Share

๘. เจอกันเสียที

last update Последнее обновление: 2025-04-29 18:00:48

ราวกับต้องมนต์เมื่อเขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้ม เธอยังคงจ้องมองเขานิ่งค้างในอ้อมแขนแกร่งอยู่อย่างนั้นไม่ขยับไปไหนความรู้สึกคิดถึงอ้อมกอดเกิดขึ้นมาในใจ จนเธอต้องพยายามตั้งสติและดึงตัวเองออกจากอ้อมกอดของเขา นรินทร์ไม่กล้าที่จะมองใบหน้าหล่อคมนั้นตรงๆ

“ไม่เป็นไรค่ะ แต่ก็ขอบคุณนะคะ” 

เธอเอ่ยขึ้นมาแก้เขิน ก่อนจะรีบลุกขึ้นแล้วเดินออกจากตัวปราสาทไปโดยมีสายตาคู่หนึ่งจ้องมองตามแผ่นหลังนั้นด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม …ในที่สุดเขาก็ปรากฏกายมาเจอเธอได้เสียที ตามคำสาปที่เขาได้สาปตัวเองด้วยความรู้สึกผิดครั้งในอดีตหลายพันปีที่ผ่านมาเอาไว้ว่า

            …หากตัวข้าหานางในดวงใจมิเจอ นางมิก้าวเท้าลงเหยียบเมืองข้าแล้วไซร้…ก็หาออกจากกายทิพย์สังขารนี้ได้ไม่…

…จักเกิดก็มิได้ จักตายก็มิได้ ทรมานจากความคำนึงถึงห่วงหาอาวรณ์ไปชั่วกัปชั่วกัลป์… 

            “รู้จักหนุ่มหล่อคนนั้นเหรอ? หรือพี่แอบนัดกิ๊กมาที่นี่? เห็นนะว่านั่งกอดกันอยู่ข้างใน” มินตราเดินเข้ามาหาหัวหน้าทีมด้วยสีหน้าที่อมยิ้มกรุ่มกริ่มเธออดที่จะแซวหัวหน้าทีมของตนที่ตอนนี้ใบหน้าแดงราวกับไปวิ่งมาราธอนมาอย่างไรอย่างนั้น

            “บ้า! กอดกันอะไรพูดไปเรื่อย ต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์นะใครจะกล้าทำ…แค่อุบัติเหตุต่างหาก” นรินทร์ตอบไปอย่างไม่รู้ตัวเลยว่าหน้าเธอแดงแค่ไหน มินตราไม่วายร้องแซวก่อนจะพยักเพยิดหน้าไปทางตัวปราสาทที่หนุ่มหล่อเมื่อครู่กำลังเดินลงมาพร้อมกับจดจ้องสายตาทางนรินทร์ด้วยรอยยิ้ม

            “ฮั่นแน่! …นู่นๆ…ลงมาหาพี่แล้ว เขามองมาทางนี้ด้วย” มินตราพยักเพยิดใบหน้าไปทางเขาแล้วหัวเราะคิกคัก กระแซะไหล่นรินทร์ให้มอง ก่อนนรินทร์จะหันไปส่งยิ้มกลับไปให้หนุ่มคนนั้น และเขาก็เดินตรงมาหาเธอตามที่มินตราบอก

            “คุณครับ”

            “คะ?” 

            หันกลับไปเต็มตัวแอบยิ้มเล็กน้อย ท่ามกลางท่าทีของรุ่นน้องที่กำลังล้อเลียนแซวเธออยู่ นรินทร์หันสายตามองรุ่นน้องของตนเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะดึงสายตากลับมาเผชิญหน้ากับหนุ่มคนนั้น…ที่เธอเขินเพราะเขาหน้าเหมือนผู้ชายโบราณในฝันต่างหาก แต่นี่คือคนเป็นๆยืนอยู่ตรงหน้าเลยเป็นใครจะไม่เขินล่ะ ซ้ำยังแต่งตัวดีตามยุคตามสมัยเสียอีก

            “คือว่า ถ้าไม่รังเกียจ…ผมพึ่งซื้อบ้านหลังใหญ่ตรงท้ายหมู่บ้านและพึ่งย้ายเข้ามาอยู่เลย…”

            “คะ? นี่คุณคะ เราพึ่งเจอกันไม่ถึงสิบนาทีเลยจะชวนไปบ้านแล้วเหรอคะ?” นรินทร์เอ่ยดักอย่างรู้ทัน

            “ไม่ใช่อย่างนั้นครับ อย่าเข้าใจผิด…แค่อยากจะชวนเที่ยวชมหมู่บ้านด้วยกัน”

            “ไปค่ะ…เอ่อ อ๋อ…เที่ยวหมู่บ้าน...ไปก็ได้ค่ะ ว่าแต่ทำไมถึงชวนฉันล่ะคะ?” เผลอตอบสวนขึ้นมาทันควันก่อนที่เขาจะพูดจบด้วยซ้ำ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินประโยคท้ายเพราะมันไม่ใช่อย่างที่เธอคิดเลยสักนิด ใบหน้าสวยทำทีเสียดายไม่น้อย

            “ท่าทางคุณดูเหมือนไม่น่าใช่คนแถวนี้ น่าจะเป็นคนของนิตยสารชื่อดังที่รถตู้จอดอยู่หน้าบ้านของผู้ใหญ่บ้าน ผมก็คนรุ่นใหม่อยากให้ที่นี่เป็นที่รู้จักและเจริญขึ้นเหมือนกัน”

            “คุณเคยเป็นหนุ่มบ้านป่าที่นี่เหรอคะ?”

