‘พี่ไปทำงานก่อนนะชมพู เจอกันตอนเย็นครับ รหัสห้องพี่เปลี่ยนไปใช้รหัสเดียวกับชมพูแล้ว เผื่ออยากเข้าไปสำรวจอะไรก็เข้าไปได้เลยนะ อย่าซนล่ะ’
“เดี๋ยวนะ ทำไมทุกอย่างกลายเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะเนี่ย”
เสียงหวานใสพึมพำเบาๆ หลังจากที่เธอเห็นกระดาษที่ชยกรเขียนข้อความแปะเอาไว้ที่ประตูห้องนอน เมื่อเธอตื่นแล้วจะเปิดประตูออกไปก็จะเจอข้อความของเขาก่อนเป็นอย่างแรก
หญิงสาวออกจากห้องนอนมาก็เจออาหารเช้าที่เขาซื้อเอาไว้ให้วางอยู่บนโต๊ะ พร้อมด้วยกุญแจสำรองของห้องเขากับกุญแจรถวางอยู่คู่กัน ชมพูแพรมองแล้วอมยิ้ม ทำเหมือนเธอจะหนีเที่ยงอย่างนั้นแหละ เตรียมทุกอย่างเอาไว้ให้พร้อมเลย
ถ้วยจานที่เก็บอยู่ในชั้นวางถูกหยิบออกมาที่โต๊ะ มือเล็กแกะอาหารที่เขาซื้อเอาไว้ให้เทใส่จานแล้วนั่งลงจัดการเงียบๆ ก่อนจะกดรับสายเมื่อมีสายเรียกเข้าดังมาจากโทรศัพท์
“ไง”
‘ตื่นเช้าจังวะ แล้วนี่กินอะไรเนี่ย’
“มื้อเช้า คุณหมอเขาเตรียมเอาไว้ให้”
‘ต๊าย ดูแลดีดั่งเมียแต่ง’
“พูดมากน่า ว่าแต่มีอะไร”
‘โทรมาเช็กดูเฉยๆ ว่ายังอยู่ดีไหม หรือตายคาเตียงไปแล้ว’
“ยัยบ้า ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้นย่ะ แถมเมื่อคืนต้องบึ่งไปโรงพยาบาลเพราะมีเคสผ่าตัดด่วนอีกต่างหาก ตื่นเช้ามาก็ไม่อยู่แล้ว ออกไปโรงพยาบาลแต่ก็ยังไม่วายเตรียมมื้อเช้าเอาไว้ให้” ชมพูแพรเล่าให้เพื่อนฟังพร้อมกับรอยยิ้มน้อยๆ
‘แต่งเลยค่ะ’
“เว่อร์น่า ฉันกินข้าวก่อน วันนี้พวกแกไปไหนไหมเนี่ย”
‘ไม่ไปอะ ขี้เกียจ ฉันโทรหาไอ้ตูนมันก็ว่าไม่ไป จะนอน’
“อือ ฉันก็ว่าเดี๋ยวกินเสร็จจะนั่งรออาหารย่อยสักพักก็จะนอนต่อ”
‘นี่ แม่คุณ มีผัวเป็นหมอ แถมเป็นเจ้าของผับ แม่คุณก็อย่าขี้เกียจสิยะ’
“ไม่ใช่ผัวย่ะ”
‘กล้าพูดเนอะ คุณหมอเขาตามเฝ้าแกขนาดนี้ คิดว่าจะหนีรอดเรอะ’
“บ้า คิดเยอะ แค่บังเอิญอยู่ห้องตรงข้ามกันเฉยๆ เหอะ”
‘เหรอ หลอกใครก็หลอกได้ แต่หลอกตัวเองไม่ได้นะหล่อน ฉันไม่กวนละ จะนอนต่อ บาย’ พศินพูดจบก็วางสายไป
ชมพูแพรคิดตามที่เพื่อนพูดก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ ลุกขึ้นเก็บล้างถ้วยจานแล้วกลับมานั่งเล่นที่โซฟา
“สวัสดีค่ะ”
‘ตื่นหรือยัง พี่โทรมาปลุกหรือเปล่า’
“เปล่าค่ะ ตื่นแล้วค่ะ”
‘โอเค งั้นพี่รบกวนหน่อย ชมพูเอาแฟ้มเอกสารในห้องมาให้พี่ที่โรงพยาบาลหน่อย น่าจะวางอยู่บนโต๊ะทำงาน’
“ต้องใช้กี่โมงคะ ชมพูยังไม่ได้อาบน้ำเลย”
‘ใช้ตอนเข้าประชุมบ่ายโมงจ้ะ’
“โอเคค่ะ งั้นเดี๋ยวชมพูอาบน้ำก่อน”
‘เอารถคันไหนมาก็ได้ ใช้ได้หมด คันที่วางกุญแจไว้ให้หรือเอากุญแจคันอื่นในห้องก็ได้ กุญแจแขวนเรียงไว้อยู่ข้างประตูห้องทำงาน’
“ค่าๆ”
ชมพูแพรวางสายหลังจากที่ชยกรสั่งงานเสร็จ หญิงสาวได้แต่ทำหน้าไม่เข้าใจ ที่จริงแล้วเขาไม่ควรไว้ใจเธอขนาดนี้ทั้งที่เพิ่งรู้จักกันไม่นาน ถ้าหากเธอเป็นคนไม่ดีเขาจะทำยังไง แต่ก็คงอย่างที่เขาว่ากัน ว่า sex มันทำให้คนที่ไม่รู้จักกันมารู้จักกันได้ แล้วก็ทำให้คนที่รู้จักกัน สนิทกัน กลายเป็นคนไม่รู้จักได้เหมือนกัน
หญิงสาววางโทรศัพท์ไว้บนโซฟาแล้วลุกขึ้นยืน บิดกายคลายความเมื่อยก่อนจะเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ ใช้เวลาไม่นานก็กลับออกมาแต่งตัว วันนี้เธอเลือกใส่ชุดเดรสแขนกุดกระโปรงยาวคลุมเข่าสีชมพู กับรองเท้ารัดส้นสีขาวและเลือกใช้กระเป๋าสะพายข้างใบเล็กสีขาว
เมื่อแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วก็คว้ากุญแจรถที่เขาวางเอาไว้ให้ออกจากห้องไปยังห้องฝั่งตรงข้าม กดรหัสที่เพิ่งเปลี่ยนมาใช้รหัสเดียวกับห้องของเธอ แล้วเปิดเข้าไปช้าๆ
