียงแหบพร่า ริมฝีปากยังแนบชิดลำคอขาวหญิงสาวปล่อยให้เขาทำรอยที่คอเธอจนพอใจ เมื่อมือหนาคลายออกแล้วเคลื่อนมาที่กระดุมชุดนอนก็สะดุ้งเล็กน้อย แต่ก็ปล่อยให้เขาแกะมันออกจนหมด“กลัวไหม”“ไม่รู้สิคะ บอกไม่ถูก”เจ้าของตักแกร่งถือโอกาสสูดดมกลิ่นหอมหวานจากร่างบางบนตัก อ้าปากกัดหัวไหล่มนแรงๆ อย่างมันเขี้ยว“อ๊ะ!!!”“หืม เสียงได้อารมณ์ดีจัง”“กัดทำไมคะ”“มันเขี้ยว อยากจับฟัดแรงๆ”“หมายความว่ายังไง อ๊ะ.....”ไม่ทันสิ้นเสียง หญิงสาวก็ถูกริมฝีปากหยักแนบลงมา ลิ้นหนากระหวัดเกี่ยวเรียวลิ้นบางเล่น ตักตวงความหวานแกมหยอกล้อ ฝ่ามือหนาลูบไล้ต้นขาขาวเนียนแผ่วเบา หญิงสาวสะดุ้ง เมื่อรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ดิ้นขยุกขยิกอยู่ตรงใต้หว่างขาของเธอ อะไรบางอย่างที่เริ่มใหญ่โตขึ้นมาเป็นลำ“…..พี่หนึ่ง” เขาละริมฝีปากออกให้หญิงสาวได้หายใจ เธอสูดลมหายใจเข้าปอด มือดันหน้าอกเขาไว้“ครับ” ชายหนุ่มฝังจมูกลงบนลำคอระหง กัดงับผิวเนื้ออ่อนเล่นอย่างพอใจต้นขาแข็งแรงขยับแยกออกกว้างให้มีพื้นที่
“ตื่นได้แล้วคนสวย อาหารเช้าพร้อมแล้ว”ชยกรตื่นมาจัดเตรียมอาหารแต่เช้า ก่อนที่จะกลับเข้ามาปลุกหญิงสาวที่ยังนอนสลับสนิทอยู่ด้วยแววตาเอ็นดู“วันนี้วันอาทิตย์ เพราะฉะนั้น.....ฝันดีค่ะ”“หยุดเลย ตื่นมากินข้าวก่อน แล้วค่อยนอนต่อ”หญิงสาวขยับกายลุกขึ้นมานั่ง แต่ดวงตายังปิดอยู่ จนร่างสูงต้องดึงให้เธอลุกขึ้น แล้วเอาผ้าเช็ดตัวมาห่อร่างกายเปลือยเปล่าเอาไว้ แล้วพาเธอเดินเข้าไปในห้องน้ำ“อาบน้ำเลย พี่เตรียมแปรงสีฟันให้แล้ว เสื้อผ้าแขวนอยู่หน้าตู้”“ค่าๆ”ชมพูแพรไม่ทันได้ฟังว่าเขาพูดอะไรแต่ก็ขานรับแต่โดยดี จนเมื่อเขาออกไปสักพักเธอถึงตั้งสติได้ จัดการล้างหน้าแปรงฟันแล้วอาบน้ำด้วยความรวดเร็ว“อะไรคะ”“โจ๊ก เจ้านี้อร่อย พี่ลงไปซื้อมาตั้งแต่ 6 โมง”“ตื่นเช้าไปไหมคะ วันนี้วันอาทิตย์นะคะ”“เคยชินน่ะสิ”หลังจากชมพูแพรหย่อนกายนั่งลงและหยิบช้อนขึ้น ชยกรก็เริ่มลงมือจัดการมื้อเช้า ทั้งคู่นั่งคุยกันไปเรื่อยๆ จนกระทั่งกินเสร็จ หญิงสาวจึงเก็บถ้วยชามไปล้างแล้วกลับมานอนเล่นที่โซฟา“อยากไปไหนไหม”“ไม่ค่ะ ขี้เกียจ พรุ่งนี้ก็ต้องไปทำงานแล้ว”“ให้พี่ไปส่งไหม”“ชมพูไปเองดีกว่า ชมพูเข้างาน 9 โมง ออกจากบ้าน 8 โมงก็ทัน”“