            “ครับ ผม…เกิดที่นี่และพึ่งได้กลับมา” เขาไม่ได้พูดโกหกเลย เพราะเขาเกิดที่นี่และอยู่ที่นี่มานานหลายพันปี ที่เขาบอกว่าพึ่งกลับมาที่นี่ได้เพราะคำสาปของตัวเองที่ขังตัวเองไว้ใต้บาดาลในท้องนที(ทะเล)เมืองพรหมกายโลกไว้ แม้จะออกมาช่วยชาวบ้านที่เข้ามากราบไหว้ร้องขอบ้างแต่ไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้นาน เพราะที่นี่มีแต่ความทรงจำมากมายกับนางใจดวงใจที่เฝ้ารอ

            เขามองหน้าเธออย่างรอคำตอบ แต่ระหว่างที่มองใบหน้าเค้าโครงเดิมไม่เปลี่ยนไปเลยของเธอนั้นยิ่งทำให้เขารู้สึกเจ็บในใจ คิดถึงจนอยากจะดึงเข้ามากอดแต่ทำไม่ได้ ภาพที่เธอสลายหายไปต่อหน้าเขานั้นมันผุดขึ้นมาจนทำให้น้ำตาเอ่อคลอ นรินทร์เห็นอย่างนั้นก็ขมวดคิ้วมองหน้าเขาอย่างสงสัยที่อยู่ ๆเขาก็ยืนน้ำเอ่อต่อหน้าต่อตา…

"เหตุใดน้องจึ่งทำร้ายใจพี่เช่นนี้..."

"เจ้าพี่..."

"ถึงจักตั้งสัจจะวาจาแลกมณีนาคากับพี่ น้องก็จักหนีตามชายผู้นั้นไปหรือ?"

"น้องมิได้..."

"ความรักที่พี่มีให้ มิเพียงพอต่อใจน้องหรือ..." เสียงเข้มพูดสั่นเครือ ดวงตาเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตาใสที่ยากนักที่จะได้เห็นจากชายนักรบ เขาจับจ้องไปยังหญิงอันเป็นที่รักด้วยสายตาฉายแววเจ็บปวดเสียเหลือเกิน ก่อนจะปัดปราดสายตาคมจดจ้องมองไปยังนาคาหนุ่มที่ยืนเคียงข้างคนรักของตนอย่างโกรธแค้น

"มันทรยศเจ้าพี่ให้เสื่อมเสียเกียรติเพคะ...ซ้ำยังเหยียบหยามน้ำใจเจ้าพี่..."

"พอแล้วคีภัทรา...ทหารนาคาของข้า!! จับมเหสีไปขัง! ห้ามผู้ใดปล่อยนางหากมิใช่คำสั่งผู้ข้า!" สิ้นเสียงของเจ้าจอมนาคา เหล่านาคาบริวารก็เข้าไปจับตัวผู้เป็นมเหสี รอยยิ้มเย้ยหยันปรากฏบนใบหน้าของคีภัทราที่จ้องมองนรินธราราวกับว่าตนเป็นผู้ถือชัย

"ประเดี๋ยวก่อนเจ้าพี่..." หญิงสาวร้องเรียกผู้เป็นสวามีด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน แต่เขากลับหันหลังลาลับเดินจากไปโดยไม่แม้แต่จะฟังความจากหญิงผู้เป็นที่รักสักเพียงหนึ่งประโยค ภาพที่เห็นตรงหน้ามันทำให้ยากนักที่จะทำใจรับฟัง...ถึงยืนฟังใจก็ค้านขัดคิดแต่ว่าเป็นเพียงลมปาที่โป้ปด

หญิงสาวทอดถอนหายใจมองแผ่นหลังแกร่งนั้นเดินจากไปจนลับตาพร้อมกับคีภัทราที่เดินเคียงข้างไปไม่ห่าง ในใจลึกๆแอบหวังให้ผู้เป็นสวามีใจเย็นลงพอที่จะรับฟังนางก่อนค่อยจัดแจงแถลงไขความเข้าใจผิดนี้

แต่ทว่า....

"นี่คือคำสั่งพญาเพชรแก้ว!! ประหารนางให้ดับสิ้นเสีย!! อีกทั้งคำสาปนี้เพื่อเจ้า...มิว่าชาตินี้หรือชาติไหนอย่าได้ปลงใจรักกันอีก!! ขอให้ยากที่จะพานพบมันทุกชาติไป!!"

".... มิว่าชาตินี้หรือชาติไหนจักภพภูมิใด...ข้าก็จักขอรักท่านเพชรแก้วดวงใจของผู้ข้าทุกชาติไป..."

"ประเดี๋ยวก่อน!!! นรินธรา!!!!!"

ฉัวะ!!!.....

สิ้นคำสัตย์เสียงสุดท้ายปลายน้ำตา...พระขันธ์มายาลงปัดปักที่อก...

คมขันธ์ฉีกฉกดวงแก้วดับสลาย...เจ้าเรือนกายใกล้มลายหายสิ้นไป...

นาคาหนุ่มวิ่งล้มลุกคลุกเข้าหา...ช้อนกอดร่างกายานางสะอื้นไห้...

โอ้ นวลน้องพี่เข้าใจผิดพลาดไป...ไยเจ้ามาดับสิ้นใจก่อนเล่าความ...

นี้หาใช่คำสั่งของพี่ไม่...แล้วเหตุใดเจ้าจึงยอมให้ดับขันธ์....

พี่มาช้าเกินไปห้ามไม่ทัน...จนร่างน้องพลันสลายหายสิ้นไป...

            “คุณเป็นหรือเปล่าคะ?” นรินทร์เอ่ยเรียกหลังจากที่เห็นว่าเขาเหม่อมองเธออยู่นาน ชายหนุ่มตรงหน้ายิ้มออกมาบางๆก่อนจะตอบเธอ

            “ไม่ครับ…ไม่เป็นอะไร”

            “แต่น้ำตาของคุณ…”

            “คงจะฝุ่นเข้าตาน่ะครับ” 

พูดไปพลางเบือนหน้าหนีเช็ดน้ำตาที่เอ่อคลออย่างเงียบๆ นรินทร์พยักหน้ายอมเข้าใจแม้ในใจจะเต็มไปด้วยคำถาม แต่ก็ไม่กล้าที่จะถามออกไป…อีกอย่างน้ำตาของคนตรงหน้ามันทำให้เธอรู้สึกเศร้าตามไปด้วยเสียอย่างนั้น เธอเลือกที่จะไม่คิดมากอและคิดเอาเองว่าตัวเธอเป็นขี้สงสารแค่นั้น

            “ถ้าอย่างนั้น…พรุ่งนี้มาเจอกันที่นี่ก็ได้ค่ะ” นรินทร์เอ่ยขึ้นก่อนที่หนุ่มคนนั้นจะพยักหน้ายิ้มๆ 

