หลังจากงานถ่ายแบบจบลง บรรยากาศก็เริ่มผ่อนคลายมากขึ้น เสียงจินดาและลูซี่กำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนานกับทีมงานบางส่วนในห้องแต่งตัวก็ต่างต้องชะงักเมื่อมาร์คัสเดินเข้ามาหาทั้งคู่พร้อมรอยยิ้มอย่างอารมณ์ดี
“เก่งสุดๆ เลย ไปกินข้าวกันปะ.....เดี๋ยวเราเลี้ยงเอง” มาร์คัสเอ่ยชวนพลางเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าสะพายให้กับลูซี่
" เอาสิ! กำลังหิวเลย " จินดาที่ได้ยินถึงกับตาเป็นประกายตอบรับเขาด้วยท่าทีที่สดใส
แต่ในระหว่างที่อีกคนกำลังจะเอ่ยปากตอบตกลง เสียงทุ้มไม่พอใจก็ดังขึ้นพร้อมเดินเข้ามาแทรกกลางระหว่างสามคน แถมยังใช้สายตาอาฆาตมองชายหนุ่มตรงหน้าราวกับโกรธกันมานาน
" ลูซี่ไม่ว่าง เธอมีเรื่องต้องกลับไปทำ " น้ำเสียงของเขาเย็นชาแต่แฝงความเป็นเจ้าของอย่างชัดเจนแถมยังดึงคนตัวเล็กมาโอบด้วย
" มันแค่กินข้าวเองนะ อีกอย่างหนูก็หิวมากด้วย " เธอทำหน้ายู่ใส่เขาอย่างออดอ้อนแต่เขากลับมองเธอด้วยสายตาที่แน่วแน่
" คุณออสตินดูจะหวงลูซี่มากเลยนะครับ แต่ผมไม่ได้มีเจตนาไม่ดี "
" ฉันไม่สนว่านายมีเจตนาอะไร!! ฉันสนแค่ว่าอย่ามายุ่งกับลูซี่ " ออสตินกัดฟันสวนกลับทันที ดวงตาสีแดงมองอีกฝ่ายราวกับกำลังเตือน
พลังงานบางอย่างแผ่กระจายเป็นรัศมีวงกว้างทำให้คนที่อยู่ในห้องนี้รู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ไปตามๆ กัน อาการหึงหวงของออสตินกำลังกระจายออกมาในรูปแบบของพลังงานที่มีแต่ลูซี่และสหายคนสนิทเท่านั้นที่เห็น
“ฉันว่าบรรยากาศไม่ดีแหละ….เอาไว้คราวหน้านะมาร์คัส ” อาคินที่ยืนพิงกรอบประตูอยู่เอ่ยขึ้นขัดจังหวะด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
“ฉันก็ว่างั้น….งั้นเรากลับกันเถอะลู”จินดาคว้าข้อมือของเพื่อนสาวเดินออกมาจากกลางวงสนาทนาทันทีเพราะรัศมีของออสตินทำให้เธอเองก็รู้สึกขนลุก
“ไปจินดา! เดี๋ยวฉันไปส่งเธอเองแวะกินข้าวด้วยเลย ”
อาคินคว้าแขนจินดาอย่างรวดเร็วในจังหวะที่เธอกำลังจะเดินผ่านตัวของเขาเพราะไม่อยากให้หญิงสาวไปเป็นก้างตัวใหญ่ เขาเลยต้องอาสาไปส่งเธอที่บ้านพร้อมดูแลให้ด้วยเลย
“จะดีเหรอคะบอส!? ”
“ดีสิ! ทางผ่านไปเถอะ!” มือหนาคว้าข้อมือของหญิงสาวไปอย่างไม่สนว่าใครจะมองยังไงปล่อยให้เพื่อนจัดการเรื่องของตัวเองไป
“ส่วนเธอ! กลับไปกินฉันที่บ้าน ”
“ออสติน! ”
น้ำเสียงแข็งของลูซี่เอ่ยตักเตือนชายหนุ่มที่พูดจาสองแง่สองง่ามพร้อมกับฟาดมือนุ่มใส่ท้องแกร่งอย่างแรงจนอีกฝ่ายถึงกับจุกงอตัวเล็กน้อยแต่ก็ยังเกร็งท่าทีเอาไว้
เพียงแค่สองคู่ลับสายตาไป รอยแสยะยิ้มก็ปรากฏขึ้นใบหน้าของมาร์คัส แววตาพิศวงมองตามหลังพวกเขาอย่างน่าสมเพช
‘หึ! ปีศาจกับมนุษย์! สมสู่กัน ’
ในระหว่างที่รถกำลังแล่นกลับคอนโด บรรยากาศในรถค่อนข้างเงียบ มีเพียงเสียงเพลงคลอเบา ๆ สร้างบรรยากาศไม่ให้เงียบเหงาเกินไป ดวงตาคู่สวยมองออสตินที่กำลังขับรถอย่างตั้งใจก่อนจะยิ้มเล็ก ๆ พลางพูดแหย่ขึ้นมา
" คุณหึงหนูหรือเปล่า ถึงไม่อยากให้หนูเข้าใกล้มาร์คัสขนาดนั้น? "
" ไม่ได้หึง!! แค่ไม่ชอบหน้ามัน " ออสตินหันมามองเธอด้วยหางตาเล็กน้อยก่อนจะพูดเสียงเรียบที่สะกดกลั้นอารมณ์เอาไว้
ลูซี่แอบหัวเราะในใจที่สามารถแหย่ออสตินจนเสียอาการได้ แม้ว่าเขาจะพยายามทำตัวเหมือนคนเย็นชาแต่เธอก็เริ่มสังเกตได้ว่าลึก ๆ แล้วเขามีความรู้สึกบางอย่างที่มากกว่าความผูกพันในพันธสัญญา
เมื่อกลับมาถึงห้อง ออสตินก็ตรงไปที่ครัวทันที ราวกับตั้งใจจะลืมบทสนทนาเมื่อครู่ที่ยังติดค้างในหัว ลูซี่เองก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เธอเดินเข้าห้องนอนไปอาบน้ำชำระร่างกายทิ้งให้ออสตินอยู่กับความคิดของตัวเอง
