“กลับได้แล้วคุณ”
“ดึกแล้วเหรอ”
“เปล่า คุณเมาแล้ว”
“เหรอ”
“อือ กลับก็ได้”
ใบหน้าหล่อเหลาส่ายเบาๆ ผู้หญิงคนนี้ไม่เคยระวังตัวเลย เพราะแบบนี้ถึงถูกเขาหลอกขึ้นห้องไปได้ง่ายๆ สงสัยเขาคงต้องคอยตามเฝ้าไม่ให้แอบไปไหนคนเดียว ไม่อย่างนั้นคงได้โดนใครหลอกไปอีก
ชมพูแพรถูกร่างสูงกึ่งลากกึ่งจูงออกมาจากผับไปที่รถ หญิงสาวบ่นเล็กน้อยเมื่อถูกเขาจับยัดใส่รถ ก่อนที่เขาจะกลับไปฝั่งคนขับแล้วเคลื่อนตัวออกไป
“บ้านคุณอยู่ที่ไหน”
“ฉันอยู่คอนโด แถวนี้แหละ”
“ชื่อ”
“.....” หญิงสาวบอกชื่อคอนโดที่เธออยู่เสียงอ้อแอ้ ก่อนจะปรับเบาะนอนลง
“พูดจริง”
“อือ”
“บังเอิญไปหรือเปล่าเนี่ย” ชยกรพึมพำเบาๆ อย่างแปลกใจ แต่เมื่อหันไปมองคนข้างๆ ก็เห็นว่าเธอหลับไปแล้ว จึงหันมาตั้งสมาธิในการมองทาง เพราะเขาเองก็ดื่มไปนิดหน่อยเช่นกัน
“คุณ อยู่ชั้นไหน”
“ชั้น 19”
“แปลก อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น”
ร่างสูงที่เริ่มหงุดหงิดที่คนตัวเล็กยืนเอียงไปเอียงมาจึงอุ้มหญิงสาวขึ้น รอจนลิฟต์มาจอดที่ชั้น 19 ก็เดินออกมา
“ห้องไหน”
“ริมสุด ฝั่งขวา รหัสคือเลข 6 ตัวท้ายบัตรประชาชน” ชมพูแพรบอกเขาระหว่างที่ยังเอียงศีรษะซบกับบ่ากว้าง
เมื่อกดรหัสเข้าห้องเรียบร้อย ชยกรก็อุ้มร่างเล็กมาวางบนโซฟาตัวใหญ่ที่ตั้งอยู่ในห้องรับแขก เขากวาดตามองสไตล์การแต่งห้องของหญิงสาวแล้วยิ้มมุมปากด้วยความพอใจ มันเรียบง่าย ไม่รก ไม่เยอะ ที่สำคัญหญิงสาวคนนี้เป็นระเบียบมาก ทุกอย่างถูกจัดเก็บเข้าที่เข้าทางหมด
“คุณ ลุกไปอาบน้ำแล้วไปนอน”
“อาบไป 2 รอบแล้ว”
“อาบใหม่”
“ขี้บ่นจัง เอาผ้าขนหนูกับชุดนอนในห้องให้หน่อย”
เสียงหวานใสเอ่ยแล้วยิ้มหวาน ชายหนุ่มชะงักไปก่อนจะยอมเดินเข้าไปในห้องนอน หยิบเอาผ้าเช็ดตัวกับชุดนอนในตู้เสื้อผ้าออกมาแล้ววางลงบนตักเจ้าของห้อง
“ไปอาบน้ำ”
“รู้แล้วน่า ขอบคุณที่มาส่งนะคะ”
“พี่หนึ่ง”
“คะ?”
“เรียกผมว่าพี่หนึ่ง คุณอายุน้อยกว่าผมหลายปี”
“อ้อ ค่ะ พี่หนึ่งค่ะ ขอบคุณพี่หนึ่งค่ะที่มาส่ง”
“จะบอกว่าผมก็อยู่ที่นี่ มันจะเหลือเชื่อไปไหม”
“ก็นิดหน่อยค่ะ”
“ผมอยู่ที่นี่ ชั้นนี้ ห้องตรงข้ามคุณ”
“พูดจริงพูดเล่น”
“จริง”
ภายในห้องเกิดความเงียบขึ้นมาเฉียบพลัน ทั้งสองคนมองหน้ากันด้วยความแปลกใจ ชมพูแพรมองสำรวจสีหน้าเขาว่าพูดจริงหรือพูดเล่น แต่สิ่งที่เธอเห็นมีเพียงใบหน้าที่แสดงออกว่าเขาพูดจริง
“เอ่อ งั้นคุณ เอ้ย พี่หนึ่ง กลับห้องเถอะ” หญิงสาวพูดเสียงแผ่วเบา
“อือ รีบอาบน้ำแล้วรีบนอน ดึกมากแล้ว พรุ่งนี้ไปทำงานหรือเปล่า” ชายหนุ่มออกคำสั่งตามความเคยชิน แต่ก็ไม่วายมีคำถามตามวิสัยของหมอ
“พรุ่งนี้วันเสาร์ค่ะ ไม่ได้ไปทำงาน”
“ทำงาน 5 วันเหรอ”
“ค่ะ”
“งั้นอาบน้ำแล้วแต่งตัวให้เรียบร้อย เดี๋ยวผมเข้ามา”
“.....”
ชมพูแพรมองตามร่างสูงที่เปิดประตูออกจากห้องไปด้วยสายตาที่ไม่เข้าใจ ก่อนที่เธอจะลุกขึ้นแล้วรีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนจะกลับออกมานอนเล่นอยู่ในห้องนอน เพราะไม่คิดว่าเขาจะกลับเข้ามาจริงๆ
ทางด้านชยกร หลังจากเขากลับมาที่ห้องของตัวเองก็รีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ชายหนุ่มอยู่ในชุดกางเกงขายาวกับเสื้อยืดสีพื้นไม่มีลาย เขาหยิบโทรศัพท์แล้วเดินออกจากห้องของตัวเอง กลับไปที่ห้องฝั่งตรงข้ามของชมพูแพร
ชายหนุ่มกดรหัสแล้วเข้าห้องไปโดยที่ไม่จำเป็นต้องกดกริ่งเพราะเขาจำรหัสได้แล้ว แต่เมื่อเข้ามาในห้องก็ไม่เห็นร่างเล็ก จึงเดินไปเปิดประตูห้องนอนโดยไม่ได้เคาะ เพราะเขาบอกเธอไปแล้วว่าเขาจะกลับเข้ามา
“เฮ้ย กลับมาจริงดิ”
“อ้าว ก็บอกแล้วไงว่าจะกลับมา”
‘เฮ้ย เสียงใครอะ อีชมพูพาผู้เข้าห้อง’ เสียงพศินโวยวายดังออกมาจากในสาย
ชมพูแพรกำลังวิดีโอคอลอยู่กับพศินและปรางค์วลัย ดังนั้นเมื่อชยกรเข้ามาในห้องนอนแล้วเธอกับเขาคุยกัน เพื่อนทั้ง 2 คนก็จะได้ยินและเห็นท่าทางของเธอไปด้วย
“คุยกับใคร” เขาถามพลางก้าวเท้าเข้ามาใกล้เตียงนอน
“เพื่อนค่ะ”
หญิงสาวตั้งใจว่าจะกดวางสายแต่ก็ไม่ทัน เมื่อร่างสูงขึ้นมาบนเตียงของเธอแล้วชะโงกหน้าเข้ามาอยู่ในหน้าจอของเธอจนพศินกับปรางค์วลัยเห็นเขา
“สวัสดีครับ”
‘สวัสดีค่ะ พวกเราเป็นเพื่อนยัยชมพูค่ะ’ พศินบอกเขาเสียงหวาน
“ครับผม ผมเป็นสามีของชมพูครับ” ชยกรแนะนำตัวสั้นๆ แต่ทำเอาทั้ง 3 คนสะดุ้งโหยง
“เดี๋ยวนะ คุณเป็นสามีฉันเมื่อไหร่เนี่ย” ชมพูแพรถามเขาสีหน้าไม่เข้าใจ
“เมื่อคืน”
“.....” หญิงสาวเงียบลงทันที เรื่องนี้เธอเถียงเขาไม่ได้
‘อ๋อ วันไนท์ของยัยชมพู เฮ้ยยยยย’
ทางปลายสายโวยวายกันเสียงดังลั่น ชยกรรอจนเสียงเงียบลงก็ขยับเข้าไปใกล้ หยิบโทรศัพท์ของหญิงสาวเอามาถือไว้เอง ชมพูแพรจะแย่งคืนก็โดนรวบตัวเข้ามาในอ้อมแขนให้อยู่ในหน้าจอด้วยกัน
“ผมขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ ผมชื่อ ชยกร หรือ หนึ่ง เป็นเจ้าของผับที่พวกคุณไปเมื่อวาน”
‘เห็นไหม ฉันบอกพวกแกแล้ว’ พศินส่งเสียงดีใจที่ตัวเองคิดถูก
‘แล้วคุณมาเจอยัยชมพูได้ยังไงคะ’ ปรางค์วลัยถามด้วยความสงสัย
“ก็พอดีเพื่อนพวกคุณไปโรงพยาบาลแล้วทำบัตรประชาชนตกเอาไว้ ผมเลยเรียกไปที่ผับ”
“เขาเป็นหมอน่ะ” ชมพูแพรเสริมคำพูดของเขาให้เพื่อนเข้าใจ
‘ห๊า’ พศินกับปรางค์วลัยอุทานด้วยความตกใจ
“แล้วก็อยู่ห้องตรงข้ามฉันด้วย” หญิงสาวพูดเสริมไปอีก ทำเอาเพื่อน 2 คนถึงกับพูดไม่ออก
‘บังเอิญไปไหม’ ปรางค์วลัยถามเสียงอ่อย เธอแทบไม่อยากเชื่อ
“อืม บังเอิญของบังเอิญ บังเอิญสุดๆ”
‘งั้นอยู่ด้วยกันไปเถอะ พวกเราไม่กวนแล้ว เจอกันวันจันทร์’ พศินรีบเอ่ยขอตัวเมื่อเห็นสายตาของหมอหนุ่มที่มองเพื่อนของพวกเธอ
หลังจากทั้งสองคนวางสายไปโทรศัพท์ก็ถูกวางลงบนโต๊ะข้างหัวเตียง ชมพูแพรมองเขาด้วยสายตาไม่เข้าใจ แล้วก็ต้องเหวออีกครั้งเมื่อร่างสูงเอนกายลงนอนหน้าตาเฉย
“นอนสิ ไม่นอนเหรอ”
“.....คุณก็กลับไปนอนห้องคุณสิ”
“เรียกผมว่าอะไร”
“.....พี่หนึ่งก็กลับไปนอนที่ห้องสิ”
“ไม่ล่ะ จะนอนนี่ ราตรีสวัสดิ์”
ใบหน้าหวานเหวอไปอีกครั้ง เมื่อเขาหลับตาลงแล้วหลับไปจริงๆ หญิงสาวกระพริบตาปริบด้วยความไม่เข้าใจ เธอลุกขึ้นไปปิดไฟดวงใหญ่แล้วกลับมานอน
“นอนเถอะ อย่าคิดอะไรเยอะเลย” เสียงนุ่มกระซิบแผ่วเบา พร้อมกับที่ร่างสูงพลิกกลับมากอดหญิงสาวเอาไว้
ชมพูแพรนอนตัวเกร็ง เธอไม่เข้าใจความคิดและการกระทำของเขา มันเป็นเพียงแค่คืนเดียวที่เธอกับเขามีความสัมพันธ์กัน สำหรับเธอแล้วอาจจะเสียดายอยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้เสียใจ ยิ่งพอมารู้ว่าเป็นเขาก็ยิ่งไม่เสียใจ เพราะเขาดูไม่ใช่คนที่จะมีอะไรกับใครก็ได้ แต่สิ่งที่เธอไม่เข้าใจคือเขามาคอยตามเธอทำไม
หลังจากคิดนั่นคิดนี่อยู่นานก็ได้ยินเสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอทำให้รู้ว่าเขาหลับไปแล้ว หญิงสาวถึงค่อยผ่อนคลายความเกร็งแล้วหลับตาลง ไม่นานก็หลับสนิทไป
