Share

บทที่ 3

Author: รอยยิ้มนักสู้
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
ตกกลางคืน หนิวหนิวหอบหมอนมาเคาะประตู ถามว่าขอนอนกับเธอได้ไหม

ตอนฉันอุ้มเธอวางบนเตียง ก็รู้สึกเหมือนเธอตัวสั่น

“เป็นอะไรไปเหรอ?”

หนิวหนิวโผล่ดวงตาออกมาจากผ้าห่ม พูดอย่างกลัดกลุ้ม “หนูดูหนังที่คุณบอกแล้ว รู้สึกกลัวนิดหน่อยค่ะ”

ฉันชะงักงันไปครู่หนึ่ง หลังจากได้สติกลับมาก็หัวเราะจนน้ำตาเล็ด

หนิวหนิวดึงผ้าห่มขึ้น

“หยุดหัวเราะได้แล้วค่ะแม่”

นับจากวันนั้น เธอมักเรียกฉันว่าแม่เสมอ

เพียงพริบตา หนิวหนิวก็อายุถึงเกณฑ์เข้าประถมแล้ว

วันนี้ ฉันได้รับโทรศัพท์จากคุณครู บอกว่าหนิวหนิวทะเลาะกับเพื่อน

ขณะเดินทางไปโรงเรียน ฉันนึกถึงความเป็นไปได้สารพัด แต่สุดท้ายก็คิดไม่ออกอยู่ดี

หนิวหนิวเป็นเด็กที่โตเกินวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสามารถในการควบคุมอารมณ์ที่เหนือเกินกว่าอายุของเธอ

หลังจากฉันใช้ชีวิตกับเธอมา ก็มีแค่เรื่องหนังสยองขวัญตอนนั้นที่ทำให้เธอเสียอาการ เวลาปกติเธอก็เป็นคนอ่อนโยนเรียบร้อยมาโดยตลอด ไม่ว่ายังไงก็คิดไม่ออกว่าทำไมถึงไปตีกับคนอื่นได้?

หลังจากมาถึงห้องเรียน คุณครูก็แยกตัวเด็กทั้งสองไว้แล้ว

เธออธิบายเรื่องราวให้ฉันฟังคร่าวๆว่า เด็กที่เพิ่งย้ายมาใหม่บังเอิญเห็นหน้าจอนาฬิกาโทรได้ของหนิวหนิวแล้ว ก็ยืนยันหัวเด็ดตีนขาดว่าคนภาพพื้นหลังเป็นแม่ของเขา

สุดท้ายเถียงไม่ไหว เลยจะแย่งนาฬิกาของหนิวหนิวไป ถึงได้เริ่มตีกัน

พอหนิวหนิวเห็นฉันมา ก็หยุดเขียนดินสอ เก็บของเข้ากระเป๋าเสร็จสรรพแล้วเดินตรงมา

ครั้นเห็นเด็กหญิงไม่ได้บาดเจ็บแต่อย่างใด อารมณ์ก็มั่นคงปกติ ฉันจึงลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก

ทันใดนั้นร่างใครคนหนึ่งพลันโผเข้าหาฉัน ปากเจื้อยแจ้วเรียกคำว่า “แม่” ไม่หยุดหย่อน

หนิวหนิวหน้านิ่วคิ้วขมวดหาดูยาก ดึงคอเสื้อเขาให้ถอยไปหลายก้าว

“จิ๊ นายทำน้ำมูกเปื้อนกระโปรงแม่ฉันแล้ว”

ฉันเพิ่งเห็นหน้าชัดๆของเด็กชายที่เรียกฉันว่าแม่เมื่อครู่ แม้ฟันหน้าจะหลุด ส่วนสูงเพิ่มขึ้น กระนั้นก็ยังมองออกว่าเขาคือลูกชายคนโตของฉัน ฉินตัวตัว

ชั่วเวลานั้น เขาชี้มาที่ฉัน ดวงตาบวมเป่งแต่สีหน้ากลับแน่วแน่ยิ่ง

“เขาเป็นแม่ของฉัน เธอเอาแม่ฉันคืนมาเดี๋ยวนี้!”

“ไม่ใช่สักหน่อย” หนิวหนิวแน่วแน่ไม่แพ้กัน “แม่ฉันชอบกินบะหมี่ซุปหอยหวาน ชอบดูหนังสยองขวัญ คนละคนกับแม่เธอ”

ฉินตัวตัวมองถังชิงด้วยสายตาน่าสงสาร ลากรั้งนิ้วชี้เธอไว้

“แม่ชอบกินผัก อีกทั้งยังไม่เคยชอบหนังสยองขวัญ ใช่ไหมครับแม่?”

ถังชิงปลดมือออกจากมือฉินตัวตัว หยิบกระเป๋าสะพายใส่ไหล่ให้หนิวหนิวก่อนหอมแก้มเด็กหญิง

“ลูกรัก วันนี้ลูกกลับบ้านเองได้ไหม?”

หนิวหนิวพยักหน้า สะพายกระเป๋าเดินออกไป

หลังจากฉินตัวตัวเห็นท่าทีที่เธอส่งหนิวหนิวออกไป ประกายในแววตาค่อยๆหม่นหมองลง

ทว่าเมื่อเขาเห็นสายตาเธอก้มมองตัวเอง จึงพยายามฝืนยิ้มขมขื่นราวกับไม่มีอะไร

“แม่ครับ เราจะกลับบ้านกันเมื่อไร?”

ท่าทางปากแข็งแบบนี้ เรียกได้ว่าแกะพิมพ์มาจากฉินเฟิงทุกประการ

“พ่อเธอล่ะ?”

ฉินตัวตัวก้มหน้า สายตาจดจ้องปลายรองเท้า

“ผมอยากอยู่กับแม่”

ชั่วเวลานั้น คุณครูถือโทรศัพท์เดินเข้ามา

“คุณฉินมาถึงแล้ว ผู้ปกครองทั้งสองคนพบกันสักหน่อยเถอะค่ะ”

หัวใจฉันเต้นเร็วหนักหน่วง

ฉินตัวตัวถูกครูพาตัวออกไป เดินไปพลางหันมามองเป็นระยะ

ฉันนั่งตรงที่นั่งแถวแรก ทันใดนั้นพลันเอ่ยปากถามด้วยท่าทีมาดร้ายเล็กน้อย

“เธอรู้ไหมทำไมตอนอยู่บ้านฉันถึงกินผักเยอะ?”