เขาเปิดตู้เย็นหยิบวัตถุดิบออกมาไล่เรียง ตั้งแต่เนื้อสัตว์ ผักสด และเครื่องปรุง ก่อนจะเริ่มลงมือทำอาหารอย่างคล่องแคล่ว แม้ว่าท่าทางของเขาจะดูสงบนิ่งเหมือนทุกครั้ง แต่ในหัวกลับเต็มไปด้วยความคิดสับสน
" หึงงั้นเหรอ? ฉันแค่ไม่ไว้ใจมันก็เท่านั้น" เขาพึมพำกับตัวเองขณะใช้มีดหั่นผักด้วยความชำนาญ
เสียงน้ำจากฝักบัวดังมาจากห้องน้ำด้านใน สลับกับเสียงเคาะของมีดกับเขียง ออสตินเร่งมืออย่างตั้งใจ ไม่อยากให้ลูซี่ต้องรอนาน
ไม่นานนัก กลิ่นหอมของอาหารก็อบอวลไปทั่วห้องครัว ซุปที่กำลังเคี่ยวบนเตาเดือดปุด ๆ ขณะที่เขาจัดจานพาสต้าลงอย่างประณีต เสร็จทุกอย่างในเวลาไม่นาน ออสตินหยิบผ้าขึ้นมาเช็ดมือพลางมองไปทางประตูห้องนอน
ไม่นานลูซี่ก็เดินออกมาจากห้องด้วยท่าทีที่สดใสเมื่อเห็นอาหารจัดจานอย่างสวยงามที่อยู่บนโต๊ะ เธอสวมใส่ชุดนอนลายการ์ตูนสีสันสดใส กะว่ากินเสร็จก็ทิ้งตัวลงนอนเลย
" มานั่งเร็ว! เดี๋ยวเย็นแล้วจะไม่อร่อย "
" นี่คุณทำเองหมดเลยเหรอ? ดูดีใช้ได้เลยนะเนี่ย " ลูซี่เดินมานั่งตามคำเชิญ กลิ่นหอมของอาหารทำให้เธอยิ้มอย่างพอใจ
หลังจากที่เก็บจานและล้างครัวเสร็จ ออสตินก็พาลูซี่มานั่งที่โต๊ะกลางห้องอีกครั้ง บรรยากาศรอบตัวเงียบสงบ มีเพียงแสงไฟอ่อน ๆ ส่องลงมาจากโคมไฟ
" ลูซี่!! เธอยังอยากยกเลิกพันธสัญญานั่นอยู่ไหม? " ออสตินเริ่มพูดเสียงต่ำแต่จริงจัง
คนตัวเล็กมองเขาด้วยสายตาลังเลเล็กน้อย ใจเธอเต้นแรงราวกับกำลังเต้นตื่นแต่ก็เก็บมันไว้ลึก ๆ เธอไม่ได้ตอบในทันทีเหมือนที่ออสตินคาดหวัง
" นะ.....หนูก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน " เธอเว้นจังหวะ หยิบแก้วน้ำขึ้นมาดื่มเพื่อถ่วงเวลา
" ไม่แน่ใจ? ก่อนหน้านี้เธอยังบอกว่าอยากจะหลุดพ้นจากมันไม่ใช่เหรอ? " ออสตินเลิกคิ้วแต่ก็แอบยิ้มมุมปากอย่างมีหวัง
" มันก็ใช่!แต่ตอนนี้หนูเริ่มรู้สึกว่าการมีพลังมันก็ไม่ได้เลวร้ายกว่าที่คิด "
" งั้นแปลว่าเธอชินกับมันแล้ว? "
" อาจจะใช่...แต่ที่หนูอยากรู้ว่าเกมเจตจำนงที่คุณพูดถึง มันเป็นยังไง " เธอยิ้มตอบแต่สายตาเต็มไปด้วยความแน่วแน่
" เธอนี่ชอบท้าทายจริง ๆ เลยนะ " ออสตินหัวเราะในลำคออย่างชอบใจในความมุ่งมั่นของเธอ
" แล้วไงละ? คุณบอกเองว่าถ้าหนูชนะ คุณจะยกเลิกพันธสัญญาให้ใช่ไหม? " ลูซี่เอียงคอถามด้วยความมั่นใจพร้อมกับส่งสายตากดดันชายหนุ่มเพราะกลัวว่าคนเจ้าเล่ห์จะเปลี่ยนใจ
" ก็ใช่ ฉันพูดไว้แบบนั้น แต่เกมนี้ไม่ใช่ง่ายๆ นะ เธอแน่ใจแล้วเหรอว่าจะเล่น?มัน " ออสตินยื่นมือไปเท้าโต๊ะก่อนจะมองเธอด้วยสายตาคมกริบ
" อ่าห่ะ! บอกมาเลยว่ากฎของเกมคืออะไร "
" เกมเจตจำนงนี้ไม่ใช่แค่การเอาชนะด้วยกำลังหรือความคิด มันเป็นการต่อสู้ด้วยพลังจิตใจ ใครที่สามารถรักษาเจตจำนงของตัวเองได้มั่นคงที่สุดในสถานการณ์ที่ยากลำบากที่สุดจะเป็นฝ่ายชนะ " ออสตินถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
" เราเริ่มกันเลยไหมคะ หนูพร้อมแบบสุดๆ "
" งั้นก็ขอให้โชคดี ลูซี่ เพราะฉันจะไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ เหมือนกัน "
มือของทั้งสองคนสัมผัสกันเบา ๆ สายตาของพวกเขาประสานกันราวกับประกาศสงครามเงียบ ๆ ที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความท้าทายใหม่ ๆ ในความสัมพันธ์ของทั้งคู่
เมื่อความมืดเริ่มปกคลุมทั่วทั้งเมือง ออสตินจุดเทียนเล่มหนึ่งกลางห้อง แสงไฟสลัวสะท้อนในดวงตาคมกริบของเขา ลูซี่มองเทียนเล่มนั้นอย่างงุนงง แต่กลับรู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนบางอย่างในอากาศ
" เกมจะเริ่มตอนนี้! สิ่งที่เธอต้องทำคือปกป้องเจตจำนงของตัวเองไม่ให้ถูกทำลายและเธอต้องดึงฉันออกมาจากขุมนรกที่จิตใจของฉันสร้างขึ้น หากเธอทำสำเร็จ พันธสัญญาระหว่างเราจะถูกยกเลิก " ออสตินพูดเสียงต่ำแต่ทรงอำนาจ
" ขุมนรก? หมายความว่ายังไง? "
เปาะ!
