Share

๗. ไหว้เจ้าปู่

last update Last Updated: 2025-04-28 18:00:42

“พญานาค? ทำไมถึงชอบนับถือกันนะ…คนในหมู่บ้านเคยเห็นเหรอคะ?” มินตราพูดพร้อมกับทำท่านึกสงสัย ก่อนจะหันไปถามแม่สายด้วยความอยากรู้จนลืมสิ่งที่ผ่านสายตาไปเสียสนิท

“ไม่มีใครเห็นหรอกค่ะ…แต่มันมีปรากฏการณ์หลายอย่างที่ทำให้รู้ว่ามีอยู่จริง” แม่สายเอ่ยเสียงเรียบ

“ไม่เคยเห็นแล้วทำไมถึงได้เชื่อขนาดนั้นกันนะ เหตุการณ์ที่ว่าอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญหรือวิทยาศาสตร์ก็ได้” นรินทร์พูดขึ้นอย่างไม่เชื่อ แม่สายหันไปจ้องมองนรินทร์ด้วยใบหน้าเรียบเฉยแต่แววตาของแม่สายนั้นดูเหมือนจะไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นักที่ได้ยินแบบนั้น

“เอ่อ…เรามาเพื่อศึกษประเพณีของชาวบ้าน ไม่ได้มาลบหลู่สิ่งที่ชาวบ้านศรัทธานะคะ” นรินทร์เอ่ยขึ้นหลังจากที่รับรู้ว่าเรื่องความเชื่อนี้ยากที่จะแตะต้อง ในเมื่อเข้าเมืองตาหลิ่วก็ต้องหลิ่วตาตาม

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณนรินทร์…สิ่งที่มองไม่เห็นมันก็ยากที่จะเชื่อ…แต่ก็ไม่ใช่ว่ามีอยู่จริง” แม่สายเอ่ยด้วยรอยยิ้มจางๆจ้องมองนรินทร์ราวกับมีนัยบางอย่าง 

“โห…ประโยคคลาสสิคที่เคยได้ยินในหนังเลย” มินตราพูดเหมือนล้อเล่นแต่มันก็ไม่ผิดอย่างที่มินตราพูดเลย นรินทร์จึงทำได้แค่ยิ้มๆ แต่ก็แอบทำหน้าดุเพื่อนตัวเองไปหนึ่งทีกลัวว่าจะโดนชาวบ้านเกลียดจนหาข้อมูลไม่ได้ เธออยากมาทำงานแบบไม่มีปัญหากับชาวบ้านจะได้ทำงานสงบๆและสะดวกมากขึ้น

“เอ่อ…ฉันว่าเราไปกันเถอะค่ะ ศาลเจ้าปู่ที่แม่สายว่า…ถือว่ามาขออนุญาตเจ้าที่เจ้าทางแล้วกันค่ะ” 

นรินทร์พูดตัดบทก่อนที่เรื่องมันจะไปกันใหญ่ แม่สายเองก็พยักหน้าแล้วหันมายิ้มให้นรินทร์ด้วยแววตาที่ดูเอ็นดูเธอเหลือเกิน ก่อนจะเดินนำทีมสาวๆไปยังศาลโดยมีพวกผู้ชายตามมาทีหลัง 

เดินเข้าหมู่บ้านไปได้ไม่นานก็เห็นชาวบ้านต่างพากันเข้าไปโบราณสถานขนาดย่อมกลางหมู่บ้าน จะเรียกว่าศาลคงจะไม่ถูกมันเหมือนกับเทวาลัยเสียมากกว่า เพราะถือว่ามันค่อยข้างใหญ่พอสมควรกินพื้นที่กลางหมู่บ้านไปประมาณห้าไร่เห็นจะได้ที่ถือว่าเป็นเขตของศาลเจ้าปู่ที่แม่สายพูดถึง

นรินทร์และคนอื่นๆมองสถานที่แห่งนี้ด้วยความทึ่ง ศิลปะโบราณสถานแห่งนี้เหมือนในยุคทวารวดีเลื่อมเข้ายุคขอมไม่มีผิด หินอิฐมวลแดงขนาดใหญ่ทับซ้อนกันสร้างขึ้นเป็นคล้ายปราสาท แต่ทว่ามันหักพังไปหมดแล้ว เหลือแต่เพียงส่วนชั้นในแค่ห้องเล็กเท่านั้น รอบบริเวณมีชาวบ้านทำบายศรีดอกไม้พวงมาลัยมาขายล้วนแต่เป็นดอกไม้สีเหลืองและสีขาวเป็นส่วนใหญ่

“ข้าว่าพวกคุณน่าจะเอาบายศรีไปไหว้เจ้าปู่เสียหน่อย ข้าจะให้ฟรีๆไม่คิดเงินหรอก” แม่สายหันกลับมาทางนรินทร์และเพื่อนๆในทีมของเธอ แต่สายตานั้นตั้งใจมองมายังนรินทร์เสียมากกว่าที่จะบอกคนอื่นๆ  

“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฉันจ่ายก็ได้ค่ะ ถือว่าช่วยเหลืออาชีพของชาวบ้านที่นี่” นรินทร์เอ่ยขึ้นอย่างเกรงใจ

“ตามใจคุณนรินทร์เลยค่ะ…แต่ที่นี่เงินมันไม่มีค่าอะไรมากหรอกนะคะ” แม่สายเอ่ยแค่นั้นก่อนจะเดินไปยืนรอตรงทางเข้าตัวเทวาลัยอย่างเงียบๆ นรินทร์ยิ้มรับก่อนจะเดินไปรับบายศรีที่ร้านใกล้ๆตัวเองมากที่สุด พร้อมกับยื่นเงินให้ แต่หญิงสาวหน้าตาสะสวยกลับยิ้มและส่ายหน้าด้วยท่าทางเรียบร้อย จ้องมองเธอราวกับดีใจที่ได้เจอ

“ไม่รับเงินหรือคะ? ถ้าไม่มีทอนฉันสแกนจ่ายได้นะคะ”

“ไม่เป็นไรค่ะ สำหรับคุณคนสวยฉันยกให้” หญิงสาวพูดจบก็ยกบายศรีขนาดใหญ่เกินกว่าที่เห็นวางเรียงรายไว้หน้าโต๊ะขาย นรินทร์ขมวดคิ้วสงสัยแต่ก็ยอมรับบายศรีพญานาคห้าเศียรนั้นมาแต่โดยดีและมันก็ค่อนข้างที่จะหนักพอสมควร คนในทีมไม่มีใครที่คิดจะไหว้เลย แค่มาตามคำบอกของภรรยาผู้ใหญ่บ้านเท่านั้น

“มา เดี๋ยวกูช่วย” นิลนนท์เป็นคนเดินเข้ามาช่วยเธอยกบายศรีนั้นก่อนจะหันไปมองหญิงสาวผู้ขายบายศรีและส่งยิ้มให้เล็กน้อย นรินทร์มองนิลนนท์ที่มองหญิงสาวคนนั้นก่อนจะยิ้มให้เขาหลังจากที่เขาหันกลับมาทางเธอ

“อะไร?”