เช้าวันต่อมา ชมพูแพรมาทำงานแต่เช้าตามปกติ หญิงสาวมีหน้าที่จัดเคลียร์เอกสารที่ได้รับเข้ามายังฝ่ายศูนย์วิจัยและแยกเป็นสัดส่วน เพื่อส่งต่อไปยังส่วนต่อไป ก่อนที่จะถูกนำส่งไปยังบุคคลตำแหน่งต่างๆ อีกหน้าที่คือนำเอกสารจากแผนกวิจัยส่งไปยังแผนกต่างๆ อาทิเช่น ตึกแพทยศาสตร์ ตึกการปกครอง ตึกอธิการบดี และอีกมากมายหญิงสาวใช้เวลาปรับตัวอยู่พักใหญ่ กับการที่เธอต้องนั่งโต๊ะในช่วงเช้าและจำแนกเอกสารออกไปส่งในบริเวณมหาวิทยาลัย แต่ไม่นานก็เคยชินและสนุกกับมัน เพราะอย่างน้อย เธอก็ไม่ต้องนั่งเบื่ออยู่แต่ที่โต๊ะทำงาน“อ้าว น้ายุ้ย สวัสดีค่ะ” ชมพูแพรที่มาส่งเอกสารที่ตึกแพทยศาสตร์ได้เจอเพื่อนสนิทของมารดาก็ยกมือไหว้ทักทายด้วยความดีใจ“อ้าว ชมพู มาทำอะไรล่ะ”“ส่งเอกสารให้รองอธิการค่ะ”“งานเป็นยังไงบ้าง ปรับตัวได้หรือยัง”“ปรับตัวได้แล้วค่ะ”“ดีแล้ว ตอนที่น้าเห็นประกาศรับสมัครน้ารีบบอกแม่เราเลย จะได้ให้มาสมัครและมีเวลาอ่านหนังสือสอบเยอะหน่อย”“โชคดีที่สอบติดนะคะ แต่ได้แนวข้อสอบจากน้ายุ้ย เลยช่วยได้เยอะเลย ขอบคุณมากเลยค่ะ”“หลานน้าทั้งคน น้าก็อยากให้ทำงานดีๆ สิ เอาล่ะ น้าไปทำงานก่อนนะ”“ค่ะ สวัสดีค่ะ”“จ้ะ”หลังจา
“น่ากลัวเหมือนกันนะคะเนี่ย”“ใช่ หนักขึ้นทุกวันด้วย แต่หล่อนเป็นหมอฝีมือดี เลยไม่ได้มีใครคิดจะตักเตือนเป็นเรื่องเป็นราวน่ะ”หลังจากออกมาจากโรงพยาบาลได้สักพัก พศินกับปรางค์วลัยก็เล่าเรื่องที่ได้ยินให้กับชยกรและชมพูแพรฟัง หญิงสาวมีอาการตกใจอย่างเห็นได้ชัด เพราะแคทริยาดูไม่น่าจะเป็นแบบนั้นได้“ตอนที่พวกฉันได้ยินยังตกใจเลย ที่หล่อนมีความคิดแบบนั้น” พศินเองก็ยังส่ายหน้าอย่างรู้สึกไม่ดี“ช่างเขาเถอะ ถ้าเขาไม่มาทำให้เดือดร้อนหรือเข้ามายุ่งวุ่นวายมากไปก็ยังพอให้อภัยได้ แต่ถ้ามากกว่านี้ก็เกรงจะเป็นอันตรายนะ” ปรางค์วลัยพูดแบบเป็นกลาง“กลัวจะหนักขึ้นน่ะสิ เพราะถึงขนาดรู้ว่ามีชมพูแล้วยังคิดแบบนี้ได้น่ะ” ชยกรเองก็เริ่มไม่สบายใจ“ก็รอดูกันไปก่อนก็ได้ค่ะ อย่าเพิ่งคิดมากเลย” ชมพูแพรปลอบใจทุกคน แต่ตัวเธอเองก็ไม่ได้สบายใจเท่าไหร่นัก แต่ถึงอย่างไรหล่อนก็เป็นหมอ มีหน้าที่การงานที่ดี คงไม่เสี่ยงทำอะไรสิ้นคิด“ดื่มกันไปก่อนนะสาวๆ พี่ขอขึ้นไปทำงานก่อน” ชยกรพาทั้งสามคนมาส่งที่โต๊ะวีไอพี ก่อนจะขอตัวขึ้นไปห้องทำงานชมพูแพรทำท่าทางโอเคใส่เขาแล้วยิ้มหวานให้ ชยกรจึงเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นสองของร้าน พร้อมกับเรียกผู
