ณ สนามบินสุวรรณภูมิ
ร่างอันอวบอัดของ “มีน มารียา เวทติวัตร” กำลังย่างกายออกมาจากอาคารผู้โดยสารในประเทศพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ หลังจากที่เธอไปทำงานเป็นไกด์ที่ภาคใต้เกือบสองเดือน เพราะทางลูกค้าลงไปดูงานที่นั่นจนเธอนั้นปลีกตัวไปไหนไม่ได้เลย จนกระทั่งเสร็จภารกิจนี้เธอถึงได้กลับมาทำงานที่กรุงเทพตามปกติ
“มีน…จะกลับยังไง….ให้พี่ไปส่งไหม เดี๋ยวสามีของพี่มารับ” ลูกปลารุ่นพี่ที่ไปทำงานด้วยกันเอ่ยถามมารียาอย่างมีน้ำใจ เพราะเด็กสาวนิสัยก็ค่อนข้างจะน่ารักเลยทีเดียว
“อ่อ ไม่เป็นไรค่ะพี่ลูกปลา พอดีแฟนของมีนบอกว่าจะมารับน่ะค่ะ ขอบคุณที่ชวนนะคะ” มารียาพูดบอกไปด้วยรอยยิ้ม เพราะแฟนหนุ่มของเธอได้อาสามารับเธอในวันนี้แล้ว
“หูย…คุณปรมินทร์นี่น่ารักกับเราตลอดเลย…คอยรับคอยส่งแบบนี้สงสัยอีกไม่นานมีนคงจะมีข่าวดีเร็วๆนี้แล้วมั้งเนี่ย…” ลูกปลาเอ่ยแซวออกไป เพราะแฟนของมารียานั้นเป็นลูกค้าของบริษัทที่พวกเธอเคยทำงานให้ จนทำให้เขาเจอกับมารียาจนสานสัมพันธ์กันมาจนถึงตอนนี้
“ไม่มีหรอกค่ะพี่…อย่าแซวมีนเลยค่ะ เรื่องข่าวดีของมีนกับพี่ปาล์มคงอีกนานเลยล่ะค่ะ เราพึ่งคบกันได้ปีเดียวเองค่ะ…” มารียาพูดตอบไป เพราะเธอกับปรมินทร์กำลังคบกันได้แค่ปีเดียวเอง และเธอกับเขาก็ไม่ค่อยมีเวลาเจอกันเท่าไหร่ ต่างคนก็ต่างทำงาน จะเอาข่าวดีที่ไหนมาล่ะ
“อืม…จะกี่ปีถ้าคนมันใช่จะช้าจะเร็วยังไงมันก็ต้องได้แต่งงานแหละ ดูอย่างพี่สิ คบกับสามีแค่หกเดือนเองพวกพี่ก็แต่งงานกันแล้ว พวกพี่ยังรักกันมาได้เป็นสิบๆปีเลย” ลูกปลาพูดออกไปด้วยรอยยิ้มออกไป
“ที่รัก…ผมอยู่ทางนี้….” เสียงของนพคุณสามีของลูกปลาเอ่ยเรียกภรรยาด้วยน้ำเสียงดีใจ
“สามีพี่มารับแล้ว งั้นพี่ไปก่อนนะมีน ไว้เจอกันที่ทำงานนะ บ้ายบาย” ลูกปลาพูดบอกไปก็ยิ้มให้มารียาไป
อย่างอบอุ่น ก่อนจะรีบเข็นรถเข็นกระเป๋าไปยังรถของสามีที่จอดอยู่มุมด้านหน้านั้นทันที “เฮ้อ….แล้วนี่พี่ปาล์มอยู่ไหนเนี่ย ทำไมยังไม่มาอีกนะ เมื่อวานเราก็บอกแล้วนิว่าเราจะถึงกี่โมง…”มารียาพูดบ่นไปก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาแฟนหนุ่มทันที แต่เขาก็ไม่รับสายของเธอเลย ทำให้เธอนั้นโทรซ้ำๆอยู่หลายรอบทีเดียว
“ทำอะไรของเขาอยู่นะ ทำไมไม่รับสายเลยเนี่ย…ถ้าไม่ว่างก็น่าจะบอกกันหน่อย พี่ปาล์มนะพี่ปาล์ม เจอตัวแล้วต้องบ่นหน่อยแล้ว ” มารียาพูดบ่นออกไปอย่างอดไม่ได้ เพราะปรมินทร์มักจะมีงานรัดตัวแบบนี้เสมอ จากนั้นเธอก็เลือกที่จะเข็นรถออกไปทางแท็กซี่ที่พึ่งส่งผู้โดยสารลงไปก่อนหน้านี้ทันที เพราะโทรไปไม่รับแบบนี้เธอก็ไม่ควรจะรอเขาอยู่ตรงนี้ต่อไป
“พี่คะ ไปคอนโดเทอมินาร์ดหนึ่งเก้าที่สุขุมวิทค่ะพี่” มารียาพูดบอกไปเพราะนั่นเป็นคอนโดที่เธออาศัยอยู่ในเมืองหลวงแห่งนี้ และก็มีมุกดาน้องสาวต่างแม่ของเธออาศัยอยู่ด้วยอีกคนเพราะอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยที่น้องสาวเรียนอยู่
“ได้ครับ เชิญคุณรถเลยครับ เดี๋ยวผมยกกระเป๋าให้เองครับ…” คนขับแท็กซี่บอกไปก็เข้าไปเข็นรถกระเป๋าไปไว้ใกล้ๆท้ายรถ แล้วเขาก็รีบขนกระเป๋าของลูกค้าใส่ท้ายรถทันที ส่วนมารียาก็เปิดประตูรถจะเข้าไปนั่ง แต่ดันมีกระเป๋าสะพายเล็กๆวางอยู่ที่เบาะ
“พี่คะ นี่กระเป๋าของผู้โดยสารที่พึ่งลงไปหรือเปล่าคะ” มารียาเอ่ยถามออกไปแล้วหยิบกระเป๋านั้นขึ้นมาให้พี่คนขับแท็กซี่ดู
“อ่อ ใช่แล้วครับ…ของฝรั่งแขกสองคนนั้นแน่ๆเลย เขาพึ่งลงไปเมื่อกี้เลยครับ นั่นไงครับ ที่ใส่เสื้อสีขาวกับสีดำที่เดินเข้าไปตรงนั้นไงครับ…” หนุ่มแท็กซี่พูดออกไปแล้วหันไปมองหาผู้โดยสารที่พึ่งลงจากรถของเขาไปเมื่อกี้แล้วรีบชี้ให้หญิงสาวดูทันที
“งั้นพี่รอตรงนี้แปปนึงนะคะ เดี๋ยวหนูจะเอากระเป๋านี่ตามไปให้เขาแปปนึง…” มารียาหันไปมองตามแล้วก็เจอเจ้าของกระเป๋าแล้ว เธอจึงรีบเอ่ยบอกไปแล้วรีบวิ่งเข้าไปด้านในอีกครั้ง ก่อนจะถือกระเป๋าสะพายเล็กนี่ตรงไปหาผู้ชายสองคนนั้นอย่างเร่งรีบ
“คุณคะ…คุณคะ โอ๊ย…” มารียาเข้าไปเรียกผู้ชายที่ใส่เสื้อสีขาวแล้วทำท่าจะเอามือแตะที่แขนของเขา แต่เขากลับหันมาแล้วเอามือจับแขนของเธอแล้วบิดอย่างแรงจนเธอเจ็บจนต้องร้องออกมา ก่อนจะมองหน้าของชายตรงหน้าที่ทำร้ายเธออย่างเอาเรื่อง