“ฮั่นแน่ มึงแอบปิ๊งสาวบ้านป่าใช่มะ กูเห็นนะ” นรินทร์แซวเพราะสนิทกับนิลนนท์พอสมควรพร้อมกับเอาไหล่ไปกระทุ้งไหล่คนตัวสูงอย่างกระเซ้าเย้าแหย่ แต่นิลนนท์กลับส่ายหน้าไปมายิ้มๆก็เท่านั้นไม่ได้ตอบอะไรเธอ

“รีบไปได้แล้ว เดี๋ยวจะเลยเวลา” นิลนนท์ตอบออกไปแบบยิ้มๆ ก่อนจะเผลอพูดถึงเวลาออกมาทำเอานรินทร์ขมวดคิ้วอย่างสงสัย

“เลยเวลา?  เวลาอะไร? พูดแปลกๆนะมึงเนี่ย…เป็นเพื่อนกับกูมาตั้งสิบปี ไม่เห็นจะเคยพูดแบบนี้เหมือนกับรู้อะไร”

“เอ่อ…หิวข้าวแล้วว่ะ รีบไปเร็วเถอะจะได้ไปอะไรกินแล้วดูประเพณีอื่นๆต่อ” นิลนนท์เอ่ยแบบปัดๆ และก็โชคดีที่นรินทร์ก็ยอมเข้าใจพยักหน้ายิ้มๆ ก่อนที่ทั้งสองจะเดินเคียงคู่กันไปภายใต้สายตาที่จ้องมองแผ่นหลังของคนทั้งสองอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก แต่มีบางคนที่ออกจะสงสัยในความสัมพันธ์ของนิลนนท์และนรินทร์อยู่ไม่น้อย

“เทวินมึงว่าพี่นิลนนท์ชอบพี่นรินทร์หรือเปล่า?” มินตราเอ่ยถามขึ้นพลางยกมือถือถ่ายรูปทั้งสองไว้ ถ้าวันไหนข่าวลือเป็นจริงขึ้นมาเธอก็พร้อมจะแชร์ภาพทันทีเพราะเรื่องของทีมคืองานของเรา

“ไม่หรอกมั้ง แต่เห็นคอยปกป้องนรินทร์ตลอด ไม่เคยเห็นจีบจริงๆจังๆเลย หรืออาจจะแค่แอบชอบ” เทวินตอบพลางทำท่าครุ่นคิด

“ยังกูก็ว่าไม่น่าใช่นะ พี่นิลอาจจะคิดว่าพี่นรินทร์เป็นเพื่อนก็ได้” เทวินเอ่ยขึ้นพลางหัวเราะอย่างไม่เชื่อ เพราะมองๆดูแล้วสองคนนั้นไม่น่าจะมีอะไรในกอไผ่

“จ้า ถ้าคิดอย่างนั้นแล้วมันช่วยให้กำลังใจตัวเองก็คิดไปเถอะ” มินตราอดไม่ได้ที่จะแซวเทวินที่จีบนรินทร์อย่างออกหน้าออกตาจนใครๆก็รู้แล้วว่าเขาตามจีบหัวหน้าทีมอย่างขะมักเขม้น

คนที่ดูจะทนฟังไม่ได้เห็นทีจะเป็นภากรณ์ที่หลังจากได้ยินทั้งสองคนพูดขึ้นก็รีบเดินตรงปรี่เข้าไปหาทั้งคู่ที่กำลังจะเดินเข้าตัวปราสาทส่วนในของโบราณสถาน ก่อนจะหยุดยืนด้านหลังของทั้งสองคนที่กำลังนั่งพับเพียบเรียบร้อยอยู่หน้ารูปปั้นพญานาคที่ถูกปั้นแกะสลักมาด้วยอิฐมวลแดงเช่นเดียวกับตัวโบราณสถาน มีเครื่องทรงเพชรนิลจินดาประดับจากความศรัทธาของชาวบ้าน เพชรตรงกลางสร้อยสังวาลย์ที่คาดคอรูปปั้นนั้นเป็นสีน้ำเงินเข้มสีเดียวกับดวงตาทั้งเจ็ดเศียร ด้านล่างเพชรน้ำเงินเป็นเพชรสีใสอมชมพูนิดๆราวกับดวงแก้ว 

นรินทร์นั่งนิ่งอึ้งในความทรงพลังเบื้องหน้าเธอมองรูปปั้นนั้นอย่างนึกหลงใหลราวกับต้องมนต์สะกด การปั้นแบบอารยธรรมทวารวดีจึงไม่เหมือนกับรูปปั้นพญนาคที่เห็นตามวัดตามโบสถ์ รูปปั้นงูที่เหมือนงูจริงๆกำลังแผ่เศียรทั้งเจ็ดปกคลุมคนที่มากราบไหว้ราวกับกำลังปกป้องเหมือนมีชีวิตจริงๆ

“โห…ทำไมสวยขนาดนี้…” นรินทร์เอ่ยขึ้นอย่างไม่รู้ตัว จากที่เป็นคนตลกก็ต้องยอมนอบน้อมต่อรูปปั้นพญานาคที่น่าเกรงขามอย่างน่าประหลาดทั้งที่คนอย่างเธอไม่คิดจะเกรงกลัวสิ่งใด ปากไวยิ่งกว่าจรวดเสียอีก

“มานั่งกราบไหว้กันสองคนไม่รอทีมแบบนี้…คิดจะมาสาบานรักกันหรือไง” เสียงเข้มเอ่ยขึ้นอย่างประชดประชันพาบรรยากาศเสียไปหมด นรินทร์และนิลนนท์หันไปตามต้นเสียงด้วยใบหน้าเซ็งก่อนที่นรินทร์จะเอ่ยตอบขึ้น

“หุบปากดิ! ถ้าไม่คิดจะมาไหว้ก็ลงไปเถอะ เสียเวลาคนอื่น”

“ทำไม? นึกรังเกียจผัวตัวเองเหรอไงถึงมาไหว้ด้วยไม่ได้” ภากรณ์พูดขึ้นด้วยความหึงหวง

“ผัวเก่า พูดผิดพูดใหม่ด้วย” นรินทร์ตอบเน้นย้ำคำอย่างหนักแน่น

“นรินทร์!”

