หลังจากออกจากตระกูลเฉินแล้ว หานซานเฉียนก็เดินไปตามถนนและตรอกซอกซอยโดยไม่มีจุดหมาย และในไม่ช้าสายลับของฮวงเซียวหย่งก็ค้นพบเขาไม่นานหลังจากนั้น ฮวงเซียวหย่งก็เดินไปหาหานซานเฉียน แม้ว่าอาจารย์และลูกศิษย์จะไม่ได้พูดคุยอะไรกัน ฮวงเซียวหย่งเดินนำทาง โดยหานซานเฉียนก็เดินตามไป ในไม่ช้าทั้งสองก็มาถึงถนนที่ไร้ผู้คนทางตะวันตกของเมืองตรงนี้มีบ้านหลังหนึ่งที่ฮวงเซียวหย่งเคยซื้อไว้เพื่อแอบพาสาวมาที่นี่ แต่น่าเสียดายหลังจากที่เขาตกหลุมรักเฉินเหยียนหรัน ฮวงเซียวหย่งก็ไม่สนใจผู้หญิงคนอื่นอีกเลย ดังนั้นบ้านหลังนี้จึงถูกทิ้งร้างมาจนถึงปัจจุบัน “ท่านอาจารย์” หลังจากเข้ามาในบ้านแล้ว ฮวงเซียวหย่งก็ปิดประตูและทักทายหานซานเฉียน คำเรียกง่าย ๆ แต่เต็มไปด้วยความเคารพอย่างที่สุด“ที่นี่เป็นที่ของเจ้ารึ” หานซานเฉียนถาม แม้ว่าวัชพืชในสวนจะขึ้นจนรกไปหมด แต่เมื่อจัดการเรียบร้อย มันก็น่าจะเป็นสถานที่ที่มีสภาพแวดล้อมที่ดีทีเดียว“ขอรับ ข้าซื้อที่นี่ทิ้งไว้หลายปีแล้ว นอกจากข้า แม้แต่ท่านพ่อก็ไม่ทราบเรื่องนี้” ฮวงเซียวหย่งกล่าว“ทำความสะอาดสักหน่อยก็คงจะเข้าอยู่ได้ ตอนนี้อาจารย์ของเจ้าถูกไล่ออกจากตระกูลเฉินแล้ว
เมื่อฮวงเซียวหย่งพูดจบ ทั้งสามคนของราชสำนักก็มองเขาด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟ โดยหวังจะหาข้อบกพร่องในการแสดงออกของเขา แต่น่าเสียดายที่สีหน้าของฮวงเซียวหย่งยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ไม่มีความผิดปกติอะไรเลยแม้แต่น้อยฮวงโหวอี้กลัวคนทั้งสามที่อยู่ตรงหน้าเขา แต่ฮวงเซียวหย่งไม่กลัว เนื่องจากเขามีอาจารย์ที่ทรงพลัง และเพราะเขารู้ว่า แม้ว่าท่านอาจารย์จะไปที่ราชสำนัก เขาก็จะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากจักรพรรดิด้วยซ้ำมีท่านอาจารย์ที่ทรงพลังเช่นนี้ เขาจะกลัวผู้คนที่มาจากราชสำนักที่อยู่ตรงหน้าได้อย่างไร?“ช่างเป็นคนหนุ่มที่อนาคตไกลจริง ๆ เจ้ามีสัตว์ร้ายเจ็ดดาวตั้งแต่อายุยังน้อย จากนี้ไป อนาคตของเจ้าจะไม่มีขีดจำกัด” ชายคนนั้นไม่พบข้อบกพร่องใด ๆ ดังนั้นเขาจึงจำต้องเชื่อคำพูดของฮวงเซียวหย่ง“ขอบคุณสำหรับคำชมขอรับ” ฮวงโหวอี้กล่าวด้วยรอยยิ้ม“คราวนี้ข้ามาที่นี่เพื่อถามเจ้าว่า เจ้าอยากเข้าร่วมราชสำนักหรือไม่?” ชายคนนั้นพูดต่อ"การเข้าร่วมราชสำนักเป็นความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของข้า เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับใช้ราชสำนัก แต่พวกท่านน่าจะสัมผัสได้ว่าสถานะปัจจุบันของข้าอยู่แค่ระดับโคมสี่เพียงเท