ความเงียบสงบยามค่ำคืนบวกกับความเย็นของเครื่องปรับอากาศ ทำให้สองร่างกอดก่ายกันอย่างไม่รู้ตัว ก่อนที่จะพากันสะดุ้งโหยงเมื่อเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
“ครับ”
‘หมอคะ มีผ่าตัดด่วนค่ะ’
“แล้วหมอเจ้าของไข้ล่ะ”
‘ติดเคสค่ะ หมอเมฆก็อยู่ไกล เกรงว่าจะมาไม่ทันค่ะ’
“โอเค เดี๋ยวผมรีบไป”
ร่างสูงใหญ่ขยับตัวลุกขึ้นนั่ง ตั้งใจจะออกไปจากห้องเงียบๆ แต่ก็ไม่ทัน เมื่อเสื้อของเขาถูกจับเอาไว้
“ไปด้วยได้ไหมคะ”
“ไปทำไม นอนพักอยู่นี่แหละ”
“ไปด้วยค่ะ”
“.....ตามใจ ไปเถอะ เอาไปแต่โทรศัพท์กับกระเป๋าเงินก็พอ เดี๋ยวพี่ไปเอากุญแจรถก่อน”
“ค่ะ”
ชมพูแพรลุกขึ้นจากเตียง เธอเดินไปหยิบเสื้อชั้นในออกมาใส่ด้วยความรวดเร็ว ก่อนที่เธอจะออกจากห้องไปหยิบกระเป๋าสะพายแล้วเอาโทรศัพท์กับกระเป๋าเงินใส่ลงไปแล้วเดินออกไปจากห้อง พอดีกับที่ชยกรออกมาจากห้องอีกฝั่งพอดี
ทั้งสองคนพากันลงไปที่รถ ชยกรรีบขับรถไปที่โรงพยาบาล คอนโดที่นี่อยู่ไม่ไกลโรงพยาบาลมากนัก จึงใช้เวลาไม่นานในการเดินทาง เมื่อมาถึงที่โรงพยาบาล เขารีบจอดรถแล้วเข้าไปด้านใน แต่ก็ยังไม่วายเป็นห่วงคนตัวเล็กที่มาด้วยกัน
“ไปเถอะค่ะ ชมพูจะไปซื้อขนมแล้วมานั่งเล่นแถวนี้แหละ” หญิงสาวชี้ไปที่เก้าอี้โซฟาที่อยู่ใกล้เป็นการบอกเขา
ชายหนุ่มพยักหน้ารับแล้วรีบวิ่งไปที่ลิฟต์ รอจนลิฟต์เปิดก็รีบก้าวเข้าไป สายตาคมมองร่างเล็กที่ยังยืนมองเขาอยู่แล้วพยักหน้าให้เขาสบายใจ
หลังจากที่ประตูลิฟต์ปิดลง ชมพูแพรก็เดินออกไปที่ร้านสะดวกซื้อที่ตั้งอยู่ด้านหน้าของโรงพยาบาล ซื้อขนมและเครื่องดื่มหลายอย่าง ก่อนจะกลับมานั่งรออยู่ที่เก้าอี้โซฟา
“สวัสดีค่ะ มีอะไรให้ช่วยไหมคะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ พอดีมานั่งรอคุณหมอน่ะค่ะ”
“รอคุณหมอเหรอคะ คุณหมอท่านไหนคะ”
“คุณหมอหนึ่งค่ะ”
“เอ่อ คุณหมอไม่มีเวรนะคะ อ๋อ เคสผ่าตัดใช่ไหมคะ”
“ค่ะ”
“ถ้างั้นมีอะไรก็เรียกได้นะคะ”
“ค่ะ ขอบคุณค่ะ”
เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลเห็นหญิงสาวนั่งคนเดียวอยู่นานก็เดินเข้ามาสอบถาม จนเมื่อได้ความว่าเธอมารอคุณหมอหนุ่มสุดหล่อที่เพิ่งถูกตามมารับเคสผ่าตัดก็ยิ้มให้แล้วกลับไปทำหน้าที่ของตัวเอง แต่ก็ไม่วายคอยมองหญิงสาวเป็นระยะ
ชมพูแพรนั่งกินขนมแล้วนั่งเล่นโทรศัพท์รออยู่แบบนั้น จนกระทั่งใกล้สว่างก็เห็นร่างสูงเดินออกมาจากลิฟต์
“ไปเถอะ กลับบ้านกัน”
“ค่ะ”
หญิงสาวขยับตัวลุกขึ้น ดวงตากลมโตมองใบหน้าหล่อเหลาที่มีอาการเหนื่อยล้า เธอเดินตามเขาไปที่รถ แล้วเปิดประตูเข้าไปนั่ง แต่ก็ยังคอยมองเขาด้วยความเป็นห่วง
“ขับไหวใช่ไหมคะ”
“สบายมาก”
“ชมพูขับให้ไหม”
“วันนี้ไม่เป็นไร เอาไว้วันไหนเหนื่อยๆ จะให้ชมพาขับให้นะ”
“ค่ะ”
“กลับบ้านกัน”
เขาพูดจบก็เหยียบคันเร่งเคลื่อนตัวออกจากที่จอดรถไป โดยมีชมพูแพรนั่งคุยเป็นเพื่อนไปตลอดทาง
“นอนต่อเถอะ”
“แล้วพี่ล่ะ”
“คงนอนต่อได้สัก เดี๋ยวก็กลับไปโรงพยาบาล”
“อื้ม”
เมื่อกลับมาถึงที่ห้อง ชยกรแยกไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะกลับเข้ามาในห้องของหญิงสาว เขารอให้เธอเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วกลับมาที่เตียง เขาถึงได้ล้มตัวลงนอน
หญิงสาวตัวเล็กนอนอยู่สักพักก็หลับไปอีกครั้ง และหลังจากที่เธอหลับไป ท่อนแขนแข็งแรงก็โอบกอดร่างบอบบางเอาไว้ราวกับกลัวว่าเธอจะหายไป
‘พี่ไปทำงานก่อนนะชมพู เจอกันตอนเย็นครับ รหัสห้องพี่เปลี่ยนไปใช้รหัสเดียวกับชมพูแล้ว เผื่ออยากเข้าไปสำรวจอะไรก็เข้าไปได้เลยนะ อย่าซนล่ะ’“เดี๋ยวนะ ทำไมทุกอย่างกลายเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะเนี่ย”เสียงหวานใสพึมพำเบาๆ หลังจากที่เธอเห็นกระดาษที่ชยกรเขียนข้อความแปะเอาไว้ที่ประตูห้องนอน เมื่อเธอตื่นแล้วจะเปิดประตูออกไปก็จะเจอข้อความของเขาก่อนเป็นอย่างแรกหญิงสาวออกจากห้องนอนมาก็เจออาหารเช้าที่เขาซื้อเอาไว้ให้วางอยู่บนโต๊ะ พร้อมด้วยกุญแจสำรองของห้องเขากับกุญแจรถวางอยู่คู่กัน ชมพูแพรมองแล้วอมยิ้ม ทำเหมือนเธอจะหนีเที่ยงอย่างนั้นแหละ เตรียมทุกอย่างเอาไว้ให้พร้อมเลยถ้วยจานที่เก็บอยู่ในชั้นวางถูกหยิบออกมาที่โต๊ะ มือเล็กแกะอาหารที่เขาซื้อเอาไว้ให้เทใส่จานแล้วนั่งลงจัดการเงียบๆ ก่อนจะกดรับสายเมื่อมีสายเรียกเข้าดังมาจากโทรศัพท์“ไง”‘ตื่นเช้าจังวะ แล้วนี่กินอะไรเนี่ย’“มื้อเช้า คุณหมอเขาเตรียมเอาไว้ให้”‘ต๊าย ดูแลดีดั่งเมียแต่ง’“พูดมากน่า ว่าแต่มีอะไร”‘โทรมาเช็กดูเฉยๆ ว่ายังอยู่ดีไหม หรือตายคาเตียงไปแล้ว’“ยัยบ้า ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้นย่ะ แถมเมื่อคืนต้องบึ่งไปโรงพยาบาลเพราะมีเคสผ่าตัดด่วนอีกต่างหาก ต