“ผมว่าคุณภากรณ์ไปคุยกับผมข้างล่างดีกว่าครับถ้าสงสัยมากนัก…นรินทร์มึงไหว้ก่อนเถอะอย่าเสียเวลาเลย” นิลนนท์พูดกับภากรณ์เสียงแข็งก่อนจะหันไปพูดกับนรินทร์เสียงอ่อนแล้วเดินไปประจันหน้ากับภากรณ์ที่จ้องมองเขาเขม็งและเขาก็ไม่ยอมเช่นกัน ก่อนที่นิลนนท์จะเดินชนไหล่ภากรณ์เดินนำออกไปและภากรณ์ก็ยอมเดินตามออกไปแต่โดยดี

นรินทร์มองตามหลังคนทั้งคู่ก่อนจะทอดถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายแล้วหันกลับไปยกมือไหว้รูปปั้นข้างหน้าถวายบายศรีที่ได้รับมาอย่างงงๆ ในใจตอนไหว้เธอไม่ได้รู้สึกศรัธทาแต่อย่างใด แค่มาไหว้ขออนุญาตทำงานให้งานราบรื่นจนถึงวันกลับเหมือนขอเจ้าที่เจ้าทางก็เท่านั้น 

เสียงฝีเท้าเดินมาจากข้างหลังแต่เธอไม่ได้หันกลับไปมอง แค่รู้ว่ามีคนมานั่งไหว้กับเธอเหมือนกันแต่ก็คิดว่าคงเป็นทีมงานของเธอจึงไม่ได้สนใจนัก วินาทีหันกลับจะลุกขึ้นก็พลาดท่าขาพลิกเสียได้ทำให้จะล้มลงไปอีกรอบแต่คนข้างๆกลับรีบคว้าตัวเธอรับไว้ทัน

…เดี๋ยวนะ…เขาหน้าเหมือนคนในฝันเลย…

ทั้งสองจ้องมองกันอยู่นานแววตาของเขาที่มองเธอนั้นราวกับว่ารู้จักกันมาก่อน สายตาคมจ้องมองเธออย่างอ่อนโยนและให้ความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความคิดถึง หรือเธออาจจะคิดไปเอง

“ขะ…ขอโทษค่ะ”

“เป็นอะไรไหมครับ…” 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๑.๑ นิมิตเพื่อพานพบ

    หาดทรายละเอียดสีขาว... รอบข้างเต็มไปด้วยหมอกควัน...ตรงหน้ามีเพียงทะเลน้ำสีฟ้าใสไล่สีครามลงกว้างใหญ่ไพศาลสุดตา...สถานที่แห่งนี้เหมือนไม่มีจริงในโลก..."เอ๊ะ?"หญิงสาวร่างอรชรอุทานขึ้นถ้าเป็นสมัยที่เธอดูคงจะถูกเรียกว่าสาวอวบอึ๋ม มองเห็นชายหนุ่มท่อนบนเปลือยเปล่าไร้เครื่องประดับประดาในตัวยกเว้นเข็มขัดทองที่รั้งผ้านุ่งโสร่งสีขาวเดินขึ้นมาจากผืนน้ำ ทำให้เห็นมัดกล้ามกำยำชัดเจน รูปร่างชายชาตรีสมบูรณ์แบบมากที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา ผิวพรรณผ่องใส เรียบเนียน มีแสงระยิบระยับตามร่างกายนั้น ผมของเขายาวประบ่าแต่ถูกรวบมัดมวยไว้เพียงครึ่ง พอเผยให้เห็นกรอบหน้าชัดเจน จมูกโด่งเป็นสัน ปลายรั้งเชิด ปลายจมูกโค้งมนเป็นหยดน้ำ ปากเรียวได้รูปรับกับใบหน้า ทำให้ดูหน้าหวานปานหยาดน้ำผึ้ง คิ้วเข้มตรงสวย แต่ไม่หนาจนเกินพอดีรับกรอบหน้าทำให้ดูสมเป็นชายขึ้นมาเสียหน่อย กับดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเปลือกตาสองชั้น มองมาที่เธอด้วยสายตาอ่อนโยนระคนเศร้าไม่ว่ายุคสมัยไหนถ้าได้เห็นชายผู้นี้คงไม่มีผู้หญิงคนไหนไม่หลงรักเป็นแน่ แต่น่าแปลกที่เขาเหมือนไม่มีอยู่ในโลกที่เธอรู้จัก เพราะไม่มีใครจะหล่อเหลาปานเทพบุตรเช่นเขาแน่ ไม่ทันที่เธอจะได้เอะ

    Last Updated : 2025-04-25
  • ลิขิตสัญญานาคา   ๑.๒ นิมิตเพื่อพานพบ

    "มาถึงละ เมื่อไหร่จะมา เสียเวลาจริง!"ปากเรียวบางอมชมพูพูดขึ้นกับปลายสายด้วยเสียงหงุดหงิด หญิงสาวใบหน้าหวานจิ้มลิ้มร่างอรชรพอเหมาะพอดีไม่ผอมไม่อ้วนเกินไปยืนนิ่งหลังจากวางสายสนทนาเมื่อครู่ เธอสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ดวงตาสวยที่แข็งกร้าวเริ่มเอ่อคลอไปด้วยน้ำตาแต่ต้องกลั้นมันไว้ไม่ให้ไหลออกมา .... ยัยนรินทร์...เธอต้องเข้มแข็ง....หลังจากปลอบใจตัวเองได้ไม่นานนักร่างสูงในชุดหนังและกางเกงยีนส์ขาดๆ ก็เดินเข้ามาหาเธอพร้อมสาวสวยในชุดคล้ายๆกันเหมือนชุดคู่รัก ภากรณ์เดินเข้ามาพร้อมกับหญิงสาวหน้าตาสะสวยเดินตรงมาทางเธอ ก่อนจะโอบเอวบางของหญิงสาวข้างกายด้วยใบหน้ายิ้มระรื่น นรินทร์มองดูพวกเขาเหมือนไม่ใส่ใจแต่กลับเม้มปากแน่น"อะไรกัน...จะร้องไห้เหรอ?""ร้องไห้ดีใจน่ะสิ จะได้หลุดพ้นวังวนอุบาทว์นี้เสียที""พูดอะไรอย่างนั้นล่ะ เพื่อน"หญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างกายภากรณ์ได้เอ่ยขึ้น ใบหน้าสะสวยที่คุ้นเคยสำหรับนรินทร์ พวกเธอเป็นเพื่อนรักกันมาก่อนตลอดสี่ห้าปี ด้วยความเชื่อใจ เวลาไปไหนมาไหนมักจะไปด้วยกันตลอด แต่สุดท้ายก็ไม่คิดว่าจะโดนหักหลังแบบไม่น่าให้อภัยโดยการเป็นชู้รักกับสามีของเธอมาตลอดสองปีหลัง นรินทร์มองใบหน้