และแล้วมารียาก็ต้องทำหน้าอึ้งออกมาทันทีเมื่อได้เห็นหน้าหล่อๆที่คมเข้มของเขา จมูกเป็นสัน คิ้วดกดำ หนวดเคราเป็นทรงอย่างสะอาดสะอ้าน นี่ขนาดใส่แว่นตานะเนี่ย ยังโคตรหล่อเลย แถมกลิ่นตัวก็โคตรหอม พวกแขกขาวนี่หน้าตากินขาดจริงๆ มารียาคิดในใจอย่างอดไม่ได้
ด้านเศรษฐีหนุ่มอย่าง “ฮัสลาน ราเชด บรูฮัมนี” ก็หันมามองหญิงสาวที่เข้ามาใกล้ชิดเขาด้วยสายตาจดจ้องผ่านแว่นตาสีดำนี่ แล้วเขาก็มองอย่างพิจารณาว่าเธอจะเข้ามาหาเขาเพราะอะไร แต่แม่ง ผู้หญิงคนนี้โคตรสวยเลย
“โอ๊ย…คุณ…ปล่อยฉันก่อน…ฉันแค่จะเอากระเป๋าของคุณมาให้…คุณลืมไว้ในแท็กซี่ที่คุณลงมาเมื่อกี้…อือ…” มารียาร้องไปแล้วก็พูดภาษาอังกฤษออกไปอย่างชัดเจน ว่าเธอนั้นตั้งใจจะเอากระเป๋ามาคืนเขา ทำให้เขานั้นรีบปล่อยมือของเธออย่างรวดเร็ว
“กระเป๋าของนายจริงๆด้วยครับ…” อาลีลูกน้องคนสนิทของฮัสลานเอ่ยพูดบอกไป เมื่อเห็นเธอถือกระเป๋าของเจ้านายของเขาอยู่จริง
“ผมขอโทษ..ผมไม่ได้จะทำร้ายผู้หญิง ผมคิดว่าคุณจะเข้ามาทำร้ายผม ผมก็เลยป้องกันตัวอัตโนมัติ” ฮัสลานพูดออกไปแบบรู้สึกผิด เพราะเธอถือกระเป๋าของเขาอยู่ในมือจริงๆ
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเองก็ไม่ระวังเหมือนกัน…เอากระเป๋าของคุณไปสิคะ…”มารียาพูดออกไปแล้วเอามือจับที่ข้อมือของตัวเองแบบระคายเคืองแบบปวดๆ เพราะเขาเล่นบีบซะแรงเลย ข้อมืออวบๆของเธอเลยเจ็บแปลบๆเลยทีเดียว
“ขอบคุณครับ…อ่อ เดี๋ยวผมจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้นะครับ…” ฮัสลานพูดบอกไป เพราะเธอยังจับข้อมืออยู่แบบนั้นทำให้เขาคิดว่าเธอน่าจะเจ็บอยู่
“อ่อ ไม่ต้องหรอกค่ะ แค่นี้เองไม่จำเป็นต้องไปหาหมอหรอกค่ะ ฉันขอตัวนะคะ พอดีให้พี่แท็กซี่เขารออยู่ข้างนอกน่ะค่ะ” มารียาพูดตอบไปแบบเขินๆอย่างงงๆ ก่อนจะรีบชิ่งหนีเพราะอยู่ต่อหน้าผู้ชายหล่อๆแบบนี้แล้วใจคอไม่ดีเลย
“ครับ…ขอบคุณมากนะครับ…” ฮัสลานพูดบอกไปก็มองหญิงสาวแล้วยิ้มมุมปากให้อย่างขอบคุณ ก่อนจะมองเธอยิ้มตอบเขามาแล้วก็หันหลังเดินออกไป เขาก็มองตามด้วยรอยยิ้มมุมปาก เพราะไม่คิดว่าจะเจอคนสวยใจดีแบบนี้ด้วย
“สวยแล้วยังใจดีอีกนะครับนาย…เงินในกระเป๋าเป็นตับๆแต่เขากลับวิ่งเอามาคืนให้เรา ” อาลีพูดออกไปแล้วมองด้วยรอยยิ้มที่เธอมีน้ำใจขนาดนี้
ฮัสลานก็มองตามเธอไปแล้วก็ยิ้มมุมปากออกมา ก่อนจะหันมามองลูกน้องของเขาที่มองตามเธอด้วยสายตาหวานเยิ้ม เขาก็มองด้วยสีหน้าหมั่นไส้ทันที
“พรึบ…อ่ะเอาไป ต่อไปก็อย่าสับเพร่าลืมกระเป๋าอีก ไม่มีคนสวยใจดีให้นายบ่อยๆหรอกนะอาลี ป่ะ ไปกันได้แล้ว” ฮัสลานพูดไปก็เอากระเป๋าโยนใส่ลูกน้องของเขา ก่อนจะรีบเดินเข้าไปเชคอินกับพนักงาน เพราะเขาต้องรีบขึ้นเครื่องบินไปคูเวตด่วน เพราะงานที่นั่นกำลังมีปัญหาใหญ่
ด้านมารียาก็รีบกลับไปขึ้นแท็กซี่แล้วเธอก็เดินทางกลับไปที่คอนโดของเธอ แล้วเสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น พร้อมกับภาพของกวินตาลูกสาวของแม่เลี้ยงของเธอ ซึ่งก็มีศักดิ์เป็นน้าของเธอด้วย เพราะพอแม่ของเธอตายพ่อก็เอาน้องเมียมาเป็นเมียเลย
“พี่กวาง…มีนว่าถ้ากลับถึงห้องจะโทรหาพี่กวางพอดีเลยค่ะ…มีอะไรหรือเปล่าคะ” มารียารับสายแล้วเอ่ยพูดทักทายพี่สาวไป
“เปล่า พี่ก็แค่จะโทรมาถามเราว่ากลับถึงกรุงเทพหรือยังเท่านั้นเอง” กวินตาเอ่ยถามออกไปอย่างเป็นห่วงน้องสาว
“ถึงเมื่อกี้เองค่ะ ตอนนี้กำลังอยู่นั่งรถแท็กซี่ไปที่คอนโดอยู่ค่ะ…แล้วทำไมวันนี้พี่กวางตื่นเช้าจังเลยคะเนี่ย ที่ดูไบมันพึ่งจะแปดโมงเองนะคะ” มารียาเอ่ยถามไปเพราะดูไบเวลาจะช้ากว่าไทยสามชั่วโมง
“คุณจาซุสเขาไม่อยู่ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว พอดีธุรกิจน้ำมันที่คูเวตมีปัญหาน่ะ เขากับหุ้นส่วนก็เลยต้องบินไปจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นน่ะ พี่ก็เลยว่างทั้งวันเลย…อ่อ…พี่ลืมไปเลย เมื่อวานพี่จ่ายค่าคอนโดงวดสุดท้ายให้แล้วนะ เดี๋ยวเข้าไปเอาเอกสารที่นิติบุคคลด้วย พี่ให้เขาโอนเป็นชื่อของมีนแล้ว” กวินตาพูดบอกน้องสาวไป เพราะหน้าที่ของเธอคือดูแลจาซุส มหาเศรษฐีหนุ่มที่ซื้อตัวเธอมาเป็นสาวใช้คอยบำเรอให้เขาตามที่เขาต้องการ ซึ่งมันก็ได้เงินมากพอที่จะทำให้เธอส่งเสียให้คนที่บ้านได้แบบสบายๆ แม้กระทั่งคอนโดที่น้องสาวทั้งสองคนอยู่ เธอก็เป็นคนซื้อให้
“ทำไมโอนเป็นชื่อมีนล่ะคะ” มารียาเอ่ยถามออกไปอย่างแปลกใจ ที่กวินตาโอนเป็นชื่อของเธอ
