ซินมามาหันกลับไปมองบุรุษชุดดำ กลอกตาพลางกล่าวว่า “หากสำเร็จก็ให้ราคาหนึ่ง หากล้มเหลวก็ให้อีกราคาหนึ่ง”บุรุษชุดดำกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “แต่เดิมท่านหญิงหมิงหยางไม่ได้กล่าวเช่นนั้น”“แต่เดิม? แต่เดิมเจ้าก็กล่าวว่าจะไม่พลาดเหมือนกัน! ฮึ่ม!” ซินมามาจึงก้าวเข้าไปในประตูหลังของจวน ไม่ได้สนใจบุรุษชุดดำอีกเมื่อเห็นเช่นนั้น บุรุษชุดดำก็โกรธทันที เหยียบปลายเท้า กระโดดข้ามกำแพง ยืนขวางอยู่ตรงหน้าซินมามาดาบอันคมกริบวางอยู่บนไหล่ซินมามา“ว้าย! เจ้า… เจ้าบังอาจ! จะทำอะไร!” ซินมามาแสดงสีหน้าหวาดกลัวบุรุษชุดดำกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนคำพูดต่อหน้าข้าได้ ก่อนลงมือ ข้าได้กล่าวไว้แล้ว ไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่ ข้าต้องการเงินหนึ่งพันตำลึง! หากให้ไม่ได้ ก็ต้องชดใช้ด้วยชีวิต!”เมื่อบุรุษชุดดำกล่าวจบก็กำลังจะสังหารซินมามาขณะนั้น เสียงของท่านหญิงหมิงหยางก็ดังขึ้น “หยุด!”บุรุษชุดดำหันไปตามเสียง เห็นท่านหญิงหมิงหยางนำองครักษ์ของจวนเดินตรงเข้ามาอย่างดุเดือดบุรุษชุดดำหัวเราะเยาะเย้ย “ทำไม? ต้องการอาศัยกำลังคนมากเข้าสู้หรือ?”ท่านหญิงหมิงหยางพยายามฝืนยิ้ม “เจ้าเข้าใจผิดแล้ว เราทำ
เยี่ยนหานซานผู้นี้ รู้ทุกสิ่งทุกอย่างจริง ๆท่านหญิงหมิงหยางสะบัดมือเยี่ยนหานซานออก พลางขมวดคิ้วกล่าวว่า “ท่านหมายความว่าอย่างไร? หรือว่าในใจยังคงคิดถึงเยวี่ยฉงหรงอยู่ จึงเผื่อแผ่ความรักไปถึงเยี่ยนเว่ยฉือด้วย?”เยี่ยนหานซานกล่าวด้วยความไม่สบอารมณ์ “ฮูหยิน ฉงหรงสิ้นชีพไปแล้ว แต่เดิมที่ข้าแต่งงานกับนางก็เพราะสถานการณ์บังคับ ไม่ใช่เพราะความรัก เมื่อเจ้าเข้ามา ข้าก็ลดฐานะนางเป็นอนุแล้ว ผ่านไปหลายปีแล้ว เหตุใดเจ้าจึงยังคงยึดติดกับเรื่องนี้อีก?”“ท่านไม่ใช่หรือที่ทำให้ข้ายึดติด?” ท่านหญิงหมิงหยางเริ่มสะอื้น“แต่เดิมเมื่อท่านรู้จักกับข้า ท่านกล่าวว่าตนยังไม่ได้แต่งงาน ข้าจึงหลงรักท่าน แต่กลับรู้ว่าท่านมีภรรยาอยู่แล้ว ถึงแม้ท่านจะลดฐานะนางเป็นอนุ แต่ข้าก็เป็นเมียที่มาทีหลัง หลายปีที่ผ่านมา สตรีในตระกูลใหญ่ ต่างก็นินทาข้า เยาะเย้ยข้า ข้าเป็นท่านหญิงแห่งจวนอ๋องจ่างซิ่น ถึงแม้จะคู่ควรกับเชื้อพระวงศ์ แต่ข้ากลับเลือกแต่งงานกับท่าน ท่านลองคิดดูสิ หลายปีที่ผ่านมา ข้าได้อะไรบ้าง? สิ่งที่ได้ก็คือคำด่าทอและการติฉินนินทา! ฮือฮือฮือ...”ท่านหญิงหมิงหยางร้องไห้ด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจแต่หยาดน้ำตานี้ ไ