    Last Updated : 2025-04-25
  • ลิขิตสัญญานาคา   ๒.๑ สัมผัสที่มิอาจมองเห็น

    ยามค่ำคืนดึกดื่นที่มีเพียงแสงไฟตามตึกน้อยใหญ่...ห้องสี่เหลี่ยมในคอนโดเล็กๆ ใจกลางเมือง ภายในห้องไร้แสงไฟส่องสว่าง ร่างอรชรนอนขดตัวอยู่กลางเตียงใหญ่ที่ตั้งอยู่ในห้อง ไร้การขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวจากหญิงสาว มีเพียงหยดน้ำตาที่ยังคงเคลื่อนไหวไหลลงอาบสองแก้มเนียนไม่หยุด ตั้งแต่กลับมาจากที่ว่าการอำเภอหลังจากเซ็นใบหย่าร้างใบแรกในชีวิตเธอก็หมดเรี่ยวแรงจะทำอะไรทำได้แต่นอนร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่อย่างนั้นหยดน้ำตาใสไม่มีท่าทีว่าจะหยุดไหลออกจากดวงตาของนิรนทร์แม้แต่น้อยเสียงโทรศัพท์จะดังขึ้นซ้ำๆ เป็นเวลานาน แต่ก็ไม่ได้ทำให้คนที่นอนอยู่บนเตียงขยับตัวเลย ดวงตาเรียวหลับตาลงปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาไม่ขาดสาย มือขวาเอื้อมไปกุมที่หน้าอกซ้ายด้วยความรู้สึกเจ็บปวดที่จุกอกอยู่ภายใน สมองพลางคิดโทษโชคชะตาว่าทุกครั้งที่มีความรักทำไมถึงได้พบแต่กับความผิดหวังไม่รู้จบ...ฉันทำกรรมอะไรไว้วะ...ถึงได้มีความรักที่เฮงซวยมันทุกครั้ง!!......พี่ขอโทษ…นรินธรา...เหตุจากคำมั่นสัญญารักของเรา พี่มิอาจปล่อยน้องไปได้...เสียงที่โต้ตอบเสียงความคิดของเธอที่น้อยเนื้อต่ำใจ...แม้เสียงนั้นจะเอื้อนเอ่ยดังเพียงใดก็ไม่สามารถส่งไปถึงหญิงสาวอั

    Last Updated : 2025-04-25
  • ลิขิตสัญญานาคา   ๒.๒ สัมผัสที่มิอาจมองเห็น

    "ใครเขาจะมายืนบอกกันล่ะ""ถ้าเหตุเป็นเพราะพี่...พี่ก็ดีใจ"คำพูดพร้อมรอยยิ้มอย่างดีใจของชายหนุ่มทำให้นรินทร์ไม่กล้าที่จะปฏิเสธขัด การเห็นเขาดีใจกลับทำให้รู้สึกดีใจตามไปด้วย หญิงสาวมองใบหน้าเทพบุตรนั้นอยู่นาน รู้สึกเหมือนคุ้นเคยกับเขาและรู้สึกอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูกที่ได้พบเจอกับเขา เธอแอบคิดว่าถ้าเขามีอยู่ในชีวิตจริงคงจะดีไม่น้อย...แต่นี่คงเป็นแค่ชายในฝันเหมือนที่ใครๆพูดกัน"แล้วคุณเป็นใคร? เทวดา ผี หรือเทพบุตรกันคะสุดหล่อ?" ไหนๆก็อยู่ในฝันแล้วขอจีบชายในฝันสักหน่อยจะเป็นไรไป นั่นคือสิ่งที่หมอกเมยคิด"เมื่อถึงเพลาก็จักรู้เอง""ทำไมไม่บอกล่ะตัวเอง…เห็นบอกว่าฉันเป็นคนรักของคุณไม่ใช่หรือคะ?""อดีตชาติเราคือคนรักที่ยากจะแยกจาก...รักยาวนานเป็นพันๆ ปี...""แล้วตอนนี้คุณยังรักฉันอยู่หรือคะ ผ่านมาตั้งพันปีไม่มีคนอื่นบ้างเลยเหรอ?""ความรักสำหรับชาวเราผู้ที่ครองอมตะ...มักจักมีหนึ่งเดียวใจเดียวตามที่ตั้งสัตย์สัญญาไว้""ว้า...ฉันผ่านการมีสามีมาแล้วน่ะสิ ไม่ได้อยู่รอสุดหล่อเลย""พี่รู้แจ้งแก่ใจ...ชีวิตมนุษย์นั้นสั้นนัก...เมื่อเกิดเป็นมนุษย์ย่อมมีสิ่งที่ทำให้ลุ่มหลง...เหตุเพราะความทรงจำในอดีตถูกลบเลื