ฉินตัวตัวหันมา สีหน้างุนงงไม่รู้เรื่อง

“เพราะเธอไม่กินสักคำ ฉันกลัวว่าจะเลี้ยงโภชนาการให้เธอไม่ถึงเกณฑ์ เลยต้องพาเธอกิน ฉันกินสิบคำเธอถึงจะยอมกินหนึ่งคำ เพราะแบบนี้เธอเลยคิดว่าฉันชอบกินผักสินะ”

“อีกอย่างความจริงแล้วฉันชอบดูหนังสยองขวัญมาก แต่เธอกับพ่อเธอไม่ชอบ ดังนั้นฉันเลยต้องเอาใจพวกเธอไปดูอย่างอื่นแทน”

ฉินตัวตัวกระบอกตาแดงก่ำ กระนั้นกลับยังคงกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหล

“แม่ครับ จากนี้ผมจะกินผัก จะดูหนังสยองเป็นเพื่อนแม่ด้วยดีไหมครับ?”

Related chapters

  • ลูกชายฉันช่วยสามีกับเพื่อนฉันคั่วกัน   บทที่ 4

    ฉันงถอนหายใจ ไม่ใส่ใจเรื่องพวกนี้อีกก่อนหน้านี้เธอรักพวกเขามาก ยอมทำเรื่องเหล่านั้นเพื่อพวกเขาโดยสมัครใจ แต่ตอนนี้เธอหมดใจแล้ว ดังนั้นจึงไม่ได้วาดหวังให้พวกเขายอมทำเพื่อเธออีกตอนเห็นฉินเฟิง เขากำลังคุยโทรศัพท์ นิ้วยาวนวดคลึงระหว่างคิ้ว ท่าทางดูเหนื่อยล้าเต็มทนหากเป็นแต่ก่อน เธอคงรอจนกว่าเขาจะเสร็จธุระ แล้วค่อยเอ่ยสิ่งที่ต้องการทว่าตอนนี้ เธอกำลังนึกหนิวหนิวที่ท้องหิวรออยู่บ้านคนเดียวความห่วงผุดขึ้นในใจ เรื่องอื่นกลายเป็นเพียงก้อนเมฆไม่สลักสำคัญอีกต่อไป“ประธานฉิน”ฉันยืนอยู่เบื้องหน้าฉินเฟิง พร้อมรอยยิ้มบางประดับหน้าเขาตะลึงค้างในบัดดล สั่งการอีกฝ่ายอีกมี่กี่ประโยคเสร็จก็วางสายทันที“ทำไมถึงเป็นคุณล่ะ?”“อือหึ?” ฉันยักไหล่ “ฉันหย่าเสร็จก็กลับบ้านเกิด เป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรือไง? แต่คุณต่างหากนายท่านฉิน โรงเรียนในเมืองหลวงมีไม่เข้า ทำไมถึงต้องมาเมืองหังด้วย?”ฉินเฟิงหยุดพูด มองเธอด้วยสายตาล้ำลึก ถังชิงเองจ้องตากลับเช่นกันหลังจากแน่นิ่งมาครู่หนึ่ง ฉินเฟิงเป็นฝ่ายหนักหน้าหนี“เขาคิดถึงคุณ ร้องเอาแต่อยากเจอคุณ”ฉันหัวเราะ “ไหนว่าเขามีหรงจิ้งแล้วไม่ใช่เหรอ จะอยากเจอฉันอี

  • ลูกชายฉันช่วยสามีกับเพื่อนฉันคั่วกัน   บทที่ 5

    ตอนฉันจะจากไป ฉินเฟิงเอ่ยปาก “เธอคิดดูสักหน่อยเถอะ เด็กวัยนี้ไม่มีแม่ไม่ได้ อีกทั้ง......” สายตาเขาฉายแววเป็นประกาย ราวกับจับจุดอ่อนฉันได้ “จากลูกรักมา เธอไม่เสียใจเหรอ?”ฉันตั้งใจครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แต่ความทรงจำที่หวนกลับมานั้นกลับมีเพียงเรื่องเกี่ยวกับหนิวหนิวเท่านั้นผักที่หนิวหนิวชอบที่สุดคือมะเขือเทศและมันฝรั่ง ไม่เลือกกิน สิ่งเดียวที่ไม่กินคือขิง ไม่เป็นไรเธอก็ไม่ชอบเหมือนกันสีที่หนิวหนิวชอบที่สุดคือสีฟ้า ที่จริงเธอชอบใส่กระโปรงมากกว่ากางเกงขาสั้น แต่เด็กหญิงกลับหยิ่งเกินกว่าจะยอมรับเรื่องเล็กๆน้อยๆเหล่านี้ ไม่เหลือเงาฉินตัวตัวตามติดอีกต่อไปแล้วฉันเงยหน้า มุมมปากหยักยิ้มธรรมชาติ “คุณทักเตือนให้ฉันแล้ว ฉันต้องกลับก่อน ลูกสาวฉันยังไม่ได้ทานข้าวน่ะ”หลังจากฉินเฟิงทำหน้าเหมือนไม่เชื่อสายตา เธอเปิดประตู ขึ้นรถก่อนเคลื่อนตัวกลับบ้านยามถึงบ้าน หนิวหนิวทำการบ้านเสร็จแล้ว กำลังนั่งดูทีวีบนโซฟาคนเดียวพอเห็นเธอกลับมา เด็กหญิงวิ่งไปห้องครัวพร้อมขาสั้นๆของตน เดินออกมาพร้อมโจ๊กหนึ่งถ้วย“ขอบใจจ้ะ”ได้กลิ่นหอมอบอวลของข้าวหอมแล้ว เธอลูบหัวหนิวหนิวก่อนหยอกล้อเด็กน้อยเล่น“หนูจะไ