ห้องสีขาวที่เฟอร์นิเจอร์และข้าวของถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ โต๊ะทำงานที่ตั้งอยู่กินพื้นที่เกือบทั้งห้อง คอนโดแห่งนี้มีห้องนอน 2 ห้อง ห้องนอนใหญ่จะมีห้องน้ำอยู่ภายใน ส่วนห้องนอนเล็กจะอยู่ด้านหนึ่งติดกับห้องนอนใหญ่คล้ายทรงตัวแอล โซนรับแขกจะอยู่ตรงข้ามกับห้องนอนเล็ก และโซนครัวจะอยู่ด้านริมประตู ซึ่งชมพูแพรใช้ห้องนอนเล็กปิดห้องนอนใหญ่เอาไว้เฉยๆ แต่ของชยกรเขาใช้ห้องนอนใหญ่ แล้วเอาห้องนอนเล็กทำเป็นห้องทำงาน
“แฟ้มบนโต๊ะทำงาน” เสียงหวานใสพึมพำระหว่างเปิดประตูเข้าไปในห้องเล็กเป็นที่แรก แล้วเธอก็เดาไม่ผิด
มือเล็กหยิบแฟ้มเอกสารเล่มใหญ่ขึ้นมาถือ สายตากวาดมองไปรอบห้องที่มีแต่ชั้นหนังสือเรียงกันตั้งอยู่ โชคดีที่มันเป็นชั้นสีขาวจึงไม่ได้ดูน่าอึดอัดเท่าไหร่ คนตัวเล็กออกมาจากห้องแล้วปิดประตูห้องทำงานเอาไว้ตามเดิม ก่อนจะเดินออกจากห้องไป
“ชมพูมาถึงแล้วค่ะ”
‘ขึ้นมาบนชั้น 10 เลย บอกพนักงานด้านหน้าว่ามาหาพี่’
“ค่ะ”
ชมพูแพรขับรถคันหรูมาถึงโรงพยาบาลก็เข้าจอดรถในที่จอดของบุคลากรเพราะเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจำรถของชยกรได้ เธอลงจากรถแล้วเดินเข้าไปในอาคาร หยิบโทรศัพท์มากดโทรหาชายหนุ่มที่สั่งให้เธอมาที่นี่ ก่อนที่จะได้คำตอบแล้วกดวางสาย
หญิงสาวขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้น 10 ตามที่เขาบอก เมื่อมาถึงก็พบว่าชั้นนี้เป็นชั้นของผู้บริหาร เดินผ่านประตูกระจกบานแรกเข้าไปจะมีโต๊ะพนักงานอยู่ 4 ตัว พวกหล่อนรับงานด่านหน้าเพื่อแยกงานเอกสารไปยังแผนกต่างๆ ของโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่แผนกต่างๆ ที่มาส่งเอกสาร จะต้องมาที่ห้องนี้เพื่อเอาเอกสารมาให้พวกหล่อนจัดแยก
“สวัสดีค่ะ มาพบคุณหมอหนึ่งค่ะ”
“ได้นัดไว้ไหมคะ”
“นัดค่ะ ชื่อชมพูแพรค่ะ”
“อ๋อ คุณหมอแจ้งแล้วค่ะ เชิญด้านในเลยค่ะ”
หญิงสาวที่ดูอาวุโสสุดที่นั่งอยู่ด้านในลุกออกมาสอบถามหญิงสาว เมื่อพบว่าเธอคือคนที่เจ้านายรออยู่ก็ผายมือแล้วเดินนำหญิงสาวเข้าไปด้านใน
พนักงานสาวผายมือไปทางด้านขวาของชมพูแพรซึ่งเป็นประตูกระจกอีกบาน หญิงสาวรอให้หล่อนเดินนำไปก่อนถึงเดินตามหลัง เมื่อเดินพ้นประตูเข้ามาก็จะพบว่าด้านในเป็นห้องทำงานทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีพนักงานนั่งทำงานกันอยู่หลายคน พวกเขามองหญิงสาวแปลกหน้าด้วยสีหน้าประหลาดใจ
หญิงสาวเดินตามหลังพนักงานตรงไปตามทางเดินเรื่อยๆ จนสุดทางเดิน ถึงได้เห็นว่ามีห้องอีกห้องหนึ่ง ประตูห้องมีชื่อและตำแหน่งของชยกรติดอยู่
“ขออนุญาตค่ะ คุณชมพูแพรมาแล้วค่ะ”
“เชิญครับ”
พนักงานสาวเปิดประตูออกกว้างแล้วผายมือให้ชมพูแพรเดินเข้าไปด้านในก่อนจะปิดประตูลงแล้วเดินกลับออกไป
“เอาแฟ้มมาแล้วค่ะ” เสียงหวานใสเอ่ยเป็นประโยคแรกหลังจากเห็นหน้าเขา พร้อมกับก้าวยาวๆ ไปที่หน้าโต๊ะทำงานตัวใหญ่ แล้วนั่งลงบนเก้าอี้
“ขอบใจจ้ะ กินอะไรมาหรือยัง”
“กินเช้ามาแล้วค่ะ ขอบคุณสำหรับมื้อเช้านะคะ”
“จะเที่ยงอยู่แล้ว ลงไปหาอะไรกินหน่อยไหม”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
“พี่มีประชุมบ่าย รอกลับพร้อมกันสิ วันนี้ไม่ได้ไปไหนไม่ใช่เหรอ”
“ก็.....ค่ะ ไม่ได้ไปไหนค่ะ”
“รอแป๊บนะ พี่เคลียร์งานอีกหน่อย เดี๋ยวลงไปกินข้าวกัน กินที่โรงอาหารของพยาบาลได้ไหม”
“กินที่ไหนก็ได้ค่ะ.....ถ้ามีขนม” หญิงสาวพูดเล่นตามนิสัยของเธอ
“มีสิ ถ้าไม่มีก็จะสั่งเปิดร้านขนมให้” เขาพูดน้ำเสียงจริงจัง
“เกินไปค่ะ พี่หนึ่งทำงานเถอะ ชมพูไปนั่งเล่นที่โซฟาดีกว่า”
ชมพูแพรลุกจากเก้าอี้ เธอเดินสำรวจรอบห้องด้วยความอยากรู้ ซึ่งก็ไม่มีอะไรมากนอกจากชั้นหนังสือ ห้องน้ำส่วนตัวของเจ้าของห้อง และห้องนอนสำหรับพักผ่อนเวลาอยู่เวร
หญิงสาวหยิบหนังสือวิจัยบนชั้นหนังสือเล่มหนึ่งติดมือมานั่งที่โซฟา มันเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด เธอเปิดอ่านเรื่อยๆ ด้วยความสนใจ
“อ่านรู้เรื่องด้วยเหรอ” ชยกรเอ่ยถามหญิงสาวเสียงนุ่มนวล