“หมอฉิน?” เยี่ยนเว่ยฉือเดินเข้าไปทักทายฉินเซียงหรูหยุดมือ หันไปมองเยี่ยนเว่ยฉือ ส่งยิ้มบาง ๆ “แม่นางเยี่ยน”เยี่ยนเว่ยฉือสูดหายใจเข้าลึก คิดในใจว่า “เยี่ยมจริง ๆ สมัยโบราณนี้ แห่งหนใดก็มีแต่ชายรูปงาม หมอฉินผู้นี้เป็นต้นแบบของชายหนุ่มในชุดขาว อ่อนโยนดั่งหยก สุภาพอย่างมาก สง่างามดังดวงจันทร์ รูปงามหาใครเทียบ ถึงแม้จะด้อยกว่าซ่างกวนซีผู้งามสง่าอยู่เล็กน้อย แต่ก็มีอัธยาศัยอ่อนโยน ไม่ได้แผ่รังสีผลักไสผู้คนเหมือนซ่างกวนซี ยอดเยี่ยม รอยยิ้มงดงามจริง ๆ”ฉินเซียงหรูเห็นเยี่ยนเว่ยฉือจ้องมองตนเอง จึงลูบหน้าด้วยความสงสัย “ข้า มีดินติดหน้าหรือ?”เดิมทีไม่มี แต่เมื่อฉินเซียงหรูลูบหน้าก็ทำให้ดินติดบนใบหน้าขาวเนียนเยี่ยนเว่ยฉือยิ้ม “ไม่เป็นไร ดินเพียงเล็กน้อย กระนั้นก็บดบังรูปโฉมอันงดงามของหมอฉินไม่ได้หรอก ความบกพร่องเล็กน้อยนี้ไม่อาจบดบังความงามได้!”ฉินเซียงหรูตกใจเล็กน้อย แล้วก็ยิ้มด้วยความเขินอาย “เอ่อ… ฮ่าฮ่า แม่นางเยี่ยนชมเกินไปแล้ว”เยี่ยนเว่ยฉือมองสมุนไพรที่วางอยู่บนโต๊ะ พลางเลิกคิ้วกล่าวว่า “โอ้ นี่เป็นสมุนไพรที่ท่านนำมาด้วยหรือ? หลายชนิดเป็นสมุนไพรหายากในแคว้นหลี”ฉินเซียงหรูประหลา
เมื่อคิดได้เช่นนั้น ฉินเซียงหรูก็ยิ้มและพูดว่า “ไม่มีอะไร ก็แค่ปลาหายากชนิดหนึ่ง”เยี่ยนเว่ยฉือพูดอย่างเข้าใจแจ่มแจ้ง “โอ้ ข้าเข้าใจแล้ว ท่านใช้หญ้าหางสุนัขเขียวเพื่อจับปลาชนิดนี้หรือ?”ฉินเซียงหรูพยักหน้า “ทำนองนั้น”มุมปากของเยี่ยนเว่ยฉือกระตุก คาดไม่ถึงว่าท่านหมอฉินจะหมกมุ่นอยู่กับการตกปลามากจนต้องไปที่หนองน้ำเพื่อหาเหยื่อสำหรับตกปลาถึงขั้นเสี่ยงชีวิตเพียงเพื่อจะหาอะไรกิน ช่างน่าทึ่งจริง ๆ!เมื่อเห็นสีหน้าแปลก ๆ ของเยี่ยนเว่ยฉือ ฉินเซียงหรูก็อดไม่ได้ที่จะสงสัยว่า “มีปัญหาอะไรหรือ?”เยี่ยนเว่ยฉือหัวเราะแห้ง ๆ “มะ ไม่มีอะไร ทุกคนล้วนมีความชอบของตัวเอง จะหัวเราะเยาะคนตะกละมิได้!”ฉินเซียงหรูสับสน ‘ตะกละรึ? พูดถึงใครกัน?’ฉินเซียงหรูเห็นว่าเยี่ยนเว่ยฉือยังคงเดินป้วนเปี้ยนอยู่แถว ๆ ยาสมุนไพรของโดยไม่คิดจะออกไป เขาจึงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วถามว่า “แม่นางเยี่ยนยังมีเรื่องอะไรอีกหรือไม่?”เยี่ยนเว่ยฉือยิ้ม “ไม่มีอะไร อ้อจริงสิ ในเมื่อท่านเห็นแก่กินขนาดนี้ ข้าจะพาท่านออกไปทานอาหารดี ๆ สักหน่อยแล้วกัน!”“หา? เห็น...เห็นแก่กิน?” คำว่าตะกละที่พูดถึงก่อนหน้านี้หมายถึงเขาหรอกรึ? นี่เ
จากนั้นเยี่ยนเว่ยฉือก็พูดต่อ “นี่คือสิ่งที่ข้าเพิ่งพูดไป เหยื่อตกปลาที่สุดยอดอย่างยิ่ง!”ฉินเซียงหรูมองก้อนแป้งในมือด้วยสีหน้าสงสัยเยี่ยนเว่ยฉือยิ้ม “ท่านไม่เชื่อสินะ เช่นนั้นก็ไปลองดูแล้วจะได้รู้กัน! ทางตอนใต้ของเมืองมีแม่น้ำสายหนึ่งชื่อว่าเสี่ยวเหลียง และมักมีคนตกปลาไปที่นั่น พวกเราไปลองดูที่นั่นกันเถิด”ฉินเซียงหรูไม่รู้ค่อยรู้จักเมืองหลวงของต้าหลีมากนัก ดังนั้นเขาจึงเชื่อเรื่องนี้หลังจากได้ยินสิ่งที่เยี่ยนเว่ยฉือพูดจนกระทั่งเขาตามเยี่ยนเว่ยฉือไปยังแม่น้ำเสี่ยวเหลียง เขาจึงพบว่าที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่รกร้างและห่างไกลมากหากตอนนี้เยี่ยนเว่ยฉือไม่ได้รับบาดเจ็บ อีกทั้งนางก็ไม่มีวิทยายุทธ ฉินเซียงหรูคงจะสงสัยว่าเยี่ยนเว่ยฉือมีจุดประสงค์แอบแฝงเยี่ยนเว่ยฉือหยิบอุปกรณ์ตกปลาที่นางเพิ่งซื้อมาจากตลาดออกมามอบให้ฉินเซียงหรูแล้วพูดว่า “เอาล่ะ วันนี้พวกเราตกปลากันให้เต็มตะกร้านี้แล้วค่อยกลับนะ”“หา?” ฉินเซียงตกตะลึงทันทีเขาหันไปมองข้องไม้ไผ่[footnoteRef:0]ใบใหญ่ที่บรรจุปลาได้ไม่ต่ำกว่ายี่สิบชั่ง[footnoteRef:1] [0: อุปกรณ์ที่ทำจากไม้ไผ่สานสำหรับใส่กุ้งหอยปูปลา] [1: หนึ่งชั่งหนักประ
เยี่ยนเว่ยฉือเห็นซ่างกวนซีที่ดูไม่พอใจ ก็เดินเข้าไปหาเขาด้วยความระมัดระวังและถามว่า “องค์รัชทายาท...วันนี้ไปเข้าเฝ้าเหนื่อยหรือไม่?”ซ่างกวนซีขมวดคิ้วและพูดว่า “ไปเข้าเฝ้าใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วยาม แต่ข้าต้องใช้เวลาทั้งวันตามหาเจ้า เยี่ยนเว่ยฉือ เจ้าทำหูทวนลมไม่ฟังที่ข้าพูดหรือ? กล้าดีอย่างไรถึงได้แอบออกไป?”เยี่ยนเว่ยฉือรีบพูด “เปล่านะ ก็องค์รัชทายาทสั่งไม่ให้ข้าออกไปคนเดียว ข้าก็ไม่ได้ไปคนเดียวสักหน่อย ข้าไปกับท่านหมอฉินไม่ใช่หรือ?”“ไปกับเขากับเจ้าไปคนเดียวมันต่างกันตรงไหน? เขาไม่มีวิทยายุทธ์เลยแม้แต่น้อย หากเผชิญกับอันตรายเข้า เจ้าจะปกป้องเขาหรือเขาจะปกป้องเจ้าล่ะ?” ซ่างกวนซีรู้สึกโมโหจริง ๆ ไม่มีวี่แววว่าจะหามือสังหารที่ลอบสังหารเยี่ยนเว่ยฉือพบเลยเยี่ยนเว่ยฉือรู้ดีว่าซ่างกวนซีมีเจตนาดีแต่นางซ่อนตัวอยู่ในจวนองค์รัชทายาทตลอด แล้วจะตามหามือสังหารเจอได้อย่างไรเยี่ยนเว่ยฉือใช้แขนข้างที่ไม่ได้รับบาดเจ็บคล้องแขนของซ่างกวานซีซ่างกวนซีจะผละออกตามสัญชาตญาณเยี่ยนเว่ยฉือเห็นเช่นนั้นจึงรีบพูด “โอ๊ย ๆ องค์รัชทายาทอย่าขยับสิ คนเขายังเจ็บมืออยู่เลยนะ”ซ่างกวนซีตกใจเล็กน้อย และรีบมองไ
ขณะที่เยี่ยนเว่ยฉือกำลังง้อซ่างกวนซี ฉินเซียงหรูก็ถูกสอบปากคำเช่นกันอวี๋เฟยเหยียนพาชิงโจวและฉินซานมาด้วย โดยพวกเขายืนล้อมรอบฉินเซียงหรูกันคนละมุมเป็นรูปสามเหลี่ยมฉินเซียงหรูยิ้มเจื่อน “อะไร...ของพวกท่านเนี่ย?”อวี๋เฟยเหยียนขมวดคิ้วและพูดว่า “หมอฉิน วันนี้ท่านกับพี่สะใภ้ของข้าไปทำอะไรมากันแน่?”ฉินเซียงหรูชี้ไปที่ข้องใส่ปลาที่อยู่อีกด้านหนึ่งแล้วตอบว่า “ก็ตกปลาอย่างไรเล่า นี่ ได้ปลามาเยอะเลยนะ!”อวี๋เฟยเหยียนเหลือบมองข้องใส่ปลาแล้วถามว่า “หมอฉิน ท่านอย่าคิดว่าตนคนฉลาดอยู่คนเดียวแล้วคิดว่าผู้อื่นโง่สิ แค่เวลาบ่ายช่วงสั้น ๆ ท่านตกปลาได้มากมายถึงเพียงนี้เลยรึ? ใครจะเชื่อกัน?”ฉินเซียงหรูยิ้มตาหยีและพูดว่า “นั่นเป็นเพราะเหยื่อที่แม่นางเยี่ยนทำอย่างไรเล่า ข้าจะบอกพวกท่านให้ มันวิเศษมากจริง ๆ ไม่มีปลาตัวไหนที่ผ่านไปแล้วไม่ติดเบ็ดเลย หากรัฐทายาทอวี๋ไม่เชื่อ วันพรุ่งไปดูด้วยกันไหมล่ะขอรับ?”อวี๋เฟยเหยียนเลิกคิ้วแล้วพูดว่า “ข้าไม่ว่าง ข้าต้องไปปฏิบัติหน้าที่ที่กรมกลาโหม!”ฉินเซียงหรูยิ้มบาง ๆ “ไปนั่งดื่มชาทั้งวันน่ะหรือขอรับ?”อวี๋เฟยเหยียนสะดุ้งเบา ๆ จากนั้นก็ขมวดคิ้วและพูดว่า “ทะ...