“ก็พี่ซื้อให้มีนไง เอาไปเถอะ เพราะกว่าคุณจาซุสเขาจะเบื่อพี่ พี่ก็คงจะผ่อนบ้านที่ไทยได้อีกสักหลังแล้วล่ะ แล้วก็คงจะมีเงินกลับไปตั้งตัวที่ไทยสักก้อน…” กวินตาพูดออกไปแบบไม่รู้เลยว่าเธอจะถูกเขี่ยทิ้งวันไหน ที่แน่ๆตอนนี้กอบกวยได้เธอก็ต้องรีบ
“แต่นี่ก็ปีกว่าแล้วนะคะที่พี่อยู่กับเขามา บางทีคุณจาซุสเขาอาจจะรักพี่กวางก็ได้นะคะ ไม่งั้นเขาก็คงจะปล่อยพี่ไปนานแล้ว ” มารียาพูดไปความความคิดของเธอ เพราะตอนแรกที่เธอรู้ว่าพี่สาวไปเป็นนางบำเรอของมหาเศรษฐีคนนี้เธอก็ไม่ได้สนับสนุนเลยสักนิด แต่มันเป็นทางที่พี่สาวของเธอเลือกแล้ว เธอก็ต้องเคารพการตัดสินใจของกวินตา
“ต่อให้เขารักพี่ยังไง พี่ก็เป็นได้แค่นางบำเรอของเขาเท่านั้นแหละ พี่เป็นคนต่างชาติต่างศาสนากับเขา ครอบครัวของเขาไม่มีทางยอมรับพี่หรอก ถ้าวันหนึ่งเขาแต่งงานพี่ก็ต้องไป…ตอนนี้อายุของเขามันถึงช่วงที่ต้องแต่งงานแล้ว ไม่นานครอบครัวของเขาก็คงจะหาผู้หญิงมาแต่งงานกับเขาแล้วล่ะ…” กวินตาพูดออกไปด้วยเสียงเศร้า เพราะคนที่นี่ส่วนใหญ่จะแต่งเมียคนแรกเป็นชาวดูไบหรือมุสลิมด้วยกันเอง ส่วนน้อยที่จะแต่งงานกับคนต่างชาติ ยิ่งพวกเศรษฐีแล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะส่วนใหญ่ก็แต่งงานเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจของครอบครัวทั้งนั้น
“อย่าเข้าดราม่าแบบนี้สิคะพี่กวาง เรื่องมันยังไม่เกิดขึ้นอย่างพึ่งคิดไปไกลสิคะ” มารียาพูดบอกไปเพื่อให้พี่สาวสบายใจ
“พี่ก็แค่เผื่อใจไปก็เท่านั้นเอง…เวลาเจอสถานะการณ์นั้นจริงๆจะได้ทำใจได้ไง…พี่ไม่โชคดีแบบเราหรอก ที่มีแฟนเป็นถึงผู้บริหารสุดหล่อน่ะ” กวินตาพูดไปก็แอบแซวน้องสาวไปเพื่อไม่ให้ตัวเองเศร้าใจไปมากกว่านี้
“เฮ้อ…อย่าพูดถึงพี่ปาล์มเลยค่ะ เมื่อวานบอกว่าจะมารับมีน วันนี้กลับหายเงียบไปเลย ไม่รู้ว่าติดงานหรือว่าไปติดสาวที่ไหนกันแน่…สองเดือนมานี้ยิ่งคุยกันน้อยๆอยู่ด้วย จะคบกันรอดหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลยค่ะพี่กวาง” มารียาพูดบ่นไปอย่างอดไม่ได้ เพราะเธอเองก็ยุ่ง เขาเองก็ยุ่ง จะโทษใครก็ไม่ได้
“เอาน่า คบกันมาจะหนึ่งปีแล้วก็ต้องรอดแล้วล่ะ รักเขาแล้วก็อดทนหน่อยสิเราน่ะ” กวินตาพูดบอกไปแบบให้กำลังใจน้องสาว
“ก็คงต้องเป็นอย่างนั้นแล้วล่ะค่ะ วันนี้คบรอบหนึ่งปีที่คบกันแล้วด้วย…ถ้าพี่ปาล์มลืมล่ะก็ เป็นเรื่องแน่ค่ะ” มารียาพูดบอกพี่สาวไป จากนั้นเธอก็พูดเม้าท์กับพี่สาวไประหว่างที่เดินทางไปที่คอนโดของเธอ
ณ คอนโดของมารียา
ภายในห้องก็ถูกจัดด้วยช่อกุหลาบสีขาวสลับกับสีแดงสดและที่พื้นก็มีกลีบกุหลาบสีขาวโรยไว้อย่างสวยงาม ก่อนจะมีกล่องสีขาวใหญ่ๆตั้งอยู่ที่กลางห้องพร้อมกับมีลูกโป่งลอยละล่องอยู่ที่เพดานแล้วมีริบบิ้นห้อยลงมาเป็นเส้นสายอย่างสวยงาม
“พี่ปาล์มทำเซอร์ไพร์สให้พี่มีนขนาดนี้ ไม่คิดว่ามุกจะน้อยใจบ้างเหรอคะ” มุกดาเอ่ยถามออกไปแล้วค่อยๆเข้าไปหาปรมินทร์ที่จัดเตรียมห้องไว้เซอร์ไพร์สมารียากลับมาซะจนเธออดอิจฉาไม่ได้เลย
“เราตกลงกันแล้วไม่ใช่เหรอมุก…เอามือออกไป…เดี๋ยวพี่ต้องไปรับมีนเขาที่สนามบิน” ปรมินทร์พูดบอกไปด้วยเสียงเข้มก็เอามือของเขาไปจับมือของมุกดาออกไปด้วยสีหน้านิ่งๆ
“จะรีบไปรับทำไมล่ะคะ กว่าพี่มีนจะมาถึงก็อีกตั้งชั่วโมงสองชั่วโมงนู้นล่ะมั้งคะ มุกว่าพี่ปาล์มมาเอาใจมุกก่อนดีกว่านะคะ ไม่อย่างนั้นมุกก็ไม่รับประกันว่ามุกจะเผลอพูดเรื่องของเราสองคนตอนไหน” มุกดาพูดออกไปแล้วก็ยิ้มมุมปากใส่ปรมินทร์ไปอย่างเจ้าเล่ห์
“เลิกขู่พี่สักทีเถอะมุก เรื่องของเราสองคนมันเกิดขึ้นก็เพราะความเมา ความเข้าใจผิดทั้งนั้น พี่ไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้น” ปรมินทร์พูดบอกไปด้วยสีหน้าจริงจัง เพราะถ้าคืนนั้นเขาไม่เมาและมาที่นี่ เขาก็คงไม่เผลอตัวไปหลับนอนกับมุกดา จนกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแบบนี้หรอก
“แต่มันก็เกิดขึ้นไปแล้ว แล้วหลังจากคืนนั้นพี่ปาล์มก็มานอนกับมุกตลอดเลยนิคะ ทำไมคะ แค่พี่มีนจะกลับมาแค่นี้ พี่ปาล์มคิดจะกลับตัวกลับใจเป็นคนดีแล้วเหรอคะ พี่มีนเขาจะรู้ทำหน้ายังไงนะคะ ถ้าเขารู้ว่าแฟนตัวเองมาเอากับน้องสาวแบบนี้…” มุกดาพูดออกไปก็ค่อยๆเอามือแกะดุมเสื้อชุดนักศึกษาของตัวเองออกช้าๆทีละเม็ดๆ พร้อมกับส่งสายตามองปรมินทร์แบบยั่วยวน
