แชร์

บทที่ 72 ปัญหามาเยือน

ผู้เขียน: โม่เชียนซาง
ซ่างกวนซีพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นสั่งว่า “พาเขาไปพักที่ห้องรับรองเถอะ”

“ห้องรับรองหรือ?” อวี๋เฟยเหยียนรู้สึกประหลาดใจ “ศิษย์พี่ใหญ่ เขาเป็นคนแปลกหน้า ซ้ำร้ายยังมีมือสังหารจากเป่ยอินตามล่า ข้าไม่จับเขาขังคุกเพราะถือว่าเห็นแก่ที่เขาบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้ยังจะให้พาไปห้องรับรอง อีก นี่เหมาะสมอย่างไรกัน?”

ซ่างกวนซีตอบกลับ “เจ้าดูสิ เสื้อผ้าของเขายังสมบูรณ์ แต่กลับถูกตะปูตอกทะลุร่างเจ็ดดอก นั่นแสดงว่าก่อนจะเจอมือสังหาร เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่ก่อนแล้ว แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่ทิ้งเยี่ยนเว่ยฉือ ถือว่าช่วยชีวิตนางไว้ได้ ข้าเดาว่าอย่างน้อยเขาก็ไม่มีเจตนาร้าย ลองปฏิบัติกับเขาด้วยความสุภาพดูก็ได้”

อวี๋เฟยเหยียนรู้สึกว่ามีเหตุผล จึงพยักหน้าทันที “ได้ ข้าจะไปจัดการ”

……

หลังจากที่สองพี่น้องออกจากห้องเก็บฟืน อวี๋เฟยเหยียนอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม “ศิษย์พี่ใหญ่ ข้าได้ยินเยี่ยนเว่ยฉือกล่าวว่า ท่านไล่นางไปงั้นหรือ?”

ซ่างกวนซีเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงเอ่ยว่า “ข้าแค่คิดจะส่งนางไปที่เขตเฟิงหลิงก็เท่านั้น”

อวี๋เฟยเหยียนเข้าใจ ซ่างกวนซีต้องการปกป้องเยี่ยนเว่ยฉือนั่นเอง

เขากล่าวด้วยรอยยิ้ม “โอ้ เพิ่งผ่า
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 73 ตายแล้ว ใครช่างใจร้ายใจดำอย่างนี้

    เยี่ยนเว่ยฉือในห้องนิ่งอึ้งอยู่กับที่ ฟ้าผ่าลงมาเป็นฝีมือนางจริง น้ำมันตุงก็เป็นนางที่เทราดลงไปจริง แต่ไม่น่าจะทำให้เปลงเพลิงโหมรุนแรงถึงเพียงนี้ได้ จวนหายไปถึงสองในสามเชียวหรือ?เยี่ยนเว่ยฉือสูญเสียความง่วงงุนไปทันทีนางรีบเปลี่ยนเสื้อผ้า ตั้งใจจะออกไปสืบข่าวเพิ่มเติมเสียหน่อยเพิ่งจะก้าวออกจากห้องก็เห็นพ่อบ้านจางเดินตรงมาพ่อบ้านจางพูดว่า “โอ้ พระชายา ท่านยังไม่นอนหรือ เช่นนั้นก็ดียิ่งนัก ขุนนางจากสำนักตมาถึงแล้ว ยังกล่าวว่าจะเชิญท่านไปสอบถาม”“สำนักต?” เยี่ยนเว่ยฉือก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกัน หรือว่าเรื่องที่นางทำถูกเปิดเผยแล้ว?พ่อบ้านจางพยักหน้า “พระชายาอย่าได้กังวล องค์ชายรัชทายาทก็อยู่ที่โถงด้านหน้า ย่อมไม่ให้ท่านประสบความเดือดร้อนแน่ ทว่าองค์ชายรัชทายาทสั่งไว้ว่า พระชายาต้องให้การอย่างระมัดระวัง ปฏิเสธทุกอย่าง!”ซ่างกวนซีก็อยู่ด้วยหรือ?เมื่อได้ยินเช่นนี้ เยี่ยนเว่ยฉือก็รีบเดินเร็วขึ้นนางไม่ได้สนใจว่าองค์ชายรองจะรู้หรือไม่ว่าเป็นฝีมือนางแม้จะรู้ พวกเขาก็ไม่มีหลักฐานสิ่งที่นางเป็นห่วงในตอนนี้คือร่างกายของซ่างกวนซี ผู้ชายคนนี้นี่ ทำไมถึงวิ่งโร่ออกไปข้างนอกอีกแล้ว ไม่รู

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 74 ข้าเคารพความกล้าหาญของท่าน