    Last Updated : 2025-04-25
  • ลิขิตสัญญานาคา   ๓.๑ อดีตนานนับพันปี

    หญิงสาวรูปร่างอรชรผิวขาวเนียนผ่องเป็นยองใยเนียนละเอียดในชุดโบราณแต่งองค์ทรงเครื่องประดับด้วยทองหยองเต็มตัว มงกุฎทองคำพันรอบศีรษะสวย ผมมวยสูงทัดด้วยดอกมะลิส่งกลิ่นหอมอบอวลเสมือนกลิ่นประจำกายของหญิงสาว นิ้วมือเรียวสวยกรีดกรายลงบนผิวน้ำใสอย่างแผ่วเบา ใบหน้าเปื้อนยิ้มอย่างอ่อนโยนเมื่อมองลงไปในแม่น้ำเห็นสรรพสัตว์มากมายแหวกว่ายไม่ไกลมือของเจ้าหล่อนนัก “เจ้าทำอันใดอยู่รือหลานปู่” ชายหนุ่มที่ดูไม่แก่ชราลงเลย แต่แทนตัวเองว่าปู่เดินเอามือไขว้หลังบ่งบอกถึงความมีอำนาจมาดใหญ่เข้าไปหาหญิงสาวที่นั่งรื่นรมย์อยู่ริมธารพร้อมรอยยิ้ม ชายหนุ่มแต่งองค์ทรงเครื่องมงกุฎทองครอบเศียรทรงขอมที่มองดูก็ว่าคือราชาของเมืองนี้ บริวารที่เฝ้าตามารับใช้หญิงสาวต่างพากันโค้งหมอบให้ผู้ที่เดินเข้ามา มีเพียงหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างลำธารเพียงเท่านั้นที่หันไปมองราชาหนุ่มผู้มาเยือนพร้อมกับหันไปยิ้มรับอย่างอ่อนหวานก่อนจะเก็บมือไว้หน้าตักอย่างเรียบร้อยและโค้งศีรษะลงอย่างเคารพ “เจ้าปู่มุจรินท์ มีเรื่องอันใดรือเพคะถึงได้มาตามหาหลานด้วยพระองค์เอง” “เงยหน้าขึ้นเถิดหลานปู่...”

    Last Updated : 2025-04-25
  • ลิขิตสัญญานาคา   ๓.๒ อดีตนานนับพันปี

    “ขอประทานอภัยที่กระหม่อมต้องกล่าวความเช่นนี้...กระหม่อมมีชายาที่เจ้าเมืองต่างๆ การประทานให้หลังออกรบมีชัยกลับมา มิมีนางใดที่ข้ากระหม่อมพึงใจรักแม้แต่นางเดียว กระหม่อมขอสาบานว่า...มิได้ล่วงเกินชายานางใดแม้แต่ปลายเส้นผม มิได้ผูกเวรผูกกรรมต่อกันแล้วพระเจ้าข้า” “ถ้าเช่นนั้น...เจ้าพี่เพชรจักพึงใจในตัวน้องรือเพคะ?” “ยามแลเห็นน้องคราแรก จากที่คิดว่าดวงใจนี้กลายเป็นหิน ก็กลับหลงรักน้องอย่างมิอาจหักใจ” “ชายใดเข้ามามักจักกล่าววาจาหวานหู ใจแท้จักเป็นจริงดั่งปากว่ารือมิรู้ได้” “ขอน้องนางจงอย่าเปรียบเทียบพี่กับชายใด พี่หลงรักน้องยาใจแม่นมั่นมิผันแปร” เจ้าเพชรแก้วตอบโต้นรินธราด้วยสายตาที่ไม่หลบเลี่ยงอย่างมาดมั่น แต่หญิงสาวกลับก้มหน้าลอบมองเจ้าเพชรแก้วอย่างขวยเขิน องค์มุจรินท์เห็นเช่นนั้นก็หัวเราะออกมาอย่างพึงพอใจที่ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่นิมิตเห็น ทั้งสองคนคือคู่แท้กันมาตั้งแต่กี่ภพชาติมีเพียงเจ้าปู่เท่านั้นที่หยั่งรู้เห็นในชะตารักของคนทั้งคู่ งานอภิเษกสมรสของเจ้าเมืองบูรพา พญาเพชรแก้วจันทรานาคราชและพระนางนรินธรานาคีหลานของ

    Last Updated : 2025-04-25
  • ลิขิตสัญญานาคา   ๔.๑ ปัจจุบัน

    หลังจากที่สะดุ้งตื่นกลางดึกอยู่บ่อยครั้งเช้านี้ก็เป็นอีกครั้งที่นรินทร์สะดุ้งตื่นจากความฝันที่เสมือนจริง เหตุการณ์เลือนรางไปบางช่วงตอนตื่น และก็ต้องหยุดชะงักกลางคันมันเสียตลอด แต่สำหรับเช้าวันใหม่นี้กลับสะดุ้งถึงสองครั้งสองหน แถมยังฝันเรื่องเดิมและมันดันเป็นเรื่องที่ปะติดปะต่อกันเหมือนได้เห็นเหตุการณ์ในโลกนิทานอย่างไรอย่างนั้นร่างอรชรลุกขึ้นจากเตียงใหญ่ด้วยความเมื่อยล้าร่าง แต่ในหัวกลับมีเรื่องที่ฝันเมื่อสักครู่วนเวียนอยู่ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็เลือกที่จะต้องดำเนินชีวิตต่อและคิดว่าอย่างไรมันก็แค่ความฝัน หญิงสาวเดินเข้าไปอาบน้ำและทำกิจวัตรประจำวันเหมือนอย่างเคย มันแตกต่างจากทุกวันก็ตรงที่เธออยู่คนเดียวแล้วนับตั้งแต่เมื่อวานนี้ร่างโปร่งแสงมองเธอว้าวุ่นไปมาด้วยรอยยิ้มบางๆ แม้เธออาจจะมองไม่เห็นการมีอยู่ของเขาก็ตาม แต่ภายในใจของชายหนุ่มนั้นกลับเปี่ยมล้นไปด้วยความสุขที่ได้หวนกลับมาพบเจอดวงจิตของผู้เป็นที่รักยิ่งที่เขาเฝ้ารอและตามหามานานนับพันปี เขาได้เฝ้าตามคอยดูแลเธอมาตลอดเท่าอายุของเธอในปัจจุบัน...ประเดี๋ยวเราก็จักได้พานพบกันแล้ว นรินธรา...เส