คนตัวเล็กถูกอุ้มมาวางที่พื้นใต้ฝักบัว มือหนาเปิดน้ำให้ไหลลงมาชำระล้างคราบเหงื่อไคล มือใหญ่ลูบไล้เรือนกายบอบบาง ปลายนิ้วเขี่ยปลายยอดดอกบัวตูมอวบเล่นจนมันเป็นไต“พอแล้วค่ะ หมดแรงแล้วนะคะ” เจ้าของร่างบางจับมือหนาของสามี พึมพำพูดเบาๆ ตาใกล้จะปิดลงเต็มทีชยกรก้มลงอ้าปากงับปลายยอดสีชมพูสวยเบาๆ ลิ้นหนาไล้วนรอบๆ มือบีบเคล้นดอกบัวตูมอวบใหญ่ล้นมือรุนแรงจนเป็นรอยมืออีกข้างที่ว่างอยู่เคลื่อนลงไปที่ช่องทางชื้นแฉะ สอดลึกเข้าไปข้างในทีเดียว 2 นิ้ว ทำให้สายธารขาวขุ่นที่ยังค้างอยู่ข้างในไหลออกมาตามเรียวขาสวย“อื้ออออ” ร่างบางหงายเอนศีรษะ หลับตาครางเสียงแผ่ว“อีกสักรอบนะคะ” ฝ่ามืออบอุ่นเอื้อมปิดน้ำ ช้อนอุ้มร่างเล็กขึ้นพิงหลังกับผนัง แขนแกร่งช้อนใต้ขาเรียว พร้อมกับดันแก่นกายร้อนเข้าไปทีเดียวสุดลำในท่าอุ้มแตง“อ๊ายยยย” ชมพูแพรหวีดร้องเสียงดัง แขนคล้องคอหนาช่วยพยุงตัวเองใบหน้าหล่อเหลาโน้มตัวก้มหน้าไปแนบจุมพิตเร่าร้อน ลิ้นหนาสำรวจโพรงปากนุ่มจนทั่ว กระหวัดเกี่ยวลิ้นเล็กปลุกเร้าอารมณ์ สะโพกสอบขยับโยกเบาๆหญิงสาวร้องครางในลำคอ ท่านี้ลำเนื้อของเขาเข้าไปลึก จนเธอเสียววูบวาบไปทั้งตัว ในช่องท้องแน่นจนอึดอัด“รว
“ออกัสล่ะคะ” ชมพูแพรเอ่ยถามขึ้นหลังจากที่เธอออกมาจากห้องน้ำ แล้วเจอสามีนั่งอยู่ในห้อง“หลับไปแล้วค่ะ” ชยกรบอกภรรยาสาวก่อนจะลุกไปโอบเอวบางเอาไว้หลวมๆหลังจากคลอดออกัสได้ไม่นาน รูปร่างของชมพูแพรก็เข้าที่อย่างรวดเร็ว อาจจะเพราะเธอดูแลลูกชายด้วยตัวเอง มีพี่เลี้ยงคอยช่วยหยิบจับบ้างเล็กน้อย กับนอนเป็นเพื่อนหนูน้อยยามค่ำคืนเท่านั้น“ชมพู ออกัส 3 ขวบแล้วนะ” มือหนาหมุนร่างคนตัวเล็กให้หันหน้ามาหาเขา ก่อนจะเอ่ยน้ำเสียงอ้อนๆ“ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ”“พี่ว่ามีน้องให้ออกัสได้แล้วมั้งคะ ออกัสจะได้มีเพื่อนไง”“แต่ออกัสยังเด็กอยู่เลย ถ้ามีน้องให้ออกัส ชมพูก็ต้องแบ่งเวลาให้น้อง ชมพูกลัวออกัสจะน้อยใจค่ะ”“ไม่หรอก พี่ว่าชมพูคิดมากไปนะ”“แต่.....”