  • ลูกชายฉันช่วยสามีกับเพื่อนฉันคั่วกัน   บทที่ 6

    ฉันถอนหายใจ ถามไถ่หนิวหนิว “ลูกยอมให้แม่ไปกินข้าวกับพวกเขาสักมื้อไหม?”หนิวหนิวปราดตามองฉินตัวตัวที่ใกล้ร้องไห้อยู่รอมร่อ ก่อนพูดอย่างไม่สนใจ “แล้วแต่แม่ค่ะ”ฉินตัวตัวนั่งตรงเบาะข้างคนขับ ท่าทางดีใจเกินบรรยาย หลายครั้งแอบหันมาลอบมองฉันเป็นระยะตอนฉันคุยกับหนิวหนิว แม้เขาจะหน้าบูดบึ้ง ทว่าก็ไม่เหมือนแต่ก่อนที่ดีดดิ้นนอนร้องไห้บนพื้นเขารู้เรื่องกว่าแต่ก่อนเยอะมาก ทว่าก่อนหน้านี้ฉันไม่ได้เกลียดเขาเพราะเขาไม่รู้ความ เช่นเดียวกัน ตอนนี้ก็ไม่ได้ชอบเขาแค่เพราะเขาเชื่อฟังด้วยเช่นกันหลายวันมานี้ ฉินเฟิงเดินทางไปมาระหว่างเมืองหังและเมืองหลวง ทางฉินตัวตัวนั้นแม้มีพ่อบ้านคอยดูแล แต่หลังจากปิดเทอมเขามักวิ่งมาร้านฉันคนเดียว นั่งทำการบ้านบนโต๊ะอาหารในร้าน กระทั่งปิดร้านถึงกลับไปสำหรับเรื่องนี้ ฉินเฟิงไม่ได้อธิบายอะไรมากนัก พ่อบ้านตระกูลฉินเองก็แค่รอรับนายน้อยของพวกเขาตอนปิดร้านอย่างตรงเวลาเท่านั้นแต่สำหรับฉันแล้วหมายถึงอะไรกัน?มารู้ตัวตอนที่สายไปแล้วเหรอ?ฉันไม่ใช่พวกที่ความรักของคนเป็นแม่เปี่ยมล้นมาพอจะปล่อยวางได้ที่วันนี้ยอมตกลงมาอยู่กับฉินตัวตัวในวันเกิด ก็เพราะคิดจะใช้โอกาสนี้ผลัก

  • ลูกชายฉันช่วยสามีกับเพื่อนฉันคั่วกัน   บทที่ 7

    หลังจากพายุพัดถล่มครั้งนั้น ทางโรงเรียนก็ใกล้ปิดเทอมฤดูร้อนฉินเฟิงไม่โผล่หน้ามาให้ฉันเห็นอยู่เนิ่นนาน ฉินตัวตัวก็ไม่ได้โผล่มาที่ร้านบะหมี่ฉันอีกคิดว่าละครรักของพวกเขาสองพ่อลูกคงถึงตอนจบแล้ว ชีวิตของฉันกับหนิวหนิวจึงกลับมาเป็นปกติในที่สุดทว่าวันนี้ตอนฉันถือถุงกุ้งกลับมาบ้าน กลับไม่เจอหนิวหนิวแล้วฉันพยายามบังคับให้ตัวเองตั้งสติ หยิบโทรศัพท์ออกมา โทรหาคุณครูและร้านหนังสือที่เธอมักไปเป็นประจำแต่พวกเขากลับบอกว่าไม่เห็นหนิวหนิวจิตใจฉันร้อนรนดั่งไฟ วิ่งออกไปหมายแจ้งตำรวจตรงทางเดินฉันเห็นป้าเฉินถือตะกร้าผักอยู่ตรงข้ามประตู อีกฝ่ายเห็นฉันรีบร้อนเหงื่อท่วมตัวจึงถามว่าเป็นอะไรหลังจากได้ยินว่าหนิวหนิวหายไป คุณป้าก็ร้อนรนเสียยิ่งกว่าฉันอีก“อาถัง ป้าไม่รู้ว่าควรพูดดีไหม เป็นไปได้ไหมว่าเศรษฐีหนุ่มที่ตามจีบเธอคนนั้นจะพาหนิวหนิวไป?”ฉันตะลึงค้าง “อะไรนะ?”“ก็คนที่ชอบขับรถมาตามหาเธอที่ร้านบะหมี่บ่อยๆไง เขาจีบเธออยู่ไม่ใช่เหรอ?”ฉันเข้าใจแล้วว่าคุณป้าหมายถึงใคร ขณะกำลังจะโบกมือปฏิเสธ คุณป้าพลันพูดต่อ“ตอนนี้เธอแต่งงานใหม่เพราะทำตามความปรารถนาลูกสินะ ไม่แน่อาจเป็นเพราะอยากจีบเธอ เขาถ