“ระดมพลังปราณไม่ได้รึ?” อวี๋เฟยเหยียนมองซ่างกวนซีด้วยความตกใจหลังจากนั้นไม่นาน เขาก็นึกอะไรออกและมองไปที่ฉินเซียงหรูอย่างรวดเร็ว “ท่านหมอฉิน ก่อนหน้านี้ท่านเคยบอกว่าเถาชิงเกิงจะทำให้ศิษย์พี่ไม่สามารถใช้กำลังภายในได้ แต่ท่านได้ให้ยาถอนพิษไปแล้วไม่ใช่หรือ?”ฉินเซียงหรูขมวดคิ้วและกล่าวว่า “เถาชิงเกิงมีความเป็นพิษมาก การดื่มยาถอนพิษสามารถถอนพิษได้เท่านั้น แต่ไม่สามารถถอนฤทธิ์ยาได้ ฤทธิ์ยาของมันคือทำให้คนไม่สามารถระดมกำลังภายในของตนได้ และจะใช้เวลาประมาณห้าวัน ฤทธิ์ยาจึงจะถูกขับออกจากร่างกายไปพร้อมของเสีย แต่ใครจะรู้ว่าองค์รัชทายาทจะโชคร้าย รอเพียงห้าวันก็ยังผ่านไปไม่ไหว”“เช่นนั้นตอนนี้จะทำอย่างไรดี? องค์รัชทายาทจะถูกแช่แข็งอยู่แล้ว! จริงสิ แช่น้ำร้อน แช่น้ำร้อนได้หรือไม่?” เยี่ยนเว่ยฉือถามอย่างกังวลฉินเซียงหรูมองไปที่เยี่ยนเว่ยฉือและพูดต่อ “แม่นางเยี่ยน พิษกู่เย็นแสดงอาการมาจากภายใน ความร้อนจากภายนอกมีแต่จะบังคับให้พิษกลับเข้าสู่ร่างกาย ทำให้เป็นอันตรายมากยิ่งกว่าเดิม”อวี๋เฟยเหยียนพยักหน้าและกล่าวว่า “ถูกต้อง วิชาสหัสเหมันต์กระตุ้นพลังหยินมากจนทำให้เกิดความเย็น ศิษย์พี่ฝึกวิชาสหัส
เมื่อเห็นหานอวี่เฟยและคณะเดินจากไปไกลแล้วฉินเซียงหรูก็รีบเดินไปหาเยี่ยนเว่ยฉือ จับข้อมือของนางแล้วรีบเดินไปยังลานด้านหลังเมื่อผู้คนเห็นเช่นนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหลาดใจ เพราะหมอฉินเป็นชายนอกจวน การกระทำเช่นนี้ดูเหมือนจะสนิทสนมกันมากเกินไปอวี๋เฟยเหยียนเห็นดังนั้นจึงพูดติดตลก “เอ้า ๆ พอ ๆ ทุกคนจะทำอะไรก็ทำไป เก็บกวาดตรงนี้ให้เรียบร้อย!”จากนั้นก็รีบตามฉินเซียงหรูและเยี่ยนเว่ยฉือไปเมื่อเขามาถึงลานของฉินเซียงหรู ก็เห็นฉินเซียงหรูเอามือของเยี่ยนเว่ยฉือจุ่มลงในถังน้ำข้างบ่อน้ำพอดีฉินเซียงหรูมองไปที่อวี๋เฟยเหยียน พูดอย่างร้อนรน “รัฐทายาทอวี๋ ไปเอาน้ำแข็งมา! เร็ว!”“หา? อะไรนะ?” อวี๋เฟยเหยียนงงเล็กน้อยฉินเซียงหรูพูดอย่างร้อนใจ “น้ำแข็ง น้ำแข็งไง! ในจวนองค์รัชทายาทไม่มีห้องเก็บน้ำแข็งหรือ!”อวี๋เฟยเหยียนได้สติ รีบพูดว่า “ไม่ ไม่ได้ จวนรัชทายาทในกาลก่อนถูกทิ้งร้าง ห้องเก็บน้ำแข็งก็ไม่มีน้ำแข็ง ข้าออกไปหาเอง!”อวี๋เฟยเหยียนกระโดดขึ้นไป รีบมุ่งหน้าไปยังหอหงซิ่วส่วนเยี่ยนเว่ยฉือก็รู้สึกเจ็บปวดและคันมาก เหงื่อผุดขึ้นมาบนหน้าผากนางอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นเกา แต่ถูกฉินเซียงหรูจ