    Last Updated : 2025-04-25
  • ลิขิตสัญญานาคา   ๔.๒ ปัจจุบัน

    “ทีม Local ไปกันเถอะ ไม่อยากคุยกับ...หมา มันเห่าแล้วหนวกหู”นรินทร์พูดพร้อมหันไปเน้นย้ำคำหลังอย่างหนักแน่นและมองตรงไปยังภากรณ์อย่างตั้งใจ คนในทีมหัวเราะคิกคักชอบใจกับความดื้อร้ายไม่ยอมใครของนรินทร์ ก่อนเทวินจะถอนหายใจแล้วเงยหน้าพูดกับภากรณ์ที่ขมวดคิ้วอย่างขุ่นเคืองกับคำพูดของนรินทร์“เฮ้อ...นี่สินะตัวอย่างสุภาษิตไทยที่ว่า...หมาหวงก้าง”ภากรณ์ได้ยินดังนั้นจึงหันไปมองขวางเทวินที่ยืนยิ้มตาปริบๆ หน้าระรื่นใส่เขา ภากรณ์แค่นหัวเราะออกมาอย่างเยาะเย้ยพร้อมกับกอดอกเหมือนผู้ชนะ“อย่าได้ใจไปเลย ยังไงนรินทร์ก็ไม่มีทางเลิกรักฉันได้หรอก ไม่งั้นคงไม่อยู่กับฉันมาถึงเจ็ดปี ป่านนี้คงนึกเสียใจอยู่ข้างใน แค่ไม่แสดงออกก็เท่านั้น”“ครับ ผมจะรักษาแผลใจนั้นอย่างดีเลย ขอบคุณ...คุณภากรณ์ที่ช่วยเปิดทางให้”เทวินพูดขึ้นทั้งรอยยิ้มไม่มีทีท่าว่าจะสลดใจกับคำพูดของภากรณ์เลยแม้แต่น้อย การที่ผู้หญิงกำลังอ่อนแอแล้วมีใครสักคนเข้าไปดูแลอย่างจริงใจย่อมโอนเอนไปทางคนผู้นั้น ภากรณ์เข้าใจความหมายคำพูดของเทวินเป็นอย่างดี สีหน้าที่ยิ้มเยาะเทวินในตอนแรกกลับบึ้งตึงในทันทีพร้อมกับจ

    Last Updated : 2025-04-25

Latest chapter

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๗. ไหว้เจ้าปู่

    “พญานาค? ทำไมถึงชอบนับถือกันนะ…คนในหมู่บ้านเคยเห็นเหรอคะ?” มินตราพูดพร้อมกับทำท่านึกสงสัย ก่อนจะหันไปถามแม่สายด้วยความอยากรู้จนลืมสิ่งที่ผ่านสายตาไปเสียสนิท“ไม่มีใครเห็นหรอกค่ะ…แต่มันมีปรากฏการณ์หลายอย่างที่ทำให้รู้ว่ามีอยู่จริง” แม่สายเอ่ยเสียงเรียบ“ไม่เคยเห็นแล้วทำไมถึงได้เชื่อขนาดนั้นกันนะ เหตุการณ์ที่ว่าอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญหรือวิทยาศาสตร์ก็ได้” นรินทร์พูดขึ้นอย่างไม่เชื่อ แม่สายหันไปจ้องมองนรินทร์ด้วยใบหน้าเรียบเฉยแต่แววตาของแม่สายนั้นดูเหมือนจะไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นักที่ได้ยินแบบนั้น“เอ่อ…เรามาเพื่อศึกษประเพณีของชาวบ้าน ไม่ได้มาลบหลู่สิ่งที่ชาวบ้านศรัทธานะคะ” นรินทร์เอ่ยขึ้นหลังจากที่รับรู้ว่าเรื่องความเชื่อนี้ยากที่จะแตะต้อง ในเมื่อเข้าเมืองตาหลิ่วก็ต้องหลิ่วตาตาม“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณนรินทร์…สิ่งที่มองไม่เห็นมันก็ยากที่จะเชื่อ…แต่ก็ไม่ใช่ว่ามีอยู่จริง” แม่สายเอ่ยด้วยรอยยิ้มจางๆจ้องมองนรินทร์ราวกับมีนัยบางอย่าง“โห…ประโยคคลาสสิค

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๖.๒ ถึงเวลา

    แม่สายทำท่าทางตกใจไม่น้อยราวกับไม่เชื่อหูที่ได้ยิน นรินทร์ขมวดคิ้วเล็กน้อยมองเอียงหน้ามองแม่สายอย่างไม่เข้าใจแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อแม้จะอยากรู้เสียเต็มประดาว่าทำไมแม่สายภรรยาผู้ใหญ่บ้านที่เธอไม่รู้จักถึงได้มีท่าทีแบบนั้น“เก็บข้าวของเรียบร้อยข้าจะพาทีมคุณนรินทร์ไปไหว้ศาลเจ้าปู่ประจำหมู่บ้านเสียก่อนค่อยหาข้าวปลากินกัน”“ทำไมต้อง…อะ...อ้าว” นรินทร์ไม่ทันได้ถามแม่สายก็ชิงเดินนำหน้าไปก่อนเสียแล้ว ทิ้งความสงสัยว่าทำไมแม่สายถึงได้รู้ชื่อของเธอไว้ในใจ นรินทร์ตั้งท่าที่จะเดินตามแม่สายให้ทันแต่ก็ถูกมือหนาของเทวินคว้าแขนไว้เสียก่อน“หัวหน้าคุยอะไรกันหรือครับ? ท่าทางดูตกใจขนาดนั้น” เทวินเอ่ยถาม“ไม่”“หือ? อะไรนะครับ”“ไม่ยุ่งสักเรื่องได้มะ?”เอ่ยตอบพร้อมยักคิ้วอย่างกวนๆ“โห่…หัว…”ไม่ทันได้ตอบภากรณ์ก็เดินเข้ามาแทรกกลางทั้งสองทำเอาเทวินถึงกับยอมละมือที่คว้าจับแขนของนรินทร์เอาไว้ออกแทบจะทันที เทวินหันไปมองตามหลังภากรณ์ขบเคี้ยวเขี้ยว

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๖.๑ ถึงเวลา

    “ไปกันใหญ่แล้วมึง เห็นกูเป็นพระถังซัมจั๋งเหรอถึงได้คิดว่ามันเคารพกูน่ะ” นรินทร์พูดตอบนิลนนท์ด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริงอย่างยิ้มๆ ก่อนจะหันมาส่ายหน้าไปมากับสิ่งที่นิลนนท์พูด“แต่กูเชื่ออย่างนั้นนะ...” นิลนนท์ตอบพร้อมกับรอยยิ้มขี้เล่น นรินทร์จึงหัวเราะออกมาเบาๆ คิดว่านิลนนท์คงพูดหยอกล้อต่อมุขเธอเล่น เธอจึงไม่ได้ตอบอะไรออกไปก่อนจะมีเพื่อนรุ่นน้องในทีมจะกล่าวเสริม“พี่นิลนนท์พูดเหมือนกับอ่านใจงูได้อย่างนั้นแหละ” มินตราที่นั่งติดกระจกรถข้างๆนิลนนท์พูดขึ้นแล้วมองนิลนนท์อย่างสงสัย เพราะเธอก็เห็นเขาจ้องมองงูเหมือนกับกำลังคุยกับมันอย่างไรอย่างนั้น“มินตรา มึงเชื่อเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ...สาวคลั่งเทคโนโลยีอย่างมึงเนี่ยนะ” เทวินที่นั่งอยู่ข้างหลังกับภากรณ์พูดขึ้นและมองมินตราอย่างไม่อยากเชื่อ คนอื่นๆก็มองเทวินก่อนจะหันกลับมามองมินตราเช่นกัน“เปรียบเปรยจ้ะ เขาเรียกว่าเรียกว่าเปรียบเปรย” มินตราตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก“อาจจะคุยรู้เรื่องก็ได้ พวกอสรพิษ…เลี้ยงไม่เชื่องอยู่แล้ว…พวกมั

