ชมพูแพรนั่งเล่นโทรศัพท์ไปเรื่อยๆ จนเริ่มง่วง เพราะเมื่อคืนเธอตื่นมาโรงพยาบาลเป็นเพื่อนเขา หญิงสาวมองประตูห้องนอนอย่างชั่งใจ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ที่เธอเพิ่งวางลงบนโต๊ะ แล้วลุกออกจากโซฟา เดินหายเข้าไปในห้อง
หลังจากประชุมเรื่องงบประมาณของแต่ละแผนกอยู่หลายชั่วโมง ชยกรก็กลับมาที่ห้องทำงานด้วยสีหน้าเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด ดวงตาคมมองหาร่างเล็กก่อนจะไปสะดุดตากับกระเป๋าที่วางอยู่บนโต๊ะ จึงเดินไปเปิดประตูห้องนอนแล้วก็พบว่าหญิงสาวกำลังหลับสนิทอยู่บนเตียง
เขาปิดประตูห้องนอนเอาไว้ตามเดิมแล้วกลับมานั่งที่โต๊ะทำงาน แล้วเริ่มเคลียร์งานบนโต๊ะต่อ โดยมีผู้ช่วยส่วนตัวนำแฟ้มเอกสารมาวางไว้ให้บนโต๊ะ
“กลับบ้านกัน จะแวะไปหาอะไรกินก่อนไหม” ชยกรถามหลังปิดคอมพิวเตอร์แล้วลุกออกจากโต๊ะ
“แล้วแต่เลยค่ะ” หญิงสาววางหนังสือในมือลงแล้วขยับตัวลุกขึ้นตามเขา
“จะเอาไปอ่านที่บ้านไหม”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
“งั้นก็หาอะไรคั่นไว้ ถ้ามาวันไหนก็ค่อยมาอ่าน”
“ค่ะ พรุ่งนี้หยุดไหมคะ”
“อื้อ หยุด จะไปไหนล่ะ”
“ไปผับกันค่ะ ชวนยัยพินนี่กับการ์ตูนไปด้วย”
“สองสาวนั่นน่ะเหรอ”
“ค่ะ”
“ตามใจ งั้นกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านก่อนแล้วกัน”
ชมพูแพรยิ้มหวานอย่างพอใจที่เขาตามใจเธอ ก่อนจะหยิบกระเป๋าขึ้นมาเตรียมสะพายแต่ก็ถูกเขาแย่งไปสะพายเอง
“แล้วรถอีกคันล่ะคะ”
“จอดเอาไว้นี่แหละ วันไหนชมพูมาพร้อมพี่ก็ค่อยขับกลับไป”
หญิงสาวพยักหน้ารับ ก่อนที่เธอจะเดินตามเขาออกมาจากห้องท่ามกลางสายตาที่มองมาด้วยความอยากรู้
ชยกรพาชมพูแพรลงมาชั้นล่างก่อนเพื่อมาเอาของสอบถามอาการของคนไข้ที่เขาเพิ่งรับเคสเอาไว้ หญิงสาวยืนรออยู่เงียบๆ จนกระทั่งมีคุณหมอสาวสวยเดินเข้ามาทักทาย
“ยังไม่กลับเหรอคะคุณหมอหนึ่ง”
“กำลังจะกลับครับ” เขาตอบหล่อนด้วยน้ำเสียงสุภาพแต่ก็ไว้ตัว
“อ๋อค่ะ วันนี้อารมณ์ไหนคะ พาสาวมาทำงานด้วย” หล่อนพูดทำนองแซวแต่แอบแฝงไว้ด้วยคำถาม
“พอดีลืมแฟ้มเอกสารไว้ที่บ้าน เลยให้แฟนเอามาให้ครับ” ชายหนุ่มกล่าวเปิดเผยตัวชมพูแพรไปในตัว
“ค่ะ งั้นฉันไปก่อนนะคะ”
“ครับผม”
เมื่อคุณหมอสาวท่านนั้นเดินจากไป ชยกรก็แอบส่ายหน้าเบาๆ แล้วหันมาสนใจข้อมูลของคนไข้ต่อ พยาบาลที่ทำหน้าที่ตรงนี้อยู่คอยบอกข้อมูลที่หล่อนสอบถามคนไข้ให้กับเขาอย่างละเอียด เขาพยักหน้ารับแล้วสั่งงานอีกนิดหน่อย ก่อนจะแตะเอวชมพูแพรเบาๆ เป็นเชิงให้เธอเดินไปด้วยกัน
“ใครเหรอคะ คุณหมอคนสวยเมื่อสักครู่”
“หมอแผนกอายุรกรรมน่ะ”
“เขาดูชอบพี่นะ”
“ก็ประมาณนั้น หล่อนชอบแสดงอาการแบบนี้แหละ จนหมอผู้หญิงคนอื่นไม่กล้าเข้าใกล้พี่เพราะเกรงใจหล่อน”
“หืม กันท่าเหรอ”
“คงงั้น”
“น่ากลัวจัง” ชมพูแพรเอ่ยอย่างไม่จริงจัง เธอแค่รู้สึกว่าผู้หญิงแบบนี้น่ากลัว
“ช่างเขาเถอะ อย่ามายุ่งกับชมพูก็พอ”
“แล้วทำไมหมอพยาบาลที่นี่ดูเกรงใจพี่หนึ่งจัง”
“ไม่ตอบได้ไหม”
“ไม่ได้ค่ะ”
“งั้นมาดูเอง”
ชยกรพาชมพูแพรเดินมาตรงบอร์ดแนะนำบุคลากร มันมีรูปกับชื่อของทั้งผู้บริหารและคุณหมอทุกท่านอยู่ สิ่งที่ทำให้หญิงสาวสะดุดตาก็คือนามสกุลของชยกรเหมือนกันกับนามสกุลของผู้ที่อยู่ในประธานใหญ่ของโรงพยาบาล
“คุณพ่อพี่เองจ้ะ”
“พี่หนึ่ง”
“ครับ”
“มีอะไรยังไม่ได้บอกชมพูไหม”
“นอกจากที่คุณพ่อเป็นเจ้าของที่นี่ กับตำแหน่งที่ชมพูเห็นป้ายที่ติดหน้าประตูก็ไม่มีแล้วครับ” ชยกรบอกหญิงสาวหน้าตาเฉย
ชมพูแพรมองเขาด้วยสายตาคาดโทษ ก่อนจะยอมเดินตามเขาไปที่รถโดยไม่พูดกับเขาแม้แต่คำเดียว
เมื่อมาถึงที่รถ หลังจากชยกรเคลื่อนตัวออกจากโรงพยาบาล หญิงสาวก็กดส่งข้อความหาพศินกับปรางค์วลัยเพื่อนัดไปเจอกันที่ผับตอน 3 ทุ่ม
“เอาน่า อย่าเพิ่งโกรธเลย พี่แค่อยากให้คนมองว่าชมพูอยู่กับพี่เพราะฐานะน่ะ” หญิงสาวนั่งหน้าตึงจนกลับมาถึงคอนโด จนชยกรต้องยอมง้อเธอ
“แต่ถ้าชมพูไม่รู้ คนอื่นมองชมพูโง่ค่ะ”