            “ผมชื่อ พชร หรือเรียกผมว่า พัชรก็ได้ครับ”

            “ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ฉันชื่อนรินทร์” พูดออกไปด้วยน้ำเสียงดีใจที่ได้รู้ชื่อเขาเสียที อุตส่าห์เก๊กท่าอยู่นานรอให้เขาเอ่ยแนะนำตัวก่อน ใบหน้าสวยยิ้มร่าอย่างไม่ปิดบังว่าถูกใจผู้ชายคนนี้ เธอไม่สนว่าจะเคยเสียใจกับสามีเก่าแค่ไหน ในเมื่อหย่าแล้วก็คือหาคนใหม่ได้ คนเราจะเศร้าทำไมนานล่ะ

            “ครับ คุณ...นรินทร์”

            หลังจากที่ได้ทำความรู้จักกันรวมถึงแนะนำมินตราแล้ว นรินทร์และเขาก็แลกช่องทางการติดต่อกันเหมือนคนทั่วไปก่อนจะแยกย้ายกันไปเพราะเขาบอกว่ามีธุระ แต่ความจริงแล้วเขานั้นยังคงแปลงกายหยาบไม่ได้เสถียรนักแม้มีพลังมากแค่ไหนก็ตาม จนกว่าเธอคนนั้นจะรำถวายเจ้าปู่ที่ชาวบ้านจะรำทุกปีและมันก็ใกล้เวลาเต็มทีแล้ว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapter

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๑.๑ นิมิตเพื่อพานพบ

    หาดทรายละเอียดสีขาว... รอบข้างเต็มไปด้วยหมอกควัน...ตรงหน้ามีเพียงทะเลน้ำสีฟ้าใสไล่สีครามลงกว้างใหญ่ไพศาลสุดตา...สถานที่แห่งนี้เหมือนไม่มีจริงในโลก..."เอ๊ะ?"หญิงสาวร่างอรชรอุทานขึ้นถ้าเป็นสมัยที่เธอดูคงจะถูกเรียกว่าสาวอวบอึ๋ม มองเห็นชายหนุ่มท่อนบนเปลือยเปล่าไร้เครื่องประดับประดาในตัวยกเว้นเข็มขัดทองที่รั้งผ้านุ่งโสร่งสีขาวเดินขึ้นมาจากผืนน้ำ ทำให้เห็นมัดกล้ามกำยำชัดเจน รูปร่างชายชาตรีสมบูรณ์แบบมากที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา ผิวพรรณผ่องใส เรียบเนียน มีแสงระยิบระยับตามร่างกายนั้น ผมของเขายาวประบ่าแต่ถูกรวบมัดมวยไว้เพียงครึ่ง พอเผยให้เห็นกรอบหน้าชัดเจน จมูกโด่งเป็นสัน ปลายรั้งเชิด ปลายจมูกโค้งมนเป็นหยดน้ำ ปากเรียวได้รูปรับกับใบหน้า ทำให้ดูหน้าหวานปานหยาดน้ำผึ้ง คิ้วเข้มตรงสวย แต่ไม่หนาจนเกินพอดีรับกรอบหน้าทำให้ดูสมเป็นชายขึ้นมาเสียหน่อย กับดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเปลือกตาสองชั้น มองมาที่เธอด้วยสายตาอ่อนโยนระคนเศร้าไม่ว่ายุคสมัยไหนถ้าได้เห็นชายผู้นี้คงไม่มีผู้หญิงคนไหนไม่หลงรักเป็นแน่ แต่น่าแปลกที่เขาเหมือนไม่มีอยู่ในโลกที่เธอรู้จัก เพราะไม่มีใครจะหล่อเหลาปานเทพบุตรเช่นเขาแน่ ไม่ทันที่เธอจะได้เอะ

    Последнее обновление : 2025-04-25
  • ลิขิตสัญญานาคา   ๑.๒ นิมิตเพื่อพานพบ

    "มาถึงละ เมื่อไหร่จะมา เสียเวลาจริง!"ปากเรียวบางอมชมพูพูดขึ้นกับปลายสายด้วยเสียงหงุดหงิด หญิงสาวใบหน้าหวานจิ้มลิ้มร่างอรชรพอเหมาะพอดีไม่ผอมไม่อ้วนเกินไปยืนนิ่งหลังจากวางสายสนทนาเมื่อครู่ เธอสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ดวงตาสวยที่แข็งกร้าวเริ่มเอ่อคลอไปด้วยน้ำตาแต่ต้องกลั้นมันไว้ไม่ให้ไหลออกมา .... ยัยนรินทร์...เธอต้องเข้มแข็ง....หลังจากปลอบใจตัวเองได้ไม่นานนักร่างสูงในชุดหนังและกางเกงยีนส์ขาดๆ ก็เดินเข้ามาหาเธอพร้อมสาวสวยในชุดคล้ายๆกันเหมือนชุดคู่รัก ภากรณ์เดินเข้ามาพร้อมกับหญิงสาวหน้าตาสะสวยเดินตรงมาทางเธอ ก่อนจะโอบเอวบางของหญิงสาวข้างกายด้วยใบหน้ายิ้มระรื่น นรินทร์มองดูพวกเขาเหมือนไม่ใส่ใจแต่กลับเม้มปากแน่น"อะไรกัน...จะร้องไห้เหรอ?""ร้องไห้ดีใจน่ะสิ จะได้หลุดพ้นวังวนอุบาทว์นี้เสียที""พูดอะไรอย่างนั้นล่ะ เพื่อน"หญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างกายภากรณ์ได้เอ่ยขึ้น ใบหน้าสะสวยที่คุ้นเคยสำหรับนรินทร์ พวกเธอเป็นเพื่อนรักกันมาก่อนตลอดสี่ห้าปี ด้วยความเชื่อใจ เวลาไปไหนมาไหนมักจะไปด้วยกันตลอด แต่สุดท้ายก็ไม่คิดว่าจะโดนหักหลังแบบไม่น่าให้อภัยโดยการเป็นชู้รักกับสามีของเธอมาตลอดสองปีหลัง นรินทร์มองใบหน้