ออสตินไม่ตอบแต่เขากลับดีดนิ้วดังลั่นไปทั่วห้องสี่เหลี่ยมในทันใดนั้น ลูซี่รู้สึกเหมือนทั้งร่างกำลังถูกดึงดูดลงไปในความมืด ราวกับกำลังร่วงหล่นเข้าสู่เหวลึก เมื่อเธอลืมตาขึ้นอีกครั้ง เธอก็พบว่าตัวเองยืนอยู่กลางสถานที่ที่ดูเหมือนโลกที่พังทลาย พื้นดินแตกร้าว ท้องฟ้าสีแดงหม่น ไม่มีแสงสว่างใดนอกจากเปลวไฟเล็ก ๆ ที่ริบหรี่ในที่ไกลๆ
เสียงหัวเราะเยือกเย็นดังมาจากทั่วทุกทิศทาง ออสตินปรากฏตัวตรงหน้าเธอ แต่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความว่างเปล่า ราวกับไม่ใช่ตัวเขาเอง
" นี่คือจิตใจของฉัน!! ขุมนรกที่ฉันสร้างขึ้นเพื่อปกป้องตัวเองจากทุกสิ่ง และถ้าเธออยากชนะเกมนี้ เธอต้องนำแสงสว่างกลับมาให้ฉัน " น้ำเสียงเย็นชาดังขึ้นตรงหน้าแต่มันกลับได้ยินก้องไปทั่วโสตประสาท
" หนูไม่สนว่าที่นี่จะเรียกว่าอะไร..แต่หนูจะดึงคุณกลับมาอยู่เคียงข้างหนู จะไม่ปล่อยให้อยู่คนเดียวอีกแล้ว " เธอพูดอย่างมุ่งมั่น
" งั้นก็ลองดูสิ!! ลูซี่ " ออสตินยิ้มบาง ๆ แต่มันกลับเป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเศร้า
ทันใดนั้นความมืดรอบตัวก็เริ่มขยับ ตัวตนบางอย่างในเงามืดเริ่มคืบคลานเข้ามาหาเธอ เปลวไฟริบหรี่ที่เธอเห็นในที่ไกลค่อย ๆ หรี่ลง
" พิสูจน์ตัวเธอเอง!! เธอพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับความกลัว ความเจ็บปวดและความจริงที่ซ่อนอยู่ในใจเธอหรือเปล่า? ลูซี่ "
ได้ยินแต่เสียงของออสตินที่ดังไปทั่วไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน ลูซี่พยายามตั้งสติ เธอรวบรวมพลังแสงสีฟ้าจากในตัวเองมันเป็นเพียงแสงเล็ก ๆ แต่เธอเชื่อมั่นว่าแสงนี้จะนำทางให้เธอได้เจอกับเขาแน่ๆ
ลูซี่พุ่งตัวเข้าสู่ความมืด เสียงกรีดร้องและกระซิบแปลก ๆ ดังแทรกในอากาศราวกับพยายามทำลายสติ สมาธิของเธอ เงาดำรูปร่างประหลาดคืบคลานเข้ามาจากทั่วทุกทิศทาง พวกมันเหมือนภาพสะท้อนของความกลัวและความลังเลในจิตใจของเธอ" ลูซี่ เธอไม่มีวันชนะ! " เสียงทุ้มกังวานของออสตินสะท้องก้อง มันเต็มไปด้วยความเย้ยหยันที่ดังขึ้นอย่างสะใจ“คุณอย่าดูถูกหนูนะ!” ลูซี่ตะโกนกลับ เธอปล่อยพลังแสงสีฟ้าจากมือ แสงนั้นระเบิดออกเป็นวงกว้าง เผาเงาดำรอบตัวจนพวกมันสลายไปแต่ก่อนที่เธอจะได้พักหายใจ พื้นดินก็เริ่มแตกออก เธอเสียหลักล้มลงในความว่างเปล่า ดวงตาของเธอเบิกกว้างเมื่อพบว่าเธอกำลังเผชิญหน้ากับบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่ามันคือออสตินอีกคน ร่างของเขาเปล่งออร่าสีดำ ปีกสีดำมหึมาขยายกางเต็มที่ บนศีรษะของเขามีเขาแหลมงอกออกมาสองอัน ทรงพลังและเย็นชา ใบหน้าของเขาไร้อารมณ์ ดวงตาเต็มไปด้วยความมืด" นี่คือฉันที่แท้จริง!! ตัวฉันที่ไม่สามารถถูกทำลายได้ เธอคิดว่าแสงเล็ก ๆ ของเธอจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้งั้นเหรอ? ลูซี่ " เสียงเรียบไร้อารมณ์ยังคงก้องไปทั่วขุมนรก" หนูไม่สนว่าคุณจะเป็นอะไร พลังเล็ก ๆ ของหนูอาจจะไม่มากพอ แต่หนูจะลอง....จะไม่มีวัน
ลูซี่นั่งนิ่งอยู่ในความมืดขณะสายลมเย็นเฉียบพัดผ่านเข้ามาในห้อง เธอกุมมือไว้แน่น พยายามบอกตัวเองว่าเธอพร้อมสำหรับทุกสิ่ง เธอมั่นใจว่าเกมแห่งเจตจำนงเป็นเพียงอีกหนึ่งอุปสรรคที่เธอจะผ่านไปได้เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา‘ฉันน่าจะรับมือกับทุกอย่างได้ ’เธอพูดเบา ๆ กับตัวเอง ก่อนเริ่มเกมหญิงสาวมั่นใจมากพลังเต็มเปี่ยมแต่พอหลังจากเกมจบลงความมั่นใจนั้นกลับถูกสั่นคลอนอย่างรุนแรง ออสตินไม่ได้เป็นเพียงคู่ต่อสู้ธรรมดา เขาเป็นเหมือนคลื่นยักษ์ที่ถาโถมใส่เธอทุกทิศทาง ความแข็งแกร่งและความเจ้าเล่ห์ของเขาทำให้ลูซี่รู้สึกเหมือนถูกกดดันจนแทบจะหายใจไม่ออกความรู้สึกหนักอึ้งแทรกซึมเข้ามาในจิตใจของเธอทีละน้อย มันไม่ใช่แค่เรื่องของพลังที่เธอมีหรือไม่มี แต่เป็นเรื่องของจิตใจของเธอเอง ทุกคำพูด ทุกการกระทำของออสตินดูเหมือนจะสร้างกับดักในใจเธอ‘ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้...’ลูซี่พึมพำในใจ พลางหลับตาลงพยายามรวบรวมสติ เธอเคยคิดว่าพร้อมจะเผชิญหน้ากับทุกสถานการณ์แต่ตอนนี้ความจริงกลับท้าทายความเชื่อมั่นของเธอหญิงสาวยังคงนั่งเงียบ เหม่อลอยอยู่ในห้อง ดวงตาสีอ่อนสะท้อนความสับสนและหนักอึ้ง เธอคิดว่าการชนะเกมแห่งเจตจำนงจะทำให้เธอเป
