เขาไม่เหมือนกับบ้านอื่นที่อยากจะพุ่งตัวเข้าเมือง ความรู้สึกลึก ๆ ของเขาร้องเตือนว่าในเมืองนั้นน่ากลัวกว่าชนบทมาก“ไอ้หนูเหม่ออะไร รีบฟันคอมันเร็วเข้า” เสียงตะโกนจากคู่หูปลุกให้เขาตื่นจากภวังค์ ใครว่าช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานคนจะไม่คิดอะไร เห็นได้ชัดว่าเขาคิดเป็นตุเป็นตะมากเด็กวัยรุ่นรีบยันตัวขึ้นจากพื้น กระชับมีดยาวในมือแน่น ก่อนอ้อมไปทางด้านหลังของซอมบี้แล้วใส่แรงทั้งหมดไปที่การเหวี่ยงตุบเสียงศีรษะตกกระทบพื้นดังก้องอยู่ในหู“ไม่ต้องไปมอง รีบมาช่วยจัดการตัวต่อไปได้แล้ว” ชายวัยกลางคนตบหลังให้กำลังใจ พอดีกับมีซอมบี้ที่โจเซฟจงใจปล่อยมาให้พวกเขาเก็บประสบการณ์วิ่งตรงมาทางนี้ อาการคลื่นเหียนจึงถูกกดข่มลงไป พวกเขาไม่มีเวลาอ่อนแอ มีแต่ต้องต่อสู้!ฝ่ามือที่กำมีดถูกบีบรัดแน่นขึ้นนี่น่ะเหรอวันสิ้นโลกเฮงซวย!โจเซฟคอยสกัดซอมบี้อยู่ด้านหน้า แม้ว่าจะมีเขาเพียงคนเดียวแต่ก็ยังสามารถหลบการพุ่งเข้าโจมตีของซอมบี้ได้โดยไม่มีส่วนไหนบุบสลาย ฟากทีโอก็คอยสนับสนุนอยู่ในแนวหลังเพื่อไม่ให้ชาวบ้านที่ยังอ่อนประสบการณ์ต้องกลายเป็นพวกมันไปด้วย มีบ้างที่ลูกศรจากหน้าไม้ของคนหลังกำแพงสามารถช่วยชีวิตกลุ่มที่อยู่แนวหน้าไ
เมื่อกลับมาถึงบ้านโจเซฟและทีโอก็ต้องพบกับความโกลาหล บ้านที่เคยสงบกลับมีเสียงร้องไห้ปานจะขาดใจและเสียงร้องโอดโอยของเด็ก ๆ เล็ดลอดออกมาเกิดอะไรขึ้น!!โจเซฟมองหน้าทีโอก่อนจะรีบพุ่งเข้าไปด้านใน หรือว่า… จะมีซอมบี้บุกเข้ามาในบ้าน!ปัง!หัวหน้าทหารรีบผลักประตูบ้านเข้าไปอย่างแรง แต่ภาพแรกที่พวกเขาเห็นคือดาริณีนั่งมองลูกชายที่ถูกพิมพาตีด้วยก้านมะยมในขณะที่ดวงตาแดงเรื่อและมีน้ำหยดลงมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนพิมพาผู้ลงมือคือผู้ที่ปล่อยเสียงร้องไห้ออกมาราวกับว่าก้านมะยมในมือนั้นคือของร้อนที่ไม่ควรแตะต้อง“พี่พิมกับพี่ดากำลังลงโทษเด็ก ๆ ที่ขโมยของของคนอื่นครับ” เฉินเฟิงอธิบาย เขาเป็นคนยื่นกิ่งมะยมให้หญิงสาวเองด้วยซ้ำ แน่นอนว่าลงทุนเร่งโตต้นมะยมหลังบ้านให้สูงใหญ่ เด็ดกิ่งมาลิดใบแล้วส่งให้เองกับมือ ส่วนดาริณีไม่กล้าลงมือด้วยตนเองเพราะกลัวจะทำให้ลูกกระดูกหักจากแรงของตน“แล้วทำไม…”“หัวอกคนเป็นแม่น่ะ” นิโคลัสที่เคยเรียนเกี่ยวกับจิตวิทยาแม่และเด็กมาพูดเสริม “ถึงจะทำโทษเด็กให้เจ็บเพื่อให้พวกเขาหลาบจำ แต่คนที่เจ็บเป็นคนต่อมาก็คือผู้ที่ลงมือ” ยิ่งดาริณีไม่ได้ลงมือเองเพราะกลัวยั้งพลังไม่ได้ยิ่งชอกช้ำการที่ต้