เมื่อพูดจบ เยี่ยนเว่ยฉือก็ดึงมือเยี่ยนชิงซู เดินเข้าไปในลานเรือนเยี่ยนชิงซูถูกเยี่ยนเว่ยฉีบบีบจนเจ็บปวด มองไปที่หานอวี่เฟยด้วยความกังวล“พี่หญิงอวี่เฟย พี่หญิงอวี่เฟย!”หานอวี่เฟยขมวดคิ้วอย่างรำคาญ “ร้องอะไรกัน แค่ล้างมือเอง ใครก็ได้ เอาน้ำไปให้พวกนาง”คนของอ๋องจ่างซิ่นนำน้ำเถาเหลยกงมาให้ทั้งสองคนเยี่ยนเว่ยฉือกำมือเยี่ยนชิงซูแน่น ยกยิ้มเย็นกล่าวว่า “เยี่ยนชิงซู นึกว่าข้าแต่งออกจากจวนผิงอี้โหวแล้ว เรื่องของเราจะจบลงอย่างนั้นหรือ? ข้าแค่ไม่มีเวลาสนใจพวกเจ้าเท่านั้น เยี่ยนหานซานลดฮูหยินเป็นอนุ ท่านหญิงหมิงหยางแย่งชิงตำแหน่ง ล้วนเป็นเพราะเจ้าตั้งแต่เล็กจนโตที่ดูถูกเหยียดหยามข้า ยังกล้าหมายปองสามีของข้าอีก เรื่องพวกนี้ข้าจำไว้ทั้งหมด ข้าไม่ไปหาเจ้า เพราะข้าไม่มีเวลา แต่เจ้ากลับมาหาข้าเอง ดูเหมือนเจ้ารีบมาตายเสียแล้ว วันนี้ข้าจะสนองเจ้า!”“เจ้า...เจ้าหมายความว่าอย่างไร?” เยี่ยนชิงซูมองเยี่ยนเว่ยฉืออย่างกังวลเยี่ยนเว่ยฉือไม่พูดพร่ำทำเพลง ดึงมือนางลงไปในน้ำเถาเหลยกงด้วยกันหลังจากเสียงน้ำกระเซ็น ทุกคนก็มองไปที่มือของทั้งสองที่จับกันอย่างตื่นเต้นอวี๋เฟยเหยียนกังวลว่าเยี่ยนเว่ยฉือจะ
สายตาของเยี่ยนเว่ยฉือมองข้ามไหล่ของหานอวี่เฟยไปยังรถม้าที่อยู่หน้าประตูจวนรัชทายาท ยกยิ้มเย็นกล่าวว่า “ตกลงกันแล้วว่าคนของทั้งสองฝ่ายต้องลองทั้งหมด เหตุใดท่านหญิงอิ๋นตางยังซ่อนใครไว้ในรถม้าอีกคน?”หานอวี่เฟยขมวดคิ้วเล็กน้อย หันไปมองข้างหลัง แล้วพูดอย่างไม่พอใจว่า “นางไม่ใช่คนของอ๋องจ่างซิ่น”“แต่นางเป็นคนที่เจ้าพามาใช่หรือ?” เมื่อเยี่ยนเว่ยฉือพูดจบ ก็เดินตรงไปยังรถม้าหานอวี่เฟยก็ไม่ได้ห้ามปราม คนเยอะถึงเพียงนี้ เยี่ยนเว่ยฉือจะหาเรื่องเยี่ยนชิงซูได้หรือ?เยี่ยนเว่ยฉือมาถึงข้างรถม้า กล่าวว่า “น้องรอง มาถึงหน้าประตูแล้ว ไม่ลงมาคารวะพี่สาวหน่อยหรือ?”เยี่ยนชิงซูเปิดม่านรถอย่างไม่เต็มใจ กล่าวอย่างไม่พอใจว่า “ข้ามาหาพี่หญิงอวี่เฟย ไม่ได้มาหาเจ้า”“จะมาหาข้าหรือไม่ ตอนที่เจ้าเจอข้าก็ควรจะทำความเคารพมิใช่หรือ? ข้าคือพระชายาองค์รัชทายาท! หรือเจ้าคิดจะล่วงเกินผู้สูงศักดิ์?”เยี่ยนเว่ยฉือเอามือสองข้างกอดอก มองเยี่ยนชิงซูอย่างหยิ่งผยอง ท่าทางราวกับหากอีกฝ่ายไม่ทำความเคารพ นางก็จะไม่ยอมแน่นอนว่าเยี่ยนชิงซูไม่อยากทำความเคารพ แต่คนมากมายมองอยู่ หากนางล่วงเกินผู้สูงศักดิ์โดยพลการ นี่ก็เท่ากั