ปรมินทร์ก็มองมุกดาแกะดุมจนเผยเห็นหน้าอกตูมๆของเธอ เขาก็เงยหน้าขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงตัณหาของตัวเอง เพราะเขายอมรับเลยว่ามุกดาเป็นเด็กที่ลีลาเด็ดมาก มากจนเขาเผลอตัวหลงใหลไปกับการยั่วยวนของเด็กสาวอย่างทนไม่ไหว“หยุดได้แล้วมุก…เราสองคนทำผิดกับมีนเขามากพอแล้วนะ เรื่องระหว่างเรามันควรจะจบกันเพียงเท่านี้…” ปรมินทร์พูดขอร้องออกไปอย่างอดไม่ได้ เพราะเขาพยายามจะหยุดแล้ว แต่มุกดาก็ยังดึงดันจนมันเลยเถิดมานานขนาดนี้“แต่มุกไม่อยากจบนิคะ มุกอยากจะแอบเอากับพี่ปาล์มแบบนี้ไปเรื่อยๆโดยที่ไม่ให้พี่มีนเขาไม่รู้ มุกสัญญานะคะว่ามุกจะอยู่ในที่ของมุกเท่านั้น ขอแค่พี่ปาล์มตามใจมุกก็พอ…อย่างเช่นตอนนี้ มุกอยากจะให้พี่ปาล์มเอากับมุก ก่อนที่จะไปรับพี่มีน….” มุกดาพูดไปก็เอามือแกะกระดุมเสื้อชุดนักศึกษาจนหมด แล้วเธอก็แบะเสื้อออกให้ปรมินทร์ได้เห็นหน้าอกของเธออย่างชัดเจน ก่อนจะเอามือของเธอไปจับมือของเขามาวางไว้ที่หน้าอกของเธอ“พี่ขอร้องนะ หยุดเถอะ…พี่ไม่อยากจะเสียมีนเขาไปเพราะเรื่องนี้….มุก…หยุดได้แล้ว….พี่ไม่มีอารมณ์มาเอากับมุกตอนนี้หรอกนะ…” ปรมินทร์พูดบอกไปแล้วถอนมือออกมาจากหน้าอกของเธออย่างห้ามใจตัวเอง เพราะไม่อย่างนั้
“ส่วนแกอีน้องชั่ว…แกทำเรื่องน่าอายขนาดนี้แล้วยังไม่คิดจะสำนึกเลยหรือไง…แกควรจะละอายใจบ้างนะที่แกน่ะแอบมามีอะไรกับแฟนพี่สาวตัวเองน่ะมุก…หรือว่าแกมันหน้าด้านจนไม่รู้สึกอะไรแล้ว…” มารียาถามออกไปด้วยสีหน้าผิดหวัง เมื่อน้องสาวของเธอพูดออกมาอย่างนั้น จนเธอถามกลับออกไปด้วยใจที่เจ็บปวดที่น้องสาวของตัวเองทำกับเธออย่างนี้“พี่มีนอย่ามาด่ามุกแบบนี้นะคะ” มุกดาได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับสะอึกทันที ก่อนจะเอ่ยตอบไปแบบเสียงดังที่ถูกพี่สาวต่อว่ามา“ทำไมฉันจะด่าแกไม่ได้ห้ะ ในเมื่อแกเป็นน้องสาวของฉัน และแกก็กำลังทำในสิ่งที่ผิดจนไม่น่าให้อภัยได้แบบนี้…ฉันรู้ว่าแกไม่ชอบฉันมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว แต่ฉันก็ไม่คิดว่าแกจะกล้าทำกับฉันแบบนี้เลย…” มารียาพูดออกไปเพราะมุกดานั้นไม่ถูกกับเธอมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว ซึ่งก็ไม่ได้สนใจเพราะยังไงมุกดาก็คือน้องสาวของเธอ แต่เธอคิดว่าสำหรับมุกดาคงไม่ได้คิดว่าเธอเป็นพี่ของมันหรอก ไม่งั้นมันคงไม่ทำเรื่องเลวๆแบบนี้กับเธอได้ลงคอ“มันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องที่มุกจะชอบไม่ชอบพี่มีนนิคะ เพราะเรื่องระหว่างมุกกับพี่ปาล์มมันก็เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความต้องการของเราสองคนที่อยากจะมีความสุขด้วยกันเท่านั้น ใ
สองชั่วโมงต่อมาเพ็ญพักตร์ก็มาถึงคอนโดของลูกสาวคนโตที่ซื้อไว้ให้น้องๆได้อาศัยอยู่ในกรุงเทพแบบสบายๆ และเธอนั้นก็หนักใจมากกับสิ่งที่ลูกสาวคนเล็กทำกับมารียาน่ะ มันเกินที่เธอจะรับได้จริงๆ“ไหน…ยัยมุก แกอยู่ไหน ออกมาคุยกับแม่เดี๋ยวนี้นะ แกมันชอบทำแต่เรื่องงามหน้าจริงๆ…ยัยมุก…แกยังมีหน้ามานอนหลับสบายใจอีกเหรอห้ะ…ตื่นขึ้นมาเดี๋ยวนี้…ยัยมุก…” เพ็ญพักตร์เดินเข้ามานห้องแล้วร้องเรียกลูกสาวไป ก่อนจะเดินเข้าไปทางห้องนอนของลูกสาวคนเล็ก พร้อมกับเข้าไปเรีบกมุกดาให้ตื่นขึ้นมาทันที“อื้อ…แม่…อะไรของแม่เนี่ย เข้ามาแล้วก็เอะอะโวยวายทำไมเนี่ย…อย่าบอกนะว่าพี่มีนมันโทรไปฟ้องแม่แล้วน่ะ” มุกดาลุกขึ้นมานั่งด้วยสีหน้าบึ้งตึง ก่อนจะเอ่ยพูดออกไปเมื่อเห็นท่าทีของแม่ของเธอแล้ว เธอก็เดาได้เลยว่าพี่สาวตัวดีของเธอต้องรีบแจ้นไปฟ้องแม่แน่ๆ ไม่งั้นแม่ของเธอคงไม่ท่อเอาตัวเองมาจากนนทบุรีหรอก“ยัยมุก…แกนี่มันไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับสิ่งที่ตัวเองทำเลยใช่ไหมว่ามันผิดน่ะ…แกนอนกับแฟนพี่สาวของตัวเองได้ยังไงห้ะ แกทำลงไปได้ยังไง…” เพ็ญพักตร์พูดออกไปก็เอามือจิ้มที่หัวของลูกสาวอย่างเหลืออด“ก็คงจะเชื้อแรงแบบแม่มั้งคะ เพราะแม่เองก็นอนกั