“ถ้าอย่างนั้นก็ให้เฉินเฟิงร่วมเดินทางไปด้วย ก่อนไปก็ไปรับหงส์ที่ภูเขา อย่างไรเราก็ต้องพึ่งพาลางสังหรณ์สุดยอดเพื่อคอยระวังภัย” โจเซฟกล่าวปิดท้ายการประชุมเพราะมัวแต่ประชุมกันมื้อเย็นวันนี้กลุ่มทหารรับจ้างและเฉินเฟิงจึงไม่ได้ออกไปกินอาหารร่วมกับคนในหมู่บ้าน ปกติแล้วกลุ่มแม่บ้านจะทำอาหารที่ลานหมู่บ้านแล้วแจกจ่ายให้ทุกคนได้กิน ใครที่ทำงานหนักจะตักมากหน่อยก็ไม่มีใครว่า ส่วนใครที่ทำน้อยก็ต้องพึงระลึกว่าตนเองทำไปแค่ไหน คุณยายร้านขายของชำเดินมาตามพวกเขาให้ไปรับอาหารมากินด้วยกัน“ขอบคุณมากครับคุณยาย วันนี้พวกผมจะทำอาหารกินกันเอง จริงสิ เดี๋ยวผมจะออกไปหาเสบียงข้างนอกเข้ามาเพิ่มสักหน่อย คุณยายมีอะไรที่อยากได้ไหมครับ” เฉินเฟิงจงใจบอกว่าจะไปด้านนอก แต่ไม่อธิบายเพิ่มว่าเขาจะไปถึงเมืองหลวงเพื่อไม่ให้ชาวบ้านแตกตื่นนึกว่าจะถูกพวกตนทิ้งไว้ข้างหลัง“โอ๊ย ยายจะยังต้องการอะไรล่ะ แค่กินอิ่มนอนหลับก็พอแล้ว ไปข้างนอกก็ระวังตัวกันด้วยนะ เดี๋ยวเอารถลูกชายยายออกไปใช้ก็ได้ ยังไงอาเฟิงก็ไม่มีรถใช่หรือเปล่า”“ครับ กำลังจะไปขอยืมอยู่พอดีเลย” เจ้ากระต่ายยิ้มกว้าง พอเห็นคุณยายเดินกลับไปแล้วก็หันหลังเข้าบ้าน“กลับไปแล
“จนกว่าพวกเขาจะโตและสู้กับซอมบี้ได้ครับ” โจเซฟพูดประโยคสุดท้ายจบก็กลั้นหายใจรอฟังคำตอบ“ขอปฏิเสธค่ะ” พิมพาตอบโดยไม่ต้องคิด เธอไม่อยากให้ลูกสาวออกไปสู้กับพวกสัตว์ประหลาดนั่นอยู่แล้ว ใครจะรับผิดชอบหากลูกของเธอพลาดพลั้งกลายเป็นพวกมัน เธอเหลือลูกสาวเพียงคนเดียวเป็นครอบครัวสุดท้ายที่ทำให้เธอยังมีกำลังใจในการมีชีวิต ถ้าต้องสูญเสียไปอีกครั้ง…เธอก็ไม่ขออยู่เช่นกัน“ไม่รู้ว่าน้องดลจะมีพลังไหม แต่ดาก็ขอฝากให้คุณตุ่นช่วยดูแลแกด้วยนะคะ อย่างน้อยก็สอนพวกการต่อสู้ก็ยังดี” ต่างจากดาริณี หญิงสาวกลับค้อมศีรษะไปด้านหน้ายอมรับข้อเสนอ “ส่วนน้องปอนด์ ดาอยากให้แกตัดสินใจเองค่ะ ถึงตอนนี้ดาจะเป็นผู้ปกครองของเขาแล้ว แต่ก็อยากให้เขาเลือกเองว่าจะสู้อยู่แนวหน้าหรืออยากสนับสนุนอยู่ข้างหลัง”“น้องดา” พิมพามองหญิงสาวร่วมหมู่บ้านดวงตาเบิกกว้าง เท่าที่อีกฝ่ายเคยเล่าให้ฟัง น้องสาวคนนี้เจอเรื่องโหดร้ายมามาก ทำไมยังอยากจะที่จะเผชิญหน้ากับซอมบี้อีก ถึงเราไม่ทำก็ต้องมีคนที่พร้อมจะสู้อยู่แล้ว เป็นคนอ่อนแอคอยสนับสนุนพวกเขาอยู่ในรั้วก็ได้“เพราะดาไม่รู้ว่าจะอยู่ปกป้องลูกได้ถึงเมื่อไหร่ สักวันเขาก็ต้องมีชีวิตเป็นของตัวเอง จะเ