  • ลูกชายฉันช่วยสามีกับเพื่อนฉันคั่วกัน   บทที่ 8

    ฉันแสร้งทำทีไม่เข้าใจสิ่งที่เขาสื่อ ถามกลับ “ทำไม เขาเคยเห็นใครนั่งเบาะข้างคนขับของรถคันนี้ หรงจิ้งเหรอ?”ฉินเฟิงหลบสายตาด้วยความลำบากใจ “ชิงชิง ผมทำผิดไปแล้ว แต่คุณจะไม่ให้โอกาสผมสักครั้งไม่ได้”“สองปีมานี้ผมครุ่นคิดมากมาย ตัวตัวเองก็ไม่ได้หัวดื้อเหมือนแต่ก่อนแล้ว ดังนั้น—”“ดังนั้นห่างกันไปสองปี หรงจิ้งก็ยังถือเค้ก เดินทางจากเมืองหลวงมาเมืองหังเพื่อจัดวันเกิดให้ตัวตัว ทั้งหมดนี้เธอคิดอยากทำเองคนเดียวเหรอ?”ฉินเฟิงถูกตอกหน้าหงาย กลืนน้ำลายจนลูกกระเดือกขยับ“หลังจากครั้งนั้น เธอท้องลูกของผม”“แต่ผมบอกให้เธอเอาออก”ฉันเบิกตาโพลงทันใด ความรู้สึกสะอิดสะเอียนตีขึ้นจนรู้สึกเจ็บ เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าถังชิงคนนั้นที่เคยชอบฉินเฟิงมาถึงเก้าปีช่างไร้ค่ายิ่งนัก“แล้วยังไงล่ะ บอกเรื่องพวกนี้ให้ฉันฟังทำไม? อยากให้ฉันเจ็บปวดเพราะหวนนึกถึงเรื่องวันนั้นเหรอ?”“หรือคิดจะใช้ความโชคร้ายของผู้หญิงอีกคน มาทำให้ฉันรู้สึกดีเหรอ?”“ไม่ใช่นะ” ฉินเฟิงละล่ำละลักส่ายหน้า “ผมแค่อยากบอกคุณ ว่าที่ของคุณไม่เคยมีใครมาแทนได้”ฉันแสยะยิ้มเย็นอย่างกลั้นไม่อยู่ “ดังนั้นเลยมีแค่ฉันที่โชคดีได้คลอดลูกคุณอย่างงั้

  • ลูกชายฉันช่วยสามีกับเพื่อนฉันคั่วกัน   บทที่ 9

    ก่อนรถออกตัว ฉินตัวตัวเกาะหน้าต่างรถ ไม่ร้องไม่งอแง แค่ถามฉันด้วยดวงตาแดงก่ำ“แม่ครับ วันหลังคิดถึงแม่ขึ้นมา ขอโทรหาแม่ได้ไหม? ถ้าแม่รู้สึกรำคาญผมโทรเดือนละครั้งก็ได้”สุดท้ายฉันก็อดห่วงลูกคนนี้ไม่ได้ จึงพยักหน้ารับไม่รู้ว่าพ่อของฉินเฟิงได้รับกรรมบ้างหรือยัง อย่างไรเสียเขาก็มีหลานเพียงคนเดียวคือฉินตัวตัวการกลับไปครั้งนี้ ต้องถูกเลี้ยงดูให้กลายเป็นผู้สืบทอดตระกูลฉินในอนาคตแน่เขาอยู่ที่ตระกูลฉิน ยังไงก็ดีกว่าอยู่กับฉันรถขับไปไกลขึ้นเรื่อยๆ ท้ายสุดก็ปะปนไปตามรถคันอื่น มองไม่เห็นอีกต่อไปหนิวหนิวเงยหน้า “แม่คะ เลโก้ของฉินตัวตัวเป็นเขาเองที่ทำพัง หนูเห็นแล้ว”ฉันตะลึงงัน ก่อนเผยยิ้มออกมา“เจ้าลูกคนนี้ ฉลาดกว่าพ่อเขาอีก”“คงเป็นเพราะมียืนฉันอยู่ด้วย”หนิวหนิวเบะปากอย่างช่วยไม่ได้ “คืนนี้เราทานอะไรดีคะ?”“บะหมี่หอยหวาน”“ช่วยด้วย!”ตอนพิเศษ—ฉินเฟิงวันที่แม่ของเขากระโดดตึก ผมอยู่ข้างล่างตึก เห็นเต็มตาจากคนมีชีวิตกลายเป็นกองเนื้อแหลกเหลวพวกเขาบอกกันว่า เธอโดนคุณนายฉินบีบให้ตาย แต่ผมรู้สึกว่าเธอถูกตัวผมบีบบังคับให้ตายคุณนายฉินให้เงินเธอมาหนึ่งก้อน ให้เธอออกนนอกประเทศ โดยม

  • ลูกชายฉันช่วยสามีกับเพื่อนฉันคั่วกัน   บทที่ 1

    วันที่หย่ากับฉินเฟิงนั้น ตอนออกจากประตูสำนักงานฝนก็เกือบตกแล้ว “ถังชิง” ฉินเฟิงเลื่อนเปิดประตูรถ “ผมจะส่งคุณกลับเอง”ฉันยังไม่ทันได้เอ่ยปาก ลูกชายฉินตัวตัวก็ส่งนาฬิกาโทรได้ของตนผ่านหน้าต่างเบาะหลังออกมา “พ่อครับ น้าเสี่ยวจิ้งบอกว่าคืนนี้จะทำซี่โครงหมูราดซอสเปรี้ยวหวานไว้ให้ ตอนนี้น้าซื้อของมาหน้าประตูบ้านเราแล้ว”ฉินเฟิงมองฉินตัวตัว เป็นอันต้องขมวดคิ้วมุ่น “เข้าไปซะ”ฉินตัวตัวกลอกตาขาวใส่ฉันไปที ก่อนหดตัวเข้ารถไปอย่างน้อยใจ “ไม่ต้องหรอก” ฉันตอบกลับตรงๆ “เดี๋ยวจะเสียเวลาทานข้าวของพวกคุณ”ฉินเฟิงก้มหน้า พึมพำกับตัวเอง “คืนนี้ไปร้านหม้อไฟที่คุณชอบที่สุดได้นะ” “ฉินเฟิง” ฉันเตือนเสียงเบา “เราหย่ากันแล้ว”เขาเงยหน้า กระบอกตาแดงก่ำไปชั่วพริบตา ก่อนจะปรับอารมณ์กลับมาเป็นปกติ แสร้งทำท่าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “อืม แต่เจอกันด้วยดีก็ขอให้จากกันด้วยดีเถอะ ยังไงซะนานแล้วที่เราสามคนครอบครัวไม่ได้......”ฉันตัดบทเขา “ร้านนั้นปิดไปตั้งแต่สองเดือนก่อนแล้ว ฉันเคยบอกคุณไปแล้ว”ร้านนี้เป็นร้านสมัยที่ฉันกับฉินเฟิงเรียนมหาลัยชอบไปกินด้วยกันมาก นับดูแล้วก็ถือเป็นร้านเก่าแก่ทีเดียวเดือนก่อน