ชมพูแพรนั่งเล่นโทรศัพท์ไปเรื่อยๆ จนเริ่มง่วง เพราะเมื่อคืนเธอตื่นมาโรงพยาบาลเป็นเพื่อนเขา หญิงสาวมองประตูห้องนอนอย่างชั่งใจ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ที่เธอเพิ่งวางลงบนโต๊ะ แล้วลุกออกจากโซฟา เดินหายเข้าไปในห้องหลังจากประชุมเรื่องงบประมาณของแต่ละแผนกอยู่หลายชั่วโมง ชยกรก็กลับมาที่ห้องทำงานด้วยสีหน้าเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด ดวงตาคมมองหาร่างเล็กก่อนจะไปสะดุดตากับกระเป๋าที่วางอยู่บนโต๊ะ จึงเดินไปเปิดประตูห้องนอนแล้วก็พบว่าหญิงสาวกำลังหลับสนิทอยู่บนเตียงเขาปิดประตูห้องนอนเอาไว้ตามเดิมแล้วกลับมานั่งที่โต๊ะทำงาน แล้วเริ่มเคลียร์งานบนโต๊ะต่อ โดยมีผู้ช่วยส่วนตัวนำแฟ้มเอกสารมาวางไว้ให้บนโต๊ะ“กลับบ้านกัน จะแวะไปหาอะไรกินก่อนไหม” ชยกรถามหลังปิดคอมพิวเตอร์แล้วลุกออกจากโต๊ะ“แล้วแต่เลยค่ะ” หญิงสาววางหนังสือในมือลงแล้วขยับตัวลุกขึ้นตามเขา“จะเอาไปอ่านที่บ้านไหม”“ไม่เป็นไรค่ะ”“งั้นก็หาอะไรคั่นไว้ ถ้ามาวันไหนก็ค่อยมาอ่าน”“ค่ะ พรุ่งนี้หยุดไหมคะ”“อื้อ หยุด จะไปไหนล่ะ”“ไปผับกันค่ะ ชวนยัยพินนี่กับการ์ตูนไปด้วย”“สองสาวนั่นน่ะเหรอ”“ค่ะ”“ตามใจ งั้นกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านก่อนแล้วกัน”ชมพูแพรยิ้มหวานอ
“อ้าว 2 สาวล่ะครับ” ชยกรกลับมาจากสูบบุหรี่ไม่เห็นชมพูแพรก็มีสีหน้าไม่พอใจ“นู่นค่ะ” ปรางค์วลัยชี้ไปที่เพื่อนสาวทั้งสองคนที่เต้นกันอย่างสนุกสนาน“ไอ้หมอ” เมฆาที่เพิ่งมาถึงเดินเข้ามาตบบ่าชยกรเป็นการบอกว่าเขามา“อะไรไอ้หมอ” เขาย้อนเพื่อนพร้อมกับมองไปที่หญิงสาวตัวเล็กตาวาว“จะมาไม่บอกเพื่อนนะมึง” เมฆาที่มัวแต่คุยไม่ทันได้หันไปมองรอบข้าง“คำสั่งเมีย” ชยกรบอกเสียงเรียบ“กูล่ะหมั่นไส้คนหลงเมีย” เมฆาแขวะเพื่อนด้วยความหมั่นไส้ ก่อนจะมองไปที่โซฟาก็เห็นว่าปรางค์วลัยนั่งอยู่ ก็หน้าเหวอไป“ไง” ปรางค์วลัยทักเมฆาสีหน้าเรียบเฉย“เฮ้ย ยัยปลาการ์ตูน มาได้ยังไง” เมฆาที่เห็นปรางค์วลัยก็โวยวาย“ฉันมากับเพื่อนฉันเหอะน่า”“เดี๋ยวนะ สองคนนี้รู้จักกันเหรอ” ชยกรถามเมื่อได้ยินทั้งสองคนคุยกัน“พี่ชายข้างบ้านค่ะ แต่ไม่ได้นับถือเป็นพี่ เพราะมันมั่วผู้หญิง” ปรางค์วลัยบอกชยกรแล้วยิ้มให้“ยัยปากจัด” เมฆาแขวะปรางค์วลัย แต่หญิงสาวก็ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้“อย่าฆ่ากันตายล่ะ เดี๋ยวมา” ชยกรหมุนตัวเดินออกไป ปล่อยให้เมฆากับปรางค์วลัยเถียงกันอยู่แบบนั้นทางด้านชมพูแพรกับพศินที่ออกมาเต้นกันอย่างสนุกสนานก็ไม่ได้สนใจว่าใครจะเข้ามาใก
“อ๊ะ.....” เสียงหวานใสอุทานตกใจ มือเล็กจับบ่ากว้างเอาไว้อย่างลืมตัว“บางทีเรื่องพวกนี้ใช้สัญชาตญาณก็ได้นะ อย่าไปเกร็งหรือกลัวมันเลย” เขาพึมพำเสียงแหบพร่า ริมฝีปากยังแนบชิดลำคอขาวหญิงสาวปล่อยให้เขาทำรอยที่คอเธอจนพอใจ เมื่อมือหนาคลายออกแล้วเคลื่อนมาที่กระดุมชุดนอนก็สะดุ้งเล็กน้อย แต่ก็ปล่อยให้เขาแกะมันออกจนหมด“กลัวไหม”“ไม่รู้สิคะ บอกไม่ถูก”เจ้าของตักแกร่งถือโอกาสสูดดมกลิ่นหอมหวานจากร่างบางบนตัก อ้าปากกัดหัวไหล่มนแรงๆ อย่างมันเขี้ยว“อ๊ะ!!!”“หืม เสียงได้อารมณ์ดีจัง”“กัดทำไมคะ”“มันเขี้ยว อยากจับฟัดแรงๆ”“หมายความว่ายังไง อ๊ะ.....”ไม่ทันสิ้นเสียง หญิงสาวก็ถูกริมฝีปากหยักแนบลงมา ลิ้นหนากระหวัดเกี่ยวเรียวลิ้นบางเล่น ตักตวงความหวานแกมหยอกล้อ ฝ่ามือหนาลูบไล้ต้นขาขาวเนียนแผ่วเบา หญิงสาวสะดุ้ง เมื่อรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ดิ้นขยุกขยิกอยู่ตรงใต้หว่างขาของเธอ อะไรบางอย่างที่เริ่มใหญ่โตขึ้นมาเป็นลำ“…..พี่หนึ่ง” เขาละริมฝีปากออกให้หญิงสาวได้หายใจ เธอสูดลมหายใจเข้าปอด มือดันหน้าอกเขาไว้“ครับ” ชายหนุ่มฝังจมูกลงบนลำคอระหง กัดงับผิวเนื้ออ่อนเล่นอย่างพอใจต้นขาแข็งแรงขยับแยกออกกว้างให้มีพื้นที่