“ขอโทษครับ”
“ชั่งเถอะค่ะ ชมพูไม่ได้อยู่ในสถานะอะไรที่จะไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของพี่ได้”
ชมพูแพรพูดตัดบทหน้าตาเฉยแล้วลงจากรถไปโดยไม่ได้รอเขา เธอรีบกดลิฟต์เพื่อกลับขึ้นห้องและไม่ได้สนใจเขาอีก
หญิงสาวอาบน้ำแต่งตัวเตรียมจะไปผับตามที่นัดกับเพื่อนไว้โดยไม่ได้สนใจเจ้าของผับ แม้ว่าเขาจะเข้ามานอนเล่นอยู่บนเตียงในห้องนอนของเธอก็ตาม
“เดี๋ยวนะ โป๊ไปไหม” ชายหนุ่มทักขึ้น
คนตัวเล็กที่เพิ่งแต่งหน้าเสร็จออกไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำแล้วกลับเข้ามาในห้องนอน เธอก้มลงมองชุดตัวเองก่อนจะขมวดคิ้ว
วันนี้ชมพูแพรใส่ชุดเดรสเกาะอกรัดรูปสีดำ เน้นให้เห็นรูปร่างบอบบางแต่มีทรวดทรงของเธอให้น่ามองมากขึ้น
“ก็ไม่นะ คนอื่นก็ใส่กันนี่คะ”
“ก็นั่นคนอื่น แต่นี่ชมพู” เขาเถียงอย่างไม่พอใจ
“อ้าว แล้วทำไมชมพูจะใส่ไม่ได้ นี่มันเนื้อตัวชมพูนะ” หญิงสาวเองก็ไม่ยอมเล่นกัน
“ต้องให้พูดอีกกี่ครั้งล่ะ ก็เราเป็นเมียพี่ไง”
“พูดเต็มปากจัง” หญิงสาวเบะปากด้วยความหมั่นไส้
“หรือไม่จริง” ชายหนุ่มลุกขึ้น ขยับตัวมานั่งตรงขอบเตียง แล้วเอื้อมมือคว้าร่างเล็กให้เดินเข้ามาใกล้
“มอบสถานะนี้ให้เลยเหรอคะ” ชมพูแพรเดินเข้ามายืนตรงกลางหว่างขาเขาที่กางอยู่อย่างว่าง่าย
“ครับ”
“กี่คน”
“คนเดียวครับ”
หญิงสาวทำสีหน้าที่บ่งบอกว่าไม่ได้เชื่อเขาเลยแม้แต่น้อย ก่อนที่ร่างบอบบางจะปลิวลงไปนอนบนเตียงพร้อมกับที่ร่างสูงจะพลิกกลับมาคร่อมเธอเอาไว้ในเสี้ยวนาที
“เปลี่ยนเสื้อผ้าครับ”
“ไม่เปลี่ยนไม่ได้เหรอคะ”
“ไม่ได้ครับ พี่หวง ไม่ชอบให้ใครมองเมียพี่”
“ทำยังไงดีคะ ชมพูชอบแต่งตัวแบบนี้ซะด้วย” หญิงสาวพูดลอยหน้าลอยตาตั้งใจแกล้งเขา
ก่อนที่ร่างเล็กจะสะดุ้งเมื่อข้อมือถูกรวบกดลงกับที่นอน พร้อมกับดวงตาคมที่มองเธออย่างจริงจัง
“งั้นก็ต้องมีของรางวัลที่พี่ยอมให้ใส่ครับ”
“ของรางวัลอ๊ะ.....”
ชมพูแพรอุทานตกใจ เมื่อชยกรโน้มตัวลงแนบชิดแล้วปิดปากเธอด้วยจุมพิตร้อนที่กวาดต้อนเรียวลิ้นเล็กอย่างช่ำชอง
หญิงสาวตกใจจนเผลอดิ้นรนจนเจ็บข้อมือ แต่เมื่อคิดได้ว่ามันไม่น่าจะมีประโยชน์ และเขาจะไม่ทำร้ายเธอก็นิ่งลง
เมื่อเห็นว่าชมพูแพรหายตกใจ ชายหนุ่มก็ถอนริมฝีปากออกแล้วเคลื่อนใบหน้าลงมาที่เนินอกอิ่มที่โผล่พ้นขอบชุดเดรสเกาะอก แนบริมฝีปากลงไปเบาๆ ร่างเล็กสะดุ้งโหยงเมื่อรู้สึกเจ็บจี๊ด
ชมพูแพรนอนนิ่งแบบนั้นอยู่หลายนาที จนเมื่อชยกรพอใจก็ยอมปล่อยข้อมือเล็กแล้วช่วยดึงให้เธอลุกขึ้นนั่ง
“รอยเต็มเลย” หญิงสาวบ่นพึมพำ
“ก็เมียดื้อนี่ครับ ก็ต้องมีรางวัลค่าตามใจกันหน่อย”
เมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กบ่นพึมพำไม่เลิก ชายหนุ่มก็ดึงให้หญิงสาวลุกขึ้น พาเธอออกจากห้องนอนไปหยิบกระเป๋าที่หน้าโซฟา แล้วโอบเอวบางออกจากห้องไป
‘แกอยู่ไหนพวกฉันมาถึงแล้ว’
“เพิ่งถึง กำลังจะเข้าไป แกไปรอแถวหน้าบาร์”
‘เค’
ชมพูแพรเดินนำเข้าไปหาเพื่อนๆ โดยไม่ได้รอชยกร เพราะคิดว่ายังไงชายหนุ่มก็น่าจะขึ้นไปที่ห้องทำงาน ไม่ได้มาอยู่รวมกับพวกเธออยู่แล้ว จนเมื่อมาเจอเพื่อนที่นั่งรออยู่หน้าบาร์ก็เข้าไปหาพร้อมกับทักทายด้วยน้ำเสียงสดใส
“หยุด อย่าเพิ่งพูด ได้ส่องกระจกก่อนออกจากบ้านมาไหมเนี่ย” ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะได้พูดอะไร ก็ถูกพศินเบรกเอาไว้
“ไม่ต้องส่องก็รู้” ชมพูแพรเบะปากใส่เพื่อน
“ยังไง” ปรางค์วลัยเองก็ชะโงกหน้ามาด้วยความสนใจ
“ก็รอยเนี่ย ได้ก่อนออกมา เหตุผลเพราะใส่ชุดนี้” คนตัวเล็กที่สุดในกลุ่มพูดเสียงงุ้งงิ้งงอแง
“หวงแหละไม่ต้องเดา พี่หมอ.....สวัสดีค่ะ” พศินหันไปทักทายผู้ที่เดินเข้ามาสมทบด้วยท่าทางที่ใส่จริตเต็มที่
“สวัสดีครับ”
“มาเฝ้าผับเหรอคะ”
“เปล่าครับ มาเฝ้าเมีย”
“.....” เกิดเหตุการณ์เดดแอร์ เมื่อทั้งสามสาวทั้งแท้และไม่แท้พากันนิ่งไป
“ดื่มอะไรสั่งกันเลยนะ วันนี้ผมเลี้ยงเอง เดี๋ยวเพื่อนผมตามมาสมทบอีกคนนะ ไปนั่งโต๊ะใหญ่หน่อยไหม” ชยกรยิ้มแล้วชี้ไปยังชุดโซฟาชุดใหญ่สำหรับหลายคน