  • ลูกชายฉันช่วยสามีกับเพื่อนฉันคั่วกัน   บทที่ 2

    หรงจิ้งมองเธอ ก่อนมองเจ้าตัวน้อยอีกครั้ง พลางหัวเราะเหยเก“แม่ของตัวเล็กกลับมาแล้ว น้าต้องไปแล้วล่ะ” ฉินตัวตัวนั่งบนพื้นตะโกนร้องไห้ดังลั่น “ให้แม่ออกไป ผมจะให้น้าเสี่ยวจิ้งอยู่ต่อ ผมจะให้น้าเสี่ยวจิ้งเป็นแม่ของผม!”แม้ฉินตัวตัวจะเพิ่งอายุย่างสี่ขวบ ถือเป็นอายุที่คำพูดพล่อยๆไม่ควรถือสา ทว่าเมื่อได้ยินกับหูว่าเขาพูดแบบนี้ออกมาเอง หัวใจของเธอก็เจ็บปวดแทบกระอักเลือดหรงจิ้งตบบ่าฉันเบาๆ “เด็กเล็กก็แบบนี้แหละ เธออย่าคิดมาก”ฉินเฟิงที่อยู่ด้านข้างลากเจ้าตัวเล็กขึ้น น้ำเสียงแฝงเร้นด้วยความเยือกเย็น“ถ้าพูดจาแบบนี้อีก ลูกจะโดนทำโทษยืนข้างนอกหนึ่งชั่วโมง”น้ำเสียงฉินเฟิงน่าเกรงขาม ฉินตัวตัวไม่กล้าดีดดิ้นไปทั่วบนพื้นอีกเสียงเดียวที่หลงเหลืออยู่ในห้องรับแขกคือเสียงสะอื้นไห้ของฉินตัวตัวเธอมองภาพจอมปลอมที่แสร้งสงบกลบเกลื่อนตรงหน้า พาลเอาให้นึกเรื่องชุดใหม่ของพระชาขึ้นมาทันใดหากเธอไม่พูด พวกเราคงยังแสร้งทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นต่อกันได้ แล้วแสดงในบทของตัวเองต่อไปกิจการของฉินเฟิงก้าวหน้าขึ้นทุกวัน ถังชิงจึงกลายเป็นเป็นแม่บ้านภรรยาอย่างเต็มตัวต่อหรงจิ้งยังเป็นพี่น้องที่ดีที่ช่วยแบ่ง

Latest chapter

  • ลูกชายฉันช่วยสามีกับเพื่อนฉันคั่วกัน   บทที่ 9

    ก่อนรถออกตัว ฉินตัวตัวเกาะหน้าต่างรถ ไม่ร้องไม่งอแง แค่ถามฉันด้วยดวงตาแดงก่ำ“แม่ครับ วันหลังคิดถึงแม่ขึ้นมา ขอโทรหาแม่ได้ไหม? ถ้าแม่รู้สึกรำคาญผมโทรเดือนละครั้งก็ได้”สุดท้ายฉันก็อดห่วงลูกคนนี้ไม่ได้ จึงพยักหน้ารับไม่รู้ว่าพ่อของฉินเฟิงได้รับกรรมบ้างหรือยัง อย่างไรเสียเขาก็มีหลานเพียงคนเดียวคือฉินตัวตัวการกลับไปครั้งนี้ ต้องถูกเลี้ยงดูให้กลายเป็นผู้สืบทอดตระกูลฉินในอนาคตแน่เขาอยู่ที่ตระกูลฉิน ยังไงก็ดีกว่าอยู่กับฉันรถขับไปไกลขึ้นเรื่อยๆ ท้ายสุดก็ปะปนไปตามรถคันอื่น มองไม่เห็นอีกต่อไปหนิวหนิวเงยหน้า “แม่คะ เลโก้ของฉินตัวตัวเป็นเขาเองที่ทำพัง หนูเห็นแล้ว”ฉันตะลึงงัน ก่อนเผยยิ้มออกมา“เจ้าลูกคนนี้ ฉลาดกว่าพ่อเขาอีก”“คงเป็นเพราะมียืนฉันอยู่ด้วย”หนิวหนิวเบะปากอย่างช่วยไม่ได้ “คืนนี้เราทานอะไรดีคะ?”“บะหมี่หอยหวาน”“ช่วยด้วย!”ตอนพิเศษ—ฉินเฟิงวันที่แม่ของเขากระโดดตึก ผมอยู่ข้างล่างตึก เห็นเต็มตาจากคนมีชีวิตกลายเป็นกองเนื้อแหลกเหลวพวกเขาบอกกันว่า เธอโดนคุณนายฉินบีบให้ตาย แต่ผมรู้สึกว่าเธอถูกตัวผมบีบบังคับให้ตายคุณนายฉินให้เงินเธอมาหนึ่งก้อน ให้เธอออกนนอกประเทศ โดยม