ณ ประเทศไทย สนามบินสุวรรณภูมิพอมารียารู้ว่าน้องสาวของเธอนั้นท้องกับปรมินทร์แล้วเธอก็ตัดสินใจที่จะไปอยู่ดูไบกับกวินตาลูกพี่ลูกน้องอีกคนของเธอ ซึ่งก็เป็นลูกของเพ็ญพักตร์น้าแท้ๆของเธอนั่นแหละ แต่กวินตานั้นรักและจริงใจกับเธอมากกว่ามุกดาที่เป็นน้องล่ะแม่ของเธอซะอีก“มีน หนูแน่ใจนะว่าจะไปอยู่กับยัยกวางที่ดูไบจริงๆน่ะ…” เพ็ญพักตร์เอ่ยถามหลานสาวออกไปด้วยสีหน้าเศร้าๆ เพราะถ้าลูกสาวตัวดีของเธอไม่ทำเรื่องไร้ยางอายแบบนั้น มารียาก็คงไม่ตัดสินใจไปดูไบกะทันหันแบบนี้“ค่ะน้าเพ็ญ…มีนไม่อยากจะอยู่ที่นี่แล้ว…มีนอยากจะไปเปิดหูเปิดตาทำงานในที่ใหม่ๆบ้าง เพราะมีนก็คงทนอยู่ที่นี่ไม่ได้ถ้าต้องเจอสองคนนั้น…” มารียาพูดออกไป เพราะถ้าเธออยู่เธอก็จะได้เห็นปรมินทร์และมุกดาวนเวียนอยู่รอบๆตัวเธอ และมันก็คงทำให้เธอทำใจไม่ได้ง่ายๆ เธอจึงเอาตัวเองหลีกหนีสองคนนี้ไปอยู่ที่ที่สบายใจจะดีซะกว่า“น้าขอโทษนะมีน น้าเลี้ยงลูกไม่ดีเองมันถึงได้ไม่รักดีแบบนี้…ถ้าหนูตัดสินใจแล้วน้าก็จะไม่ห้าม ตามใจเราก็แล้วกันว่าจะอยู่ที่ไหน..” เพ็ญพักตร์ลูบผมของมารียาอย่างเอ็นดู เพราะมารียาน่ะน่าสงสารมาก แม่ก็ตายตั้งแต่เธอเกิด ส่วนพ่อก็พึ่งจะเสียไ
เจ็ดชั่วโมงต่อมา…กวินตาก็ไปรับมารียาที่สนามบินแล้วเธอก็พาน้องสาวมาเดินทางมายังคฤหาสน์ของจาซุสที่เธออาศัยอยู่ตอนนี้ทันที ซึ่งมันใหญ่โตจนมารียานั้นมองด้วยความตื่นตาตื่นใจเลยทีเดียว“เข้าบ้านกันเถอะ พี่ให้แม่บ้านเตรียมห้องพักให้มีนแล้วแล้ว…ป่ะ…” กวินตาพูดบอกไปด้วยเสียงอ่อนโยนกับน้องสาวของเธอ“พี่กวางคะ ทำไมบ้านคุณจาซุสเขาใหญ่แบบนี้ล่ะคะ ไหนพี่บอกว่าเขาเป็นแค่นักธุรกิจธรรมดาไงคะ อยู่คฤหาสน์ในดูไบนี่คงไม่ใช่นักธุรกิจธรรมดาแล้วมั้งคะพี่…” มารียาถามไปเพราะพี่สาวเธอเคยบอกว่าจาซุสนั้นเป็นแค่นักธุรกิจธรรมดาๆเท่านั้น“อ่อ เขาก็พอมีในระดับนึงนั่นแหละ แต่ว่าที่นี่ยังมีคนที่รวยแล้วก็ยิ่งใหญ่กว่าเขาอีกเยอะ เพราะฉะนั้นที่นี่เขาก็เป็นแค่นักธุรกิจธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้นแหละ เดี๋ยวไว้เราอยู่ที่นี่ไปอีกสักพักเดี๋ยวเราก็รู้เองแหละน่า” กวินตาพูดบอกไป เพราะยังมีคนที่รวยกว่าจาซุสอีกเยอะ แค่น้องสาวของเธอยังไม่ได้ไปเปิดหูเปิดตาเท่านั้น“แล้วพี่กวางพามีนมาอยู่ด้วยแบบนี้คุณจาซุสเขาไม่ว่าเหรอคะพี่..” กวินตาเอ่ยถามออกไปอย่างเกรงใจ เพราะอยู่ๆเธอก็มาอาศัยอยู่กับพี่สาวกะทันหัน เธอก็ไม่รู้ว่าผู้ชายของพี่สาวนั้นจะโอเคหร
ด้านมารียาที่มาอยู่ที่ดูไบได้หลายวันแล้วเธอก็เริ่มจะเข้าใจวัฒนธรรมของที่นี่แล้ว ซึ่งถือว่าเป็นประเทศมุสลิมที่ค่อนข้างเปิดกว้างเลยทีเดียว เธอล่ะไม่แปลกใจเลยว่าทำไมดูไบถึงเป็นเมืองที่เจริญแบบนี้ หลังจากที่เธอนั้นไปตระเวนเที่ยวกับพี่สาวของเธอมา“กลับมากันแล้วเหรอ ผมอยากจะเจอพวกคุณสองคนอยู่พอดีเลย…พรุ่งนี้เพื่อนผมจัดงานแข่งรถที่ทะเลทราย คุณสองคนอยากจะไปด้วยไหม” จาซุสเอ่ยถามออกไป เพราะไม่รู้ว่าสองสาวจะสนใจหรือเปล่า“ไปสิคะ ฉันอยากจะไปเห็นทะเลทรายแบบกว้างๆใหญ่ๆค่ะ” มารียารีบตอบไปแบบดีใจด้วยสายตาลุกวาว จนจาซุสนั้นอมย้ำขำๆ เพราะมันเหมือนกับตอนที่เขาชวนกวินตาไปเที่ยวทะเลทรายยครั้งแรกเลย เธอก็ดีใจแบบนี้แหละ แต่พอจบทริปนั้นเขาชวนเธอทีไรเธอก็ปฏิเสธเขาทุกทีเพราะอากาศมันค่อนข้างจะร้อนมากเลยทีเดียว“แต่มันร้อนมากเลยนะมีน…มันไม่ได้ไปแบบสบายๆอย่างที่เราคิดเลยนะ พี่ว่าเราไม่ไปดีกว่ามั้ง” กวินตาพูดออกไปด้วยสีหน้าที่ขยาดเต็มที เมื่อได้ยินคำว่าทะเลทราย“ไปเถอะค่ะพี่กวาง มีนมาดูไบทั้งทีก็ต้องไปให้ถึงทะเลทรายสิคะ น่านะ แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเองค่ะ อดทนเพื่อน้องหน่อยนะคะ นะคะพี่สาวคนสวย…”มารียาพูดอ้อนๆอย่างขอ
ส่วนฮัสลานเองก็มองหญิงสาวตรงหน้าด้วยสายตาจดจ้อง เพราะเขาจำได้เลยว่าเธอคือผู้หญิงไทยคนนั้นที่เอากระเป๋ามาให้เขาที่สนามบินตอนนั้น เขาไม่คิดเลยว่าจะมาเจอเธอที่นี่อีก ยิ่งในกระโจมส่วนตัวของราชิดแล้วเขาก็ยิ่งแปลกใจ“ขอโทษค่ะ ฉันไม่ทันระวังเอง…” มารียาพูดภาษาอังกฤษบอกไปแล้วก้มหน้าลงทันที เพราะการแต่งตัวของชายคนนี้บ่งบอกเลยว่าเขานั้นไม่ใช่คนธรรมดา แต่ให้ตายเถอะ ทำไมผู้ชายประเทศหน้าคมเข้มหล่อกันขนาดนี้เนี่ย…ฮัสลานก็มองหน้าสวยๆของเธอแล้วเขาก็ตัดใจทำหน้านิ่งๆแล้วเดินผ่านเธอไปแบบไม่พูดตอบอะไร ก่อนจะเข้าไปหาเพื่อนๆของเขาที่นั่งอยู่เนื่องจากตอนนี้ทุกคนกำลังมองเขากันอยู่ เขาไม่สามารถแสดงท่าทีสนใจอะไรเธออย่างออกนอกหน้าได้ เพราะมันจะไม่ใช่ผลดีกับผู้หญิงคนนี้เองมารียาก็มองตามแบบหมั่นไส้ขึ้นมาทันทีเลย เพราะเธออุตส่าห์ขอโทษเขาแล้ว จะพูดตอบมาสักหน่อยมันจะตายหรือไง มารียาคิดไปก็ทำหน้ามึนตึงแล้วเดินออกไปจากกระโจมนี้ทันที“ยัยมีน รอพี่ด้วย” กวินตาเรียกน้องสาวแล้วก็รีบตามออกไปทันทีด้านฮัสลานก็เดินเข้าไปหาเพื่อนสนิทของเขาทั้งสองด้วยสีหน้าคมเข้ม จนราชิดและจาซุสนั้นมองแล้วก็ยิ้มพร้อมกับลุกขึ้นมาทักทายเพื่อนห