ในขณะที่ออสตินกำลังค้นหาเบาะแสเกี่ยวกับ กุญแจแห่งสวรรค์อยู่ในสถานที่ลับแห่งหนึ่ง บรรยากาศรอบตัวก็เริ่มเปลี่ยนไป พลังงานมืดอันหนาแน่นแผ่ซ่านจนแม้แต่ออสตินเองก็รู้สึกถึงความผิดปกติ เขาหยุดนิ่งมองกวาดไปรอบๆ ก่อนจะแสยะยิ้มออกมา" ออกมาเถอะ พวกเจ้าซ่อนพลังได้แย่มาก " ออสตินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา สายตาของเขาจับจ้องไปยังเงามืดในมุมหนึ่งทันใดนั้น กลุ่มปีศาจในเงาก็ปรากฏตัวขึ้น พวกมันเป็นสมาชิกของ กลุ่มกบฏแห่งขุมนรก ซึ่งหวังจะล้มลูซิเฟอร์และยึดครองนรกเป็นของตัวเอง" เจ้ามันอ่อนแอเกินกว่าจะเป็นเจ้าแห่งนรก!! ถึงเวลาแล้วที่พวกข้าจะทวงอำนาจคืน " หนึ่งในปีศาจเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มเหยียดหยาม" ลูซิเฟอร์... เจ้าคิดว่าตัวเองยังแข็งแกร่งพอจะปกครองเราได้เหรอ?? ถึงเวลาที่นรกจะต้องมีผู้นำคนใหม่แล้ว " ปีศาจอีกตนพูดเสริมขึ้นมาพร้อมกับหันไปหัวเราะสะใจกับพวกของมัน“ถ้าคิดว่าจะล้มข้าได้ก็เข้ามาสิวะ ไอ้พวกสวะ!!” ออสตินยิ้มเยาะแต่สายตาของเขาเต็มไปด้วยความระวังตัวพวกมันคำรามออกมาอย่างดังสนั่นก้องไปทั่ว ปีศาจทั้งกลุ่มพุ่งเข้าโจมตีออสตินพร้อมกัน พลังของพวกมันมากมายและดุดันจนทำให้บรรยากาศรอบข้างเต็มไปด้วยความวุ่นวายร
ช่วงเช้าของวันใหม่ แสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาผ่านหน้าต่างในห้องนอน เธอลุกขึ้นจากเตียงและตรงเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างตาแต่ในระหว่างที่น้ำอุ่นกำลังไหลผ่านผิว เธอรู้สึกเหมือนมีบางอย่างผิดปกติ ภาพแปลก ๆ เริ่มปรากฏขึ้นในหัวของเธอมันเป็นภาพเงามืดของปีศาจและเสียงกระซิบที่ทำให้เธอขนลุกด้วยความตื่นตระหนก เธอคว้าผ้าขนหนูมาพันตัวไว้และรีบวิ่งออกจากห้องน้ำโดยลืมตัวไปว่าเธออยู่ในสภาพไม่เหมาะสม“ ออสติน! หนูเห็นแปลกๆ ภาพอีกแล้ว!.....เอ้ย! ภาพแปลกๆ ”เธอตะโกนพลางวิ่งไปที่ห้องนั่งเล่นแต่ก็ต้องชะงักทันที เพราะนอกจากออสตินที่นั่งอยู่บนตรงโซฟาแล้วยังมีอาคินที่นั่งอยู่ข้าง ๆ กันด้วย เขาส่งยิ้มให้กับเธอก่อนจะลากสายตาลงมาเรื่อยๆ“ ลูซี่!”ออสตินเบิกตากว้างเมื่อเห็นเธอในสภาพพันผ้าขนหนูผืนเดียว สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหวงทันที รีบลุกขึ้นจากโซฟาตรงไปหาลูซี่ก่อนจะลากกลับเข้าไปในห้องขณะที่อาคินเลิกคิ้วขึ้นด้วยความตกใจปนขำ“คุณฟังหนูก่อน! หนูภาพบางอย่าง.....มันน่ากลัวมากด้วย”“แต่งตัวก่อนแล้วค่อยว่ากัน” เขากระซิบเสียงต่ำแต่เต็มไปด้วยความจริงจัง ก่อนจะปิดประตูห้องนอนลงเขาปล่อยให้ลูซี่แต่งตัวส่วนตัวเองก็กลับมา
@Gates of Midnightสถานที่ลึกลับนี้ดูแตกต่างจากที่เขาจำได้ รอยร้าวขนาดมหึมาปรากฏขึ้นตรงกลางห้องโถง เหล่าปีศาจกำลังหลั่งไหลออกมาจากรอยแยกนั้น เสียงคำรามกึกก้องสะท้อนไปทั่วทั้งสถานที่" แกยังกล้ามาที่นี่อีกเหรอ ออสติน? " เจ้าของเสียงทุ้มคือราเฟลคนเดิมเพื่อนเก่า หัวหน้าผู้นำกลุ่มกบฏ เขาปรากฏตัวยืนอยู่ตรงหน้าประตูด้วยท่าทีเคร่งขรึม" ข้ามาที่นี่เพื่อปิดมัน " ออสตินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา ดวงตาคมดั่งไฟจ้องมองปีศาจที่กำลังหลั่งไหลออกมา“ถ้าคิดว่าทำได้!! ก็เข้ามาสิ” ราเฟลยิ้มเยาะพลางตั้งการ์ดให้พร้อมสำหรับการปะทะกันในครั้งนี้ออสตินแสยะยิ้มออกมาอย่างชอบใจก่อนจะเปิดใช้อำนาจของลูซิเฟอร์เต็มรูปแบบ พื้นดินสั่นสะเทือนและเปลวเพลิงจากนรกก็เริ่มโหมกระหน่ำขึ้นเกมพลังแห่งความมืดครั้งใหม่กำลังจะเริ่มขึ้น การต่อสู้ที่ไม่ได้เดิมพันแค่ชีวิตของออสตินแต่รวมถึงชะตากรรมของทั้งโลกมนุษย์และขุมนรกด้านของลูซี่ เธอยืนนิ่งอยู่ท่ามกลางพายุที่บ้าคลั่ง พลังที่มาร์คัสปลดปล่อยออกมา เธอพยายามรวบรวมสมาธิเพื่อใช้พลังมหาศาลของตัวเองขัดขวางเขา ท่ามกลางความสับสนของพลังที่ปะทะกัน เสียงตะโกนของจินดาก็ดังแทรกขึ้น" ลูซี่!"เธอหั