    Последнее обновление : 2025-04-25
  • ลิขิตสัญญานาคา   ๒.๑ สัมผัสที่มิอาจมองเห็น

    ยามค่ำคืนดึกดื่นที่มีเพียงแสงไฟตามตึกน้อยใหญ่...ห้องสี่เหลี่ยมในคอนโดเล็กๆ ใจกลางเมือง ภายในห้องไร้แสงไฟส่องสว่าง ร่างอรชรนอนขดตัวอยู่กลางเตียงใหญ่ที่ตั้งอยู่ในห้อง ไร้การขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวจากหญิงสาว มีเพียงหยดน้ำตาที่ยังคงเคลื่อนไหวไหลลงอาบสองแก้มเนียนไม่หยุด ตั้งแต่กลับมาจากที่ว่าการอำเภอหลังจากเซ็นใบหย่าร้างใบแรกในชีวิตเธอก็หมดเรี่ยวแรงจะทำอะไรทำได้แต่นอนร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่อย่างนั้นหยดน้ำตาใสไม่มีท่าทีว่าจะหยุดไหลออกจากดวงตาของนิรนทร์แม้แต่น้อยเสียงโทรศัพท์จะดังขึ้นซ้ำๆ เป็นเวลานาน แต่ก็ไม่ได้ทำให้คนที่นอนอยู่บนเตียงขยับตัวเลย ดวงตาเรียวหลับตาลงปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาไม่ขาดสาย มือขวาเอื้อมไปกุมที่หน้าอกซ้ายด้วยความรู้สึกเจ็บปวดที่จุกอกอยู่ภายใน สมองพลางคิดโทษโชคชะตาว่าทุกครั้งที่มีความรักทำไมถึงได้พบแต่กับความผิดหวังไม่รู้จบ...ฉันทำกรรมอะไรไว้วะ...ถึงได้มีความรักที่เฮงซวยมันทุกครั้ง!!......พี่ขอโทษ…นรินธรา...เหตุจากคำมั่นสัญญารักของเรา พี่มิอาจปล่อยน้องไปได้...เสียงที่โต้ตอบเสียงความคิดของเธอที่น้อยเนื้อต่ำใจ...แม้เสียงนั้นจะเอื้อนเอ่ยดังเพียงใดก็ไม่สามารถส่งไปถึงหญิงสาวอั

    Последнее обновление : 2025-04-25
  • ลิขิตสัญญานาคา   ๒.๒ สัมผัสที่มิอาจมองเห็น

    "ใครเขาจะมายืนบอกกันล่ะ""ถ้าเหตุเป็นเพราะพี่...พี่ก็ดีใจ"คำพูดพร้อมรอยยิ้มอย่างดีใจของชายหนุ่มทำให้นรินทร์ไม่กล้าที่จะปฏิเสธขัด การเห็นเขาดีใจกลับทำให้รู้สึกดีใจตามไปด้วย หญิงสาวมองใบหน้าเทพบุตรนั้นอยู่นาน รู้สึกเหมือนคุ้นเคยกับเขาและรู้สึกอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูกที่ได้พบเจอกับเขา เธอแอบคิดว่าถ้าเขามีอยู่ในชีวิตจริงคงจะดีไม่น้อย...แต่นี่คงเป็นแค่ชายในฝันเหมือนที่ใครๆพูดกัน"แล้วคุณเป็นใคร? เทวดา ผี หรือเทพบุตรกันคะสุดหล่อ?" ไหนๆก็อยู่ในฝันแล้วขอจีบชายในฝันสักหน่อยจะเป็นไรไป นั่นคือสิ่งที่หมอกเมยคิด"เมื่อถึงเพลาก็จักรู้เอง""ทำไมไม่บอกล่ะตัวเอง…เห็นบอกว่าฉันเป็นคนรักของคุณไม่ใช่หรือคะ?""อดีตชาติเราคือคนรักที่ยากจะแยกจาก...รักยาวนานเป็นพันๆ ปี...""แล้วตอนนี้คุณยังรักฉันอยู่หรือคะ ผ่านมาตั้งพันปีไม่มีคนอื่นบ้างเลยเหรอ?""ความรักสำหรับชาวเราผู้ที่ครองอมตะ...มักจักมีหนึ่งเดียวใจเดียวตามที่ตั้งสัตย์สัญญาไว้""ว้า...ฉันผ่านการมีสามีมาแล้วน่ะสิ ไม่ได้อยู่รอสุดหล่อเลย""พี่รู้แจ้งแก่ใจ...ชีวิตมนุษย์นั้นสั้นนัก...เมื่อเกิดเป็นมนุษย์ย่อมมีสิ่งที่ทำให้ลุ่มหลง...เหตุเพราะความทรงจำในอดีตถูกลบเลื

    Последнее обновление : 2025-04-25
  • ลิขิตสัญญานาคา   ๓.๑ อดีตนานนับพันปี

    หญิงสาวรูปร่างอรชรผิวขาวเนียนผ่องเป็นยองใยเนียนละเอียดในชุดโบราณแต่งองค์ทรงเครื่องประดับด้วยทองหยองเต็มตัว มงกุฎทองคำพันรอบศีรษะสวย ผมมวยสูงทัดด้วยดอกมะลิส่งกลิ่นหอมอบอวลเสมือนกลิ่นประจำกายของหญิงสาว นิ้วมือเรียวสวยกรีดกรายลงบนผิวน้ำใสอย่างแผ่วเบา ใบหน้าเปื้อนยิ้มอย่างอ่อนโยนเมื่อมองลงไปในแม่น้ำเห็นสรรพสัตว์มากมายแหวกว่ายไม่ไกลมือของเจ้าหล่อนนัก “เจ้าทำอันใดอยู่รือหลานปู่” ชายหนุ่มที่ดูไม่แก่ชราลงเลย แต่แทนตัวเองว่าปู่เดินเอามือไขว้หลังบ่งบอกถึงความมีอำนาจมาดใหญ่เข้าไปหาหญิงสาวที่นั่งรื่นรมย์อยู่ริมธารพร้อมรอยยิ้ม ชายหนุ่มแต่งองค์ทรงเครื่องมงกุฎทองครอบเศียรทรงขอมที่มองดูก็ว่าคือราชาของเมืองนี้ บริวารที่เฝ้าตามารับใช้หญิงสาวต่างพากันโค้งหมอบให้ผู้ที่เดินเข้ามา มีเพียงหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างลำธารเพียงเท่านั้นที่หันไปมองราชาหนุ่มผู้มาเยือนพร้อมกับหันไปยิ้มรับอย่างอ่อนหวานก่อนจะเก็บมือไว้หน้าตักอย่างเรียบร้อยและโค้งศีรษะลงอย่างเคารพ “เจ้าปู่มุจรินท์ มีเรื่องอันใดรือเพคะถึงได้มาตามหาหลานด้วยพระองค์เอง” “เงยหน้าขึ้นเถิดหลานปู่...”