“ไม่แต่แล้วครับ ออกัสอยากมีน้องแล้วนะ”ชยกรช้อนอุ้มร่างบางที่สัดส่วนเต็มล้นขึ้นเดินตรงไปที่เตียง วางหญิงสาวลงเบาๆ ก่อนจะกระตุกกระโปรงชุดนอนตัวบางขึ้นเล็กน้อย ปลายนิ้วเกี่ยวแพนตี้ตัวจิ๋วออกอย่างรวดเร็ว“พี่หนึ่ง” เสียงหวานใสเอ่ยเรียกตั้งใจจะปรามสามี แต่ขาเรียวแยกออกจากกัน“ว่ายังไงคะ” ชยกรซุกใบหน้าลงดอมดมดอกไม้งามตรงหน้าอย่างหลงใหลลิ้นหนาร้อนผ่าวไล้เลียเกสรสีสวย
พยาบาลหลายคนที่เห็นภาพตรงหน้าต่างปิดปากด้วยความปลื้ม พวกเขาไม่ได้คิดว่าหญิงสาวคนนี้คือภรรยาของชยกร บุตรชายเพียงคนเดียวของเจ้าของโรงพยาบาลแห่งนี้เมื่อถึงเวลาเข้าห้องคลอด หลังจากที่ทำการบล็อกหลังเรียบร้อย ชยกรก็ถูกตามเข้ามาในห้องคลอด เขามีอาการตื่นเต้นเมื่อเห็นภรรยาสาวกำลังนอนรอคลอดอยู่บนเตียงร่างสูงเดินเข้ามานั่งที่เก้าอี้ตรงเหนือศีรษะภรรยาสาวที่พยาบาลจัดเตรียมเอาไว้ให้ มือข้างที่ไม่ได้ติดที่วัดหัวใจกับที่วัดความดันสอดประสานจับมือใหญ่เอาไว้แน่น จนเมื่อหมอเข้ามาและทำการทดสอบว่ายาออกฤทธิ์เรียบร้อยแล้ว จึงเริ่มทำการผ่าคลอด“เป็นยังไงบ้างคะ”“คลื่นไส้ค่ะ”“อดทนอีกนิดเดียวนะ”“ค่ะ”ชมพูแพรเริ่มหน้าซีดเมื่ออยู่ๆ เธอก็มีอาการเวียนหัวรุนแรงและเริ่มหายใจไม่ออก“พี่หนึ่ง ชมพูหายใจไม่ออก”“แป๊บนะ คุณพยาบาลครับ คุณแม่หายใจไม่ออกครับ”“สักครู่นะคะ” พยาบาลหันไปมองหน้าจอแสดงผลของเครื่องต่างๆ ที่ติดตามตัวหญิงสาว ก่อนจะหยิบหน้ากากออกซิเจนมาและใส่ให้เธอ“คุณแม่ใส่หน้ากากออกซิเจนหน่อยนะคะ”หญิงสาวพยักหน้าและหลับตาลง เธอรับรู้แค่เพียงว่ามือของสามีกำลังบีบมือเธออยู่ ข้างใบหูของเธอมีเสียงกระซิบให้กำลังใจไ
เช้าวันต่อมา ชมพูแพรตื่นมาพร้อมกับอาการปวดเมื่อยตัวจากการรับศึกหนัก ยามที่เธอยังไม่ได้ตั้งครรภ์ก็ไม่ได้อ่อนเพลียขนาดนี้ อีกวันเธอยังสามารถลุกไปทำงานไหว แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอจะอ่อนล้าไปหมด“ตื่นแล้วเหรอคะ”“.....” ดวงตากลมโตมองค้อนสามีด้วยความหมั่นไส้ เพราะเขาเล่นงานจนเธอแทบจะหลับคาอกเขาด้วยซ้ำ“อย่าเพิ่งงอนพี่เลยนะคะ กินข้าวเช้าบำรุงตัวเล็กก่อนค่อยงอนต่อนะ”“มันน่างอนนานๆนะคะ”“เอาน่า มาฮันนีมูนนะคะ จะขาดได้ยังไง”“ก็เกินไปค่ะ”“พี่ไม่ได้มีเวลาพาชมพูไปเที่ยวบ่อยนี่คะ สงสารพี่เถอะนะ”“ไม่ค่ะ”“ใจร้ายจัง เอาล่ะ ลุกมากินข้าวก่อนค่อยงอนต่อนะคะคนสวย”หญิงสาวถอนหายใจกับความมึนของสามี