“พอรู้เรื่องค่ะ สำนวนสวยมากนะคะ แต่เนื้อเรื่องในการวิจัยขอผ่านเลยค่ะ ชมพูไม่ค่อยรู้เรื่องการแพทย์เท่าไหร่” ชมพูแพรตอบเขาทั้งที่ยังไม่เงยหน้าขึ้น
“มันเป็นภาษาอังกฤษทั้งเล่มเลยนะ”
“ชมพูจบเอกอังกฤษค่ะ”
“หืม เก่งนะเนี่ย”
“พี่หนึ่ง ชมพูทำงานที่ศูนย์วิจัยของมหาวิทยาลัยนะ” หญิงสาวเงยหน้าบอกเขา
“อ้าวเหรอ สนใจมาทำงานที่นี่ไหม”
“อย่าเลยค่ะ ทำที่เดิมสนุกดี แถมรอผ่านโปรก็บรรจุเป็นข้าราชการด้วยนะคะ”
“ก็ดีนะ เมียทำงานราชการ ผัวเป็นทั้งหมอ ทั้งเปิดผับ”
“พี่หนึ่ง.....” ชมพูแพรเรียกชื่อเขาอย่างอ่อนใจ
“หรือพี่พูดผิด” เขาทำไม่รู้ไม่ชี้
“ไม่พูดด้วยแล้วค่ะ”
หญิงสาวเปิดอ่านงานวิจัยในมือต่อไปโดยไม่สนใจเขาอีก ชยกรอมยิ้มแล้วก้มหน้าทำงานต่อ ไม่นานก็กดพักหน้าจอแล้วลุกออกจากเก้าอี้ เดินมาหยิบกระเป๋าสะพายที่หญิงสาววางเอาไว้บนโต๊ะแล้วพาเธอออกจากห้องไป
“กินอะไร”
“อยากกินก๋วยเตี๋ยว”
“ร้านนี้อร่อย”
เมื่อลงมาที่ห้องอาหารของโรงพยาบาล ชยกรพาหญิงสาวเดินดูร้านต่างๆ ก่อนที่จะมาหยุดอยู่ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือเมื่อหญิงสาวบอกว่าอยากกิน
ชมพูแพรพยักหน้าแล้วเดินเข้าไปสั่งก่อนจะมองหน้าเขา เมื่อพนักงานเห็นว่าเธอมากับชยกรก็มองเธอด้วยความแปลกใจ
“พี่หนึ่งกินอะไร”
“เกาเหลาก็ได้”
พนักงานลงมือทำเกาเหลาหลังจากที่วางชามก๋วยเตี๋ยวให้หญิงสาวบนถาด จนเมื่อได้อาหารครบแล้วชายหนุ่มก็วางกระเป๋าเงินลงบนมือเล็ก แล้วยกถาดอาหารออกไป
ชมพูแพรมองกระเป๋าเงินในมือ เธอจะหยิบเงินของตัวเองออกมาจ่ายก็ไม่ได้เพราะกระเป๋าของเธออยู่ที่เขา จึงต้องเปิดกระเป๋าเงินสีดำออก หยิบธนบัตรออกมาส่งให้พนักงานแล้วเดินออกมา
ดวงตากลมกวาดมองหาร่างสูง เมื่อเห็นเขานั่งลงที่โต๊ะริมกระจกก็เดินไปหย่อนตัวนั่งลงตรงข้ามเขา
“ดื่มน้ำอะไร เดี๋ยวพี่ไปซื้อให้”
“น้ำอัดลมค่ะ”
ชายหนุ่มพยักหน้ารับก่อนจะเปิดกระเป๋าเงินหยิบธนบัตรออกมา แล้ววางมันไว้บนโต๊ะเหมือนเดิมก่อนจะเดินออกไป
ไม่นานร่างสูงก็เดินกลับมาพร้อมกับแก้วน้ำอัดลมและน้ำเปล่าของตัวเอง เขาหย่อนตัวนั่งลงแล้วลงมือจัดการมื้อเที่ยงท่ามกลางสายตาอยากรู้ของพนักงาน รวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์ที่พบเห็น
“ไง ไอ้หมอหนึ่ง” เมฆาเข้ามาทักทายชยกรเหมือนดังเช่นทุกวัน
“.....ไง ไอ้หมอเมฆ”
“อ้าว สวัสดีครับ” เมฆาที่เพิ่งหย่อนตัวนั่งลงข้างชยกรเอ่ยทักทายหญิงสาวตรงหน้า
“สวัสดีค่ะ” ชมพูแพรยิ้มให้เขาอย่างขบขันเมื่อเห็นสีหน้าตกใจของเขา
“ผมชื่อเมฆครับ เป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของไอ้หมอหนึ่ง”
“ชมพูค่ะ”
“นี่เมียกู จบนะ” ชยกรรีบเอ่ยขัดเมื่อเห็นเมฆาจะถามอย่างอื่นกับชมพูแพร ทั้งหญิงสาวและเมฆาสะดุ้งโหยง มองหน้ากันแล้วยิ้มแหย
“กูไปซื้อข้าวก่อนดีกว่า เดี๋ยวมา” เมฆาพูดจบก็รีบลุกออกไปซื้อข้าวกับน้ำเปล่า แล้วรีบกลับมานั่งกับทั้งสองคน
“คุณหมอเมฆสนิทกับพี่หนึ่งเหรอคะ” ชมพูแพรเอ่ยถามด้วยความอยากรู้
“ครับผม เรียนด้วยกันมาตั้งแต่ไฮสคูลเลย” เขาบอกเธอหลังจากเคี้ยวข้าวหมดปาก
“เมื่อก่อนพี่หนึ่งก็เงียบๆ แบบนี้เหรอคะ”
“เงียบกว่านี้ครับ นี่พูดมากขึ้นเยอะแล้ว”
“แล้วดุแบบนี้ไหมคะ”
“อันนี้ไม่สามารถตอบได้เลย เพราะมันนิ่งอย่างเดียว ไม่แสดงออกอะไรเลย” เมฆาตอบพลางชำเลืองมองเพื่อนด้วยแววตาหยอกล้อ
“กินเสร็จยัง ไม่เสร็จเดี๋ยวกูจะได้ช่วยป้อน” ชยกรขัดจังหวะด้วยความหมั่นไส้
“ไม่ต้องๆ กูกินเองได้” เมฆารีบส่ายหน้าก่อนจะตักข้าวเข้าปาก
“ชมพูกินขนมไหม มีร้านขนมหวานอยู่นะ”
“เดี๋ยวชมพูเดินไปดูเองค่ะ”
หญิงสาวรีบบอกเมื่อเห็นร่างสูงทำท่าจะลุกขึ้น หญิงสาวทำท่าทางขอกระเป๋าคืน แต่เขาก็ไม่ยอมส่งให้ จึงหยิบกระเป๋าเงินสีดำที่วางอยู่บนโต๊ะแล้วเดินออกไป
“หยิบจับกระเป๋าเงินกันได้ด้วย” เมฆาแซวเพื่อนด้วยน้ำเสียงล้อเลียน
“เอ้า กูให้เมียกูจับ ไม่แปลก”
“ถ้าจำไม่ผิด สาวน้อยวันนั้นนี่”
“เออ”
“จริงจัง?”