    “ถูกต้องแล้ว!” อวี๋เฟยเหยียนก็ช่วยพูดเสริมเช่นกัน “คนกล่าวว่าเห็นก็เชื่อแล้วอย่างนั้นหรือ? คนเราหน้าตาคล้ายคลึงกันถมเถ เสื้อผ้าอาภรณ์ก็อาจบังเอิญคล้ายคลึงกัน อาจมองผิดไปก็ได้!”เจียงโม่ไร้เรี่ยวแรงจะโต้แย้งเขาก็รู้สึกว่าการชี้ตัวขององค์ชายรองนั้นดูจะไร้เหตุผลอยู่บ้าง จึงได้มาสอบถามที่จวนรัชทายาทโดยตรง แทนที่จะนำตัวคนไปที่สำนักตรวจสอบโดยตรงเมื่อได้ยินเยี่ยนเว่ยฉือโต้แย้งเช่นนี้ เจียงโม่ก็พยักหน้า “คำกล่าวของพระชายามีเหตุผล แต่ไม่ทราบว่าในวันนั้น พระชายาได้เสด็จไปใกล้กับจวนองค์ชายรองหรือไม่?”คำถามนี้ต้องไตร่ตรองให้รอบคอบหากกล่าวว่าไม่ได้ไป ก็มีพยานที่เห็นนางในวันนั้นมากกว่าหนึ่งคน หากสุดท้ายพิสูจน์ได้ว่านางจงใจโกหก ก็จะดูเหมือนว่านางกำลังหลบหนีความผิดหากกล่าวว่าไป แต่นั่นก็ยามค่ำคืนแล้ว นางไปทำสิ่งใดล่ะ?ด้านข้าง ซ่างกวนซีเห็นนางไม่ตอบ จึงตัดสินใจตอบแทน “นาง...”“ไปสิ!” เยี่ยนเว่ยฉือตอบอย่างเด็ดเดี่ยวซ่างกวนซีขมวดคิ้วมองเยี่ยนเว่ยฉือ เขาไม่ได้สั่งให้พ่อบ้านจางสั่งกำชับนางให้ปฏิเสธทั้งหมดหรอกหรือ? แล้วนางเป็นอะไรไปเจียงโม่ก็แสดงสีหน้าแปลกใจไม่แพ้กันเขาเอ่ยถาม “ท่าน... ท

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 75 ความผิดปกติของน้ำมันตุง

    เยี่ยนเว่ยฉือเม้มริมฝีปาก “พะ... พูดอะไรน่ะ? พวกท่านเดาได้กันตั้งแต่ต้นแล้วมิใช่หรือ!”อวี๋เฟยเหยียนฮึดฮัด “เดาได้ก็จริงอยู่ แต่เจ้าไม่พูดให้ชัดเจน แล้วศิษย์พี่ใหญ่จะปกป้องเจ้าได้อย่างไร?”เยี่ยนเว่ยฉือเหลือบมองซ่างกวนซี พบว่าเขากำลังจ้องมองนางนิ่ง ๆสายตาที่สงบนิ่งแต่แฝงไว้ด้วยพลังทำลายทะลุทะลวงนั้น ทำให้เยี่ยนเว่ยฉือรู้สึกราวกับว่าตนเองไม่มีที่ให้หลบซ่อนเยี่ยนเว่ยฉือจำใจกล่าว “ได้ ได้ ข้าจะพูด ข้าเป็นคนทำเอง แต่ข้าเองก็คาดไม่ถึงว่าเรื่องจะบานปลายไปถึงขั้นนี้ มีคนตายหรือไม่?”นี่คือสิ่งที่เยี่ยนเว่ยฉือกังวลที่สุดหากเป็นองค์ชายรองซ่างกวนหลีที่ตายก็ไม่เป็นไร เพราะผู้ที่ทำชั่วย่อมได้รับผลกรรมแต่หากเป็นผู้บริสุทธิ์ที่ตาย นางก็จะกลายเป็นผู้ทำบาปมหันต์ซ่างกวนซีกล่าว “ตามที่เจียงโม่กล่าว มีเพียงผู้ได้รับบาดเจ็บจากการดับเพลิง แต่ไม่มีผู้ใดเสียชีวิต”เยี่ยนเว่ยฉือตบหน้าอก “เช่นนั้นก็ดีแล้ว เช่นนั้นก็ดีแล้ว!”“เวลานี้เพิ่งจะรู้จักกลัวหรือ? เจ้ามีฝีมือเก่งกาจนัก น้ำมันตุงมากมายถึงเพียงนั้น เจ้าไปหามาจากที่ใด?” ซ่างกวนซีซักถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาเมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เยี่ยนเว่ยฉือก็ร

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 76 ฉลาดเกินไปจนน่าหวาดระแวง

    บัดนี้ นางกลับเอ่ยถ้อยคำว่า ‘ตัดปีก’ ออกมาได้ ก็ทำให้รู้สึกว่านางมีความคิดลึกซึ้งยิ่งนักหรือว่านางจะเข้าใจเรื่องกลอุบายทางการเมืองด้วย?อวี๋เฟยเหยียนเอ่ยถามเพื่อทดสอบ “หักปีก หมายความว่ากระไร?”เยี่ยนเว่ยฉือหันมามองเขา แล้วเบ้ปากกล่าวว่า “ท่านผู้นี้ รูปโฉมเฉลียวฉลาด แต่เหตุใดจึงโง่เขลาเช่นนี้เล่า? บัดนี้ อันกั๋วกงและพวกซ่างกวนหลีในเมืองหลวงนั้นล้วนมีอำนาจรากลึก ยากจะสั่นคลอน แต่ในโลกนี้มีคำกล่าวว่า ‘ต้นไม้เดี่ยวไม่อาจต้านพายุ’ หากเราไม่สามารถโค่นล้มเขาได้ในคราวเดียว ก็จงค่อย ๆ ตัดกิ่งก้านของเขาออกทีละน้อย จนกว่าพวกเขาจะกลายเป็นต้นไม้เพียงต้นเดียวที่ยืนหยัดไม่ได้ แล้วอำนาจในเมืองหลวงก็จะต้องมีการแบ่งขั้วใหม่ มิใช่หรือ?”เยี่ยนเว่ยฉือยิ้มหวานมองอวี๋เฟยเหยียน ส่วนอวี๋เฟยเหยียนก็มองซ่างกวนซีด้วยความกังวลซ่างกวนซีลุกขึ้น หยุดยืนตรงหน้าเยี่ยนเว่ยฉือ แล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “เจ้าเป็นใครกันแน่?”รอยยิ้มของเยี่ยนเว่ยฉือแข็งค้าง!นาง... นางแสดงความฉลาดมากเกินไปจนน่าหวาดระแวงหรือ?ซ่างกวนซีขมวดคิ้วกล่าว “บุตรีอนุที่ไม่เคยได้รับการศึกษามาตั้งแต่เด็ก เด็กสาวผู้โดดเดี่ยวที่เติบโตมา