หลังจากจัดการกับมาร์คัสในนรก ออสตินและอาคินเดินทางกลับขึ้นมายังโลกมนุษย์แต่พวกเขาไม่ได้มีเวลาให้พักผ่อน ทันทีที่ปรากฏตัวบนพื้นโลก ทั้งสองพบว่าปีศาจจำนวนมากหลุดออกมาจากรอยแยกที่เชื่อมระหว่างโลกมนุษย์และขุมนรกเสียงกรีดร้องของผู้คนดังระงม ปีศาจตัวใหญ่และตัวเล็กเพ่นพ่านไปทั่วเมือง สร้างความเสียหายและความโกลาหล" เราต้องรีบกำจัดพวกมันให้หมดก่อนที่ทุกอย่างจะพังมากกว่านี้! " ออสตินกล่าวขณะเรียกอาวุธคู่ใจของเขาออกมาส่วนทางด้านอาคินก็ใช้พลังแห่งการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว จัดการกับปีศาจตัวเล็กที่วิ่งพล่านไปทั่ว เขากระโจนไปมาระหว่างอาคาร ใช้ดาบเงินแทงและฟันปีศาจจนหายวับไปทีละตัวออสตินเผชิญหน้ากับปีศาจระดับสูงที่มีพลังแข็งแกร่งกว่า เขาใช้เปลวเพลิงจากพลังลูซิเฟอร์เผาผลาญปีศาจเหล่านั้น บ้างก็ใช้เวทมนตร์ปิดกั้นทางหลบหนี บังคับให้พวกมันต่อสู้กับเขาจนถึงที่สุดปีศาจบางตัวพยายามจะหลบหนีไปยังเขตที่มีผู้คน แต่ทั้งออสตินและอาคินทำงานเป็นทีมอย่างยอดเยี่ยม คอยสกัดพวกมันไม่ให้หนีออกไปสร้างความเสียหายเพิ่มเติมในกลุ่มปีศาจที่หลุดออกมา มีหนึ่งตัวที่โดดเด่นและทรงพลังที่สุด มันคือ " เมธัส " ปีศาจยักษ์ที่มีร่างกา
ออสตินนั่งอยู่บนบัลลังก์สีดำอันสง่างาม เปลวเพลิงแห่งนรกลุกโชนรอบตัวเขา สายตาเต็มไปด้วยอำนาจและความหนักแน่น ปีศาจน้อยใหญ่ต่างมองเขาด้วยสายตาเคารพยำเกรง แต่เมื่อสายตาเขาหันไปสบกับลูซี่ที่ยืนอยู่เบื้องหน้า ความดุดันในแววตานั้นก็อ่อนลงลูซี่ก้าวเข้ามาใกล้ ร่างของเธอสง่างามราวกับเทพธิดา แต่ในสายตาของปีศาจทุกตน เธอคือราชินีผู้สงบอำนาจแห่งความมืด........" หนูตัดสินใจได้แล้ว! ถ้าคุณจะเป็นราชาของที่นี่ หนูจะอยู่ข้างคุณ...ในฐานะราชินีเช่นกัน " ดวงตาของเธอเป็นประกายระยิบระยับด้วยความสุข น้ำเสียงอ่อนหวานแต่นุ่มลึกคำพูดนั้นทำให้ออสตินเบิกตากว้าง ยันกายลุกขึ้นจากบัลลังก์ทันที ก้าวลงไปรับราชินีของเขาด้วยแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความดีใจ รอยยิ้มกว้างฉายอย่างชัดเจนบนใบหน้าหล่อ" เธอตัดสินใจดีแล้วใช่ไหม? " น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจและความหวัง“ค่ะ!! แต่ทุกอย่างต้องเป็นไรตามกติกาของหนูนะ”" กติกาของเธอ? ช่างกล้าต่อรองจังเลยนะ " ออสตินหัวเราะเบา ๆ อย่างพึงพอใจ" หนูจะอยู่ข้างคุณ แต่คุณต้องเคารพการตัดสินใจของหนู ให้อิสระที่จะเลือกเส้นทางของตัวเองและหนูจะอยู่กับคุณในฐานะคู่ชีวิต ไม่ใช่ในฐานะผู
ค่ำคืนนี้ท้องฟ้ามืดมิดไร้เงาจันทร์ สายลมเย็นพัดผ่านสวนหลังของคฤหาสน์หลังใหญ่ อากาศเย็นจับใจจนเธอต้องห่อตัวในเสื้อคลุมหนา ส่วนทางด้านของออสติน เขายืนอยู่ที่ระเบียง มือทั้งสองของเขาเท้าราวเหล็ก มองท้องฟ้าสีดำสนิทด้วยสายตาที่ลูซี่ไม่เคยเห็นมาก่อนสายตาแห่งความคิดถึงและความเจ็บปวด“ ออสติน คุณคิดอะไรอยู่เหรอ? ” ลูซี่เอ่ยถามในขณะที่เดินเข้าไปหาและโอบกอดเขาจากทางด้านหลัง“ อดีต…” เขาตอบเสียงเบา แต่คำ คำนั้นกลับหนักหน่วงราวกับบรรทุกเรื่องราวนับพันไว้ในใจลูซี่เลิกคิ้วด้วยความสงสัย เธอไม่ค่อยได้ยินเขาพูดถึงอดีตก่อนที่เขาจะกลายเป็นลูซิเฟอร์เลย เธอคลายอ้อมกอดแล้วเดินเข้ามายืนอยู่ข้างๆกับเขา พร้อมเอียงคอมองดูอีกฝ่ายด้วยแววตาที่อยากรู้“ เล่าให้หนูฟังหน่อยได้ไหม? ” เธอถามอย่างอ่อนโยน“ ถ้าเธออยากฟัง ฉันจะเล่า…” เขาว่าพลางจูงมือของเธอไปนั่งที่โซฟา ที่อยู่ไม่ไกลในยุคเริ่มต้นของทุกสิ่ง ออสตินเคยเป็นเทวทูตผู้สูงส่งที่สุดในสวรรค์ เขาเป็นผู้คุมแสงสว่าง ผู้ที่เหล่าเทวทูตน้อยใหญ่ต่างเคารพนับถือ“ ฉันเคยรักสวรรค์… มันคือบ้านของฉัน ” ออสตินกล่าว น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความคิดถึง“ แต่ความรักนั้นกลับกลายเป