“รอวันแต่ง”
“เข้ สงสัยกูต้องรีบหาเมียบ้างละ”
ชยกรส่ายหน้าเบาๆ กับความกวนประสาทของเมฆา ก่อนที่เขาจะต้องเปลี่ยนเรื่องคุยเมื่อชมพูแพรเดินกลับมาที่โต๊ะพร้อมกับขนมหวาน
ทั้งสามคนนั่งคุยกันไปเรื่อยๆ จนกระทั่งกินเสร็จจึงแยกย้ายกันกลับห้องทำงาน ชยกรให้ชมพูแพรนั่งเล่นรอที่ห้องระหว่างที่เขาไปประชุม ก่อนที่จะออกจากห้องไป
ชมพูแพรนั่งเล่นโทรศัพท์ไปเรื่อยๆ จนเริ่มง่วง เพราะเมื่อคืนเธอตื่นมาโรงพยาบาลเป็นเพื่อนเขา หญิงสาวมองประตูห้องนอนอย่างชั่งใจ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ที่เธอเพิ่งวางลงบนโต๊ะ แล้วลุกออกจากโซฟา เดินหายเข้าไปในห้องหลังจากประชุมเรื่องงบประมาณของแต่ละแผนกอยู่หลายชั่วโมง ชยกรก็กลับมาที่ห้องทำงานด้วยสีหน้าเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด ดวงตาคมมองหาร่างเล็กก่อนจะไปสะดุดตากับกระเป๋าที่วางอยู่บนโต๊ะ จึงเดินไปเปิดประตูห้องนอนแล้วก็พบว่าหญิงสาวกำลังหลับสนิทอยู่บนเตียงเขาปิดประตูห้องนอนเอาไว้ตามเดิมแล้วกลับมานั่งที่โต๊ะทำงาน แล้วเริ่มเคลียร์งานบนโต๊ะต่อ โดยมีผู้ช่วยส่วนตัวนำแฟ้มเอกสารมาวางไว้ให้บนโต๊ะ“กลับบ้านกัน จะแวะไปหาอะไรกินก่อนไหม” ชยกรถามหลังปิดคอมพิวเตอร์แล้วลุกออกจากโต๊ะ“แล้วแต่เลยค่ะ” หญิงสาววางหนังสือในมือลงแล้วขยับตัวลุกขึ้นตามเขา“จะเอาไปอ่านที่บ้านไหม”“ไม่เป็นไรค่ะ”“งั้นก็หาอะไรคั่นไว้ ถ้ามาวันไหนก็ค่อยมาอ่าน”“ค่ะ พรุ่งนี้หยุดไหมคะ”“อื้อ หยุด จะไปไหนล่ะ”“ไปผับกันค่ะ ชวนยัยพินนี่กับการ์ตูนไปด้วย”“สองสาวนั่นน่ะเหรอ”“ค่ะ”“ตามใจ งั้นกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านก่อนแล้วกัน”ชมพูแพรยิ้มหวานอ
“อ้าว 2 สาวล่ะครับ” ชยกรกลับมาจากสูบบุหรี่ไม่เห็นชมพูแพรก็มีสีหน้าไม่พอใจ“นู่นค่ะ” ปรางค์วลัยชี้ไปที่เพื่อนสาวทั้งสองคนที่เต้นกันอย่างสนุกสนาน“ไอ้หมอ” เมฆาที่เพิ่งมาถึงเดินเข้ามาตบบ่าชยกรเป็นการบอกว่าเขามา“อะไรไอ้หมอ” เขาย้อนเพื่อนพร้อมกับมองไปที่หญิงสาวตัวเล็กตาวาว“จะมาไม่บอกเพื่อนนะมึง” เมฆาที่มัวแต่คุยไม่ทันได้หันไปมองรอบข้าง“คำสั่งเมีย” ชยกรบอกเสียงเรียบ“กูล่ะหมั่นไส้คนหลงเมีย” เมฆาแขวะเพื่อนด้วยความหมั่นไส้ ก่อนจะมองไปที่โซฟาก็เห็นว่าปรางค์วลัยนั่งอยู่ ก็หน้าเหวอไป“ไง” ปรางค์วลัยทักเมฆาสีหน้าเรียบเฉย“เฮ้ย ยัยปลาการ์ตูน มาได้ยังไง” เมฆาที่เห็นปรางค์วลัยก็โวยวาย“ฉันมากับเพื่อนฉันเหอะน่า”“เดี๋ยวนะ สองคนนี้รู้จักกันเหรอ” ชยกรถามเมื่อได้ยินทั้งสองคนคุยกัน“พี่ชายข้างบ้านค่ะ แต่ไม่ได้นับถือเป็นพี่ เพราะมันมั่วผู้หญิง” ปรางค์วลัยบอกชยกรแล้วยิ้มให้“ยัยปากจัด” เมฆาแขวะปรางค์วลัย แต่หญิงสาวก็ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้“อย่าฆ่ากันตายล่ะ เดี๋ยวมา” ชยกรหมุนตัวเดินออกไป ปล่อยให้เมฆากับปรางค์วลัยเถียงกันอยู่แบบนั้นทางด้านชมพูแพรกับพศินที่ออกมาเต้นกันอย่างสนุกสนานก็ไม่ได้สนใจว่าใครจะเข้ามาใก
“อ๊ะ.....” เสียงหวานใสอุทานตกใจ มือเล็กจับบ่ากว้างเอาไว้อย่างลืมตัว“บางทีเรื่องพวกนี้ใช้สัญชาตญาณก็ได้นะ อย่าไปเกร็งหรือกลัวมันเลย” เขาพึมพำเสียงแหบพร่า ริมฝีปากยังแนบชิดลำคอขาวหญิงสาวปล่อยให้เขาทำรอยที่คอเธอจนพอใจ เมื่อมือหนาคลายออกแล้วเคลื่อนมาที่กระดุมชุดนอนก็สะดุ้งเล็กน้อย แต่ก็ปล่อยให้เขาแกะมันออกจนหมด“กลัวไหม”“ไม่รู้สิคะ บอกไม่ถูก”เจ้าของตักแกร่งถือโอกาสสูดดมกลิ่นหอมหวานจากร่างบางบนตัก อ้าปากกัดหัวไหล่มนแรงๆ อย่างมันเขี้ยว“อ๊ะ!!!”“หืม เสียงได้อารมณ์ดีจัง”“กัดทำไมคะ”“มันเขี้ยว อยากจับฟัดแรงๆ”“หมายความว่ายังไง อ๊ะ.....”ไม่ทันสิ้นเสียง หญิงสาวก็ถูกริมฝีปากหยักแนบลงมา ลิ้นหนากระหวัดเกี่ยวเรียวลิ้นบางเล่น ตักตวงความหวานแกมหยอกล้อ ฝ่ามือหนาลูบไล้ต้นขาขาวเนียนแผ่วเบา หญิงสาวสะดุ้ง เมื่อรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ดิ้นขยุกขยิกอยู่ตรงใต้หว่างขาของเธอ อะไรบางอย่างที่เริ่มใหญ่โตขึ้นมาเป็นลำ“…..พี่หนึ่ง” เขาละริมฝีปากออกให้หญิงสาวได้หายใจ เธอสูดลมหายใจเข้าปอด มือดันหน้าอกเขาไว้“ครับ” ชายหนุ่มฝังจมูกลงบนลำคอระหง กัดงับผิวเนื้ออ่อนเล่นอย่างพอใจต้นขาแข็งแรงขยับแยกออกกว้างให้มีพื้นที่