    Последнее обновление : 2025-04-25
  • ลิขิตสัญญานาคา   ๓.๒ อดีตนานนับพันปี

    “ขอประทานอภัยที่กระหม่อมต้องกล่าวความเช่นนี้...กระหม่อมมีชายาที่เจ้าเมืองต่างๆ การประทานให้หลังออกรบมีชัยกลับมา มิมีนางใดที่ข้ากระหม่อมพึงใจรักแม้แต่นางเดียว กระหม่อมขอสาบานว่า...มิได้ล่วงเกินชายานางใดแม้แต่ปลายเส้นผม มิได้ผูกเวรผูกกรรมต่อกันแล้วพระเจ้าข้า” “ถ้าเช่นนั้น...เจ้าพี่เพชรจักพึงใจในตัวน้องรือเพคะ?” “ยามแลเห็นน้องคราแรก จากที่คิดว่าดวงใจนี้กลายเป็นหิน ก็กลับหลงรักน้องอย่างมิอาจหักใจ” “ชายใดเข้ามามักจักกล่าววาจาหวานหู ใจแท้จักเป็นจริงดั่งปากว่ารือมิรู้ได้” “ขอน้องนางจงอย่าเปรียบเทียบพี่กับชายใด พี่หลงรักน้องยาใจแม่นมั่นมิผันแปร” เจ้าเพชรแก้วตอบโต้นรินธราด้วยสายตาที่ไม่หลบเลี่ยงอย่างมาดมั่น แต่หญิงสาวกลับก้มหน้าลอบมองเจ้าเพชรแก้วอย่างขวยเขิน องค์มุจรินท์เห็นเช่นนั้นก็หัวเราะออกมาอย่างพึงพอใจที่ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่นิมิตเห็น ทั้งสองคนคือคู่แท้กันมาตั้งแต่กี่ภพชาติมีเพียงเจ้าปู่เท่านั้นที่หยั่งรู้เห็นในชะตารักของคนทั้งคู่ งานอภิเษกสมรสของเจ้าเมืองบูรพา พญาเพชรแก้วจันทรานาคราชและพระนางนรินธรานาคีหลานของ

    Последнее обновление : 2025-04-25
  • ลิขิตสัญญานาคา   ๔.๑ ปัจจุบัน

    หลังจากที่สะดุ้งตื่นกลางดึกอยู่บ่อยครั้งเช้านี้ก็เป็นอีกครั้งที่นรินทร์สะดุ้งตื่นจากความฝันที่เสมือนจริง เหตุการณ์เลือนรางไปบางช่วงตอนตื่น และก็ต้องหยุดชะงักกลางคันมันเสียตลอด แต่สำหรับเช้าวันใหม่นี้กลับสะดุ้งถึงสองครั้งสองหน แถมยังฝันเรื่องเดิมและมันดันเป็นเรื่องที่ปะติดปะต่อกันเหมือนได้เห็นเหตุการณ์ในโลกนิทานอย่างไรอย่างนั้นร่างอรชรลุกขึ้นจากเตียงใหญ่ด้วยความเมื่อยล้าร่าง แต่ในหัวกลับมีเรื่องที่ฝันเมื่อสักครู่วนเวียนอยู่ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็เลือกที่จะต้องดำเนินชีวิตต่อและคิดว่าอย่างไรมันก็แค่ความฝัน หญิงสาวเดินเข้าไปอาบน้ำและทำกิจวัตรประจำวันเหมือนอย่างเคย มันแตกต่างจากทุกวันก็ตรงที่เธออยู่คนเดียวแล้วนับตั้งแต่เมื่อวานนี้ร่างโปร่งแสงมองเธอว้าวุ่นไปมาด้วยรอยยิ้มบางๆ แม้เธออาจจะมองไม่เห็นการมีอยู่ของเขาก็ตาม แต่ภายในใจของชายหนุ่มนั้นกลับเปี่ยมล้นไปด้วยความสุขที่ได้หวนกลับมาพบเจอดวงจิตของผู้เป็นที่รักยิ่งที่เขาเฝ้ารอและตามหามานานนับพันปี เขาได้เฝ้าตามคอยดูแลเธอมาตลอดเท่าอายุของเธอในปัจจุบัน...ประเดี๋ยวเราก็จักได้พานพบกันแล้ว นรินธรา...เส

    Последнее обновление : 2025-04-25
  • ลิขิตสัญญานาคา   ๔.๒ ปัจจุบัน

    “ทีม Local ไปกันเถอะ ไม่อยากคุยกับ...หมา มันเห่าแล้วหนวกหู”นรินทร์พูดพร้อมหันไปเน้นย้ำคำหลังอย่างหนักแน่นและมองตรงไปยังภากรณ์อย่างตั้งใจ คนในทีมหัวเราะคิกคักชอบใจกับความดื้อร้ายไม่ยอมใครของนรินทร์ ก่อนเทวินจะถอนหายใจแล้วเงยหน้าพูดกับภากรณ์ที่ขมวดคิ้วอย่างขุ่นเคืองกับคำพูดของนรินทร์“เฮ้อ...นี่สินะตัวอย่างสุภาษิตไทยที่ว่า...หมาหวงก้าง”ภากรณ์ได้ยินดังนั้นจึงหันไปมองขวางเทวินที่ยืนยิ้มตาปริบๆ หน้าระรื่นใส่เขา ภากรณ์แค่นหัวเราะออกมาอย่างเยาะเย้ยพร้อมกับกอดอกเหมือนผู้ชนะ“อย่าได้ใจไปเลย ยังไงนรินทร์ก็ไม่มีทางเลิกรักฉันได้หรอก ไม่งั้นคงไม่อยู่กับฉันมาถึงเจ็ดปี ป่านนี้คงนึกเสียใจอยู่ข้างใน แค่ไม่แสดงออกก็เท่านั้น”“ครับ ผมจะรักษาแผลใจนั้นอย่างดีเลย ขอบคุณ...คุณภากรณ์ที่ช่วยเปิดทางให้”เทวินพูดขึ้นทั้งรอยยิ้มไม่มีทีท่าว่าจะสลดใจกับคำพูดของภากรณ์เลยแม้แต่น้อย การที่ผู้หญิงกำลังอ่อนแอแล้วมีใครสักคนเข้าไปดูแลอย่างจริงใจย่อมโอนเอนไปทางคนผู้นั้น ภากรณ์เข้าใจความหมายคำพูดของเทวินเป็นอย่างดี สีหน้าที่ยิ้มเยาะเทวินในตอนแรกกลับบึ้งตึงในทันทีพร้อมกับจ