  • ลูกชายฉันช่วยสามีกับเพื่อนฉันคั่วกัน   บทที่ 8

    ฉันแสร้งทำทีไม่เข้าใจสิ่งที่เขาสื่อ ถามกลับ “ทำไม เขาเคยเห็นใครนั่งเบาะข้างคนขับของรถคันนี้ หรงจิ้งเหรอ?”ฉินเฟิงหลบสายตาด้วยความลำบากใจ “ชิงชิง ผมทำผิดไปแล้ว แต่คุณจะไม่ให้โอกาสผมสักครั้งไม่ได้”“สองปีมานี้ผมครุ่นคิดมากมาย ตัวตัวเองก็ไม่ได้หัวดื้อเหมือนแต่ก่อนแล้ว ดังนั้น—”“ดังนั้นห่างกันไปสองปี หรงจิ้งก็ยังถือเค้ก เดินทางจากเมืองหลวงมาเมืองหังเพื่อจัดวันเกิดให้ตัวตัว ทั้งหมดนี้เธอคิดอยากทำเองคนเดียวเหรอ?”ฉินเฟิงถูกตอกหน้าหงาย กลืนน้ำลายจนลูกกระเดือกขยับ“หลังจากครั้งนั้น เธอท้องลูกของผม”“แต่ผมบอกให้เธอเอาออก”ฉันเบิกตาโพลงทันใด ความรู้สึกสะอิดสะเอียนตีขึ้นจนรู้สึกเจ็บ เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าถังชิงคนนั้นที่เคยชอบฉินเฟิงมาถึงเก้าปีช่างไร้ค่ายิ่งนัก“แล้วยังไงล่ะ บอกเรื่องพวกนี้ให้ฉันฟังทำไม? อยากให้ฉันเจ็บปวดเพราะหวนนึกถึงเรื่องวันนั้นเหรอ?”“หรือคิดจะใช้ความโชคร้ายของผู้หญิงอีกคน มาทำให้ฉันรู้สึกดีเหรอ?”“ไม่ใช่นะ” ฉินเฟิงละล่ำละลักส่ายหน้า “ผมแค่อยากบอกคุณ ว่าที่ของคุณไม่เคยมีใครมาแทนได้”ฉันแสยะยิ้มเย็นอย่างกลั้นไม่อยู่ “ดังนั้นเลยมีแค่ฉันที่โชคดีได้คลอดลูกคุณอย่างงั้

  • ลูกชายฉันช่วยสามีกับเพื่อนฉันคั่วกัน   บทที่ 7

    หลังจากพายุพัดถล่มครั้งนั้น ทางโรงเรียนก็ใกล้ปิดเทอมฤดูร้อนฉินเฟิงไม่โผล่หน้ามาให้ฉันเห็นอยู่เนิ่นนาน ฉินตัวตัวก็ไม่ได้โผล่มาที่ร้านบะหมี่ฉันอีกคิดว่าละครรักของพวกเขาสองพ่อลูกคงถึงตอนจบแล้ว ชีวิตของฉันกับหนิวหนิวจึงกลับมาเป็นปกติในที่สุดทว่าวันนี้ตอนฉันถือถุงกุ้งกลับมาบ้าน กลับไม่เจอหนิวหนิวแล้วฉันพยายามบังคับให้ตัวเองตั้งสติ หยิบโทรศัพท์ออกมา โทรหาคุณครูและร้านหนังสือที่เธอมักไปเป็นประจำแต่พวกเขากลับบอกว่าไม่เห็นหนิวหนิวจิตใจฉันร้อนรนดั่งไฟ วิ่งออกไปหมายแจ้งตำรวจตรงทางเดินฉันเห็นป้าเฉินถือตะกร้าผักอยู่ตรงข้ามประตู อีกฝ่ายเห็นฉันรีบร้อนเหงื่อท่วมตัวจึงถามว่าเป็นอะไรหลังจากได้ยินว่าหนิวหนิวหายไป คุณป้าก็ร้อนรนเสียยิ่งกว่าฉันอีก“อาถัง ป้าไม่รู้ว่าควรพูดดีไหม เป็นไปได้ไหมว่าเศรษฐีหนุ่มที่ตามจีบเธอคนนั้นจะพาหนิวหนิวไป?”ฉันตะลึงค้าง “อะไรนะ?”“ก็คนที่ชอบขับรถมาตามหาเธอที่ร้านบะหมี่บ่อยๆไง เขาจีบเธออยู่ไม่ใช่เหรอ?”ฉันเข้าใจแล้วว่าคุณป้าหมายถึงใคร ขณะกำลังจะโบกมือปฏิเสธ คุณป้าพลันพูดต่อ“ตอนนี้เธอแต่งงานใหม่เพราะทำตามความปรารถนาลูกสินะ ไม่แน่อาจเป็นเพราะอยากจีบเธอ เขาถ

  • ลูกชายฉันช่วยสามีกับเพื่อนฉันคั่วกัน   บทที่ 6

    ฉันถอนหายใจ ถามไถ่หนิวหนิว “ลูกยอมให้แม่ไปกินข้าวกับพวกเขาสักมื้อไหม?”หนิวหนิวปราดตามองฉินตัวตัวที่ใกล้ร้องไห้อยู่รอมร่อ ก่อนพูดอย่างไม่สนใจ “แล้วแต่แม่ค่ะ”ฉินตัวตัวนั่งตรงเบาะข้างคนขับ ท่าทางดีใจเกินบรรยาย หลายครั้งแอบหันมาลอบมองฉันเป็นระยะตอนฉันคุยกับหนิวหนิว แม้เขาจะหน้าบูดบึ้ง ทว่าก็ไม่เหมือนแต่ก่อนที่ดีดดิ้นนอนร้องไห้บนพื้นเขารู้เรื่องกว่าแต่ก่อนเยอะมาก ทว่าก่อนหน้านี้ฉันไม่ได้เกลียดเขาเพราะเขาไม่รู้ความ เช่นเดียวกัน ตอนนี้ก็ไม่ได้ชอบเขาแค่เพราะเขาเชื่อฟังด้วยเช่นกันหลายวันมานี้ ฉินเฟิงเดินทางไปมาระหว่างเมืองหังและเมืองหลวง ทางฉินตัวตัวนั้นแม้มีพ่อบ้านคอยดูแล แต่หลังจากปิดเทอมเขามักวิ่งมาร้านฉันคนเดียว นั่งทำการบ้านบนโต๊ะอาหารในร้าน กระทั่งปิดร้านถึงกลับไปสำหรับเรื่องนี้ ฉินเฟิงไม่ได้อธิบายอะไรมากนัก พ่อบ้านตระกูลฉินเองก็แค่รอรับนายน้อยของพวกเขาตอนปิดร้านอย่างตรงเวลาเท่านั้นแต่สำหรับฉันแล้วหมายถึงอะไรกัน?มารู้ตัวตอนที่สายไปแล้วเหรอ?ฉันไม่ใช่พวกที่ความรักของคนเป็นแม่เปี่ยมล้นมาพอจะปล่อยวางได้ที่วันนี้ยอมตกลงมาอยู่กับฉินตัวตัวในวันเกิด ก็เพราะคิดจะใช้โอกาสนี้ผลัก