“ตื่นได้แล้วคนสวย อาหารเช้าพร้อมแล้ว”ชยกรตื่นมาจัดเตรียมอาหารแต่เช้า ก่อนที่จะกลับเข้ามาปลุกหญิงสาวที่ยังนอนสลับสนิทอยู่ด้วยแววตาเอ็นดู“วันนี้วันอาทิตย์ เพราะฉะนั้น.....ฝันดีค่ะ”“หยุดเลย ตื่นมากินข้าวก่อน แล้วค่อยนอนต่อ”หญิงสาวขยับกายลุกขึ้นมานั่ง แต่ดวงตายังปิดอยู่ จนร่างสูงต้องดึงให้เธอลุกขึ้น แล้วเอาผ้าเช็ดตัวมาห่อร่างกายเปลือยเปล่าเอาไว้ แล้วพาเธอเดินเข้าไปในห้องน้ำ“อาบน้ำเลย พี่เตรียมแปรงสีฟันให้แล้ว เสื้อผ้าแขวนอยู่หน้าตู้”“ค่าๆ”ชมพูแพรไม่ทันได้ฟังว่าเขาพูดอะไรแต่ก็ขานรับแต่โดยดี จนเมื่อเขาออกไปสักพักเธอถึงตั้งสติได้ จัดการล้างหน้าแปรงฟันแล้วอาบน้ำด้วยความรวดเร็ว“อะไรคะ”“โจ๊ก เจ้านี้อร่อย พี่ลงไปซื้อมาตั้งแต่ 6 โมง”“ตื่นเช้าไปไหมคะ วันนี้วันอาทิตย์นะคะ”“เคยชินน่ะสิ”หลังจากชมพูแพรหย่อนกายนั่งลงและหยิบช้อนขึ้น ชยกรก็เริ่มลงมือจัดการมื้อเช้า ทั้งคู่นั่งคุยกันไปเรื่อยๆ จนกระทั่งกินเสร็จ หญิงสาวจึงเก็บถ้วยชามไปล้างแล้วกลับมานอนเล่นที่โซฟา“อยากไปไหนไหม”“ไม่ค่ะ ขี้เกียจ พรุ่งนี้ก็ต้องไปทำงานแล้ว”“ให้พี่ไปส่งไหม”“ชมพูไปเองดีกว่า ชมพูเข้างาน 9 โมง ออกจากบ้าน 8 โมงก็ทัน”“
เช้าวันต่อมา ชมพูแพรมาทำงานแต่เช้าตามปกติ หญิงสาวมีหน้าที่จัดเคลียร์เอกสารที่ได้รับเข้ามายังฝ่ายศูนย์วิจัยและแยกเป็นสัดส่วน เพื่อส่งต่อไปยังส่วนต่อไป ก่อนที่จะถูกนำส่งไปยังบุคคลตำแหน่งต่างๆ อีกหน้าที่คือนำเอกสารจากแผนกวิจัยส่งไปยังแผนกต่างๆ อาทิเช่น ตึกแพทยศาสตร์ ตึกการปกครอง ตึกอธิการบดี และอีกมากมายหญิงสาวใช้เวลาปรับตัวอยู่พักใหญ่ กับการที่เธอต้องนั่งโต๊ะในช่วงเช้าและจำแนกเอกสารออกไปส่งในบริเวณมหาวิทยาลัย แต่ไม่นานก็เคยชินและสนุกกับมัน เพราะอย่างน้อย เธอก็ไม่ต้องนั่งเบื่ออยู่แต่ที่โต๊ะทำงาน“อ้าว น้ายุ้ย สวัสดีค่ะ” ชมพูแพรที่มาส่งเอกสารที่ตึกแพทยศาสตร์ได้เจอเพื่อนสนิทของมารดาก็ยกมือไหว้ทักทายด้วยความดีใจ“อ้าว ชมพู มาทำอะไรล่ะ”“ส่งเอกสารให้รองอธิการค่ะ”“งานเป็นยังไงบ้าง ปรับตัวได้หรือยัง”“ปรับตัวได้แล้วค่ะ”“ดีแล้ว ตอนที่น้าเห็นประกาศรับสมัครน้ารีบบอกแม่เราเลย จะได้ให้มาสมัครและมีเวลาอ่านหนังสือสอบเยอะหน่อย”“โชคดีที่สอบติดนะคะ แต่ได้แนวข้อสอบจากน้ายุ้ย เลยช่วยได้เยอะเลย ขอบคุณมากเลยค่ะ”“หลานน้าทั้งคน น้าก็อยากให้ทำงานดีๆ สิ เอาล่ะ น้าไปทำงานก่อนนะ”“ค่ะ สวัสดีค่ะ”“จ้ะ”หลังจา
“น่ากลัวเหมือนกันนะคะเนี่ย”“ใช่ หนักขึ้นทุกวันด้วย แต่หล่อนเป็นหมอฝีมือดี เลยไม่ได้มีใครคิดจะตักเตือนเป็นเรื่องเป็นราวน่ะ”หลังจากออกมาจากโรงพยาบาลได้สักพัก พศินกับปรางค์วลัยก็เล่าเรื่องที่ได้ยินให้กับชยกรและชมพูแพรฟัง หญิงสาวมีอาการตกใจอย่างเห็นได้ชัด เพราะแคทริยาดูไม่น่าจะเป็นแบบนั้นได้“ตอนที่พวกฉันได้ยินยังตกใจเลย ที่หล่อนมีความคิดแบบนั้น” พศินเองก็ยังส่ายหน้าอย่างรู้สึกไม่ดี“ช่างเขาเถอะ ถ้าเขาไม่มาทำให้เดือดร้อนหรือเข้ามายุ่งวุ่นวายมากไปก็ยังพอให้อภัยได้ แต่ถ้ามากกว่านี้ก็เกรงจะเป็นอันตรายนะ” ปรางค์วลัยพูดแบบเป็นกลาง“กลัวจะหนักขึ้นน่ะสิ เพราะถึงขนาดรู้ว่ามีชมพูแล้วยังคิดแบบนี้ได้น่ะ” ชยกรเองก็เริ่มไม่สบายใจ“ก็รอดูกันไปก่อนก็ได้ค่ะ อย่าเพิ่งคิดมากเลย” ชมพูแพรปลอบใจทุกคน แต่ตัวเธอเองก็ไม่ได้สบายใจเท่าไหร่นัก แต่ถึงอย่างไรหล่อนก็เป็นหมอ มีหน้าที่การงานที่ดี คงไม่เสี่ยงทำอะไรสิ้นคิด“ดื่มกันไปก่อนนะสาวๆ พี่ขอขึ้นไปทำงานก่อน” ชยกรพาทั้งสามคนมาส่งที่โต๊ะวีไอพี ก่อนจะขอตัวขึ้นไปห้องทำงานชมพูแพรทำท่าทางโอเคใส่เขาแล้วยิ้มหวานให้ ชยกรจึงเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นสองของร้าน พร้อมกับเรียกผู
“นั่งเล่นหน้าบาร์ก่อนนะ พี่ไปเซ็นเอกสารไม่นาน”“ตามสบายเลยค่ะ ชมพูนั่งดื่มไปเรื่อยๆ ได้ค่ะ”“จ้ะ แม่คุณ อย่าเมาจนเผลอไปกับใครนะ”“ไม่มีใครร้ายเท่าพี่หนึ่งหรอกค่ะ”ชายหนุ่มยิ้มแล้วจุมพิตแก้มนวลแผ่วเบา ก่อนจะแยกตัวเดินขึ้นบันไดไป ชมพูแพรหันมาคุยกับบาร์เทนเดอร์หนุ่ม ลูกน้องของชยกร เขาคอยเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้านายหนุ่มโดยไม่มีใครรู้ จึงชวนหญิงสาวคุยและคอยดูแลไม่ให้ใครเข้ามายุ่งกับเธอผ่านไปหลายชั่วโมงชมพูแพรก็เริ่มเมา เธอดื่มไปเรื่อยๆ จนลืมไปแล้วว่าเธอดื่มไปมากเท่าไหร่ หญิงสาวจึงขอตัวออกไปข้างนอกสักพักเพื่อให้สร่างเมาชมพูแพรยืนสูดอากาศข้างนอกอยู่สักพักก็เดินกลับเข้ามาด้านใน ตรงไปยังโต๊ะวีไอพีตัวในสุดเพื่อนั่งพักอยู่คนเดียว“ทำไมมานั่งในมุมเลยล่ะ ถ้าบอยไม่บอกพี่ไม่รู้เลยนะว่ามาทางนี้”“ก็เพราะเป็นมุมที่ไม่มีใครเห็นไงคะ เลยมา ทั้งมืด ทั้งเป็นมุมอับ เหมาะกับการนั่งพักมากเลยค่ะ” ชมพูแพรพูดเสียงอ้อแอ้ เมื่อชยกรหย่อนตัวนั่งลงข้างๆ“เมาแล้วเหรอ”“ค่ะ ดื่มไปเยอะเลย”หญิงสาวนั่งเอนกายพิงโซฟาอยู่อย่างนั้น ชยกรกวาดสายตามองไปรอบๆ ก็ปรากฏความคิดบางอย่างขึ้นมา“อยากเปลี่ยนบรรยากาศหน่อยไหม”“คะ?” ยังไม่