“ได้เลยค่ะ แล้วแต่เข้ามือเลยค่ะ” พศินร้องวี้ดว้ายชอบใจ
ชมพูแพรเบะปากอย่างหมั่นไส้ ก่อนที่เธอจะโดนคนตัวสูงโอบเอวจนแทบจะปลิวให้เดินตามเขาไปยังชุดโซฟา
“ใครจะตามมาคะ หมอเมฆเหรอ”
“ใช่ มันโทรมาถามตอนจอดรถว่าอยู่ไหน พอบอกว่าอยู่ผับก็บอกจะตามมา”
“สายปาร์ตี้เหรอคะ”
“ประมาณนั้น แต่เห็นแบบนั้นมันโสดนะ เพราะความปากหมาของมันนั่นแหละ”
“แรงค่ะ”
“พูดเรื่องจริง”
เมื่อมาถึงโซฟาชุดใหญ่ ทั้งสี่คนก็ทยอยนั่งลงพร้อมกับที่พนักงานเสิร์ฟเดินเข้ามารับออเดอร์
“ลงบัญชีฉันไว้” ชายหนุ่มสั่งลูกน้องเสียงเรียบนิ่งจนแม้แต่ชมพูแพรยังหันไปมองด้วยความแปลกใจ
หลังจากที่สั่งเครื่องดื่มและอาหารทานเล่นกันเสร็จเรียบร้อย พนักงานก็เดินออกไป พศินนั่งเหล่หนุ่มๆ ตาวาว ปรางค์วลัยถึงกับหัวเราะเพื่อน
“ไม่เคยเห็นพี่หนึ่งเสียงดุแบบนั้น” ชมพูแพรพูดกับเขาด้วยความแปลกใจ
“คนละบริบทไง เป็นหมอก็ต้องอีกแบบไหมล่ะ ถ้าดุ คนไข้ก็จะกลัว การรักษาหรือสอบถามอาการก็จะยาก แต่ถ้าอยู่ในบริบทเจ้านายจะใจดีนุ่มนวลแบบตอนเป็นหมอมากก็ไม่ได้ ไม่อย่างนั้นลูกน้องจะไม่เกรงใจ” ชยกรอธิบายให้หญิงสาวฟัง พร้อมกับดึงให้หญิงสาวขยับเข้ามานั่งข้างๆ วางแขนพาดบนไหล่บอบบางแสดงความเป็นเจ้าของ
“โอ๊ย คุณหมอขา ยัยชมพูไม่หายหรอกค่ะ ไม่น่าจะมีใครกล้ามาเต๊าะด้วย รอยเต็มคอตัวหน้าอกขนาดนั้น” พศินที่หันมาชมเครื่องดื่มเห็นอาการของชยกรก็แซวด้วยความขำขัน
“ไม่ได้สิครับ มีเมียดื้อก็ต้องคอยคุมหน่อย” ชายหนุ่มเพียงคนเดียวในโต๊ะตอบเสียงนุ่ม
พศินทำท่าทางหมั่นไส้เมื่อเห็นชมพูแพรเบะปาก ปรางค์วลัยนั่งดื่มเงียบก่อนจะขอตัวไปเข้าห้องน้ำ
“คุณ.....”
“พินนี่ค่ะ”
“ครับ คุณพินนี่ ผมฝากเมียสักครู่นะ ขอไปสูบบุหรี่หน่อย” ชยกรบอกพศินที่กำลังมองหนุ่มๆ ก่อนจะลุกออกจากโซฟา
“เชิญเลยค่ะ” พศินพยักหน้ารับ
พ้นหลังชยกรไป ชมพูแพรกับพศินมองหน้ากันแล้วยิ้ม ก่อนที่จะพากันออกไปเต้นเมื่อทางสะดวก ชมพูแพรเป็นผู้หญิงรูปร่างบอบบางแต่ไม่ผอมแห้ง เธอมีทรวดทรงที่สวยงามและผิวที่ขาวจนอมชมพู มารดาของเธอถึงได้ตั้งชื่อว่าชมพูตามสีผิวของเธอ
ปรางค์วลัยกลับมาที่โต๊ะก็ไม่เจอใครอยู่แล้ว เธอมองไปรอบๆ ก็เห็นเพื่อนเต้นกันอยู่ไม่ไกล ตอนแรกตั้งใจจะออกไปเต้นด้วย แต่เมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยู่แล้วกลัวของหาย จึงตัดสินใจอยู่นั่งเฝ้าของแล้วดื่มไปเรื่อยๆ
“อ้าว 2 สาวล่ะครับ” ชยกรกลับมาจากสูบบุหรี่ไม่เห็นชมพูแพรก็มีสีหน้าไม่พอใจ“นู่นค่ะ” ปรางค์วลัยชี้ไปที่เพื่อนสาวทั้งสองคนที่เต้นกันอย่างสนุกสนาน“ไอ้หมอ” เมฆาที่เพิ่งมาถึงเดินเข้ามาตบบ่าชยกรเป็นการบอกว่าเขามา“อะไรไอ้หมอ” เขาย้อนเพื่อนพร้อมกับมองไปที่หญิงสาวตัวเล็กตาวาว“จะมาไม่บอกเพื่อนนะมึง” เมฆาที่มัวแต่คุยไม่ทันได้หันไปมองรอบข้าง“คำสั่งเมีย” ชยกรบอกเสียงเรียบ“กูล่ะหมั่นไส้คนหลงเมีย” เมฆาแขวะเพื่อนด้วยความหมั่นไส้ ก่อนจะมองไปที่โซฟาก็เห็นว่าปรางค์วลัยนั่งอยู่ ก็หน้าเหวอไป“ไง” ปรางค์วลัยทักเมฆาสีหน้าเรียบเฉย“เฮ้ย ยัยปลาการ์ตูน มาได้ยังไง” เมฆาที่เห็นปรางค์วลัยก็โวยวาย“ฉันมากับเพื่อนฉันเหอะน่า”“เดี๋ยวนะ สองคนนี้รู้จักกันเหรอ” ชยกรถามเมื่อได้ยินทั้งสองคนคุยกัน“พี่ชายข้างบ้านค่ะ แต่ไม่ได้นับถือเป็นพี่ เพราะมันมั่วผู้หญิง” ปรางค์วลัยบอกชยกรแล้วยิ้มให้“ยัยปากจัด” เมฆาแขวะปรางค์วลัย แต่หญิงสาวก็ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้“อย่าฆ่ากันตายล่ะ เดี๋ยวมา” ชยกรหมุนตัวเดินออกไป ปล่อยให้เมฆากับปรางค์วลัยเถียงกันอยู่แบบนั้นทางด้านชมพูแพรกับพศินที่ออกมาเต้นกันอย่างสนุกสนานก็ไม่ได้สนใจว่าใครจะเข้ามาใก