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 77 ฮวาอวี๋รู้จักกำไลเส้นนั้นหรือ?

    ฮวาอวี๋หลบเลี่ยงคำถามของเยี่ยนเว่ยฉือ แล้วพูดต่อว่า “เรื่องเหล่านี้ แค่สืบถามเล็กน้อยก็รู้แล้ว ไม่ใช่ความลับอะไรเลย มารดาที่ให้กำเนิดซ่างกวนซีนั้นมาจากตระกูลหมอศักดิ์สิทธิ์ และยังเป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งตระกูลหมอศักดิ์สิทธิ์ในเวลานั้นอีกด้วย ในสองแคว้นสี่นคร มีคำเล่าลือกันมาโดยตลอดว่า ผู้ใดได้ตบแต่งสตรีผู้นี้ไว้ในครอบครอง ผู้นั้นจะได้ครองแผ่นดิน”“ดังนั้น ฮ่องเต้คังอู่ถึงได้อภิเษกสมรสกับมารดาของซ่างกวนซีหรือ?” เยี่ยนเว่ยฉือซักถามฮวาอวี๋พยักหน้า “น่าจะเป็นเช่นนั้น เพราะการอภิเษกสมรสของเหล่าองค์ชาย โดยปกติจะต้องเลือกผู้ที่สามารถสนับสนุนฐานะของตนเองได้ อย่างน้อยก็ต้องเหมาะสมคู่ควรกัน จะไปเลือกหญิงสาวกำพร้าที่ทั้งตระกูลถูกกวาดล้างมาตบแต่งได้อย่างไร?”ความจริงตระกูลหมอศักดิ์สิทธิ์ได้สูญสิ้นไปแล้ว กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ในเวลานั้น เหลือเพียงมารดาของซ่างกวนซีเท่านั้นที่มีสายเลือดของตระกูลหมอศักดิ์สิทธิ์และในปัจจุบัน ซ่างกวนซีก็เป็นสายเลือดตระกูลหมอศักดิ์สิทธิ์เพียงคนเดียวที่เหลืออยู่เมื่อคิดได้เช่นนี้ ดวงตาของเยี่ยนเว่ยฉือก็สว่างขึ้น “อ๋อ มิน่าแปลกใจ มิน่าแปลกใจเลยที่ซ่างกวนซีถูกตัดสิน

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 78 กำไลหยกปีกคู่

    ฮวาอวี๋หัวเราะเบา ๆ “อย่าคิดมากไปเลย เมื่อก่อนตระกูลเยวี่ยไม่มีผู้ใดรอดชีวิต พวกเขาทั้งหมดถูกสังหารจนสิ้นซาก ข้าไม่ใช่คนของตระกูลเยวี่ยหรอก”“แล้วเจ้าเป็นใคร? เหตุใดต้องมาตามหาข้า?” เยี่ยนเว่ยฉือจ้องมองเขาด้วยความระแวดระวังฮวาอวี๋ยกมือขึ้นปลดมวยผมของตนออก เยี่ยนเว่ยฉือประหลาดใจเมื่อพบว่าเครื่องประดับหยกที่ฮวาอวี๋ใช้รัดผมนั้นก็เป็นกำไลหยกเช่นกันกำไลหยกเส้นนั้นมีรูปร่างคล้ายกับกำไลสีขาวที่เยี่ยนเว่ยฉือสวมใส่แทบจะทุกประการ ทั้งสองเส้นมีรูปร่างไม่สม่ำเสมอ มีทั้งส่วนที่หนาและบาง ส่วนที่กลมและแบนราวกับทำมาคู่กันอย่างไรอย่างนั้น!เยี่ยนเว่ยฉือจ้องมองฮวาอวี๋ด้วยความประหลาดใจ รอคอยคำอธิบายจากเขาฮวาอวี๋กล่าวต่อ “นี่คือของหมั้นหมายของตระกูลฮวาและตระกูลเยวี่ย เรียกว่า...คู่พรหมลิขิต กิ่งทองใบหยก รักใคร่กลมเกลียว เคียงข้างจนแก่เฒ่า ครองรักชั่วนิรันดร์ นกปี่อี้โบยบินเคียงกัน… กำไลหยกปี่อี้”เยี่ยนเว่ยฉือกระตุกมุมปาก “เจ้าช่างพูดจาเหลวไหลได้ดีเสียจริง ใครกันจะตั้งชื่อได้ยาวเหยียดเพียงนี้!”ฮวาอวี๋ยิ้ม “นั่นไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือเจ้าเป็นคู่หมั้นของข้า”“อะไรนะ?!” เยี่ยนเว่ยฉือตกใจจนตัวสั่น