ชยกรกับเมฆาพากันมาที่ห้องอาหารของโรงพยาบาล ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปซื้อข้าวแล้วกลับมาเจอกันที่โต๊ะ“แคทนั่งด้วยได้ไหมคะ”ระหว่างที่กำลังลงมือกันอยู่ เสียงหวานของผู้หญิงก็ดังขึ้น ทั้งสองหนุ่มเงยหน้ามองพร้อมกัน ก็เห็นแคทริยายืนอยู่พร้อมกับจานข้าวในมือ“เอ่อ ครับ” เมฆาสบตากับชยกรก่อนตอบเสียงอ้อมแอ้มออกมา“เดี๋ยวนี้แคทไม่ค่อยได้เจอคุณ 2 คนเลย คนไข้เยอะเหรอคะ”“ของผมพอประมาณครับ ส่วนของหมอหนึ่งน่าจะยุ่งๆ เรื่องเตรียมตัวไปขอสาว” เมฆาหย่อนระเบิดลูกใหญ่“คะ เพิ่งคบไม่นานไม่ใช่เหรอคะ จะแต่งแล้วเหรอ” แคทริยามีอาการตกใจอย่างเห็นได้ชัด“ครับ พ่อแม่เราเป็นเพื่อนกันพอดี หน้าที่การงานของเขาก็เข้าที่เข้าทางแล้ว เลยว่าจะไปคุยกันในเร็วๆ นี้ครับ” ชยกรตอบน้ำเสียงจริงจัง“เอ่อ ค่ะ” แคทริยาหน้าเจื่อนลง“เออ ฉันว่าจะถาม แล้วชมพูพูดถึงยัยปลาการ์ตูนให้นายฟังบ้างไหม” เมฆาพาทั้งคู่เปลี่ยนเรื่องคุย“ไม่นะ”“แปลกนะ ยัยนั่นไม่นินทาฉันเลยเหรอ”“ทำอะไรให้เขามานินทาล่ะ”“เรื่องของผู้ชายแหละน่า”ชยกรส่ายหน้าอ่อนใจกับความเจ้าชู้ของเมฆา ตัวเขาเองก็เคยเจ้าชู้ แต่เขาเลือกกินและออกไปกินข้างนอก ไม่พาเข้าไปกินที่บ้านหรือคอนโด
ชยกรกับเมฆาพากันมาที่ห้องอาหารของโรงพยาบาล ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปซื้อข้าวแล้วกลับมาเจอกันที่โต๊ะ“แคทนั่งด้วยได้ไหมคะ”ระหว่างที่กำลังลงมือกันอยู่ เสียงหวานของผู้หญิงก็ดังขึ้น ทั้งสองหนุ่มเงยหน้ามองพร้อมกัน ก็เห็นแคทริยายืนอยู่พร้อมกับจานข้าวในมือ“เอ่อ ครับ” เมฆาสบตากับชยกรก่อนตอบเสียงอ้อมแอ้มออกมา“เดี๋ยวนี้แคทไม่ค่อยได้เจอคุณ 2 คนเลย คนไข้เยอะเหรอคะ”“ของผมพอประมาณครับ ส่วนของหมอหนึ่งน่าจะยุ่งๆ เรื่องเตรียมตัวไปขอสาว” เมฆาหย่อนระเบิดลูกใหญ่“คะ เพิ่งคบไม่นานไม่ใช่เหรอคะ จะแต่งแล้วเหรอ” แคทริยามีอาการตกใจอย่างเห็นได้ชัด“ครับ พ่อแม่เราเป็นเพื่อนกันพอดี หน้าที่การงานของเขาก็เข้าที่เข้าทางแล้ว เลยว่าจะไปคุยกันในเร็วๆ นี้ครับ” ชยกรตอบน้ำเสียงจริงจัง“เอ่อ ค่ะ” แคทริยาหน้าเจื่อนลง“เออ ฉันว่าจะถาม แล้วชมพูพูดถึงยัยปลาการ์ตูนให้นายฟังบ้างไหม” เมฆาพาทั้งคู่เปลี่ยนเรื่องคุย“ไม่นะ”“แปลกนะ ยัยนั่นไม่นินทาฉันเลยเหรอ”“ทำอะไรให้เขามานินทาล่ะ”“เรื่องของผู้ชายแหละน่า”ชยกรส่ายหน้าอ่อนใจกับความเจ้าชู้ของเมฆา ตัวเขาเองก็เคยเจ้าชู้ แต่เขาเลือกกินและออกไปกินข้างนอก ไม่พาเข้าไปกินที่บ้านหรือคอนโด
“นั่งเล่นหน้าบาร์ก่อนนะ พี่ไปเซ็นเอกสารไม่นาน”“ตามสบายเลยค่ะ ชมพูนั่งดื่มไปเรื่อยๆ ได้ค่ะ”“จ้ะ แม่คุณ อย่าเมาจนเผลอไปกับใครนะ”“ไม่มีใครร้ายเท่าพี่หนึ่งหรอกค่ะ”ชายหนุ่มยิ้มแล้วจุมพิตแก้มนวลแผ่วเบา ก่อนจะแยกตัวเดินขึ้นบันไดไป ชมพูแพรหันมาคุยกับบาร์เทนเดอร์หนุ่ม ลูกน้องของชยกร เขาคอยเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้านายหนุ่มโดยไม่มีใครรู้ จึงชวนหญิงสาวคุยและคอยดูแลไม่ให้ใครเข้ามายุ่งกับเธอผ่านไปหลายชั่วโมงชมพูแพรก็เริ่มเมา เธอดื่มไปเรื่อยๆ จนลืมไปแล้วว่าเธอดื่มไปมากเท่าไหร่ หญิงสาวจึงขอตัวออกไปข้างนอกสักพักเพื่อให้สร่างเมาชมพูแพรยืนสูดอากาศข้างนอกอยู่สักพักก็เดินกลับเข้ามาด้านใน ตรงไปยังโต๊ะวีไอพีตัวในสุดเพื่อนั่งพักอยู่คนเดียว“ทำไมมานั่งในมุมเลยล่ะ ถ้าบอยไม่บอกพี่ไม่รู้เลยนะว่ามาทางนี้”“ก็เพราะเป็นมุมที่ไม่มีใครเห็นไงคะ เลยมา ทั้งมืด ทั้งเป็นมุมอับ เหมาะกับการนั่งพักมากเลยค่ะ” ชมพูแพรพูดเสียงอ้อแอ้ เมื่อชยกรหย่อนตัวนั่งลงข้างๆ“เมาแล้วเหรอ”“ค่ะ ดื่มไปเยอะเลย”หญิงสาวนั่งเอนกายพิงโซฟาอยู่อย่างนั้น ชยกรกวาดสายตามองไปรอบๆ ก็ปรากฏความคิดบางอย่างขึ้นมา“อยากเปลี่ยนบรรยากาศหน่อยไหม”“คะ?” ยังไม่