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๕.๒ คิดถึงใคร

    นรินทร์สะดุ้งตื่นลุกพรวดขึ้นมาพร้อมกับหายใจหอบ ภาพฝันที่วูบเข้าหาตัวเธอนั้นยังคงจำได้ติดตา มันช่างน่ากลัวเสียเหลือเกิน นรินทร์เสยผมตรงสวยของตนก่อนจะหายใจเข้าลึกเพื่อเรียกสติ เธอเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างเตียงเพื่อดูเวลาพร้อมกับถอนหายใจ “ตีสาม...อีกแล้วเหรอ”หญิงสาวถอนหายใจก่อนจะพาร่างของตนลุกขึ้นแล้วเดินไปยังโซนห้องครัวเพื่อหาน้ำเปล่ามาดื่มเรียกสติให้ตัวเองตื่นเสียหน่อย มันเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่เธอฝันอะไรแบบนี้ การตื่นกลางดึกทั้งที่เป็นเวลาพักผ่อนมันทำให้ร่างกายเธอของอ่อนเพลียไม่น้อย แต่ครั้นจะให้นอนก็เห็นทีจะนอนไม่หลับไปเสียแล้วร่างโปร่งมองหญิงสาวอันเป็นที่รักอย่างห่วงใย ภายในใจสงสัยไม่น้อยว่าทำไมคีภัทราถึงได้แทรกแซงฝันของนรินทร์ได้ เขาจึงทำได้เพียงปลุกเธอให้ตื่นด้วยมนตร์เท่านั้น นั่นคือเหตุผลที่นรินทร์ต้องตื่นขึ้นมากลางดึกเสียทุกครั้ง“คีภัทรานี่ใครกัน...ฝันถึงหลายรอบแล้วนะ...นางเจ้าองค์ไหนอีก...”นรินทร์พึมพำกับตนเองพร้อมกับนึ

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๕.๑ คิดถึงใคร

    นรินทร์กลับมาถึงคอนโดหลังจากการทำงานที่หนักหน่วงเธอหัวเสียอย่างที่สุด เสียพลังงานต่อล้อต่อเถียงกับบก.แต่มันก็ไม่เป็นผล ดันหลงกลสองพ่อลูกนั่นจนได้ที่ตั้งใจจะไปแย้งเพื่อเข้าร่วมงานเลี้ยงสุดหรูก็ดันไปตกหลุมพรางของอดีตผัวเก่าอย่างภากรณ์ซะได้ หรือเธอเองคงจะเคยชินกับการถูกเขาหลอกเสียล่ะมั้งผลเลยออกมาเป็นแบบนี้แต่คนอย่างนรินทร์ต้องไม่แพ้! เธอไม่มีวันให้เขาดูถูกเธอได้ยิ่งสถานะของเธอและเขาตอนนี้เปลี่ยนไปแล้วมาดูกันหน่อยเป็นไงว่าคนอย่างนรินทร์น่ะเหรอกลัวความลำบาก คิดแล้วเธอก็เริ่มเปิดโน้ตบุ๊คเพื่อหาข้อมูลของสถานที่ที่ทีมของเธอต้องไปทำสกู๊ปนรินทร์นั่งหน้าจมอยู่กับหน้าจอคอมเพื่อหาข้อมูลของสถานที่ที่เธอต้องไป จากคนที่ทำแต่งานไม่ค่อยได้ไปเที่ยวไหน ก็ต้องมานั่งหาข้อมูลกันเสียหน่อย“บูรบุรี เมืองอะไรกันล่ะเนี่ยไม่เห็นเคยได้ยินชื่อมาก่อนเลย” ความรู้สึกแปลกประหลาดวังเวงคลืบคลานเข้ามาจนทำให้ขนลุก ห้องก็ห้องตัวเองอยู่มาก็นานแต่ทำไมเหมือนกับว่ามีคนอื่นที่นอกเหนือจากตนเองอยู่ด้วยกันนะ นรินทร์หันหน้าไปไปมอ

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๔.๒ ปัจจุบัน

    “ทีม Local ไปกันเถอะ ไม่อยากคุยกับ...หมา มันเห่าแล้วหนวกหู”นรินทร์พูดพร้อมหันไปเน้นย้ำคำหลังอย่างหนักแน่นและมองตรงไปยังภากรณ์อย่างตั้งใจ คนในทีมหัวเราะคิกคักชอบใจกับความดื้อร้ายไม่ยอมใครของนรินทร์ ก่อนเทวินจะถอนหายใจแล้วเงยหน้าพูดกับภากรณ์ที่ขมวดคิ้วอย่างขุ่นเคืองกับคำพูดของนรินทร์“เฮ้อ...นี่สินะตัวอย่างสุภาษิตไทยที่ว่า...หมาหวงก้าง”ภากรณ์ได้ยินดังนั้นจึงหันไปมองขวางเทวินที่ยืนยิ้มตาปริบๆ หน้าระรื่นใส่เขา ภากรณ์แค่นหัวเราะออกมาอย่างเยาะเย้ยพร้อมกับกอดอกเหมือนผู้ชนะ“อย่าได้ใจไปเลย ยังไงนรินทร์ก็ไม่มีทางเลิกรักฉันได้หรอก ไม่งั้นคงไม่อยู่กับฉันมาถึงเจ็ดปี ป่านนี้คงนึกเสียใจอยู่ข้างใน แค่ไม่แสดงออกก็เท่านั้น”“ครับ ผมจะรักษาแผลใจนั้นอย่างดีเลย ขอบคุณ...คุณภากรณ์ที่ช่วยเปิดทางให้”เทวินพูดขึ้นทั้งรอยยิ้มไม่มีทีท่าว่าจะสลดใจกับคำพูดของภากรณ์เลยแม้แต่น้อย การที่ผู้หญิงกำลังอ่อนแอแล้วมีใครสักคนเข้าไปดูแลอย่างจริงใจย่อมโอนเอนไปทางคนผู้นั้น ภากรณ์เข้าใจความหมายคำพูดของเทวินเป็นอย่างดี สีหน้าที่ยิ้มเยาะเทวินในตอนแรกกลับบึ้งตึงในทันทีพร้อมกับจ