ลมหนาวพัดพาหิมะโปรยปรายทั่วท้องฟ้าแห่งอังกฤษ คืนนี้คือคืนที่ทุกอย่างดูเงียบสงบ ลูซี่จับจูงมือออสตินข้ามสะพานหินเล็กๆ ไปยังคฤหาสน์แอลเบอร์ บ้านหลังใหญ่ที่เคยเป็นของพ่อเธอ สถานที่ที่บรรจุความทรงจำในวัยเด็ก แม้ว่าตอนนี้มันจะดูว่างเปล่าและเย็นเยือก" ที่นี่คือบ้านของพ่อหนู " ลูซี่เอ่ยเสียงเบา ใบหน้าซ่อนรอยยิ้มเศร้าหลังจากสำรวจคฤหาสน์อยู่พักใหญ่ พวกเขาเดินออกมาที่สวนด้านหลัง ซึ่งเป็นที่ตั้งของหลุมศพพ่อแม่ลูซี่ หิมะที่ตกหนักปกคลุมทุกสิ่งเหมือนผ้าห่มสีขาวสะอาดตา" คุณพ่อ คุณแม่ค่ะ หนูพาคนหล่อมาแนะนำให้รู้จัก ตอนนี้หนูแต่งงานกับเขาแล้วนะ " ลูซี่นั่งลงข้างหลุมศพ มือของเธอเอื้อมไปลูบแผ่นหินจารึกชื่อของพ่อแม่เธอด้วยความอ่อนโยน พลางชูมือข้างซ้ายโชว์แหวนเพชรสวยๆที่นิ้วนาง" คุณนายและคุณแอลเบอร์ ผมไม่อาจขอพรใดจากท่าน นอกจากขอให้ท่านรับรู้ว่าผมจะอยู่เคียงข้างลูซี่ ดูแลเธอด้วยทุกสิ่งที่ผมมี ทั้งชีวิตและจิตวิญญาณของผม " ออสตินย่อตัวลงข้างเธอ ใบหน้าหล่อฉีกยิ้มอย่างชอบใจก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นสายลมหนาวพัดผ่าน เสมือนเสียงตอบรับเงียบๆ จากธรรมชาติ ลูซี่ยิ้มทั้งน้ำตาขณะที่เธอเอนหัวลงบนไ
ค่ำคืนนี้ท้องฟ้ามืดมิดไร้เงาจันทร์ สายลมเย็นพัดผ่านสวนหลังของคฤหาสน์หลังใหญ่ อากาศเย็นจับใจจนเธอต้องห่อตัวในเสื้อคลุมหนา ส่วนทางด้านของออสติน เขายืนอยู่ที่ระเบียง มือทั้งสองของเขาเท้าราวเหล็ก มองท้องฟ้าสีดำสนิทด้วยสายตาที่ลูซี่ไม่เคยเห็นมาก่อนสายตาแห่งความคิดถึงและความเจ็บปวด“ ออสติน คุณคิดอะไรอยู่เหรอ? ” ลูซี่เอ่ยถามในขณะที่เดินเข้าไปหาและโอบกอดเขาจากทางด้านหลัง“ อดีต…” เขาตอบเสียงเบา แต่คำ คำนั้นกลับหนักหน่วงราวกับบรรทุกเรื่องราวนับพันไว้ในใจลูซี่เลิกคิ้วด้วยความสงสัย เธอไม่ค่อยได้ยินเขาพูดถึงอดีตก่อนที่เขาจะกลายเป็นลูซิเฟอร์เลย เธอคลายอ้อมกอดแล้วเดินเข้ามายืนอยู่ข้างๆกับเขา พร้อมเอียงคอมองดูอีกฝ่ายด้วยแววตาที่อยากรู้“ เล่าให้หนูฟังหน่อยได้ไหม? ” เธอถามอย่างอ่อนโยน“ ถ้าเธออยากฟัง ฉันจะเล่า…” เขาว่าพลางจูงมือของเธอไปนั่งที่โซฟา ที่อยู่ไม่ไกลในยุคเริ่มต้นของทุกสิ่ง ออสตินเคยเป็นเทวทูตผู้สูงส่งที่สุดในสวรรค์ เขาเป็นผู้คุมแสงสว่าง ผู้ที่เหล่าเทวทูตน้อยใหญ่ต่างเคารพนับถือ“ ฉันเคยรักสวรรค์… มันคือบ้านของฉัน ” ออสตินกล่าว น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความคิดถึง“ แต่ความรักนั้นกลับกลายเป
ออสตินนั่งอยู่บนบัลลังก์สีดำอันสง่างาม เปลวเพลิงแห่งนรกลุกโชนรอบตัวเขา สายตาเต็มไปด้วยอำนาจและความหนักแน่น ปีศาจน้อยใหญ่ต่างมองเขาด้วยสายตาเคารพยำเกรง แต่เมื่อสายตาเขาหันไปสบกับลูซี่ที่ยืนอยู่เบื้องหน้า ความดุดันในแววตานั้นก็อ่อนลงลูซี่ก้าวเข้ามาใกล้ ร่างของเธอสง่างามราวกับเทพธิดา แต่ในสายตาของปีศาจทุกตน เธอคือราชินีผู้สงบอำนาจแห่งความมืด........" หนูตัดสินใจได้แล้ว! ถ้าคุณจะเป็นราชาของที่นี่ หนูจะอยู่ข้างคุณ...ในฐานะราชินีเช่นกัน " ดวงตาของเธอเป็นประกายระยิบระยับด้วยความสุข น้ำเสียงอ่อนหวานแต่นุ่มลึกคำพูดนั้นทำให้ออสตินเบิกตากว้าง ยันกายลุกขึ้นจากบัลลังก์ทันที ก้าวลงไปรับราชินีของเขาด้วยแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความดีใจ รอยยิ้มกว้างฉายอย่างชัดเจนบนใบหน้าหล่อ" เธอตัดสินใจดีแล้วใช่ไหม? " น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจและความหวัง“ค่ะ!! แต่ทุกอย่างต้องเป็นไรตามกติกาของหนูนะ”" กติกาของเธอ? ช่างกล้าต่อรองจังเลยนะ " ออสตินหัวเราะเบา ๆ อย่างพึงพอใจ" หนูจะอยู่ข้างคุณ แต่คุณต้องเคารพการตัดสินใจของหนู ให้อิสระที่จะเลือกเส้นทางของตัวเองและหนูจะอยู่กับคุณในฐานะคู่ชีวิต ไม่ใช่ในฐานะผู