“อ๊ะ.....” เสียงหวานใสอุทานตกใจ มือเล็กจับบ่ากว้างเอาไว้อย่างลืมตัว“บางทีเรื่องพวกนี้ใช้สัญชาตญาณก็ได้นะ อย่าไปเกร็งหรือกลัวมันเลย” เขาพึมพำเสียงแหบพร่า ริมฝีปากยังแนบชิดลำคอขาวหญิงสาวปล่อยให้เขาทำรอยที่คอเธอจนพอใจ เมื่อมือหนาคลายออกแล้วเคลื่อนมาที่กระดุมชุดนอนก็สะดุ้งเล็กน้อย แต่ก็ปล่อยให้เขาแกะมันออกจนหมด“กลัวไหม”“ไม่รู้สิคะ บอกไม่ถูก”เจ้าของตักแกร่งถือโอกาสสูดดมกลิ่นหอมหวานจากร่างบางบนตัก อ้าปากกัดหัวไหล่มนแรงๆ อย่างมันเขี้ยว“อ๊ะ!!!”“หืม เสียงได้อารมณ์ดีจัง”“กัดทำไมคะ”“มันเขี้ยว อยากจับฟัดแรงๆ”“หมายความว่ายังไง อ๊ะ.....”ไม่ทันสิ้นเสียง หญิงสาวก็ถูกริมฝีปากหยักแนบลงมา ลิ้นหนากระหวัดเกี่ยวเรียวลิ้นบางเล่น ตักตวงความหวานแกมหยอกล้อ ฝ่ามือหนาลูบไล้ต้นขาขาวเนียนแผ่วเบา หญิงสาวสะดุ้ง เมื่อรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ดิ้นขยุกขยิกอยู่ตรงใต้หว่างขาของเธอ อะไรบางอย่างที่เริ่มใหญ่โตขึ้นมาเป็นลำ“…..พี่หนึ่ง” เขาละริมฝีปากออกให้หญิงสาวได้หายใจ เธอสูดลมหายใจเข้าปอด มือดันหน้าอกเขาไว้“ครับ” ชายหนุ่มฝังจมูกลงบนลำคอระหง กัดงับผิวเนื้ออ่อนเล่นอย่างพอใจต้นขาแข็งแรงขยับแยกออกกว้างให้มีพื้นที่
“ตื่นได้แล้วคนสวย อาหารเช้าพร้อมแล้ว”ชยกรตื่นมาจัดเตรียมอาหารแต่เช้า ก่อนที่จะกลับเข้ามาปลุกหญิงสาวที่ยังนอนสลับสนิทอยู่ด้วยแววตาเอ็นดู“วันนี้วันอาทิตย์ เพราะฉะนั้น.....ฝันดีค่ะ”“หยุดเลย ตื่นมากินข้าวก่อน แล้วค่อยนอนต่อ”หญิงสาวขยับกายลุกขึ้นมานั่ง แต่ดวงตายังปิดอยู่ จนร่างสูงต้องดึงให้เธอลุกขึ้น แล้วเอาผ้าเช็ดตัวมาห่อร่างกายเปลือยเปล่าเอาไว้ แล้วพาเธอเดินเข้าไปในห้องน้ำ“อาบน้ำเลย พี่เตรียมแปรงสีฟันให้แล้ว เสื้อผ้าแขวนอยู่หน้าตู้”“ค่าๆ”ชมพูแพรไม่ทันได้ฟังว่าเขาพูดอะไรแต่ก็ขานรับแต่โดยดี จนเมื่อเขาออกไปสักพักเธอถึงตั้งสติได้ จัดการล้างหน้าแปรงฟันแล้วอาบน้ำด้วยความรวดเร็ว“อะไรคะ”“โจ๊ก เจ้านี้อร่อย พี่ลงไปซื้อมาตั้งแต่ 6 โมง”“ตื่นเช้าไปไหมคะ วันนี้วันอาทิตย์นะคะ”“เคยชินน่ะสิ”หลังจากชมพูแพรหย่อนกายนั่งลงและหยิบช้อนขึ้น ชยกรก็เริ่มลงมือจัดการมื้อเช้า ทั้งคู่นั่งคุยกันไปเรื่อยๆ จนกระทั่งกินเสร็จ หญิงสาวจึงเก็บถ้วยชามไปล้างแล้วกลับมานอนเล่นที่โซฟา“อยากไปไหนไหม”“ไม่ค่ะ ขี้เกียจ พรุ่งนี้ก็ต้องไปทำงานแล้ว”“ให้พี่ไปส่งไหม”“ชมพูไปเองดีกว่า ชมพูเข้างาน 9 โมง ออกจากบ้าน 8 โมงก็ทัน”“
เช้าวันต่อมา ชมพูแพรมาทำงานแต่เช้าตามปกติ หญิงสาวมีหน้าที่จัดเคลียร์เอกสารที่ได้รับเข้ามายังฝ่ายศูนย์วิจัยและแยกเป็นสัดส่วน เพื่อส่งต่อไปยังส่วนต่อไป ก่อนที่จะถูกนำส่งไปยังบุคคลตำแหน่งต่างๆ อีกหน้าที่คือนำเอกสารจากแผนกวิจัยส่งไปยังแผนกต่างๆ อาทิเช่น ตึกแพทยศาสตร์ ตึกการปกครอง ตึกอธิการบดี และอีกมากมายหญิงสาวใช้เวลาปรับตัวอยู่พักใหญ่ กับการที่เธอต้องนั่งโต๊ะในช่วงเช้าและจำแนกเอกสารออกไปส่งในบริเวณมหาวิทยาลัย แต่ไม่นานก็เคยชินและสนุกกับมัน เพราะอย่างน้อย เธอก็ไม่ต้องนั่งเบื่ออยู่แต่ที่โต๊ะทำงาน“อ้าว น้ายุ้ย สวัสดีค่ะ” ชมพูแพรที่มาส่งเอกสารที่ตึกแพทยศาสตร์ได้เจอเพื่อนสนิทของมารดาก็ยกมือไหว้ทักทายด้วยความดีใจ“อ้าว ชมพู มาทำอะไรล่ะ”“ส่งเอกสารให้รองอธิการค่ะ”“งานเป็นยังไงบ้าง ปรับตัวได้หรือยัง”“ปรับตัวได้แล้วค่ะ”“ดีแล้ว ตอนที่น้าเห็นประกาศรับสมัครน้ารีบบอกแม่เราเลย จะได้ให้มาสมัครและมีเวลาอ่านหนังสือสอบเยอะหน่อย”“โชคดีที่สอบติดนะคะ แต่ได้แนวข้อสอบจากน้ายุ้ย เลยช่วยได้เยอะเลย ขอบคุณมากเลยค่ะ”“หลานน้าทั้งคน น้าก็อยากให้ทำงานดีๆ สิ เอาล่ะ น้าไปทำงานก่อนนะ”“ค่ะ สวัสดีค่ะ”“จ้ะ”หลังจา