แต่ก็ยอมลงจากเตียงแล้วไปกินข้าวเช้าตามที่เขาบอกแต่โดยดี โดยมีสามีหนุ่มใส่เสื้อผ้าให้เธอหลังจากที่ก้าวเท้ามายืนชยกรพาหญิงสาวลงมากินข้าวที่ชั้นล่าง นั่งดื่มกาแฟเป็นเพื่อนเธอจนกระทั่งกินข้าวเสร็จ จึงเก็บล้างจานแล้วพากันออกไปเดินเล่นสองหนุ่มสาวเดินไปริมชายหาด ที่ที่เขาและเธอคิดว่ามันสวยที่สุด ท้องฟ้าเป็นสีคราม สวยงามอย่างที่หาได้น้อยครั้งจากในเมืองมือใหญ่จับจูงมือเล็กเดินเคียงข้างกัน ชยกรกับชมพูแพรยิ้มให้กันด้
วงแขนเรียวคว้าคอหนาเอาไว้แน่น เมื่อร่างเธอถูกอุ้มขึ้นโดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว ชยกรก้าวเท้าออกจากอ่างอาบน้ำมายืนหน้ากระจกบานใหญ่ตรงบริเวณพื้นที่อาบน้ำใต้ฝักบัวที่ส่องเห็นทั้งตัวภายในห้องน้ำ โดยที่ลำกายยังฝังอยู่ในช่องทางคับแน่นชมพูแพรหวีดเสียงแหลมเมื่อยามที่สามีก้าวเดิน มันเสียววูบจนเธอแหงนหน้ากัดปาก จิกเล็บลงบนท่อนแขนแน่น“ลองดูสิคะ สวยนะ ภาพที่มันกำลังอยู่ข้างใน” ดวงตากลมโตปรือขึ้นมองภาพในกระจกเป็นภาพที่ผู้หญิงคนหนึ่งโดนอุ้มกระเตงจากทางด้านหลัง ขาอ้าออกกว้างมีแขนสอดรับใต้ข้อพับขา โดยมีแท่งเนื้ออวบใหญ่สอดใส่คาอยู่ในร่างกาย กลีบดอกไม้คลี่ออกจากกันตามขนาดของลำเนื้อแข็งขึง ใบหน้าหวานแดงก่ำ ปรือตากัดปาก ราวกับเจนจัดเรื่องบนเตียง“ให้ตายเถอะ ยั่วเก่งจัง” เสียงนุ่มนวลครางกระเส่ากับภาพตรงหน้าเขาถอดถอนตัวเองออก ขยับร่างบางวางลงยืนกับพื้น จับสะโพกกลมให้แอ่นลอยขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะจับท่อนเนื้อลำใหญ่จ่อไปที่ปากทางคับแคบ หญิงสาวครางในลำคอ ก่อนจะร้องวี้ดออกมา เมื่อเขากดกระแทกท่อนเนื้อเข้าไปทีเดียวมิดลำ“อ๊ายยย เบาหน่อยค่ะ มันจุก”ร่างสูงย่อขาลง แอ่นสะโพกสอบในท่างัดขึ้นให้ปลายหัวหยักครูดกับข้างใน
หลายเดือนผ่านไป หลังจากที่เสร็จสิ้นพิธีหมั้นและงานเลี้ยงฉลองแต่งงาน บ้านที่ชมพูแพรกับชยกรปลูกเอาไว้ก็เสร็จพอดี ทั้งสองคนย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านใหม่ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลมากนัก ส่วนชมพูแพรก็ลาออกจากงานตามที่สามีและครอบครัวร้องขอหญิงสาวตามเขาไปโรงพยาบาลเกือบทุกวัน