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 79 นอนด้วยกัน

    เยี่ยนเว่ยฉือเอ่ยปากว่าไม่เชื่อคำพูดของฮวาอวี๋ แต่ในใจก็ยังคงรู้สึกหวั่นไหวไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น แค่ประโยคที่ว่า ‘ตระกูลเยวี่ยถูกใส่ร้าย’ นั้น ในความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม นางได้ยินมาไม่รู้กี่ครั้งแล้วเจ้าของร่างเดิมและมารดาผู้ให้กำเนิดเยวี่ยฉงหรงอยู่ด้วยกันมาหกปี ตลอดหกปีนั้น นางแทบไม่เคยเห็นเยวี่ยฉงหรงยิ้มเลยเยวี่ยฉงหรงเป็นคนพูดน้อย พูดมากที่สุดก็คือประโยคนี้ “เว่ยฉือ เจ้าต้องจำไว้ว่าตระกูลเยวี่ยถูกใส่ร้าย ตระกูลเยวี่ยเป็นขุนนางผู้ซื่อสัตย์ ไม่มีทางเป็นกบฏได้เลย”เยี่ยนเว่ยฉือก้มมองกำไลของตนเอง ความรู้สึกช่างซับซ้อนนางเป็นผู้ที่เดินทางข้ามเวลา เรื่องราวความรักความแค้นเหล่านี้เดิมทีไม่ใช่สิ่งที่นางควรแบกรับ แต่ทุกครั้งที่นางนึกถึงคนที่ได้ชื่อว่าเป็นมารดาก็ยังรู้สึกเศร้าใจเป็นอย่างมากนี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่นางตัดสินใจอยู่เคียงข้างซ่างกวนซีบางทีสักวันหนึ่ง นางอาจจะใช้บารมีของซ่างกวนซีเพื่อสืบหาความจริงในคดีของตระกูลเยวี่ย เพื่อให้เยวี่ยฉงหรงได้พักผ่อนอย่างสงบในปรโลกได้“คิดอะไรอยู่หรือ?” เสียงของซ่างกวนซีดังขึ้นโดยที่นางไม่ทันตั้งตัว ทำให้เยี่ยนเว่ยฉือสะดุ้งโหยงเยี่

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 80 สตรีมากตัณหา

    มุมปากของเยี่ยนเว่ยฉือกระตุกเล็กน้อย “อ๋อ… ที่แท้ก็เพื่อปกป้องข้านี่เอง”“มิเช่นนั้นเล่า?” ซ่างกวนซีขมวดคิ้วมองนาง นางคิดอะไรอยู่ในหัวกันนะ?เยี่ยนเว่ยฉือหัวเราะแห้ง ๆ “ปะ… เปล่า ข้าแค่คิด… ข้าแค่คิดว่าข้าพอจะปกป้องตนเองได้อยู่บ้าง ท่านกลับไปนอนในห้องของตนเองเถิด”ซ่างกวนซีไม่สนใจการปฏิเสธของนาง แต่กลับกางแขนออกแล้วพูดว่า “ถอดเสื้อ!”ยังจะให้ข้าถอดเสื้อผ้าให้อีก!เยี่ยนเว่ยฉือเม้มริมฝีปาก ยืนอยู่ด้านข้างด้วยท่าทางกระอักกระอ่วนซ่างกวนซีเหลือบมองนาง “ยังมัวยืนงงอะไรอยู่อีก?”เยี่ยนเว่ยฉือจำใจต้องเดินเข้าไปอย่างช้า ๆ แล้วเอื้อมมือไปดึงเข็มขัดของซ่างกวนซีออกการเคลื่อนไหวของนางช้ามากราวกับจงใจถ่วงเวลามือเล็ก ๆ นั้นลูบไล้ไปตามแผ่นอกและเอวของซ่างกวนซีระเรื่อยแผ่วเบา จนซ่างกวนซีรู้สึกว่าหัวใจเต้นรัวแรงขึ้นเขาผลักเยี่ยนเว่ยฉือออกอย่างหงุดหงิด “โง่สิ้นดี”เยี่ยนเว่ยฉือเหลือบมองเขาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “ก็ข้าไม่ใช่คนที่ถอดเสื้อผ้าให้ชายอื่นบ่อย ๆ จนชำนาญนี่นา จะเงอะแงะทำสิ่งใดไม่ถูกเป็นเรื่องปกติมิใช่หรือ? ข้าถนัดขัดขนหมูมากกว่า ท่านอยากจะลองหรือไม่?”มือที่กำลังปลดเสื้อผ้าขอ