“สรุปว่าเด็กทั้ง 3 คนจะขึ้นไปฝึกซ้อมบนภูเขาใช่ไหมครับ” โจเซฟหันขอคำยืนยันจากผู้ปกครองอีกครั้ง“ไม่ใช่แค่เด็กค่ะ ดาจะไปซ้อมด้วย” ดาริณีก้าวขึ้นมาด้านหน้า “ดาเองก็เป็นคนที่มีพลังพิเศษ ถ้าสามารถทำให้สู้กับซอมบี้หรือสัตว์กลายพันธุ์ได้เก่งกว่านี้ ดาก็พร้อมจะทำ” หญิงสาวเผยสีหน้ามุ่งมั่น“ได้ครับ” หัวหน้าทหารหนุ่มนิ่งงันไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้ายอมรับการตัดสินใจ เขาเองก็เคยคิดอยากจะแนะนำให้หญิงสาวหัดฝึกซ้อมการต่อสู้เช่นกัน แต่ไม่กล้าเอ่ยปากถามสักที...“ถ้าอย่างนั้นใครที่จะขึ้นเขาก็ไปเตรียมเสื้อผ้าเลย บนนั้นมีบ้านที่พวกเราสร้างไว้สำหรับพักผ่อนอยู่ ส่วนใครที่จะเข้าเมืองก็ให้ไปเตรียมอุปกรณ์แค่ที่จำเป็น” โจเซฟปรบมือแจกแจงงานเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะปล่อยให้ทุกคนกลับไปนอนเพื่อเตรียมตัวสำหรับพรุ่งนี้เช้าวันต่อมาคนในหมู่บ้านจึงได้รู้ว่าเฉินเฟิงและคณะทหารรับจ้างบางส่วนจะออกจากหมู่บ้านเพื่อไปหาเสบียงและของใช้จำเป็น มีหลายคนคิดใช้โอกาสนี้ติดตามอีกฝ่ายเข้าเมือง“พวกเราไม่ได้เข้าไปในตัวเมืองจังหวัดหรอกนะครับ แต่จะไปแถบโรงงานอุตสาหกรรมจังหวัดข้าง ๆ” เจ้ากระต่ายตอบ “แถวนั้นมีซอมบี้เยอะ ถ้าพวกคุณจะไปด้วยผมข
“...” ชาวบ้านหลายคนเริ่มนิ่งเงียบ หลายวันที่ผ่านมาพวกเขาอยู่ในรั้วไม้สูงใหญ่ ทำมาหาอาหารกันอย่างปลอดภัย ใครอยากกินผักก็ปลูกพืช อยากกินปลาก็ไปยกยอ ทุกอย่างดูราบรื่นเสมือนว่าไม่เคยพบเจอเรื่องโหดร้ายมาก่อน พอทุกคนได้ยินดังนั้นต่างก็ก้าวถอยห่างจากกิ่งแก้วมากขึ้น“ฉันไม่ไป” มีใครคนหนึ่งพูด เสียงไม่ดังไม่เบานั้นกลับส่งไปถึงทุกคนที่ยืนอยู่บริเวณนั้น“ฉันก็ไม่ไป”“แต่เข้าเมืองอาจปลอดภัยกว่า”“อยู่ที่นี่ก็ดีอยู่แล้ว”“ใช่ ๆ บ้านของเราอยู่ที่นี่ ให้ออกไปอยู่ในเมืองแล้วจะทำอะไร”“ซอมบี้มาก็แค่ช่วยกันสู้”“#^%*^) (^#...”เสียงเริ่มแตกออก มีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการย้ายถิ่นฐานกิ่งแก้วหน้าเสียเมื่อเห็นว่ามีผู้ร่วมอุดมการณ์น้อยกว่าที่คิด ในตอนที่ตั้งใจจะพูดโน้มน้าวอีกกลับโดนลูกชายลากดึงออกมาจากหน้ารถของกลุ่มทหารรับจ้าง“เอะอะอะไรกัน” คุณยายร้านขายของชำให้กุญแจรถกับกลุ่มของเฉินเฟิงเสร็จก็กลับไปพักผ่อนในบ้าน หัวยังไม่ทันถึงหมอนกลับได้ยินเสียงโวยวายดังลอดเข้ามาพอออกมาดูก็เห็นชาวบ้านกลุ่มหนึ่งกำลังยืนล้อมรถของลูกชายเธออยู่“คุณยาย” ชาวบ้านที่มุงอยู่แหวกทางให้คุณยายได้เดินเข้ามา“หืม มีอะไร
ความขุ่นมัวจากการปะทะคารมกับกิ่งแก้วหมดไปเมื่อรถเคลื่อนตัวห่างออกจากหมู่บ้านมากขึ้นเรื่อย ๆ สายลมแรงพัดพากลิ่นชื้นในอากาศขึ้นสูง ไม่มีกลิ่นเหม็นเน่าจากซอมบี้ อากาศในยามเช้าแสนวิเศษภายในรถไม่มีใครปิดกระจกสักคน พวกเขาอยากดื่มดำกับบรรยากาศที่หาได้ยากนี้“ไม่มีใครตามมาเลย” เฉินเฟิงมองไปทางด้านหลัง