    Последнее обновление : 2025-04-25

Latest chapter

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๘. เจอกันเสียที

    ราวกับต้องมนต์เมื่อเขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้ม เธอยังคงจ้องมองเขานิ่งค้างในอ้อมแขนแกร่งอยู่อย่างนั้นไม่ขยับไปไหนความรู้สึกคิดถึงอ้อมกอดเกิดขึ้นมาในใจ จนเธอต้องพยายามตั้งสติและดึงตัวเองออกจากอ้อมกอดของเขา นรินทร์ไม่กล้าที่จะมองใบหน้าหล่อคมนั้นตรงๆ“ไม่เป็นไรค่ะ แต่ก็ขอบคุณนะคะ”เธอเอ่ยขึ้นมาแก้เขิน ก่อนจะรีบลุกขึ้นแล้วเดินออกจากตัวปราสาทไปโดยมีสายตาคู่หนึ่งจ้องมองตามแผ่นหลังนั้นด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม …ในที่สุดเขาก็ปรากฏกายมาเจอเธอได้เสียที ตามคำสาปที่เขาได้สาปตัวเองด้วยความรู้สึกผิดครั้งในอดีตหลายพันปีที่ผ่านมาเอาไว้ว่า …หากตัวข้าหานางในดวงใจมิเจอ นางมิก้าวเท้าลงเหยียบเมืองข้าแล้วไซร้…ก็หาออกจากกายทิพย์สังขารนี้ได้ไม่……จักเกิดก็มิได้ จักตายก็มิได้ ทรมานจากความคำนึงถึงห่วงหาอาวรณ์ไปชั่วกัปชั่วกัลป์… “รู้จักหนุ่

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๗. ไหว้เจ้าปู่

    “พญานาค? ทำไมถึงชอบนับถือกันนะ…คนในหมู่บ้านเคยเห็นเหรอคะ?” มินตราพูดพร้อมกับทำท่านึกสงสัย ก่อนจะหันไปถามแม่สายด้วยความอยากรู้จนลืมสิ่งที่ผ่านสายตาไปเสียสนิท“ไม่มีใครเห็นหรอกค่ะ…แต่มันมีปรากฏการณ์หลายอย่างที่ทำให้รู้ว่ามีอยู่จริง” แม่สายเอ่ยเสียงเรียบ“ไม่เคยเห็นแล้วทำไมถึงได้เชื่อขนาดนั้นกันนะ เหตุการณ์ที่ว่าอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญหรือวิทยาศาสตร์ก็ได้” นรินทร์พูดขึ้นอย่างไม่เชื่อ แม่สายหันไปจ้องมองนรินทร์ด้วยใบหน้าเรียบเฉยแต่แววตาของแม่สายนั้นดูเหมือนจะไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นักที่ได้ยินแบบนั้น“เอ่อ…เรามาเพื่อศึกษประเพณีของชาวบ้าน ไม่ได้มาลบหลู่สิ่งที่ชาวบ้านศรัทธานะคะ” นรินทร์เอ่ยขึ้นหลังจากที่รับรู้ว่าเรื่องความเชื่อนี้ยากที่จะแตะต้อง ในเมื่อเข้าเมืองตาหลิ่วก็ต้องหลิ่วตาตาม“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณนรินทร์…สิ่งที่มองไม่เห็นมันก็ยากที่จะเชื่อ…แต่ก็ไม่ใช่ว่ามีอยู่จริง” แม่สายเอ่ยด้วยรอยยิ้มจางๆจ้องมองนรินทร์ราวกับมีนัยบางอย่าง“โห…ประโยคคลาสสิค

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๖.๒ ถึงเวลา

    แม่สายทำท่าทางตกใจไม่น้อยราวกับไม่เชื่อหูที่ได้ยิน นรินทร์ขมวดคิ้วเล็กน้อยมองเอียงหน้ามองแม่สายอย่างไม่เข้าใจแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อแม้จะอยากรู้เสียเต็มประดาว่าทำไมแม่สายภรรยาผู้ใหญ่บ้านที่เธอไม่รู้จักถึงได้มีท่าทีแบบนั้น“เก็บข้าวของเรียบร้อยข้าจะพาทีมคุณนรินทร์ไปไหว้ศาลเจ้าปู่ประจำหมู่บ้านเสียก่อนค่อยหาข้าวปลากินกัน”“ทำไมต้อง…อะ...อ้าว” นรินทร์ไม่ทันได้ถามแม่สายก็ชิงเดินนำหน้าไปก่อนเสียแล้ว ทิ้งความสงสัยว่าทำไมแม่สายถึงได้รู้ชื่อของเธอไว้ในใจ นรินทร์ตั้งท่าที่จะเดินตามแม่สายให้ทันแต่ก็ถูกมือหนาของเทวินคว้าแขนไว้เสียก่อน“หัวหน้าคุยอะไรกันหรือครับ? ท่าทางดูตกใจขนาดนั้น” เทวินเอ่ยถาม“ไม่”“หือ? อะไรนะครับ”“ไม่ยุ่งสักเรื่องได้มะ?”เอ่ยตอบพร้อมยักคิ้วอย่างกวนๆ“โห่…หัว…”ไม่ทันได้ตอบภากรณ์ก็เดินเข้ามาแทรกกลางทั้งสองทำเอาเทวินถึงกับยอมละมือที่คว้าจับแขนของนรินทร์เอาไว้ออกแทบจะทันที เทวินหันไปมองตามหลังภากรณ์ขบเคี้ยวเขี้ยว