บทล่าสุด

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 373 สองพี่น้องล้างพร้อมกัน

    สายตาของเยี่ยนเว่ยฉือมองข้ามไหล่ของหานอวี่เฟยไปยังรถม้าที่อยู่หน้าประตูจวนรัชทายาท ยกยิ้มเย็นกล่าวว่า “ตกลงกันแล้วว่าคนของทั้งสองฝ่ายต้องลองทั้งหมด เหตุใดท่านหญิงอิ๋นตางยังซ่อนใครไว้ในรถม้าอีกคน?”หานอวี่เฟยขมวดคิ้วเล็กน้อย หันไปมองข้างหลัง แล้วพูดอย่างไม่พอใจว่า “นางไม่ใช่คนของอ๋องจ่างซิ่น”“แต่นางเป็นคนที่เจ้าพามาใช่หรือ?” เมื่อเยี่ยนเว่ยฉือพูดจบ ก็เดินตรงไปยังรถม้าหานอวี่เฟยก็ไม่ได้ห้ามปราม คนเยอะถึงเพียงนี้ เยี่ยนเว่ยฉือจะหาเรื่องเยี่ยนชิงซูได้หรือ?เยี่ยนเว่ยฉือมาถึงข้างรถม้า กล่าวว่า “น้องรอง มาถึงหน้าประตูแล้ว ไม่ลงมาคารวะพี่สาวหน่อยหรือ?”เยี่ยนชิงซูเปิดม่านรถอย่างไม่เต็มใจ กล่าวอย่างไม่พอใจว่า “ข้ามาหาพี่หญิงอวี่เฟย ไม่ได้มาหาเจ้า”“จะมาหาข้าหรือไม่ ตอนที่เจ้าเจอข้าก็ควรจะทำความเคารพมิใช่หรือ? ข้าคือพระชายาองค์รัชทายาท! หรือเจ้าคิดจะล่วงเกินผู้สูงศักดิ์?”เยี่ยนเว่ยฉือเอามือสองข้างกอดอก มองเยี่ยนชิงซูอย่างหยิ่งผยอง ท่าทางราวกับหากอีกฝ่ายไม่ทำความเคารพ นางก็จะไม่ยอมแน่นอนว่าเยี่ยนชิงซูไม่อยากทำความเคารพ แต่คนมากมายมองอยู่ หากนางล่วงเกินผู้สูงศักดิ์โดยพลการ นี่ก็เท่ากั

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 372 นางต้องได้รับข่าวอะไรมาแน่

    เยี่ยนเว่ยฉือไม่พูดพร่ำทำเพลง สั่งโดยตรงว่า “พ่อบ้านจาง ไปเชิญหมอหลวงมา”พ่อบ้านจางรีบรับคำสั่งจากไปรอจนกระทั่งฉินเซียงหรูบดเถาเหลยกงจนเป็นผงเสร็จ หมอหลวงก็มาถึงพอดีฉินเซียงหรูส่งผงยาให้หมอหลวง หมอหลวงดูแล้วพยักหน้ากล่าวว่า “เป็นเถาเหลยกงจริง ๆ”หานอวี่เฟยหัวเราะเยาะ “นึกไม่ถึงว่าเจ้าจะมีจริง ๆ งั้นก็ได้ ลองตอนนี้เลยสิ”อวี๋เฟยเหยียนที่อยู่ข้าง ๆ พูดอย่างไม่พอใจว่า “ข้าว่านะท่านหญิงอิ๋นตาง เจ้าฟังคนไม่รู้เรื่องหรืออย่างไร? พี่สะใภ้ข้าพูดไปแล้วว่าพวกเราไม่เคยสัมผัสปิ่นหางหงส์ ถึงจะสัมผัสเถาเหลยก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไร เจ้าบุกมาหาเรื่องก็เพื่อดูว่าพวกเรามีเถาเหลยกงหรือไม่ ตอนนี้ก็เห็นแล้ว ยังไม่ไปอีก?”“ใครบอกว่าข้ามาดูว่าพวกเจ้ามียาหรือไม่? ข้ามาดูพวกเจ้าทดสอบต่างหาก”หานอวี่เฟยยกยิ้มเย็น หันไปมองเยี่ยนเว่ยฉือ กล่าวต่อว่า “การใช้น้ำเถาเหลยกงทดสอบผู้คน จุดประสงค์ไม่ใช่แค่การประลอง แต่ที่สำคัญกว่าคือการหาโจรขุดสุสาน พวกเจ้าทดสอบกันเอง จะทำให้คนเชื่อได้อย่างไร? แน่นอนว่าต้องให้ข้าทดสอบพวกเจ้า แล้วพวกเจ้าค่อยทดสอบข้า! ใครก็ได้ ยกอ่างน้ำมา!”ด้านหลังมีคนยกอ่างน้ำที่ผสมผงเถาเหลยกงมาหา