ส่วนใหญ่ก็ไปช่วยจัดการเรื่องเอกสารรวมถึงแปลงานจากหนังสือวิจัยที่อยู่ในงานที่ต้องทำของเขาด้วยชมพูแพรเป็นผู้หญิงรูปร่างบาง หน้าท้องของเธอจึงยังไม่นูนออกถึงแม้ว่าเธอจะตั้งครรภ์ได้ 16 สัปดาห์แล้วก็ตาม ยามที่เธอออกไปข้างนอกจะไม่มีใครมองออกเลยว่าเธอกำลังตั้งครรภ์ หญิงสาวจึงต้องติดเข็มกลัดเอาไว้เพื่อความปลอดภัย“ไปไหนคะ” ชมพูแพรถามเขาหลังจากที่รถยนต์คันหรูเคลื่อนออกมาจากลานจอดรถของโรงพยาบาล แต่ไม่ได้ตรงกลับบ้านเหมือนดังเช่นทุกวัน“ไปฮันนีมูนค่ะ” เขาบอกเธอพร้อมกับยิ้มอบอุ่น“หืม พี่หนึ่งทำงานเกือบทุกวัน จะไปทำไมคะ น่าจะพักเหนื่อย”“ไม่ได้สิคะ พี่ก็อยากพาเมียพี่ไปเที่ยวบ้าง อยู่แต่บ้านกับโรงพยาบาล เดี๋ยวจะพาลเบื่อพี่เสียก่อน”“.....”“ล้อเล่นจ้ะ พี่เห็นชมพูไม่ได้ไปไหนนานแล้ว เลยจะพาไปเที่ยว”“ค่ะ” คนตัวเล็กพยักหน้ารับ ก่อนจะปรับเบ
ฝ่ามือเล็กลูบไล้เรือนกายชายหนุ่มแผ่วเบา จากหน้าอกแกร่ง ไล่ลงมาจนถึงกางเกงนอนขายาวสีขาวที่เกาะอยู่กับสะโพกสอบ นิ้วเรียวเกี่ยวขอบมันดึงเล็กน้อย เขารู้หน้าที่ ขยับยกตัวเล็กน้อย ให้คนตัวเล็กได้ดึงมันออกจากตัวเขาได้สะดวกหญิงสาวขยับตัวลุกขึ้นตั้งเข่า แกะกระดุมชุดนอนไม่กี่เม็ด ก่อนจะนั่งคร่อมทับลงมาที่หน้าตักเขาอีกครั้ง เสียงนุ่มนวลคำรามในลำคอเมื่อสัมผัสได้ว่าสิ่งที่แนบอยู่กับเจ้าแท่งเนื้อลำใหญ่ มันไม่ใช่เนื้อผ้าแต่เป็นผิวกายของหญิงสาว ที่ขยับดอกไม้งามถูไถกับแท่งเนื้อจากด้านนอกแผ่วเบา“ทำไมวันนี้ร้อนจัง”“ก็มีสามีเป็นตัวเป็นตนแล้วนี่คะ”“งั้นถ้าเผลอแรงไปหน่อยก็อย่าว่ากันนะ”มือหนาตะปบลงที่ดอกบัวคู่ใหญ่ บีบเคล้นอย่างไม่ออมแรง เจ้าของมันแอ่นตัวรับสัมผัส มือเล็กจับท่อนเนื้อร้อนผ่าวที่ตอนนี้แข็งขึงเป็นลำใหญ่ จนแม้แต่มือของเธอยังกำได้ไม่รอบ“ใหญ่” เสียงหวานใสร้องออกมาเบาๆ มือเล็กรูดขึ้นลง“แล้วถึงใจไหม” เขาถามเธอเสียงแหบพร่าหญิงสาวไม่ตอบอะไร แต่ขยับตัวถอยหลังเล็กน้อย ก้มลงแล้วส่งมันเข้าปากตัวเอง ดวงตากลมโตเหลือบมองสามี มือเล็กกุมมันเอาไว้ทั้งสองมือ รูดมันขึ้นลงเป็นจังหวะ ก่อนจะขยับให้มันเข้าไปใ