เห็นเพียงฝุ่นจากดินลูกรังฟุ้งตลบ“ขอแค่พวกเรารับปากว่าจะคอยดูแลหรือพาไปส่งถึงเมืองหลวงคงมีคนตามมาเป็นพรวน” โจเซฟแค่นยิ้มให้กับความคิดของตนเอง เขาอุตส่าห์ห์คิดว่าหมู่บ้านนี้คงแตกต่างแต่ก็ไม่ใช่…ไม่ว่าจะที่ไหนก็ต้องมีคนที่พร้อมจะโทษทุกสิ่งยกเว้นการกระทำของตนเองรวมถึงคนที่ถ้าตนไม่ได้ดีก็จะไม่ยินยอมให้คนอื่นได้ดีเช่นกันไม่ถึง 20 นาที รถก็เคลื่อนมาถึงภูเขาด้านที่พวกเขาลงมา เฉินเฟิงอาสาขึ้นไปส่งเด็ก ๆ เพราะรู้เส้นทางเป็นอย่างดี โจเซฟกับนิโคลัสจะได้ไม่ต้องเหนื่อยเดินขึ้นเดินลง การเดินทางเข้าเมืองยังต้องขอแรงอีกฝ่ายในการขับรถด้วย เพราะเทียบกับตัวเขาที่ขับรถเป็นก็จริง แต่ก็รู้แค่เส้นทางที่ GPS เคยนำทางเท่านั้น ทางสายนอกหรือทางลัดนั้นอย่าได้หวังมีหรือที่นิโคลัสจะปล่อยให้เฉินเฟิงห่างจากสายตา คุณหมอหม
อาหารกระป๋องเองก็ไม่ได้ถูกกินไปเยอะนัก ทั้งที่เขาบอกไปแล้วแท้ ๆ ว่าสามารถหยิบกินได้เลย เกรงใจกันไปได้ เขาเองก็ได้รับความช่วยเหลือจากทีมของโจเซฟมากเหมือนกัน“มาอยู่ที่นี่เอง” นิโคลัสเดินลงบันไดที่ถูกวางเป็นชั้น“พี่หงส์เก็บของเสื้อผ้าเสร็จแล้วเหรอครับ” เจ้ากระต่ายเห็นคุณหมอหมีลงมายังห้องถนอมอาหารก็นึกว่าจะมาตามตนเองไปเตรียมลงจากเขา“ยังหรอก” ชายหนุ่มส่ายหน้า “ผมแค่เห็นว่าคุณหายไป ก็เลยคิดว่าน่าจะอยู่ที่นี่”“อ๋อ มีโอกาสเข้าเมืองทั้งทีก็เลยอยากดูว่ายังขาดเหลืออะไรบ้างน่ะครับ” เครื่องปรุงบางชนิดเขาสามารถหยิบจับจากครัวในบ้านได้ แต่ก็มีขวดที่ใกล้หมดอายุแล้วเช่นกันหรือเขาต้องเร่งโตพืชเพื่อหมักเครื่องปรุงเอง?“อยากกินอาหารประเทศ C เขาบอกว่าเผ็ดใช่ไหม” นิโคลัสชวนคุย เห็นหูกระต่ายกระดุกกระดิกเพราะคุยเรื่องที่สนใจแล้วเพลินตา อยากจะยืดช่วงเวลานี้ให้นานขึ้นอีกสักนิดก็ยังดี“แล้วแต่พื้นที่ครับ แต่อาหารประเทศ C แบบเผ็ดร้อนนั้นถูกปากชาวต่างชาติมากกว่า” ภัตตาคารที่เขาเคยทำอาหารอยู่ก็เลือกเมนูอาหารจากหลายมณฑลมาใส่ไว้ให้ลูกค้าได้เลือกทาน บางคนไม่กินเผ็ดก็จะเลือกเมนูทางภาคเหนือหรือภาคใต้ ใครชอบกินรสจัด
“ไว้ทางเชื่อมเสร็จก็ทำระบบรถรางต่อดีไหมล่ะ จะได้แวะมาดูบ่อย ๆ” หงส์เสนอ“ก็น่าคิดนะ” โจเซฟเห็นด้วย ระหว่างนี้เขาค่อยหาโอกาสแวะมาดูคุณแม่ให้บ่อยขึ้นก็แล้วกันหาจักรยานเสือภูเขาสักคันก็น่าสนใจ“แวะร้านจักรยานตรงนั้นหน่อยสิ” พอดีกับที่ยังไม่ทันหลุดไปยังถนนเส้นนอกก็ปรากฏร้านขายจักรยานที่ถูกทิ้งร้างใกล้กับปั๊มน้ำมัน สภาพของร้านยังคงดูดีอยู่ คิดว่าคนผ่านไปผ่านมาน่าจะสนใจน้ำมันในปั๊มมากกว่าพาหนะที่ต้องใช้แรงตนเองใครจะขี่จักรยานหนีซอมบี้ทันกัน“...” เฉินเฟิงผู้มีประสบการณ์ขี่จักรยานหนีซอมบี้ระดับเริ่มต้นคิด“ฝุ่นเกาะเต็มไปหมด” หงส์กรีดนิ้วไปตามแฮนด์จักรยานได้ฝุ่นหนาเตอะติดขึ้นมาหลายชั้น“เอาไปกี่คันดี” มีที่ใช้ได้และสภาพดีอยู่เยอะทีเดียว“สัก 