“น่ากลัวเหมือนกันนะคะเนี่ย”“ใช่ หนักขึ้นทุกวันด้วย แต่หล่อนเป็นหมอฝีมือดี เลยไม่ได้มีใครคิดจะตักเตือนเป็นเรื่องเป็นราวน่ะ”หลังจากออกมาจากโรงพยาบาลได้สักพัก พศินกับปรางค์วลัยก็เล่าเรื่องที่ได้ยินให้กับชยกรและชมพูแพรฟัง หญิงสาวมีอาการตกใจอย่างเห็นได้ชัด เพราะแคทริยาดูไม่น่าจะเป็นแบบนั้นได้“ตอนที่พวกฉันได้ยินยังตกใจเลย ที่หล่อนมีความคิดแบบนั้น” พศินเองก็ยังส่ายหน้าอย่างรู้สึกไม่ดี“ช่างเขาเถอะ ถ้าเขาไม่มาทำให้เดือดร้อนหรือเข้ามายุ่งวุ่นวายมากไปก็ยังพอให้อภัยได้ แต่ถ้ามากกว่านี้ก็เกรงจะเป็นอันตรายนะ” ปรางค์วลัยพูดแบบเป็นกลาง“กลัวจะหนักขึ้นน่ะสิ เพราะถึงขนาดรู้ว่ามีชมพูแล้วยังคิดแบบนี้ได้น่ะ” ชยกรเองก็เริ่มไม่สบายใจ“ก็รอดูกันไปก่อนก็ได้ค่ะ อย่าเพิ่งคิดมากเลย” ชมพูแพรปลอบใจทุกคน แต่ตัวเธอเองก็ไม่ได้สบายใจเท่าไหร่นัก แต่ถึงอย่างไรหล่อนก็เป็นหมอ มีหน้าที่การงานที่ดี คงไม่เสี่ยงทำอะไรสิ้นคิด“ดื่มกันไปก่อนนะสาวๆ พี่ขอขึ้นไปทำงานก่อน” ชยกรพาทั้งสามคนมาส่งที่โต๊ะวีไอพี ก่อนจะขอตัวขึ้นไปห้องทำงานชมพูแพรทำท่าทางโอเคใส่เขาแล้วยิ้มหวานให้ ชยกรจึงเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นสองของร้าน พร้อมกับเรียกผู
เช้าวันต่อมา ชมพูแพรมาทำงานแต่เช้าตามปกติ หญิงสาวมีหน้าที่จัดเคลียร์เอกสารที่ได้รับเข้ามายังฝ่ายศูนย์วิจัยและแยกเป็นสัดส่วน เพื่อส่งต่อไปยังส่วนต่อไป ก่อนที่จะถูกนำส่งไปยังบุคคลตำแหน่งต่างๆ อีกหน้าที่คือนำเอกสารจากแผนกวิจัยส่งไปยังแผนกต่างๆ อาทิเช่น ตึกแพทยศาสตร์ ตึกการปกครอง ตึกอธิการบดี และอีกมากมายหญิงสาวใช้เวลาปรับตัวอยู่พักใหญ่ กับการที่เธอต้องนั่งโต๊ะในช่วงเช้าและจำแนกเอกสารออกไปส่งในบริเวณมหาวิทยาลัย แต่ไม่นานก็เคยชินและสนุกกับมัน เพราะอย่างน้อย เธอก็ไม่ต้องนั่งเบื่ออยู่แต่ที่โต๊ะทำงาน“อ้าว น้ายุ้ย สวัสดีค่ะ” ชมพูแพรที่มาส่งเอกสารที่ตึกแพทยศาสตร์ได้เจอเพื่อนสนิทของมารดาก็ยกมือไหว้ทักทายด้วยความดีใจ“อ้าว ชมพู มาทำอะไรล่ะ”“ส่งเอกสารให้รองอธิการค่ะ”“งานเป็นยังไงบ้าง ปรับตัวได้หรือยัง”“ปรับตัวได้แล้วค่ะ”“ดีแล้ว ตอนที่น้าเห็นประกาศรับสมัครน้ารีบบอกแม่เราเลย จะได้ให้มาสมัครและมีเวลาอ่านหนังสือสอบเยอะหน่อย”“โชคดีที่สอบติดนะคะ แต่ได้แนวข้อสอบจากน้ายุ้ย เลยช่วยได้เยอะเลย ขอบคุณมากเลยค่ะ”“หลานน้าทั้งคน น้าก็อยากให้ทำงานดีๆ สิ เอาล่ะ น้าไปทำงานก่อนนะ”“ค่ะ สวัสดีค่ะ”“จ้ะ”หลังจา
“ตื่นได้แล้วคนสวย อาหารเช้าพร้อมแล้ว”ชยกรตื่นมาจัดเตรียมอาหารแต่เช้า ก่อนที่จะกลับเข้ามาปลุกหญิงสาวที่ยังนอนสลับสนิทอยู่ด้วยแววตาเอ็นดู“วันนี้วันอาทิตย์ เพราะฉะนั้น.....ฝันดีค่ะ”“หยุดเลย ตื่นมากินข้าวก่อน แล้วค่อยนอนต่อ”หญิงสาวขยับกายลุกขึ้นมานั่ง แต่ดวงตายังปิดอยู่ จนร่างสูงต้องดึงให้เธอลุกขึ้น แล้วเอาผ้าเช็ดตัวมาห่อร่างกายเปลือยเปล่าเอาไว้ แล้วพาเธอเดินเข้าไปในห้องน้ำ“อาบน้ำเลย พี่เตรียมแปรงสีฟันให้แล้ว เสื้อผ้าแขวนอยู่หน้าตู้”“ค่าๆ”ชมพูแพรไม่ทันได้ฟังว่าเขาพูดอะไรแต่ก็ขานรับแต่โดยดี จนเมื่อเขาออกไปสักพักเธอถึงตั้งสติได้ จัดการล้างหน้าแปรงฟันแล้วอาบน้ำด้วยความรวดเร็ว“อะไรคะ”“โจ๊ก เจ้านี้อร่อย พี่ลงไปซื้อมาตั้งแต่ 6 โมง”“ตื่นเช้าไปไหมคะ วันนี้วันอาทิตย์นะคะ”“เคยชินน่ะสิ”หลังจากชมพูแพรหย่อนกายนั่งลงและหยิบช้อนขึ้น ชยกรก็เริ่มลงมือจัดการมื้อเช้า ทั้งคู่นั่งคุยกันไปเรื่อยๆ จนกระทั่งกินเสร็จ หญิงสาวจึงเก็บถ้วยชามไปล้างแล้วกลับมานอนเล่นที่โซฟา“อยากไปไหนไหม”“ไม่ค่ะ ขี้เกียจ พรุ่งนี้ก็ต้องไปทำงานแล้ว”“ให้พี่ไปส่งไหม”“ชมพูไปเองดีกว่า ชมพูเข้างาน 9 โมง ออกจากบ้าน 8 โมงก็ทัน”“
“อ๊ะ.....” เสียงหวานใสอุทานตกใจ มือเล็กจับบ่ากว้างเอาไว้อย่างลืมตัว“บางทีเรื่องพวกนี้ใช้สัญชาตญาณก็ได้นะ อย่าไปเกร็งหรือกลัวมันเลย” เขาพึมพำเสียงแหบพร่า ริมฝีปากยังแนบชิดลำคอขาวหญิงสาวปล่อยให้เขาทำรอยที่คอเธอจนพอใจ เมื่อมือหนาคลายออกแล้วเคลื่อนมาที่กระดุมชุดนอนก็สะดุ้งเล็กน้อย แต่ก็ปล่อยให้เขาแกะมันออกจนหมด“กลัวไหม”“ไม่รู้สิคะ บอกไม่ถูก”เจ้าของตักแกร่งถือโอกาสสูดดมกลิ่นหอมหวานจากร่างบางบนตัก อ้าปากกัดหัวไหล่มนแรงๆ อย่างมันเขี้ยว“อ๊ะ!!!”“หืม เสียงได้อารมณ์ดีจัง”“กัดทำไมคะ”“มันเขี้ยว อยากจับฟัดแรงๆ”“หมายความว่ายังไง อ๊ะ.....”ไม่ทันสิ้นเสียง หญิงสาวก็ถูกริมฝีปากหยักแนบลงมา ลิ้นหนากระหวัดเกี่ยวเรียวลิ้นบางเล่น ตักตวงความหวานแกมหยอกล้อ ฝ่ามือหนาลูบไล้ต้นขาขาวเนียนแผ่วเบา หญิงสาวสะดุ้ง เมื่อรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ดิ้นขยุกขยิกอยู่ตรงใต้หว่างขาของเธอ อะไรบางอย่างที่เริ่มใหญ่โตขึ้นมาเป็นลำ“…..พี่หนึ่ง” เขาละริมฝีปากออกให้หญิงสาวได้หายใจ เธอสูดลมหายใจเข้าปอด มือดันหน้าอกเขาไว้“ครับ” ชายหนุ่มฝังจมูกลงบนลำคอระหง กัดงับผิวเนื้ออ่อนเล่นอย่างพอใจต้นขาแข็งแรงขยับแยกออกกว้างให้มีพื้นที่