“ตื่นได้แล้วคนสวย อาหารเช้าพร้อมแล้ว”ชยกรตื่นมาจัดเตรียมอาหารแต่เช้า ก่อนที่จะกลับเข้ามาปลุกหญิงสาวที่ยังนอนสลับสนิทอยู่ด้วยแววตาเอ็นดู“วันนี้วันอาทิตย์ เพราะฉะนั้น.....ฝันดีค่ะ”“หยุดเลย ตื่นมากินข้าวก่อน แล้วค่อยนอนต่อ”หญิงสาวขยับกายลุกขึ้นมานั่ง แต่ดวงตายังปิดอยู่ จนร่างสูงต้องดึงให้เธอลุกขึ้น แล้วเอาผ้าเช็ดตัวมาห่อร่างกายเปลือยเปล่าเอาไว้ แล้วพาเธอเดินเข้าไปในห้องน้ำ“อาบน้ำเลย พี่เตรียมแปรงสีฟันให้แล้ว เสื้อผ้าแขวนอยู่หน้าตู้”“ค่าๆ”ชมพูแพรไม่ทันได้ฟังว่าเขาพูดอะไรแต่ก็ขานรับแต่โดยดี จนเมื่อเขาออกไปสักพักเธอถึงตั้งสติได้ จัดการล้างหน้าแปรงฟันแล้วอาบน้ำด้วยความรวดเร็ว“อะไรคะ”“โจ๊ก เจ้านี้อร่อย พี่ลงไปซื้อมาตั้งแต่ 6 โมง”“ตื่นเช้าไปไหมคะ วันนี้วันอาทิตย์นะคะ”“เคยชินน่ะสิ”หลังจากชมพูแพรหย่อนกายนั่งลงและหยิบช้อนขึ้น ชยกรก็เริ่มลงมือจัดการมื้อเช้า ทั้งคู่นั่งคุยกันไปเรื่อยๆ จนกระทั่งกินเสร็จ หญิงสาวจึงเก็บถ้วยชามไปล้างแล้วกลับมานอนเล่นที่โซฟา“อยากไปไหนไหม”“ไม่ค่ะ ขี้เกียจ พรุ่งนี้ก็ต้องไปทำงานแล้ว”“ให้พี่ไปส่งไหม”“ชมพูไปเองดีกว่า ชมพูเข้างาน 9 โมง ออกจากบ้าน 8 โมงก็ทัน”“
เช้าวันต่อมา ชมพูแพรมาทำงานแต่เช้าตามปกติ หญิงสาวมีหน้าที่จัดเคลียร์เอกสารที่ได้รับเข้ามายังฝ่ายศูนย์วิจัยและแยกเป็นสัดส่วน เพื่อส่งต่อไปยังส่วนต่อไป ก่อนที่จะถูกนำส่งไปยังบุคคลตำแหน่งต่างๆ อีกหน้าที่คือนำเอกสารจากแผนกวิจัยส่งไปยังแผนกต่างๆ อาทิเช่น ตึกแพทยศาสตร์ ตึกการปกครอง ตึกอธิการบดี และอีกมากมายหญิงสาวใช้เวลาปรับตัวอยู่พักใหญ่ กับการที่เธอต้องนั่งโต๊ะในช่วงเช้าและจำแนกเอกสารออกไปส่งในบริเวณมหาวิทยาลัย แต่ไม่นานก็เคยชินและสนุกกับมัน เพราะอย่างน้อย เธอก็ไม่ต้องนั่งเบื่ออยู่แต่ที่โต๊ะทำงาน“อ้าว น้ายุ้ย สวัสดีค่ะ” ชมพูแพรที่มาส่งเอกสารที่ตึกแพทยศาสตร์ได้เจอเพื่อนสนิทของมารดาก็ยกมือไหว้ทักทายด้วยความดีใจ“อ้าว ชมพู มาทำอะไรล่ะ”“ส่งเอกสารให้รองอธิการค่ะ”“งานเป็นยังไงบ้าง ปรับตัวได้หรือยัง”“ปรับตัวได้แล้วค่ะ”“ดีแล้ว ตอนที่น้าเห็นประกาศรับสมัครน้ารีบบอกแม่เราเลย จะได้ให้มาสมัครและมีเวลาอ่านหนังสือสอบเยอะหน่อย”“โชคดีที่สอบติดนะคะ แต่ได้แนวข้อสอบจากน้ายุ้ย เลยช่วยได้เยอะเลย ขอบคุณมากเลยค่ะ”“หลานน้าทั้งคน น้าก็อยากให้ทำงานดีๆ สิ เอาล่ะ น้าไปทำงานก่อนนะ”“ค่ะ สวัสดีค่ะ”“จ้ะ”หลังจา
“น่ากลัวเหมือนกันนะคะเนี่ย”“ใช่ หนักขึ้นทุกวันด้วย แต่หล่อนเป็นหมอฝีมือดี เลยไม่ได้มีใครคิดจะตักเตือนเป็นเรื่องเป็นราวน่ะ”หลังจากออกมาจากโรงพยาบาลได้สักพัก พศินกับปรางค์วลัยก็เล่าเรื่องที่ได้ยินให้กับชยกรและชมพูแพรฟัง หญิงสาวมีอาการตกใจอย่างเห็นได้ชัด เพราะแคทริยาดูไม่น่าจะเป็นแบบนั้นได้“ตอนที่พวกฉันได้ยินยังตกใจเลย ที่หล่อนมีความคิดแบบนั้น” พศินเองก็ยังส่ายหน้าอย่างรู้สึกไม่ดี“ช่างเขาเถอะ ถ้าเขาไม่มาทำให้เดือดร้อนหรือเข้ามายุ่งวุ่นวายมากไปก็ยังพอให้อภัยได้ แต่ถ้ามากกว่านี้ก็เกรงจะเป็นอันตรายนะ” ปรางค์วลัยพูดแบบเป็นกลาง“กลัวจะหนักขึ้นน่ะสิ เพราะถึงขนาดรู้ว่ามีชมพูแล้วยังคิดแบบนี้ได้น่ะ” ชยกรเองก็เริ่มไม่สบายใจ“ก็รอดูกันไปก่อนก็ได้ค่ะ อย่าเพิ่งคิดมากเลย” ชมพูแพรปลอบใจทุกคน แต่ตัวเธอเองก็ไม่ได้สบายใจเท่าไหร่นัก แต่ถึงอย่างไรหล่อนก็เป็นหมอ มีหน้าที่การงานที่ดี คงไม่เสี่ยงทำอะไรสิ้นคิด“ดื่มกันไปก่อนนะสาวๆ พี่ขอขึ้นไปทำงานก่อน” ชยกรพาทั้งสามคนมาส่งที่โต๊ะวีไอพี ก่อนจะขอตัวขึ้นไปห้องทำงานชมพูแพรทำท่าทางโอเคใส่เขาแล้วยิ้มหวานให้ ชยกรจึงเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นสองของร้าน พร้อมกับเรียกผู