5 คันก็พอมั้งครับ เยอะกว่านี้จะไม่มีที่วาง” มองไปยังรถบรรทุกเล็กเห็นมังคุดต้องนั่งคุดคู้อยู่กับกล่องสมุนไพรก็น่าสงสารพอแล้ว ไหนจะบนหลังคารถบรรทุกยังมีแผงโซลาร์เซลล์กับแบตเตอรี่อีก ถ้าต้องเบียดกับจักรยานเพิ่มคงเป็นการทรมานสัตว์ใหญ่เกินไป“ร้านนี้มีแร็กจักรยานติดหลังคารถพอดีเลย” ตุ่นเดินเข้าไปสำรวจในร้านแล้วเจอกับแร็กสำหรับล็อกจักรยานไว้กับหลังคารถเข้าพอด
“จริงสิ ผมยังไม่ได้บอกคุณนี่นะ” เฉินเฟิงหันไปมองนิโคลัสคุณหมอพยักหน้าอนุญาตตอบ“มีวิธีได้พลังพิเศษมาแล้วนะครับ นอกเหนือจากการถูกซอมบี้ข่วนหรือกัดแต่ค่อนข้างเสี่ยงหน่อย” เฉินเฟิงอธิบายการใช้คริสตัลสีใสให้ฟังแล้วให้เจ้าตัวลองนำไปปรึกษากับคนในทีมเอาเอง ว่าความเสี่ยงถึงชีวิตนี้มีใครกล้าพอจะรับไว้ไหมวิทย์รับฟังแล้วขมวดคิ้วคิดหนัก“เสี่ยงน่าดูเลยนะครับ” แถมความเสี่ยงนั้นยังมีเฉพาะคนที่อายุเยอะแบบพวกเขาด้วย…และใครจะอยากให้น้อง ๆ ของเขาในบ้านครูเมตตาเป็นแนวหน้าต่อสู้กันล่ะ ถ้าพวกเขาอยากมีพลังก็ควรจะเติบโตและคิดถึงผลดีและผลเสียจากการมีพลังได้เองก่อนลองไปถามเด็ก ๆ ตอนนี้สิว่าใครอยากมีพลังพิเศษบ้าง คงยกมือกันให้พรึ่บ“ผมแค่ให้ข้อมูลที่ผมมี ส่วนคุณจะทำยังไงกับข้อมูลชุดนี้ต่อก็แล้วแต่คุณเลย แต่อยากให้มีสติก่อนจะเอามันเข้าปากด้วยนะครับ” เฉินเฟิงล้วงกระกล่องเหล็กออกมาจากกระเป๋า มอบคริสตัลสีใสให้กับวิทย์ไว้ทั้งหมด 5 เม็ด“นะ… นี่” ให้เขาจะดีหรือ“ผมยังมีอีกเยอะ คุณเก็บไว้เถอะ”“ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะครับ” วิทย์ก้มศีรษะเอวโค้ง 90 องศา บุญคุณที่ได้รับจากกลุ่มนี้ไม่รู้ว่าจะชดใช้อย่างไรหมด“ไม่เป็นไรครั
“บนดาดฟ้ามีเนื้อตะโขงตากแห้งนะ” โจเซฟชี้ชวนให้ดุดาดฟ้าของร้านขายอาหารสัตว์“ก็ว่าได้กลิ่นเนื้อหากแห้งหอมเชียว” ตุ่นทำจมูกฟุดฟิด“พวกนายหลับกันไปนานจนลืมเนื้อที่แช่น้ำไว้ สองเดือนก่อนฉันเลยพามังคุดไปเอาเนื้อขึ้นมาจากน้ำ กว่าจะตัดเหล็กออกมาได้ก็ใช้เวลาไปนานโข แต่ไม่ได้ทำอะไรมากนะแค่ทาเกลือหมักไว้แล้วก็ตากเลย” โจเซฟยักไหล่ เขามีความสามารถด้านงานครัวแค่นี้แหละ เพราะมันเป็นความรู้พื้นฐานในการเอาชีวิตรอดหากต้องติดอยู่ในป่า เวลาต้องเดินทางไกลชายหนุ่มจะพกเกลือติดตัวเสมอ“ดีมากแล้วครับ” เฉินเฟิงสูดดมกลิ่นเค็มในอากาศบ้าง“ได้ยินเชฟพูดแบบนี้ก็โล่งใจ”กี๊ซ! (มังคุดก็ช่วยทำนะ)“เหรอ ๆ มังคุดก็ทำด้วยเหรอ” เฉินเฟิงหันไปสนใจมังคุดที่ยกมือข้างขวาขึ้น