“น่ากลัวเหมือนกันนะคะเนี่ย”“ใช่ หนักขึ้นทุกวันด้วย แต่หล่อนเป็นหมอฝีมือดี เลยไม่ได้มีใครคิดจะตักเตือนเป็นเรื่องเป็นราวน่ะ”หลังจากออกมาจากโรงพยาบาลได้สักพัก พศินกับปรางค์วลัยก็เล่าเรื่องที่ได้ยินให้กับชยกรและชมพูแพรฟัง หญิงสาวมีอาการตกใจอย่างเห็นได้ชัด เพราะแคทริยาดูไม่น่าจะเป็นแบบนั้นได้“ตอนที่พวกฉันได้ยินยังตกใจเลย ที่หล่อนมีความคิดแบบนั้น” พศินเองก็ยังส่ายหน้าอย่างรู้สึกไม่ดี“ช่างเขาเถอะ ถ้าเขาไม่มาทำให้เดือดร้อนหรือเข้ามายุ่งวุ่นวายมากไปก็ยังพอให้อภัยได้ แต่ถ้ามากกว่านี้ก็เกรงจะเป็นอันตรายนะ” ปรางค์วลัยพูดแบบเป็นกลาง“กลัวจะหนักขึ้นน่ะสิ เพราะถึงขนาดรู้ว่ามีชมพูแล้วยังคิดแบบนี้ได้น่ะ” ชยกรเองก็เริ่มไม่สบายใจ“ก็รอดูกันไปก่อนก็ได้ค่ะ อย่าเพิ่งคิดมากเลย” ชมพูแพรปลอบใจทุกคน แต่ตัวเธอเองก็ไม่ได้สบายใจเท่าไหร่นัก แต่ถึงอย่างไรหล่อนก็เป็นหมอ มีหน้าที่การงานที่ดี คงไม่เสี่ยงทำอะไรสิ้นคิด“ดื่มกันไปก่อนนะสาวๆ พี่ขอขึ้นไปทำงานก่อน” ชยกรพาทั้งสามคนมาส่งที่โต๊ะวีไอพี ก่อนจะขอตัวขึ้นไปห้องทำงานชมพูแพรทำท่าทางโอเคใส่เขาแล้วยิ้มหวานให้ ชยกรจึงเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นสองของร้าน พร้อมกับเรียกผู
“นั่งเล่นหน้าบาร์ก่อนนะ พี่ไปเซ็นเอกสารไม่นาน”“ตามสบายเลยค่ะ ชมพูนั่งดื่มไปเรื่อยๆ ได้ค่ะ”“จ้ะ แม่คุณ อย่าเมาจนเผลอไปกับใครนะ”“ไม่มีใครร้ายเท่าพี่หนึ่งหรอกค่ะ”ชายหนุ่มยิ้มแล้วจุมพิตแก้มนวลแผ่วเบา ก่อนจะแยกตัวเดินขึ้นบันไดไป ชมพูแพรหันมาคุยกับบาร์เทนเดอร์หนุ่ม ลูกน้องของชยกร เขาคอยเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้านายหนุ่มโดยไม่มีใครรู้ จึงชวนหญิงสาวคุยและคอยดูแลไม่ให้ใครเข้ามายุ่งกับเธอผ่านไปหลายชั่วโมงชมพูแพรก็เริ่มเมา เธอดื่มไปเรื่อยๆ จนลืมไปแล้วว่าเธอดื่มไปมากเท่าไหร่ หญิงสาวจึงขอตัวออกไปข้างนอกสักพักเพื่อให้สร่างเมาชมพูแพรยืนสูดอากาศข้างนอกอยู่สักพักก็เดินกลับเข้ามาด้านใน ตรงไปยังโต๊ะวีไอพีตัวในสุดเพื่อนั่งพักอยู่คนเดียว“ทำไมมานั่งในมุมเลยล่ะ ถ้าบอยไม่บอกพี่ไม่รู้เลยนะว่ามาทางนี้”“ก็เพราะเป็นมุมที่ไม่มีใครเห็นไงคะ เลยมา ทั้งมืด ทั้งเป็นมุมอับ เหมาะกับการนั่งพักมากเลยค่ะ” ชมพูแพรพูดเสียงอ้อแอ้ เมื่อชยกรหย่อนตัวนั่งลงข้างๆ“เมาแล้วเหรอ”“ค่ะ ดื่มไปเยอะเลย”หญิงสาวนั่งเอนกายพิงโซฟาอยู่อย่างนั้น ชยกรกวาดสายตามองไปรอบๆ ก็ปรากฏความคิดบางอย่างขึ้นมา“อยากเปลี่ยนบรรยากาศหน่อยไหม”“คะ?” ยังไม่
ชยกรกับเมฆาพากันมาที่ห้องอาหารของโรงพยาบาล ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปซื้อข้าวแล้วกลับมาเจอกันที่โต๊ะ“แคทนั่งด้วยได้ไหมคะ”ระหว่างที่กำลังลงมือกันอยู่ เสียงหวานของผู้หญิงก็ดังขึ้น ทั้งสองหนุ่มเงยหน้ามองพร้อมกัน ก็เห็นแคทริยายืนอยู่พร้อมกับจานข้าวในมือ“เอ่อ ครับ” เมฆาสบตากับชยกรก่อนตอบเสียงอ้อมแอ้มออกมา“เดี๋ยวนี้แคทไม่ค่อยได้เจอคุณ 2 คนเลย คนไข้เยอะเหรอคะ”“ของผมพอประมาณครับ ส่วนของหมอหนึ่งน่าจะยุ่งๆ เรื่องเตรียมตัวไปขอสาว” เมฆาหย่อนระเบิดลูกใหญ่“คะ เพิ่งคบไม่นานไม่ใช่เหรอคะ จะแต่งแล้วเหรอ” แคทริยามีอาการตกใจอย่างเห็นได้ชัด“ครับ พ่อแม่เราเป็นเพื่อนกันพอดี หน้าที่การงานของเขาก็เข้าที่เข้าทางแล้ว เลยว่าจะไปคุยกันในเร็วๆ นี้ครับ” ชยกรตอบน้ำเสียงจริงจัง“เอ่อ ค่ะ” แคทริยาหน้าเจื่อนลง“เออ ฉันว่าจะถาม แล้วชมพูพูดถึงยัยปลาการ์ตูนให้นายฟังบ้างไหม” เมฆาพาทั้งคู่เปลี่ยนเรื่องคุย“ไม่นะ”“แปลกนะ ยัยนั่นไม่นินทาฉันเลยเหรอ”“ทำอะไรให้เขามานินทาล่ะ”“เรื่องของผู้ชายแหละน่า”ชยกรส่ายหน้าอ่อนใจกับความเจ้าชู้ของเมฆา ตัวเขาเองก็เคยเจ้าชู้ แต่เขาเลือกกินและออกไปกินข้างนอก ไม่พาเข้าไปกินที่บ้านหรือคอนโด
“ต๊าย พายุจะเข้า ลูกชายคนเดียวของแม่กลับบ้าน” นวพรส่งเสียงแซวบุตรชายเมื่อเห็นเขาเดินตามหลังสามีเข้ามาในบ้าน“สวัสดีค่ะ” ชมพูแพรยกมือไหว้หลังจากที่นวพรพูดจบ“สวัสดีจ้ะ โดนตาหนึ่งหลอกมาเหรอลูก”“เอ่อ.....”“อย่าแกล้งเด็กๆสิคุณ” ชัชชาติที่เพิ่งเดินเข้ามาเอ่ยปรามด้วยรอยยิ้ม“ก็จริงนี่คะ ว่าแต่ทำไมวันนี้มาด้วยกันได้ล่ะคะ”“ชมพูไปหาเจ้าหนึ่งพอดี เจ้าหนึ่งเลยชวนมานอนที่บ้าน”“อ่อ ยินดีต้อนรับนะจ๊ะ”นวพรกอดหญิงสาวเบาๆพร้อมกับส่งยิ้มอบอุ่นให้ ก่อนที่จะชวนกันเข้าไปในบ้านเพื่อนั่งพักให้หายเหนื่อยก่อนที่จะลงมือจัดการกับมื้อเย็น“ชมพูเห็นตรงทางผ่านก่อนเลี้ยวเข้าบ้านไหม ตรงที่เปล่า”“ค่ะ”“ตรงนั้นแหละ ที่พี่บอกป๋าว่าจะปลูกบ้าน ตรงนั้นก็เป็นที่ดินของเรา แต่ว่าไม่มีแพลนจะทำอะไรก็เลยปล่อยทิ้งเอาไว้”“เอาจริงเหรอคะ”“ใช่ เดี๋ยวชมพูก็ลองดูแบบ ว่าอยากได้แบบไหนบ้างแล้วลิสต์รายการเอาไว้ เดี๋ยวเราค่อยให้อินทีเรียดีไซน์ออกแบบให้เราอีกที”“ให้ชมพูเลือกเหรอ”“ใช่ ถ้าไม่ให้คนอยู่เลือก แล้วจะให้ใครเลือกล่ะ”ชมพูแพรไม่ได้ตอบอะไร เธอนิ่งเงียบไปเพื่อประเมิณสถานการณ์ แต่เมื่อเห็นว่าเขามีแววตาและสีหน้าที่จริงจังจึงยอ