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๖.๑ ถึงเวลา

    “ไปกันใหญ่แล้วมึง เห็นกูเป็นพระถังซัมจั๋งเหรอถึงได้คิดว่ามันเคารพกูน่ะ” นรินทร์พูดตอบนิลนนท์ด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริงอย่างยิ้มๆ ก่อนจะหันมาส่ายหน้าไปมากับสิ่งที่นิลนนท์พูด“แต่กูเชื่ออย่างนั้นนะ...” นิลนนท์ตอบพร้อมกับรอยยิ้มขี้เล่น นรินทร์จึงหัวเราะออกมาเบาๆ คิดว่านิลนนท์คงพูดหยอกล้อต่อมุขเธอเล่น เธอจึงไม่ได้ตอบอะไรออกไปก่อนจะมีเพื่อนรุ่นน้องในทีมจะกล่าวเสริม“พี่นิลนนท์พูดเหมือนกับอ่านใจงูได้อย่างนั้นแหละ” มินตราที่นั่งติดกระจกรถข้างๆนิลนนท์พูดขึ้นแล้วมองนิลนนท์อย่างสงสัย เพราะเธอก็เห็นเขาจ้องมองงูเหมือนกับกำลังคุยกับมันอย่างไรอย่างนั้น“มินตรา มึงเชื่อเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ...สาวคลั่งเทคโนโลยีอย่างมึงเนี่ยนะ” เทวินที่นั่งอยู่ข้างหลังกับภากรณ์พูดขึ้นและมองมินตราอย่างไม่อยากเชื่อ คนอื่นๆก็มองเทวินก่อนจะหันกลับมามองมินตราเช่นกัน“เปรียบเปรยจ้ะ เขาเรียกว่าเรียกว่าเปรียบเปรย” มินตราตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก“อาจจะคุยรู้เรื่องก็ได้ พวกอสรพิษ…เลี้ยงไม่เชื่องอยู่แล้ว…พวกมั

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๕.๒ คิดถึงใคร

    นรินทร์สะดุ้งตื่นลุกพรวดขึ้นมาพร้อมกับหายใจหอบ ภาพฝันที่วูบเข้าหาตัวเธอนั้นยังคงจำได้ติดตา มันช่างน่ากลัวเสียเหลือเกิน นรินทร์เสยผมตรงสวยของตนก่อนจะหายใจเข้าลึกเพื่อเรียกสติ เธอเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างเตียงเพื่อดูเวลาพร้อมกับถอนหายใจ “ตีสาม...อีกแล้วเหรอ”หญิงสาวถอนหายใจก่อนจะพาร่างของตนลุกขึ้นแล้วเดินไปยังโซนห้องครัวเพื่อหาน้ำเปล่ามาดื่มเรียกสติให้ตัวเองตื่นเสียหน่อย มันเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่เธอฝันอะไรแบบนี้ การตื่นกลางดึกทั้งที่เป็นเวลาพักผ่อนมันทำให้ร่างกายเธอของอ่อนเพลียไม่น้อย แต่ครั้นจะให้นอนก็เห็นทีจะนอนไม่หลับไปเสียแล้วร่างโปร่งมองหญิงสาวอันเป็นที่รักอย่างห่วงใย ภายในใจสงสัยไม่น้อยว่าทำไมคีภัทราถึงได้แทรกแซงฝันของนรินทร์ได้ เขาจึงทำได้เพียงปลุกเธอให้ตื่นด้วยมนตร์เท่านั้น นั่นคือเหตุผลที่นรินทร์ต้องตื่นขึ้นมากลางดึกเสียทุกครั้ง“คีภัทรานี่ใครกัน...ฝันถึงหลายรอบแล้วนะ...นางเจ้าองค์ไหนอีก...”นรินทร์พึมพำกับตนเองพร้อมกับนึ

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๕.๑ คิดถึงใคร

    นรินทร์กลับมาถึงคอนโดหลังจากการทำงานที่หนักหน่วงเธอหัวเสียอย่างที่สุด เสียพลังงานต่อล้อต่อเถียงกับบก.แต่มันก็ไม่เป็นผล ดันหลงกลสองพ่อลูกนั่นจนได้ที่ตั้งใจจะไปแย้งเพื่อเข้าร่วมงานเลี้ยงสุดหรูก็ดันไปตกหลุมพรางของอดีตผัวเก่าอย่างภากรณ์ซะได้ หรือเธอเองคงจะเคยชินกับการถูกเขาหลอกเสียล่ะมั้งผลเลยออกมาเป็นแบบนี้แต่คนอย่างนรินทร์ต้องไม่แพ้! เธอไม่มีวันให้เขาดูถูกเธอได้ยิ่งสถานะของเธอและเขาตอนนี้เปลี่ยนไปแล้วมาดูกันหน่อยเป็นไงว่าคนอย่างนรินทร์น่ะเหรอกลัวความลำบาก คิดแล้วเธอก็เริ่มเปิดโน้ตบุ๊คเพื่อหาข้อมูลของสถานที่ที่ทีมของเธอต้องไปทำสกู๊ปนรินทร์นั่งหน้าจมอยู่กับหน้าจอคอมเพื่อหาข้อมูลของสถานที่ที่เธอต้องไป จากคนที่ทำแต่งานไม่ค่อยได้ไปเที่ยวไหน ก็ต้องมานั่งหาข้อมูลกันเสียหน่อย“บูรบุรี เมืองอะไรกันล่ะเนี่ยไม่เห็นเคยได้ยินชื่อมาก่อนเลย” ความรู้สึกแปลกประหลาดวังเวงคลืบคลานเข้ามาจนทำให้ขนลุก ห้องก็ห้องตัวเองอยู่มาก็นานแต่ทำไมเหมือนกับว่ามีคนอื่นที่นอกเหนือจากตนเองอยู่ด้วยกันนะ นรินทร์หันหน้าไปไปมอ