พร้อมกับใช้มือซ้ายตบอกตนเอง“ช่วยชิมน่ะสิ” เขากำลังทาเกลืออยู่แท้ ๆ หันไปอีกทีเนื้อที่ตากอยู่บนถาดไม้ก็อันตรธานหายไปทีละชิ้นสองชิ้นหงิง (ก็มันอร่อย)“แสดงว่าเจ้าแสบนี่คงติดใจรสมือของหัวหน้าแล้วล่ะ” เจ้ากระต่ายกลั้วหัวเราะ ไม่ได้โกรธเรื่องการกระทำของมันเลยสักนิด“ก็คงใช่ สองสามวันนี้เนื้อหายไปเกือบ 10 กิโลได้แล้วล่ะ” โจเซฟโยนระเบิดไปอีกลูก“มังคุด!” คราวน
หลังจากทำกายภาพบำบัดอยู่ 2 สัปดาห์ วันนี้จึงเป็นวันแรกที่จะได้ออกจากโรงพยาบาลเสียที ชายหนุ่มเคยเดินตลาดไปแล้วครั้งหนึ่ง ข้าวของที่ผู้คนนำออกมาซื้อขายไม่ได้มีอะไรน่าสนใจอีกเมื่อต้องเดินวนเป็นครั้งที่ 2 เดินได้ไม่นานก็ชวนทุกคนกลับ บนหลังรถกระบะมีแผงโซลาร์เซลล์ที่ได้มาอย่างยากลำบาก เจ้ากระต่ายเดินวนดูมันหลายต่อหลายครั้งพร้อมกับเมนูอาหารที่ผุดขึ้นมาเต็มไปหมดอ้อ เขาซื้อเมล็ดพืชที่ไม่มีอยู่ในหมู่บ้านมาได้จำนวนหนึ่งด้วย ไว้เพาะพันธุ์บนบ้านภูเขาเสร็จค่อยนำไปแจกจ่ายให้กับคนในหมู่บ้านต่อ“ไปหามังคุดกันเถอะครับ” หายไปร่วมสองเดือน มันต้องคิดถึงเขามากแน่“อืม” นิโคลัสไม่ขัดข้อง หงส์กับตุ่นบอกว่าหัวหน้าโจเซฟออกจากค่ายไปอยู่กับมังคุดตั้งแต่ช่วงที่เฉินเฟิงนอนหลับไป ชายหนุ่มก็ไม่ได้กลับเข้ามาในค่ายอีก ทั้งที่แจ้งไว้ว่าอีก 7 วันจะกลับมา ตุ่นที่เป็นห่วงจึงออกไปตามหาที่ร้านขายอาหารสัตว์ที่ให้มังคุดใช้หลับนอนเป็นการชั่วคราว‘ดูเหมือนพี่หัวหน้าจะไปเจอของน่าสนใจเข้าน่ะ ก็เลยพามังคุดตระเวนทั่วเลย’ ตุ่นว่าอย่างนั้น…ไปทำอะไรกันนะฟากสิงหาที่เพิ่งเสนอผลงานวิจัยใหม่ขึ้นที่ประชุมก็งานรัดตัวจนออกมาส่งทั้งสองคนที
ตอนแรกเฉินเฟิงไม่ได้รู้ตัวเลยว่าตนเองมีความสามารถพิเศษเพิ่มขึ้นมา คิดว่าตนเองนั้นคงสามารถใช้พลังพฤกษาได้หลากหลายกว่าเมื่อก่อน การควบคุมที่เคยเชื่องช้าคงมีความเร็วเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดแน่คราวนี้ล่ะ!เขาจะได้เป็นกระต่ายแนวหน้าเสียทีจะลอกวิธีการต่อสู้ของพวกพืชมหาภัยที่เคยเจอมากับตัวเองให้ดู!จุดเริ่มต้นนั้นมาจากไม้ประดับที่ใช้ตกแต่งในห้องพักผู้ป่วยของเขาเอง คาดว่าแต่เดิมห้องนี้อาจจะเป็นห้องที่คนรวยมีเงินในยุคก่อนซื้อไว้ ยามเจ็บไข้จะได้พักผ่อนได้ทันทีโดยไม่ต้องรอเตียงจากทางโรงพยาบาล เพราะที่นี่มีต้นฟิโลเดนดรอนถูกตั้งไว้อยู่ เขาก็จำชื่อไม่ค่อยได้ว่าชื่อเต็ม ๆ ของมันคือต้นอะไร เอาเป็นว่าตามหลักแล้วโรงพยาบาลคงไม่มีทางนำของเหล่านี้มาประดับห้องผู้ป่วยแน่นอนเพราะพืชชนิดนี้… มีพิษเฉินเฟิงมีเพื่อนร่วมงานที่ชอบซื้อต้นไม้ในกระแสมาปลูกมาก ต้นไหนที่ว่าแพงหรือต้นไหนที่เรียกทรัพย์ก็จะไปกวาดซื้อมาไว้ในครอบครองให้ได้ หนึ่งในนั้นก็คือฟิโลเดนดรอนที่เจ้าตัวดูจะชอบมากเป็นพิเศษครั้งหนึ่งเคยมีเด็กฝึกงานไปกินเลี้ยงที่บ้านนั้น พอเหล้าเข้าปากก็ก่อกวนกันเต็มที่ แม้เจ้าของบ้านจะแยกส่วนสถานที่กินเลี้ยงและ