คนตัวเล็กถูกอุ้มมาวางที่พื้นใต้ฝักบัว มือหนาเปิดน้ำให้ไหลลงมาชำระล้างคราบเหงื่อไคล มือใหญ่ลูบไล้เรือนกายบอบบาง ปลายนิ้วเขี่ยปลายยอดดอกบัวตูมอวบเล่นจนมันเป็นไต“พอแล้วค่ะ หมดแรงแล้วนะคะ” เจ้าของร่างบางจับมือหนาของสามี พึมพำพูดเบาๆ ตาใกล้จะปิดลงเต็มทีชยกรก้มลงอ้าปากงับปลายยอดสีชมพูสวยเบาๆ ลิ้นหนาไล้วนรอบๆ มือบีบเคล้นดอกบัวตูมอวบใหญ่ล้นมือรุนแรงจนเป็นรอยมืออีกข้างที่ว่างอยู่เคลื่อนลงไปที่ช่องทางชื้นแฉะ สอดลึกเข้าไปข้างในทีเดียว 2 นิ้ว ทำให้สายธารขาวขุ่นที่ยังค้างอยู่ข้างในไหลออกมาตามเรียวขาสวย“อื้ออออ” ร่างบางหงายเอนศีรษะ หลับตาครางเสียงแผ่ว“อีกสักรอบนะคะ” ฝ่ามืออบอุ่นเอื้อมปิดน้ำ ช้อนอุ้มร่างเล็กขึ้นพิงหลังกับผนัง แขนแกร่งช้อนใต้ขาเรียว พร้อมกับดันแก่นกายร้อนเข้าไปทีเดียวสุดลำในท่าอุ้มแตง“อ๊ายยยย” ชมพูแพรหวีดร้องเสียงดัง แขนคล้องคอหนาช่วยพยุงตัวเองใบหน้าหล่อเหลาโน้มตัวก้มหน้าไปแนบจุมพิตเร่าร้อน ลิ้นหนาสำรวจโพรงปากนุ่มจนทั่ว กระหวัดเกี่ยวลิ้นเล็กปลุกเร้าอารมณ์ สะโพกสอบขยับโยกเบาๆหญิงสาวร้องครางในลำคอ ท่านี้ลำเนื้อของเขาเข้าไปลึก จนเธอเสียววูบวาบไปทั้งตัว ในช่องท้องแน่นจนอึดอัด“รว
“ออกัสล่ะคะ” ชมพูแพรเอ่ยถามขึ้นหลังจากที่เธอออกมาจากห้องน้ำ แล้วเจอสามีนั่งอยู่ในห้อง“หลับไปแล้วค่ะ” ชยกรบอกภรรยาสาวก่อนจะลุกไปโอบเอวบางเอาไว้หลวมๆหลังจากคลอดออกัสได้ไม่นาน รูปร่างของชมพูแพรก็เข้าที่อย่างรวดเร็ว อาจจะเพราะเธอดูแลลูกชายด้วยตัวเอง มีพี่เลี้ยงคอยช่วยหยิบจับบ้างเล็กน้อย กับนอนเป็นเพื่อนหนูน้อยยามค่ำคืนเท่านั้น“ชมพู ออกัส 3 ขวบแล้วนะ” มือหนาหมุนร่างคนตัวเล็กให้หันหน้ามาหาเขา ก่อนจะเอ่ยน้ำเสียงอ้อนๆ“ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ”“พี่ว่ามีน้องให้ออกัสได้แล้วมั้งคะ ออกัสจะได้มีเพื่อนไง”“แต่ออกัสยังเด็กอยู่เลย ถ้ามีน้องให้ออกัส ชมพูก็ต้องแบ่งเวลาให้น้อง ชมพูกลัวออกัสจะน้อยใจค่ะ”“ไม่หรอก พี่ว่าชมพูคิดมากไปนะ”“แต่.....”“ไม่แต่แล้วครับ ออกัสอยากมีน้องแล้วนะ”ชยกรช้อนอุ้มร่างบางที่สัดส่วนเต็มล้นขึ้นเดินตรงไปที่เตียง วางหญิงสาวลงเบาๆ ก่อนจะกระตุกกระโปรงชุดนอนตัวบางขึ้นเล็กน้อย ปลายนิ้วเกี่ยวแพนตี้ตัวจิ๋วออกอย่างรวดเร็ว“พี่หนึ่ง” เสียงหวานใสเอ่ยเรียกตั้งใจจะปรามสามี แต่ขาเรียวแยกออกจากกัน“ว่ายังไงคะ” ชยกรซุกใบหน้าลงดอมดมดอกไม้งามตรงหน้าอย่างหลงใหลลิ้นหนาร้อนผ่าวไล้เลียเกสรสีสวย
พยาบาลหลายคนที่เห็นภาพตรงหน้าต่างปิดปากด้วยความปลื้ม พวกเขาไม่ได้คิดว่าหญิงสาวคนนี้คือภรรยาของชยกร บุตรชายเพียงคนเดียวของเจ้าของโรงพยาบาลแห่งนี้เมื่อถึงเวลาเข้าห้องคลอด หลังจากที่ทำการบล็อกหลังเรียบร้อย ชยกรก็ถูกตามเข้ามาในห้องคลอด เขามีอาการตื่นเต้นเมื่อเห็นภรรยาสาวกำลังนอนรอคลอดอยู่บนเตียงร่างสูงเดินเข้ามานั่งที่เก้าอี้ตรงเหนือศีรษะภรรยาสาวที่พยาบาลจัดเตรียมเอาไว้ให้ มือข้างที่ไม่ได้ติดที่วัดหัวใจกับที่วัดความดันสอดประสานจับมือใหญ่เอาไว้แน่น จนเมื่อหมอเข้ามาและทำการทดสอบว่ายาออกฤทธิ์เรียบร้อยแล้ว จึงเริ่มทำการผ่าคลอด“เป็นยังไงบ้างคะ”“คลื่นไส้ค่ะ”“อดทนอีกนิดเดียวนะ”“ค่ะ”ชมพูแพรเริ่มหน้าซีดเมื่ออยู่ๆ เธอก็มีอาการเวียนหัวรุนแรงและเริ่มหายใจไม่ออก“พี่หนึ่ง ชมพูหายใจไม่ออก”“แป๊บนะ คุณพยาบาลครับ คุณแม่หายใจไม่ออกครับ”“สักครู่นะคะ” พยาบาลหันไปมองหน้าจอแสดงผลของเครื่องต่างๆ ที่ติดตามตัวหญิงสาว ก่อนจะหยิบหน้ากากออกซิเจนมาและใส่ให้เธอ“คุณแม่ใส่หน้ากากออกซิเจนหน่อยนะคะ”หญิงสาวพยักหน้าและหลับตาลง เธอรับรู้แค่เพียงว่ามือของสามีกำลังบีบมือเธออยู่ ข้างใบหูของเธอมีเสียงกระซิบให้กำลังใจไ
