ในอดีต ฮวงเซียวหย่งมักจะจินตนาการว่าในวันที่เขามีชื่อเสียง ทุกคนจะมองเขาด้วยความชื่นชม และเขาจะรู้สึกมีความสุขมากแต่เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้นจริง เขาไม่ได้รู้สึกเช่นนั้นมากนักมีความสุขมากอย่างนั้นหรือ?ดูเหมือนจะไม่สำคัญอีกต่อไป แม้ว่าเฉินเหยียนหรันจะมาหาถึงจวน ฮวงเซียวหย่งก็ไม่รู้สึกมีความสุขมากนักตรงกันข้าม ฮวงเซียวหย่งเพียงแต่หัวเราะกับความรู้เท่าไม่ถึงการของตระกูลเฉิน และความไม่รู้จักชายผู้แข็งแกร่งที่แท้จริงหากนางปฏิบัติต่อหานซานเฉียนดี ๆ สถานะของตระกูลเฉินจะสูงกว่าจวนของเจ้าเมืองอย่างแน่นอน และทั้งเมองหลงหยุนจะถูกตระกูลเฉินครอบงำ“ท่านพ่อ เมื่อก่อนข้าก็คิดอย่างนั้น แต่ตอนนี้ดูเหมือนข้าจะไม่รู้สึกแบบนั้นแล้ว” ฮวงเซียวหย่งพูดเสียงเรียบ"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า" ฮวงโหวอี้หัวเราะก่อนจะพูดต่อว่า "เป็นเพราะว่าตอนนี้เจ้าแข็งแกร่งมาก จนไม่จำเป็นต้องจริงจังกับคนเหล่านี้ และเป็นธรรมดาที่เจ้าจะไม่สนใจว่าพวกเขาคิดอย่างไรกับเจ้า"ฮวงเซียวหย่งพยักหน้า บางทีอาจเป็นเช่นนั้น ตอนนี้แม้ว่าราชสำนักก็คงอยากเอาใจเขา แล้วเหตุใดเขาถึงจะมาสนใจว่าเมืองเล็ก ๆ อย่างเมืองหลงหยุนจะคิดอย่างไรกับเขากันล่ะ?“ท่า
เมื่อเห็นหานซานเฉียนถูกทุกคนพูดถึงและถูกเยาะเย้ย เฉินเถี่ยซินก็แสดงรอยยิ้มภาคภูมิใจ นี่เป็นสถานการณ์ที่เขาจงใจเตรียมการไว้ และการแสดงของทุกคนก็ทำให้เขาพอใจมาก เขาต้องการขับไล่คนไร้ค่าอย่างหานซานเฉียนเหมือนสุนัขหลงทาง หลังจากออกจากตระกูลเฉินไปแล้ว ทุกคนในเมืองหลงหยุนต้องรู้ว่าหานซานเฉียนถูกขับไล่ออกไปอย่างไรในเวลาเดียวกัน เฉินเถี่ยซินก็ยังหวังว่าข่าวนี้จะถูกส่งไปถึงจวนของเจ้าเมือง เพื่อที่ฮวงเซียวหย่งจะได้รู้ว่าเฉินเหยียนหรันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับชายคนนี้แม้ว่าเฉินเถี่ยซินไม่ต้องการให้เฉินเหยียนหรันถ่อมตัวให้ฮวงเซียวหย่ง แต่ในใจของเขาก็ยังคาดหวังให้เฉินเหยียนหรันแต่งงานเข้าจวนของเจ้าเมืองเมื่อเฉินเหยียนหรันแต่งงานกับฮวงเซียวหย่ง เขาอาจรู้ความลับของการพัฒนาระดับ และการพิชิตอสูรของฮวงเซียวหย่งหากสิ่งต่าง ๆ เป็นไปตามที่เฉินเยวียนไห่คาดเดา และฮวงเซียวหย่งมีปรมาจารย์จริง บางทีเขาอาจได้รับการแนะนำจากฮวงเซียวหย่ง และได้เป็นลูกศิษย์ของอาจารย์ท่านนั้นก็ได้แต่เฉินเถี่ยซินไม่เคยคิดเลยว่าฮวงเซียวหย่งจะปฏิเสธเฉินเหยียนหรันอย่างชัดเจน และอาจารย์ของฮวงเซียวหย่งคือหานซานเฉียน ที่ถูกเขาไล