…“อื้อ…” เสียงร้องจากริมฝีปากบางซีดพาให้คนที่กำลังฟุบหน้านอนอยู่ข้างเตียงรู้สึกตัว ใบหูกลมสีน้ำตาลกระดิกไปมาราวกับจะหาต้นตอของเสียง วันนี้เขาอยู่เฝ้าคนรักเพียงคนเดียว สามคนที่เหลือนัดแนะกันว่าจะไปเดินเล่นที่ตลาดนัดกลางคืนแล้วกลับไปนอนที่บ้านเช่า“อือ”“อาเฟิง!” นิโคลัสรีบเงยหน้ามองคนรักในความมืด แสงจันทร์จากหน้าต่างส่องให้เห็นเรียวคิ้วของเจ้ากระต่ายที่กำลังผูกกันเป็นโบหรือว่าจะไข้ขึ้น?คุณหมอหมีใช้หลังมือตนเอง แตะหน้าผาก แก้ม และลำคอ… ก็ไม่มีไข้หรือว่า!!“ที่รัก คุณตื่นแล้วใช่ไหม อาเฟิง อาเฟิง” ชายหนุ่มจ้องมองดวงตาที่ปิดสนิทคู่นั้นอย่างตั้งใจ จินตนาการถึงนัยน์ตาสีทับทิมเปล่งประกายที่เขาชอบจ้องมอง และหวังว่าวันนี้จะได้เห็นมันอีกเพียงแค่เปลือกตาของคนที่นอนอยู่ขยับขึ้นเท่านั้นและดูเหมือนว่าคำภาวนานั้นจะเป็นจริงเฉินเฟิงค่อย ๆ ลืมตาขึ้นท่ามกลางความมืด ทั้งที่รู้สึกว่ากำลังลืมตา แต่ภาพด้านหน้าก็ยังคงดำมืด…หรือว่าเขายังคงฝันอยู่?“อาเฟิง” เสียง…เจ้ากระต่ายหันเหสายตาไปมองด้านข้าง มือของตนถูกบางสิ่งบางอย่างกอบกุมอยู่ ฝ่ามือหนาอุ่นนี้เขาคุ้นชินนัก“พี่... นิค” เสียงที่ถูกเปล่งออกมาทั้งแห
นักวิทย์ฯ อัจฉริยะมองทรัพยากรต่าง ๆ ที่ถูกใช้ไปแล้วก็ครุ่นคิดต่อ การจะให้คนคนหนึ่งเลื่อนขึ้นเป็นระดับ 2 จะต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่อย่างนั้นจะประสบปัญหาเดียวกับทีโอ ทั้งที่เลื่อนเป็นระดับ 2 แล้วแต่ร่างกายที่ไม่ได้รับสารอาหารเลยตลอด 1 เดือนย่อมไม่มีเรี่ยวแรงมากพอจะไปหาอาหารมาบำรุงส่วนที่สูญเสียไปได้ หากปล่อยทิ้งไว้อีก 1 สัปดาห์คงเสียชีวิตไปอย่างน่าเสียดายเป็นจริงอย่างที่สิงหาคาดเดา กลุ่มผู้รอดชีวิตด้านนอกที่เจอสถานการณ์การเลื่อนเป็นระดับ 2 เพียงลำพังล้วนตายจากไปโดยที่ไม่มีใครรู้ บางคนเห็นเพื่อนถูกซอมบี้กัดก็ปลิดชีวิตกันก่อนจะได้พิจารณาอาการเบื้องต้นด้วยซ้ำ พลอยทำให้มนุษย์ยังคงติดอยู่ในระดับ 1 ไปอีกหลายเดือนกว่าสิงหาจะประกาศผลการทดลองนี้“อาหารเช้ามาแล้วครับ” ทีโอถือกล่องใส่อาหารเดินเข้ามาในห้อง ดีนะที่เขาเป็นผู้มีพลังพิเศษระดับ 2 และมีร่างกายแข็งแรง เปลี่ยนเป็นให้คนธรรมดาเดินขึ้นบันได 10 ชั้นทุกวันก็ไม่ไหวหรือเปล่า แถมยังต้องไปเช้า กลางวัน เย็นด้วย “ผมเจอหลานท่านนายพลที่โรงอาหารอีกละ ทักถามหาพี่ทุกวัน”“ช่างหมอนั่นเถอะ” และนี่ก็เป็นคำตอบที่นิโคลัสตอบกลับไปเช่นเดิม“ผมก็ไม่ได้อ