“นั่งเล่นหน้าบาร์ก่อนนะ พี่ไปเซ็นเอกสารไม่นาน”“ตามสบายเลยค่ะ ชมพูนั่งดื่มไปเรื่อยๆ ได้ค่ะ”“จ้ะ แม่คุณ อย่าเมาจนเผลอไปกับใครนะ”“ไม่มีใครร้ายเท่าพี่หนึ่งหรอกค่ะ”ชายหนุ่มยิ้มแล้วจุมพิตแก้มนวลแผ่วเบา ก่อนจะแยกตัวเดินขึ้นบันไดไป ชมพูแพรหันมาคุยกับบาร์เทนเดอร์หนุ่ม ลูกน้องของชยกร เขาคอยเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้านายหนุ่มโดยไม่มีใครรู้ จึงชวนหญิงสาวคุยและคอยดูแลไม่ให้ใครเข้ามายุ่งกับเธอผ่านไปหลายชั่วโมงชมพูแพรก็เริ่มเมา เธอดื่มไปเรื่อยๆ จนลืมไปแล้วว่าเธอดื่มไปมากเท่าไหร่ หญิงสาวจึงขอตัวออกไปข้างนอกสักพักเพื่อให้สร่างเมาชมพูแพรยืนสูดอากาศข้างนอกอยู่สักพักก็เดินกลับเข้ามาด้านใน ตรงไปยังโต๊ะวีไอพีตัวในสุดเพื่อนั่งพักอยู่คนเดียว“ทำไมมานั่งในมุมเลยล่ะ ถ้าบอยไม่บอกพี่ไม่รู้เลยนะว่ามาทางนี้”“ก็เพราะเป็นมุมที่ไม่มีใครเห็นไงคะ เลยมา ทั้งมืด ทั้งเป็นมุมอับ เหมาะกับการนั่งพักมากเลยค่ะ” ชมพูแพรพูดเสียงอ้อแอ้ เมื่อชยกรหย่อนตัวนั่งลงข้างๆ“เมาแล้วเหรอ”“ค่ะ ดื่มไปเยอะเลย”หญิงสาวนั่งเอนกายพิงโซฟาอยู่อย่างนั้น ชยกรกวาดสายตามองไปรอบๆ ก็ปรากฏความคิดบางอย่างขึ้นมา“อยากเปลี่ยนบรรยากาศหน่อยไหม”“คะ?” ยังไม่
ชยกรกับเมฆาพากันมาที่ห้องอาหารของโรงพยาบาล ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปซื้อข้าวแล้วกลับมาเจอกันที่โต๊ะ“แคทนั่งด้วยได้ไหมคะ”ระหว่างที่กำลังลงมือกันอยู่ เสียงหวานของผู้หญิงก็ดังขึ้น ทั้งสองหนุ่มเงยหน้ามองพร้อมกัน ก็เห็นแคทริยายืนอยู่พร้อมกับจานข้าวในมือ“เอ่อ ครับ” เมฆาสบตากับชยกรก่อนตอบเสียงอ้อมแอ้มออกมา“เดี๋ยวนี้แคทไม่ค่อยได้เจอคุณ 2 คนเลย คนไข้เยอะเหรอคะ”“ของผมพอประมาณครับ ส่วนของหมอหนึ่งน่าจะยุ่งๆ เรื่องเตรียมตัวไปขอสาว” เมฆาหย่อนระเบิดลูกใหญ่“คะ เพิ่งคบไม่นานไม่ใช่เหรอคะ จะแต่งแล้วเหรอ” แคทริยามีอาการตกใจอย่างเห็นได้ชัด“ครับ พ่อแม่เราเป็นเพื่อนกันพอดี หน้าที่การงานของเขาก็เข้าที่เข้าทางแล้ว เลยว่าจะไปคุยกันในเร็วๆ นี้ครับ” ชยกรตอบน้ำเสียงจริงจัง“เอ่อ ค่ะ” แคทริยาหน้าเจื่อนลง“เออ ฉันว่าจะถาม แล้วชมพูพูดถึงยัยปลาการ์ตูนให้นายฟังบ้างไหม” เมฆาพาทั้งคู่เปลี่ยนเรื่องคุย“ไม่นะ”“แปลกนะ ยัยนั่นไม่นินทาฉันเลยเหรอ”“ทำอะไรให้เขามานินทาล่ะ”“เรื่องของผู้ชายแหละน่า”ชยกรส่ายหน้าอ่อนใจกับความเจ้าชู้ของเมฆา ตัวเขาเองก็เคยเจ้าชู้ แต่เขาเลือกกินและออกไปกินข้างนอก ไม่พาเข้าไปกินที่บ้านหรือคอนโด
“นั่งเล่นหน้าบาร์ก่อนนะ พี่ไปเซ็นเอกสารไม่นาน”“ตามสบายเลยค่ะ ชมพูนั่งดื่มไปเรื่อยๆ ได้ค่ะ”“จ้ะ แม่คุณ อย่าเมาจนเผลอไปกับใครนะ”“ไม่มีใครร้ายเท่าพี่หนึ่งหรอกค่ะ”ชายหนุ่มยิ้มแล้วจุมพิตแก้มนวลแผ่วเบา ก่อนจะแยกตัวเดินขึ้นบันไดไป ชมพูแพรหันมาคุยกับบาร์เทนเดอร์หนุ่ม ลูกน้องของชยกร เขาคอยเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้านายหนุ่มโดยไม่มีใครรู้ จึงชวนหญิงสาวคุยและคอยดูแลไม่ให้ใครเข้ามายุ่งกับเธอผ่านไปหลายชั่วโมงชมพูแพรก็เริ่มเมา เธอดื่มไปเรื่อยๆ จนลืมไปแล้วว่าเธอดื่มไปมากเท่าไหร่ หญิงสาวจึงขอตัวออกไปข้างนอกสักพักเพื่อให้สร่างเมาชมพูแพรยืนสูดอากาศข้างนอกอยู่สักพักก็เดินกลับเข้ามาด้านใน ตรงไปยังโต๊ะวีไอพีตัวในสุดเพื่อนั่งพักอยู่คนเดียว“ทำไมมานั่งในมุมเลยล่ะ ถ้าบอยไม่บอกพี่ไม่รู้เลยนะว่ามาทางนี้”“ก็เพราะเป็นมุมที่ไม่มีใครเห็นไงคะ เลยมา ทั้งมืด ทั้งเป็นมุมอับ เหมาะกับการนั่งพักมากเลยค่ะ” ชมพูแพรพูดเสียงอ้อแอ้ เมื่อชยกรหย่อนตัวนั่งลงข้างๆ“เมาแล้วเหรอ”“ค่ะ ดื่มไปเยอะเลย”หญิงสาวนั่งเอนกายพิงโซฟาอยู่อย่างนั้น ชยกรกวาดสายตามองไปรอบๆ ก็ปรากฏความคิดบางอย่างขึ้นมา“อยากเปลี่ยนบรรยากาศหน่อยไหม”“คะ?” ยังไม่