เยี่ยนเว่ยฉือไม่พูดพร่ำทำเพลง สั่งโดยตรงว่า “พ่อบ้านจาง ไปเชิญหมอหลวงมา”พ่อบ้านจางรีบรับคำสั่งจากไปรอจนกระทั่งฉินเซียงหรูบดเถาเหลยกงจนเป็นผงเสร็จ หมอหลวงก็มาถึงพอดีฉินเซียงหรูส่งผงยาให้หมอหลวง หมอหลวงดูแล้วพยักหน้ากล่าวว่า “เป็นเถาเหลยกงจริง ๆ”หานอวี่เฟยหัวเราะเยาะ “นึกไม่ถึงว่าเจ้าจะมีจริง ๆ งั้นก็ได้ ลองตอนนี้เลยสิ”อวี๋เฟยเหยียนที่อยู่ข้าง ๆ พูดอย่างไม่พอใจว่า “ข้าว่านะท่านหญิงอิ๋นตาง เจ้าฟังคนไม่รู้เรื่องหรืออย่างไร? พี่สะใภ้ข้าพูดไปแล้วว่าพวกเราไม่เคยสัมผัสปิ่นหางหงส์ ถึงจะสัมผัสเถาเหลยก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไร เจ้าบุกมาหาเรื่องก็เพื่อดูว่าพวกเรามีเถาเหลยกงหรือไม่ ตอนนี้ก็เห็นแล้ว ยังไม่ไปอีก?”“ใครบอกว่าข้ามาดูว่าพวกเจ้ามียาหรือไม่? ข้ามาดูพวกเจ้าทดสอบต่างหาก”หานอวี่เฟยยกยิ้มเย็น หันไปมองเยี่ยนเว่ยฉือ กล่าวต่อว่า “การใช้น้ำเถาเหลยกงทดสอบผู้คน จุดประสงค์ไม่ใช่แค่การประลอง แต่ที่สำคัญกว่าคือการหาโจรขุดสุสาน พวกเจ้าทดสอบกันเอง จะทำให้คนเชื่อได้อย่างไร? แน่นอนว่าต้องให้ข้าทดสอบพวกเจ้า แล้วพวกเจ้าค่อยทดสอบข้า! ใครก็ได้ ยกอ่างน้ำมา!”ด้านหลังมีคนยกอ่างน้ำที่ผสมผงเถาเหลยกงมาหา
“จะลองอะไรกัน? ถึงจะลอง พวกเราเป็นคนของจวนรัชทายาท ก็ต้องให้พระชายาองค์รัชทายาทบันทึกด้วยตนเอง ไม่ใช่บันทึกในชื่อของเจ้า!” เสียงของอวี๋เฟยเหยียนดังมาจากข้างหลังของเยี่ยนเว่ยฉือทุกคนหันไปตามเสียง ก็เห็นเขาพาฉินเซียงหรูเดินเข้ามาอย่างสง่าผ่าเผยหานอวี่เฟยขมวดคิ้วมองเขา พูดอย่างไม่พอใจว่า “รัฐทายาทอวี๋ ท่านนี่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านจริง ๆ!”อวี๋เฟยเหยียนเท้าสะเอวมองหานอวี่เฟย กล่าวอย่างไม่พอใจว่า “ใช่ แล้วอย่างไร? ไม่ได้หรือ? เก่งจริงก็กัดข้าสิ!”“ท่าน! ท่านมันรนหาที่ตาย!” หานอวี่เฟยโกรธจนกัดฟัน แต่ก็รู้ว่าไม่อาจลงมือกับอวี๋เฟยเหยียนได้ถึงแม้พ่อของทั้งสองจะเป็นอ๋องที่มีบรรดาศักดิ์สองอักษร ซึ่งมีศักดิ์ฐานะเท่าเทียมกันแต่อวี๋เฟยเหยียนเป็นถึงรัฐทายาท ในขณะที่นางเป็นเพียงแค่ท่านหญิงหากลงมือกับอวี๋เฟยเหยียนจริง ๆ ข้อหาล่วงเกินผู้สูงศักดิ์ก็คงหนีไม่พ้นหานอวี่เฟยแค่นเสียงเย็นชา กล่าวว่า “ดี ในเมื่อพวกเจ้าอยากลองเอง ก็ลองดูสิ ข้าจะคอยดูอยู่ตรงนี้ ดูซิว่าพวกเจ้าจะเอาอะไรมาลอง”ฉินเซียงหรูที่อยู่ข้าง ๆ ยิ้มเล็กน้อย ยื่นมือไปหยิบเถาเหลยกงที่ตากแห้งออกมาต้นหนึ่ง กล่าวว่า “พระชายารัชทายาทได้ส