“วันนี้ก็ครบวันที่ 7 แล้วนะครับ มีอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะอีกไหมครับ” สิงหาหยิบชาร์ตคนไข้เดินเข้ามาในห้องพัก VVVIP บนเตียงขนาดใหญ่มีนิโคลัสนอนให้น้ำเกลืออยู่ หลังจากฉีดเข็มแรกเข้าไปคนที่น็อกร่วงกลางอากาศเป็นคนแรกกลับไม่ใช่เฉินเฟิงที่น่าเป็นห่วงที่สุด“ดีขึ้นมากแล้วครับ สองวันนี้ไม่มีอาการอะไรเลยนอกจากอ่อนเพลียเล็กน้อย” นิโคลัสนอนสำรวจตัวเองครู่หนึ่ง อาการหัวใจเต้นแรงที่ปรากฏขึ้นเป็นบางครั้งเหมือนว่าจะหายเป็นปลิดทิ้งแล้ว“ผมลองสแกนกับตรวจคลื่นหัวใจแล้วไม่มีอะไรผิดปกตินะครับ” สิงหาแปลกใจกับอาการของคุณหมอหนุ่มมาก อาการที่เกิดขึ้นกับอีกฝ่ายเป็นนิมิตหมายอันดีของโรคภัยไข้เจ็บ แต่ผลตรวจร่างกายกลับไม่พบอะไรเลย อ้อ มีค่าความเข้มข้นของเลือดที่สูงขึ้น จด ๆ“คิดว่าคงไม่เกี่ยวกัน เชื้อซอมบี้อาจจะไปกระตุ้นภูมิคุ้มกันแล้วส่งผลให้ร่างกายเกิดการ… @%^&%@” เฉินเฟิงกับทีโอนั่งมองหมอสองคนที่เริ่มคุยเรื่องการแพทย์กัน คำศัพท์ที่ไม่เคยได้ยินบินว่อนเต็มห้องพักไปหมด แต่ก็ไม่มีใครเข้าไปแทรกบทสนทนาเพราะรู้ว่าเป็นเรื่องสำคัญ“แล้วอย่างนี้ผมจะเริ่มกินคริสตัลเม็ดนี้ได้หรือยังครับ” เฉินเฟิงหยิบคริสตัลสีเหลืองอ่อนออกม
การจะฉีดวัคซีนได้นั้นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงมากที่สุดก็คือความพร้อมของร่างกาย วันนี้หมีกระต่ายจึงถูกไล่กลับไปกินอาหารและพักผ่อนก่อนหนึ่งวัน พรุ่งนี้ค่อยมาพบสิงหาที่โรงพยาบาลแห่งนี้อีกครั้งนิโคลัสเล่าเรื่องที่ตนจะเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสซอมบี้ในวันพรุ่งนี้ให้กับสมาชิกในทีมฟัง โจเซฟไม่ได้ว่าอะไรเขายอมรับการตัดสินใจของลูกทีมเสมอ โดยมีทีโอที่พยายามโน้มน้าวให้พวกเขารอให้ผลการทดลองนิ่งกว่านี้ก่อนจะดีกว่า“เกิดฉีดไปแล้วหัวใจวายเฉียบพลันขึ้นมาเหมือนหนูทดลองล่ะครับ” ขนาดวัคซีนก่อนวันสิ้นโลกเองก็ยังพัฒนาไปไม่ถึงไหน ยิ่งเวลานี้มีข้อจำกัดในทุกด้านไม่สมบูรณ์พร้อมสักอย่างย่อมสุ่มเสี่ยงมากกว่าแน่ ๆ“นั่นมันตอนที่ร่างกายเราไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง เซลล์ทุกอย่างยังคงเป็นมนุษย์ธรรมดาอยู่ แต่ตอนนี้เวลานี้ร่างกายที่เป็นของเราล้วนไม่มีใครรู้จักดีแม้แต่ตัวเราเอง” นิโคลัสส่ายศีรษะ ตัดสินใจแล้วว่าจะรับวัคซีนพร้อมคนรัก หากต้องเห็นคนรักกลายเป็นซอมบี้หรือหัวใจวายเฉียบพลันขึ้นมา เขาก็พร้อมจะตามไป…ชีวิตที่เหลือต่อจากนี้ล้วนไร้ความหมายหากไม่มีเจ้ากระต่ายเคียงคู่เขาจะกินอาหารอีกต่อไปได้ยังไง… เมื่อคนทำอาหารไ