หลังจากออกจากตระกูลเฉินแล้ว หานซานเฉียนก็เดินไปตามถนนและตรอกซอกซอยโดยไม่มีจุดหมาย และในไม่ช้าสายลับของฮวงเซียวหย่งก็ค้นพบเขาไม่นานหลังจากนั้น ฮวงเซียวหย่งก็เดินไปหาหานซานเฉียน แม้ว่าอาจารย์และลูกศิษย์จะไม่ได้พูดคุยอะไรกัน ฮวงเซียวหย่งเดินนำทาง โดยหานซานเฉียนก็เดินตามไป ในไม่ช้าทั้งสองก็มาถึงถนนที่ไร้ผู้คนทางตะวันตกของเมืองตรงนี้มีบ้านหลังหนึ่งที่ฮวงเซียวหย่งเคยซื้อไว้เพื่อแอบพาสาวมาที่นี่ แต่น่าเสียดายหลังจากที่เขาตกหลุมรักเฉินเหยียนหรัน ฮวงเซียวหย่งก็ไม่สนใจผู้หญิงคนอื่นอีกเลย ดังนั้นบ้านหลังนี้จึงถูกทิ้งร้างมาจนถึงปัจจุบัน “ท่านอาจารย์” หลังจากเข้ามาในบ้านแล้ว ฮวงเซียวหย่งก็ปิดประตูและทักทายหานซานเฉียน คำเรียกง่าย ๆ แต่เต็มไปด้วยความเคารพอย่างที่สุด“ที่นี่เป็นที่ของเจ้ารึ” หานซานเฉียนถาม แม้ว่าวัชพืชในสวนจะขึ้นจนรกไปหมด แต่เมื่อจัดการเรียบร้อย มันก็น่าจะเป็นสถานที่ที่มีสภาพแวดล้อมที่ดีทีเดียว“ขอรับ ข้าซื้อที่นี่ทิ้งไว้หลายปีแล้ว นอกจากข้า แม้แต่ท่านพ่อก็ไม่ทราบเรื่องนี้” ฮวงเซียวหย่งกล่าว“ทำความสะอาดสักหน่อยก็คงจะเข้าอยู่ได้ ตอนนี้อาจารย์ของเจ้าถูกไล่ออกจากตระกูลเฉินแล้ว
เมื่อฮวงเซียวหย่งพูดจบ ทั้งสามคนของราชสำนักก็มองเขาด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟ โดยหวังจะหาข้อบกพร่องในการแสดงออกของเขา แต่น่าเสียดายที่สีหน้าของฮวงเซียวหย่งยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ไม่มีความผิดปกติอะไรเลยแม้แต่น้อยฮวงโหวอี้กลัวคนทั้งสามที่อยู่ตรงหน้าเขา แต่ฮวงเซียวหย่งไม่กลัว เนื่องจากเขามีอาจารย์ที่ทรงพลัง และเพราะเขารู้ว่า แม้ว่าท่านอาจารย์จะไปที่ราชสำนัก เขาก็จะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากจักรพรรดิด้วยซ้ำมีท่านอาจารย์ที่ทรงพลังเช่นนี้ เขาจะกลัวผู้คนที่มาจากราชสำนักที่อยู่ตรงหน้าได้อย่างไร?“ช่างเป็นคนหนุ่มที่อนาคตไกลจริง ๆ เจ้ามีสัตว์ร้ายเจ็ดดาวตั้งแต่อายุยังน้อย จากนี้ไป อนาคตของเจ้าจะไม่มีขีดจำกัด” ชายคนนั้นไม่พบข้อบกพร่องใด ๆ ดังนั้นเขาจึงจำต้องเชื่อคำพูดของฮวงเซียวหย่ง“ขอบคุณสำหรับคำชมขอรับ” ฮวงโหวอี้กล่าวด้วยรอยยิ้ม“คราวนี้ข้ามาที่นี่เพื่อถามเจ้าว่า เจ้าอยากเข้าร่วมราชสำนักหรือไม่?” ชายคนนั้นพูดต่อ"การเข้าร่วมราชสำนักเป็นความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของข้า เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับใช้ราชสำนัก แต่พวกท่านน่าจะสัมผัสได้ว่าสถานะปัจจุบันของข้าอยู่แค่ระดับโคมสี่เพียงเท