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๔.๒ ปัจจุบัน

    “ทีม Local ไปกันเถอะ ไม่อยากคุยกับ...หมา มันเห่าแล้วหนวกหู”นรินทร์พูดพร้อมหันไปเน้นย้ำคำหลังอย่างหนักแน่นและมองตรงไปยังภากรณ์อย่างตั้งใจ คนในทีมหัวเราะคิกคักชอบใจกับความดื้อร้ายไม่ยอมใครของนรินทร์ ก่อนเทวินจะถอนหายใจแล้วเงยหน้าพูดกับภากรณ์ที่ขมวดคิ้วอย่างขุ่นเคืองกับคำพูดของนรินทร์“เฮ้อ...นี่สินะตัวอย่างสุภาษิตไทยที่ว่า...หมาหวงก้าง”ภากรณ์ได้ยินดังนั้นจึงหันไปมองขวางเทวินที่ยืนยิ้มตาปริบๆ หน้าระรื่นใส่เขา ภากรณ์แค่นหัวเราะออกมาอย่างเยาะเย้ยพร้อมกับกอดอกเหมือนผู้ชนะ“อย่าได้ใจไปเลย ยังไงนรินทร์ก็ไม่มีทางเลิกรักฉันได้หรอก ไม่งั้นคงไม่อยู่กับฉันมาถึงเจ็ดปี ป่านนี้คงนึกเสียใจอยู่ข้างใน แค่ไม่แสดงออกก็เท่านั้น”“ครับ ผมจะรักษาแผลใจนั้นอย่างดีเลย ขอบคุณ...คุณภากรณ์ที่ช่วยเปิดทางให้”เทวินพูดขึ้นทั้งรอยยิ้มไม่มีทีท่าว่าจะสลดใจกับคำพูดของภากรณ์เลยแม้แต่น้อย การที่ผู้หญิงกำลังอ่อนแอแล้วมีใครสักคนเข้าไปดูแลอย่างจริงใจย่อมโอนเอนไปทางคนผู้นั้น ภากรณ์เข้าใจความหมายคำพูดของเทวินเป็นอย่างดี สีหน้าที่ยิ้มเยาะเทวินในตอนแรกกลับบึ้งตึงในทันทีพร้อมกับจ

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๔.๑ ปัจจุบัน

    หลังจากที่สะดุ้งตื่นกลางดึกอยู่บ่อยครั้งเช้านี้ก็เป็นอีกครั้งที่นรินทร์สะดุ้งตื่นจากความฝันที่เสมือนจริง เหตุการณ์เลือนรางไปบางช่วงตอนตื่น และก็ต้องหยุดชะงักกลางคันมันเสียตลอด แต่สำหรับเช้าวันใหม่นี้กลับสะดุ้งถึงสองครั้งสองหน แถมยังฝันเรื่องเดิมและมันดันเป็นเรื่องที่ปะติดปะต่อกันเหมือนได้เห็นเหตุการณ์ในโลกนิทานอย่างไรอย่างนั้นร่างอรชรลุกขึ้นจากเตียงใหญ่ด้วยความเมื่อยล้าร่าง แต่ในหัวกลับมีเรื่องที่ฝันเมื่อสักครู่วนเวียนอยู่ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็เลือกที่จะต้องดำเนินชีวิตต่อและคิดว่าอย่างไรมันก็แค่ความฝัน หญิงสาวเดินเข้าไปอาบน้ำและทำกิจวัตรประจำวันเหมือนอย่างเคย มันแตกต่างจากทุกวันก็ตรงที่เธออยู่คนเดียวแล้วนับตั้งแต่เมื่อวานนี้ร่างโปร่งแสงมองเธอว้าวุ่นไปมาด้วยรอยยิ้มบางๆ แม้เธออาจจะมองไม่เห็นการมีอยู่ของเขาก็ตาม แต่ภายในใจของชายหนุ่มนั้นกลับเปี่ยมล้นไปด้วยความสุขที่ได้หวนกลับมาพบเจอดวงจิตของผู้เป็นที่รักยิ่งที่เขาเฝ้ารอและตามหามานานนับพันปี เขาได้เฝ้าตามคอยดูแลเธอมาตลอดเท่าอายุของเธอในปัจจุบัน...ประเดี๋ยวเราก็จักได้พานพบกันแล้ว นรินธรา...เส

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๓.๒ อดีตนานนับพันปี

    “ขอประทานอภัยที่กระหม่อมต้องกล่าวความเช่นนี้...กระหม่อมมีชายาที่เจ้าเมืองต่างๆ การประทานให้หลังออกรบมีชัยกลับมา มิมีนางใดที่ข้ากระหม่อมพึงใจรักแม้แต่นางเดียว กระหม่อมขอสาบานว่า...มิได้ล่วงเกินชายานางใดแม้แต่ปลายเส้นผม มิได้ผูกเวรผูกกรรมต่อกันแล้วพระเจ้าข้า” “ถ้าเช่นนั้น...เจ้าพี่เพชรจักพึงใจในตัวน้องรือเพคะ?” “ยามแลเห็นน้องคราแรก จากที่คิดว่าดวงใจนี้กลายเป็นหิน ก็กลับหลงรักน้องอย่างมิอาจหักใจ” “ชายใดเข้ามามักจักกล่าววาจาหวานหู ใจแท้จักเป็นจริงดั่งปากว่ารือมิรู้ได้” “ขอน้องนางจงอย่าเปรียบเทียบพี่กับชายใด พี่หลงรักน้องยาใจแม่นมั่นมิผันแปร” เจ้าเพชรแก้วตอบโต้นรินธราด้วยสายตาที่ไม่หลบเลี่ยงอย่างมาดมั่น แต่หญิงสาวกลับก้มหน้าลอบมองเจ้าเพชรแก้วอย่างขวยเขิน องค์มุจรินท์เห็นเช่นนั้นก็หัวเราะออกมาอย่างพึงพอใจที่ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่นิมิตเห็น ทั้งสองคนคือคู่แท้กันมาตั้งแต่กี่ภพชาติมีเพียงเจ้าปู่เท่านั้นที่หยั่งรู้เห็นในชะตารักของคนทั้งคู่ งานอภิเษกสมรสของเจ้าเมืองบูรพา พญาเพชรแก้วจันทรานาคราชและพระนางนรินธรานาคีหลานของ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status