หลังจากจัดการกับมาร์คัสในนรก ออสตินและอาคินเดินทางกลับขึ้นมายังโลกมนุษย์แต่พวกเขาไม่ได้มีเวลาให้พักผ่อน ทันทีที่ปรากฏตัวบนพื้นโลก ทั้งสองพบว่าปีศาจจำนวนมากหลุดออกมาจากรอยแยกที่เชื่อมระหว่างโลกมนุษย์และขุมนรกเสียงกรีดร้องของผู้คนดังระงม ปีศาจตัวใหญ่และตัวเล็กเพ่นพ่านไปทั่วเมือง สร้างความเสียหายและความโกลาหล" เราต้องรีบกำจัดพวกมันให้หมดก่อนที่ทุกอย่างจะพังมากกว่านี้! " ออสตินกล่าวขณะเรียกอาวุธคู่ใจของเขาออกมาส่วนทางด้านอาคินก็ใช้พลังแห่งการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว จัดการกับปีศาจตัวเล็กที่วิ่งพล่านไปทั่ว เขากระโจนไปมาระหว่างอาคาร ใช้ดาบเงินแทงและฟันปีศาจจนหายวับไปทีละตัวออสตินเผชิญหน้ากับปีศาจระดับสูงที่มีพลังแข็งแกร่งกว่า เขาใช้เปลวเพลิงจากพลังลูซิเฟอร์เผาผลาญปีศาจเหล่านั้น บ้างก็ใช้เวทมนตร์ปิดกั้นทางหลบหนี บังคับให้พวกมันต่อสู้กับเขาจนถึงที่สุดปีศาจบางตัวพยายามจะหลบหนีไปยังเขตที่มีผู้คน แต่ทั้งออสตินและอาคินทำงานเป็นทีมอย่างยอดเยี่ยม คอยสกัดพวกมันไม่ให้หนีออกไปสร้างความเสียหายเพิ่มเติมในกลุ่มปีศาจที่หลุดออกมา มีหนึ่งตัวที่โดดเด่นและทรงพลังที่สุด มันคือ " เมธัส " ปีศาจยักษ์ที่มีร่างกา
@Gates of Midnightสถานที่ลึกลับนี้ดูแตกต่างจากที่เขาจำได้ รอยร้าวขนาดมหึมาปรากฏขึ้นตรงกลางห้องโถง เหล่าปีศาจกำลังหลั่งไหลออกมาจากรอยแยกนั้น เสียงคำรามกึกก้องสะท้อนไปทั่วทั้งสถานที่" แกยังกล้ามาที่นี่อีกเหรอ ออสติน? " เจ้าของเสียงทุ้มคือราเฟลคนเดิมเพื่อนเก่า หัวหน้าผู้นำกลุ่มกบฏ เขาปรากฏตัวยืนอยู่ตรงหน้าประตูด้วยท่าทีเคร่งขรึม" ข้ามาที่นี่เพื่อปิดมัน " ออสตินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา ดวงตาคมดั่งไฟจ้องมองปีศาจที่กำลังหลั่งไหลออกมา“ถ้าคิดว่าทำได้!! ก็เข้ามาสิ” ราเฟลยิ้มเยาะพลางตั้งการ์ดให้พร้อมสำหรับการปะทะกันในครั้งนี้ออสตินแสยะยิ้มออกมาอย่างชอบใจก่อนจะเปิดใช้อำนาจของลูซิเฟอร์เต็มรูปแบบ พื้นดินสั่นสะเทือนและเปลวเพลิงจากนรกก็เริ่มโหมกระหน่ำขึ้นเกมพลังแห่งความมืดครั้งใหม่กำลังจะเริ่มขึ้น การต่อสู้ที่ไม่ได้เดิมพันแค่ชีวิตของออสตินแต่รวมถึงชะตากรรมของทั้งโลกมนุษย์และขุมนรกด้านของลูซี่ เธอยืนนิ่งอยู่ท่ามกลางพายุที่บ้าคลั่ง พลังที่มาร์คัสปลดปล่อยออกมา เธอพยายามรวบรวมสมาธิเพื่อใช้พลังมหาศาลของตัวเองขัดขวางเขา ท่ามกลางความสับสนของพลังที่ปะทะกัน เสียงตะโกนของจินดาก็ดังแทรกขึ้น" ลูซี่!"เธอหั
ช่วงเช้าของวันใหม่ แสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาผ่านหน้าต่างในห้องนอน เธอลุกขึ้นจากเตียงและตรงเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างตาแต่ในระหว่างที่น้ำอุ่นกำลังไหลผ่านผิว เธอรู้สึกเหมือนมีบางอย่างผิดปกติ ภาพแปลก ๆ เริ่มปรากฏขึ้นในหัวของเธอมันเป็นภาพเงามืดของปีศาจและเสียงกระซิบที่ทำให้เธอขนลุกด้วยความตื่นตระหนก เธอคว้าผ้าขนหนูมาพันตัวไว้และรีบวิ่งออกจากห้องน้ำโดยลืมตัวไปว่าเธออยู่ในสภาพไม่เหมาะสม“ ออสติน! หนูเห็นแปลกๆ ภาพอีกแล้ว!.....เอ้ย! ภาพแปลกๆ ”เธอตะโกนพลางวิ่งไปที่ห้องนั่งเล่นแต่ก็ต้องชะงักทันที เพราะนอกจากออสตินที่นั่งอยู่บนตรงโซฟาแล้วยังมีอาคินที่นั่งอยู่ข้าง ๆ กันด้วย เขาส่งยิ้มให้กับเธอก่อนจะลากสายตาลงมาเรื่อยๆ“ ลูซี่!”ออสตินเบิกตากว้างเมื่อเห็นเธอในสภาพพันผ้าขนหนูผืนเดียว สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหวงทันที รีบลุกขึ้นจากโซฟาตรงไปหาลูซี่ก่อนจะลากกลับเข้าไปในห้องขณะที่อาคินเลิกคิ้วขึ้นด้วยความตกใจปนขำ“คุณฟังหนูก่อน! หนูภาพบางอย่าง.....มันน่ากลัวมากด้วย”“แต่งตัวก่อนแล้วค่อยว่ากัน” เขากระซิบเสียงต่ำแต่เต็มไปด้วยความจริงจัง ก่อนจะปิดประตูห้องนอนลงเขาปล่อยให้ลูซี่แต่งตัวส่วนตัวเองก็กลับมา