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 371 ไม่ถูกเปิดโปงหรอกหรือ

    “จะลองอะไรกัน? ถึงจะลอง พวกเราเป็นคนของจวนรัชทายาท ก็ต้องให้พระชายาองค์รัชทายาทบันทึกด้วยตนเอง ไม่ใช่บันทึกในชื่อของเจ้า!” เสียงของอวี๋เฟยเหยียนดังมาจากข้างหลังของเยี่ยนเว่ยฉือทุกคนหันไปตามเสียง ก็เห็นเขาพาฉินเซียงหรูเดินเข้ามาอย่างสง่าผ่าเผยหานอวี่เฟยขมวดคิ้วมองเขา พูดอย่างไม่พอใจว่า “รัฐทายาทอวี๋ ท่านนี่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านจริง ๆ!”อวี๋เฟยเหยียนเท้าสะเอวมองหานอวี่เฟย กล่าวอย่างไม่พอใจว่า “ใช่ แล้วอย่างไร? ไม่ได้หรือ? เก่งจริงก็กัดข้าสิ!”“ท่าน! ท่านมันรนหาที่ตาย!” หานอวี่เฟยโกรธจนกัดฟัน แต่ก็รู้ว่าไม่อาจลงมือกับอวี๋เฟยเหยียนได้ถึงแม้พ่อของทั้งสองจะเป็นอ๋องที่มีบรรดาศักดิ์สองอักษร ซึ่งมีศักดิ์ฐานะเท่าเทียมกันแต่อวี๋เฟยเหยียนเป็นถึงรัฐทายาท ในขณะที่นางเป็นเพียงแค่ท่านหญิงหากลงมือกับอวี๋เฟยเหยียนจริง ๆ ข้อหาล่วงเกินผู้สูงศักดิ์ก็คงหนีไม่พ้นหานอวี่เฟยแค่นเสียงเย็นชา กล่าวว่า “ดี ในเมื่อพวกเจ้าอยากลองเอง ก็ลองดูสิ ข้าจะคอยดูอยู่ตรงนี้ ดูซิว่าพวกเจ้าจะเอาอะไรมาลอง”ฉินเซียงหรูที่อยู่ข้าง ๆ ยิ้มเล็กน้อย ยื่นมือไปหยิบเถาเหลยกงที่ตากแห้งออกมาต้นหนึ่ง กล่าวว่า “พระชายารัชทายาทได้ส

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 370 แขกไม่ได้รับเชิญ

    “อ่า ไม่! ไม่ ๆ ๆ คำถามนี้ดี คำถามนี้ดีมาก!” อวี๋เฟยเหยียนถอนหายใจโล่งอก จากนั้นก็รีบยกย่องซ่างกวนซีทันที“แน่นอนว่าศิษย์พี่ใหญ่ต้องเป็นคนทำอยู่แล้ว ข้าและท่านหมอฉินจะมีความสามารถในการจดจำได้แม่นยำเช่นนั้นได้อย่างไร จำไม่ได้แล้วว่าเมื่อวานเจ้าทำอาหารอะไรบ้าง เฮ้อ ศิษย์พี่คนนี้ปากแข็งแต่ใจอ่อน หลังจากทำลายข้าวของเมื่อวาน ตอนกลางคืนกลับไปคงจะโทษตัวเองน่าดู วันนี้ถึงได้ทำเช่นนี้!”เยี่ยนเว่ยฉือเม้มปาก พูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “อ้อ เช่นนั้นเมื่อวานเขา… ทำผิดจริง ๆ น่ะสิ! ฮึ่ม!”อวี๋เฟยเหยียนยิ้มตาหยี “เช่นนั้นวันนี้เขาก็ชดเชยแล้ว พี่สะใภ้ก็ยกโทษให้เขาเถอะ!”เยี่ยนเว่ยฉือทำปากยื่น “ข้าไม่ใช่คนใจแคบเช่นนั้นหรอก ข้าขึ้นชื่อเรื่องอารมณ์มั่นคง ใครกันจะเหมือนเขา เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย แต่เห็นแก่ที่ต้นตอของเรื่องมีเหตุผล ผู้ใหญ่อย่างข้าก็จะไม่ถือสาคนใจแคบแล้วกัน!”อวี๋เฟยเหยียนถอนหายใจโล่งอก “ดีแล้ว ดีแล้ว ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี!”“ไม่ง่ายดายเช่นนั้น อย่างน้อยพวกท่านก็ต้องบอกข้าว่าอดีตฮองเฮาทรงสิ้นพระชนม์อย่างไร วันนั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”เยี่ยนเว่ยฉืออยากจะทำความเข้าใจซ่างกวนซีให้มากขึ้น เพื่อที่ตั

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 369 ไอหยา ใครทำอาหาร?

    เมื่อเยี่ยนเว่ยฉือมาถึงลานหน้า ก็พบว่าชายฉกรรจ์สามคนของจวนรัชทายาทกำลังล้อมวงอยู่หน้าโต๊ะซ่างกวนซีนั่งตัวตรง มองนางอย่างใจเย็นอวี๋เฟยเหยียนยิ้มแหย อย่างกระอักกระอ่วนฉินเซียงหรูลูบจมูก ยิ้มอย่างมีความหมาย‘นี่มันเกิดอะไรขึ้น?’เยี่ยนเว่ยฉือรู้สึกงงงวย“พระชายาที่ไหนตื่นสายป่านนี้ เจ้าไม่หิวหรือ?” คำพูดของซ่างกวนซีไม่ค่อยดีนัก แต่โทนเสียงกลับอ่อนโยนเขายื่นมือไปหาเยี่ยนเว่ยฉือ “มาทานอาหารเร็ว!”“โอ้!” เยี่ยนเว่ยฉือเดินไปนั่งข้าง ๆ ซ่างกวนซีภายใต้สายตาของคนทั้งสามทันทีที่นั่งลง นางก็พบว่าอาหารวันนี้ไม่ธรรมดานี่… อาหารหกอย่างกับน้ำแกงหนึ่งอย่าง ไม่ใช่อาหารเดียวกันกับที่นางทำเมื่อวานนี้หรอกหรือ?ยังมีขนมผิงวันเกิดรูปร่างแปลกประหลาด ที่ถูกทำขึ้นมาใหม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบอีกหรือ?“นี่… นี่คือ?” เยี่ยนเว่ยฉือมองซ่างกวนซีอย่างสงสัยซ่างกวนซีขมวดคิ้ว “พวกเขาสองคนทำ บอกว่าเมื่อวานไม่ได้ทานอาหารเหล่านั้น รู้สึกเสียดาย วันนี้ก็เลยรบเร้าไคจือและซ่านเย่ทำขึ้นมาใหม่ เจ้าลองชิมดู หมูสามชั้นอบบ๊วย รสชาติถูกต้องหรือไม่?”เยี่ยนเว่ยฉือเบิกตากว้างด้วยความตกใจก่อนถามอย่างไม่เชื่อว่า “รัฐท