พอออกมาด้านนอกแล้วฮัสลานก็มองหาผู้หญิงคนนั้นทันที แต่ด้วยความที่คนเยอะทำให้เขานั้นต้องใช้สายตาสอดส่องหาเธออยู่นานทีเดียว ก่อนจะเห็นเธอไปยืนถ่ายรูปอยู่อูฐอย่างเพลิดเพลิน ทำให้เขามองแล้วก็ยิ้มกับความน่ารักของเธอ“อยากจะขี่ไหมคุณ” ฮัสลานเดินเข้าไปยืนด้านหลังเธอแล้วเอ่ยพูดออกไปแบบนิ่งๆ ทำให้มารียาหันมามองทันทีเมื่อได้ยินเสียงแปลกๆด้านหลัง“คุณ…อ่อ ไม่เป็นไรค่ะ ฉันแค่จะถ่ายรูปเฉยๆ ไม่ได้อยากจะขี่มันหรอกค่ะ ขอบคุณนะคะ” มารียาพูดบอกไปแล้วมองเขาแบบนิ่งๆ เพราะก่อนหน้านี้เธอพูดด้วยแล้วยังทำหยิ่งใส่เธออยู่เลย ทำไมอยู่ๆถึงเข้ามาคุยกับเธอได้“ผมฮัสลาน เป็นเพื่อนของจาซุส” ฮัสลานเห็นเธอตอบมาแบบนั้นก็แนะนำตัวเขาไปทันที เผื่อเธอจะเคยได้ยินชื่อของเขามาบ้าง“ค่ะ…ฉันมารียาค่ะ เรียกง่ายๆว่ามีนก็ได้ค่ะ…ถ้าคุณไม่มีอะไรแล้ว งั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ” มารียาพูดตอบไปก็จะเดินเลี่ยงออกไป เพราะเธอไม่อยากจะพูดคุยอะไรกับเขาเลย ถึงเขาจะหล่อปานไหนก็เถอะ แต่เมื่อกี้ใครบอกให้เขาหยิ่งไม่ตอบเธอเองล่ะ มาตอนนี้เธอไม่ได้อยากจะเสวนาด้วยแล้ว“เดี๋ยวสิ ผมมาขอบคุณคุณที่ช่วยเอากระเป๋ามาคืนตอนที่เราเจอกันที่สนามบินด้วย” ฮัสลานพูดบอกไป
“หึๆ ไม่ไหวก็ต้องไหว เพราะคุณเป็นผู้หญิงของผมแล้ว คุณจะต้องได้ลองใช้สินค้าของผมทุกชิ้น ดูสิ ตอนนี้ผมเข้าออกในหอยของคุณได้ดีกว่าเมื่อกี้แล้วนะ อ่าส์….คุณยังแสบอยู่ไหมล่ะ…” ฮัสลานพูดบอกไปแล้วยิ้มมุมปากอย่างหื่นๆ ก่อนจะเอ่ยถามเธอว่ายังแสบอยู่ไหม เพราะเขารู้สึกว่าเขาเข้าออกในร่องสาวของเธอได้ดีขึ้นแล้ว คงเพราะเริ่มมีน้ำเมือกไหลลื่นออกมามากขึ้น“อ้ะ…นิดหน่อยค่ะ แต่มันเสียวมากกว่าเจ็บแล้วตอนนี้…คุณช่วยเอาลิ้นปลอมนี่ออกไปก่อนได้ไหม ฉันไม่ไหวแล้วจริงๆ อ้ะ อ้ะ อ้ะ…” มารียาพูดบอกไปก็ยกสะโพกขึ้นเพื่อจะหนีลิ้นปลอมนั่นและหนีท่อนเอ็นของเขาที่ยังคงกระแทกตอกเข้ามาติดต่อกันไม่หยุด“จะหนีไปไหนหึ ผมกำลังสอนคุณอยู่ เพราะฉะนั้นถ้าน้ำไม่แตกผมก็ไม่หยุด อ่าส์…ในเมื่ออันนี้มันใช้ได้งั้นก็ลองอันอื่นต่อเลยก็แล้วเลย” ฮัสลานพูดบอกไปก็เอาลิ้นนั่นออกไปแล้วเขาก็เอื้อมมือไปหยิบปลายโลมาน้อยมา แล้วเขาก็ยัดหัวโลมาเข้าไปในร่องสาวของเธอขณะที่เขานั้นยังใส่ท่อนเอ็นในร่องสาวของเธออยู่ เขาก็กดหางโลมาน้อยกับติ่งเสียวของเธอทันทีแล้วมันก็สั่นหางใส่ติ่งเสียวของเธอแบบน่ารักเลยทีเดียว“อ้ะ…อ้ะ…ฉันไม่ไหวแล้ว อ้ะ อ้ะ…คุณฮัสลาน…ทำไมคุณ
“โอ๊ย….ซี๊ด….อ้ะ….เข้ามาอีกค่ะ…เข้ามาให้สุดเลย อ้ะ….ซี๊ด....” มารียาได้แต่ร้องครางออกมาพร้อมกับสีหน้าเจ็บๆเมื่อเขาสอดใส่แท่งใหญ่ๆของเขาเข้ามาในร่องสาวของเธอ แต่ในความเจ็บนี้เธอกลับรู้สึกว่าร่างกายของเธอถูกเติมเต็มแล้วและมันก็รู้สึกดีมากเลย“ผมก็อยากจะเสียบให้สุดไปเลย แต่หอยของคุณมันเล็กเกินไป อ่าส์….แล้วมันก็โคตรเสียวเลยตอนนี้….ทนหน่อยนะ โอว์….ซี๊ด…” ฮัสลานพูดบอกไปก็ถอนท่อนเอ็นออกมาแต่ไม่ถอนมาทั้งหมด เขาก็สอดใส่เข้าไปอีกรอบและอีกรอบเพื่อทำลายปราการณ์ด่านสุดท้ายของเธอให้สิ้น“อ้ะ….ไม่…ไม่ต้องกลัวฉันเจ็บ…ฉันรับไหวค่ะ…ใส่เข้ามาให้สุดเลย…ฉันไม่อยากจะทรมานแบบนี้แล้ว…ได้โปรดเติมเต็มให้ฉันมากกว่านี้นะคะ…โอ๊ย!...ซี๊ด….” มารียาพูดบอกไปอย่างต้องการเขามากกว่านี้ เพราะเธอรู้สึกว่าเขาเข้ามาได้เพียงแค่ครึ่งๆเท่านั้น เธอจึงร้องขอเขาและตอนนี้มันก็เข้ามาจนสุดร่องแบบสมใจจนเธอนั้นบีบแขนของเขาอย่างเจ็บแปล๊บที่ร่องสาวของตัวเอง เพราะมันเหมือนจะฉีกเลย“ทีนี้สุดพอไหมหึ….อ่าส์….สุดแบบนี้มันโคตรฟินเลยคุณ….หอยของคุณมันตอดโคตรแน่นเลย ผมจะตายอยู่แล้ว อื้อ…” ฮัสลานพูดบอกไปขณะที่กัดฟันอย่างเสียวซ่านกับการที่เขาถูกร