เช้าวันต่อมา ชมพูแพรตื่นมาพร้อมกับอาการปวดเมื่อยตัวจากการรับศึกหนัก ยามที่เธอยังไม่ได้ตั้งครรภ์ก็ไม่ได้อ่อนเพลียขนาดนี้ อีกวันเธอยังสามารถลุกไปทำงานไหว แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอจะอ่อนล้าไปหมด“ตื่นแล้วเหรอคะ”“.....” ดวงตากลมโตมองค้อนสามีด้วยความหมั่นไส้ เพราะเขาเล่นงานจนเธอแทบจะหลับคาอกเขาด้วยซ้ำ“อย่าเพิ่งงอนพี่เลยนะคะ กินข้าวเช้าบำรุงตัวเล็กก่อนค่อยงอนต่อนะ”“มันน่างอนนานๆนะคะ”“เอาน่า มาฮันนีมูนนะคะ จะขาดได้ยังไง”“ก็เกินไปค่ะ”“พี่ไม่ได้มีเวลาพาชมพูไปเที่ยวบ่อยนี่คะ สงสารพี่เถอะนะ”“ไม่ค่ะ”“ใจร้ายจัง เอาล่ะ ลุกมากินข้าวก่อนค่อยงอนต่อนะคะคนสวย”หญิงสาวถอนหายใจกับความมึนของสามี แต่ก็ยอมลงจากเตียงแล้วไปกินข้าวเช้าตามที่เขาบอกแต่โดยดี โดยมีสามีหนุ่มใส่เสื้อผ้าให้เธอหลังจากที่ก้าวเท้ามายืนชยกรพาหญิงสาวลงมากินข้าวที่ชั้นล่าง นั่งดื่มกาแฟเป็นเพื่อนเธอจนกระทั่งกินข้าวเสร็จ จึงเก็บล้างจานแล้วพากันออกไปเดินเล่นสองหนุ่มสาวเดินไปริมชายหาด ที่ที่เขาและเธอคิดว่ามันสวยที่สุด ท้องฟ้าเป็นสีคราม สวยงามอย่างที่หาได้น้อยครั้งจากในเมืองมือใหญ่จับจูงมือเล็กเดินเคียงข้างกัน ชยกรกับชมพูแพรยิ้มให้กันด้
วงแขนเรียวคว้าคอหนาเอาไว้แน่น เมื่อร่างเธอถูกอุ้มขึ้นโดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว ชยกรก้าวเท้าออกจากอ่างอาบน้ำมายืนหน้ากระจกบานใหญ่ตรงบริเวณพื้นที่อาบน้ำใต้ฝักบัวที่ส่องเห็นทั้งตัวภายในห้องน้ำ โดยที่ลำกายยังฝังอยู่ในช่องทางคับแน่นชมพูแพรหวีดเสียงแหลมเมื่อยามที่สามีก้าวเดิน มันเสียววูบจนเธอแหงนหน้ากัดปาก จิกเล็บลงบนท่อนแขนแน่น“ลองดูสิคะ สวยนะ ภาพที่มันกำลังอยู่ข้างใน” ดวงตากลมโตปรือขึ้นมองภาพในกระจกเป็นภาพที่ผู้หญิงคนหนึ่งโดนอุ้มกระเตงจากทางด้านหลัง ขาอ้าออกกว้างมีแขนสอดรับใต้ข้อพับขา โดยมีแท่งเนื้ออวบใหญ่สอดใส่คาอยู่ในร่างกาย กลีบดอกไม้คลี่ออกจากกันตามขนาดของลำเนื้อแข็งขึง ใบหน้าหวานแดงก่ำ ปรือตากัดปาก ราวกับเจนจัดเรื่องบนเตียง“ให้ตายเถอะ ยั่วเก่งจัง” เสียงนุ่มนวลครางกระเส่ากับภาพตรงหน้าเขาถอดถอนตัวเองออก ขยับร่างบางวางลงยืนกับพื้น จับสะโพกกลมให้แอ่นลอยขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะจับท่อนเนื้อลำใหญ่จ่อไปที่ปากทางคับแคบ หญิงสาวครางในลำคอ ก่อนจะร้องวี้ดออกมา เมื่อเขากดกระแทกท่อนเนื้อเข้าไปทีเดียวมิดลำ“อ๊ายยย เบาหน่อยค่ะ มันจุก”ร่างสูงย่อขาลง แอ่นสะโพกสอบในท่างัดขึ้นให้ปลายหัวหยักครูดกับข้างใน
หลายเดือนผ่านไป หลังจากที่เสร็จสิ้นพิธีหมั้นและงานเลี้ยงฉลองแต่งงาน บ้านที่ชมพูแพรกับชยกรปลูกเอาไว้ก็เสร็จพอดี ทั้งสองคนย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านใหม่ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลมากนัก ส่วนชมพูแพรก็ลาออกจากงานตามที่สามีและครอบครัวร้องขอหญิงสาวตามเขาไปโรงพยาบาลเกือบทุกวัน ส่วนใหญ่ก็ไปช่วยจัดการเรื่องเอกสารรวมถึงแปลงานจากหนังสือวิจัยที่อยู่ในงานที่ต้องทำของเขาด้วยชมพูแพรเป็นผู้หญิงรูปร่างบาง หน้าท้องของเธอจึงยังไม่นูนออกถึงแม้ว่าเธอจะตั้งครรภ์ได้ 16 สัปดาห์แล้วก็ตาม ยามที่เธอออกไปข้างนอกจะไม่มีใครมองออกเลยว่าเธอกำลังตั้งครรภ์ หญิงสาวจึงต้องติดเข็มกลัดเอาไว้เพื่อความปลอดภัย“ไปไหนคะ” ชมพูแพรถามเขาหลังจากที่รถยนต์คันหรูเคลื่อนออกมาจากลานจอดรถของโรงพยาบาล แต่ไม่ได้ตรงกลับบ้านเหมือนดังเช่นทุกวัน“ไปฮันนีมูนค่ะ” เขาบอกเธอพร้อมกับยิ้มอบอุ่น“หืม พี่หนึ่งทำงานเกือบทุกวัน จะไปทำไมคะ น่าจะพักเหนื่อย”“ไม่ได้สิคะ พี่ก็อยากพาเมียพี่ไปเที่ยวบ้าง อยู่แต่บ้านกับโรงพยาบาล เดี๋ยวจะพาลเบื่อพี่เสียก่อน”“.....”“ล้อเล่นจ้ะ พี่เห็นชมพูไม่ได้ไปไหนนานแล้ว เลยจะพาไปเที่ยว”“ค่ะ” คนตัวเล็กพยักหน้ารับ ก่อนจะปรับเบ