ช่วงนี้เนื่องจากผู้มาเยือนจากราชสำนักยังไม่ได้ออกจากเมืองหลงหยุน ฮวงเซียวหย่งจึงยับยั้งความปรารถนาที่จะไปหาหานซานเฉียน และอยู่แต่ในจวนของเจ้าเมืองตลอดทั้งวัน แต่ด้วยนิสัยของฮวงเซียวหย่งหลายวันมานี้เขาแทบจะห้ามตัวเองไว้ไม่อยู่แล้วเช้าตรู่นั้น ฮวงเซียวหย่งออกจากจวนของเจ้าเมืองเงียบ ๆ ในความเห็นของเขา เขาปกปิดร่องรอยเป็นอย่างดี แต่คนทั้งสามจากราชสำนักล้วนอยู่ระดับโคมเจ็ด และหากพวกเขาต้องการสะกดรอยตามฮวงเซียวหย่งมันก็เป็นเพียงเรื่องง่ายดายเท่านั้นฮวงเซียวหย่งนึกว่าไม่มีใครสังเกตเห็นตัวเอง แต่ในความเป็นจริง การกระทำของเขาอยู่ในสายตาของคนทั้งสามของราชสำนักเมื่อเขามาถึงเรือนที่หานซานเฉียนอาศัยอยู่ ฮวงเซียวหย่งก็รู้สึกแปลกไป จนสังสัยว่าตัวเองมาผิดที่หรือเปล่า ครั้งล่าสุดที่มาที่นี่ สนามหญ้าเต็มไปด้วยวัชพืช แต่ตอนนี้เขาเห็นดอกไม้ที่ผลิบาน แถมยังมีสะพานเล็ก ๆ ที่น้ำไหลผ่านราวกับฉากแห่งสวรรค์“เจ้ามาที่นี่ทำไม?” หานซานเฉียนเลิกคิ้วถามเมื่อเห็นฮวงเซียวหย่ง“ท่านอาจารย์ ท่านสร้างทั้งหมดนี่ขึ้นมาเองหรือขอรับ? ข้าไม่ได้เจอท่านแค่สองสามวันเท่านั้น แต่ข้าเกือบจะจำสถานที่นี้ไม่ได้แล้ว” ฮวงเซียวห
คนทั้งสามจากราชสำนักมองหน้ากันและออกจากลานบ้านโดยไม่พูดอะไรแน่นอนว่านี่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาเชื่อคำพูดของหานซานเฉียน แต่พวกเขาต้องการหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อพิสูจน์ว่าหานซานเฉียนโกหกหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวตนของหานซานเฉียน ซึ่งควรค่าแก่การตรวจสอบแม้ว่าชื่อเสียงของหานซานเฉียนในเมืองหลงหยุนจะไม่ดังเท่าในหยุนเฉิง แต่มันก็ยังคงแพร่หลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาออกจากตระกูลเฉิน ฉากที่เฉินเถี่ยซินจงใจจัดขึ้น ทำให้หลายคนรู้ว่าหานซานเฉียนนั้นไร้ประโยชน์มากแค่ไหน มีคนมากมายเห็นว่าเขาออกจากตระกูลเฉินโดยถูกเยาะเย้ยและถูกทำให้อับอาย สิ่งนี้ไม่มีทางเป็นเท็จได้คนทั้งสามจากราชสำนักสืบหาตัวตนของหานซานเฉียนได้โดยไม่เสียเวลาและความพยายามมากนักเขากลายเป็นลูกเขยของตระกูลเฉินในช่วงสั้น ๆ แต่ต่อมาถูกตระกูลเฉินไล่ออก ซึ่งทำให้ทุกคนในเมืองหลงหยุนหัวเราะเยาะ เหตุผลที่เฉินเหยียนหรันแต่งงานกับหานซานเฉียน ก็เพราะนางทนการคุกคามของฮวงเซียวหย่งไม่ไหวสิ่งนี้ยังพิสูจน์ได้ว่าหานซานเฉียนไม่ได้โกหกว่าฮวงเซียวหย่งมาเพื่อสร้างปัญหาให้เขา ฮวงเซียวหย่งชอบเฉินเหยียนหรันมาหลายปี นี่ไม่ใช่ละครที่จัดฉากได้ เพราะม
ยิ่งเฉินเหยียนหรันคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไร นางก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจมากขึ้นเท่านั้น แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานว่าสิ่งที่นางคิดนั้นถูกต้อง แต่นางก็ไม่สามารถคิดถึงคำอธิบายอื่นที่จะอธิบายคำพูดของฮวงเซียวหย่งได้แม้ว่านี่จะเป็นดึกแล้ว แต่เฉินเหยียนหรันก็สวมเสื้อผ้าเตรียมพร้อมที่จะไปที่ห้องของหานซานเฉียนสาวใช้ส่วนตัวนอนบนเตียงเล็ก ๆ ติดกำแพง นี่เป็นหน้าที่ของนางก่อนที่คุณหนูจะแต่งงานและย้ายไปอยู่ห้องร่วมกับสามี นางต้องดูแลเฉินเหยียนหรันเป็นการส่วนตัว เมื่อใดก็ตามที่นางมีความต้องการใด ๆ ในฐานะสาวใช้นางจะต้องคอยรับใช้อยู่ตลอดเวลา“คุณหนู มันดึกมากแล้ว คุณหนูจะไปที่ใดเจ้าคะ” สาวใช้ถามเฉินเหยียนหรันย่างสะลึมสะลือเฉินเหยียนหรันไม่ได้พูดอะไร หลังจากแต่งตัวแล้วนางก็รีบออกไปเมื่อสาวใช้เห็นสิ่งนี้ นางก็ทำได้เพียงสวมเสื้อผ้าด้วยความตื่นตระหนก และเดินตามเฉินเหยียนหรันไปในฐานะสาวใช้ส่วนตัว หากมีอะไรเกิดขึ้นกับเฉินเหยียนหรัน นางจะไม่มีจุดจบที่ดีแน่“หานซานเฉียน เปิดประตู เปิดประตูเร็วเดี๋ยวนี้” เฉินเหยียนหรันตบประตูห้องของหานซานเฉียนแล้วตะโกนหลังจากนั้นไม่นาน สาวใช้ก็เดินเข้ามาหาเฉินเหยียนหรันด้วย
“ดอกไม้จะบานในปีหน้า อย่าลืมมาดูที่ลานนี้ล่ะ” หานซานเฉียนพูดเสียงนิ่งฮวงเซียวหย่งหายใจถี่ขึ้น นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกถึงด้านที่ทรงพลังของหานซานเฉียน แม้ว่าเขาจะฆ่าคนของราชสำนักไปแล้วสามคน เขาก็ยังมีท่าทีสงบ ราวกับว่าเรื่องนี้ไม่สามารถสร้างคลื่นใด ๆ ในใจของเขาได้เลย“ท่านอาจารย์ ราชสำนักจะสอบสวนเรื่องนี้อย่างแน่นอนหากคนทั้งสามนี้ไม่ได้กลับไป” ฮวงเซียวหย่งเตือนหานซานเฉียน แม้ว่าเขาจะรู้ว่าหานซานเฉียนแข็งแกร่งมาก และสามารถฆ่าปรมาจารย์โคมเจ็ดคนทั้งสามนี้ได้อย่างง่ายดาย แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาสามารถเป็นศัตรูกับราชสำนักได้เพราะมีเพียงตัวคนเดียว แล้วจะต่อสู้กับประเทศได้อย่างไร?“เจ้าหาคนสักสองสามคนมาปลอมเป็นพวกเขา ตราบใดที่มีคนเห็นพวกเขาออกจากเมืองหลงหยุน เรื่องนี้ก็จะไม่เกี่ยวข้องกับเมืองหลงหยุน” หานซานเฉียนกล่าว“เกรงว่าราชสำนักจะไม่เชื่อง่าย ๆ น่ะสิขอรับ” ฮวงเซียวหย่งกล่าวหานซานเฉียนเงยหน้าขึ้นมองฮวงเซียวหย่งและพูดด้วยรอยยิ้ม “ถ้าอย่างนั้น เจ้าก็รายงานไปว่าข้าเป็นคนฆ่าพวกเขา ด้วยวิธีนี้ เจ้าก็จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ”หานซานเฉียนรู้ว่าทำไมฮวงเซียวหย่งถึงเป็นกังวล เพราะทั