“อ่า ไม่! ไม่ ๆ ๆ คำถามนี้ดี คำถามนี้ดีมาก!” อวี๋เฟยเหยียนถอนหายใจโล่งอก จากนั้นก็รีบยกย่องซ่างกวนซีทันที“แน่นอนว่าศิษย์พี่ใหญ่ต้องเป็นคนทำอยู่แล้ว ข้าและท่านหมอฉินจะมีความสามารถในการจดจำได้แม่นยำเช่นนั้นได้อย่างไร จำไม่ได้แล้วว่าเมื่อวานเจ้าทำอาหารอะไรบ้าง เฮ้อ ศิษย์พี่คนนี้ปากแข็งแต่ใจอ่อน หลังจากทำลายข้าวของเมื่อวาน ตอนกลางคืนกลับไปคงจะโทษตัวเองน่าดู วันนี้ถึงได้ทำเช่นนี้!”เยี่ยนเว่ยฉือเม้มปาก พูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “อ้อ เช่นนั้นเมื่อวานเขา… ทำผิดจริง ๆ น่ะสิ! ฮึ่ม!”อวี๋เฟยเหยียนยิ้มตาหยี “เช่นนั้นวันนี้เขาก็ชดเชยแล้ว พี่สะใภ้ก็ยกโทษให้เขาเถอะ!”เยี่ยนเว่ยฉือทำปากยื่น “ข้าไม่ใช่คนใจแคบเช่นนั้นหรอก ข้าขึ้นชื่อเรื่องอารมณ์มั่นคง ใครกันจะเหมือนเขา เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย แต่เห็นแก่ที่ต้นตอของเรื่องมีเหตุผล ผู้ใหญ่อย่างข้าก็จะไม่ถือสาคนใจแคบแล้วกัน!”อวี๋เฟยเหยียนถอนหายใจโล่งอก “ดีแล้ว ดีแล้ว ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี!”“ไม่ง่ายดายเช่นนั้น อย่างน้อยพวกท่านก็ต้องบอกข้าว่าอดีตฮองเฮาทรงสิ้นพระชนม์อย่างไร วันนั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”เยี่ยนเว่ยฉืออยากจะทำความเข้าใจซ่างกวนซีให้มากขึ้น เพื่อที่ตั
เมื่อเยี่ยนเว่ยฉือมาถึงลานหน้า ก็พบว่าชายฉกรรจ์สามคนของจวนรัชทายาทกำลังล้อมวงอยู่หน้าโต๊ะซ่างกวนซีนั่งตัวตรง มองนางอย่างใจเย็นอวี๋เฟยเหยียนยิ้มแหย อย่างกระอักกระอ่วนฉินเซียงหรูลูบจมูก ยิ้มอย่างมีความหมาย‘นี่มันเกิดอะไรขึ้น?’เยี่ยนเว่ยฉือรู้สึกงงงวย“พระชายาที่ไหนตื่นสายป่านนี้ เจ้าไม่หิวหรือ?” คำพูดของซ่างกวนซีไม่ค่อยดีนัก แต่โทนเสียงกลับอ่อนโยนเขายื่นมือไปหาเยี่ยนเว่ยฉือ “มาทานอาหารเร็ว!”“โอ้!” เยี่ยนเว่ยฉือเดินไปนั่งข้าง ๆ ซ่างกวนซีภายใต้สายตาของคนทั้งสามทันทีที่นั่งลง นางก็พบว่าอาหารวันนี้ไม่ธรรมดานี่… อาหารหกอย่างกับน้ำแกงหนึ่งอย่าง ไม่ใช่อาหารเดียวกันกับที่นางทำเมื่อวานนี้หรอกหรือ?ยังมีขนมผิงวันเกิดรูปร่างแปลกประหลาด ที่ถูกทำขึ้นมาใหม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบอีกหรือ?“นี่… นี่คือ?” เยี่ยนเว่ยฉือมองซ่างกวนซีอย่างสงสัยซ่างกวนซีขมวดคิ้ว “พวกเขาสองคนทำ บอกว่าเมื่อวานไม่ได้ทานอาหารเหล่านั้น รู้สึกเสียดาย วันนี้ก็เลยรบเร้าไคจือและซ่านเย่ทำขึ้นมาใหม่ เจ้าลองชิมดู หมูสามชั้นอบบ๊วย รสชาติถูกต้องหรือไม่?”เยี่ยนเว่ยฉือเบิกตากว้างด้วยความตกใจก่อนถามอย่างไม่เชื่อว่า “รัฐท