ฝ่ามือเล็กลูบไล้เรือนกายชายหนุ่มแผ่วเบา จากหน้าอกแกร่ง ไล่ลงมาจนถึงกางเกงนอนขายาวสีขาวที่เกาะอยู่กับสะโพกสอบ นิ้วเรียวเกี่ยวขอบมันดึงเล็กน้อย เขารู้หน้าที่ ขยับยกตัวเล็กน้อย ให้คนตัวเล็กได้ดึงมันออกจากตัวเขาได้สะดวกหญิงสาวขยับตัวลุกขึ้นตั้งเข่า แกะกระดุมชุดนอนไม่กี่เม็ด ก่อนจะนั่งคร่อมทับลงมาที่หน้าตักเขาอีกครั้ง เสียงนุ่มนวลคำรามในลำคอเมื่อสัมผัสได้ว่าสิ่งที่แนบอยู่กับเจ้าแท่งเนื้อลำใหญ่ มันไม่ใช่เนื้อผ้าแต่เป็นผิวกายของหญิงสาว ที่ขยับดอกไม้งามถูไถกับแท่งเนื้อจากด้านนอกแผ่วเบา“ทำไมวันนี้ร้อนจัง”“ก็มีสามีเป็นตัวเป็นตนแล้วนี่คะ”“งั้นถ้าเผลอแรงไปหน่อยก็อย่าว่ากันนะ”มือหนาตะปบลงที่ดอกบัวคู่ใหญ่ บีบเคล้นอย่างไม่ออมแรง เจ้าของมันแอ่นตัวรับสัมผัส มือเล็กจับท่อนเนื้อร้อนผ่าวที่ตอนนี้แข็งขึงเป็นลำใหญ่ จนแม้แต่มือของเธอยังกำได้ไม่รอบ“ใหญ่” เสียงหวานใสร้องออกมาเบาๆ มือเล็กรูดขึ้นลง“แล้วถึงใจไหม” เขาถามเธอเสียงแหบพร่าหญิงสาวไม่ตอบอะไร แต่ขยับตัวถอยหลังเล็กน้อย ก้มลงแล้วส่งมันเข้าปากตัวเอง ดวงตากลมโตเหลือบมองสามี มือเล็กกุมมันเอาไว้ทั้งสองมือ รูดมันขึ้นลงเป็นจังหวะ ก่อนจะขยับให้มันเข้าไปใ
“พี่ไปส่งแล้วพี่เข้าโรงพยาบาลเลยนะคะ แล้วตอนบ่ายเดี๋ยวพี่มารับ ไม่ต้องไปเบียดขึ้นรถให้อันตราย”“พี่หนึ่ง ชมพูท้องค่ะ ไม่ได้ป่วย”“ถ้าใครชนหรือกระแทกแรงๆก็อันตรายค่ะ”“.....”“ชมพูลาออกไปทำงานที่โรงพยาบาลดีไหมคะ หรืออยู่บ้านเฉยๆก็ได้”“ไม่เอา ชมพูเบื่อ อยากทำงานมากกว่า”“งั้นก็มาทำงานที่โรงพยาบาลไหมคะ”“เอาไว้ค่อยคุยเรื่องนี้กันนะคะ”“ก็ได้ค่ะ”หลังจากจดทะเบียนสมรสกันเสร็จ ชยกรก็ขับรถมาส่งชมพูแพรที่ทำงาน วันนี้หญิงสาวลางานได้แค่ครึ่งวันเช้าเพราะช่วงบ่ายมีประชุม จึงต้องรีบกลับมาทำงานต่อ ส่วนชยกรเมื่อส่งหญิงสาวเสร็จแล้วก็กลับเข้าโรงพยาบาลหญิงสาวยืนรอส่งจนรถยนต์คันหรูหายไปจากสายตา ก็พอดีกับที่ใกล้เวลาพักเที่ยง อีกทั้งเธอลาเอาไว้ครึ่งวัน จึงไม่ได้ขึ้นไปบนห้องทำงาน แต่นั่งรอพศินกับปรางค์วลัยที่หน้าอาคารแทน“ชมพู”“น้ายุ้ย สวัสดีค่ะ”“ไปไหนมา ไม่ทำงานเหรอ”“ชมพูลาครึ่งวันเช้าค่ะ น้ายุ้ย ชมพูมีข่าวจะแจ้งค่ะ”“ข่าวอะไรคะ”“ชมพูจะแต่งงานค่ะ ตอนนี้กำลังมีน้อง เพิ่งไปจดทะเบียนสมรสมาค่ะ”“อ้าวเหรอ ดีใจด้วยนะจ๊ะ แล้วนี่จัดงานเมื่อไหร่”“เดือนหน้าค่ะ คุณแม่พี่หนึ่งกับคุณแม่เป็นแม่งานให้ค่ะ”“ยินดีด
“ไปอาบน้ำก่อนเลยค่ะ”เมื่อกลับมาถึงที่คอนโด ชมพูแพรที่ยังมึนงงอยู่เดินหายเข้าไปในห้องนอนตามที่ได้รับคำสั่งอย่างว่าง่าย เธอยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นชยกรมองตามแผ่นหลังบอบบางไปก่อนจะเดินเข้าไปในห้องทำงาน ลิ้นชักโต๊ะทำงานชั้นล่างสุดถูกเปิดออก เผยให้เห็นกล่องที่เห็นชัดว่าเป็นที่ตรวจครรภ์ที่วางอยู่ เขาตั้งใจจะให้หญิงสาวตรวจ จึงซื้อมาเก็บเอาไว้เมื่อหลายวันก่อน แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้บอกเพราะกลัวเธอตกใจเพราะชมพูแพรกินยาคุมกำเนิดอยู่หลังจากที่ชมพูแพรอาบน้ำแต่งตัวเสร็จขึ้นเตียงนอนโดยไม่ได้ออกมาข้างนอกเหมือนเช่นทุกวัน เธอตั้งสติแล้วส่งข้อความหามารดาว่าเธอตอบรับคำขอแต่งงานของคนตัวสูง และเขาคิดว่าเธอกำลังตั้งครรภ์ ก่อนที่จะกดปิดเสียงและดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมกายแล้วล้มตัวลงนอนพอชยกรเดินเข้ามาในห้องนอน หญิงสาวก็หลับไปเรียบร้อยแล้ว ดวงตาคมมองคนตัวเล็กแล้วยิ้มออกมา ก่อนจะหายเข้าห้องน้ำไปจัดการตัวเองแล้วออกมานอนเคียงข้างร่างบอบบางแล้วหลับไปด้วยกัน“กูใช้บัญชีสำรองไปโพสต์ข้อมูลของชมพูตามที่มึงส่งมาละ ลงในหน้าเว็บของโรงพยาบาล ในนั้นเป็นเรื่องราวประวัติของมึงกับของชมพู ไม่ว่าจะการศึกษา ฐานะครอบครัว เรื่อง