“ตามหาหานซานเฉียน หักขาของมันซะ แล้วพากลับไปที่จวนของตระกูลเฉิน”นี่คือสิ่งที่เฉินเถี่ยซินพูดกับคนรับใช้ทุกคน เขาแน่ใจแล้วว่าหานซานเฉียนทำสิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่าสัตว์ร้าย ดังนั้นเขาจะไม่มีวันปล่อยหานซานเฉียนไปอย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะพบหานซานเฉียน เพราะหานซานเฉียนและฮวงเซียวหย่งอยู่ระหว่างทางไปยังเมืองเซียวหลิงแล้วเมืองเซียวหลิงเป็นสถานที่ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นสวรรค์สำหรับผู้ชาย ทิวทัศน์สองฝั่งแม่น้ำเยียนจือสามารถทำให้ผู้ชายส่วนใหญ่หลงใหลได้ มีข่าวลือว่าครั้งหนึ่งมีเศรษฐีคนหนึ่งที่สูญเสียความมั่งคั่งในแม่น้ำเยียนจือ ก่อนจะสียชีวิตด้วยน้ำมือของผู้หญิงคนหนึ่ง อาจกล่าวได้ว่าเขาทุ่มเทกำลังสุดท้ายให้กับสาเหตุนี้ฮวงเซียวหย่งมีประสบการณ์ในการแอบไปที่เมืองเซียวหลิงหลายครั้ง และเขาก็เคยเห็นทิวทัศน์ของแม่น้ำเยียนจือหลายครั้ง มันเป็นสถานที่ที่ทำให้มนุษย์ไม่สามารถหลุดพ้นจากตัวเองได้การที่หานซานเฉียนเสนอให้ไปที่เมืองเซียวหลิงในครั้งนี้ ตามความเห็นของฮวงเซียวหย่ง หานซานเฉียนต้องมีความคิดในทางนั้นแน่ ดังนั้นเขาจึงแนะนำหานซานเฉียนให้กับร้านค้าชื่อดังหลายแห่งในแม่น้ำ
ฮวงเซียวหย่งน้ำลายไหลแล้วแต่หานซานเฉียนรู้สึกอึดอัดใจมากที่ต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์นี้เพราะของแบบนี้เป็นสิ่งผิดกฎหมายบนโลก จะเห็นการชักชวนลูกค้าอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้ที่ได้ไหน?แต่ความงามของผู้หญิงเหล่านั้นก็ทำให้หานซานเฉียนประหลาดใจทั้งสองฟากฝั่งของแม่น้ำเยียนจือ สุ่มเข้าไปรับผู้หญิงคนไหนก็ได้ พวกนางล้วนแล้วแต่เป็นสาวงาม และมีรูปร่างต่างกัน หากพวกนางไปที่โลก ไม่รู้ว่าจะมีผู้ชายกี่คนที่ต้องตกตะลึง“อาจารย์ ผู้หญิงเหล่านี้สวยงามมากใช่ไหมขอรับ” ฮวงเซียวหย่งพูดกับหานซานเฉียนด้วยริมฝีปากแห้งผาด“ในเมื่อมีผู้หญิงจำนวนมากที่นี่ เหตุใดเจ้าถึงหมกมุ่นอยู่กับเฉินเหยียนหรันมาตั้งหลายปี?” หานซานเฉียนถามด้วยรอยยิ้ม“ท่านอาจารย์ ยังไงที่นี่ก็เป็นซ่องโสเภณี มันเป็นเรื่องปกติที่จะเล่นกับพวกนางเป็นครั้งคราว แต่จะให้พาพวกนางกลับบ้านไปเป็นภรรยาได้อย่างไร” ฮวงเซียวหย่งกล่าว“สุดท้ายแล้วชะตากรรมของคนเหล่านี้จะเป็นอย่างไร?” หานซานเฉียนถามอย่างสงสัยฮวงเซียวหย่งไม่เคยเห็นใครสนใจผู้หญิงในซ่อง และเขาไม่เคยคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับผู้หญิงเหล่านี้ในอนาคตแต่ถ้าลองคิดดูก็พอจะรู้ได้ว่า พวกนางคงจะถูกไล