“อ้าว 2 สาวล่ะครับ” ชยกรกลับมาจากสูบบุหรี่ไม่เห็นชมพูแพรก็มีสีหน้าไม่พอใจ“นู่นค่ะ” ปรางค์วลัยชี้ไปที่เพื่อนสาวทั้งสองคนที่เต้นกันอย่างสนุกสนาน“ไอ้หมอ” เมฆาที่เพิ่งมาถึงเดินเข้ามาตบบ่าชยกรเป็นการบอกว่าเขามา“อะไรไอ้หมอ” เขาย้อนเพื่อนพร้อมกับมองไปที่หญิงสาวตัวเล็กตาวาว“จะมาไม่บอกเพื่อนนะมึง” เมฆาที่มัวแต่คุยไม่ทันได้หันไปมองรอบข้าง“คำสั่งเมีย” ชยกรบอกเสียงเรียบ“กูล่ะหมั่นไส้คนหลงเมีย” เมฆาแขวะเพื่อนด้วยความหมั่นไส้ ก่อนจะมองไปที่โซฟาก็เห็นว่าปรางค์วลัยนั่งอยู่ ก็หน้าเหวอไป“ไง” ปรางค์วลัยทักเมฆาสีหน้าเรียบเฉย“เฮ้ย ยัยปลาการ์ตูน มาได้ยังไง” เมฆาที่เห็นปรางค์วลัยก็โวยวาย“ฉันมากับเพื่อนฉันเหอะน่า”“เดี๋ยวนะ สองคนนี้รู้จักกันเหรอ” ชยกรถามเมื่อได้ยินทั้งสองคนคุยกัน“พี่ชายข้างบ้านค่ะ แต่ไม่ได้นับถือเป็นพี่ เพราะมันมั่วผู้หญิง” ปรางค์วลัยบอกชยกรแล้วยิ้มให้“ยัยปากจัด” เมฆาแขวะปรางค์วลัย แต่หญิงสาวก็ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้“อย่าฆ่ากันตายล่ะ เดี๋ยวมา” ชยกรหมุนตัวเดินออกไป ปล่อยให้เมฆากับปรางค์วลัยเถียงกันอยู่แบบนั้นทางด้านชมพูแพรกับพศินที่ออกมาเต้นกันอย่างสนุกสนานก็ไม่ได้สนใจว่าใครจะเข้ามาใก
ชมพูแพรนั่งเล่นโทรศัพท์ไปเรื่อยๆ จนเริ่มง่วง เพราะเมื่อคืนเธอตื่นมาโรงพยาบาลเป็นเพื่อนเขา หญิงสาวมองประตูห้องนอนอย่างชั่งใจ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ที่เธอเพิ่งวางลงบนโต๊ะ แล้วลุกออกจากโซฟา เดินหายเข้าไปในห้องหลังจากประชุมเรื่องงบประมาณของแต่ละแผนกอยู่หลายชั่วโมง ชยกรก็กลับมาที่ห้องทำงานด้วยสีหน้าเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด ดวงตาคมมองหาร่างเล็กก่อนจะไปสะดุดตากับกระเป๋าที่วางอยู่บนโต๊ะ จึงเดินไปเปิดประตูห้องนอนแล้วก็พบว่าหญิงสาวกำลังหลับสนิทอยู่บนเตียงเขาปิดประตูห้องนอนเอาไว้ตามเดิมแล้วกลับมานั่งที่โต๊ะทำงาน แล้วเริ่มเคลียร์งานบนโต๊ะต่อ โดยมีผู้ช่วยส่วนตัวนำแฟ้มเอกสารมาวางไว้ให้บนโต๊ะ“กลับบ้านกัน จะแวะไปหาอะไรกินก่อนไหม” ชยกรถามหลังปิดคอมพิวเตอร์แล้วลุกออกจากโต๊ะ“แล้วแต่เลยค่ะ” หญิงสาววางหนังสือในมือลงแล้วขยับตัวลุกขึ้นตามเขา“จะเอาไปอ่านที่บ้านไหม”“ไม่เป็นไรค่ะ”“งั้นก็หาอะไรคั่นไว้ ถ้ามาวันไหนก็ค่อยมาอ่าน”“ค่ะ พรุ่งนี้หยุดไหมคะ”“อื้อ หยุด จะไปไหนล่ะ”“ไปผับกันค่ะ ชวนยัยพินนี่กับการ์ตูนไปด้วย”“สองสาวนั่นน่ะเหรอ”“ค่ะ”“ตามใจ งั้นกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านก่อนแล้วกัน”ชมพูแพรยิ้มหวานอ
‘พี่ไปทำงานก่อนนะชมพู เจอกันตอนเย็นครับ รหัสห้องพี่เปลี่ยนไปใช้รหัสเดียวกับชมพูแล้ว เผื่ออยากเข้าไปสำรวจอะไรก็เข้าไปได้เลยนะ อย่าซนล่ะ’“เดี๋ยวนะ ทำไมทุกอย่างกลายเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะเนี่ย”เสียงหวานใสพึมพำเบาๆ หลังจากที่เธอเห็นกระดาษที่ชยกรเขียนข้อความแปะเอาไว้ที่ประตูห้องนอน เมื่อเธอตื่นแล้วจะเปิดประตูออกไปก็จะเจอข้อความของเขาก่อนเป็นอย่างแรกหญิงสาวออกจากห้องนอนมาก็เจออาหารเช้าที่เขาซื้อเอาไว้ให้วางอยู่บนโต๊ะ พร้อมด้วยกุญแจสำรองของห้องเขากับกุญแจรถวางอยู่คู่กัน ชมพูแพรมองแล้วอมยิ้ม ทำเหมือนเธอจะหนีเที่ยงอย่างนั้นแหละ เตรียมทุกอย่างเอาไว้ให้พร้อมเลยถ้วยจานที่เก็บอยู่ในชั้นวางถูกหยิบออกมาที่โต๊ะ มือเล็กแกะอาหารที่เขาซื้อเอาไว้ให้เทใส่จานแล้วนั่งลงจัดการเงียบๆ ก่อนจะกดรับสายเมื่อมีสายเรียกเข้าดังมาจากโทรศัพท์“ไง”‘ตื่นเช้าจังวะ แล้วนี่กินอะไรเนี่ย’“มื้อเช้า คุณหมอเขาเตรียมเอาไว้ให้”‘ต๊าย ดูแลดีดั่งเมียแต่ง’“พูดมากน่า ว่าแต่มีอะไร”‘โทรมาเช็กดูเฉยๆ ว่ายังอยู่ดีไหม หรือตายคาเตียงไปแล้ว’“ยัยบ้า ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้นย่ะ แถมเมื่อคืนต้องบึ่งไปโรงพยาบาลเพราะมีเคสผ่าตัดด่วนอีกต่างหาก ต