ช่วงนี้เนื่องจากผู้มาเยือนจากราชสำนักยังไม่ได้ออกจากเมืองหลงหยุน ฮวงเซียวหย่งจึงยับยั้งความปรารถนาที่จะไปหาหานซานเฉียน และอยู่แต่ในจวนของเจ้าเมืองตลอดทั้งวัน แต่ด้วยนิสัยของฮวงเซียวหย่งหลายวันมานี้เขาแทบจะห้ามตัวเองไว้ไม่อยู่แล้วเช้าตรู่นั้น ฮวงเซียวหย่งออกจากจวนของเจ้าเมืองเงียบ ๆ ในความเห็นของเขา เขาปกปิดร่องรอยเป็นอย่างดี แต่คนทั้งสามจากราชสำนักล้วนอยู่ระดับโคมเจ็ด และหากพวกเขาต้องการสะกดรอยตามฮวงเซียวหย่งมันก็เป็นเพียงเรื่องง่ายดายเท่านั้นฮวงเซียวหย่งนึกว่าไม่มีใครสังเกตเห็นตัวเอง แต่ในความเป็นจริง การกระทำของเขาอยู่ในสายตาของคนทั้งสามของราชสำนักเมื่อเขามาถึงเรือนที่หานซานเฉียนอาศัยอยู่ ฮวงเซียวหย่งก็รู้สึกแปลกไป จนสังสัยว่าตัวเองมาผิดที่หรือเปล่า ครั้งล่าสุดที่มาที่นี่ สนามหญ้าเต็มไปด้วยวัชพืช แต่ตอนนี้เขาเห็นดอกไม้ที่ผลิบาน แถมยังมีสะพานเล็ก ๆ ที่น้ำไหลผ่านราวกับฉากแห่งสวรรค์“เจ้ามาที่นี่ทำไม?” หานซานเฉียนเลิกคิ้วถามเมื่อเห็นฮวงเซียวหย่ง“ท่านอาจารย์ ท่านสร้างทั้งหมดนี่ขึ้นมาเองหรือขอรับ? ข้าไม่ได้เจอท่านแค่สองสามวันเท่านั้น แต่ข้าเกือบจะจำสถานที่นี้ไม่ได้แล้ว” ฮวงเซียวห
คนทั้งสามจากราชสำนักมองหน้ากันและออกจากลานบ้านโดยไม่พูดอะไรแน่นอนว่านี่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาเชื่อคำพูดของหานซานเฉียน แต่พวกเขาต้องการหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อพิสูจน์ว่าหานซานเฉียนโกหกหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวตนของหานซานเฉียน ซึ่งควรค่าแก่การตรวจสอบแม้ว่าชื่อเสียงของหานซานเฉียนในเมืองหลงหยุนจะไม่ดังเท่าในหยุนเฉิง แต่มันก็ยังคงแพร่หลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาออกจากตระกูลเฉิน ฉากที่เฉินเถี่ยซินจงใจจัดขึ้น ทำให้หลายคนรู้ว่าหานซานเฉียนนั้นไร้ประโยชน์มากแค่ไหน มีคนมากมายเห็นว่าเขาออกจากตระกูลเฉินโดยถูกเยาะเย้ยและถูกทำให้อับอาย สิ่งนี้ไม่มีทางเป็นเท็จได้คนทั้งสามจากราชสำนักสืบหาตัวตนของหานซานเฉียนได้โดยไม่เสียเวลาและความพยายามมากนักเขากลายเป็นลูกเขยของตระกูลเฉินในช่วงสั้น ๆ แต่ต่อมาถูกตระกูลเฉินไล่ออก ซึ่งทำให้ทุกคนในเมืองหลงหยุนหัวเราะเยาะ เหตุผลที่เฉินเหยียนหรันแต่งงานกับหานซานเฉียน ก็เพราะนางทนการคุกคามของฮวงเซียวหย่งไม่ไหวสิ่งนี้ยังพิสูจน์ได้ว่าหานซานเฉียนไม่ได้โกหกว่าฮวงเซียวหย่งมาเพื่อสร้างปัญหาให้เขา ฮวงเซียวหย่งชอบเฉินเหยียนหรันมาหลายปี นี่ไม่ใช่ละครที่จัดฉากได้ เพราะม
ยิ่งเฉินเหยียนหรันคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไร นางก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจมากขึ้นเท่านั้น แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานว่าสิ่งที่นางคิดนั้นถูกต้อง แต่นางก็ไม่สามารถคิดถึงคำอธิบายอื่นที่จะอธิบายคำพูดของฮวงเซียวหย่งได้แม้ว่านี่จะเป็นดึกแล้ว แต่เฉินเหยียนหรันก็สวมเสื้อผ้าเตรียมพร้อมที่จะไปที่ห้องของหานซานเฉียนสาวใช้ส่วนตัวนอนบนเตียงเล็ก ๆ ติดกำแพง นี่เป็นหน้าที่ของนางก่อนที่คุณหนูจะแต่งงานและย้ายไปอยู่ห้องร่วมกับสามี นางต้องดูแลเฉินเหยียนหรันเป็นการส่วนตัว เมื่อใดก็ตามที่นางมีความต้องการใด ๆ ในฐานะสาวใช้นางจะต้องคอยรับใช้อยู่ตลอดเวลา“คุณหนู มันดึกมากแล้ว คุณหนูจะไปที่ใดเจ้าคะ” สาวใช้ถามเฉินเหยียนหรันย่างสะลึมสะลือเฉินเหยียนหรันไม่ได้พูดอะไร หลังจากแต่งตัวแล้วนางก็รีบออกไปเมื่อสาวใช้เห็นสิ่งนี้ นางก็ทำได้เพียงสวมเสื้อผ้าด้วยความตื่นตระหนก และเดินตามเฉินเหยียนหรันไปในฐานะสาวใช้ส่วนตัว หากมีอะไรเกิดขึ้นกับเฉินเหยียนหรัน นางจะไม่มีจุดจบที่ดีแน่“หานซานเฉียน เปิดประตู เปิดประตูเร็วเดี๋ยวนี้” เฉินเหยียนหรันตบประตูห้องของหานซานเฉียนแล้วตะโกนหลังจากนั้นไม่นาน สาวใช้ก็เดินเข้ามาหาเฉินเหยียนหรันด้วย
“ดอกไม้จะบานในปีหน้า อย่าลืมมาดูที่ลานนี้ล่ะ” หานซานเฉียนพูดเสียงนิ่งฮวงเซียวหย่งหายใจถี่ขึ้น นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกถึงด้านที่ทรงพลังของหานซานเฉียน แม้ว่าเขาจะฆ่าคนของราชสำนักไปแล้วสามคน เขาก็ยังมีท่าทีสงบ ราวกับว่าเรื่องนี้ไม่สามารถสร้างคลื่นใด ๆ ในใจของเขาได้เลย“ท่านอาจารย์ ราชสำนักจะสอบสวนเรื่องนี้อย่างแน่นอนหากคนทั้งสามนี้ไม่ได้กลับไป” ฮวงเซียวหย่งเตือนหานซานเฉียน แม้ว่าเขาจะรู้ว่าหานซานเฉียนแข็งแกร่งมาก และสามารถฆ่าปรมาจารย์โคมเจ็ดคนทั้งสามนี้ได้อย่างง่ายดาย แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาสามารถเป็นศัตรูกับราชสำนักได้เพราะมีเพียงตัวคนเดียว แล้วจะต่อสู้กับประเทศได้อย่างไร?“เจ้าหาคนสักสองสามคนมาปลอมเป็นพวกเขา ตราบใดที่มีคนเห็นพวกเขาออกจากเมืองหลงหยุน เรื่องนี้ก็จะไม่เกี่ยวข้องกับเมืองหลงหยุน” หานซานเฉียนกล่าว“เกรงว่าราชสำนักจะไม่เชื่อง่าย ๆ น่ะสิขอรับ” ฮวงเซียวหย่งกล่าวหานซานเฉียนเงยหน้าขึ้นมองฮวงเซียวหย่งและพูดด้วยรอยยิ้ม “ถ้าอย่างนั้น เจ้าก็รายงานไปว่าข้าเป็นคนฆ่าพวกเขา ด้วยวิธีนี้ เจ้าก็จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ”หานซานเฉียนรู้ว่าทำไมฮวงเซียวหย่งถึงเป็นกังวล เพราะทั