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๔.๑ ปัจจุบัน

    หลังจากที่สะดุ้งตื่นกลางดึกอยู่บ่อยครั้งเช้านี้ก็เป็นอีกครั้งที่นรินทร์สะดุ้งตื่นจากความฝันที่เสมือนจริง เหตุการณ์เลือนรางไปบางช่วงตอนตื่น และก็ต้องหยุดชะงักกลางคันมันเสียตลอด แต่สำหรับเช้าวันใหม่นี้กลับสะดุ้งถึงสองครั้งสองหน แถมยังฝันเรื่องเดิมและมันดันเป็นเรื่องที่ปะติดปะต่อกันเหมือนได้เห็นเหตุการณ์ในโลกนิทานอย่างไรอย่างนั้นร่างอรชรลุกขึ้นจากเตียงใหญ่ด้วยความเมื่อยล้าร่าง แต่ในหัวกลับมีเรื่องที่ฝันเมื่อสักครู่วนเวียนอยู่ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็เลือกที่จะต้องดำเนินชีวิตต่อและคิดว่าอย่างไรมันก็แค่ความฝัน หญิงสาวเดินเข้าไปอาบน้ำและทำกิจวัตรประจำวันเหมือนอย่างเคย มันแตกต่างจากทุกวันก็ตรงที่เธออยู่คนเดียวแล้วนับตั้งแต่เมื่อวานนี้ร่างโปร่งแสงมองเธอว้าวุ่นไปมาด้วยรอยยิ้มบางๆ แม้เธออาจจะมองไม่เห็นการมีอยู่ของเขาก็ตาม แต่ภายในใจของชายหนุ่มนั้นกลับเปี่ยมล้นไปด้วยความสุขที่ได้หวนกลับมาพบเจอดวงจิตของผู้เป็นที่รักยิ่งที่เขาเฝ้ารอและตามหามานานนับพันปี เขาได้เฝ้าตามคอยดูแลเธอมาตลอดเท่าอายุของเธอในปัจจุบัน...ประเดี๋ยวเราก็จักได้พานพบกันแล้ว นรินธรา...เส

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๓.๒ อดีตนานนับพันปี

    “ขอประทานอภัยที่กระหม่อมต้องกล่าวความเช่นนี้...กระหม่อมมีชายาที่เจ้าเมืองต่างๆ การประทานให้หลังออกรบมีชัยกลับมา มิมีนางใดที่ข้ากระหม่อมพึงใจรักแม้แต่นางเดียว กระหม่อมขอสาบานว่า...มิได้ล่วงเกินชายานางใดแม้แต่ปลายเส้นผม มิได้ผูกเวรผูกกรรมต่อกันแล้วพระเจ้าข้า” “ถ้าเช่นนั้น...เจ้าพี่เพชรจักพึงใจในตัวน้องรือเพคะ?” “ยามแลเห็นน้องคราแรก จากที่คิดว่าดวงใจนี้กลายเป็นหิน ก็กลับหลงรักน้องอย่างมิอาจหักใจ” “ชายใดเข้ามามักจักกล่าววาจาหวานหู ใจแท้จักเป็นจริงดั่งปากว่ารือมิรู้ได้” “ขอน้องนางจงอย่าเปรียบเทียบพี่กับชายใด พี่หลงรักน้องยาใจแม่นมั่นมิผันแปร” เจ้าเพชรแก้วตอบโต้นรินธราด้วยสายตาที่ไม่หลบเลี่ยงอย่างมาดมั่น แต่หญิงสาวกลับก้มหน้าลอบมองเจ้าเพชรแก้วอย่างขวยเขิน องค์มุจรินท์เห็นเช่นนั้นก็หัวเราะออกมาอย่างพึงพอใจที่ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่นิมิตเห็น ทั้งสองคนคือคู่แท้กันมาตั้งแต่กี่ภพชาติมีเพียงเจ้าปู่เท่านั้นที่หยั่งรู้เห็นในชะตารักของคนทั้งคู่ งานอภิเษกสมรสของเจ้าเมืองบูรพา พญาเพชรแก้วจันทรานาคราชและพระนางนรินธรานาคีหลานของ

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๓.๑ อดีตนานนับพันปี

    หญิงสาวรูปร่างอรชรผิวขาวเนียนผ่องเป็นยองใยเนียนละเอียดในชุดโบราณแต่งองค์ทรงเครื่องประดับด้วยทองหยองเต็มตัว มงกุฎทองคำพันรอบศีรษะสวย ผมมวยสูงทัดด้วยดอกมะลิส่งกลิ่นหอมอบอวลเสมือนกลิ่นประจำกายของหญิงสาว นิ้วมือเรียวสวยกรีดกรายลงบนผิวน้ำใสอย่างแผ่วเบา ใบหน้าเปื้อนยิ้มอย่างอ่อนโยนเมื่อมองลงไปในแม่น้ำเห็นสรรพสัตว์มากมายแหวกว่ายไม่ไกลมือของเจ้าหล่อนนัก “เจ้าทำอันใดอยู่รือหลานปู่” ชายหนุ่มที่ดูไม่แก่ชราลงเลย แต่แทนตัวเองว่าปู่เดินเอามือไขว้หลังบ่งบอกถึงความมีอำนาจมาดใหญ่เข้าไปหาหญิงสาวที่นั่งรื่นรมย์อยู่ริมธารพร้อมรอยยิ้ม ชายหนุ่มแต่งองค์ทรงเครื่องมงกุฎทองครอบเศียรทรงขอมที่มองดูก็ว่าคือราชาของเมืองนี้ บริวารที่เฝ้าตามารับใช้หญิงสาวต่างพากันโค้งหมอบให้ผู้ที่เดินเข้ามา มีเพียงหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างลำธารเพียงเท่านั้นที่หันไปมองราชาหนุ่มผู้มาเยือนพร้อมกับหันไปยิ้มรับอย่างอ่อนหวานก่อนจะเก็บมือไว้หน้าตักอย่างเรียบร้อยและโค้งศีรษะลงอย่างเคารพ “เจ้าปู่มุจรินท์ มีเรื่องอันใดรือเพคะถึงได้มาตามหาหลานด้วยพระองค์เอง” “เงยหน้าขึ้นเถิดหลานปู่...”

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status