  • ลูกชายฉันช่วยสามีกับเพื่อนฉันคั่วกัน   บทที่ 5

    ตอนฉันจะจากไป ฉินเฟิงเอ่ยปาก “เธอคิดดูสักหน่อยเถอะ เด็กวัยนี้ไม่มีแม่ไม่ได้ อีกทั้ง......” สายตาเขาฉายแววเป็นประกาย ราวกับจับจุดอ่อนฉันได้ “จากลูกรักมา เธอไม่เสียใจเหรอ?”ฉันตั้งใจครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แต่ความทรงจำที่หวนกลับมานั้นกลับมีเพียงเรื่องเกี่ยวกับหนิวหนิวเท่านั้นผักที่หนิวหนิวชอบที่สุดคือมะเขือเทศและมันฝรั่ง ไม่เลือกกิน สิ่งเดียวที่ไม่กินคือขิง ไม่เป็นไรเธอก็ไม่ชอบเหมือนกันสีที่หนิวหนิวชอบที่สุดคือสีฟ้า ที่จริงเธอชอบใส่กระโปรงมากกว่ากางเกงขาสั้น แต่เด็กหญิงกลับหยิ่งเกินกว่าจะยอมรับเรื่องเล็กๆน้อยๆเหล่านี้ ไม่เหลือเงาฉินตัวตัวตามติดอีกต่อไปแล้วฉันเงยหน้า มุมมปากหยักยิ้มธรรมชาติ “คุณทักเตือนให้ฉันแล้ว ฉันต้องกลับก่อน ลูกสาวฉันยังไม่ได้ทานข้าวน่ะ”หลังจากฉินเฟิงทำหน้าเหมือนไม่เชื่อสายตา เธอเปิดประตู ขึ้นรถก่อนเคลื่อนตัวกลับบ้านยามถึงบ้าน หนิวหนิวทำการบ้านเสร็จแล้ว กำลังนั่งดูทีวีบนโซฟาคนเดียวพอเห็นเธอกลับมา เด็กหญิงวิ่งไปห้องครัวพร้อมขาสั้นๆของตน เดินออกมาพร้อมโจ๊กหนึ่งถ้วย“ขอบใจจ้ะ”ได้กลิ่นหอมอบอวลของข้าวหอมแล้ว เธอลูบหัวหนิวหนิวก่อนหยอกล้อเด็กน้อยเล่น“หนูจะไ

  • ลูกชายฉันช่วยสามีกับเพื่อนฉันคั่วกัน   บทที่ 4

    ฉันงถอนหายใจ ไม่ใส่ใจเรื่องพวกนี้อีกก่อนหน้านี้เธอรักพวกเขามาก ยอมทำเรื่องเหล่านั้นเพื่อพวกเขาโดยสมัครใจ แต่ตอนนี้เธอหมดใจแล้ว ดังนั้นจึงไม่ได้วาดหวังให้พวกเขายอมทำเพื่อเธออีกตอนเห็นฉินเฟิง เขากำลังคุยโทรศัพท์ นิ้วยาวนวดคลึงระหว่างคิ้ว ท่าทางดูเหนื่อยล้าเต็มทนหากเป็นแต่ก่อน เธอคงรอจนกว่าเขาจะเสร็จธุระ แล้วค่อยเอ่ยสิ่งที่ต้องการทว่าตอนนี้ เธอกำลังนึกหนิวหนิวที่ท้องหิวรออยู่บ้านคนเดียวความห่วงผุดขึ้นในใจ เรื่องอื่นกลายเป็นเพียงก้อนเมฆไม่สลักสำคัญอีกต่อไป“ประธานฉิน”ฉันยืนอยู่เบื้องหน้าฉินเฟิง พร้อมรอยยิ้มบางประดับหน้าเขาตะลึงค้างในบัดดล สั่งการอีกฝ่ายอีกมี่กี่ประโยคเสร็จก็วางสายทันที“ทำไมถึงเป็นคุณล่ะ?”“อือหึ?” ฉันยักไหล่ “ฉันหย่าเสร็จก็กลับบ้านเกิด เป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรือไง? แต่คุณต่างหากนายท่านฉิน โรงเรียนในเมืองหลวงมีไม่เข้า ทำไมถึงต้องมาเมืองหังด้วย?”ฉินเฟิงหยุดพูด มองเธอด้วยสายตาล้ำลึก ถังชิงเองจ้องตากลับเช่นกันหลังจากแน่นิ่งมาครู่หนึ่ง ฉินเฟิงเป็นฝ่ายหนักหน้าหนี“เขาคิดถึงคุณ ร้องเอาแต่อยากเจอคุณ”ฉันหัวเราะ “ไหนว่าเขามีหรงจิ้งแล้วไม่ใช่เหรอ จะอยากเจอฉันอี