มารียาก็มองเขาทำแบบนั้นแล้วกลืนน้ำลายลงคอพร้อมกับขมิบที่ร่องสาวของเธอแบบเสียวๆอย่างบอกไม่ถูก จนเธอนั้นเริ่มรู้ตัวเลยว่าตรงนั้นของเธอมันเริ่มจะแฉะแล้วเพียงแค่การที่เธอมองเขาแบบนี้ ดูสิ เขาลูบไล้นิ้วมือไปมายังไม่พอ เขายังจะมาถูครีมล่อลื่นลงไปอีก แล้วเขาก็ถูไปมาจนเธอเสียวแทนเลย ให้ตายเถอะ ทำไมวันนี้เธอถึงได้มีความหื่นๆแบบนี้เนี่ย“ขอลองหน่อยเถอะว่ามันจะดีหรือเปล่า….อ่าส์….ซี๊ด…” ฮัสลานพูดบอกไปก็เอาจิ๋มกระป๋องเลื่อนลงไปใต้โต๊ะ แล้วเขาก็เอาท่อนเอ็นของเขาสอดใส่เข้าไปในจิ๋มกระป๋องนั้นแล้วก็ชักมือเบาๆอย่างเสียวซ่านกับการถูกตอดแน่น ก่อนจะมองไปที่มารียาแบบจดจ้องจนเขานั้นได้สบตากับเธอที่มองมาที่เขา เขาก็ทำหน้ากัดริมฝีปากยั่วเธอไปแบบเสียวๆ“คุณเสียวขนาดนั้นเลยเหรอคะ…” มารียาก็มองอย่างตื่นเต้นกับภาพตรงหน้า จนเธอรู้สึกร้อนยิ่งกว่าเดิมเสียอีก เธอจึงถามเขาออกไปอย่างอดไม่ได้ว่ามันฟินขนาดนั้นเลยเหรอ เขาถึงได้ทำหน้าทำตายจะเป็นจะตายแบบนั้นน่ะ กับอีกแค่เอานั่นยัดไปเองนะ“อืม…เสียวมากเลยคุณจิ๋มกระป๋องนี่มันดูดดีพอๆกับของจริงเลย…อ่าส์….คุณรูดดิลโด้ไปสิ จะมามัวถามอะไรผมหึ ทำงานของตัวเองได้แล้วจะได้เสร็จไวๆ”
ฮัสลานก็หยิบของออกมาด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์ เพราะเขาจะทำให้คนใสซื่ออย่างเธอนั้นรู้อย่างแจ่มแจ้งเลยว่าของพวกนี้มันใช้งานยังไง…เขาได้แต่ภาวนาของให้ไก่ตุ๋นของแม่เขานั้นช่วยกระตุ้นด้านมืดของเธอออกมา ทีนี้แหละ เธอเสร็จเขาแน่ ฮัสลานคิดในใจไปอย่างชอบใจ ก่อนจะแอบแลสายตาไปมมารียาแล้วเขาก็เห็นเธอมองต่ำลงมาเขาก็ก้มมองตามแล้วก็เงยหน้ามองเธออีกครั้ง“นี่คุณมองอะไรงั้นเหรอ คงไม่ได้เปรียบเทียบไอ้แท่งนี่กับน้องชายของผมหรอกนะ” ฮัสลานแกล้งพูดหยอกเย้าใส่เธอไปแบบอ่อยๆ“อ่อ เปล่านะคะ ฉัน..ฉัน…ฉันแค่เขินที่จะมองของพวกนี้น่ะค่ะ..กเลยลดสายตามองไปทางอื่น ฉันไม่ได้คิดอะไรแบบที่คุณพูดเลยนะคะ ไม่ได้คิดจริงๆค่ะ” มารียาพูดบอกไปแล้วก็ทำมือปฎิเสธไปแบบรนๆ เธอรู้สึกอายชะมัดเลยตอนนี้ให้ตายเถอะ“หึ…โอเคถ้าคุณไม่ได้คิดอะไรก็หยุดมองต่ำลงไปตรงนั้นได้แล้ว…แล้วก็ไม่ต้องอายเพราะนี่น่ะมันเป็นเรื่องธรรมชาติที่ทุกคนจะต้องได้ลิ้มลอง คุณอายุขนาดนี้แล้วไม่เคยใช้ของพวกนี้จริงๆงั้นเหรอ…” ฮัสลานพูดบอกไปก็ยักคิ้วใส่เธอไปด้วยรอยยิ้มหล่อๆ“ค่ะ…ฉันถึงได้อายแบบนี้ไงคะ แต่ทำไมคุณถึงได้ทำบริษัทเกี่ยวกับของพวกนี้ล่ะคะ” มารียาถามออกไปอย่างอดไม่ได้
สามสิบนาทีผ่านไปมารียาก็เตรียมทุกอย่างเสร็จสรรพเรียบร้อยแล้ว แล้วเธอก็มองอาหารที่วางบนฌต๊ะอย่างชอบใจ เพราะมันมีแต่ของอร่อยๆทั้งนั้นเลย โดยเฉพาะซุปไก่ของแม่ฮัสลานที่เขาบอกเธออุ่นนั้น เธอลองชิมแล้วมันอร่อยมากๆเลย“หืม…หอมจริงๆเลย…” มารียาพูดออกไปแล้วก็ยิ้มออกมา แล้วก็เดินไปแก้วมาวางไว้แล้วเธอก็เทน้ำเปล่าเตรียมไว้ให้กับฮัสลานและตัวเองที่ต้องมานั่งทานอาหารเช้าเป็นเพื่อนเขา ตามที่เขาสั่งไว้ตั้งแต่เธอมาแรกๆแล้ว"หอมขนาดนี้งั้นก็มาทานอาหารกันเถอะ…ผมเองก็หิวแล้วเหมือนกัน อยากจะกิน…แทบแย่แล้ว” ฮัสลานพูดบอกไปแล้วก็เว้นประโยคพูดแล้วใช้สายตามองเธอแบบจดจ้องด้วยรอยยิ้ม เพราะนอกจากข้าวตรงหน้าเขาก็หิวเธอนี่แหละ“งั้นเชิญนั่งเลยค่ะ วันนี้มีแต่ของอร่อยๆทั้งนั้นเลย” มารียาพูดไปก็เดินไปนั่งที่ประจำของเธอ ส่วนฮัสลานก็เข้าไปนั่งที่ของเขาเช่นกัน แล้วเขาก็มองไปที่ซุปไก่ตุ๋นของแม่เขา แล้วเขาก็เงยหน้าขึ้นมามองเธอแล้วก็ยิ้มให้อย่างอบอุ่น“คุณเองก็ทานให้เยอะ วันนี้คุณต้องทำงานหนักเป็นพิเศษ” ฮัสลานพูดบอกไปก็ตักอาหารมาใส่จานของขาแล้วก็ทานแบบปกติ แล้วเขาก็แลมองดูว่าเมื่อไหร่มารียาจะตักซุปไก่ตุ๋นทานแบบลุ้นๆ“ค่ะ…งั
เช้าวันต่อมา…มารียาก็ทำงานที่เพ้นท์เฮ้าท์ของฮัสลานตามปกติหลังจากที่เธอนั้นมาติดต่อกันมาหลายอาทิตย์แล้ว และเธอก็ยังคงซื้ออาหารมาเตรียมให้กับฮัสลานเช่นเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือการที่เธอต้องมาเจอหน้าเขานี่แหละ เพราะตั้งแต่เขาจูบเธอเมื่อวานเธอก็ไม่กล้ามาสู้หน้าเขาเลย แล้ววันนี้เธอยังซวยที่ต้องมาทำงานกับเขาสองต่อสองอีก เธอก็ยิ่งเกร็งเนื่องจากไม่รู้จะทำตัวยังไง“กู๊ดมอนิ่ง….มาเช้าเหมือนเดิมเลยนะคุณ…” ฮัสลานเดินออกมาจากห้องออกกำลังพร้อมกับใส่กางเกงขายาวสีเทาเพียงตัวเดียวแล้วเอ่ยพูดออกไป“มอนิ่งค่ะคุณฮัสลาน….ฉันนึกว่าคุณยังไม่ตื่นน่ะค่ะ ฉันก็เลยใช้รหัสที่คุณบอกเข้ามาเลย ก่ะว่าเตรียมอาหารแล้วจะเข้าไปปลุกคุณน่ะค่ะ ไม่คิดว่าคุณจะตื่นมาออกกำลังกายเช้าๆแบบนี้…” มารียาหันมาพูดตอบไปแล้วก็กลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเคือง เพราะหุ่นล่ำๆที่มีซิคแพคแน่นๆของเขานั้นมันช่างหน้ามองเหลือเกิน“ผมอยากได้เหงื่อตอนเช้าน่ะ ก็เลยออกกำลังกายสักหน่อย แต่ก็ได้หุ่นแน่นๆพวกนี้แถมมาด้วยก็ถือว่าคุ้มนะ คุณว่าไหม” ฮัสลานพูดบอกไปก็ยิ้มหล่อๆใส่เธอไป ก่อนจะเอามือมาลูบไล้ที่หน้าท้องแกร่งแบบยั่วน้ำลายเธอมารียาก็มองแบบเกร็งๆอย่างเ