“น่ากลัวเหมือนกันนะคะเนี่ย”“ใช่ หนักขึ้นทุกวันด้วย แต่หล่อนเป็นหมอฝีมือดี เลยไม่ได้มีใครคิดจะตักเตือนเป็นเรื่องเป็นราวน่ะ”หลังจากออกมาจากโรงพยาบาลได้สักพัก พศินกับปรางค์วลัยก็เล่าเรื่องที่ได้ยินให้กับชยกรและชมพูแพรฟัง หญิงสาวมีอาการตกใจอย่างเห็นได้ชัด เพราะแคทริยาดูไม่น่าจะเป็นแบบนั้นได้“ตอนที่พวกฉันได้ยินยังตกใจเลย ที่หล่อนมีความคิดแบบนั้น” พศินเองก็ยังส่ายหน้าอย่างรู้สึกไม่ดี“ช่างเขาเถอะ ถ้าเขาไม่มาทำให้เดือดร้อนหรือเข้ามายุ่งวุ่นวายมากไปก็ยังพอให้อภัยได้ แต่ถ้ามากกว่านี้ก็เกรงจะเป็นอันตรายนะ” ปรางค์วลัยพูดแบบเป็นกลาง“กลัวจะหนักขึ้นน่ะสิ เพราะถึงขนาดรู้ว่ามีชมพูแล้วยังคิดแบบนี้ได้น่ะ” ชยกรเองก็เริ่มไม่สบายใจ“ก็รอดูกันไปก่อนก็ได้ค่ะ อย่าเพิ่งคิดมากเลย” ชมพูแพรปลอบใจทุกคน แต่ตัวเธอเองก็ไม่ได้สบายใจเท่าไหร่นัก แต่ถึงอย่างไรหล่อนก็เป็นหมอ มีหน้าที่การงานที่ดี คงไม่เสี่ยงทำอะไรสิ้นคิด“ดื่มกันไปก่อนนะสาวๆ พี่ขอขึ้นไปทำงานก่อน” ชยกรพาทั้งสามคนมาส่งที่โต๊ะวีไอพี ก่อนจะขอตัวขึ้นไปห้องทำงานชมพูแพรทำท่าทางโอเคใส่เขาแล้วยิ้มหวานให้ ชยกรจึงเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นสองของร้าน พร้อมกับเรียกผู
เช้าวันต่อมา ชมพูแพรมาทำงานแต่เช้าตามปกติ หญิงสาวมีหน้าที่จัดเคลียร์เอกสารที่ได้รับเข้ามายังฝ่ายศูนย์วิจัยและแยกเป็นสัดส่วน เพื่อส่งต่อไปยังส่วนต่อไป ก่อนที่จะถูกนำส่งไปยังบุคคลตำแหน่งต่างๆ อีกหน้าที่คือนำเอกสารจากแผนกวิจัยส่งไปยังแผนกต่างๆ อาทิเช่น ตึกแพทยศาสตร์ ตึกการปกครอง ตึกอธิการบดี และอีกมากมายหญิงสาวใช้เวลาปรับตัวอยู่พักใหญ่ กับการที่เธอต้องนั่งโต๊ะในช่วงเช้าและจำแนกเอกสารออกไปส่งในบริเวณมหาวิทยาลัย แต่ไม่นานก็เคยชินและสนุกกับมัน เพราะอย่างน้อย เธอก็ไม่ต้องนั่งเบื่ออยู่แต่ที่โต๊ะทำงาน“อ้าว น้ายุ้ย สวัสดีค่ะ” ชมพูแพรที่มาส่งเอกสารที่ตึกแพทยศาสตร์ได้เจอเพื่อนสนิทของมารดาก็ยกมือไหว้ทักทายด้วยความดีใจ“อ้าว ชมพู มาทำอะไรล่ะ”“ส่งเอกสารให้รองอธิการค่ะ”“งานเป็นยังไงบ้าง ปรับตัวได้หรือยัง”“ปรับตัวได้แล้วค่ะ”“ดีแล้ว ตอนที่น้าเห็นประกาศรับสมัครน้ารีบบอกแม่เราเลย จะได้ให้มาสมัครและมีเวลาอ่านหนังสือสอบเยอะหน่อย”“โชคดีที่สอบติดนะคะ แต่ได้แนวข้อสอบจากน้ายุ้ย เลยช่วยได้เยอะเลย ขอบคุณมากเลยค่ะ”“หลานน้าทั้งคน น้าก็อยากให้ทำงานดีๆ สิ เอาล่ะ น้าไปทำงานก่อนนะ”“ค่ะ สวัสดีค่ะ”“จ้ะ”หลังจา
“ตื่นได้แล้วคนสวย อาหารเช้าพร้อมแล้ว”ชยกรตื่นมาจัดเตรียมอาหารแต่เช้า ก่อนที่จะกลับเข้ามาปลุกหญิงสาวที่ยังนอนสลับสนิทอยู่ด้วยแววตาเอ็นดู“วันนี้วันอาทิตย์ เพราะฉะนั้น.....ฝันดีค่ะ”“หยุดเลย ตื่นมากินข้าวก่อน แล้วค่อยนอนต่อ”หญิงสาวขยับกายลุกขึ้นมานั่ง แต่ดวงตายังปิดอยู่ จนร่างสูงต้องดึงให้เธอลุกขึ้น แล้วเอาผ้าเช็ดตัวมาห่อร่างกายเปลือยเปล่าเอาไว้ แล้วพาเธอเดินเข้าไปในห้องน้ำ“อาบน้ำเลย พี่เตรียมแปรงสีฟันให้แล้ว เสื้อผ้าแขวนอยู่หน้าตู้”“ค่าๆ”ชมพูแพรไม่ทันได้ฟังว่าเขาพูดอะไรแต่ก็ขานรับแต่โดยดี จนเมื่อเขาออกไปสักพักเธอถึงตั้งสติได้ จัดการล้างหน้าแปรงฟันแล้วอาบน้ำด้วยความรวดเร็ว“อะไรคะ”“โจ๊ก เจ้านี้อร่อย พี่ลงไปซื้อมาตั้งแต่ 6 โมง”“ตื่นเช้าไปไหมคะ วันนี้วันอาทิตย์นะคะ”“เคยชินน่ะสิ”หลังจากชมพูแพรหย่อนกายนั่งลงและหยิบช้อนขึ้น ชยกรก็เริ่มลงมือจัดการมื้อเช้า ทั้งคู่นั่งคุยกันไปเรื่อยๆ จนกระทั่งกินเสร็จ หญิงสาวจึงเก็บถ้วยชามไปล้างแล้วกลับมานอนเล่นที่โซฟา“อยากไปไหนไหม”“ไม่ค่ะ ขี้เกียจ พรุ่งนี้ก็ต้องไปทำงานแล้ว”“ให้พี่ไปส่งไหม”“ชมพูไปเองดีกว่า ชมพูเข้างาน 9 โมง ออกจากบ้าน 8 โมงก็ทัน”“
“อ๊ะ.....” เสียงหวานใสอุทานตกใจ มือเล็กจับบ่ากว้างเอาไว้อย่างลืมตัว“บางทีเรื่องพวกนี้ใช้สัญชาตญาณก็ได้นะ อย่าไปเกร็งหรือกลัวมันเลย” เขาพึมพำเสียงแหบพร่า ริมฝีปากยังแนบชิดลำคอขาวหญิงสาวปล่อยให้เขาทำรอยที่คอเธอจนพอใจ เมื่อมือหนาคลายออกแล้วเคลื่อนมาที่กระดุมชุดนอนก็สะดุ้งเล็กน้อย แต่ก็ปล่อยให้เขาแกะมันออกจนหมด“กลัวไหม”“ไม่รู้สิคะ บอกไม่ถูก”เจ้าของตักแกร่งถือโอกาสสูดดมกลิ่นหอมหวานจากร่างบางบนตัก อ้าปากกัดหัวไหล่มนแรงๆ อย่างมันเขี้ยว“อ๊ะ!!!”“หืม เสียงได้อารมณ์ดีจัง”“กัดทำไมคะ”“มันเขี้ยว อยากจับฟัดแรงๆ”“หมายความว่ายังไง อ๊ะ.....”ไม่ทันสิ้นเสียง หญิงสาวก็ถูกริมฝีปากหยักแนบลงมา ลิ้นหนากระหวัดเกี่ยวเรียวลิ้นบางเล่น ตักตวงความหวานแกมหยอกล้อ ฝ่ามือหนาลูบไล้ต้นขาขาวเนียนแผ่วเบา หญิงสาวสะดุ้ง เมื่อรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ดิ้นขยุกขยิกอยู่ตรงใต้หว่างขาของเธอ อะไรบางอย่างที่เริ่มใหญ่โตขึ้นมาเป็นลำ“…..พี่หนึ่ง” เขาละริมฝีปากออกให้หญิงสาวได้หายใจ เธอสูดลมหายใจเข้าปอด มือดันหน้าอกเขาไว้“ครับ” ชายหนุ่มฝังจมูกลงบนลำคอระหง กัดงับผิวเนื้ออ่อนเล่นอย่างพอใจต้นขาแข็งแรงขยับแยกออกกว้างให้มีพื้นที่