ในขณะที่ออสตินกำลังค้นหาเบาะแสเกี่ยวกับ กุญแจแห่งสวรรค์อยู่ในสถานที่ลับแห่งหนึ่ง บรรยากาศรอบตัวก็เริ่มเปลี่ยนไป พลังงานมืดอันหนาแน่นแผ่ซ่านจนแม้แต่ออสตินเองก็รู้สึกถึงความผิดปกติ เขาหยุดนิ่งมองกวาดไปรอบๆ ก่อนจะแสยะยิ้มออกมา" ออกมาเถอะ พวกเจ้าซ่อนพลังได้แย่มาก " ออสตินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา สายตาของเขาจับจ้องไปยังเงามืดในมุมหนึ่งทันใดนั้น กลุ่มปีศาจในเงาก็ปรากฏตัวขึ้น พวกมันเป็นสมาชิกของ กลุ่มกบฏแห่งขุมนรก ซึ่งหวังจะล้มลูซิเฟอร์และยึดครองนรกเป็นของตัวเอง" เจ้ามันอ่อนแอเกินกว่าจะเป็นเจ้าแห่งนรก!! ถึงเวลาแล้วที่พวกข้าจะทวงอำนาจคืน " หนึ่งในปีศาจเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มเหยียดหยาม" ลูซิเฟอร์... เจ้าคิดว่าตัวเองยังแข็งแกร่งพอจะปกครองเราได้เหรอ?? ถึงเวลาที่นรกจะต้องมีผู้นำคนใหม่แล้ว " ปีศาจอีกตนพูดเสริมขึ้นมาพร้อมกับหันไปหัวเราะสะใจกับพวกของมัน“ถ้าคิดว่าจะล้มข้าได้ก็เข้ามาสิวะ ไอ้พวกสวะ!!” ออสตินยิ้มเยาะแต่สายตาของเขาเต็มไปด้วยความระวังตัวพวกมันคำรามออกมาอย่างดังสนั่นก้องไปทั่ว ปีศาจทั้งกลุ่มพุ่งเข้าโจมตีออสตินพร้อมกัน พลังของพวกมันมากมายและดุดันจนทำให้บรรยากาศรอบข้างเต็มไปด้วยความวุ่นวายร
ลูซี่นั่งนิ่งอยู่ในความมืดขณะสายลมเย็นเฉียบพัดผ่านเข้ามาในห้อง เธอกุมมือไว้แน่น พยายามบอกตัวเองว่าเธอพร้อมสำหรับทุกสิ่ง เธอมั่นใจว่าเกมแห่งเจตจำนงเป็นเพียงอีกหนึ่งอุปสรรคที่เธอจะผ่านไปได้เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา‘ฉันน่าจะรับมือกับทุกอย่างได้ ’เธอพูดเบา ๆ กับตัวเอง ก่อนเริ่มเกมหญิงสาวมั่นใจมากพลังเต็มเปี่ยมแต่พอหลังจากเกมจบลงความมั่นใจนั้นกลับถูกสั่นคลอนอย่างรุนแรง ออสตินไม่ได้เป็นเพียงคู่ต่อสู้ธรรมดา เขาเป็นเหมือนคลื่นยักษ์ที่ถาโถมใส่เธอทุกทิศทาง ความแข็งแกร่งและความเจ้าเล่ห์ของเขาทำให้ลูซี่รู้สึกเหมือนถูกกดดันจนแทบจะหายใจไม่ออกความรู้สึกหนักอึ้งแทรกซึมเข้ามาในจิตใจของเธอทีละน้อย มันไม่ใช่แค่เรื่องของพลังที่เธอมีหรือไม่มี แต่เป็นเรื่องของจิตใจของเธอเอง ทุกคำพูด ทุกการกระทำของออสตินดูเหมือนจะสร้างกับดักในใจเธอ‘ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้...’ลูซี่พึมพำในใจ พลางหลับตาลงพยายามรวบรวมสติ เธอเคยคิดว่าพร้อมจะเผชิญหน้ากับทุกสถานการณ์แต่ตอนนี้ความจริงกลับท้าทายความเชื่อมั่นของเธอหญิงสาวยังคงนั่งเงียบ เหม่อลอยอยู่ในห้อง ดวงตาสีอ่อนสะท้อนความสับสนและหนักอึ้ง เธอคิดว่าการชนะเกมแห่งเจตจำนงจะทำให้เธอเป
ลูซี่พุ่งตัวเข้าสู่ความมืด เสียงกรีดร้องและกระซิบแปลก ๆ ดังแทรกในอากาศราวกับพยายามทำลายสติ สมาธิของเธอ เงาดำรูปร่างประหลาดคืบคลานเข้ามาจากทั่วทุกทิศทาง พวกมันเหมือนภาพสะท้อนของความกลัวและความลังเลในจิตใจของเธอ" ลูซี่ เธอไม่มีวันชนะ! " เสียงทุ้มกังวานของออสตินสะท้องก้อง มันเต็มไปด้วยความเย้ยหยันที่ดังขึ้นอย่างสะใจ“คุณอย่าดูถูกหนูนะ!” ลูซี่ตะโกนกลับ เธอปล่อยพลังแสงสีฟ้าจากมือ แสงนั้นระเบิดออกเป็นวงกว้าง เผาเงาดำรอบตัวจนพวกมันสลายไปแต่ก่อนที่เธอจะได้พักหายใจ พื้นดินก็เริ่มแตกออก เธอเสียหลักล้มลงในความว่างเปล่า ดวงตาของเธอเบิกกว้างเมื่อพบว่าเธอกำลังเผชิญหน้ากับบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่ามันคือออสตินอีกคน ร่างของเขาเปล่งออร่าสีดำ ปีกสีดำมหึมาขยายกางเต็มที่ บนศีรษะของเขามีเขาแหลมงอกออกมาสองอัน ทรงพลังและเย็นชา ใบหน้าของเขาไร้อารมณ์ ดวงตาเต็มไปด้วยความมืด" นี่คือฉันที่แท้จริง!! ตัวฉันที่ไม่สามารถถูกทำลายได้ เธอคิดว่าแสงเล็ก ๆ ของเธอจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้งั้นเหรอ? ลูซี่ " เสียงเรียบไร้อารมณ์ยังคงก้องไปทั่วขุมนรก" หนูไม่สนว่าคุณจะเป็นอะไร พลังเล็ก ๆ ของหนูอาจจะไม่มากพอ แต่หนูจะลอง....จะไม่มีวัน