จนกระทั่งลมหายใจของเด็กสาวในอ้อมแขนสม่ำเสมอ นอนหลับสนิท ซ่างกวนซีถึงได้สติกลับคืนมาจากอาการประหม่าเมื่อครู่เขาอุ้มเยี่ยนเว่ยฉือในท่าเจ้าหญิง เดินตรงไปที่เตียงจากนั้นก็วางนางลงบนเตียงอย่างเบามือมองดูใบหน้าแดงปลั่งของนาง ซ่างกวนซีอดไม่ได้ที่จะโน้มตัวลง อยากจะลิ้มลองจูบเมื่อครู่ที่หยุดอยู่แค่ริมฝีปากอีกครั้งทว่าตอนที่ปลายจมูกของคนทั้งสองสัมผัสกัน ความขัดแย้งในใจของซ่างกวนซีก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้งเขาไม่สามารถใกล้ชิดกับเยี่ยนเว่ยฉือมากเกินไปได้ เพราะไม่สามารถให้คำมั่นสัญญาตลอดชีวิตกับนางได้เขาไม่กล้าที่จะร่วมเรียงเคียงหมอนกับเยี่ยนเว่ยฉือ ด้วยกลัวว่าพิษกู่เย็นบ้านี่จะส่งผลเสียต่อสุขภาพของเยี่ยนเว่ยฉือชีวิตของเขาเต็มไปด้วยโศกนาฏกรรม โซ่ตรวน ภาระ และความไม่แน่นอนเขาจะทนดึงหญิงสาวที่เขาชอบใจเข้าสู่วังวนเช่นนี้ได้อย่างไร?เขามั่นใจในความรักของตนเอง เพียงแต่ไม่มั่นใจในโชคชะตาของตนเองก็เท่านั้นซ่างกวนซีถอนหายใจ จุมพิตที่เต็มไปด้วยความรักประทับลงกลางหน้าผากของเยี่ยนเว่ยฉือใช่ บางทีอาจจะเป็นตอนที่นางจูบเขาเมื่อครู่ ทำให้เขายืนยันความรู้สึกของตนเองได้แล้วเขาชอบนางมาก แม้ว่านาง…
เมื่อเห็นว่าเยี่ยนเว่ยฉือกำลังจะหงายหลัง ซ่างกวนซีก็คว้าเอวของนางไว้โดยสัญชาตญาณ โอบนางไว้แน่นเยี่ยนเว่ยฉือนั่งลงได้มั่นคงอีกครั้ง จู่ ๆ ก็ยกยิ้ม “เป็นอย่างไร เอวข้าคอดดีใช่หรือไม่?”นี่… นี่มันคำถามอะไรกัน?ซ่างกวนซีรู้สึกว่าหายใจติดขัดเล็กน้อย เหตุใดหลังจากเมานางถึงเป็นเช่นนี้?เยี่ยนเว่ยฉือฮึดฮัดในลำคอ ทำปากยื่น บ่นต่อ “มีภรรยาเอวคอด ขาเรียว ผิวขาวสวยเช่นนี้ ท่านไม่ทะนุถนอมไม่พอ ยังดุข้าอีก ทำตัวเช่นนี้สมควรเป็นลูกผู้ชายหรือ? ช่าง…ช่าง…”ซ่างกวนซีพูดต่อโดยไม่รู้ตัว “ทำลายของดี!”“ใช่! คำนี้แหละ! ซ่างกวนซี ข้าจะบอกท่านไว้ สุภาพบุรุษไม่ควรทำตัวเช่นท่าน ลูกผู้ชายอกสามศอก สิ่งแรกคือ ไม่ควรโกรธง่าย นี่แสดงว่าท่านใจแคบ สอง ไม่ควรพูดพล่อย นี่แสดงว่าท่านไม่รู้จักคิด สาม ข้อสามสำคัญที่สุด…”ยังไม่ทันที่เยี่ยนเว่ยฉือจะพูดจบ ซ่างกวนซีก็ถามด้วยความอยากรู้ “สามคืออะไร?”เยี่ยนเว่ยฉือยิ้มตาหยี “สาม คือไม่ควรแสดงความกำหนัดโดยไม่เลือกที่เลือกทาง นี่แสดงว่าท่านไม่มี… ทักษะชีวิตคู่”พรวด!หากตอนนี้ซ่างกวนซีมีน้ำอยู่ในปาก คงจะพ่นใส่หน้าเยี่ยนเว่ยฉือไปแล้วยายเด็กแก่แดด กล้าพูดอะไรเช่นนี้ออ