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 368 แน่ใจในความรู้สึก

    จนกระทั่งลมหายใจของเด็กสาวในอ้อมแขนสม่ำเสมอ นอนหลับสนิท ซ่างกวนซีถึงได้สติกลับคืนมาจากอาการประหม่าเมื่อครู่เขาอุ้มเยี่ยนเว่ยฉือในท่าเจ้าหญิง เดินตรงไปที่เตียงจากนั้นก็วางนางลงบนเตียงอย่างเบามือมองดูใบหน้าแดงปลั่งของนาง ซ่างกวนซีอดไม่ได้ที่จะโน้มตัวลง อยากจะลิ้มลองจูบเมื่อครู่ที่หยุดอยู่แค่ริมฝีปากอีกครั้งทว่าตอนที่ปลายจมูกของคนทั้งสองสัมผัสกัน ความขัดแย้งในใจของซ่างกวนซีก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้งเขาไม่สามารถใกล้ชิดกับเยี่ยนเว่ยฉือมากเกินไปได้ เพราะไม่สามารถให้คำมั่นสัญญาตลอดชีวิตกับนางได้เขาไม่กล้าที่จะร่วมเรียงเคียงหมอนกับเยี่ยนเว่ยฉือ ด้วยกลัวว่าพิษกู่เย็นบ้านี่จะส่งผลเสียต่อสุขภาพของเยี่ยนเว่ยฉือชีวิตของเขาเต็มไปด้วยโศกนาฏกรรม โซ่ตรวน ภาระ และความไม่แน่นอนเขาจะทนดึงหญิงสาวที่เขาชอบใจเข้าสู่วังวนเช่นนี้ได้อย่างไร?เขามั่นใจในความรักของตนเอง เพียงแต่ไม่มั่นใจในโชคชะตาของตนเองก็เท่านั้นซ่างกวนซีถอนหายใจ จุมพิตที่เต็มไปด้วยความรักประทับลงกลางหน้าผากของเยี่ยนเว่ยฉือใช่ บางทีอาจจะเป็นตอนที่นางจูบเขาเมื่อครู่ ทำให้เขายืนยันความรู้สึกของตนเองได้แล้วเขาชอบนางมาก แม้ว่านาง…

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 367 สามสิ่งที่บุรุษไม่พึงกระทำ

    เมื่อเห็นว่าเยี่ยนเว่ยฉือกำลังจะหงายหลัง ซ่างกวนซีก็คว้าเอวของนางไว้โดยสัญชาตญาณ โอบนางไว้แน่นเยี่ยนเว่ยฉือนั่งลงได้มั่นคงอีกครั้ง จู่ ๆ ก็ยกยิ้ม “เป็นอย่างไร เอวข้าคอดดีใช่หรือไม่?”นี่… นี่มันคำถามอะไรกัน?ซ่างกวนซีรู้สึกว่าหายใจติดขัดเล็กน้อย เหตุใดหลังจากเมานางถึงเป็นเช่นนี้?เยี่ยนเว่ยฉือฮึดฮัดในลำคอ ทำปากยื่น บ่นต่อ “มีภรรยาเอวคอด ขาเรียว ผิวขาวสวยเช่นนี้ ท่านไม่ทะนุถนอมไม่พอ ยังดุข้าอีก ทำตัวเช่นนี้สมควรเป็นลูกผู้ชายหรือ? ช่าง…ช่าง…”ซ่างกวนซีพูดต่อโดยไม่รู้ตัว “ทำลายของดี!”“ใช่! คำนี้แหละ! ซ่างกวนซี ข้าจะบอกท่านไว้ สุภาพบุรุษไม่ควรทำตัวเช่นท่าน ลูกผู้ชายอกสามศอก สิ่งแรกคือ ไม่ควรโกรธง่าย นี่แสดงว่าท่านใจแคบ สอง ไม่ควรพูดพล่อย นี่แสดงว่าท่านไม่รู้จักคิด สาม ข้อสามสำคัญที่สุด…”ยังไม่ทันที่เยี่ยนเว่ยฉือจะพูดจบ ซ่างกวนซีก็ถามด้วยความอยากรู้ “สามคืออะไร?”เยี่ยนเว่ยฉือยิ้มตาหยี “สาม คือไม่ควรแสดงความกำหนัดโดยไม่เลือกที่เลือกทาง นี่แสดงว่าท่านไม่มี… ทักษะชีวิตคู่”พรวด!หากตอนนี้ซ่างกวนซีมีน้ำอยู่ในปาก คงจะพ่นใส่หน้าเยี่ยนเว่ยฉือไปแล้วยายเด็กแก่แดด กล้าพูดอะไรเช่นนี้ออ

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 366 โถมตัวเข้าใส่เขาโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง!