“อ้าว 2 สาวล่ะครับ” ชยกรกลับมาจากสูบบุหรี่ไม่เห็นชมพูแพรก็มีสีหน้าไม่พอใจ“นู่นค่ะ” ปรางค์วลัยชี้ไปที่เพื่อนสาวทั้งสองคนที่เต้นกันอย่างสนุกสนาน“ไอ้หมอ” เมฆาที่เพิ่งมาถึงเดินเข้ามาตบบ่าชยกรเป็นการบอกว่าเขามา“อะไรไอ้หมอ” เขาย้อนเพื่อนพร้อมกับมองไปที่หญิงสาวตัวเล็กตาวาว“จะมาไม่บอกเพื่อนนะมึง” เมฆาที่มัวแต่คุยไม่ทันได้หันไปมองรอบข้าง“คำสั่งเมีย” ชยกรบอกเสียงเรียบ“กูล่ะหมั่นไส้คนหลงเมีย” เมฆาแขวะเพื่อนด้วยความหมั่นไส้ ก่อนจะมองไปที่โซฟาก็เห็นว่าปรางค์วลัยนั่งอยู่ ก็หน้าเหวอไป“ไง” ปรางค์วลัยทักเมฆาสีหน้าเรียบเฉย“เฮ้ย ยัยปลาการ์ตูน มาได้ยังไง” เมฆาที่เห็นปรางค์วลัยก็โวยวาย“ฉันมากับเพื่อนฉันเหอะน่า”“เดี๋ยวนะ สองคนนี้รู้จักกันเหรอ” ชยกรถามเมื่อได้ยินทั้งสองคนคุยกัน“พี่ชายข้างบ้านค่ะ แต่ไม่ได้นับถือเป็นพี่ เพราะมันมั่วผู้หญิง” ปรางค์วลัยบอกชยกรแล้วยิ้มให้“ยัยปากจัด” เมฆาแขวะปรางค์วลัย แต่หญิงสาวก็ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้“อย่าฆ่ากันตายล่ะ เดี๋ยวมา” ชยกรหมุนตัวเดินออกไป ปล่อยให้เมฆากับปรางค์วลัยเถียงกันอยู่แบบนั้นทางด้านชมพูแพรกับพศินที่ออกมาเต้นกันอย่างสนุกสนานก็ไม่ได้สนใจว่าใครจะเข้ามาใก
ชมพูแพรนั่งเล่นโทรศัพท์ไปเรื่อยๆ จนเริ่มง่วง เพราะเมื่อคืนเธอตื่นมาโรงพยาบาลเป็นเพื่อนเขา หญิงสาวมองประตูห้องนอนอย่างชั่งใจ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ที่เธอเพิ่งวางลงบนโต๊ะ แล้วลุกออกจากโซฟา เดินหายเข้าไปในห้องหลังจากประชุมเรื่องงบประมาณของแต่ละแผนกอยู่หลายชั่วโมง ชยกรก็กลับมาที่ห้องทำงานด้วยสีหน้าเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด ดวงตาคมมองหาร่างเล็กก่อนจะไปสะดุดตากับกระเป๋าที่วางอยู่บนโต๊ะ จึงเดินไปเปิดประตูห้องนอนแล้วก็พบว่าหญิงสาวกำลังหลับสนิทอยู่บนเตียงเขาปิดประตูห้องนอนเอาไว้ตามเดิมแล้วกลับมานั่งที่โต๊ะทำงาน แล้วเริ่มเคลียร์งานบนโต๊ะต่อ โดยมีผู้ช่วยส่วนตัวนำแฟ้มเอกสารมาวางไว้ให้บนโต๊ะ“กลับบ้านกัน จะแวะไปหาอะไรกินก่อนไหม” ชยกรถามหลังปิดคอมพิวเตอร์แล้วลุกออกจากโต๊ะ“แล้วแต่เลยค่ะ” หญิงสาววางหนังสือในมือลงแล้วขยับตัวลุกขึ้นตามเขา“จะเอาไปอ่านที่บ้านไหม”“ไม่เป็นไรค่ะ”“งั้นก็หาอะไรคั่นไว้ ถ้ามาวันไหนก็ค่อยมาอ่าน”“ค่ะ พรุ่งนี้หยุดไหมคะ”“อื้อ หยุด จะไปไหนล่ะ”“ไปผับกันค่ะ ชวนยัยพินนี่กับการ์ตูนไปด้วย”“สองสาวนั่นน่ะเหรอ”“ค่ะ”“ตามใจ งั้นกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านก่อนแล้วกัน”ชมพูแพรยิ้มหวานอ
‘พี่ไปทำงานก่อนนะชมพู เจอกันตอนเย็นครับ รหัสห้องพี่เปลี่ยนไปใช้รหัสเดียวกับชมพูแล้ว เผื่ออยากเข้าไปสำรวจอะไรก็เข้าไปได้เลยนะ อย่าซนล่ะ’“เดี๋ยวนะ ทำไมทุกอย่างกลายเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะเนี่ย”เสียงหวานใสพึมพำเบาๆ หลังจากที่เธอเห็นกระดาษที่ชยกรเขียนข้อความแปะเอาไว้ที่ประตูห้องนอน เมื่อเธอตื่นแล้วจะเปิดประตูออกไปก็จะเจอข้อความของเขาก่อนเป็นอย่างแรกหญิงสาวออกจากห้องนอนมาก็เจออาหารเช้าที่เขาซื้อเอาไว้ให้วางอยู่บนโต๊ะ พร้อมด้วยกุญแจสำรองของห้องเขากับกุญแจรถวางอยู่คู่กัน ชมพูแพรมองแล้วอมยิ้ม ทำเหมือนเธอจะหนีเที่ยงอย่างนั้นแหละ เตรียมทุกอย่างเอาไว้ให้พร้อมเลยถ้วยจานที่เก็บอยู่ในชั้นวางถูกหยิบออกมาที่โต๊ะ มือเล็กแกะอาหารที่เขาซื้อเอาไว้ให้เทใส่จานแล้วนั่งลงจัดการเงียบๆ ก่อนจะกดรับสายเมื่อมีสายเรียกเข้าดังมาจากโทรศัพท์“ไง”‘ตื่นเช้าจังวะ แล้วนี่กินอะไรเนี่ย’“มื้อเช้า คุณหมอเขาเตรียมเอาไว้ให้”‘ต๊าย ดูแลดีดั่งเมียแต่ง’“พูดมากน่า ว่าแต่มีอะไร”‘โทรมาเช็กดูเฉยๆ ว่ายังอยู่ดีไหม หรือตายคาเตียงไปแล้ว’“ยัยบ้า ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้นย่ะ แถมเมื่อคืนต้องบึ่งไปโรงพยาบาลเพราะมีเคสผ่าตัดด่วนอีกต่างหาก ต