  • ลูกชายฉันช่วยสามีกับเพื่อนฉันคั่วกัน   บทที่ 3

    ตกกลางคืน หนิวหนิวหอบหมอนมาเคาะประตู ถามว่าขอนอนกับเธอได้ไหมตอนฉันอุ้มเธอวางบนเตียง ก็รู้สึกเหมือนเธอตัวสั่น“เป็นอะไรไปเหรอ?”หนิวหนิวโผล่ดวงตาออกมาจากผ้าห่ม พูดอย่างกลัดกลุ้ม “หนูดูหนังที่คุณบอกแล้ว รู้สึกกลัวนิดหน่อยค่ะ”ฉันชะงักงันไปครู่หนึ่ง หลังจากได้สติกลับมาก็หัวเราะจนน้ำตาเล็ดหนิวหนิวดึงผ้าห่มขึ้น“หยุดหัวเราะได้แล้วค่ะแม่”นับจากวันนั้น เธอมักเรียกฉันว่าแม่เสมอเพียงพริบตา หนิวหนิวก็อายุถึงเกณฑ์เข้าประถมแล้ววันนี้ ฉันได้รับโทรศัพท์จากคุณครู บอกว่าหนิวหนิวทะเลาะกับเพื่อนขณะเดินทางไปโรงเรียน ฉันนึกถึงความเป็นไปได้สารพัด แต่สุดท้ายก็คิดไม่ออกอยู่ดีหนิวหนิวเป็นเด็กที่โตเกินวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสามารถในการควบคุมอารมณ์ที่เหนือเกินกว่าอายุของเธอหลังจากฉันใช้ชีวิตกับเธอมา ก็มีแค่เรื่องหนังสยองขวัญตอนนั้นที่ทำให้เธอเสียอาการ เวลาปกติเธอก็เป็นคนอ่อนโยนเรียบร้อยมาโดยตลอด ไม่ว่ายังไงก็คิดไม่ออกว่าทำไมถึงไปตีกับคนอื่นได้?หลังจากมาถึงห้องเรียน คุณครูก็แยกตัวเด็กทั้งสองไว้แล้วเธออธิบายเรื่องราวให้ฉันฟังคร่าวๆว่า เด็กที่เพิ่งย้ายมาใหม่บังเอิญเห็นหน้าจอนาฬิกาโทรได้ขอ

  • ลูกชายฉันช่วยสามีกับเพื่อนฉันคั่วกัน   บทที่ 2

    หรงจิ้งมองเธอ ก่อนมองเจ้าตัวน้อยอีกครั้ง พลางหัวเราะเหยเก“แม่ของตัวเล็กกลับมาแล้ว น้าต้องไปแล้วล่ะ” ฉินตัวตัวนั่งบนพื้นตะโกนร้องไห้ดังลั่น “ให้แม่ออกไป ผมจะให้น้าเสี่ยวจิ้งอยู่ต่อ ผมจะให้น้าเสี่ยวจิ้งเป็นแม่ของผม!”แม้ฉินตัวตัวจะเพิ่งอายุย่างสี่ขวบ ถือเป็นอายุที่คำพูดพล่อยๆไม่ควรถือสา ทว่าเมื่อได้ยินกับหูว่าเขาพูดแบบนี้ออกมาเอง หัวใจของเธอก็เจ็บปวดแทบกระอักเลือดหรงจิ้งตบบ่าฉันเบาๆ “เด็กเล็กก็แบบนี้แหละ เธออย่าคิดมาก”ฉินเฟิงที่อยู่ด้านข้างลากเจ้าตัวเล็กขึ้น น้ำเสียงแฝงเร้นด้วยความเยือกเย็น“ถ้าพูดจาแบบนี้อีก ลูกจะโดนทำโทษยืนข้างนอกหนึ่งชั่วโมง”น้ำเสียงฉินเฟิงน่าเกรงขาม ฉินตัวตัวไม่กล้าดีดดิ้นไปทั่วบนพื้นอีกเสียงเดียวที่หลงเหลืออยู่ในห้องรับแขกคือเสียงสะอื้นไห้ของฉินตัวตัวเธอมองภาพจอมปลอมที่แสร้งสงบกลบเกลื่อนตรงหน้า พาลเอาให้นึกเรื่องชุดใหม่ของพระชาขึ้นมาทันใดหากเธอไม่พูด พวกเราคงยังแสร้งทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นต่อกันได้ แล้วแสดงในบทของตัวเองต่อไปกิจการของฉินเฟิงก้าวหน้าขึ้นทุกวัน ถังชิงจึงกลายเป็นเป็นแม่บ้านภรรยาอย่างเต็มตัวต่อหรงจิ้งยังเป็นพี่น้องที่ดีที่ช่วยแบ่ง

  • ลูกชายฉันช่วยสามีกับเพื่อนฉันคั่วกัน   บทที่ 1

    วันที่หย่ากับฉินเฟิงนั้น ตอนออกจากประตูสำนักงานฝนก็เกือบตกแล้ว “ถังชิง” ฉินเฟิงเลื่อนเปิดประตูรถ “ผมจะส่งคุณกลับเอง”ฉันยังไม่ทันได้เอ่ยปาก ลูกชายฉินตัวตัวก็ส่งนาฬิกาโทรได้ของตนผ่านหน้าต่างเบาะหลังออกมา “พ่อครับ น้าเสี่ยวจิ้งบอกว่าคืนนี้จะทำซี่โครงหมูราดซอสเปรี้ยวหวานไว้ให้ ตอนนี้น้าซื้อของมาหน้าประตูบ้านเราแล้ว”ฉินเฟิงมองฉินตัวตัว เป็นอันต้องขมวดคิ้วมุ่น “เข้าไปซะ”ฉินตัวตัวกลอกตาขาวใส่ฉันไปที ก่อนหดตัวเข้ารถไปอย่างน้อยใจ “ไม่ต้องหรอก” ฉันตอบกลับตรงๆ “เดี๋ยวจะเสียเวลาทานข้าวของพวกคุณ”ฉินเฟิงก้มหน้า พึมพำกับตัวเอง “คืนนี้ไปร้านหม้อไฟที่คุณชอบที่สุดได้นะ” “ฉินเฟิง” ฉันเตือนเสียงเบา “เราหย่ากันแล้ว”เขาเงยหน้า กระบอกตาแดงก่ำไปชั่วพริบตา ก่อนจะปรับอารมณ์กลับมาเป็นปกติ แสร้งทำท่าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “อืม แต่เจอกันด้วยดีก็ขอให้จากกันด้วยดีเถอะ ยังไงซะนานแล้วที่เราสามคนครอบครัวไม่ได้......”ฉันตัดบทเขา “ร้านนั้นปิดไปตั้งแต่สองเดือนก่อนแล้ว ฉันเคยบอกคุณไปแล้ว”ร้านนี้เป็นร้านสมัยที่ฉันกับฉินเฟิงเรียนมหาลัยชอบไปกินด้วยกันมาก นับดูแล้วก็ถือเป็นร้านเก่าแก่ทีเดียวเดือนก่อน

DMCA.com Protection Status