    “ใครกันทำตัวเหลวไหลเช่นนี้?!” ซ่างกวนซีมองไปที่ประตูอย่างประหลาดใจผลปรากฏว่าเห็นเยี่ยนเว่ยฉือหน้าแดงก่ำ เดินเข้ามาด้วยฝีเท้ามั่นคงซ่างกวนซีลุกขึ้นยืน เดินเข้าไปหานางด้วยความสงสัย “เยี่ยนเว่ยฉือ เจ้ากล้ามาก! ถึงกับกล้า…”“ใช่! ข้ากล้ามาก แล้วทำไม?” เยี่ยนเว่ยฉือตาปรือ แต่คำพูดกลับแข็งกร้าวสิ่งนี้ทำให้ซ่างกวนซีประหลาดใจเล็กน้อยเห็นเพียงเยี่ยนเว่ยฉือเดินโซเซมาหาเขา พูดเสียงดังว่า “มีคำกล่าวว่าสอนลูกต่อหน้าคนอื่น ตักเตือนภรรยาลับหลัง… อ่า ไม่ใช่ ตักเตือนสามีลับหลัง วันนี้ข้าจะสอนท่านถึงหลักการใช้ชีวิตเอง”เยี่ยนเว่ยฉือเดินเข้าไปหาซ่างกวนซีอย่างฮึกเหิม แต่ก้าวพลาด เท้าซ้ายสะดุดเท้าขวา ทำให้ทั้งร่างโถมเข้าไปหาซ่างกวนซีเมื่อเห็นดังนั้น ซ่างกวนซีก็เบิกตากว้าง สัญชาตญาณทำให้เขายื่นมือออกไปรับแต่เนื่องจากแรงเฉื่อยของเยี่ยนเว่ยฉือมากเกินไป ทำให้เขาก็ถอยหลังไปหลายก้าวโชคดีที่ข้างหลังเป็นเก้าอี้ ซ่างกวนซีนั่งลงไปอย่างแรง ใช้มือยันโต๊ะไว้ได้ ทำให้ไม่ล้มลงไปในขณะเดียวกัน เยี่ยนเว่ยฉือก็นั่งคร่อมอยู่บนตักของเขาซ่างกวนซีขมวดคิ้วมองนาง ถามว่า “เจ้าดื่มสุรามารึ?”บนร่างกายของนางเจือก

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 365 บุกเข้ามาตอนกลางดึก?

    “เฮ้อ ก็ได้ ๆ คราวนี้ข้าใจกว้าง จะไม่ถือสา! ไม่ต้องขอโทษข้าแล้ว! ฮึ่ม!” เยี่ยนเว่ยฉือพูดปลอบใจตัวเอง หยิบกาน้ำชาบนโต๊ะ เตรียมจะดื่มน้ำดับกระหายแต่พอหยิบขึ้นมาก็พบว่ากาน้ำชาว่างเปล่า ทำให้หงุดหงิดมากขึ้นทันที“ไคจือ ซ่านเย่!” เยี่ยนเว่ยฉือตะโกนพอดีกับที่ไคจือถือกาน้ำชาเข้ามา ยิ้มตอบว่า “พระชายากระหายน้ำหรือเพคะ? มีชาดอกสายน้ำผึ้งที่ต้มใหม่ ๆ ช่วยดับกระหายได้ พระชายาจะลองชิมดูหรือไม่เพคะ?”ไคจือรีบรินชาให้เยี่ยนเว่ยฉือหนึ่งแก้วกลิ่นชาหอมอบอวล ทำให้เยี่ยนเว่ยฉืออดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้ว“เอ๊ะ หอมจัง ในนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่ดอกสายน้ำผึ้งนะ?”ไคจือตอบว่า “ได้ยินจากจางมามาว่าเป็นชาดอกไม้ที่ท่านหมอฉินต้ม อาจจะใส่สมุนไพรอื่นด้วยกระมังเพคะ?”เยี่ยนเว่ยฉือยกขึ้นมาดมที่จมูก รู้สึกเพียงแต่กลิ่นหอมอบอวล ชวนให้หลงใหลเล็กน้อยนางยิ้ม “ของของฉินเซียงหรูต้องเป็นของดีแน่ ๆ”พูดจบ นางก็ดื่มชาจนหมดจอกตอนแรกที่ดื่มเข้าไปจะขมปร่า ตอนที่กลืนลงคอจะหวาน หลังจากขมแล้วรสหวานจะตีตื้นขึ้น หอมละมุนติดปาก“เป็นชาที่ดีจริง ๆ!” เยี่ยนเว่ยฉือพอใจกับรสชาตินี้มากที่สำคัญคือไม่รู้ด้วยเหตุใด หลังจากดื่มชาแก้ว

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status