หนึ่งชั่วโมงต่อมา….จาซุสก็ขับรถมาโผล่ที่ร้านนวดที่กวินตาเคยทำงานเมื่อสองปีก่อนอย่างอดไม่ได้ เขาก็เห็นเธอเดินมาพูดคุยกับลูกค้าที่เขาไปในร้านก่อนจะให้พวกสาวๆที่นวดนั้นพาลูกค้าชายหญิงไปนวด เขาก็มองแล้วอยู่สักพักก่อนจะตัดสินใจเดินลงจากรถไป แล้วเขาก็เดินมุ่งตรงเข้าไปในร้านนวดที่เธอทำงานอยู่ทันที“กริ้งๆ…สวัสดีค่ะ…ต้องการจะนวดอะไรคะ…” กวินตาที่หันหลังนั้นพอได้ยินเสียงกริ่งประตูดังก็เอ่ยพูดออกไป ก่อนจะหันหน้าไปยิ้มให้ลูกค้าที่เข้ามา เธอก็หุบยิ้มทันทีที่ได้เห็นหน้าของจาซุส แล้วเธอก็มองเขาแบบจดจ้อง เพราะเธอไม่คิดว่าเขาจะมาที่นี่“เห็นหน้าผมแค่นี้ถึงกับยิ้มไม่ออกเลยเหรอ ไม่คิดเลยว่าเลยว่าคุณจะกลับมาทำงานนี้อีก” จาซุสพูดออกไปด้วยสายตาที่มองเธอแบบจดจ้อง“งานสุจริตนิคะ ทำไมฉันจะกลับมาทำอีกไม่ได้…คุณต้องการนวดแบบนไหนคะ…” กวินตาพูดตอบไปด้วยเสียงห้วนๆ แล้วเธอก็เอ่ยถามเขาไปแบบตัดบทอย่างไม่อยากจะพูดคุยอะไรกับเขา“ผมอยากจะนวดแบบที่คุณนวดให้ผมได้ไหม…ที่นี่เขามีนวดแบบนั้นหรือเปล่าล่ะ…” จาซุสพูดบอกไปแล้วยิ้มมุมปากใส่เธอไปแบบเจ้าเล่ห์ เพราะปกติเธอมักจะนวดให้เขาชนิดที่สาวๆที่นี่เทียบไม่ติดเลยก็ว่าได้กวินตา
ด้านมารียาหลังถูกฮัสลานจูบนั้นก็เริ่มจะทำตัวไม่ถูกเลย เธอจึงพยายามทำงานนั่นนู้นนี่ไม่ให้ตัวเองคิดฟุ้งซ่าน แต่เขาก็เหมือนแกล้งเธอเดี๋ยวเรียกให้เอากาแฟบ้าง น้ำเปล่า อาหารว่างบ้าง จนเธอนั้นเข้าไปเจอเขาไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบแล้ว พอเที่ยงเธอจึงรีบชิ่งหนีออกมาทันที อย่างน้อยมันก็ช่วยให้เธอหายใจหายคอได้บ้าง แต่พอเธอออกมาก็เจอแอนเดรียสยืนรออยู่ที่หน้าลิฟต์และเขาก็ชวนเธอไปทานอาหารเที่ยง เธอก็ปฎิเสธเขาไม่ลงเลยยอมไปกับเขา“นายครับ…มีนเขาไปกับคุณแอนเดรียสแล้ว แล้วนายจะเอายังไงต่อล่ะครับ” อาลีเอ่ยถามออกไปเพราะเขาและฮัสลานยืนมองมารียานั้นพูดคุยกับแอนเดรียสก่อนจะเดินเข้าลิฟต์ไปด้วยรอยยิ้มมีความสุขด้านฮัสลานที่ยืนเงียบมองอยู่ก็กำหมัดแน่นอย่างไม่พอใจ เพราะเขาพึ่งจะจูบเธอไปเพื่อให้เธอรู้ว่าเขานั้นจองเธอแล้ว แต่ดูเธอสิ ยังไม่ทันข้ามวันเลย เธอก็แรดไปทานข้าวกับผู้ชายคนอื่นแล้ว นี่เธอไม่คิดจะหวั่นไหวกับเขาเลยหรือไงกัน ฮัสลานคิดแบบหงุดหงิด“ฉันไม่มีอารมณ์จะออกไปทานข้างนอกแล้ว นายสั่งอาหารมาให้ฉันที่นี่ก็แล้วกัน” ฮัสลานพูดบอกไปแล้วเขาก็เดินกลับไปแบบเงียบๆ“เฮ้อ…คราวนี้เจ้านายของเราจะอกหักไหมเนี่ย คุณแอนเดรีย
ฮัสลานมองมารียาด้วยสีหน้าจดจ้อง ก่อนจะแลสายตาหันมามองแอนเดรียสเขาก็เอามือปิดเอกสารไว้แล้วเขาก็เอ่ยพูดออกไปทันที“พอดีผมมีธุระสำคัญต้องจัดการ เดี๋ยวผมให้อาลีพาคุณไปหาเซดาเขาดีกว่า เซดาเขาติดตามเรื่องนี้มานานเขาจะอธิบายงานทุกอย่างให้คุณรู้เอง อาลี พาคุณแอนเดรียสเขาไปหาเซดาหน่อยสิ” ฮัสลานพูดบอกไปเพราะเขามีมีกระจิตกระใจจะพูดคุยกับไอ้หมอนี่แล้ว แค่นี้เขาก็หงุดหงิดจนอยากจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว ทำไมนะ ทำไมเขาไม่เป็นผัวของมารียาสักทีนะ เขาจะได้จัดการกับคนที่มันมาจีบเธอน่ะ“ครับนาย เชิญเลยครับคุณแอนเดรียส” อาลีพูดบอกไปก็หยิบเอกสารมาแล้วเขาก็เชิญแอนเดรียสออกไปกับเขาทันที“อ่อครับ…งั้นไว้เจอกันก็แล้วกันนะครับ…” แอนเดรียสพูดบอกไปก็ลุกขึ้นแล้วเขาก็มองฮัสลานแบบงงๆ ก่อนจะหันไปมองมารียาที่หันมายิ้มให้เขา เขาก็พยักหน้าแล้วยิ้มตอบไปอย่างอ่อนโยน ก่อนจะเดินตามอาลีออกไปมารียาก็ชะเง้อหน้ามองตามแอนเดรียสด้วยรอยยิ้มสดใส จนฮัสลานนั้นหันไปมองแล้วก็รู้สึกขุดใจ เพราะขนาดเขาให้ผู้ชายคนนี้ออกไปแล้วมารียาก็จะมองจนหน้าหันไปอีก แม่ง…เขาจะไม่อ่อนโยนกับเธอแล้วนะ ถ้าเธอจะแสดงท่าทีชอบพอกับไอ้หมอนั่นแบบนี้ สงสัยว่าเขาจะอยู