“พี่ไปส่งแล้วพี่เข้าโรงพยาบาลเลยนะคะ แล้วตอนบ่ายเดี๋ยวพี่มารับ ไม่ต้องไปเบียดขึ้นรถให้อันตราย”“พี่หนึ่ง ชมพูท้องค่ะ ไม่ได้ป่วย”“ถ้าใครชนหรือกระแทกแรงๆก็อันตรายค่ะ”“.....”“ชมพูลาออกไปทำงานที่โรงพยาบาลดีไหมคะ หรืออยู่บ้านเฉยๆก็ได้”“ไม่เอา ชมพูเบื่อ อยากทำงานมากกว่า”“งั้นก็มาทำงานที่โรงพยาบาลไหมคะ”“เอาไว้ค่อยคุยเรื่องนี้กันนะคะ”“ก็ได้ค่ะ”หลังจากจดทะเบียนสมรสกันเสร็จ ชยกรก็ขับรถมาส่งชมพูแพรที่ทำงาน วันนี้หญิงสาวลางานได้แค่ครึ่งวันเช้าเพราะช่วงบ่ายมีประชุม จึงต้องรีบกลับมาทำงานต่อ ส่วนชยกรเมื่อส่งหญิงสาวเสร็จแล้วก็กลับเข้าโรงพยาบาลหญิงสาวยืนรอส่งจนรถยนต์คันหรูหายไปจากสายตา ก็พอดีกับที่ใกล้เวลาพักเที่ยง อีกทั้งเธอลาเอาไว้ครึ่งวัน จึงไม่ได้ขึ้นไปบนห้องทำงาน แต่นั่งรอพศินกับปรางค์วลัยที่หน้าอาคารแทน“ชมพู”“น้ายุ้ย สวัสดีค่ะ”“ไปไหนมา ไม่ทำงานเหรอ”“ชมพูลาครึ่งวันเช้าค่ะ น้ายุ้ย ชมพูมีข่าวจะแจ้งค่ะ”“ข่าวอะไรคะ”“ชมพูจะแต่งงานค่ะ ตอนนี้กำลังมีน้อง เพิ่งไปจดทะเบียนสมรสมาค่ะ”“อ้าวเหรอ ดีใจด้วยนะจ๊ะ แล้วนี่จัดงานเมื่อไหร่”“เดือนหน้าค่ะ คุณแม่พี่หนึ่งกับคุณแม่เป็นแม่งานให้ค่ะ”“ยินดีด
“ไปอาบน้ำก่อนเลยค่ะ”เมื่อกลับมาถึงที่คอนโด ชมพูแพรที่ยังมึนงงอยู่เดินหายเข้าไปในห้องนอนตามที่ได้รับคำสั่งอย่างว่าง่าย เธอยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นชยกรมองตามแผ่นหลังบอบบางไปก่อนจะเดินเข้าไปในห้องทำงาน ลิ้นชักโต๊ะทำงานชั้นล่างสุดถูกเปิดออก เผยให้เห็นกล่องที่เห็นชัดว่าเป็นที่ตรวจครรภ์ที่วางอยู่ เขาตั้งใจจะให้หญิงสาวตรวจ จึงซื้อมาเก็บเอาไว้เมื่อหลายวันก่อน แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้บอกเพราะกลัวเธอตกใจเพราะชมพูแพรกินยาคุมกำเนิดอยู่หลังจากที่ชมพูแพรอาบน้ำแต่งตัวเสร็จขึ้นเตียงนอนโดยไม่ได้ออกมาข้างนอกเหมือนเช่นทุกวัน เธอตั้งสติแล้วส่งข้อความหามารดาว่าเธอตอบรับคำขอแต่งงานของคนตัวสูง และเขาคิดว่าเธอกำลังตั้งครรภ์ ก่อนที่จะกดปิดเสียงและดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมกายแล้วล้มตัวลงนอนพอชยกรเดินเข้ามาในห้องนอน หญิงสาวก็หลับไปเรียบร้อยแล้ว ดวงตาคมมองคนตัวเล็กแล้วยิ้มออกมา ก่อนจะหายเข้าห้องน้ำไปจัดการตัวเองแล้วออกมานอนเคียงข้างร่างบอบบางแล้วหลับไปด้วยกัน“กูใช้บัญชีสำรองไปโพสต์ข้อมูลของชมพูตามที่มึงส่งมาละ ลงในหน้าเว็บของโรงพยาบาล ในนั้นเป็นเรื่องราวประวัติของมึงกับของชมพู ไม่ว่าจะการศึกษา ฐานะครอบครัว เรื่อง